ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Oldest Sun - ดาวฤกษ์ที่เก่าแก่ที่สุด

    ลำดับตอนที่ #1 : ดับสูญ

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 63


    1

     

     

    ดับสูญ

     

    'จากการระเบิดครั้งใหญ่เพียงหนึ่งหน

    ก็สร้างรอยแผลขนาดใหญ่ให้กับเอกภพ

    มันทั้งสร้างโอกาส

    และสร้างความมืดมิดที่ไม่รู้จบ'

     

     

    สายลมเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีในที่แห่งนี้ เสียงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถส่งถึงกันได้ในความมืดเหนือพรรณนา ฝุ่นควันคือสิ่งไม่ต้องประสงค์ลอยเคว้งคว้างพบเห็นได้ทั่วไป และความหนาวเหน็บคือความปกติของที่แห่งนี้

     

    เหล่าดาวเคราะห์ทรงกลมลอยโคจรกันอย่างเป็นระบบไร้ซึ่งชีวิต โดยมีจุดศูนย์กลางเป็นอนุภาคแสงสว่างที่ร้อนระอุ

     

    แต่ท่ามกลางระบบที่ไร้สีสัน ท่ามกลางความคล้ายกันของจักรวาลนับหมื่นแสน

     

    มีดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงหนึ่งที่มีชีวิต

    ไม่ใช่แค่มีชีวิต

     

    แต่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในดาวเคราะห์ดวงนั้น

     

    เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนักสำหรับดาวเคราะห์ที่มีชีวิตและได้สร้างอีกหลายชีวิตขึ้นมา

     

    แต่ในขณะเดียวกันก็แสนเศร้าเพราะการมีสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอยู่มันก็เหมือนกับปรสิตที่คอยกัดกินดาวเคราะห์สีน้ำเงินทีละนิดทีละนิด

     

    ถึงอย่างนั้นดาวเคราะห์ดวงนั้นก็มีความสุขยิ่งนักที่ร่างกายของเขาได้สร้างประโยชน์ให้กับพวกสิ่งมีชีวิตที่เล็กเสียยิ่งกว่าเศษฝุ่นในจักรวาลอันกว้างใหญ่

     

    พวกเขาบูชาแสงแดด บูชาผืนดิน แม้กระทั่งผืนน้ำ

     

    แต่ไม่เคยมีการบูชาดาวเคราะห์ที่ยอมสละร่างกายให้แม้แต่น้อย

     

    ถึงอย่างนั้นดาวเคราะห์ก็ไม่ได้รู้สึกขัดเคืองแต่อย่างใดเขารู้สึกขำขันเท่านั้น

     

    อย่างไรก็ตามดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้อุปถัมภ์เหล่าสิ่งมีชีวิตด้วยความรัก เฝ้ามองพวกเขาเติบโต

    และหายไป เป็นเช่นนั้นมานับหลายล้านล้านปี

     

    และแน่นอนในเวลาหลายล้านล้านปีเขาก็ได้รู้จักเพื่อนร่วมจักรวาลมากมาย

     

    ดาวเคราะห์ที่มีชีวิตมีสหายคนหนึ่งที่นานๆครั้งจะได้คุยกัน

     

    เขาเป็นก้อนฝุ่นที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วและเปร่งประกายความเย็นออกมา

     

    พวกเขาเดินทางมาแสนไกลจากสุดขอบของระบบที่อ้างว้างแห้งนี้

     

    "ไม่เจอกันนานเลยนะครับคุณดาวหางที่ 4784!" เสียงที่ส่งผ่านไปในลักษณะของคลื่นความถี่ส่งไปถึงอนุภาคที่กำลังพุ่งไปข้างหน้า

     

    มันคือวิธีการสื่อสารที่ถูกดำเนินการโดย

     

    'พันธสัญญาอโคจร'

     

    "&×*@&#£(%)¥!*@#_×%£(×^£" มีคลื่นที่ไม่ได้ศัพท์กลับมาหาดาวเคราะห์ผู้ไร้เดียงสา

    ถึงแม้พันธสัญญานั้นจะไม่ได้ทำให้ดาวเคราะห์สีน้ำเงินสนทนากับดาวหางได้ก็ตาม

     

    "วันนี้คุณดาวหางก็พูดไม่รู้เรื่องอีกแล้วนะครับ"

     

    "¥+$×/@£$¥$&(!€" ดาวหางตอบกลับมาได้ศัพท์อีกเช่นเคยในขณะที่ร่างของเขาพุ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ

     

    "ไปทางนั้นไม่ได้นะครับ! เดี๋ยวคุณจะ-" ยังไม่ทันสิ้นเสียงของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน

     

    สหายในเวลาสั้นๆของเขาก็ถูกอนุภาคความร้อนทำลายไปจนหมดสิ้น

     

    จุดจบที่น่าเศร้าอีกคนของสหายชั่วคราวของดาวเคราะห์ผู้ไร้เดียงสา

     

    "เฮ้อ..." เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะมองหาคนที่สามารถคุยกับเขาได้

     

    ไม่รู้ว่าตอนไหนที่เขาเหงาขนาดนี้

     

    "คุณเทา ได้ยินเสียงผมมั้ยครับ?" ดาวเคราะห์สีน้ำเงินส่งเสียงของตัวเองออกไปพลางมองไปยังดาวเคราะห์สีเทาที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก

     

    "..."

     

    ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

     

    ดาวเคราะห์สีน้ำเงินรู้สึกเหมือนว่ามันแค่เมื่อวานนี้เองที่มีอุกกาบาตขนาดใหญ่กระแทกเข้ากับดาวเคราะห์สีเทา

     

    แต่พอนึกดูดีๆมันก็นานแสนนานมาแล้ว...ที่ดาวเคราะห์สีเทาไม่ส่งเสียงตอบกลับมา

     

    ดาวเคราะห์ที่มีชีวิตรู้เรื่องนั้นดี

     

    พัทธสัญญาอโคจรจะมีในดาวเคราะห์ที่มีชีวิต ดวงดาวหรือไม่ก็สสารใดๆที่มีชีวิตในช่วงสั้นๆเท่านั้น

     

    หรือจะให้พูดง่ายๆก็คือ ดาวเคราะห์สีเทาดวงนั้น

     

    ได้ตายไปนานแล้ว

     

    ไม่ใช่แค่ดาวเคราะห์ดวงนั้นแต่ในระบบที่แสนชื่นมื่นนี้เหลือเพียงแค่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเท่านั้น

     

    ที่มีชีวิต

     

    บางทีการมีช่วงชีวิตที่ยาวนานก็ทำให้หลงลืมสิ่งสำคัญไป

    แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับดาวเคราะห์ที่มีชีวิตอย่างเขาที่ต้องนั่งคิดว่าวันใดกันที่ร่างกายของเขาจะค่อยๆด้านชา

     

    วันที่สิ่งมีชีวิตที่เขาเฝ้ามองหมดสิ้นไปจากตัวเขา

     

    หรือวันที่เขาอาจถูกอุกกาบาตชนเข้า

     

    เขาไม่ใช่ผู้แสวงหาความตาย

     

    แต่เขาอยู่ท่ามกลางกลุ่มดาวเคราะห์ที่ตายไปแล้วทั้งหมดมันก็อดคิดไม่ได้ว่าวันใดที่เขาจะตายไปทั้งแบบนั้น

     

    ดาวเคราะห์ที่มีชีวิตนั้นแสนโดดเดี่ยว

     

    "คุณดวงดาว" ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเปล่งเสียงหาบุคคลสุดท้าย

    ดวงดาวที่ให้แสงสว่างให้กับระบบนี้

     

    ดวงดาวที่พึ่งเผาสหายชั่วคราวของเขาไป

     

    "..." ดวงดาวยังคงไม่ตอบทันที กว่าเสียงของดาวเคราะห์ดวงน้อยอย่างเขาจะไปถึงนั้นต้องใช้เวลา

     

    "ว่าไง?" ไม่นานก็มีเสียงตอบกลับมา

     

    แต่มันดูอ่อนแรงเต็มที

     

    "ผมแค่อยากรู้ว่า...คุณดวงดาวยังอยู่รึเปล่าน่ะครับ" เขาตอบไปอย่างไร้เดียงสา

    ใช้เวลาอีกสักพักก็มีเสียงตอบกลับมา

     

    "อา..."

     

    แต่เสียงที่ดูเหนื่อยล้าของดวงดาวนั้นทำเขาแปลกใจ

     

    เพราะอะไรกันที่ทำให้ดวงดาวอ่อนแรงลง

     

    เขาอยากเข้าไปใกล้กว่านี้แต่เขาไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ที่ต้องโคจรไปเรื่อยๆได้

     

    "จะว่าไปตอนนี้เหลือแค่เธอแล้วสินะ" ดวงดาวพูดกับดาวเคราะห์อีกครั้ง

     

    "ครับ" เขาขานรับเสียงเศร้า

     

    "ฉันคงทนได้อีกมานาน...มันกำลังจะมาแล้ว" ดวงดาวพูดอย่างอ่อนหล้าเหมือนผู้สูงอายุที่ต้องฝืนสังขาร

     

    "อะไรเหรอครับ อะไรกำลังมางั้นเหรอ?" ดาวเคราะห์อายุน้อยรีบถามกลับอย่างร้อนรน

     

    ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความสับสนมากมาย มีอะไรอีกงั้นเหรอนอกจากการเกิดและดับสูญในจักรวาลนี้

     

    "ฉันไม่รู้ว่าฉันควรเรียกมันว่าอะไร แต่ว่ามันคือความละโมบหรือจุดจบ"

     

    "..."

     

    "อีกไม่นานฉันจะหายไป พอถึงตอนนั้นนายก็คงจะตายไปด้วย"

     

    "ครับ" ดาวเคราะห์ขานรับอีกครั้ง

     

    นี่เขาต้องเตรียมใจแล้วหรืออย่างไร

     

    แล้วถ้าเขาตายไปพวกสิ่งมีชีวิตในตัวเขาก็คงจะหายไปด้วย

     

    ในใจของดาวเคราะห์เหมือนถูกบีบอัด

     

    เขาไม่อยากให้สิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้ความเหล่านั้นต้องมาเผชิญกับเรื่องที่ตนไม่ได้ก่อแบบนี้...

     

    ดาวเคราะห์สีน้ำเงินหลงเข้าไปในห้วงความคิดของตน

     

    ถ้าเกิดพวกเราเหล่าดาวเคราะห์เกิดมาเพื่อ

    การดับสูญแล้วละก็...

    พวกเราจะเกิดมาทำไม

     

    มันจะมีทางออกในสถานการณ์แบบนี้รึเปล่า

     

    "..."

     

    เหมือนดาวเคราะห์ดวงน้อยได้รับความเงียบเป็นคำตอบ

     

    "คุณดวงดาว มันเป็นไปได้รึเปล่าที่ผมจะไม่ตาย?"

     

    "..." มันใช้เวลาอีกสักพักก่อนจะมีเสียงตอบกลับเหมือนอีกฝ่ายกำลังครุ่นคิด

     

    "ฉันไม่รู้"

     

    "..."

     

    "จุดจบมันเป็นที่ที่ไร้แสงใดผ่าน"

     

    "งั้นเหรอครับ..."

     

    "แต่อย่างหนึ่งที่ฉันนึกออก"

     

    "คือเธอต้องมีแสงสว่างเพื่อรักษาสิ่งมีชีวิตในตัวของเธอ..."

     

    "ถ้าอย่างนั้น-" ยังไม่ทันพูดจบก็มีคลื่นความร้อนส่งมาถึงตรงหน้าของดาวเคราะห์ผู้มีชีวิต

     

    "ฉันจะส่งแสงให้เธอ กักตุนมันไว้ซะ"

     

    ดาวเคราะห์ดวงน้อยรู้สึกตื้นตันในอกก่อนที่เขาจะรับแสงสว่างเข้าไป

     

    ดวงดาวมักจะใจดีกับพวกดาวเคราะห์ทั้งหมดเสมอมา

     

    "ขอบคุณครับ"

     

    ทว่าหลังจากนั้นมันก็ไม่มีเสียงจากดวงดาวอีกเลย

     

    เหลือเพียงแสงที่ถูกส่งมามากขึ้นกว่าปกติเท่านั้น

    ดาวเคราะห์รู้ดีว่าคุณดวงดาวของเขาไม่ได้หายไปไหน เธอคนนั้นคงจะพยายามลดการใช้พลังอยู่แน่ๆเลยไม่ได้ตอบเขา

     

    ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตในตัวเขาที่ยังคงใช้ชีวิตและหายไปเฉกเช่นเดิมอย่างอ่อนใจ พวกเขาไม่ได้รับรู้ถึงภัยอันตรายใดๆที่จะมาถึงเลย

     

    แต่เหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่จะรู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นและบ่นออกมาเป็นวักเป็นเวรเสียด้วย

     

    สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เหมือนเป็นความสุขเดียวของดาวเคราะห์อายุน้อยมเขาสร้างชีวิตขึ้นมาแล้ว เขาไม่อยากจะทำลายมัน

     

    เขาอยากจะปกป้องพวกมัน แม้ว่าร่างกายของเขาจะร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆก็ตาม

    .

     

    .

     

    .

     

    เวลาผ่านไปอย่างช้าๆในขณะที่จิตใจของดาวเคราะห์ดวงน้อยแสนว้าวุ่น

     

    และวันนั้นก็มาถึง

     

    "คุณดวงดาว!" เขาร้องสุดเสียงแต่เวลาที่แตกต่างคงส่งไปถึงไม่ทัน

     

    ไม่มีคำบอกลาใดๆมาจากดวงดาวผู้เป็นศูนย์กลางของระบบ

     

    แสงสว่างที่เคยโชติช่วงถูกปกคลุมไปด้วยอนุภาคสีดำสนิท

     

    ภาพตรงหน้าของดาวเคราะห์สีน้ำเงินแสนพร่ามัว

     

    ดาวเคราะห์ดวงเล็กดวงน้อยค่อยๆถูกดูดเข้าไปในห้วงความมืดอย่างรวดเร็ว

    เหล่าดาวเคราะห์ที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเคยได้สนทนาถูกดูดกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว

     

    "..."

     

    ในสถานการณ์แบบนี้เขาควรจะทำอะไร 

     

    บางที่มันอาจจะเป็นเรื่องดีถ้าเขาตายไปแล้วเพราะถ้าถูกดูดเข้าไปแบบนั้นมันคงจะเจ็บปวด จนตอนนี้ดาวเคราะห์ที่อยู่ไม่ไกลกับดาวเคราะห์สีเทาถูกดูดไปแล้ว

     

    เวลาอีกเพียงน้อยนิดให้เขาได้บอกลาชีวิต

     

    นี่คงเป็นความกลัว

     

    เพื่อนที่ตายแล้วถูกดูดเข้าไป ดาวเคราะห์ไม่เคยนึกฝันว่าจักรวาลจะหนาวเหน็บถึงเพียงนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าของจุดจบ

     

    มันแสนโดดเดี่ยวและอ้างว้าง

     

    ‘ดาวเคราะห์ดวงน้อยจำยอม

    กับช่วงชีวิตที่ยาวนานที่กำลังจะจบลง

    และสสารที่มีพลังในการกลืนกินดาวฤกษ์

    เข้าไปก็ทำหน้าที่ของมัน’

     

    ...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×