คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เมื่อโชคชะตากลั่นแกล้ง 2
ปลายพิรุณมองบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งด้วยสายตาพิศวงแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าลากที่นอนแน่นิ่งอยู่เบาะหลัง ก่อนจะเดินลงจากรถไปกดออดประตูบ้าน
...ไม่ชินเลยแหะ อยากถอดแว่น!!!!!
เธอยืนอยู่หน้าบ้านไม่นานก็มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักเดินมาที่ประตูแบบหวาดๆ ปลายพิรุณเห็นหน้าหญิงสาวชัดๆ ก็ถึงกับอึ้ง
“ยัยพิมพ์”
“ยัยปลาย แป๊บนะ” หญิงสาวคนนั้นหรือพิมพ์ดาว น้องสาวของภูตะวันรีบเปิดประตูบ้านให้เพื่อนสาวสมัยประถมของตัวเองอย่างรีบร้อน
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็แกนี่เอง” พิมพ์ดาวพูดก่อนจะหลบทางให้เพื่อนเดินเข้ามา “หลังจากจบ ป.6 ก็ไม่ได้เจอกันเลยเนอะ”
“อืม...ก็แกย้ายไปเรียนที่อื่นนี่นา”
“อือ แล้วแกยังอยู่คฤหาสน์หลังเดิมมั้ยล่ะ”
“อยู่ แต่แกเลิกเรียกมันว่าคฤหาสน์เลย ฉันขอร้อง” ปลายพิรุณพูดยิ้มๆ “แล้วแกเป็นอะไรกะอีตานั่น เอ้ย! คุณภูตะวันล่ะ”
“เป็นน้องสาว แท้ด้วย”
“ที่แกเคยบอกใช่มั้ยว่ามีพี่ชายอยู่โรงเรียนประจำ คนนี้น่ะหรอ” พิมพ์ดาวพยักหน้ายิ้มๆ “นิสัยต่างกันลิบลับ”
“แกก็เคยเจอพี่ภูนะ ตอน ป.5 งานโรงเรียนน่ะ”
ปลายพิรุณพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก “จำไม่ได้แหะ”
“ก็คนที่แต่งตัวเป็นชาวยุโรปสมัยก่อนที่เดินมาในงานกะฉันน่ะ วันนั้นแกยังทะเลาะกะพี่ฉันเรื่องขนมอยู่เลย” ปลายพิรุณนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นที่พิมพ์ดาวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า ‘พี่ชายเราเอง’
“อ๋อ ตานั่นน่ะหรอ แต่จะว่าไป...จำหน้าไม่ได้เหมือนกันแหะ”
“อย่าว่าแต่พี่ภูเลย ถ้าแกไม่ทักฉันก่อน ฉันก็จำแกไม่ได้เหมือนกัน”
“หรอ งั้นถ้าแบบนี้ล่ะ” ปลายพิรุณถอดแว่นออก “เหมือนเดิมมั้ย”
“นี่แหละ ก็ว่าหน้าแกเปลี่ยน” พิมพ์ดาวเดินนำเข้ามาในบ้าน ปลายพิรุณหัวเราะก่อนจะใส่แว่นตามเดิม
“บอกไว้ก่อนนะว่าแม่ให้ใส่ จริงๆ ตายังดีเหมือนเดิม”
“จ้าๆ” พิมพ์ดาวนึกถึงฉายาของเพื่อนสาวตัวเองที่เรียกว่า ‘คุณหนูตาเหยี่ยว’ ยิ้มๆ ก่อนจะหันไปหาคนในความคิด “นั่งก่อนสิ เดี๋ยวเอากาแฟมาให้”
“ไม่ต้องก็ได้ ฉันไม่ทานกาแฟ” ปลายพิรุณพูดขึ้นก่อนจะค่อยๆ นั่งบนโซฟา “พี่แกล่ะ”
“เรียกหาเพราะคิดถึงหรอครับ” เสียงห้าวๆ ที่ดังขึ้นมาจากบริเวณบันได ทำให้หญิงสาวทั้งสองพร้อมใจกันหันไปมองชายหนุ่มที่เดินลงมาจากบันไดกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เปล่า ถามไว้เผื่อตายไปแล้วจะได้กลับบ้าน” ปลายพิรุณพูดลอยหน้าลอยตา
“ปากเธอนี่จัดเสมอต้นเสมอปลายเลยนะ”
“ส่วนนายก็หลงตัวเองเสมอต้นเสมอปลายเหมือนกัน”
“ขอบคุณที่ชม”
“แถวบ้านนายเค้าเรียกว่าชมหรอ แถวบ้านฉันเค้าเรียกว่าด่านะ”
“แล้วบ้านเธอแถวไหนล่ะ จะได้ไปหา”
“แถวไหนก็ช่าง เพราะมันไม่ใช่กงการอะไรของนายอยู่แล้ว”
“เกี่ยวสิ เพื่อเวลาฉันอยากขอเธอแต่งงานจะได้ไปขอที่บ้านพ่อตาแม่ยายฉันถูกไง หรือจะให้ไปขอที่กรมตำรวจ คนเยอะดี สักขีพยานเพียบ”
“ถ้านายคิดแบบนี้ฉันก็คงไม่บอกนายหรอก เพราะเรื่องแบบนั้นมันคงไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว”
“มันก็ไม่แน่หรอก” ภูตะวันเดินเข้ามาใกล้ปลายพิรุณ หญิงสาวถอยหลังหนี
“นายจะทำอะไร”
“ฉันเพิ่งสังเกตว่าเธอ...ใส่แว่น”
ปลายพิรุณเอื้อมมือไปขยับแว่น “ฉันใส่แล้วนายจะทำไม”
“แสดงว่าวันนั้นใส่คอนแทคเลนส์”
“เปล่า ฉันตาปกติ แต่แม่บอกให้ใส่เลยต้องใส่”
“หน้าเปลี่ยนนะ แต่ปากเนี่ย ร้ายเหมือนเดิม”
ปลายพิรุณเตะผ่าหมากภูตะวันทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบ ก่อนจะก้มลงมองชายหนุ่มที่ตอนนี้ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะคว้ากระเป๋าลากเดินขึ้นชั้นบนไปเลย
“ไหวมั้ยพี่ภู” พิมพ์ดาวเดินมาพูดยิ้มๆ ภูตะวันมองน้องสาวค้อนๆ ก่อนจะพูดเสียงแผ่ว
“พี่ว่าหน้าผู้หญิงคนนี้คุ้นๆ”
“ไม่คุ้นได้ไง ก็เนี่ยยัยปลาย เพื่อนสมัยประถมของปลาย ที่พี่เคยนึกว่าเป็นผู้ชายตอนที่พี่ไปงานโรงเรียนกะพิมพ์น่ะ” ภูตะวันคิดถึงวันนั้นที่เธอเห็นปลายพิรุณแต่งตัวเป็นชุดผู้ชายตามสไตล์ชาวยุโรปสมัยก่อน ก่อนจะหันไปบอกกับน้องสาวตัวเองว่า
‘ผู้ชายคนนี้ทำไมหน้าหวานจัง แมนเปล่าเนี่ย’
‘จะหน้าไม่หวานได้ไงล่ะคะ ก็เนี่ยยัยปลาย เพื่อนสนิทของหนูที่เล่าให้ฟังบ่อยไง’
ภูตะวันยิ้มน้อยๆ เมื่อคิดถึงตรงนี้ก่อนจะเงยหน้ามองน้องสาว “หน้าเปลี่ยนนะ”
“ก็เค้าใส่แว่นนี่ ถ้าถอดแว่นหน้าก็เหมือนเดิม” พิมพ์ดาววิ่งขึ้นไปบนบันได
ภูตะวันมองตามน้องสาวงงๆ ก่อนจะถาม “ไปไหน”
“หาเพื่อน” แล้วหญิงสาวก็วิ่งร่าเริงขึ้นไปบนบ้านเลย
ความคิดเห็น