ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เริ่มต้นคือลบ ตอนจบคือรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : เมื่อโชคชะตากลั่นแกล้ง 1

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 54


      “ยังเจ็บอยู่มั้ยเนี่ยหมวด แขนน่ะ” จ่าเทียน ลูกน้องคนสนิทของปลายพิรุณถามยิ้ม แต่คนที่ถูกถามกลับไม่ยิ้มด้วย ก่อนจะทำหน้าบึ้งใส่จนคนถามงง

                    “อะไรครับหมวด อยู่ดีๆ มาเหวี่ยงใส่ผม ผมแค่ถามด้วยความเป็นห่วง” จ่าเทียนยังคงถามยิ้มๆ ตามประสาชายวัยกลางคนอารมณ์ดี

                    “ปลายไม่เป็นไรแล้ว จ่าก็รู้คนอย่างปลายอึดจะตาย ไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า”

                    ตอนนี้ทั้งคู่กำลังเดินอยู่ในกรมตำรวจ แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว แต่ตำรวจหลายคนก็ยังคงกลับมาทำงานไม่ได้ เพราะยังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย ทำให้บรรยากาศในกรมฯ จัดได้ว่าค่อนข้างเงียบทีเดียว

                    “นั่นสิครับ ผมก็ลืมไปว่าหมวดนี่พันธุ์อึด ถึก จนควายยังอาย” คราวนี้ปลายพิรุณไม่ได้ทำแค่ค้อน แต่ยังไล่กระโดดเตะจ่าเทียนด้วย เล่นเอาคนพูดวิ่งหนีกันแทบไม่ทัน แต่จู่ๆ ก็มีเสียงสวรรค์ (สำหรับจ่าเทียนคนเดียว) ดังขึ้น

                    “หนูปลาย ท่านปลายรุ้งเรียกน่ะ” ปลายพิรุณหันไปส่งค้อนวงโตให้ตำรวจที่เอ่ยประโยคเมื่อกี้ ก่อนจะเดินปั้นปึงไปเลย ตำรวจนายที่มาบอกมองตามไปงงๆ ก่อนจะหันไปหาจ่าเทียน

                    “หนูปลายเป็นอะไรน่ะ” จ่าเทียนยักไหล่ก่อนจะเดินเลี่ยงไปเลย ตำรวจผู้มาใหม่มองตามคนทั้งสองที่เดินไปกันคนละทางแบบงงๆ ก่อนจะเดินเกาหัวไปอีกทาง

     

                    “แม่เรียกปลายมา มีอะไรหรอคะ” ปลายรุ้งวางปากกาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองลูกสาวที่เดินปั้นปึงเข้ามาในห้องทำงานของเธอ

                    “นั่งก่อนสิ” ปลายพิรุณยืนนิ่ง ก่อนจะทำตามคำสั่ง “จำเรื่องงานแฟชั่นโชว์เมื่ออาทิตย์ก่อนได้มั้ย”

                    ปลายพิรุณพยักหน้าช้าๆ “จำได้แม่นเลยล่ะค่ะ มีอะไรหรอคะ”

                    “แล้วจำนายภูตะวันที่เราไปคุ้มกันเค้าได้มั้ย”

                    ปลายพิรุณเท้าคางอย่างเซ็งๆ “หลายนั้นก็คงจำได้จนวันตายเลยล่ะค่ะ ว่าแต่อีตานั่นมันทำไมหรอ”

                    “เค้าอยากให้ปลายปลอมตัวไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวเค้า เพื่อคอยคุ้มกันเค้า” ปลายพิรุณมองหน้าแม่ตัวเองอย่างไม่เชื่อ

                    ...อารายน้า!!!! นี่หูฉันฝาดไปหรือเปล่า

                    “เป็นอะไร” ปลายรุ้งถามขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวเอามือปิดหูแล้วส่ายหน้าไปมา

                    “เปล่าค่ะ เปล่า”  ปลายพิรุณพูดเสียงค่อย

                    “งั้นตกลงตามนี้นะ”

                    “เดี๋ยว! ปลายยังไม่ได้ตกลงเลยนะ”

                    “ช่วยไม่ได้ เค้าต้องการคำตอบวันนี้ ถ้ารอคำตอบจากเรานะ ชาติหน้าคำตอบก็มาไม่ถึงหรอก” ปลายพิรุณยิ้มแห้งๆ กับคำพูดของผู้เป็นแม่

                    ....คำตอบน่ะได้ แต่มันจะได้แค่ ไม่ๆๆๆๆๆ และไม่

                ปลายพิรุณส่ายหัวดุกดิกอยู่คนเดียวทำให้ผมลอนยาวสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำสั่นไปด้วย ปลายรุ้งมองลูกสาวอย่างหยั่งรู้ว่าเธอคิดอะไร ก่อนจะยื่นคำขาด

                    “ถ้าปลายไม่ทำงานนี้ แม่จะไล่ปลายออก”

                    คำขาดนี้ทำให้สมองสั่งการของปลายพิรุณหยุดทำงานทันที เลือดไหลไปอยู่รวมกันที่ตาตุ่ม พอเธอตั้งสติได้ เธอก็ลุกขึ้นยืนแบบฉุนๆ

                    “แค่นี้ถึงกลับต้องไล่ออกกันเลยหรอคะ”

                    “ก็คดีนี้มันคดีใหญ่ ถ้าปลายไม่ทำมันจะเสียชื่อกรมตำรวจ”

                    “ขนาดนั้นเลย แล้วทำไมไม่ให้คนอื่นทำล่ะ”

                    “เค้าประทับใจในผลงานวันนั้นของเราไง”

                    ....รู้งี้วันนั้นปล่อยให้อีตาบ้านั่นโดนระเบิดตายซะดีกว่า แง่ง!!!!

                    “สาปแช่งใครอยู่น่ะเรา ทำหน้าซะโหดเลย” ปลายรุ้งถามขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวทำหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อใคร

                    “แม่เห็นปลายเป็นคนโหดขนาดนั้นเลยหรอคะ”

                    “ก็เห็นเป็นประจำ ไม่งั้นในห้องจะมีตุ๊กตาหมีสภาพเยินขนาดหนักอยู่เต็มไปหมดหรอ”

                    ปลายพิรุณคิดถึงห้องนอนตัวเองที่มีตุ๊กตาหมีนอนตายเต็มไปหมด เพราะเวลาเธอโกรธใครเธอก็จะต่อยๆๆๆ และต่อยน้องหมีจนตายไปหลายตัว แต่เธอก็ชอบเอามาให้ป้าบัว แม่บ้านที่บ้านเย็บให้ตลอด จนป้าแกบ่นว่า ‘ป้าว่าป้าสอนหนูปลายเย็บตุ๊กตา มันจะง่ายกว่ามั้ยคะเนี่ย’ ซึ่งเธอก็จะตอบกลับด้วยการหัวเราะยิ้มๆ แล้วเดินหนีไปเลย

                    “ปลายกอดมันแรงไปหน่อยน่ะ” ปลายรุ้งทำหน้าแบบ ‘หรอ’ ให้ลูกสาวจนหญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วแม่จะให้ปลายทำถึงเมื่อไร”

                     “จนกว่าจะจับคนที่สั่งฆ่านายภูตะวันได้” ปลายรุ้งเอื้อมมือไปดึงยางรัดผมที่รัดผมสีดำสนิทที่ยาวประบ่าเอาไว้ออก ก่อนจะรัดมันกลับไปอีกครั้ง

                    “งั้นที่ปลายต้องปลอมตัวเป็นผู้จัดการของตายนั่นก็เพราะจะให้สืบเรื่องนี้น่ะหรอ”

                    “ฉลาดดีนี่นา”

                    “ปลายก็คิดเป็นนะ” ปลายรุ้งทำหน้าแบบ ‘หรอ’ ให้ลูกสาวจนหญิงสาวร่างบางทำหน้าบึ้ง “แล้วปลายต้องไปปรับลุคอะไรหรือเปล่า”

                    “ต้องสิ ก่อนอื่นก็ใส่แว่น แว่นแฟชั่นก็พอ เพราะเราสายตาปกติ แต่เอากลมๆ นะ จะได้เชย แล้วที่สำคัญห้ามหลุดห้าวออกมาเด็ดขาด ถึงแม้จะอยู่กับนายภูตะวันก็ตาม”

                    ปลายพิรุณอึ้งกับคำพูดของแม่ พอตั้งสติได้เลยเริ่มเหวียง “อันอื่นพอรับได้ แต่จะให้ทำตัวหวานเนี่ย ทำไม่ได้จริงๆ แม่จะบ้าหรอคะ ให้ปลายทำแบบนี้ ฆ่าปลายให้ตายยังดีซะกว่าเลย” ปลายพิรุณทำหน้าไม่พอใจสุดฤทธิ์

                    “ตกลงจะทำมั้ย” ทีแรกปลายพิรุณก็ว่าจะเถียง แต่พอเจอสายตาสุดน่ากลัวของผู้เป็นแม่เข้าไป เธอถึงกับกลืนน้ำลายตัวเอง

                    “ทำก็ได้ แล้วปลายต้องไปอยู่กับตานั่นมั้ย”

                    “อยู่”

                    “งั้นปลายเลยไปเก็บของแล้วเดี๋ยวไปหาเค้าเอง เอาที่อยู่มาสิ”

                    ปลายรุ้งยื่นที่อยู่ที่เธอจดกระดาษให้ลูกสาว ก่อนจะพูดอย่างหยั่งรู้ “อย่าคิดหนีนะ เพราะแม่จะโทรถามน้องสาวของเค้าทุกๆ 10 นาที ถ้าอีก 3 ชม. หรือหนึ่งทุ่มตรงนี้เรายังไม่ถึง แม่จะเขียนใบลาออกให้เสร็จสรรพเลย”

                    ปลายพิรุณทำหน้าเซ็งทันที เพราะทีแรกเธอก็คิดจะหนีเหมือนกัน แต่เพราะไม่อยากให้แม่รู้เธอเลยรีบปรับสีหน้าให้ปกติ “ค่ะ งั้นปลายไปแล้วนะ สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้ผู้เป็นแม่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเลย

                    ....ต้องดัดนิสัยกันบ้าง ไม่อย่างงั้นก็ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตสักที

                    ปลายรุ้งคิดก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×