ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : >>> ENGLISH
ตามจิงกะจะเขียนวิทย์ให้เสร็จทุกอันไปเลยแต่มีน้องขอให้เขียนอังกิดให้ก่อน ก็จัดปายยย 555
ก่อนอื่นพี่ขอโทดนะที่ช่วงนี้อัพค่อนข้างช้า พอดีช่วงนี้พี่ต้องไปติวน้อง ป.6 สอบเข้าบดินทรเดชาที่กวดวิชาที่นึง พี่สอนเลข 3 ห้องอะ ห้องละ 2 ชม วันนึงก็ 6 ชมไปละ TwT ก็อาจอัพได้ทีละนิดนะ sorry TvT แต่จะพยายามมาอัพให้เร็วที่สุดนะ
ก็อังกฤษปีนี้พี่ก็ไม่แน่ใจว่ายากหรือง่ายกว่าปีที่แล้ว พอดีพี่ไม่ค่อยได้อ่านเลย == พี่อาจจะไกด์ไม่ดีมากนะ เพราะพี่ก็ไม่เก่งอังกฤษเท่าไร คะแนนก็ไม่สูงมาก เพราะฉะนั้นอ่านตามวิจารญาณตัวเองนะ 5555
exam
มีทั้งหมด 80 ข้อ แบ่งเป็น
-conversation 20
-reading 40
-grammar 20
ในส่วนของ conversation หรือการสนทนาจะมีโจทย์ตั้งแต่สั้นๆไปจนถึงยาวเป็นหน้า ในบางปีอาจเน้น idiom หนัก แต่ปีนี้แทบไม่มีเลย 555 ดูรวมๆแล้วพาร์ทจะไม่ยากมาก แค่น้องรู้คำศัพท์พอสมควร แปลได้ แล้วก็มีเซนส์ในการตอบก็เก็บคะแนนไปได้ระดับนึงละ
ต่อมาก็ reading จะมีทั้งหมด 5 passage อันแรกจะเป็นพวกกราฟ อันต่อมาก็เป็นพารากราฟให้อ่านแล้วตอบคำถาม โดยความยาวจะมีตั้งแต่ครึ่งหน้าไปจนถึง 3 หน้า(ไม่ชัวนะ ลืมละ) passage หลังๆอะจะมีคำถาม 10 ข้อเลยนะเออ ถึงจะยาวแต่คำศัพท์ค่อนข้างง่ายเมื่อเทียบกับอันอื่น โดยส่วนนี้จะเน้น speed reading ลูกเดียวคับ 555 พี่ทำไม่ทัน passage สุดท้าย หายไปตั้ง 10 ข้อ TwT
สุดท้ายก็เป็น grammar ก็คือ cloze test 15 ข้อ หรือก็คือการเติมคำในช่องว่าง ซึ่งจะเน้นแกรมม่า ไม่เน้นศัพท์ ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ค่อนข้างจะเก็บคะแนนได้ง่ายถ้าเตรียมตัวมาดี และอีก 5 ข้อก็คือ sentence rearrangement ซึ่งเน้นจับ keyword แล้วตัดช้อยส์จะเร็วกว่านั่งเรียงจิงๆนะ แต่ถ้าไม่ออกก็คงต้องเรียงละเน้ออออ
แนะนำ
อังกิดพี่เน้นมากสุดคือเวลานะ 555 พี่เจอมาเอง TT
ก็พวก conver อะอย่างึกงักช้ามาก ถ้าข้อไหนติดจิงๆ ถึงไว้นานน้องก็คิดไม่ออกหรอก 555
พอมาถึง reading ก็อ่านเร็วๆ ถ้าวิธีพี่ก็จะดูโจทย์ก่อนแล้วมาอ่าน พออ่านถึงจะได้ตอบได้เลย แต่เน้นมากๆเลยว่าถ้าข้อไหนศัพท์ยากให้ข้ามไปดู passage อื่นก่อน มันอาจง่ายกว่า
จากประสบการณ์พี่เลยคือ 'passage สุดท้ายอะ พี่เห็นมันยาวมากเลยข้ามไป แต่พอมาดูตอนหลังอะ ศัพท์มันง่าย == แต่พี่ก็ไม่มีเวลาทำละ เลยอดไปหลายคะแนนเลย 555'
การอ่านหนังสือ
อังกิดเป็นวิชาเดียวที่พี่เรียนกวดวิชา เนื้อหาส่วนมากพี่เลยอ่านจากกวดวิชา พี่เรียนคอร์สเอนท์ของเอนคอนอะ 100 ชม ค่อนข้างยาว แต่พี่ว่ามันก็ช่วยภาษาอังกฤษพี่เยอะอยุนะ
สเต็ปการอ่านของพี่ก็ไม่มีไรมาก คือ ตอนแรกอ่านเนื้อหาจากเล่มเอนคอนเซ็ปก่อน พอจบแล้วอ่านเนื้อหาจากเล่มอื่นเสริมนิดหน่อย จากนั้นก็ทำโจทย์ไปเรื่อยๆ โดยพี่จะทำแบบเก็บทุกวัน คือ ทำโจทย์ GAT เอนท์ วันละชุดไปเรื่อยๆอะ แต่ทำไปเดือนนึงก็เลิกละ ขี้เกียจ 555
แล้วก็ตอนเข้าแถวอะ พี่จะเอาสมุดศัพท์ไปนั่งท่องเล่นวันละนิดๆ เดี๋ยวก็จำได้ 555
เอ้อๆ ลืมอีกอย่าง เอาเพลงเอนคอนมาฟังก่อนนอนก็ดีนะ ได้ศัพท์+หลับเร็ว 555
หนังสือแนะนำ
-หนังสือคอร์สเอนท์ของ enconcept
-สมุดศัพท์+แผ่นศัพท์ของครูสมศรี
-Ax-25 ของ enconcept
-ซีรีย์ของ ดร.ศุภวัฒน์ : พี่อ่านแค่ gat กะ vocab อะ
vocab อะ เพื่อนพี่บางคนบอกว่าศัพท์มันง่าย แต่พี่ไม่เก่งไง เลยอ่าน 555 แต่พี่ว่ามันก็ไม่เสียหายอะไรนะ เล่มนี้พี่อ่านก่อนนอนวันละ 2 หน้า แบบอ่านทบต้นอะ งงปะ ==
เช่น วันแรกอ่าน 1-2, วันที่สองอ่าน 1-4, วันที่สามอ่าน 1-6 ประมาณนี้อะ แต่หน้าไหนที่อ่านแล้วก็แค่ทวนแบบเร็วๆอะ
-กลยุทธ์ตะลุย gat อังกฤษ : อันนี้พี่อ่านเก็บเนื้อหาเพิ่มจากเล่มเอนคอนอะ มีโจทย์ด้วย โออยุนะ
credit รูป : http://www.chulabook.com/
ก่อนอื่นพี่ขอโทดนะที่ช่วงนี้อัพค่อนข้างช้า พอดีช่วงนี้พี่ต้องไปติวน้อง ป.6 สอบเข้าบดินทรเดชาที่กวดวิชาที่นึง พี่สอนเลข 3 ห้องอะ ห้องละ 2 ชม วันนึงก็ 6 ชมไปละ TwT ก็อาจอัพได้ทีละนิดนะ sorry TvT แต่จะพยายามมาอัพให้เร็วที่สุดนะ
ก็อังกฤษปีนี้พี่ก็ไม่แน่ใจว่ายากหรือง่ายกว่าปีที่แล้ว พอดีพี่ไม่ค่อยได้อ่านเลย == พี่อาจจะไกด์ไม่ดีมากนะ เพราะพี่ก็ไม่เก่งอังกฤษเท่าไร คะแนนก็ไม่สูงมาก เพราะฉะนั้นอ่านตามวิจารญาณตัวเองนะ 5555
exam
มีทั้งหมด 80 ข้อ แบ่งเป็น
-conversation 20
-reading 40
-grammar 20
ในส่วนของ conversation หรือการสนทนาจะมีโจทย์ตั้งแต่สั้นๆไปจนถึงยาวเป็นหน้า ในบางปีอาจเน้น idiom หนัก แต่ปีนี้แทบไม่มีเลย 555 ดูรวมๆแล้วพาร์ทจะไม่ยากมาก แค่น้องรู้คำศัพท์พอสมควร แปลได้ แล้วก็มีเซนส์ในการตอบก็เก็บคะแนนไปได้ระดับนึงละ
ต่อมาก็ reading จะมีทั้งหมด 5 passage อันแรกจะเป็นพวกกราฟ อันต่อมาก็เป็นพารากราฟให้อ่านแล้วตอบคำถาม โดยความยาวจะมีตั้งแต่ครึ่งหน้าไปจนถึง 3 หน้า(ไม่ชัวนะ ลืมละ) passage หลังๆอะจะมีคำถาม 10 ข้อเลยนะเออ ถึงจะยาวแต่คำศัพท์ค่อนข้างง่ายเมื่อเทียบกับอันอื่น โดยส่วนนี้จะเน้น speed reading ลูกเดียวคับ 555 พี่ทำไม่ทัน passage สุดท้าย หายไปตั้ง 10 ข้อ TwT
สุดท้ายก็เป็น grammar ก็คือ cloze test 15 ข้อ หรือก็คือการเติมคำในช่องว่าง ซึ่งจะเน้นแกรมม่า ไม่เน้นศัพท์ ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ค่อนข้างจะเก็บคะแนนได้ง่ายถ้าเตรียมตัวมาดี และอีก 5 ข้อก็คือ sentence rearrangement ซึ่งเน้นจับ keyword แล้วตัดช้อยส์จะเร็วกว่านั่งเรียงจิงๆนะ แต่ถ้าไม่ออกก็คงต้องเรียงละเน้ออออ
แนะนำ
อังกิดพี่เน้นมากสุดคือเวลานะ 555 พี่เจอมาเอง TT
ก็พวก conver อะอย่างึกงักช้ามาก ถ้าข้อไหนติดจิงๆ ถึงไว้นานน้องก็คิดไม่ออกหรอก 555
พอมาถึง reading ก็อ่านเร็วๆ ถ้าวิธีพี่ก็จะดูโจทย์ก่อนแล้วมาอ่าน พออ่านถึงจะได้ตอบได้เลย แต่เน้นมากๆเลยว่าถ้าข้อไหนศัพท์ยากให้ข้ามไปดู passage อื่นก่อน มันอาจง่ายกว่า
จากประสบการณ์พี่เลยคือ 'passage สุดท้ายอะ พี่เห็นมันยาวมากเลยข้ามไป แต่พอมาดูตอนหลังอะ ศัพท์มันง่าย == แต่พี่ก็ไม่มีเวลาทำละ เลยอดไปหลายคะแนนเลย 555'
การอ่านหนังสือ
อังกิดเป็นวิชาเดียวที่พี่เรียนกวดวิชา เนื้อหาส่วนมากพี่เลยอ่านจากกวดวิชา พี่เรียนคอร์สเอนท์ของเอนคอนอะ 100 ชม ค่อนข้างยาว แต่พี่ว่ามันก็ช่วยภาษาอังกฤษพี่เยอะอยุนะ
สเต็ปการอ่านของพี่ก็ไม่มีไรมาก คือ ตอนแรกอ่านเนื้อหาจากเล่มเอนคอนเซ็ปก่อน พอจบแล้วอ่านเนื้อหาจากเล่มอื่นเสริมนิดหน่อย จากนั้นก็ทำโจทย์ไปเรื่อยๆ โดยพี่จะทำแบบเก็บทุกวัน คือ ทำโจทย์ GAT เอนท์ วันละชุดไปเรื่อยๆอะ แต่ทำไปเดือนนึงก็เลิกละ ขี้เกียจ 555
แล้วก็ตอนเข้าแถวอะ พี่จะเอาสมุดศัพท์ไปนั่งท่องเล่นวันละนิดๆ เดี๋ยวก็จำได้ 555
เอ้อๆ ลืมอีกอย่าง เอาเพลงเอนคอนมาฟังก่อนนอนก็ดีนะ ได้ศัพท์+หลับเร็ว 555
หนังสือแนะนำ
-หนังสือคอร์สเอนท์ของ enconcept
-สมุดศัพท์+แผ่นศัพท์ของครูสมศรี
-Ax-25 ของ enconcept
-ซีรีย์ของ ดร.ศุภวัฒน์ : พี่อ่านแค่ gat กะ vocab อะ
vocab อะ เพื่อนพี่บางคนบอกว่าศัพท์มันง่าย แต่พี่ไม่เก่งไง เลยอ่าน 555 แต่พี่ว่ามันก็ไม่เสียหายอะไรนะ เล่มนี้พี่อ่านก่อนนอนวันละ 2 หน้า แบบอ่านทบต้นอะ งงปะ ==
เช่น วันแรกอ่าน 1-2, วันที่สองอ่าน 1-4, วันที่สามอ่าน 1-6 ประมาณนี้อะ แต่หน้าไหนที่อ่านแล้วก็แค่ทวนแบบเร็วๆอะ
-กลยุทธ์ตะลุย gat อังกฤษ : อันนี้พี่อ่านเก็บเนื้อหาเพิ่มจากเล่มเอนคอนอะ มีโจทย์ด้วย โออยุนะ
credit รูป : http://www.chulabook.com/
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น