กับดักจันทรา...วางจำหน่ายแล้วจ้า ^^

..Love is You :: กับดักจันทรา..











********************

น้ำจิ้มๆ

 

  

  สิ่งที่ชายหนุ่มยื่นมาให้พร้อมปากกาทำให้อิสริยาต้องก้มมองอย่างสงสัย

“อะไรอ่ะ?” หล่อนถามขณะกอดอกมองกระดาษสีขาวขนาดเท่าเอสี่บนโต๊ะ มันมีตัวอักษรขยึ๊กขยือเขียนเรียงลงมาเป็นข้อๆจนเกือบสุดหน้ากระดาษ

“ใบสัญญาระหว่างเรา” ภัทรชลบอกเสียงเรียบ “เซ็นต์ซะ”

อิสริยาเลิกคิ้ว พลางมองหน้าชายหนุ่มอย่างยียวน “ทำไมฉันต้องเซ็นต์ มันเป็นสัญญาอะไรฉันยังไม่รู้เลย”

“ก็อ่านดูสิ” ชายหนุ่มเริ่มมีน้ำโห “อย่าบอกนะว่าอ่านภาษาไทยไม่ออก”

หญิงสาวหัวเราะคิก ก่อนตอบหน้าตาย

“ภาษาไทยน่ะอ่านออก” เธอขมวดคิ้วแล้วก้มลงมองข้อความในแผ่นกระดาษอีกครั้ง พลางทำหน้ายู่ “แต่ภาษาขอมสมัยพระเจ้าเหาน่ะไม่...”

ภัทรชลระบายลมหายใจอย่างเหลืออด จะบอกว่าลายมือเขาเหมือนไก่เขี่ยกิ้งกือลงท่องั้นสิ ชายหนุ่มดึง‘ใบสัญญา’ที่ตนตั้งใจเขียนสุดฝีมือกลับมา

“งั้นฉันจะอ่านให้ฟัง” เขากล่าวเสียงเข้ม
      ภัทรชลเริ่มร่ายยาวทุกคำทุกประโยคโดยไม่ยอมให้ตกหล่น 
      “สัญญาฉบับนี้เป็นสัญญาระหว่างนายภัทรชล สุริยเดชากร และ นางสาวผิง โทษที ฉันจำชื่อจริงเธอไม่ได้อ่ะ” ชายหนุ่มบอกอย่างไม่ยี่หระ “แต่ช่างเถอะมันไม่สำคัญนักหรอก เพราะสิ่งสำคัญคือ กฎต่างๆที่เธอต้องทำให้ได้ตามสัญญาต่างหาก”

“กฎอะไร?”  หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ตานี่จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย...

“กฎที่เธอและฉันต้องปฏิบัติตาม ขณะที่เรายังเป็นสามีภรรยากันไงล่ะ” เขาบอกชัดเจน “มีทั้งหมด 30 ข้อ และกฎบางข้ออาจปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความจำเป็นบังคับ”

“ห๊ะ” อิสริยาอ้าปากหวอ เอ่อ...ดูท่าทางเขาจะเอาจริงแฮะ

“ข้อ 1 ระหว่างที่เราเป็นสามีภรรยากัน เธอห้ามยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของฉันเด็ดขาด” อันนี้สำคัญ เพราะเขารักความเป็นส่วนตัวยิ่งกว่าอะไร

“ข้อ 2 เธอจะทำอะไรก็ได้อย่างที่เธออยากทำ ยกเว้นทำให้ฉันเดือดร้อน” อันนี้ก็สำคัญ เพราะเขาไม่อยากมานั่งรับกรรมกับเรื่องของหล่อนอีกแล้ว แค่นี้ก็มากเกินพอ...

“ข้อ 3 ฉันจะจ่ายเงินให้เธอใช้เดือนละ 3 หมื่น ถ้าไม่พอขอเพิ่มได้ แต่ต้องเขียนรายงานและรายรับรายจ่ายทั้งหมดมาให้ฉันดู”

“ห๊ะ” อิสริยาร้องอย่างตกใจอีกครั้ง “จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ต้องการเงินของคุณหรอกนะ” หญิงสาวรีบบอกปัด เธอเองก็มีเงินเก็บอยู่บ้างอาศัยการทำงานพิเศษเล็กๆน้อยๆตอนเลิกเรียนตั้งแต่มัธยมต้น เพราะฉะนั้นเธอไม่ได้ต้องการเงินของเขาเลยซักนิด

“เธอจะต้องการหรือไม่ นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่ตอนนี้ฉันอยู่ในฐานะสามีของเธอ ฉันจำเป็นต้องเลี้ยงดูภรรยาไม่ให้ขาดตกบกพร่อง” ภัทรชลไม่สนว่าหล่อนตั้งท่าจะปฏิเสธให้ได้ เขากล่าวต่อไป

“ข้อ 4 ในเมื่อฉันยอมทำหน้าที่สามีที่ดีแล้ว เธอเองก็ต้องทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเช่นกัน คือ ให้เกียรติฉันทั้งต่อหน้าและลับหลังผู้อื่น” เรื่องนี้เขายอมไม่ได้ถ้าต่อไปจะต้องถูกตราหน้าว่าเป็นคน‘กลัวเมีย’ แค่ตอนนี้ที่เจ้าภูมิกับเจ้าครามมันเห็นเรื่องที่เขาถูกยัยตัวแสบเอาสากกะเบือตีหัวเป็นโจ๊กสำคัญในวงเหล้า เขาก็ขายขี้หน้าจะแย่ทุกครั้งที่ต้องทนฟัง

“ข้อ 5 ภรรยาที่ดีไม่ได้มีเพียงเรื่องการให้เกียรติสามีเท่านั้น แต่รวมถึงการเอาอกเอาใจ ตอบสนองความต้องการของสามีได้ในทุกๆอย่าง โดยเฉพาะ เรื่องบนเตียง!”

“ไม่มีทาง!” อิสริยาโวยเสียงดัง “เรื่องแบบนั้น ฉันไม่ทำเด็ดขาด!”

“โป๊ะเช๊ะ!” ชายหนุ่มดีดนิ้วดังเป๊าะอย่างถูกใจ “ฉันถึงได้มีกฎข้อที่ 6 ไว้ไง”

“กฎอะไรไม่ทราบ?”

“ข้อที่ 6...” ภัทรชลยิ้มกริ่ม เขาก้มหน้าอ่านตามสคริปอย่างเสียงดังฟังชัด “ถ้าภรรยาปฏิเสธความต้องการของสามีในข้อที่ 5 อนุญาติให้สามีไปหาเศษหาเลยนอกบ้านได้”

แค่ได้ฟังอิสริยาก็อึ้งกิมกี่ นี่มันกฎบ้ากฎบออะไรกันวะ!?

“ว่าไงยอมไหมล่ะ?” เขาถามย้ำอย่างเป็นต่อ ราวกับผู้ที่กำไพ่เหนือกว่า ช่วยไม่ได้นะ คุณแม่บอกเองว่าการเป็นนักธุรกิจที่ดีต้องแสวงหาผลกำไร!

“ถ้าคุณทำแบบนั้น ก็เท่ากับคุณไม่ให้เกียรติฉันที่เป็นภรรยา งั้นก็แสดงว่าคุณเองก็ผิดกฎ” เธอกัดฟันกรอด เถียงเสียงเรียบ

“ก็ฉันบอกแล้วไงว่ากฎบางข้ออาจทำหรือไม่ทำก็ได้ ตามสถานการณ์และความจำเป็นบังคับ” ภัทรชลกอดอกเอนกายพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ “แล้วเธอก็น่าจะรู้ว่าเรื่องเซ็กซ์สำหรับผู้ชาย มัน‘ค่อนข้าง’จำเป็น และเมื่อเราเป็นสามีภรรยากันแต่เธอให้ในสิ่งที่ฉันว้อนท์(want)ไม่ได้ ทางออกมันมีอยู่แล้ว ก็อยู่ที่เธอว่าจะยอมทำตามสัญญาในข้อ5หรือไม่?”

อิสริยาหายใจลึกหลับตาเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ แม้การแต่งงานของเธอกับเขาจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาด แต่ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นผู้หญิง ศักดิ์ศรีของความเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย เธอจะไม่ยอมให้สามีตนเองไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยเพื่อสนองตัณหาบ้ากาม โดยไม่เห็นหัวเมียเด็ดขาด

“ไม่...” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแผ่วเบา

“หืม?” ภัทรชลชะโงกหน้าเข้าไปหาเธอ เขาเลิกคิ้วถามอย่างไม่แน่ใจ “หมายความว่าเธอจะยอมให้ฉันมีเมียน้อยได้งั้นเหรอ?” เป็นคำตอบที่ทำเอาชายหนุ่มแปลกใจอย่างแรง ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงอย่างยัยตัวแสบนี่ จะยอมปล่อยสามีดีๆอย่างเขาไปหาเศษหาเลยนอกบ้านได้ นี่เขาประเมินเธอผิดไปอย่างนั้นหรือ...

“ไม่...คือ ฉันจะไม่ทำสัญญาบ้าๆนี่ต่างหาก!!”  

 

  
*********************************************





i'm yours...
ผมเป็นของคุณ... 

Well you done done me and you bet I felt it
คุณทำให้ผมรัก และผมก็รักคุณเข้าอย่างจัง
I tried to be chill but you’re so hot that I melted
ผมพยายามจะเมินเฉยกับคุณ แต่คุณก็มีเสน่ห์จนผมใจละลาย
I fell right through the cracks
ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในภาวะจิตเสื่อม
and now I’m trying to get back
และตอนนี้ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติ
Before the cool done run out
ก่อนที่สิ่งดีๆกำลังจะหมดไป
I’ll be giving it my bestest
ผมจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดของผมให้กับคุณ
Nothing’s going to stop me but divine intervention
ไม่มีอะไรที่จะหยุดผมได้ แต่การแทรกแซงของพระเจ้านั้น
I reckon it’s again my turn to win some or learn some
ผมจึงกลับมาคิดอีกที ว่าผมจะต้องรู้จักถึงการชนะบ้าง และเรียนรู้บ้าง
I won’t hesitate no more, no more
ผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ไม่ลังเลอีกแล้ว
It cannot wait, I’m yours
ผมไม่สามารถทนรอได้ ผมเป็นของคุณ
 Well open up your mind and see like me
ช่วยเปิดใจของคุณ และมองมาที่ผมหน่อย
Open up your plans and damn you’re free
ช่วยเปิดแผนชีวิตของคุณ และทำลายมันซะ ปล่อยตัวคุณให้เป็นอิสระ
Look into your heart and you’ll find love love love
ลองมองเข้าไปในหัวใจ และคุณก็จะพบแต่คำว่า รัก รัก รัก
Listen to the music of the moment maybe sing with me
ฟังเสียงเพลงในตอนนี้ดูสิ คุณจะร้องเพลงนี้พร้อมผมก็ได้นะ ถ้าเป็นไปได้
Ah la peaceful melody
บทเพลงแห่งสันติภาพไง
It’s your God-forsaken right to be loved love loved love loved
เทพเจ้าแห่งความโชคร้ายของคุณ ยังพูดคำว่า รัก รัก รัก รักกัน
** So I won’t hesitate no more, no more
ดังนั้นผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ไม่ลังเลอีกแล้ว
It cannot wait I’m sure
ผมไม่สามารถทนรอได้ ผมมั่นใจ
There’s no need to complicate
มันไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนเลยนะ
Our time is short
เวลาของพวกเราแสนสั้น
This is our fate, I’m yours
สิ่งนี้คือพรมลิขิต ผมเป็นของคุณ
I’ve been spending way too long checking my tongue in the mirror
ผมใช้เวลาไปมากมายกับการสำรวจลิ้นของตัวเองอยู่หน้ากระจก
And bending over backwards just to try to see it clearer
แลบลิ้นเข้าๆออกๆเพื่อดูว่ามันสะอาดแล้ว
My breath fogged up the glass
ลมหายใจของผมเป็นไอเกาะบนกระจก
And so I drew a new face and laughed
และผมก็วาดรูป
I guess what i’ma saying is there ain’t no better reason
ผมก็เข้าใจนะว่าสิ่งที่ผมพูดออกไปนั้น เหตุผลคงไม่ดีพอ
To rid yourself of vanity and just go with the seasons
ขอให้คุณช่วยสละทิฐิของตัวเองทิ้งไป และก้าวไปในช่วงเวลาของเรา
It’s what we aim to do
ว่าอะไรคือเป้าหมายของเรา
Our name is our virtue
และพวกเราจะจารึกชื่อของเราไว้
No please, don’t hesitate
ได้โปรด อย่าลังเลใจอีกเลย
no more, no more
อย่าเลยนะ อย่าเลย
It cannot wait
ผมรอต่อไปไม่ได้แล้ว
The sky is your’s!
ขนาดท้องฟ้าก็ยังเป็นคุณ

เครดิต : oryim.com

*********************************************
************************************