ตอนที่ 93 : โรงประมูลใต้ดิน (2)
บทที่ 2 : โรงประมูลใต้ดิน (2)
ณ หน้าบ้านหลังหนึ่ง มันมีสภาพที่เหมือนกับบ้านร้าง รอบข้างไร้ซึ่งผู้คนสัญจรผ่าน ทำให้บรรยากาศรอบๆนี้เงียบสงบเป็นอย่างมาก มันอยู่ริมกำแพงด้านหนึ่งของเมืองแห่งนี้
ความเงียบสงบของสถานที่แห่งนี้ กำลังจะถูกทำลายลงในไม่ช้า เพราะบนถนนที่นำมาสู่บ้านหลังนี้ มีรถม้าหลายสิบคันกำลังเคลื่อนตัวมายังที่นี้ รวมทั้งยังมีผู้คนอีกหลายสิบที่กำลังบินข้ามท้องฟ้ามา หรือเคลื่อนตัวตามหลังคาและกำแพงบ้านก็มี
จุดหมายของทุกคนคือบ้านที่ทรุดโทรม ซึ่งอยู่ตรงกลางของสถานที่ที่วังเวงแห่งนี้
ทุกคนที่มาที่นี้ ต่างมีจุดหมายเดียวกัน นั้นก็คือการเข้าร่วมการประมูล ของโรงประมูลใต้ดินที่มีชื่อเสียงของเมืองแบล็คร็อค
โรงประมูลใต้ดินแห่งนี้ มีชื่อเรียกที่ทุกคนยอมรับกันอยู่ ทุกคนต่างเรียกมันว่า'โรงประมูลแห่งอากัส' ตามชื่อของผู้คุมกฎที่คอยดูแลความเรียบร้อยของการประมูล
ด้วยการที่เขามีอายุที่มากกว่าหนึ่งร้อย ทำให้เขามีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน จนแทบจะไม่มีใครในเมืองนี้ไม่รู้จักเขา แต่คนที่เคยเห็นหน้าของผู้คมกฎคนนี้ แทบจะสามารถนับด้วยนิ้วมือได้เลยทีเดียว
ที่ประตูหน้าบ้านร้าง ปรากฏเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่เดินออกมาจากประตู ที่เกือบจะเรียกว่าเก่าเสียจนแทบจะพังได้ทุกเมื่อ ทั้งสองคนอยู่ในชุดผ้าไหมสีม่วงอ่อน ทั้งคู่ถือแผ่นไม้คล้ายป้ายวิญญาณของชาวจีน บนแผ่นไม้สลักไปด้วยวงเวทย์ที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก
ทั้งคู่กำลังรอต้อนรับแขกที่จะเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ การประมูลของโรงประมูลนี้ จะจัดขึ้นทุกสัปดาห์ของทุกเดือนและทุกปี โดยไม่มีการงดเว้นแม้แต่น้อย ซึ่งต่อให้มีผู้เข้าประมูลเพียงคนเดียว ก็จะยังจัดการประมูลอยู่ดี
นั้นทำให้โรงประมูลนี้ มีสินค้าเข้ามาขายไม่ขาด เพราะการที่ไม่มีทั้งค่านายหน้า หรือภาษีมาเกี่ยวข้อง ทำให้ทุกคนต่างแลกเปลี่ยนกันอย่างเต็มที่ มีเพียงค่าเข้าที่จะเก็บตอนนี้ กับค่าสมาชิกที่ต้องจ่ายล่วงหน้า ก่อนที่จะเข้าร่วมการประมูลทุกครั้งอยู่แล้ว นอกนั้นก้ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ
การประมูลจะจัดขึ้นสามวันติดต่อกัน โดยไม่มีการหยุดพักและไม่จำเป็นต้องเข้ามาประมูลทุกวันก็ได้ แต่ก็อาจจะพลาดของดีไปก็ได้ เพราะสินค้าจะมีเข้ามาเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดวัน ถึงจะหยุดการประมูลกันนั้นเอง
เมื่อผู้คนมาถึงหน้าบ้านร้าง ที่มีเด็กชายและเด็กสาวเฝ้าประตูอยู่ ทุกคนต่างก็นำเอาแผ่นป้ายจารึกเวทย์สื่อสารเฉพาะออก แล้วนำมันไปประทับกับแผ่นไม้ที่เด็กชายหรือเด็กสาวถืออยู่
คนแล้วคนเล่าที่นำแผ่นไม้ไปประกบกัน ก็จะเกิดวงเวทย์ขึ้นที่ใต้เท้าของคนผู้นั้น ก่อนที่จะหลายเข้าไปในวงเวทย์เคลื่อนย้ายนั้น แล้วไปปรากฏกายขึ้นที่ห้องประมูลโดยตรง การดำเนินการก็เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
จนผู้คนแทบจะหายไปหมดแล้ว ที่บ้านร้างหลังหนึ่งใกล้ๆกันนั้น ก็มีเงาร่างของชุดเกราะสีแดงและสีดำเดินออกมา โดยไม่มีใครจับสัมผัสพวกเขาได้ ไม่เว้นแม้แต่หน่วยคุ้มกันที่คอยเฝ้าระวังอยู่โดยรอบ ก็ไม่มีใครรู้สึกตัวของการมีอยู่ของชุดเกราะทั้งสอง
ตึม! ตึม! ตึม!...
ทุกการก้าวเดินของชุดเกราะทั้งสอง พวกมันต่างส่งเสียงดังเหมือนค้อนทุบไปบนพื้นแข็งทุกก้าวไป เสียงนั้นหนักแน่นเป็นอย่างมาก จนทำให้ทุกคนที่อยู่แถวนั้น ต่างมองไปยังชุดเกราะทั้งสอง พร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นผิดจังหวะไปเลยทีเดียว จนเสียงหัวใจเต้นตามจังหวะการก้าวเดินของชุดเกราะ
เมื่อมันก้าวมาถึงเด็กชายและเด็กสาว ทั้งสองคนก็ยื่นกระดาษที่มีสัญลักษณ์ของกิลด์ค้าข่าว พร้อมกับเงินอีกหลายสิบเหรียญจิตมารไปให้
เด็กชายและเด็กสาวมองของสองสิ่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะเรียกเอาป้ายไม้เหมือนของคนอื่นๆออกมา แล้วยื่นส่งไปให้ทั้งคู่ ก่อนจะแตะแผ่นไม้ของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน
ทั้งคู่เด็กชาย-สาวและชุดเกราะสีแดงและดำ ต่างก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วภายในวงเวทย์เคลื่อนย้าย เมื่อทั้งสี่คนจากไป ก็มีเด็กสาวสองคนออกมาทำหน้าที่แทน และการเข้าร่วมประมูลก็ดำเนินการต่อไป
หลังจากแสงสว่างรอบข้างลดลง ชายหนุ่มก็สามารถมองเห็นรอบข้าง มันเป็นห้องขนาดเล็กโล่งๆ ไม่มีของประดับตกแต่งมากนัก มีเพียงโต๊ะหนึ่งตัวที่ดูหรูหรา พร้อมกับเก้าอี้พนักสูงอีกสองตัว ซึ่งตัวหนึ่งถูกจับจองโดยชายร่างอ้วนผู้หนึ่ง
เด็กชายและเด็กสาวเดินนำทั้งคู่ไปยังโต๊ะของชายร่างอ้วนนั้น รอบๆห้องนี้ไม่มีผู้คนที่มาก่อนหน้าพวกเขาแม้แต่คนเดียว เหมือนกับว่าพวกเขาเคลื่อนย้ายมาคนละที่กัน
ชายร่างอ้วนมองการปรากฏตัวของพวกเขา ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วโค้งตัวต้อนรับ "เป็นเกียรติของข้า ที่ได้ต้อนรับลูกค้าเช่นพวกท่าน ไม่ทราบว่ามีสิ่งใดต้องการให้ข้าลงประมูลให้"
มันถูมืออย่างช้าๆ ขณะที่พ้นคำพูดเหล่านั้นออกมา เป็นที่แน่นอนแล้วว่า พวกเขาทั้งสองคนถูกเคลื่อนย้ายมาตามคำขอของเขา ที่ต้องการจะนำสิ่งของลงประมูลนั้นเอง และชายร่างอ้วนตรงหน้าคงเป็นผู้ประเมิณ และจัดการประมูลสินค้าในครั้งนี้
"สิ่งนี้และสิ่งนี้" เสียงเหล็กกระทบกันที่ผสานเป็นเสียงทุ่มของชายหนุ่มดังขึ้น พร้อมกันนั้นบนโต๊ะก็ปรากฏของสองสิ่ง
สิ่งหนึ่งเป็นแท่งผลึกใสจำนวนสามแท่ง ผลึกทั้งสามแท่งต่างถูกใส่ไว้ในกล่องคริสตัลใส ส่วนอีกหนึ่งอย่างเป็นกล่องที่ปิดทึบ ตัวกล่องเป็นแร่ชนิดหนึ่งที่แผ่ไอเย็นออกมาเล็กน้อย
"เจ้าสิ่งใช้สำหรับทำให้ศิลาจิตอสูรบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ส่วนนี้ก็เป็นส่วนผสมของยาชั้นสูง เจ้าต้องการทดสอบดูหรือไม่" ครรชิตถามไปยังชายอ้วนที่ทำหน้าตาแปลกพิกล ตั้งแต่ที่เขาเอาของพวกนั้นออก รวมทั้งสะดุ้งแทบทุกครั้งที่เขาพูดเสียด้วยซ้ำ
มันพยักหน้าให้กับชุดเกราะสีดำ ซึ่งในตอนนี้นี้ชุดเกราะสีแดงเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย มันจึงไปนั่งรออยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง โดยเอาเก้าอี้ไม้สีแดงราวกลับเลือดออกมา แล้วนั่งลงไปพร้อมกับเอามีดสั้นหลายเล่มออกมาโยนเล่น
ภาพของชุดเกราะสีแดงที่ควงมีดและโยนมีดไปมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างหายใจไม่ทั่วท้อง ยกเว้นก็แต่ชุดเกราะสีดำ ที่ตอนนี้กำลังบดผลึกแท่งหนึ่งให้เป็นผงละเอียดด้วยครกบดยา
"ดูให้ดี" เขากล่าวกับชายร่างอ้วนเบาๆ ก่อนจะเอาศิลาจิตอสูรระดับหนึ่งวางลงไป ผงของผลึกนั้นไหลซึมเขาไปยังศิลาจิตอสูรอย่างรวดเร็ว
ศิลาจิตอสูรธาตุดินระดับหนึ่ง ที่เป็นผลึกสีน้ำตาลหม่นๆ ค่อยๆขับของเหลวสีดำและแดงออกมาอย่างต่อเนื่อง ของเหลวนั้นมีกลิ่นที่เน่าเหม็นพอสมควร เมื่อมันขับออกมาเท่ากับปริมาณของผงผลึกที่มีอยู่ มันก็หยุดปล่อยของเหลวออกมา
จากศิลาจิตอสูรสีน้ำตาลหม่นกลายเป็นศิลาจิตอสูรที่ดูใสขึ้นเป็นอย่างมา แม้จะมีสีเหมือนเดิมที่เป็นสีต้ำตาลหม่นๆก็ตาม พลังมานาธาตุดินที่แผ่ออกมา ก็รุนแรงกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก จนแทบจะมีพลังเหมือนกับศิลาจิตอสูรระดับสามเลยทีเดียว
ชายร่างอ้วนตกตะลึงไปกับการเปลี่ยนแปลงของศิลาจิตอสูรนี้ เพียงแค่แท่งเดียวยังทำให้ศิลาจิตอสูรระดับหนึ่ง กลายเป็นของล้ำค่าเช่นศิลาจิตอสูรระดับสามได้เช่นนี้ ถ้าเกิดใช้กับระดับสองละจะเป็นเช่นไร
"ส่วนสิ่งนี้ สำหรับผู้ปรงยาจะเข้าใจว่ามันเป็นของล้ำค่าอย่างไร ขอให้เจ้าเอาไปให้ผู้ปรงยาของเจ้าตรวจสอบเอง" เขาเปิดฝาของกล่องสีเงินที่แผ่ไอเย็นออกมา ด้านในอัดแน่นไปด้วยหินทรงกลมสีไข่มุกจำนวนสิบเม็ด ทั้งสิบเม็ดถูกห่อหุ้มด้วยเมือกที่ส่งไอเย็นยะเยือกออกมา
"นายท่านโปรดรอสักครู่ ลักซ์ เชนต์ ดูแลแขกผู้มีเกียรติให้ข้าสักครู่ เดี๋ยวข้ากลับมา" ชายร่างอ้วนเรียกเด็กชายและเด็กสาวไป ก่อนจะกระซิบกระซ่าบกันเบาๆ ทั้งคู่ก็พยักหน้าก่อนจะหันมายิ้มให้เขา
ทุกสิ่งที่ชายร่างอ้วนกระซิบ ทั้งเขาและเมย์ต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจน มันไม่มีปัญหาอันใดแก่พวกเขา เขาจึงปล่อยมันผ่านไป
ทั้งสองคนได้นำเอาเครื่องดื่มและขนมมาเสิร์ฟให้พวกเขา แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาทั้งสองคน กลับไม่รับประทานหรือพูดคุยสิ่งใด มีเพียงการนั่งอยู่นิ่งกับที่ กับอีกคนที่ยังคงฝึกการใช้มีดสั้นต่อไป
จนเวลาผ่านไปนานหลายสิบนาที ชายร่างอ้วนก็กลับมาพร้อมกับชายหนุ่มอีกสองคน ทั้งสองคนนำของบ้างอย่างมาด้วย มันเป็นหีบสีทองที่ดูท่าจะมีค่ามิใช่น้อย และมันยังมีน้ำหนักที่มากมายแน่นอน เพราะผู้ยกมันมาต่างก็มีสีหน้าที่แข็งเกร็งเป็นอย่างมา
ตุ๊บ!
หีบทองคำได้ถูกวางไว้ข้างโต๊ะ พร้อมกับผู้แบกที่รีบออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้งห้องเหลือเพียงห้าคนเช่นเดิม
"ข้าได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาของเราแล้ว นี้เป็นเงินสำหรับไข่ทากรักษาทั้งสิบเม็ดที่เรานำไปทดสอบ ส่วนผลึกนั้นเราจะจ่ายเป็นเงินในภายหลัง เนื่องจากเรามิได้เตรียมเงินไว้จ่ายมากขนาดนี้" มันพูดอย่างเอาใจ ก่อนจะผายมือไปทางหีบทองคำ
ภายใต้หน้ากากของชุดเกราะ ครรชิตขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยการกะน้ำหนักคราวๆแล้ว เงินในหีบคงมีค่าเท่ากับราคาตลาดของไข่ทากรักษาทั้งสิบเม็ดเท่านั้น การทำเช่นนี้คงคิดว่าเขาเป็นหมูให้เชือดนิ่มๆสินะ
"ขอบคุณ" เขาตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ ก่อนจะยกหีบทองคำด้วยมือเพียงข้างเดียว แล้วเก็บมันเข้าแหวนมิติไป
"ช่วยนำไปประมูลด้วย ข้ามีอีกหลายพันกล่อง" ว่าแล้วเขาก็นำเอากล่องสีเงินที่แผ่ไอเย็นออกมาสี่สิบกล่อง ทุกกล่องมีขนาดใหญ่กว่ากล่องก่อนหน้าเล็กน้อย
นอกจากจะเอาไข่ทากรักษาออกมามากมายแล้ว เขายังนำเอากล่องคริสตัลใส ที่ด้านในมีแท่งคะแนนโคลอสเซียมสิบคะแนนอยู่กล่องละอัน มันมีทั้งหมดสี่สิบกล่องเช่นกัน
"วิธีการใช้แท่งผลึกนี้ ใส่สิบกรัมต่อระดับศิลาจิตอสูรหนึ่งระดับ ถ้าใช้มากกว่านี้จะไม่สามารถดูซับได้ ถึงดูดซับเข้าไปก็เป็นอันตรายต่อผู้ใช้" เขาพูดก่อนจะชี้ไปยังแท่งคะแนนโคลอสเซีบสิบคะแนน
ใช่แล้วแท่งคะแนนโคลอสเซียม มีคะแนนเท่ากับน้ำหนักของมันต่อหนึ่งกรัม คะแนนโคลอสเซียมนี้ไม่สามารถนำมาผสมกันเพื่อเพิ่มคะแนนได้ ถ้าได้มาสามคะแนนมันก็จะมีน้ำหนักที่สามกรัม แต่การนำไปใช้ปรับแต่งศิลาจิตอสูร ไม่จำเป็นต้องมาจากแท่งเดียวกัน สามารถนำมันไปบดรวมกันจนครบสิบกรัมก็ได้
ส่วนศิลาจิตอสูรที่ปรับปต่งแล้ว ส่วนมากจะนำไปใช้เป็นเงินของเมืองโคลอสเซียม มีเฉพาะคนที่มีคะแนนจำนวนมหาศาลเท่านั้น ที่จะนำมันไปเพิ่มพลังให้ตนเอง เพราะต่อให้เป็นศิลาจิตอสูรระดับหนึ่ง ก็สามารถซื้อพวกอาหารที่เพิ่มพลังมานาให้พวกมันได้ ซึ่งเพิ่มมากกว่าการดูดซับจากศิลาจิตอสูรเสียอีก
นั้นทำให้การซื้อขายที่เมืองโคลอสเซียม มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ทำให้ทุกคนถ้าไม่ใช้คะแนนไปแลกของรางวัล ก็จะนำมันมาซื้อหาพวกของเพิ่มพลังมานา เช่นพวกอาหารหรือยากันทั้งสิ้น ทำให้การเพิ่มพลังของพวกครึ่งมนุษย์นั้น เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเสียยิ่งกว่าพวกมนุษย์นับสิบเท่า
"ของพวกนี้ เจ้าจะนำลงประมูลในวันนี้ทั้งหมด หรือจะแบ่งประมูลในอีกสองวันก็แล้วแต่เจ้าต้องการ เพียงแค่นำเงินมาส่งให้ข้าที่โรงแรมนี้ให้ตรงเวลาก็พอ ทั้งชื่อโรงแรมและเวลาข้าได้เขียนลงไปให้เจ้าแล้ว อย่าทำให้ข้าต้องหาตัวเจ้าเลยก็แล้วกัน" สิ้นเสียงพลังกดดันของระดับสัตว์เวทระดับห้าขั้นสูง ก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากชุดเกราะสีดำ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

2,037 ความคิดเห็น
-
#1126 phairatw (จากตอนที่ 93)วันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 / 18:45ขอบคุณครับ#1,1260
-
#972 หยาดน้ำบนยอดหญ้า (จากตอนที่ 93)วันที่ 24 ตุลาคม 2559 / 23:42ขอบคุณครับ#9720
-
#962 Gnuh (จากตอนที่ 93)วันที่ 24 ตุลาคม 2559 / 18:49ขอบคุณครับ#9620
-
#960 MojRiSad (จากตอนที่ 93)วันที่ 24 ตุลาคม 2559 / 11:16ของเยอะไปแล้วเฟ้ย#9600
-
#958 Impact Thunder (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 22:55ขอบคุณครับ#9580
-
#957 Pongza Eiei (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 22:00ขู่แล้วก็กลับบ้านได้#9570
-
#956 inasba (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 21:27ขอบคุณครับ#9560
-
#955 inasba (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 21:27ขอบคุณครับ#9550
-
#954 toy (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 21:26ขอบคุณครับ#9540
-
#953 kamol1122 (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 21:23สนุกดีครับ#9530
-
#952 phenixdevill (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 21:12โอ้ว ยอดเยี่ยมๆๆ#9520
-
#951 manima (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 21:07ขอบคุณครับ ยอ่ายอมโดนเชือดนิ่มๆละ#9510
-
#950 Huntherfc (จากตอนที่ 93)วันที่ 23 ตุลาคม 2559 / 21:06สนุกมาก#9500