ตอนที่ 147 : ศัตรูไร้ตัวตน
บทที่ 3 : ศัตรูไร้ตัวตน
เพียงเวลาไม่ถึงสองวัน การเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือกับสัตว์เวทจำนวนมากก็เสร็จสิ้น ถึงแม้เมืองหลวงจะมีประชากรหลายล้านคน แต่ในตอนนี้คนที่อยู่ในเมืองมีไม่ถึงหนึ่งล้านคนด้วยซ้ำไป
ส่วนหนึ่งหลบหนีและไปอยู่อาศัยที่เมืองใกล้เคียง หรือออกเดินทางไปเมืองที่อยู่ตามแนวชายแดน พวกเขาเป็นทั้งขุนนางและพ่อค้าเกือบทั้งหมด มีเพียงแค่องค์ชายสามและองค์ชายหกเท่านั้นที่เชื้อพระวงศ์ที่ออกไปจากความวุ่นวายนี้
คนที่มีฝีมือจำนวนมากต่างตกตายเป็นใบไม้ร่วง ทำให้อาณาจักรอ่อนแอลงเล็กน้อย แต่นั้นก็นำมาซึ่งคนรุ่นใหม่ที่ไม่ถูกปิดกั้นจากขุนนางทรงอำนาจหัวโบราณทั้งหลาย ทำให้ผู้คนที่มีความสามารถถูกคัดเลือกขึ้นมาอย่างมากมาย
หลายคนเข้าร่วมกับตระกูลใหญ่หรือเข้ารวมกับกิลด์ต่างๆ เมื่อไม่มีขุนนางค่อยกดขี่พวกมัน ทำให้กิลด์และตระกูลที่มีขนาดเล็กเริ่มลืมตาอ้าปากได้มากขึ้น งานและเงินตราเริ่มแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวง
อัตราการวางงานและขอทานลดลงอย่างเห็นได้ชัด พวกมันจากที่เป็นขอทานบ้างส่วนสามารถไปเป็นคนงานของป้อมปราการรอบเมืองได้ พวกมันทำงานแทบทุกอย่างได้ ทำให้การซ่อมบำรุงและก่อสร้างกำแพงเืองเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยงบประมาณที่ถูกแจกจ่ายออกไปโดยไม่ถูกแบ่งสรรปันส่วนให้กับขุนนางที่ดูแลงาน ทำให้การพัฒนาบ้านเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนสงครามกับสัตว์เวทจะเริ่มขึ้น ทั่วทั้งเมืองหลวงและหมู่บ้านใกล้เคียงก็พร้อมรับมือกับพวกมันมากกว่าที่เคยเป็นมานับสิบปี หมู่บ้านต่างมีทหารรับจ้างและนักผจญภัย รวมทั้งทหารใหม่อีกหลายพันคนออกไปประจำการอยู่
ด้วยกองกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ภัยพิบัติสิ้นปีจนลงด้วยความสูญเสียน้อยกว่าที่เป็นมา
ในอดีตอาวุธยุทโธปกรณ์ถูกกัดกินด้วยขุนนางที่ดูแลทางด้านนี้ ทำให้อาวุธไม่เพียงพอสำหรับการเฝ้าระวังเมืองหลวงด้วยซ้ำไป นั้นนำไปสู่การโกงกินของขุนนางขั้นสูงกว่าที่จะส่งเหล่าลูกหลานและคนในตระกูลเข้าเป็นทหาร และกันพวกชาวบ้านและประชาชนให้เป็นได้แค่แรงงานราคาถูก
พวกมันจะได้ทั้งเงินจากการยักยอกงบประมาณอาวุธ รวมทั้งเงินบำรุงกองทัพพวกมันก็เอาไปใช้สำหรับตระกูลของพวกมัน มีเพียงทหารจากชาวบ้านที่โดดเด่นมากๆเท่านั้นที่ถูกเลือกเข้าเป็นทหารใหม่ได้ และได้รับการสนับสนุนจากขุนนาง
ด้วยระบบการปกครองแบบใหม่ ผสมกับการกวาดล้างขุนอำนาจที่เน่าเฟะทิ้งไป ทำให้ประชาชนสามารถสมัครเป็นทหารได้ และได้รับการฝึกเป็นอย่างดีจากกองทัพที่ขึ้นตรงต่อองค์ราชา ทหารใหม่ทุกนายได้ทั้งเสื้อผ้า ที่พัก อาหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ทั้งหมด
สิ่งที่ล่อตาล่อใจขนาดนี้ ทำให้ในไม่กี่วันทหารของอาณาจักรก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะเป็นทหารชั้นเลวหรือทหารใหม่เกือบทั้งหมด แต่ใช้เวลาไม่กี่เดือนพวกมันก็เก่งกล้ามากพอจะสู้กับข้าศึกได้แล้ว
ใครมีการพัฒนาที่รวดเร็วก็ได้รับการสนับสนุนมากขึ้น ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นอีกด้วย และด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้ทหารที่ผ่านสงครามกับสัตว์เวทครั้งแรกไปได้ พวกมันก็กลายเป็นทหารกล้าในไม่ช้า
"ดูเหมือนกระดานหมากเบื้องหน้าตานี้ ฝั่งของอาณาจักรอเคเซียจะกินขาดอาณาจักรอื่นๆสินะ" ครรชิตที่นั่งสบายๆอยู่ในบ้านของตัวเอง มองไปยังรายงานที่กลุ่มคนที่กลับมาจากการฝึกที่เมืองโคลอสเซียมนำมาส่งให้
เขาพบว่าการมีสายข่าวเป็นของตัวเองนั้นดีกว่าการซื้อข่าวจากกิลด์ค้าขาย หรือการสืบด้วยตัวของเขาเอง เพราะจะได้ข้อมูลจำนวนมากและหลากหลาย สามารถวางแผนการได้ไกลขึ้นกว่าเดิม
นั้นทำให้เกิดหน่วยข่าวกรองของเขาขึ้นมา พวกมันถูกฝึกให้กลมกลืนและแทรกซึมเข้าไปในบ้านขุนนางและพ่อค้าทั้งหลาย มีเพียงเขตราชวงศ์และราชวังเท่านั้นที่ไม่อาจจะแฝงตัวเข้าไปได้ จึงทำได้แค่ซื้อตัวคนในตำหนักไว้ไม่กี่คน
ทั่วทั้งอาณาจักรมีข้ารับใช้ของเขาที่แฝงตัวเข้าไปเพื่อซื้อตัวของข้ารับใช้หลายตระกูล มีทั้งที่สำเร็งและไม่สำเร็จแต่ในไม่ช้าทั่วทั้งอาณาจักรก็ถูกวางสายข่าวไว้ทั่วทุกเมือง ด้วยสิ่งเหล่านี้การเคลื่อนไวในอนาคตคงง่ายขึ้นอีกมาก ไม่ต้องสืบข่าวหัวหมุนเช่นนี้
ในขณะเดียวกันข่าวสารนอกอาณาจักร เขาเพียงใช้งานของกลุ่มที่เขาตั้งชื่อว่ากลุ่มผู้เฝ้ามองเป็นคนสืบหาข่าวมาให้เขา โดยที่พวกมันก็ไม่รู้ว่าถูกเขาขโมยข่าวสารอยู่เรื่อยๆ
เขาได้ส่งคนหลายคนไปประจำการอยู่ที่ดินแดนราชาเทพ เพื่อค่อยวิเคราะห์และแจ้งข่าวสำคัญมาให้เขาเป็นระยะๆ ซึ่งพวกมันก็สามารถฝึกฝนฝีมือที่นั้นได้เช่นกัน เพราะสัตว์เวทที่นั้นแข็งแกร่งพอๆกับที่ภูเขามานาแกล
หนึ่งในข้อมูลที่เขาได้รับมาใหม่ พบว่าสารลับจากอาณาจักขนาดกลางหลายแห่งที่เคยแทรกซึมอยู่ในอาณาจักรอเคเซียถูกเรียกตัวกลับไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งพวกมันเกินครึ่งถูกฆ่าตายระหว่างออกนอกอาณาจักร ทำให้ข่าวนี้รับรู้โดยทั่วกันในทันที
ส่วนสายลับชุดใหม่ที่ถูกส่งมากแทบจะแทรกซึมไม่สำเร็จเลยแม้แต่น้อย ด้วยการที่มีทั้งฝ่ายครรชิตที่ค่อยดักและนำพวกมันมาหาข้อมูลลับ และการกวาดล้างและตรวจสอบอยู่เสมอๆของฝ่ายดยุกทำหน้าที่เป็นหน่วยข่าวกรอง ด้วยสองขุมอำนาจที่แทรกแซงไปทุกขั้วอำนาจในตอนนี้ ทำให้การแทรกแซงที่เข้ามาที่หลังถูกตรวจจับได้ในไม่ช้า
"สองอาณาจักรถอนตัวออกไปแล้ว ตอนนี้พวกหน่วยลับของกษัตริย์เริ่มสอบสวนภายในกันแล้วสินะ" เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
ดูเหมือนเงาและราชาเงาจะหายเข้ากลีบเมฆไปเสียแล้ว ถึงแม้เงาทุกคนจะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่วิธีการนั้นแตกต่างกันไปทำให้การหาพวกมันแล้วระบุวิธีที่พวกมันใช้ได้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ส่วนราชาเงานั้นมันก็ช่างเป็นเงาที่หาตัวตนได้ยากเสียจริงๆ
"พวกเจ้ากลับไปทำงานที่เหลือเถอะ ข้าจะไปข้างนอกเสียหน่อย" ครรชิตโบกมือเบาๆ หน่วยข่าวกรองของเขาสองคนก็หายไป
"ท่านพ่อยังติดใจอยู่กับเมืองโคลอสเซียมทะเลทราย ส่วนคนอื่นๆก็เพิ่งกลับมาจากการทำงานราชการ ดูเหมือนว่าเราจะต้องไปสำรวจเพียงคนเดียวสินะ แต่ก็ดีจะได้ไม่ต้องกังวลมากนัก" เขายิ้มออกมาก่อนเดินเข้าห้องลับและหายตัวไป
ในขณะเดียวกัน ฝั่งของเงาคนอื่นๆสถานการณ์ของพวกมันไม่ได้เหมือนกับครรชิต เพราะพวกมันโผล่หางออกมากเกินไป ทำให้หลายคนถูกระบุตัวและถูกจัดการไปมากพอสมควร ทำให้เงาทั้งหมดเริ่มเงียบหายไปอย่างช้าๆ
พวกมันบางส่วนก็จับมือเป็นพัรธมิตร บางส่วนก็ถอนตัวออกไปจากการต่อสู้ด้วยการออกจากเมืองหลวงไปอยู่หมู่บ้านรอบๆ ถึงแม้จะออกจากการต่อสู้ไปแล้วแต่ยังคงต้องดูท่าทีต่อไป เพราะถอนตัวออกไปแต่ก็ยังอยู่ในเกมอยู่ดี เพียงแค่พวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ข่าวการจับมือกันของตระกูลหลายตระกูลทำให้คลื่นลูกใหม่แห่งอำนาจเริ่มก่อตัวขึ้น ถึงแม้ขุนนางหัวโบาณาณจะถูกประหารหรือจองจำไปหมดแล้ว แต่พวกลูกหลานที่เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ก็ใช่ว่าจะยอมแพ้ในการกอบกู้ตระกูลขึ้นมาใหม่
ด้วยข่าวลือเช่นนี้ทำให้เงาหลายคนในความสนใจกับกลุ่มอำนาจใหม่เหล่านี้ พวกมันรวมตัวกันตั้งหมูบ้านหรือค่ายพักขึ้นมารอบๆเมืองหลวง เพื่อสร้างฐานอำนาจขึ้นมาใหม่จากศูนย์ ถึงแม้กองกำลังหลักจะถูกกวาดล้าง แต่ใช่ว่าพวกมันจะไม่กองกำลังสำรองเหลืออยู่
เหล่าสายลับและข้ารับใช้ที่ถูกส่งตัวไปอาณาจักรอื่นถูกเรียกตัวกลับ พวกมันกลับสู่ตระกูลและรอคอยอยู่ในเงาเพื่อรอเวลาแห่งการแก้แค้นอีกครั้งหนึ่ง
ในห้องใต้ดินของหมู่บ้านหนึ่ง กลุ่มคนนั้นสิบคนกำลังประชุมวางแผนกันอยู่ มีเพียงตะเกียงเวทมนตร์ราคาถูกเท่านั้นที่ส่องแสงสว่างอยู่ในตอนนี้ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นพวกมันได้ชัดเจนนัก
"เงินของพวกเราเหลืออยู่อีกไม่ถึงแสนเหรียญจิตอสูรแล้ว เราใช้มันในการสร้างหมู่บ้านขนาดใหญ่ขึ้นมา แต่กว่าจะให้ผลตอบแทนก็นานอีกหลายเดือน อย่างมากเราใช้เงินนี้ได้แค่สามเดือนเท่านั้น" ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น
พวกมันเคยเป็นลูกขุนนางที่มีชีวิตสุขสบาย แต่ตอนนี้พวกมันเป็นได้แค่กลุ่มคนชั้นปกครองของหมู่บ้านเพียงเท่านั้น แม้จะมีอำนาจมากเหมือนเดิม แต่ทว่าความเป็นอยู่กลับย่ำแย่กว่าเดิมมากนัก และอำนาจที่มีก็แค่กับคนที่อยู่ในหมู่บ้านเพราะเงินที่พวกเขามีก็เท่านั้น ถ้าเงินค่าจ้างหมดเมื่อไร่พวกมันได้หนีหายไปจนหมดแน่นอน
"ไม่ต้องห่วงตระกูลข้ามียอดฝีมืออยู่หลายคน เราจะรวมกลุ่มเป็นกองโจรเล็กๆค่อยปล้นเสบียและสินค้าในทางผ่านมกล้ๆกับหมู่บ้าน น่าจะช่วยให้เราอยู่รอดไปได้หลายเดือน" ชายหนุ่มอีกคนกล่าวขึ้นมา ก่อนที่ทุกคนจะพยักหน้าเห็นด้วย แม้จะเสี่ยงกับการถูกทหารปราบปราม แต่ก็ยังนับว่าเป็นทางต่อลมหายใจที่ไม่เลว
"ส่วนเรื่องรายได้ของหมู่บ้าน เจ้าก็จัดการขุดเหมืองด้วยความรู้ของตระกูลเจ้าให้ได้ เพราะมันจะเป็นแหล่งรายได้หลักของเรานับจากนี้ เมื่อเรามีเงินมากพอจะจ้างช่างตีเหล็กได้สักคน เราจะเริ่มสะสมกองกำลังกันอีกที"
แผนการคราวๆถูกพวกมันร่างขึ้นมาตลอดทั้งคืนทั้งวัน จนเวลาผ่านไปสามวันพวกมันก็เริ่มดำเนินแผนการอย่างลับๆ
หมู่บ้านของพวกมันตั้งอยู่ในภูเขาที่เคยเป็นเหมืองเก่าที่ถูกทิ้งร้างไปนานหลายร้อยปี ด้วยโครงสร้างของเหมืองที่ดีอยู่ ทำให้มันเป็นที่ซ่องสุ่มกำลังเป็นอย่างดี การป้องกันก็มีทั้งปราการธรรมชาติและสามารถสร้างกำแพงขึ้นได้อีกชั้นหนึ่ง
ด้วยทรัพย์สินที่มีอยู่มากมายในตอนแรก ทำให้หมู่บ้านนี้ถูกสร้างอย่างรวดเร็วและมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง แต่มันก็ทำให้เงินตราที่พวกเขาขนย้ายออกมาเกือบหมดเกลี้ยง แต่ด้วยการปล้นและขายแร่เหล็กให้กับเมืองใกล้เคียง ทำให้พวกมันตั้งตัวได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากการปล้นเพื่อรวบรวมเสบียงและสินค้าแล้ว มันยังเป็นการลดค้าใช้จ่ายด้วยการนำเอาสินค้าที่ได้มามาใช้ในการบำรุงหมู่บ้านอีกทางหนึ่ง และนำมันไปส่งขายด้วยการปลอมแปลงสักเล็กน้อย
นอกจากพวกมันแล้วยังมีอีกหลายกลุ่มที่ทำเช่นเดียวกันกับพวกมัน ตั้งหมู่บ้านไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองหลวง ปล้นเสบียงและสินค้าเล็กๆน้อยเพื่อประคองหมู่บ้าน และสร้างสินค้าส่งขายตามความถนัดของตระกูลที่รวมมือกัน ก่อนจะเริ่มสะสมกองกำลังขึ้นอย่างเงียบๆ
ด้วยสภาพการณ์เช่นนี้ทำให้ศัตรูเหมือนกับไร้ตัวตนให้จับจ้อง ไม่มีใครรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงรอบเมืองหลวงแม้แต่น้อย เพราะพวกมันขึ้นตรงกับเมืองรอบเมืองหลวงโดยใช้ชื่อตระกูลใหม่และแปลงโฉมตระกูลเสียใหม่ทั้งสิ้น
หลังจากผ่านไปสองเดือน หมู่บ้านเกิดใหม่รอบเมืองหลวงมีจำนวนถึงสิบกว่าหมู่บ้าน พวกมันกระกิดให้เหล่าขุนนางและหน่วยลับส่งคนไปตรวจสอบ แต่ก็พบว่ามันเป็นเพียงหมู่บ้านที่หนีจากภัยสงครามที่ผ่านมาเท่านั้น
การตรวจสอบไม่พบถึงความผิดปรกติใดๆเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกมันใช้เงินมหาศาลในการปลอมแปลงตัวตนในครั้งนี้ ทั้งประวัติและความเป็นมาใหม่และใสสะอาดทั้งหมด มีเพียงเรื่องของกลุ่มโจรที่อาระวาดเป็นระยะรอบๆหมู่บ้านเท่านั้น แต่ก็เป็นเรื่องปรกติของแผ่นดินนี้จะมีโจรที่ออกตระเวนปล้นตามหมู่บ้านใหม่ๆ เพราะว่าพวมันต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการบำรุงหมู่บ้านในตอนเริ่มต้น
ในช่วงที่หมู่บ้านพวกนี้ตั้งตัวได้ ก็มีหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งที่ถูกตั้งขึ้นมาเช่นกัน แต่มันไม่ขึ้นตรงต่อใครนอกจากองค์รัชทายาทเท่านั้น ซึ่งนั้นทำให้มันไม่ถูกตรวจสอบและไม่มีการส่งส่วยให้กับเมืองใกล้เคียง
แต่หมู่บ้านแบบนี้ก็ไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่จากคริสตัลเมือง ทำให้พวกมันต้องรับมือตามมีตามเกิดเพียงเท่านั้น แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนในหมู่บ้านนี้แน่นอน
ในเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์หมู่บ้านขนาดเล็กที่มีประชากรยี่สิบครัวเรือนก็ตั้งขึ้นอย่างเสร็จสมบูรณ์ กำแพงหมู่บ้านและการวางผังหมู่บ้านล้ำหน้ากว่าหมู่บ้านใดๆ มันสามารถขยายออกมาไปอีกเรื่อยๆในทุกทิศทาง
มหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าโบราณทางเหนือของอาณาจักร ที่ซึ่งยากลำบากในการอยู่รอดเป็นอย่างยิ่ง ด้วยจำนวนสัตว์เวทที่ซุกซุมและสภพแวดล้อมที่แปลกประหลาดเล็กน้อย
กล่าวคือมันเป็นป่าที่มีสภาพแวดล้อมอยู่สองอย่างคือร้อนชื้นในตอนกลางวัน และหนาวเย็นราวกับหน้าหนาวในตอนกลางคืน ทำให้การปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์เป็นไปได้ยากเป็นอย่างมาก
แต่ด้วยความสามารถของเจ้าของหมู่บ้าน สิ่งเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงในไม่ช้า ในพื้นที่รอบหมู่บ้านยาวไปจนถึงนอกหมู่บ้านในรัศมีนับได้หนึ่งกิโลเมตร มันมีสภาพอากาศเหมาะสำหรับการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ตลอดทั้งปี
พวกมันถูกลงวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังมานาในธรรมชาติที่มีเหลือเฟือจากป่าแห่งนี้ แม้มันจะเป็นหมู่บ้านแต่ไม่ได้รับการถอนต้นไม้ให้ออกทั้งหมด พวกเขากลับทำมันให้เป็นหมู่บ้านที่ซ่อนอยู่ในป่าแทน คล้ายกับที่ชาวอาณาจักรพฤษาพันปีทำ
"ดูเหมือนว่าหมากตาที่สองพวกขุมอำนาจเก่าจะได้เปรียบอาณาจักรสินะ เรามาดูกันดีกว่าระหว่างพวกเจ้าและข้าใครจะพัฒนาหมู่บ้านได้ดีกว่ากัน หึหึ" ครรชิตมองไปยังทางใต้ของหมู่บ้าน ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สร้างเมืองแข่งกันเพื่อ? หาข่าวให้รัชทายาทเพื่อกวาดล้าง(เงา) แต่พอมีกลุ่ม(เงา)ที่รอดไปสร้างเมือง ดันสร้างเมืองแข่งกับเขา
อ่านๆมาเพิ่งนึกออก ไอสัญญาเปล่าไรนั้นมันทำไรได้ ไอที่ได้ตั้งแต่เด็กๆอะ ไม่เห็นแม้งจะมีความสำคัญสักนิด อาณาจักรแห่งพันธะสัญญาซึ่งหลังๆไม่มีพูดถึงเรื่องพันธะสัญญาเลยสักนิด