ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kaiser Games เกมมรณะ!ล่าท้าชะตากรรม ภาคบรรณาการผู้ถูกเลือก

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่3 นามนั้น... (40%)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 57


    บทที่ 3

    นามนั้น..

     

                  นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...มันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไงกัน!” ชายหนุ่มเอเชียคนหนึ่งตะโกนออกมามาเมื่อเห็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น

                  เสียงปืนและเสียงวิทยุสื่อสารของกองพลทหารดังอยู่ตลอดเวลา และดูท่าจะไม่จบ เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมลดละจากการต่อสู้ เหล่าพลทหารนับร้อยนับพันต่างระดมสาดกระสุนใส่อีกฝ่าย งัดแงะอาวุธสารพัดเพื่อนำออกมาต่อกรกับศัตรูเบื้องหน้า...

                  ตูม! เสียงระเบิดดังสนั่นมาจากด้านหลัง เมื่อนายทหารคนหนึ่งได้ปาระเบิดออกไป เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณฝั่งตรงข้าม เมื่อมันจางลงก็ทำให้เห็นสิ่งมีชีวิตนับแสนตัว

                  สิ่งมีชีวิตที่คร่าลมหายใจของมนุษย์ไปมากมาย...

                  กรี๊ดดดดด! นั้นมันตัวอะไรกันนะ...หน้าตาหน้าเกลียดน่ากลัว

                  พวกมันกำลังฆ่าพวกเรา หนีเร็ว!

                  แม่จ๋า! พ่อจ๋า! อยู่ไหนอย่าทิ้งหนูไว้คนเดียวสิ

                  หรือว่า...นี่คือจุดจบของโลกใบนี้

                  เสียงกรี๊ดร้องดังระงมไปทั่วทุกทวีปบนโลก เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเสมือนฝันร้ายของมวลมนุษยชาติ

                  เสียงของการดิ้นรนหนีจากพวกมัน...

                  เสียงกรี๊ดร้องยามที่กำลังโดนฆ่าจากพวกมัน...

                  เสียงของความเศร้าโศกสันยามสูญเสียคนรักจากพวกมัน...

                  เสียงของความสิ้นหวังที่จะมีชีวิตรอดจากมือพวกมัน...

                  พวกมันคือ ปีศาจ...

     

     

                  ย้อนกลับไปราวๆหนึ่งชั่วโมงก่อน มันเป็นวันสิ้นปีวันหนึ่งในคริสต์ศักราช 2055 ก่อนจะขึ้นปีใหม่คริสต์ศักราช 2056

                  ผู้คนมากมายทั่วโลกเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ครอบครัวได้มีโอกาสได้พบหน้ากัน คู่รักได้มีโอกาสไปเดตด้วยกัน หรือเป็นวันที่ความรักครั้งใหม่กำลังเกิดขึ้น...

                  เรียกได้ว่าเป็น วันแห่งการรอคอย

                  ณ ประเทศญี่ปุ่น เมืองโตเกียว ประชากรชาวญี่ปุ่นต่างมาร่วมงานปาร์ตี้ครั้งใหญ่ที่กลางกรุงโตเกียวหรือที่เรียกงานนี้กันว่า เคาท์ดาวน์

                  ไม่ใช่แค่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ที่จัดงานเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์แต่เป็นทั่วทุกประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งอเมริกา แคนาดา ฮาวาย วอชิงตัน แคลิฟอร์เนีย และฟลอรินดา

                  แถบทวีปยุโรป อย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันนี อิตาลี สเปนและฟินแลนด์ เป็นต้น...

                  และก็แถบทวีปเอเชียก็ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นวันที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดอีกวันหนึ่ง

                  แต่ทว่า.. วันแห่งการรอคอคอยกลับแปรผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อแผ่นดินของโลกเกิดรอยแยกเรืองเสียงสีแดงออกจากกัน  พร้อมกับร่างของอสุรกายและปีศาจหลายสายพันธ์ พวกมันได้ใช้พลังเข่นฆ่าเผ่าพันธ์มนุษย์อย่างเหี้ยมโหดไร้ความปรานี อาวุธของมนุษย์ไม่สามารถฆ่าและทำลายพวกมันได้ กลับกันเป็นฝ่ายมนุษย์เสียเองที่โดนฆ่าและโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว

                  มนุษย์สูญเสียความหวัง บางคนฆ่าตัวตายก่อนที่จะโดนพวกมันฆ่า บางคนก็โดนพวกมันกิน บางคนก็โดนพวกมันกระทำการอย่างทารุณต่างๆนาๆ

                  วันแห่งการรอคอย กลับกลายเป็น วันมหาวิปโยคแห่งการสูญเสีย

                  ทว่า...หากศรัทธาในตัวพระเจ้า ความหวังที่ว่าก็บังเกิด

                  ในวันก่อนที่ฟ้ารุ่งวันใหม่แห่งความสิ้นหวังจะมาเยือน เกิอปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเมื่อจู่ๆก็เกิดฝนประหลาดตกลงมาพร้อมกันทั่วโลก ฝนที่ว่าไม่เหมือนน้ำฝนที่เกิดจากธรรมชาติ หากทว่ามันคือ  สารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะและสีคล้ายโลหะ ฝนดังกล่าวเมื่อสันผัสโดนผิวหนังของปีศาจ พวกมันก็รู้สึกแสบและเจ็บปวดผิวหนังสุดๆ แต่ในทางกลับกันมนุษย์ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ว่านั้นเลย

                  พวกปีศาจบางตนทรมาณและทุรนทุรายกับฝนที่ว่านั้นมาก บางตัวโดนฝนประหลาดกัดกร่อนผิวหนังจนเกิดเป็นแผลแหวะวะ บางตัวก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

                  คงเพราะเห็นว่าท่าจะไม่ดีแล้ว พวกมันจึงอพยบหนีกลับเข้าไปในรอยแยกที่ออกกันมาราวกับปาฏิหาริย์ เพียงชั่วพริบตาความวุ่นวายและการสูญเสียทั้งหมดก็จบลงเอยด้วยคำถามคาใจมนุษย์ว่า

                  มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกมันถึงได้หนีไป และฝนประหลาดนี่มันคืออะไรกันแน่

              

     

     

                  สองสามวันต่อมาสหัรัฐอเมริกาได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับสารปริศนาที่ตกลงมาจากท้องฟ้านี้ ทำให้ได้ข้อสรุปว่าสารที่ว่าเป็นสารชนิดใหม่ไม่เคยพบหรือมีการวิจัยที่ไหนมาก่อนเกี่ยวกับสารชนิดนี้นี้แน่นอน นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งได้จับปีศาจตนหนึ่งมาทำการทดลองเกี่ยวกับสารที่ว่านี้ โดยการฉีดสารเข้าสู่ทางกระแสเลือด ผลปรากฎคือปีศาจหนูทดลองดังกล่าวมีสีหน้าอาการทรมาณและทุรนทุรายอย่างมาก รูปร่างของมันบิดเบี้ยว พอโดนผิวหนังผิวหนังเกิดผุผอง มีแผลแหวะวะตามผิวหนังบนร่างกาย แล้วในวินาทีต่อมาร่างกายของมันก็แหลกเหลวกลายเป็นก้อนเนื้อเลือดสุดสะอิดสะเอียน  อีกอย่างที่สำคัญคือสารที่ว่านี้มีคุณสมบัติคล้ายกับแร่โลหะ เมื่อมันทำปฎิกิริยากับความร้อนที่พันองศาเซลเซียสก็กลายสภาพจากของเหลวเป็นของแข็งได้อีกด้วย

                  นักวิจัยและนักวิทยาศาสตย์ชาวอเมริกันได้บัญญัติศัพท์ชื่อให้กับสารนี้ว่า ลิ่ม(Lim)

                  มนุษย์ได้นำสารดังกล่าวมาสร้างเป็นอาวุธมากมาย เช่น  มีดพก มีดลามิเนต สนับมือ บังตอ กระสุน หรืออาวุธต่างๆที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะ อาวุธเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ป้องกันตัวจากปีศาจเพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินแยกออกพวกมันก็สามารถเข้า-ออกระหว่างโลกปีศาจกับโลกมนุษย์ได้ตามใจชอบเป็นว่าเล่น แถมบางตัวดันนึกพิศวาสอยากตั้งถิ่นฐานชีวิตบนโลกมนุษย์อีก

                  และในยามค่ำคืน แน่นอนว่าพวกมันคงไม่ปล่อยให้ อาหารอันโอชะหลุดรอดมือไปแน่

                  แต่ทว่า...

                  เนื่องด้วยสารชนิดนี้ค่อนข้างหายากและมีจำกัด จึงทำให้ราคาของมันค่อนข้างสูงพอตัว คนที่ครอบครองอาวุธที่ผลิตจากสารลิ่มส่วนใหญ่จึงเป็นพวกคนใหญ่คนโตหรือพวกมีเส้นใหญ่

                  อ้าว...อย่างนี้คนจนก็ซวยน่ะซี!

                  แต่เพื่อความปลอดภัยและสารทุกข์สุขดิบของประชากรโลกและเป็นการตอกย้ำถึงเหตุการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหย่ องค์การสหประชาชาติจึงจัดเกมการแข่งขัน เกมลงทัณฑ์ปีศาจ หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ ไคเซอร์เกม(Kaiser Games)ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจเหล่าปีศาจที่อาศัยอยู่ทั่วทุกมุมของโลกว่ามนุษย์มีอำนาจมากกว่าปีศาจ แม้กระทั่งควบคุมชีวิตปีศาจเองก็ยังได้ กฎของเกมลงทัณฑ์ปีศาจคือทุกทวีปทั่วโลก ต้องส่งบรรณาการปีศาจชายหญิงอายุสิบสี่ถึงยี่สิบห้าปี ในวันขึ้นปีใหม่ มาเพื่อลงแข่ง เกมจะแบ่งออกเป็นสามรอบซึ่งในสามรอบนี้จะมีกติกาการเล่นแตกต่างกันไปในแต่ละปี แต่ในรอบสุดท้ายของเกมจะไม่มีกฎเปลี่ยนใดๆทั้งสิ้นนั่นก็คือ...

                  ต้องฆ่ากันเองจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงกลุ่มเดียวหรือคนเดียวเท่านั้น!

                  หากปีศาจที่ถูกเลือกตัวไหนปฏิเสธหรือขัดขืนก็จะถูกลงโทษโดยอาวุธที่แม้แต่ตนเองก็ไม่อาจต่อกรมันได้

                  ...ลิ่ม

                  และเพื่อที่จะได้ลืมวันเจ็บปวดและการสูญเสียในวันนั้น  มนุษย์ได้ทำการเปลี่ยนปีศักราชใหม่จากคริสตศักราช(ค..)ไปเป็นเคเอสศักราช(ค..ศ)แทน

                  นับแต่นั้นเป็นต้นมามนุษย์ก็อาศัยอยู่อย่างสงบสุขนับเรื่อยมาถึงสองร้อยกว่าปี เฝ้ามองพวกปีศาจชั่วร้ายที่ฆ่าพวกเดียวกันเองอย่างสนุกสนานออกรส

                  ...และนี้

                  ก็คือเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี...

                  ...สามร้อย...

                  เอ็ด!

     

     

     

     

     

    (40%)Loding

    รู้สึกเหมือนยอดวิวนิยายไม่ค่อยกระดึ๊บเท่าไหร่เลยแหะ อ่า...ก็คงเหมาะดีสำหรับนัก(อยาก)เขียนมือใหม่(สุดห่วย)อย่างเรา จะขอพัฒนาฝีมือการเขียนต่อไปคะ!

                  และขอสัญญาว่าจะไม่ทิ้งนิยายเรื่องนี้แน่นอน ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ

    Sunset_Shimmer

    6/10/2557

                 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×