คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เมื่อโชคชะตากลั่นแกล้ง 4
“ว่าไงกุมภ์ หน้าเครียดมาเชียว” ปลายรุ้งทักยิ้มๆ แต่ผู้มาใหม่กลับไม่ยิ้มด้วย
“ผมอยากให้ท่านยกเลิกคำสั่งที่ให้ยัยปลายไปคุ้มกันนายภูตะวัน”
“เรื่องนี้น่ะเอง” ปลายรุ้งก้มหน้าลงทำงานต่อ “เพราะอะไร ขอฟังเหตุผลหน่อยสิ”
“เพราะปลายยังเด็กเกินไปที่จะทำงานนี้ มันเสี่ยงเกินไปนะครับ ถ้าปลายเป็นอะไรขึ้นมา...”
“ไม่มีเหตุผลที่ดีกว่านี้แล้วหรอ” กุมภ์พูดยังไม่ทันจบ ปลายรุ้งก็พูดแทรกขึ้นด้วยเสียงเรียบเฉย “ถ้าเธอไม่มี ฉันก็ยังยืนยันให้ยัยปลายทำงานนี้ต่อ” ปลายรุ้งพูดต่อเมื่อเห็นกุมภ์ยืนนิ่ง
“ท่านครับ”
“ฉันรู้ว่าเธอมีเหตุผลมากกว่านั้น...” ปลายรุ้งเงยหน้าขึ้นมองกุมภ์ “ฉันก็มีเหตุผลของฉันเหมือนกันที่จะให้ยัยปลายทำงานนี้”
“เหตุผลอะไรครับ”
“เหตุผลของฉันคืออยากให้ยัยปลายไปลุยงานด้วยตัวเองบ้าง ในเมื่อเค้าไม่ชอบฟังใคร ก็ให้เค้าไปลุยงานคนเดียว คิดคนเดียว และทำคนเดียวโดยไม่มีใครสั่ง ฉันเชื่อว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งยัยปลายจะต้องสนุกกับงานนี้และเค้าก็จะทำมันให้ดีที่สุดด้วยตัวเอง”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ ถ้าเธอรักยัยปลายจริง เธอก็ไม่ควรจะขัดขวางความก้าวหน้าของยัยปลายนะ”
“ครับ ผมขอโทษ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” แล้วกุมภ์ก็เดินเซ็งออกจากห้องไป
กุมภ์รู้จักกับปลายพิรุณตั้งแต่สมัยมัธยมปลายเพราะทั้งคู่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันในชมรมบาสเกตบอล ชายหนุ่มประทับใจความสดใสของหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น แล้วก็พยายามตีสนิทกับปลายพิรุณจนทั้งคู่สนิทกัน แต่จนถึงตอนนี้ปลายพิรุณก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับกุมภ์เลย นอกจากความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน
ปลายรุ้งส่ายหน้าช้าๆ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ก่อนจะล้วงมือลงไปในกระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนโต๊ะเพื่อควานหาโทรศัพท์เพราะมีคนโทรมา
“ว่าไงยัยปลาย” ปลายรุ้งพูดขึ้นทันทีที่เธอกดรับ
“ปลายถึงที่บ้านนายภูตะวันแล้วนะ”
“แม่รู้แล้ว ทางนั้นเค้าโทรมาบอกแล้วแหละ”
แม้จะบอกว่ารู้แล้ว แต่จริงๆ ปลายรุ้งก็เพิ่งรู้จากปากของปลายพิรุณเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทางนั้นไม่โทรมาบอก แต่จริงๆ แล้วไอ้เรื่องที่จะโทรเช็คทุก 10 นาทีมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เธอขู่เอาไว้กันปลายพิรุณหนีก็แค่นั้น
“จริงสิ แม่มีสายอยู่นี่นา” ปลายพิรุณพูดเซ็งๆ
“คิดแบบนั้นก็ตามใจ แล้วที่นั้นเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ก็ดีค่ะ แต่ทำไมแม่ไม่บอกปลายก่อนว่าน้องสาวของอีตานั่นคือพิมพ์ แม่ก็เคยเจอเค้าแล้วนี่นา”
“แม่จำหน้าเค้าไม่ได้ มันตั้งกี่ปีแล้ว ว่าแต่ตอนนี้เราใส่แว่นอยู่หรือเปล่า”
“ใส่ค่ะใส่”
ถึงปากจะบอกแบบนี้ แต่ทีจริงเธอไม่ได้ใส่แว่นเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘คงไม่มีใครเดินมาจับผิดถึงในห้องนอนหรอกมั้ง’
“อืม...” ปลายรุ้งยิ้มนิดๆ อย่างรู้ว่าลูกสาวโกหกแน่ๆ
“แม่อยู่ไหนหรอคะ”
“จะอยู่ไหนได้นอกจากกรมฯ แล้วเรากินอะไรหรือยัง”
“กินแล้วจนจะนอนแล้วล่ะค่ะ” ปลายพิรุณเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาแขวนผนังที่แสดงเวลาว่าสามทุ่มห้าสิบนาที “แม่ยังทำงานอยู่หรอ นี่มันเกือบจะสี่ทุ่มแล้วนะ”
“ปกติแม่ก็ทำถึงเวลานี้แหละ” ปลายรุ้งก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง “ดึกแล้ว งั้นแม่ไม่รบกวนแล้วแหละ”
“เดี๋ยวแม่ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่าโหมงานหนักนักล่ะ”
“เก็บคำพูดนี้ไปบอกตัวเองเถอะ เออนี่ เวลานอนไม่ต้องใส่แว่นนะ”
“ใครเค้าจะใส่กันล่ะคะ ฝากบอกป้าบัวด้วยนะว่าคิดถึง”
“จ้ะ งั้นก็ราตรีสวัสดิ์แล้วกัน”
“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์เช่นกันค่ะ” ปลายพิรุณกดวางสายก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะวางโคมไฟ จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปปิดโคมไฟ ก่อนจะเงยหน้ามองเพดาน
...ถึงพ่อที่มองปลายอยู่บนสวรรค์ ขอให้ปลายทำงานนี้เสร็จเร็วๆ นะคะ ปลายจะได้กลับไปอยู่กับคุณแม่แล้วก็กลับไปดูแลท่านเหมือนเดิม....ราตรีสวัสดิ์ค่ะพ่อ แล้วปลายพิรุณก็หลับตาลงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ความคิดเห็น