บทที่ 1 : เมืองหลวงอเคเซีย
ในเช้าวันรุ่งขึ้นครอบครัวบิชอบได้ออกเดินทางไปพร้อมกับขบวนพ่อค้าเร่ที่กำลังจะไปยังเมืองหลวงเช่นเดียวกับตน นอกจากครอบครัวของบิชอบแล้วยังมีอีกหลายครอบความที่เดินทางไปพร้อมกับขบวนพ่อค้านี้อีกด้วย
บิชอบและครรชิตเดินทางด้วยรถม้าของตนที่ซื้อมาในราคาไม่กี่เหรียญจิตอสูร
ค่าเงินของแผ่นทลายฟ้าแบ่งออกเป็นสามสกุลใหญ่ๆได้แต่เหรียญจิตอสูร เหรียญจิตมาร และเหรียญจิตปีศาจ โดยหนึ่งเหรียญจิตปีศาจมีค่าเท่ากับหนึ่งพันเหรียญจิตมาร หนึ่งเหรียญจิตมารมีค่าเท่ากับหนึ่งพันเหรียญจิตอสูรเช่นเดียวกัน
การเดินทางกับขบวนพ่อค้าขาดใหญ่ทำให้ไม่เจอกับสัตว์แม้แต่ตัวเดียวเพราะสัญชาตญาณของพวกมันที่จับคลื่นพลังมานาที่กระจายออกมาจากผู้คนได้ว่ามีความแข็งแกร่งกว่ามันจึงล่าถอยไม่ออกมาดักโจมตี
ภายในรถม้าเด็กชายนั่งอยู่คนเดียวเพราะบิดาของตนออกไปบังคับม้าให้ติดตามขบวนเดินทางและคอยป้องกันรถม้าไปด้วยในตัว บิดาของตนนั้นเป็นถึงนักรบมนตราขั้นสูงซึ่งเทียบได้กับผู้ฝึกฝนเวทย์ขั้นสูงเลยทีเดียว นักรบมนตราหรือนักรบที่ใช้เวทย์ช่วยสู้เป็นหนึ่งในกองกำลังหลักของอาณาจักรนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกองทัพหน่วยอารักขากองทัพนักเวทย์ซึ่งอยู่แนวหลัง
ในหนังสือการจัดทัพทั่วไปในห้องสมุดบอกกับครรชิตว่ากองทัพหลักในแผ่นดินทลายฟ้ามีทั้งหมดสี่กองทัพหลักกองทัพแรกคือทหารที่เป็นนักรบหรือผู้ที่มีพลังมานาน้อยแล้วเน้นไปที่การฝึกฝนร่างกายมีแปดระดับคือ นักรบขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูง ผู้ใช้ศาสตราวุธ(ตามอาวุธที่ใช้ เช่นผู้ใช้ดาบมือเดียว เป็นต้น)ขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูง จอมศาสตราวุธ(ตามอาวุธที่ใช้ เช่นจอมดาบมือเดียว เป็นต้น) และระดับสุดท้ายคือราชาศาสตราวุธ(ตามอาวุธที่ใช้ เช่นราชาดาบมือเดียว เป็นต้น)
กองทัพทีสองเป็นนักรบมนตราแบ่งเป็นแปดระดับเช่นเดียวกับนักรบคือ นักรบมนตรา(ใช้พลังมานาในการเสริมร่างกาย)ขึ้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูง นักรบเวทย์(แปลงมานาเป็นพลังเวทย์เพื่อให้โจมตีเป็นเวทย์ไร้ธาตุ)ขั้นต้น ขึ้นกลางและขั้นสูง ระดับเจ็ดเรียกนักรบจอมเวทย์(ใช้เวทย์โจมตีคุณสมบัติธาตุได้) ระดับสุดท้ายเรียกนักรบราชาเวทย์(ใช้เวทย์โจมตีหมู่ได้)
กองทัพที่สามคือนักเวทย์การฝึกเวทย์มนตร์แบ่งเป็นสิบระดับคือ ผู้ฝึกฝนเวทย์ขึ้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูง ผู้ใช้เวทย์ธาตุขั้นต้น ขึ้นกลางและขั้นสูง ระดับเจ็ดเรียกจอมเวทย์ธาตุ ระดับแปดเรียกจอมเวทย์ทวิธาตุ ระดับเก้าเรียกจอมเวทย์สามผสานหรือไตรธาตุ ระดับสิบเรียกราชาเวทย์(สามารถใช้มหาเวทย์ได้ มหาเวทย์คือเวทย์โบราณที่ไม่ทราบว่าผู้ใดได้บัญญัติไว้ที่ศิลาทลายฟ้า)
ส่วนกองทัพสุดท้ายเป็นกองทัพนักฝึกสัตว์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอาณาจักรอเคเซีย นักฝึกสัตว์ไม่มีการแบ่งระดับตามพลังการรบหรือพลังเวทย์ แต่แบ่งตามระดับสัตว์เวทที่ครอบครองอยู่ เช่นมีสัตว์เวทในสัญญาเป็นสัตว์เวทระดับสามก็มีระดับนักฝึกสัตว์ที่สามเช่นกัน นักฝึกสัตว์ไม่ได้ผสานสัตว์เวทเข้ากับเม็ดพลังของตนเช่นเดียวกับนักรบ นักรบมนตราหรือนักเวทย์ แต่ใช้การทำพันธะสัญญาจากหนังสือสัญญาของอาณาจักรอเคเซียเท่านั้นในปัจจุบันหนังสือสัญญาสัตว์เวทแพร่กระจายไปทั่วทั้งแผ่นดินแต่โอกาศในการทำสัญญาสำเร็จก็ต่ำมากเพราะหนังสือสัญญาดีๆไม่มีการขายออกสู่ตลาดแม้แต่น้อยมีแต่เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรเท่านั้นที่ครอบครองอยู่
ครรชิตที่นั่งอยู่ในรถม้ากำลังอ่านเกี่ยวกับทฤษฎีเวทย์เกี่ยวกับการสร้างมิติเช่นเดียวกับสัตว์เวทอีทเตอร์ ตามทฤษฎีที่นักเวทย์คนหนึ่งในอดีตได้ผสานเม็ดพลังกับอีทเตอร์เพื่อศึกษาการใช้พลังของมันอย่างละเอียดแม้คนรอบข้างจะว่าเขาเป็นนักเวทย์ขั้นจอมเวทย์ทวิธาตุที่ไร้ค่าก็ตาม ธาตุในโลกใบนี้มีหกธาตุหลักและอีกสี่ธาตุรอง ธาตุหลักคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มืดและแสง และอีกสี่ธาตุรองที่หายากในสิบปีจะมีสักคนที่มีธาตุรองได้แก่ สายฟ้า ไม้ โลหะ น้ำแข็ง
จอมเวทย์ทวิผู้นี้มีธาตุประจำตัวเป็นธาตุมืดและธาตุที่สองคือไฟเวลาที่เจ้าอีทเตอร์เปิดช่องมิติในตัวมันเพื่อกลืนกินสิ่งต่างๆมันจะปล่อยพลังเวทย์ธาตุมืดและธาตุแสงออกมาก่อนจะควบแน่มันเข้าด้วยกันจนเป็นมิติที่บิดเบี้ยวขึ้นมา แม้จอมเวทย์ทวิธาตุคนนี้จะมีธาตุมืดเป็นธาตุประจำตัวแต่ก็ไม่สามารถระบุปริมาณพลังเวทย์ของสองธาตุที่ใช้เพื่อเปิดมิติได้อยู่ดี เมื่อทฤษฎีนี้ถูกเสมอให้สภาเวทย์พิสูจน์กลับถูกนำไปเก็บไว้โดยไม่ได้รับการแตะต้องเพราะการจะหาจอมเวทย์ทวิธาตุและใช้ได้ทั้งธาตุมืดและแสงในคนเดียวนั้นเป็นไม่ได้เพื่อพลังจะหักล้างกันเอง
สำหรับครรชิตแล้วเป็นสิ่งที่ง่ายพอดูเพียงแค่เขาหาเม็ดพลังของสัตว์เวทธาตุมืดและแสงมาผสานกับทะเลลมปราณเพื่อกลั่นพวกมันเป็นเม็ดลมปราณได้ก็พอ การฝึกฝนลมปราณในขั้นสี่เป็นการรวบรวมลมปราณมาก่อตั้งเป็นเม็ดลมปราณเพื่อเป็นฐานในการสร้างเสาเซียนทั้งเก้าต้นในตอนฝึกวิถีเซียนอมตะ แม้เขาจะไม่แน่ใจว่ามันจะได้ผลหรือไม่หรือเขาจะผสานเม็ดพลังมานาของตนกับอีทเตอร์ไปเลยก็น่าจะดีเช่นกัน
การผสานศิลาจิตอสูรกับเม็ดพลังมานาในชั่วชีวิตสามารถทำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสัตว์เวทที่ผสานได้อีกต่อไป แต่สัตว์เวทที่ได้รับการผสานแล้วสามารถพัฒนาได้ด้วยการดูดซับมานาของเจ้าของเม็ดพลังยิ่งมีพลังมานาในเม็ดพลังมากเท่าใดสัตว์เวทยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น
ครรชิตวางแผนหาศิลาจิตวิญญาณทุกธาตุเพราะใช้เก้าธาตุในการเม็ดพลังลมปราณและอีกหนึ่งธาตุผสานกับเม็ดพลังมานาเพื่อให้ตนสามารถใช้ได้ทุกธาตุ
สิ่งมีชีวิตโดยทั่วไปแล้วสามารถมีธาตุได้ทั้งหมดสองธาตุ คือธาตุประจำตัวที่มีมาตั้งแต่เกิดและธาตุที่สองได้จากการดูดซับมานาที่แฝงธาตุนั้นๆไว้เป็นเวลานาน แต่มนุษย์สามารถใช้ได้สามธาตุเพราะผสานศิลาจิตอสูรซึ่งมีธาตุเป็นของตัวเองลงในเม็ดพลังมานาจนทำให้เปลี่ยนคุณสมบัติของมานาไปเป็นธาตุนั้นๆ
การผสานศิลาจิตอสูรควรทำหลังจากคนผู้นั้นถึงระดับจอมเวทย์ธาตุหรือทวิธาตุแล้วเท่านั้นเพื่อให้สามารถกลายเป็นจอมเวทย์ไตรธาตุได้ แต่ปัจจุบันการจะเป็นจอมเวทย์นั้นยากลำบากเพราะตำราการฝึกฝนมักอยู่ในมือของอาณาจักรใหญ่ๆจึงทำให้คนทั่วไปเมื่อถึงระดับพลังที่สามารถผสานศิลาจิตอสูรได้ที่ขั้นนักรบขั้นสูง นักรบมนตราขั้นสูงหรือผู้ฝึกฝนขั้นสูงต่างก็ทำการผสานเม็ดพลังมานากันหมดเพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน
เด็กชายยัดหนังสือเข้าไปในแหวนเมื่อแสงด้านนอกเริ่มหมดลง
"จูเนียร์ออกมาช่วยพ่อตั้งกระโจมหน่อยเร็ว" บิชอบเรียกลูกชายเมื่อขบวนพ่อค้าเร่หยุดพักที่ริมทางแห่งหนึ่งแล้วเริ่มตั้งเต็นท์และก่อกองไปส่วนนักเวทย์ที่พอใช้เวทย์ตรวจสอบได้ก็เดินตรวจสอบหาสัตว์เวทโดยรอบ
"ครับๆ" ครรชิตดีดตัวลุกขึ้นจากที่นั้งแล้วแบกเอาม้วนหนังสัตว์ที่ใหญ่กว่าตัวเองออกไปด้านนอกรถมา
การตั้งเต็นท์และทำอาหารเย็นของสองพ่อลูกเป็นไปด้วยความรวดเร็วเพียงสิบนาทีกระโจมหนังสัตว์ก็ตั้งขึ้นข้างรถม้าก็เสร็จสิ้นพร้อมกองไฟเพื่อทำอาหาร เด็กชายเดินไปให้น้ำและอาหารม้า ส่วนพ่อของตนก็กำลังปรุงอาหารอย่างง่าย เช่นสตูว์เนื้อกวางแห้ง และขนมปังที่ทำจากแป้งข้าวสาลีที่ใช้วิธีย่างไฟอ่อนๆจนได้ขนมปังพร้อมกินเป็นอาหารเย็น
"เจ้าทำอะไรอยู่ในรถม้าทั้งวัน ไม่เห็นออกมาดูถนนหนทางบ้างเลย"
"ข้าแค่อ่านหนังสือเท่านั้นเอง ท่านเหงาละสิ" ครรชิตแหย่บิดาของจูเนียร์เล็กน้อย
"ใครว่าข้าเหงา ไม่มี๊ไม่มี" บิชอบโบกไม้โบกมือด้วยหน้าแดงๆ แต่เมื่อมองด้วยภาพรวมแล้วน่ากลัวเสียมากกว่าเพราะด้วยรูปร่างที่บึกบึนและสูงใหญ่พร้อมรอยบาดแผลเต็มตัวแต่เขินอายแบบผู้หญิงมันทำให้ผู้พบเห็นอดสยองไม่ได้
"ฮ่าฮ่า ข้าแค่หยอกท่านเล่นเท่านั้นเอง ท่านพอจะสอนการใช้ดาบให้ข้าได้ไหม" เด็กชายอ้อนบิดาของตนด้วยสายตาเพราะจูเนียร์เคยบอกตนว่าเคยขอเรียกวิชาดาบจากบิดาตนมาหลายปีแล้วไม่เคยได้การตอบรับเลยแม้แต่ครั้งเดียว
บรรยากาศเริ่มอึดอัดขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายวัยกลางคนตรงหน้าเด็กชายทำหน้าเจ็บปวดเหมือนกลัวอะไรบ้างอย่างก่อนที่จะกลับมาเป็นปรกติภายในวินาทีถัดมา เขายิ้มให้เด็กชายตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะลูบหัวของเด็กชายเบาๆแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มลึกเบาๆ "เอาสิยังไงลูกผู้ชายมันก็ต้องมีสักวันที่ต้องต่อสู้นี้นะ" พูดเสร็จก็ยิ้มด้วยความเอ็นดูไปให้เด็กชายก่อนจะไล่ให้เข้านอนเมื่อเห็นว่าพวกตนอยู่ดึกเกินไปเล็กน้อย
ผ่านไปสามวันในที่สุดขบวนพ่อค้าเร่ก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงอเคเซีย
ที่ผ่านมาสามวันเด็กชายได้รับการสอนการใช้ดาบจากบิดาตนบางเล็กน้อยอย่างเช่นการจับดาบ การรักษาสมดุล เป็นต้น
"กำแพงใหญ่จังแทบจะมองไม่เห็นด้านในเลย!" เสียงเจื้อแจ้วดังออกมาจากหน้าต่างของรถม้าคันหนึ่งที่กำลังมุ่งเข้าสู่ประตูสีขาวใหญ่พ่อๆกับประตูโรงจอดเครื่องบินในโลกเลยทีเดียว
เมืองหลวงอเคเซียมีขนาดใหญ่จากประตูเมืองจะเห็นกำแพงเมืองไปไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียวกำแพงเป็นกำแพงหินสีขาวที่ฉาบไปด้วยวัตสดุอะไรบ้างอย่างสีเทาอ่อนๆความสูงกำพงนี้น่าจะสูงเท่าตึกห้าชั้นเป็นอย่างต่ำ บนกำแพงหินสีขาวแต่ละก้อนมีอักขระบางอย่างเขียนไว้บนหินแต่ละก้อนและมันจะเปล่งแสงสีขาวนวลตาตลอดเวลา
เมืองมองจากนอกกำแพงจะเห็นยอดปราสาทหลายสิบอันอยู่ไกลลิบๆ และหอคอยหลายอันตั้งอยู่ทั่วในกำแพงเมือง บนกำแพงเต็มไปด้วยทหารที่ใช้ชุดเกราะสีเงินแวววับไปทั่วพื้นที่ และบางช่วงยังมีเครื่องยิงธนูขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่เป็นระยะๆ
ภายในเมื่องเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องแน่นไปหมดทั่วทั้งพื้นที่ พื้นถนนปูด้วยหินสีเทาหม่นๆและมีการจัดเสาตะเกียงเวทย์เป็นระยะๆตามถนน การแบ่งพื้นอย่างไรไม่อาจทราบได้แต่ที่แน่นอนคือแทบจะไม่มีที่ว่างสำหรับการตั้งเลยเลยแม้แต่น้อย
"ฮ่าฮ่า ใจเย็นไอ้ลูกชายเดี๋ยวทำเอกสารเข้าเมืองแล้วไปบ้านดีลก่อน เดี๋ยวพ่อคนนี้จะพาชมเมืองเอง" บิชอบยิ้มให้เด็กชายที่โผล่หน้าออกมาจากรถม้าก่อนจะบังคับรถมาไปยังแถวตรวจสอบอันหนึ่ง
หลังจากทำเอกสารเรียบร้อยชายหนุ่มก็ถามถึงบ้านที่อยู่ตามที่ดีลได้มอบไว้ให้ก่อนจะย้ายออกมาจากหมู่บ้านจนทราบแน่ชัดก็บังคับรถม้าไปตามถนนสีเทาในเมืองหลวงเมืองอเคเซียแห่งนี้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
นอกจากพลังจะมีหลายระดับแล้ว ยังมีหลายรูปแบบอีก ...
คิดว่าไม่น่าจะจำได้