คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ดับสูญ
1
ดับสูญ
'จากการระเบิดครั้งใหญ่เพียงหนึ่งหน
ก็สร้างรอยแผลขนาดใหญ่ให้กับเอกภพ
มันทั้งสร้างโอกาส
และสร้างความมืดมิดที่ไม่รู้จบ'
สายลมเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีในที่แห่งนี้ เสียงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถส่งถึงกันได้ในความมืดเหนือพรรณนา ฝุ่นควันคือสิ่งไม่ต้องประสงค์ลอยเคว้งคว้างพบเห็นได้ทั่วไป และความหนาวเหน็บคือความปกติของที่แห่งนี้
เหล่าดาวเคราะห์ทรงกลมลอยโคจรกันอย่างเป็นระบบไร้ซึ่งชีวิต โดยมีจุดศูนย์กลางเป็นอนุภาคแสงสว่างที่ร้อนระอุ
แต่ท่ามกลางระบบที่ไร้สีสัน ท่ามกลางความคล้ายกันของจักรวาลนับหมื่นแสน
มีดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงหนึ่งที่มีชีวิต
ไม่ใช่แค่มีชีวิต
แต่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในดาวเคราะห์ดวงนั้น
เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนักสำหรับดาวเคราะห์ที่มีชีวิตและได้สร้างอีกหลายชีวิตขึ้นมา
แต่ในขณะเดียวกันก็แสนเศร้าเพราะการมีสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอยู่มันก็เหมือนกับปรสิตที่คอยกัดกินดาวเคราะห์สีน้ำเงินทีละนิดทีละนิด
ถึงอย่างนั้นดาวเคราะห์ดวงนั้นก็มีความสุขยิ่งนักที่ร่างกายของเขาได้สร้างประโยชน์ให้กับพวกสิ่งมีชีวิตที่เล็กเสียยิ่งกว่าเศษฝุ่นในจักรวาลอันกว้างใหญ่
พวกเขาบูชาแสงแดด บูชาผืนดิน แม้กระทั่งผืนน้ำ
แต่ไม่เคยมีการบูชาดาวเคราะห์ที่ยอมสละร่างกายให้แม้แต่น้อย
ถึงอย่างนั้นดาวเคราะห์ก็ไม่ได้รู้สึกขัดเคืองแต่อย่างใดเขารู้สึกขำขันเท่านั้น
อย่างไรก็ตามดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้อุปถัมภ์เหล่าสิ่งมีชีวิตด้วยความรัก เฝ้ามองพวกเขาเติบโต
และหายไป เป็นเช่นนั้นมานับหลายล้านล้านปี
และแน่นอนในเวลาหลายล้านล้านปีเขาก็ได้รู้จักเพื่อนร่วมจักรวาลมากมาย
ดาวเคราะห์ที่มีชีวิตมีสหายคนหนึ่งที่นานๆครั้งจะได้คุยกัน
เขาเป็นก้อนฝุ่นที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วและเปร่งประกายความเย็นออกมา
พวกเขาเดินทางมาแสนไกลจากสุดขอบของระบบที่อ้างว้างแห้งนี้
"ไม่เจอกันนานเลยนะครับคุณดาวหางที่ 4784!" เสียงที่ส่งผ่านไปในลักษณะของคลื่นความถี่ส่งไปถึงอนุภาคที่กำลังพุ่งไปข้างหน้า
มันคือวิธีการสื่อสารที่ถูกดำเนินการโดย
'พันธสัญญาอโคจร'
"&×*@&#£(%)¥!*@#_×%£(×^£" มีคลื่นที่ไม่ได้ศัพท์กลับมาหาดาวเคราะห์ผู้ไร้เดียงสา
ถึงแม้พันธสัญญานั้นจะไม่ได้ทำให้ดาวเคราะห์สีน้ำเงินสนทนากับดาวหางได้ก็ตาม
"วันนี้คุณดาวหางก็พูดไม่รู้เรื่องอีกแล้วนะครับ"
"¥+$×/@£$¥$&(!€" ดาวหางตอบกลับมาได้ศัพท์อีกเช่นเคยในขณะที่ร่างของเขาพุ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ
"ไปทางนั้นไม่ได้นะครับ! เดี๋ยวคุณจะ-" ยังไม่ทันสิ้นเสียงของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
สหายในเวลาสั้นๆของเขาก็ถูกอนุภาคความร้อนทำลายไปจนหมดสิ้น
จุดจบที่น่าเศร้าอีกคนของสหายชั่วคราวของดาวเคราะห์ผู้ไร้เดียงสา
"เฮ้อ..." เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะมองหาคนที่สามารถคุยกับเขาได้
ไม่รู้ว่าตอนไหนที่เขาเหงาขนาดนี้
"คุณเทา ได้ยินเสียงผมมั้ยครับ?" ดาวเคราะห์สีน้ำเงินส่งเสียงของตัวเองออกไปพลางมองไปยังดาวเคราะห์สีเทาที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก
"..."
ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา
ดาวเคราะห์สีน้ำเงินรู้สึกเหมือนว่ามันแค่เมื่อวานนี้เองที่มีอุกกาบาตขนาดใหญ่กระแทกเข้ากับดาวเคราะห์สีเทา
แต่พอนึกดูดีๆมันก็นานแสนนานมาแล้ว...ที่ดาวเคราะห์สีเทาไม่ส่งเสียงตอบกลับมา
ดาวเคราะห์ที่มีชีวิตรู้เรื่องนั้นดี
พัทธสัญญาอโคจรจะมีในดาวเคราะห์ที่มีชีวิต ดวงดาวหรือไม่ก็สสารใดๆที่มีชีวิตในช่วงสั้นๆเท่านั้น
หรือจะให้พูดง่ายๆก็คือ ดาวเคราะห์สีเทาดวงนั้น
ได้ตายไปนานแล้ว
ไม่ใช่แค่ดาวเคราะห์ดวงนั้นแต่ในระบบที่แสนชื่นมื่นนี้เหลือเพียงแค่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเท่านั้น
ที่มีชีวิต
บางทีการมีช่วงชีวิตที่ยาวนานก็ทำให้หลงลืมสิ่งสำคัญไป
แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับดาวเคราะห์ที่มีชีวิตอย่างเขาที่ต้องนั่งคิดว่าวันใดกันที่ร่างกายของเขาจะค่อยๆด้านชา
วันที่สิ่งมีชีวิตที่เขาเฝ้ามองหมดสิ้นไปจากตัวเขา
หรือวันที่เขาอาจถูกอุกกาบาตชนเข้า
เขาไม่ใช่ผู้แสวงหาความตาย
แต่เขาอยู่ท่ามกลางกลุ่มดาวเคราะห์ที่ตายไปแล้วทั้งหมดมันก็อดคิดไม่ได้ว่าวันใดที่เขาจะตายไปทั้งแบบนั้น
ดาวเคราะห์ที่มีชีวิตนั้นแสนโดดเดี่ยว
"คุณดวงดาว" ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเปล่งเสียงหาบุคคลสุดท้าย
ดวงดาวที่ให้แสงสว่างให้กับระบบนี้
ดวงดาวที่พึ่งเผาสหายชั่วคราวของเขาไป
"..." ดวงดาวยังคงไม่ตอบทันที กว่าเสียงของดาวเคราะห์ดวงน้อยอย่างเขาจะไปถึงนั้นต้องใช้เวลา
"ว่าไง?" ไม่นานก็มีเสียงตอบกลับมา
แต่มันดูอ่อนแรงเต็มที
"ผมแค่อยากรู้ว่า...คุณดวงดาวยังอยู่รึเปล่าน่ะครับ" เขาตอบไปอย่างไร้เดียงสา
ใช้เวลาอีกสักพักก็มีเสียงตอบกลับมา
"อา..."
แต่เสียงที่ดูเหนื่อยล้าของดวงดาวนั้นทำเขาแปลกใจ
เพราะอะไรกันที่ทำให้ดวงดาวอ่อนแรงลง
เขาอยากเข้าไปใกล้กว่านี้แต่เขาไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ที่ต้องโคจรไปเรื่อยๆได้
"จะว่าไปตอนนี้เหลือแค่เธอแล้วสินะ" ดวงดาวพูดกับดาวเคราะห์อีกครั้ง
"ครับ" เขาขานรับเสียงเศร้า
"ฉันคงทนได้อีกมานาน...มันกำลังจะมาแล้ว" ดวงดาวพูดอย่างอ่อนหล้าเหมือนผู้สูงอายุที่ต้องฝืนสังขาร
"อะไรเหรอครับ อะไรกำลังมางั้นเหรอ?" ดาวเคราะห์อายุน้อยรีบถามกลับอย่างร้อนรน
ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความสับสนมากมาย มีอะไรอีกงั้นเหรอนอกจากการเกิดและดับสูญในจักรวาลนี้
"ฉันไม่รู้ว่าฉันควรเรียกมันว่าอะไร แต่ว่ามันคือความละโมบหรือจุดจบ"
"..."
"อีกไม่นานฉันจะหายไป พอถึงตอนนั้นนายก็คงจะตายไปด้วย"
"ครับ" ดาวเคราะห์ขานรับอีกครั้ง
นี่เขาต้องเตรียมใจแล้วหรืออย่างไร
แล้วถ้าเขาตายไปพวกสิ่งมีชีวิตในตัวเขาก็คงจะหายไปด้วย
ในใจของดาวเคราะห์เหมือนถูกบีบอัด
เขาไม่อยากให้สิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้ความเหล่านั้นต้องมาเผชิญกับเรื่องที่ตนไม่ได้ก่อแบบนี้...
ดาวเคราะห์สีน้ำเงินหลงเข้าไปในห้วงความคิดของตน
ถ้าเกิดพวกเราเหล่าดาวเคราะห์เกิดมาเพื่อ
การดับสูญแล้วละก็...
พวกเราจะเกิดมาทำไม
มันจะมีทางออกในสถานการณ์แบบนี้รึเปล่า
"..."
เหมือนดาวเคราะห์ดวงน้อยได้รับความเงียบเป็นคำตอบ
"คุณดวงดาว มันเป็นไปได้รึเปล่าที่ผมจะไม่ตาย?"
"..." มันใช้เวลาอีกสักพักก่อนจะมีเสียงตอบกลับเหมือนอีกฝ่ายกำลังครุ่นคิด
"ฉันไม่รู้"
"..."
"จุดจบมันเป็นที่ที่ไร้แสงใดผ่าน"
"งั้นเหรอครับ..."
"แต่อย่างหนึ่งที่ฉันนึกออก"
"คือเธอต้องมีแสงสว่างเพื่อรักษาสิ่งมีชีวิตในตัวของเธอ..."
"ถ้าอย่างนั้น-" ยังไม่ทันพูดจบก็มีคลื่นความร้อนส่งมาถึงตรงหน้าของดาวเคราะห์ผู้มีชีวิต
"ฉันจะส่งแสงให้เธอ กักตุนมันไว้ซะ"
ดาวเคราะห์ดวงน้อยรู้สึกตื้นตันในอกก่อนที่เขาจะรับแสงสว่างเข้าไป
ดวงดาวมักจะใจดีกับพวกดาวเคราะห์ทั้งหมดเสมอมา
"ขอบคุณครับ"
ทว่าหลังจากนั้นมันก็ไม่มีเสียงจากดวงดาวอีกเลย
เหลือเพียงแสงที่ถูกส่งมามากขึ้นกว่าปกติเท่านั้น
ดาวเคราะห์รู้ดีว่าคุณดวงดาวของเขาไม่ได้หายไปไหน เธอคนนั้นคงจะพยายามลดการใช้พลังอยู่แน่ๆเลยไม่ได้ตอบเขา
ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตในตัวเขาที่ยังคงใช้ชีวิตและหายไปเฉกเช่นเดิมอย่างอ่อนใจ พวกเขาไม่ได้รับรู้ถึงภัยอันตรายใดๆที่จะมาถึงเลย
แต่เหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่จะรู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นและบ่นออกมาเป็นวักเป็นเวรเสียด้วย
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เหมือนเป็นความสุขเดียวของดาวเคราะห์อายุน้อยมเขาสร้างชีวิตขึ้นมาแล้ว เขาไม่อยากจะทำลายมัน
เขาอยากจะปกป้องพวกมัน แม้ว่าร่างกายของเขาจะร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆก็ตาม
.
.
.
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆในขณะที่จิตใจของดาวเคราะห์ดวงน้อยแสนว้าวุ่น
และวันนั้นก็มาถึง
"คุณดวงดาว!" เขาร้องสุดเสียงแต่เวลาที่แตกต่างคงส่งไปถึงไม่ทัน
ไม่มีคำบอกลาใดๆมาจากดวงดาวผู้เป็นศูนย์กลางของระบบ
แสงสว่างที่เคยโชติช่วงถูกปกคลุมไปด้วยอนุภาคสีดำสนิท
ภาพตรงหน้าของดาวเคราะห์สีน้ำเงินแสนพร่ามัว
ดาวเคราะห์ดวงเล็กดวงน้อยค่อยๆถูกดูดเข้าไปในห้วงความมืดอย่างรวดเร็ว
เหล่าดาวเคราะห์ที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเคยได้สนทนาถูกดูดกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว
"..."
ในสถานการณ์แบบนี้เขาควรจะทำอะไร
บางที่มันอาจจะเป็นเรื่องดีถ้าเขาตายไปแล้วเพราะถ้าถูกดูดเข้าไปแบบนั้นมันคงจะเจ็บปวด จนตอนนี้ดาวเคราะห์ที่อยู่ไม่ไกลกับดาวเคราะห์สีเทาถูกดูดไปแล้ว
เวลาอีกเพียงน้อยนิดให้เขาได้บอกลาชีวิต
นี่คงเป็นความกลัว
เพื่อนที่ตายแล้วถูกดูดเข้าไป ดาวเคราะห์ไม่เคยนึกฝันว่าจักรวาลจะหนาวเหน็บถึงเพียงนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าของจุดจบ
มันแสนโดดเดี่ยวและอ้างว้าง
‘ดาวเคราะห์ดวงน้อยจำยอม
กับช่วงชีวิตที่ยาวนานที่กำลังจะจบลง
และสสารที่มีพลังในการกลืนกินดาวฤกษ์
เข้าไปก็ทำหน้าที่ของมัน’
...
ความคิดเห็น