บทที่ 1 : ของขวัญ (งานหมั้น) (2)
หลังอาหารเช้ามีบางคนกลับไปทำงานของตนและก็มีบางคนก็ยังอยู่ต่อเช่น ท่านคาลอตที่กำลังรอศิลาจิตอสูรที่ได้มาใหม่เพื่อนำไปใช้ เป็นต้น
ภายในห้องรับแขกตอนนี้เหลือเพียงครอบครัวเมอลีนและสองพ่อลูกตระกูลแอสลาสเท่านั้น ลุงดีลเริ่มการพูดคุยด้วยการมอบม้วนหนังสีน้ำตาลเข้มและเข็มอันเล็กๆมาให้เด็กชาย
"นี้เป็นสัญญาของสัตว์เวทที่ข้ากับพ่อเจ้าจับมาเป็นของขวัญให้เจ้า" ลุงดีลพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจในของขวัญชิ้นนี้สุดๆ
"ขอบคุณครับท่านลุง แต่มันเป็นตัวอะไรอ่ะ" เขาอดถามไม่ได้ ถึงแม้จะอ่านสัญญาแล้วแต่ก็ไม่มีรายละเอียดบอกจนกว่าจะทำสัญญาเสร็จสิ้น
"เรื่องอะไรข้าจะบอกเจ้า มันเป็นเซอร์ไพรส์จากข้าคนนี้เชียวนะ" ลุงดีลขยิบตาให้ข้าก่อนจะนั่งเงียบไปม่ยอมตอบข้าอีก ส่วนท่านพ่อก็ปิดปากเงียบเช่นกัน
"อันนี้เป็นของขวัญจากข้า" ป้าเซเรน่าส่งกล่องไม้ขนาดเล็กมาให้เด็กชาย
"ขอบคุณคับท่านป้า ข้ากำลังอยากได้อยู่พอดีเลย" สิ่งที่ป้าเซเรน่ามอบให้คือแกวนมิติขนาดกลาง แหวนมิติขนาดกลางก็ทำมาจากอีทเตอร์เหมือนกันแต่เป็นอีทเตอร์ระดับสอง
สัตว์เวทสามารถเพิ่มระดับของตัวเองได้ตามมานาที่มันดูดกลืนหรือเวลาที่มันมีชีวิตอยู่ยิ่งอายุมากมันยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ส่วนใหญ่สัตว์เวทระดับสามไม่ค่อยเจอมากนักเพราะมันแทบจะถูกล่าอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันหายนะที่จะเกิดตอนเกิดภัยพิบัติสิ้นปี ที่สัตว์เวทจะบุกโจมตีไปทั่วทุกพื้นที่ที่มนุษย์อาศัยอยู่
สำหรับแหวนมิติขนาดกลางมีปริมาตรสี่ร้อยลูกบาศก์เมตรเลยทีเดียวเขาสามารถย้ายหนังสือทั้งหมดใส่ไว้ในนี้ได้แล้วแหวนที่ว่างก็ใส่ยาและอุปกรณ์ปรุงยาหนึ่งวงอีกวงก็เป็นอุปกรณ์เขียนจารึกน่าจะดี
ครรชิตหลุดจากห่วงความคิดเมื่อพ่อของเขามอบของขวัญให้สองสาว
"นี้สำหรับลิลลี่ และนี้ก็ของโรสแมรี่ อาหามาให้พวกเจ้าโดยเฉพาะ" บิชอบยืนกล่องไม้ที่ยาวเกือบหนึ่งเมตรและกว้างเกือบสิบเซนติเมตรให้ลิลลี่ และกล่องที่ขนาดเท่ากันอีกกล่องให้โรสแมรี่
ครรชิตสังเกตจากรูปร่างกล่องแล้วมันน่าจะเป็นคทาเวทย์ที่เป็นอุปกรณ์เวทย์อย่างหนึ่งที่นักเวทย์ทุกคนต้องมี เจ้าคทานี้จะช่วยให้เพิ่มพลังเวทย์ให้ผู้ถือตามระดับอัญมณีเวทย์ที่ประดับอยู่บนหัวคทา บางคนอาจจะใช้มันในการช่วยเขียนวงเวทย์หรือช่วยในการลดการใช้มานาจากการใช้พลังเวทย์จากอัญมณีเวทย์ เป็นต้น
นอกจากคฑาแล้วยังมีอาวุธอีกหลายอย่างที่มีคุณลักษณะเหมือนกันเช่นดาบที่ฝั่งอัญมณีเวทย์หรือโล่ที่ประดับไปด้วยอัญมณีเวทย์ เป็นต้น เขาเคยเห็นวิธีการสร้างอยู่บ้างในหนังสือเทพแห่งการช่างแต่มันเสียหายมากเกินไปจึงไม่สามารถนำมันใช้ได้
"มันคือคทาเวทย์ที่ฝั่งอัญมณีจากหมาป่าแดงระดับสองทั้งสองอันเลยนะ ข้าและพ่อของพวกเจ้าเพิ่งได้มันจากการล่าสัตว์เวทเมื่อเร็วๆนี้" เป็นอย่างที่ข้าคิด แต่หมาป่าแดงมันมีธาตุได้สองอย่างคือไฟและลม ข้าไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะได้ธาตุอะไร
สัตว์เวทนอกจากจะมีศิลาจิตอสูรแล้ว ถ้าตัวมันสามารถใช้เวทย์ในการโจมตีภายนอกได้ก็จะมีอัญมณีเวทย์อยู่ที่สมองของพวกมันอีกหนึ่งอย่าง ศิลาจิตอสูรและอัญมณีเวทย์ที่ได้จากสัตว์เวทมีประโยชน์และการใช้งานต่างกัน กล่าวคือศิลาจิตอสูรสามารถดูดกลืนมานาจากมันได้โดยตรงเมื่อดูดซับจนหมดมันก็ยังสามารถนำไปทำเป็นปุ๋ยเพื่อเพาะปลูกได้อีก หรือจะเอามันไปบดเป็นผงสำหรับจารึกระดับต่ำๆก็ได้เช่นกัน
อัญมณีเวทย์ไม่สามารถดูดซับมานาได้เพราะตัวมันแปลงมานาเป็นพลังเวทย์จนหมดสิ้นมันจะให้พลังเวทย์แทนพลังมานา ส่วนใหญ่มักนำไปทำอุปกรณ์เวทย์เพราะแทบจะไม่ต้องใช้พลังเวทย์ของตนในการใช้พวกมันเลย ยกเว้นอาวุธบางอย่างที่ต้องใช้พลังเวทย์กระตุ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังใช้ในการประกอบพิธีหรือวาดวงเวทย์ขนาดใหญ่หรือที่เรียกกันว่ามหาเวทย์อีกด้วยแต่ต้องเป็นอัญมณีระดับสูงเท่านั้น
นอกจากนี้ถ้าผู้เชี่ยวชาญในด้านจารึกสามารถเข้าใจถึงวงจรภายในอัญมณีก็สามารถใช้มันเป็นแกนกลางในการสร้างจารึกเวทย์ระดับสูงได้อีกด้วย ด้วยคุณประโยชน์มหาศาลจึงทำให้มันมีราคามากกว่าศิลาเวทย์เกือบเท่าตัว แต่ของระดับกลางหรือระดับสี่ขึ้นไปหาได้ยากเย็นยิ่งนัก เพราะสัตว์เวทระดับสี่มักปรากฎอยู่ในดันเจี้ยนหรือป่าโบราณต่างๆ และการจะล่าพวกมันต่องอยู่ในระดับผู้ใช้เวทย์ธาตุขั้นสูงขึ้นไปเท่านั้นและใช้หลายสิบคนต่อสัตว์เวทระดับสี่หนึ่งตัว
ขอบคุณค่ะท่านอา" ทั้งสองคนต่างยิ้มอย่างยินดีและหัวเราะอย่างมีความสุขหลังจากเปิดกล่องไม้นั้นดู
"เรียกข้าว่าท่านพ่อก็ได้" สองสาวต่างชะงักก่อนจะก้มหน้าด้วยหน้าแดงๆ ส่วนข้านะหรอเกือบหัวทิ่มในขณะที่จะเดินไปดูคฑาเวทย์ของสองสาว
"ฮ่าๆๆ" ผู้ใหญ่ทั้งสามคนต่างหัวเราะอย่างสนุกสนานก่อนที่สองสามีภรรยาจะหันมามองข้าพร้อมยิ้มอย่างมีความหมาย
"เจ้าก็ด้วยจูเนียร์ เรียกข้าว่าท่านพ่อและเรียกภรรยาข้าว่าท่านแม่ก็ได้นะ ฮ่าๆ" ลุงดีลพูดไปหัวเราะไปแต่มือของเขาก็ดอบกอดภรรยาอย่างหลวมๆ
"นั้นสินะ" พ่อข้าทุบมือลงบนฝ่ามือก่อนจะฉีกยิ้มอย่างสนุกสนานเมื่อเห็นสีหน้าของข้าและสองสาว
ข้าได้แต่พยักหน้าให้เบาๆ ก่อนจะมุ่งความสนใจไปยังม้วนหนังสัตว์ที่ลุงดีลให้มา
เขาลองเอาเข็มทิ่มลงบนปลายนิ้วเพื่อหยดเลือดลงบนสัญญา แต่กลับกลายเป็นว่าบาดแผลมันหายไปก่อนที่เลือดจะได้ไหลออกมาด้วยซ้ำ โชคดีที่ไมีใครสังเกตเห็น ข้าจึงทิ่มใหม่ให้ลึกกว่าเดิมและยังไม่ถอนเข็มออกจนกว่าเลือดจะไหลออกมาหยดเล็กๆ ข้าจึงเอาเข็มออกแล้วหยดเลือดลงบนสัญญา
สัญญาเปล่งแสงสีแดงเหมือนโลหิตก่อนจะเริ่มมิดม้วนแล้วขมวดกันเป็นก้อนกลมจากหนังสัตว์สีน้ำตาลมันเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเข้นจนคล้ายสีโลหิต ก่อนที่มีนจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นปลอกแขนหนังสีน้ำตาลมีลาดลายสีแดงเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายสิงโตแต่มันมีปีกขนนกอยู่กลางหลัง มันคือ'สิงโตวายุคลั่ง' สัตว์เวทระดับสามที่หาได้ทั่วไปในเขตภูเขาสูง มันมักจะอยู่ตัวเดียวในแต่ละอณาเขตของมันยกเว้นช่วงผสมพันธุ์และภัยพิบัติสิ้นปี
สิงโตวายุคลั่งมักจะถูกล่าเป็นพวกแรกเสมอเพราะมันจะให้ทั้งศิลาจิตอสูรและอัญมณีเวทย์ มันใช้เวทย์พายุคลั่งได้มันจึงได้ชื่อนี้มาจากเวทย์ของมันนั้นเอง นอกจากนี้เมื่อมันอยู่พื้นที่ราบมันจะสามารถต่อสู้ได้ทั้งบนบกและอากาศจึงทำให้การป้องกันพวกมันยากเสมอถ้าสูงบนพื้นแล้วแพ้มันจะบินขึ้นเพื่อหนีแล้วค่อยกลับมาใหม่ในจังหวะที่เผลอเสมอๆ มนุษย์จึงล่าพวกมันเป็นพวกแรกจะทำให้การต่อสู้มันง่ายขึ้น และมันยังเป็นพาหนะชั้นดีอีกด้วยสำหรับใครมีมันในครอบครอง
ถ้าถามว่ามันดีไหมสำหรับพวกนักฝึกสัตว์ต้องตอบว่าพอใช้ได้ ถึงแม้มันจะแข็งแกร่งแต่มันไม่ได้อึดถึกทนมากนัก ความเร็วก้ไม่สูงมาก มีดีที่คล่องแคล่วทั้งบนบกและอากาศเท่านั้น ยังมีสัตว์เวทระดับสามที่มีคุณลักษณะคล้ายกับมันที่ดีกว่ามันอีกเยอะแยะมากมาย
แต่ในความเห็นของร้านค้าและทหารรับจ้างกลุ่มเล็กๆแล้วมันถือว่าดีมาก เพราะการจะหาพวกมันสำหรับกลุ่มที่มีระดับเฉลี่ยนักรบขั้นสูงถือว่าสุดความสามารถของพวกเขาแล้ว
"ขอบคุณมากครับ" ข้าขอบคุณอย่างจริงใจ เพราะพวกเขาหาสัตว์เวทระดับสามมาให้ข้าเพื่อให้ข้าสามารถใช้มันในการสร้างสัญญาเปล่าได้สินะ ด้วยการพัฒนาอีกไม่กี่ก้าวข้าก็จะพร้อมสร้างสัญญาเปล่าแล้ว เมื่อนั้นข้าก็สามารถใช้ชีวิตและฝึกฝนวิถีเซียนอมตะแบบสบายๆในโลกแห่งนี้ได้เสียที
"ไม่เป็นไรๆ" ลุงดีลส่ายหน้าให้ข้าเบาๆ
"จริงสิจูเนียร์ เจ้าคิดได้หรือยังว่าจะฝึกฝนแบบใด" บิชอบถามลุกชายเมื่อคิดได้ว่าตนก็ไม่ได้สอนเกี่ยวกับนักรบมนตราให้ลูกตนเลยเพราะมั่วแต่หาของขวัญให้ลูกชายตนอยู่ และได้ข่าวว่าลูกเขาเริ่มฝึกเวทย์แล้ว
"ข้าจะฝึกนักเวทย์รบนะท่านพ่อ เพราะตอนนี้ข้ามีระดับขั้นมานาขั้นที่สามระดับสองและข้าก็ชอบต่อสู้ระยะใกล้ด้วย" ข้าตอบออกไปโดยคิดมาแล้ว นี้เป็นแผนการณ์ที่จะรักษาความลับเรื่องร่างกายของเขาที่เปลี่ยนแปลงไปมากแล้วในตอนนี้
"นักเวทย์รบงั้นหรอ" บิชอบยิ้มเศร้าๆให้ลูกชายก่อนจะเปลี่ยนไปยิ้มอย่างยินดีในชั่วพริบตาเดียว สองสามีที่พอจะสังเกตเห็นได้แต่ลอบส่งสายตาสงสารมายังบิชอบ
"ไม่ต้องห่วงท่านพ่อ ข้าต้องทำได้อย่างแน่นอนท่านพ่อ" ข้าที่เห็นสายตาเศร้าๆแว่บหนึ่งแต่ไม่ได้คิดอะไรก่อนจะสร้างความมั่นใจให้ท่านพ่อว่าข้าจะยึดมันในการเลือกของข้าโดยไม่มีความลังเลใจใดๆทั้งสิ้น
"ก็ได้ข้าจะช่วยเจ้าอีกแรง" ท่านพ่อยี้หัวข้าก่อนจะไล่ให้ข้าแลัสองสาวออกไปฝึกช่วงเช้าได้แล้ว
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย