คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่3 นามนั้น... (40%)
บทที่ 3
นามนั้น..
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...มันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไงกัน!” ชายหนุ่มเอเชียคนหนึ่งตะโกนออกมามาเมื่อเห็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น
เสียงปืนและเสียงวิทยุสื่อสารของกองพลทหารดังอยู่ตลอดเวลา และดูท่าจะไม่จบ เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมลดละจากการต่อสู้ เหล่าพลทหารนับร้อยนับพันต่างระดมสาดกระสุนใส่อีกฝ่าย งัดแงะอาวุธสารพัดเพื่อนำออกมาต่อกรกับศัตรูเบื้องหน้า...
ตูม! เสียงระเบิดดังสนั่นมาจากด้านหลัง เมื่อนายทหารคนหนึ่งได้ปาระเบิดออกไป เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณฝั่งตรงข้าม เมื่อมันจางลงก็ทำให้เห็นสิ่งมีชีวิตนับแสนตัว
สิ่งมีชีวิตที่คร่าลมหายใจของมนุษย์ไปมากมาย...
“กรี๊ดดดดด! นั้นมันตัวอะไรกันนะ...หน้าตาหน้าเกลียดน่ากลัว”
“ พวกมันกำลังฆ่าพวกเรา หนีเร็ว!”
“แม่จ๋า! พ่อจ๋า! อยู่ไหนอย่าทิ้งหนูไว้คนเดียวสิ”
“หรือว่า...นี่คือจุดจบของโลกใบนี้”
เสียงกรี๊ดร้องดังระงมไปทั่วทุกทวีปบนโลก เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเสมือนฝันร้ายของมวลมนุษยชาติ
เสียงของการดิ้นรนหนีจากพวกมัน...
เสียงกรี๊ดร้องยามที่กำลังโดนฆ่าจากพวกมัน...
เสียงของความเศร้าโศกสันยามสูญเสียคนรักจากพวกมัน...
เสียงของความสิ้นหวังที่จะมีชีวิตรอดจากมือพวกมัน...
พวกมันคือ ปีศาจ...
ย้อนกลับไปราวๆหนึ่งชั่วโมงก่อน มันเป็นวันสิ้นปีวันหนึ่งในคริสต์ศักราช 2055 ก่อนจะขึ้นปีใหม่คริสต์ศักราช 2056
ผู้คนมากมายทั่วโลกเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ครอบครัวได้มีโอกาสได้พบหน้ากัน คู่รักได้มีโอกาสไปเดตด้วยกัน หรือเป็นวันที่ความรักครั้งใหม่กำลังเกิดขึ้น...
เรียกได้ว่าเป็น ‘วันแห่งการรอคอย’
ณ ประเทศญี่ปุ่น เมืองโตเกียว ประชากรชาวญี่ปุ่นต่างมาร่วมงานปาร์ตี้ครั้งใหญ่ที่กลางกรุงโตเกียวหรือที่เรียกงานนี้กันว่า ‘เคาท์ดาวน์’
ไม่ใช่แค่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ที่จัดงานเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์แต่เป็นทั่วทุกประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งอเมริกา แคนาดา ฮาวาย วอชิงตัน แคลิฟอร์เนีย และฟลอรินดา
แถบทวีปยุโรป อย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันนี อิตาลี สเปนและฟินแลนด์ เป็นต้น...
และก็แถบทวีปเอเชียก็ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นวันที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดอีกวันหนึ่ง
แต่ทว่า.. วันแห่งการรอคอคอยกลับแปรผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อแผ่นดินของโลกเกิดรอยแยกเรืองเสียงสีแดงออกจากกัน พร้อมกับร่างของอสุรกายและปีศาจหลายสายพันธ์ พวกมันได้ใช้พลังเข่นฆ่าเผ่าพันธ์มนุษย์อย่างเหี้ยมโหดไร้ความปรานี อาวุธของมนุษย์ไม่สามารถฆ่าและทำลายพวกมันได้ กลับกันเป็นฝ่ายมนุษย์เสียเองที่โดนฆ่าและโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว
มนุษย์สูญเสียความหวัง บางคนฆ่าตัวตายก่อนที่จะโดนพวกมันฆ่า บางคนก็โดนพวกมันกิน บางคนก็โดนพวกมันกระทำการอย่างทารุณต่างๆนาๆ
วันแห่งการรอคอย กลับกลายเป็น วันมหาวิปโยคแห่งการสูญเสีย
ทว่า...หากศรัทธาในตัวพระเจ้า ความหวังที่ว่าก็บังเกิด
ในวันก่อนที่ฟ้ารุ่งวันใหม่แห่งความสิ้นหวังจะมาเยือน เกิอปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเมื่อจู่ๆก็เกิดฝนประหลาดตกลงมาพร้อมกันทั่วโลก ฝนที่ว่าไม่เหมือนน้ำฝนที่เกิดจากธรรมชาติ หากทว่ามันคือ สารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะและสีคล้ายโลหะ ฝนดังกล่าวเมื่อสันผัสโดนผิวหนังของปีศาจ พวกมันก็รู้สึกแสบและเจ็บปวดผิวหนังสุดๆ แต่ในทางกลับกันมนุษย์ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ว่านั้นเลย
พวกปีศาจบางตนทรมาณและทุรนทุรายกับฝนที่ว่านั้นมาก บางตัวโดนฝนประหลาดกัดกร่อนผิวหนังจนเกิดเป็นแผลแหวะวะ บางตัวก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
คงเพราะเห็นว่าท่าจะไม่ดีแล้ว พวกมันจึงอพยบหนีกลับเข้าไปในรอยแยกที่ออกกันมาราวกับปาฏิหาริย์ เพียงชั่วพริบตาความวุ่นวายและการสูญเสียทั้งหมดก็จบลงเอยด้วยคำถามคาใจมนุษย์ว่า
‘มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกมันถึงได้หนีไป และฝนประหลาดนี่มันคืออะไรกันแน่’
สองสามวันต่อมาสหัรัฐอเมริกาได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับสารปริศนาที่ตกลงมาจากท้องฟ้านี้ ทำให้ได้ข้อสรุปว่าสารที่ว่าเป็นสารชนิดใหม่ไม่เคยพบหรือมีการวิจัยที่ไหนมาก่อนเกี่ยวกับสารชนิดนี้นี้แน่นอน นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งได้จับปีศาจตนหนึ่งมาทำการทดลองเกี่ยวกับสารที่ว่านี้ โดยการฉีดสารเข้าสู่ทางกระแสเลือด ผลปรากฎคือปีศาจหนูทดลองดังกล่าวมีสีหน้าอาการทรมาณและทุรนทุรายอย่างมาก รูปร่างของมันบิดเบี้ยว พอโดนผิวหนังผิวหนังเกิดผุผอง มีแผลแหวะวะตามผิวหนังบนร่างกาย แล้วในวินาทีต่อมาร่างกายของมันก็แหลกเหลวกลายเป็นก้อนเนื้อเลือดสุดสะอิดสะเอียน อีกอย่างที่สำคัญคือสารที่ว่านี้มีคุณสมบัติคล้ายกับแร่โลหะ เมื่อมันทำปฎิกิริยากับความร้อนที่พันองศาเซลเซียสก็กลายสภาพจากของเหลวเป็นของแข็งได้อีกด้วย
นักวิจัยและนักวิทยาศาสตย์ชาวอเมริกันได้บัญญัติศัพท์ชื่อให้กับสารนี้ว่า ‘ลิ่ม’ (Lim)
มนุษย์ได้นำสารดังกล่าวมาสร้างเป็นอาวุธมากมาย เช่น มีดพก มีดลามิเนต สนับมือ บังตอ กระสุน หรืออาวุธต่างๆที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะ อาวุธเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ป้องกันตัวจากปีศาจเพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินแยกออกพวกมันก็สามารถเข้า-ออกระหว่างโลกปีศาจกับโลกมนุษย์ได้ตามใจชอบเป็นว่าเล่น แถมบางตัวดันนึกพิศวาสอยากตั้งถิ่นฐานชีวิตบนโลกมนุษย์อีก
และในยามค่ำคืน แน่นอนว่าพวกมันคงไม่ปล่อยให้ ‘อาหาร’ อันโอชะหลุดรอดมือไปแน่
แต่ทว่า...
เนื่องด้วยสารชนิดนี้ค่อนข้างหายากและมีจำกัด จึงทำให้ราคาของมันค่อนข้างสูงพอตัว คนที่ครอบครองอาวุธที่ผลิตจากสารลิ่มส่วนใหญ่จึงเป็นพวกคนใหญ่คนโตหรือพวกมีเส้นใหญ่
อ้าว...อย่างนี้คนจนก็ซวยน่ะซี!
แต่เพื่อความปลอดภัยและสารทุกข์สุขดิบของประชากรโลกและเป็นการตอกย้ำถึงเหตุการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหย่ องค์การสหประชาชาติจึงจัดเกมการแข่งขัน “เกมลงทัณฑ์ปีศาจ” หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ “ไคเซอร์เกม”(Kaiser Games)ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจเหล่าปีศาจที่อาศัยอยู่ทั่วทุกมุมของโลกว่ามนุษย์มีอำนาจมากกว่าปีศาจ แม้กระทั่งควบคุมชีวิตปีศาจเองก็ยังได้ กฎของเกมลงทัณฑ์ปีศาจคือทุกทวีปทั่วโลก ต้องส่งบรรณาการปีศาจชายหญิงอายุสิบสี่ถึงยี่สิบห้าปี ในวันขึ้นปีใหม่ มาเพื่อลงแข่ง เกมจะแบ่งออกเป็นสามรอบซึ่งในสามรอบนี้จะมีกติกาการเล่นแตกต่างกันไปในแต่ละปี แต่ในรอบสุดท้ายของเกมจะไม่มีกฎเปลี่ยนใดๆทั้งสิ้นนั่นก็คือ...
ต้องฆ่ากันเองจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงกลุ่มเดียวหรือคนเดียวเท่านั้น!
หากปีศาจที่ถูกเลือกตัวไหนปฏิเสธหรือขัดขืนก็จะถูกลงโทษโดยอาวุธที่แม้แต่ตนเองก็ไม่อาจต่อกรมันได้
...ลิ่ม
และเพื่อที่จะได้ลืมวันเจ็บปวดและการสูญเสียในวันนั้น มนุษย์ได้ทำการเปลี่ยนปีศักราชใหม่จากคริสตศักราช(ค.ศ.)ไปเป็นเคเอสศักราช(ค.อ.ศ)แทน
นับแต่นั้นเป็นต้นมามนุษย์ก็อาศัยอยู่อย่างสงบสุขนับเรื่อยมาถึงสองร้อยกว่าปี เฝ้ามองพวกปีศาจชั่วร้ายที่ฆ่าพวกเดียวกันเองอย่างสนุกสนานออกรส
...และนี้
ก็คือเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี...
ค.อ.ศ.สามร้อย...
เอ็ด!
(40%)Loding
รู้สึกเหมือนยอดวิวนิยายไม่ค่อยกระดึ๊บเท่าไหร่เลยแหะ อ่า...ก็คงเหมาะดีสำหรับนัก(อยาก)เขียนมือใหม่(สุดห่วย)อย่างเรา จะขอพัฒนาฝีมือการเขียนต่อไปคะ!
และขอสัญญาว่าจะไม่ทิ้งนิยายเรื่องนี้แน่นอน ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ
Sunset_Shimmer
6/10/2557
ความคิดเห็น