คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 เด็กสาว
บทที่ 2
เด็กสาว
“ทอรัส!”
สิ้นเสียงตะโกนของชายหนุ่มร่างกายกำย่ำ ร่างกายของเขาก็ถูกประกายแสงล้อมร่างกลายเป็นวัวดินยักษ์ นามว่าทอรัส มันขับขานเสียงออกมาเกิดเป็นหินยักษ์นับสิบลูกพุ่งเข้าใส่อิสตรีเบี่ยงหน้าทันที
“บาเรีย!”
อิสตรีงามนามว่าอควาเรียส ส่งเสียงก้องพร้อมวาดมือในอากาศไปมา เมื่อสิ้นเสียงนั้นบาร์เรียขนาดใหญ่ก็ปกป้องตัวเธอและเหล่ากองทัพอัศวินของเธอ
เคร้งๆๆๆๆ เสียงประทะกันของดาบทั้งสองเล่มสองหนุ่มดังกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้น โดยไม่มีท่าทีว่าจะลดละกันเสียด้วย
“ข้าไม่ยอมแพ้เจ้าหรอกน่า แคนเซอร์!”
“เหอะ! อย่ามาหยามข้าให้มากนะเลย ลีโอ”
แฮก แฮก เสียงหอบหายใจถี่ระรัวของหนุ่มผมทอง บัดนี้เขากำลังวิ่งอยู่กลางป่า ใบหน้าและดวงตาอันหล่อเหลาราวกับเทพบุตรแสดงความกังวลออกมาชัดเจน
บุรุษผู้นี้มีนามว่า ซาจิทาเรียส
“ใกล้ถึงแล้ว...”เขาพึมพำออกมา ก่อนที่เร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิม และในที่สุดเขาก็พาร่าง
กายของเขาออกมาจากป่าได้
กึก! ฝีเท้าของเขาชะงักทันที เมื่อเห็นภาพเบี่ยงหน้า
กรอด... เขากัดฟันกรอด เมื่อภาพเบี่ยงหน้ากำลังลุกไหม้เป็นเปลวเพลิง เสียงปะทะกันของเหล่าเทพและเทพีกำลังเปลี่ยนสรวงสวรรค์ที่สวยงามกลับกลายเป็นนรกเพลิงสีแดง อากาศบิดเบี้ยว ผืนดินสั่นสะเทือน เหล่ากองทัพต่างฝ่ายต่างสู้กันอย่างดุเดือดไม่มีใครยอมใคร..
“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่าน...” ซาจิทาเรียสพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะยกคันธนูสีทองในมือซ้ายยกขึ้นตั้งท่า
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่าน...
ซาจิทาเรียสครุ่นคิดอยู่ครู่หนี่งก่อนที่เขาจะขึ้นศรสีทอง เป้าหมายก็คือภาพการต่อสู้เบี่ยงหน้าของเขา
เป็นเพราะท่าน...
ฟุ่บ! ลูกธนูสีทองที่ห้อมล้อมด้วยเพลิงสีส้มก็พุ่งออกไปยังเป้าหมานทันที ลูกธนูสีทองที่เขายิงไปนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
เทพีแห่งดวงตะวัน...
08.25 น.
โรงเรียนมัธยมปลาย A
ประเทศญี่ปุ่น
เสียงหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีของใครบางคน สร้างความไม่พอใจให้กับเด็กหนุ่มนาม
‘ฮอนดะ เทรุอิ’อย่างสูง เฮ้อ..ถ้าเขารู้ล่วงหน้าว่าถ้าเอาความฝันเมื่อคืนมาเล่าให้เพื่อนคนนี้ฟังแล้วเป็นแบบนี้ละก็นะ...
“..ถามจริง ไอ้เทรุ! นี้แกฝันอะไรเพ้อเจ้อเหมือนคนอื่นเขาได้ด้วยเหรอวะ”ว่าแล้วเขาก็ระเบิดหัวเราะลูกใหญ่ออกมาอีกหนึ่งลูก
โจโด ลิเทยะ
“ลีเทย์! ถ้านายยังไม่หยุดหัวเราะล่ะก็ สอบไฟนอลปีนี้นายอย่าหวังว่าฉันจะติวให้นาย” คำพูดบวกกับสายตาพิฆาตของเทรุอิช่วยปิดปากเพื่อนจอมแสบได้ไม่ยาก
‘ลิเทยะ’หรือ ‘ลีเทย์’ ทำหน้าหวานซึ้ง(?) ก่อนแหกปากตะโกนดังลั่น “ไอ้เทรุ! ฉันรักนายนะ *o*”
“รักที่ฉันช่วยนายทำการบ้านล่ะสิ” ว่าแล้วเทรุอิก็เอานิยายเล่มเล็กของเขาฟาดใส่หน้าอีกฝ่าย เรียกเสียงร้องแบบโอเวอร์แอคติ้ง ซึ่งเขาก็ไม่เชื่อสักนิดว่าเพื่อนจะเจ็บจริงเหมือนกัน
“พูดบ้าๆ ความรักที่ฉันมีให้นายมันลึกล้ำยิ่งกว่ามหาสมุทรซะอีก โดยเฉพาะช่วงก่อนสอบไฟนอลอ่านะ...”
“ไปตายซะเหอะ! ไอ้เพื่อนบ้า!”
แล้วชั่วโมงเรียนคาบเช้าแสนสุข(?)ของพวกเขาทั้งสองก็จบลงเมื่อถึงมื้อเที่ยง...
12.10 น.
โรงอาหาร
“เฮ้ย! ถามอีกรอบนะไอ้เทรุตกลงแกฝันแบบนั้นจริงเหรอวะ”
“อือ..” เทรุอิพยักหน้าพลางคีบกุ้งเทมปุระเข้าปาก
“บ๊ะ! ตั้งแต่ครบแกเป็นเพื่อนมา 3 ปี ได้ยินฝันที่(โครต)แฟนตาซีจากปากแกนี่แหละ” ลีเทย์พูดถูกเพราะว่าเขาไม่เคยฝันอะไรที่ประหลาดขนาดนี้มาก่อน ต่อให้เขาเป็นพวกโอตาคุนิยายก็เถอะแต่เขาไม่เคยเก็บไปฝันเลยซักครั้ง..
“..ว่าแต่ในฝันตอนจบเป็นยังไงต่อวะ” เทรุอิวางมือกับการกินอาหารครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเล่าความฝันให้ลีเทย์ฟังต่อ
“..หลังจากนั้นฉันก็เห็นชายคนนั้นยิงลูกธนูสีทองขึ้นท้องฟ้าสีแดง แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็โดนแสงสีทองนั้นดูดกลืนหายไป พอรู้สึกตัวอีกทีก็สะดุ้งตื่นแล้ว”
ลีเทย์พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ เรื่องที่เขาฟังจากปากเทรุอิทำให้นึกถึงเกมออนไลน์ที่เคยเล่นที่ร้านเกมเท่าบ้านทันที
“ช่างเถอะ.. มันก็แค่ความฝันจะไปแคร่มันทำไม” เทรุอิกล่าวจบเขาก็หยิบนิยายเล่มเล็กที่เคยใช้ฟาดหน้าเพื่อนเขาขึ้นมาอ่าน
หน้าปกนิยาย ชื่อเรื่องว่า “ซากุระสีดำ”
ลีเทย์คิดจะชวนเทรุอิไปร้านเกมออนไลน์ แต่เขาเขาขอปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่าจะไปถ่อยนิยายเรื่องใหม่มาอ่าน ทำให้ลีเทย์หน้าม่อย ยอมไปเล่นเกมคนเดียวก็ได้
ระหว่างเทรุอิเดินทางกลับบ้านขึ้นรถไฟฟ้า(พร้อมกับนิยายที่ไปซื้อมาอยู่ในถุงใบเล็ก)เขาก็พลางท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษอย่างตั้งอกตั้งใจไปด้วย นี่คือความชอบของเขา ไม่ใช่เพราะขยันอะไรมากมาย แค่ทำให้จำได้สำหรับช่วงไฟนอลปลายปีนี้ก็เท่านั้นเอง
ผลการเรียนของเขาไม่เลวทีเดียว แน่นอนว่าสาเหตุครึ่งหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่ยอมให้ตัวเองสอบตก อีกครึ่งหนึ่งคือจะได้มีเวลาอ่านนิยายเรื่องโปรดด้วยน่ะสิ
ซึ่งเขาจะโมโหมากถ้าลีเทย์มาขอให้เขาช่วยติวข้อสอบ แต่ตัวเองกลับไปเล่นเกมออนไลน์เองซะ เป็นใครใครก็อารมณ์เสียอยู่แล้ว ที่จริงเขาก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกันนะว่าทำไมเขากับลีเทย์ถึงได้กลายมาเป็นเพื่อนกันได้ ทั้งที่นิสัยออกจะต่างกันราวกับสรวงสวรรค์กับแกนโลก..
หือ...อ้อ! พวกคุณอยากรู้ประวัติของ ฮอนดะ เทรุอิ รึเปล่า... เรากำลังจะเล่าให้พวกคุณฟังอยู่
เทรุอิเกิดและเติบโตอยู่ที่จังหวัดโตเกียว ใช้ชีวิตอยู่กับ ‘พี่สาว’ สองคนมาตั้งแต่ยังเล็ก ในวันจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของเขา ก็ได้ทราบข่าวเรื่องการย้ายบ้าน
อ๊ะ ! เหมือนจะดราม่าเรื่องยาวแต่ไม่ใช่เลย เหตุผลก็แค่พี่สาวแค่ต้องการหนีหน้า บ.ก.จอมโหดที่มักเร่งให้ปั่นต้นฉบับนิยาย(พี่สาวของเทรุอิทำอาชีพนักเขียนอิสระ)ก็เท่านั้นเอง...
แต่ถึงยังนั้นก็ไม่แคล้วพ้นเสียงมรณะจากโทรศัพท์ที่โทรมาจิกกัดทุกครั้งตอนสิ้นเดือน
ด้วยเหตุนี้ด้วยกระมังที่ทำให้เทรุอิเป็นพวก ’โอตาคุนิยาย’ ไปโดยปริยาย
แล้วถิ่นฐานบ้านใหม่ที่ย้ายมาก็น่าอยู่มาก เป็นจังหวัดเล็กๆในประเทศญี่ปุ่นมีชื่อว่า ‘ซะงะ’
พอย้ายมาเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลาย A เขาก็ได้พบเด็กหนุ่มสุดเกรียนคนหนึ่ง เด็กหนุ่มที่ว่านั้นก็คือ ‘โจโด ลิเทยะ’ หรือ ’ลีเทย์’ นั้นเอง
แล้วทั้งสองก็ได้กลายเป็นเพื่อนซี้กัน(!)ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ
เกือบลืมไป...พวกคุณยังจำตอนที่ลีเทย์กับเทรุอิพูดคุยเรื่องความฝันได้หรือเปล่า นั้นละคือประเด็นสำคัญ เทรุอิกล้าพูดออกปากเลยว่าตั้งแต่เขาอ่านนวนิยายมาหลายเรื่อง แต่ไม่เคยคิดที่จะเก็บเอาไปฝันเลยซักนิด เป็นเรื่องวุ่นวายปัญหาระดับชาติมากเลยละ
“เฮือ...” เทรุอิถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็คงหยุดคิดไม่ได้อยู่ดี เขาจึงพยายามสลัดความคิดทั้งหมดออกไปจากหัว ปล่อยใจไปกับทิวทัศน์ยามเย็นผ่านทางกระจกรถไฟฟ้าของวันนี้แทน
“กลับมาแล้วฮ...”
“เทรุจาง” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ก็ถูกใครบางคนขัดขึ้นมาก่อนที่จะถูกสวมกอดโดยไม่ทันตั้งตัว
บุคคลที่ว่านั้นก็คือ ‘ฮอนดะ ยูอิ’ พี่สาวของเขานั้นเอง
“พี่ฮะ...” เด็กหนุ่มกล่าวก่อนจะดันตัวร่างบางออกจากออมกอดอย่างแผ่วเบา
“อะไรกัน พี่ก็แค่อยากกอดน้องชายสุดที่รักก็เท่านั้นเองง่ะ -3-“ น้ำเสียงบวกอาการงอนๆเหมือนเด็กของสาวผมน้ำตาลตัดสั้นตรงหน้าเรียกรอยยิ้มจากเขาได้ไม่ยาก...
ไม่ว่าอย่างไงพี่สาวของเขาก็ยังน่ารักอยู่เสมอ
“วันนี้อากาศเย็นสะบายดีไปเดินริมชายหาดด้วยกันมั้ย”
“แล้วต้นฉบับที่จะส่งให้ บ.ก.สุริยามะล่ะครับ” น้ำเสียงดุเตือนด้วยความหวังดี(?)ของเทรุอิทำให้ยูอิถึงกับหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด
“อะ... อะไรกัน พี่ส่งต้นฉบับให้บ.ก.แล้วไม่ต้องห่วงพี่หรอกน้า”
“...”
“จริงๆนะ”
“...”
“สาบานเลยก็ได้เลยอ่ะ”
“อ่ะ...เชื่อก็ได้”
“เย้! งั้นไปเดินเล่นกันเตอะ”
เฮือ...ไม่ว่าอย่างไงเขาก็ยังใจอ่อนกับของตัวเองอยู่เสมอสินะ
ซ่า ซ่า เสียงคลื่นกระทบเข้ากับชายหาด แสงอาทิตย์อ่อนๆยามใกล้ลับขอบฟ้าสะท้อนกับพื้นน้ำสีครามแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีส้มอ่อน อ่า..ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกยิ่งนัก ฉากแบบนี้แทบจะปรากฎอยู่ในนวนิยายรักทุกเรื่อง ที่ตัวเอกจะชวนนางเอกมาดื่มด่ำกับบรรยากาศริมชายหาดยามเย็นแบบนี้ แล้วหลังจากนั้น...ทั้งคู่ก็จะสารภาพรักกัน
แต่สำหรับเทรุอิเขาไม่รู้สึกถึงบรรยากาศแบบนั้นเลย กลับกันยังรู้สึกเปียกและเหนียวตัวแทน
“นี่แหน่ะ! นี่แหน่ะ!” ยูอิใช้สองมือของเธอวิดน้ำและสาดใส่น้องชายของเธอ ซึ่งก็คือเขา เทรุอินั้นเอง
ช่วยลืมบรรยากาศชวนฝันหวานแบบนั้นไปได้เลย นี่คือสิ่งที่เทรุอิอยากบอกทุกคนให้ทราบไว้
“เล่นแบบนี้ใช่มั้ย ได้!”
“ว้าย! พี่ไม่ยอมแพ้นายหรอกนะ”
และบรรยากาศแบบพี่และน้องก็ยังดำเนินต่อไป จนกระทั่ง...
วูบ! ลมเย็นๆเสียวสันหลังผ่านหลังไป ทำให้เทรุอิหันกลังกลับไปมองแต่สิ่งที่เขาเห็นกลับเป็นความว่างเปล่า...
เมื่อกี้มันอะไรกัน
“เทรุ! มานี้หน่อยสิ” เสียงเรียกของพี่สาวของเทรุอิ ทำให้หยุดความคิดทั้งหมดไว้ ก่อนที่เขาจะพาร่างของตนเองไปหาพี่สาวที่เหมือนก้มลงมองดูอะไรบ้างอย่าง
“พี่! มีอะไ...”ยังไม่ทันที่เขาจะกล่าวจบ เขาต้องตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า
“ผะ...ผู้หญิง” ใช่ มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนอนคดตัวอยู่บนริมชายหาด
เรือนผมสีชมพูอมแดงเข้มเหมือนสตรอว์เบอร์รีที่ยาวสยายไปกับพื้นน้ำ ใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา รูปร่างอันอรชรถูกปกปิดด้วยชุดกระโปรงผ้าแพรสีขาวสะอาด ณ จุดๆนี้เขาไม่อาจละสายตาไปจากร่างบางตรงหน้าได้เลย
“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมของสาวผมน้ำตาลสั้นข้างกายเรียกสติให้เทรุอิหลุดจากภวังค์เมื่อครู่ ก่อนที่เขาจะรู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไร
“นี่เธอ เป็นอะไรรึเปล่..”
กึก! ทันทีที่มือเขาสัมผัสเข้ากับแขนของร่างบาง ภาพบางอย่างก็ไหลเข้าในสมองของเขา ภาพของหมู่บ้านที่มอดไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงลุกท่วมกลายเป็นทะเลเพลิง เหล่าผู้คนนอนตายเกลือนกลาดไปหมด บางคนก็ตายอนาจมาก และสิ่งที่เขาเห็นอีกอย่างก็คือ ภาพของเด็กผู้หญิงอายุราวๆสิบสองกำลังยืนอยู่ทั่วทั้งร่างก็เธอเปลอะเปลือนไปด้วยเลือดกำลังมองเขาเขาอยู่ เด็กหญิงคนนั้นพูดเสียงแผ่วเบาออกมา ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะหายไป
ช่วย... ช่วยหนูด้วย
“เทรุจัง! เทรุจัง!” เสียงเรียกของยูอิทำให้เทรุอิหลุดจากภวังค์เมื่อครู่ไป
“พี่ว่าพาเธอกลับเข้าไปในบ้านก่อนเถอะ ดูสิ! ตัวเย็นเสียบเลย” ยูอิกล่าวพลางจับแขนร่างบางไปด้วย
พี่สาวของเขาไม่เห็นเหมือนที่เขาเห็นอย่างนั้นเหรอ
ฟุ่บ! เด็กหนุ่มถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวห้อร่างบางก่อนจะช้อนในท่าอุ้มเจ้าสาว
หนุ่มสาวเดินจากไปตรงนั้นแล้ว ก่อนที่จะปรากฎร่างของหนุ่มผมยาวอีกคนแทนที่ตรงที่ร่างบางนอนสลบอยู่
เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะคิดในใจว่า...
แผนขั้นที่หนึ่งสำเร็จแล้ว
ใครจะรู้ละว่าการที่พี่น้องคู่นั้นพาสมาชิกคนใหม่เข้าบ้านจะเปลี่ยนแปลงชีวิตขิงพวกเขาไปตลอดกาล!
มีปัญหาหรือจุดต้องแก้ในการเขียนคอมเม้นต์บอกได้นะคะ ^^
Sunset_Shimmer
ความคิดเห็น