ตอนที่ 9 : Video Game - 2
นกสีฟ้า
AMURO x OC
------------------------------------------------------
Video Game - 2
Watching all our friends fall
In and out of Old Paul’s
This is my idea of fun
Playing video games
ใครกัน!?
ไม่มีร่องรอยหรือทันรู้สึกตัวเลย…
ไอรีนพลิกตัวกลับตั้งแต่เท้ายังไม่แตะพื้น ขาตวัดฟาดไปอย่างแรงเพื่อป้องกันตัวในทันที ทว่าอีกฝ่ายกลับตั้งรับได้ในเสี้ยววิบ่งบอกว่าสัญชาตญาณของเขาเองก็ไม่ใช่เล่นๆ เช่นกัน
“เกือบไปแล้วเชียว… เป็นเด็กอันตรายใช่เล่นนะ”
“เหอะ!” เด็กหญิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เพราะมั่นใจว่าถ้านี่คือร่างเดิมเธอจะสามารถทำให้แขนที่ยกรับการเตะนั้นหักได้แน่ๆ ดวงตาที่ถูกฝึกมาให้มองในความมืดพิจารณา คนตรงหน้าคือชายหนุ่มท่าทางสุภาพ ดูทรงแล้วเหมือนจะเป็นนักศึกษาไร้พิษภัยคนหนึ่ง
ถ้าไม่ติดว่าสามารถรับการโจมตีเธอได้ล่ะนะ
การโจมตีของเธอย่อมถูกฝึกมาอย่างดี ดังนั้นมันต่างจากการโจมตีทั่วไป หรือว่าท่วงท่าของนักกีฬา แม้ว่าไอรีนจะอยู่ในร่างที่ไม่สะดวกต่อการต่อสู้แต่นั่นย่อมไม่ได้หมายความว่าคนปกติธรรมดาจะรับมือมันได้ง่ายดายเช่นนี้
เขาไม่ธรรมดาจริงๆ!
ร่างเล็กกระโจนเข้าใส่เขาอีกครั้งไม่เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้ตั้งตัวหมัดเหวี่ยงเข้าที่หน้า เธอไม่ได้หวังผลว่าจะน็อคอีกฝ่ายในทีเดียว แค่หวังว่าเขาจะยกมือขึ้นมากันเปิดจังหวะให้หนีไปได้เท่านั้น
ไอรีนมั่นใจว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ตำรวจ ทั้งท่าทาง การลงมือและการที่แอบมาดักคอยอยู่ที่นี่คล้ายจงใจไม่ให้เรย์รับรู้ถึงตัวตน มั่นใจด้วยว่าเขาไม่รู้ว่าเธอจะออกมาทางหน้าต่างนี้ไม่เช่นนั้นคงมีการเตรียมพร้อมที่ดีกว่านี้ การที่ไอรีนออกมาเป็นโชคของเขาเฉยๆ
อีกฝ่ายมีฝีมือพอสมควร ดังนั้นการหลบหนีจึงเป็นไปได้ยากเหลือเกิน เด็กหญิงก้าวถอยหลัง
“ถ้านี่เป็นร่างจริงๆ ของเธอ ฉันคงพลาดไปเหมือนกันนะ แต่เพราะว่านี่คือร่างเด็กแรงมันเลยลดลงตามทางกายภาพนั่นแหละ”
ทำไมถึงรู้!?
“…”
“จะหนีเหรอ ? เราลองมาคุยกันสักหน่อยน่าจะเป็นประโยชน์กับเธอกว่าหรือเปล่า ?”
“คุณเป็นใครเหรอคะ ?” ไอรีนแสร้งตีหน้าซื่อ “รู้ไหมคะว่าการลักพาตัวเด็กผู้หญิงแถมยังใช้ความรุนแรงกับเธอด้วยเนี่ย มันไม่ดีเลยนะ ?” แม้จะรู้ว่าไม่ทันแล้วก็ตามที
เด็กหญิงก้าวถอยหลัง คิ้วกระตุกเมื่อเห็นว่าหนุ่มนักศึกษาตรงหน้าตนเองส่งเสียงหัวเราะออกมาราวกับว่าคำพูดของเธอนั้นมันตลกนักหนา
หนอย! ไอรีนพยายามห้ามใจไม่โชว์นิ้วกลาง เธอสบถในใจอย่างหยาบคาย แม้ว่าใบหน้าจะยังนิ่งงันราวกับว่ากำลังระมัดระวังอยู่ก็ตามที
ฉันก็กระดากปากที่ทำตัวไร้เดียงสาเหมือนกันย่ะ ไม่ต้องมาหัวเราะหรอก ฉันรู้ดีว่ามันน่าตลก!
แม้จะน่าอายแต่ไม่ปฏิเสธว่าที่ทำเช่นนี้ เอ่ยวาจาน่ารักๆ ผิดอายุออกไป เพราะกำลังพยายามมองหาทางหนีทีไล่ ถึงจะมั่นใจในทักษะของตัวเองที่ฝึกมามากแค่ไหน แต่ก็แพ้เพราะลักษณะทางกายภาพอยู่ดี
หรือเธอจะกลั้นใจตะโกนเรียกเรย์ให้ลงมาช่วยดี…?
ให้เขาสอบถามว่าเธอนึกคึกอะไรกระโดดลงจากหน้าต่างเลยโดนลักพาตัวดีกว่าการโดนลักพาตัวไปจริงๆ…
ไม่ ไม่มีทาง เขาจะไม่ปลอดภัย! โถ่เอ้ย! เกลียดร่างเด็กชะมัด!
“พี่ชาย คุณเป็นพวกของสีดำหรือเปล่าคะ ?”
“เปล่า เขาไม่ใช่พวกเดียวกับองค์กร” ทว่าเสียงที่ตอบกลับมาคราวนี้กลับคุ้นเคยยิ่งนัก เมื่อมองตามไอรีนก็พบกับเด็กคนนั้น เอโดงาวะ โคนัน!
“รบกวนพี่คริสตี้ไปด้วยกันหน่อยจะได้มั้ยครับ”
“ถึงแล้วล่ะ”
“…”
“พี่คริสตี้ครับถึงแล้วนะ!”
“อ้ะ… อือ” ไอรีนเคยคิดว่าเด็กที่ชื่อโคนันไม่ธรรมดา เธอคิดเสมอว่าเด็กคนนี้มันเกะกะเวลาจะทำอะไร เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็โดนจับตาดูอยู่เสมอแถมถามนั่นถามนี่จนน่ารำคาญ เป็นคำถามแสนรู้ราวกับว่าพยายามจะไล่ต้อน แต่กระนั้นก็ไม่ถึงกลับบีบบังคับ ยังพอรู้จักหยุดและเว้นระยะ ไม่ให้จนตรอกจนเกินไป
แต่ในคำถามพวกนั้น ถ้าหากไม่ติดว่าตัวของเธอเคยไปอเมริกามาบ้างเหมือนกันจากภารกิจ ก็คงตอบคำถามของเด็กนี่ไม่ค่อยได้เหมือนกัน
ก็คิดอยู่ว่าไม่ธรรมดาแต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นร่วมมือกับเอฟบีไอ!
“ตอนแรกพวกเราพยายามตามหากันมากว่าพี่คือใครกันแน่ เพราะผมแน่ใจว่าพี่อามุโร่นั้นไม่มีทางมีน้องสาวเด็ดขาด” โคนันอธิบายขณะที่พวกเธอกำลังเดินเข้ามาในบ้าน
ไอรีนอยากถามว่าการที่พูดแบบนี้แปลว่าเขาก็รู้ความจริงใช่ไหมว่าอามุโร่ โทโอรุไม่ใช่ชื่อจริงๆ ถึงได้มั่นใจว่าเขาไม่มีทางมีน้องสาว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ถ้าเผื่อว่าโคนันไม่รู้แล้วเธอพูดออกไปมันคงเป็นการเรียกศัตรูหรือจับอดีตคนรักมาแก้ผ้า (ความลับ) ออกเสียมากกว่า
“ฉันพลาดตรงนี้สินะ มิน่าล่ะ…” แสร้งพูดออกไปเช่นนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้ถืออะไรเรื่องที่ตัวเองถูกจับได้ว่าไม่ใช่น้องสาวของเรย์จริงๆ
ไอรีนเหลือบมองชายหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นระยะ แม้เจ้าตัวจะไม่ได้พูดอะไรเลย ทว่าความรู้สึกลึกๆ กลับบอกว่าจะประมาทคนคนนี้ไม่ได้
“ก็นะ หลังจากคลำหากันอยู่นานว่าพี่เป็นใครกันแน่ เราก็เบนเหตุการณ์ไปที่ฝรั่งเศส เดิมทีแล้วผมสงสัยว่าคุณคือไอรีน นักเขียนที่เสียชีวิตไปเพราะเหตุกราดยิงเนื่องจากโครงหน้าของคุณไม่ต่างจากเธอในตอนเด็ก จะมีแตกต่างกันก็แค่สีผมและสีตา ทว่าพอลองเข้าดูข้อมูลของจีไอจีเอ็นที่คุณสึบารุใช้เส้นสายหามาดูจนได้ ก็พบว่ามีคนคนหนึ่งซึ่งมีข้อมูลตรงกับพี่เอามากๆ ทั้งสีผม ลายนิ้วมือ ม่านตา แต่เธอไม่ใช่ทากิซาวะ ไอรีน เธอเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยปฏิบัติภารกิจพิเศษของจีไอจีเอ็นที่เข้าร่วมภารกิจนอกกฎหมายอันหนึ่งอยู่ เธอคนนั้นชื่อคานาเอะ ยู อายุยี่สิบสี่ ผมเลยสงสัยและอยากได้คำตอบจากพี่สาวเองว่าพี่สาวคือใครกันแน่”
“งั้นนี่ก็คือเหตุผลที่เธอพาฉันมาที่นี่สินะ” ดวงตาของไอรีนหรี่ลง
แปลก…
จุดเชื่อมโยงระหว่างคริสตี้กับฝรั่งเศส หรือไอรีน ลากยาวไปจนถึงจีไอจีเอ็นนั้นมันไม่ใช่ว่าแค่เดาจะเดาถูกเสียหน่อย
ใครกันที่เป็นต้นคิด ใครกัน…
“นั่นก็เหตุผลหนึ่งนะ” สึบารุที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นมาบ้าง ขณะที่เปิดประตูเข้าไปภายในตัวบ้าน ไอรีนเอียงคอ ยังคงแสดงท่าทีไร้เดียงสาออกมาได้อย่างแนบเนียน จากคำพูดของโคนันนั่นแปลว่าพวกเขายังไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเธอคือทากิซาวะ ไอรีนจริงๆ
งั้นก็น่าสงสัยว่าอะไรคือจุดเชื่อมโยงคริสตี้ไปฝรั่งเศส เธอไม่เชื่อหรอกว่าอยู่ๆ พวกเขาจะจับจุดได้แค่เพียงได้คุยกับเธอ ไม่มีทางอย่างเด็ดขาด
“อีกเหตุผลหนึ่งเหรอคะ แปลว่ายังมีอีกเหรอ ?”
“ใช่”
ไอรีนอยากถามอีก ทว่าเธอกลับต้องนิ่งงันเมื่อเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไออีกสองคนกำลังเปิดดูคลิปวีดีโอที่ตัวเธอกำลังคุยกับเพื่อนร่วมงานผ่านทางโทรศัพท์เกี่ยวกับภารกิจเมื่อสายของวันนี้ มันเป็นคลิปที่เธอต้องการเอาคืนจากตำรวจที่เรย์สั่งให้มาเฝ้าตนแน่ๆ ล่ะ
และดูจากกระดาษที่คอยจดนั่นบอกให้รู้ว่าพวกเขาเข้าใจแล้วว่าเธอส่งรหัสมอสไปตอนที่พูด
“เราสงสัยในข้อความที่เธอส่งให้ใครสักคนโดยใช้รหัสมอส ที่บอกว่าให้ดำเนินการตามแผนเดิมเพื่อล่อจับรัมมันหมายความว่าอย่างไง ?”
ชิบหาx
“ตำรวจนั่นคือเอฟบีไอเหรอ…” เด็กหญิงเอ่ยก่อนสะบัดหน้าไปมา เพื่อเรียบเรียงความคิดเสียใหม่ “ไม่ใช่สิ พี่อามุโร่ไม่ชอบเอฟบีไอดังนั้นพวกคุณน่าจะไปชิงขโมยมามากกว่า ให้เดาว่าพวกคุณสงสัยในตัวของหนู หรือไม่ก็รู้ว่าพี่อามุโร่จะทำอะไรบางอย่างเลยขัดขวางสินะ ?”
ความเงียบเกิดขึ้นมันแปลว่าเธอเดาถูก ดูเหมือนว่าพวกอีกาจะมีศัตรูมากกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ เสียดายนักที่ข้อมูลที่เธอรับรู้มีจำกัด เธอไม่ได้รับอนุญาตให้แฝงตัวเข้าไปเป็นน็อคจึงทำได้แต่เพียงรอรับข้อมูลและดำเนินการขัดขวางเท่านั้น ไอรีนอดทอดถอนใจให้แก่ตนเองไม่ได้ที่ประมาทมากไปจนสุดท้ายแล้วตัวตนของเธอก็คล้ายกับจะถูกล่วงรู้ไปเสียได้
แม้จะไม่ทั้งหมด…
“จะว่าไปแล้ว…” สาวผมทองที่เธอเดาว่าเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอพึมพำ เด็กหญิงเอียงคอ
“คะ ?”
“น่ารักจังเลย!”
คนถูกชมทำหน้าแหยง ไม่ใช่ว่าไม่ชอบคำชมหรืออะไร เพียงแต่เธอไม่คิดว่าจะได้รับคำชมภายใต้สถานการณ์นี้ต่างหาก แม้ว่าตอนอยู่บนรถโคนันจะเล่าเรื่องให้ฟังคร่าวๆ แล้วว่าตัวของโอกิยะ สึบารุหรือก็คือพ่อหนุ่มที่ดูเป็นนักศึกษาคนนั้นเป็นเอฟบีไอซึ่งไม่ถูกกับเรย์ เขากำลังตามสืบเรื่ององค์กรเหมือนกัน แต่กระนั้นมันก็ยังกำกวมไปหมด พอคิดว่ามาถึงที่หมายจะได้พูดอะไรที่มันจริงจังดันเจอเข้ากับอะไรก็ไม่รู้นี่สิ
“ก็ดูสิ อย่างกับตุ๊กตาเลยนี่นา… ตัวเล็กๆ หัวกับตาโตๆ…”
แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรมากกว่านั้น ร่างของหญิงสาวผมทองสว่างกลับถูกดึงออกไปแล้วแทนที่ด้วยใครบางคน ใครบางคนที่ไอรีนแน่ใจว่าเคยเห็นใบหน้านี้มาก่อน เพียงแต่น่าแปลกใจที่เจ้าตัวไม่เปลี่ยนไปเลยแม้ว่าเวลาจะผ่านไปสิบกว่าปี ใครบางคนที่ควรจะอยู่ในองค์กรนั่น
ไอรีนมั่นใจว่าเธอไม่มีทางจำเด็กคนนี้ผิด
และเมื่อลองคิดดูว่าทำไมเอฟบีไอถึงเชื่อมโยงตัวตนของคริสตี้ไปถึงฝรั่งเศสได้นั้น ก็คงมีแค่เหตุผลเดียว
มิยาโนะ ชิโฮะ
“ไม่ได้เจอกันนานนะคะ ไอรีน”
ดวงตาสีอเมทิสต์หันมองไปรอบกาย มือเล็กยกขึ้นป้องหน้าตัวเองก่อนจะเริ่มหัวเราะ “ให้ตาย โดนเข้าแล้วสิ…”
มันแน่อยู่แล้วว่าเธอไม่ได้รู้จักกับเด็กคนนี้เป็นการส่วนตัว ครอบครัวของเธอถูกฆ่าตอนเธออายุสิบสาม เวลานั้นเด็กคนนี้น่าจะพึ่งเกิดเสียด้วยซ้ำ แต่ไอรีนก็เคยเห็นหน้าเธอสมัยเด็กมาบ้างเพราะส่วนหนึ่งคนที่แอบเข้ามาทำการรักษาให้เธอโดยระวังไม่ให้องค์กรรู้ก็คือพ่อกับแม่ของเด็กหญิงตรงหน้านั่นแหละ
มันคือความช่วยเหลือจากเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ในวงการนักวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกัน
ดังนั้นเธอไว้ใจแม่ของมิยาโนะ ชิโฮะและนับเป็นบุญคุณเสมอ
ดังนั้นแล้ว…
“เอาสิ อยากรู้เรื่องอีกา ทากิซาวะ ไอรีนหรือว่าเรื่องของคานาเอะ ยูฉันจะเล่าให้ฟังทั้งหมดแต่แลกกันพวกคุณก็ต้องเล่าเรื่องที่พวกคุณรู้และจะดีมากถ้าให้ความร่วมมือในแผนการของฉันเกี่ยวกับการล่ารัมด้วย” เพราะอย่างไรเสียก็ต้องเปิดเผยตัวตนของตนเองในอีกไม่ช้า ดังนั้นแล้วเธอจึงไม่คิดใช้สรรพนามเหมือนเด็กอีกต่อไป ดวงตาสีม่วงเปล่งประกาย บรรยากาศในห้องเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดในทันที
“พูดแบบนี้แสดงว่าเธอมีเหยื่อที่จะใช้ล่อมันออกมาสินะ…”
กว่าจะได้กลับมายังห้องก็เกือบสายใกล้ถึงเวลาตื่นนอนของเธอพอดี ไอรีนมองหน้าต่างห้องที่เธอกับเรย์อยู่ก่อนเริ่มปีนขึ้นไปด้วยความคล่องแคล่ว เด็กหญิงไม่คิดจะเข้าทางประตูหน้าให้เขารู้ตัว
เหตุผลหลักๆ เลยเพราะเธอพึ่งตกลงให้เอฟบีไอสอดมือเข้ามาในแผนการที่ควรมีแต่จีไอจีเอ็นและพวกสันติบาลเท่านั้น ซึ่งถ้าเรย์รู้คงยอมรับไม่ได้อยู่แล้ว
มือกำราวระเบียงขณะออกแรงเกร็งตัวเพื่อเหวี่ยงร่างกายของตัวเองขึ้นมา สมองยังคงคิดถึงบทสนทนาแบบส่วนตัวระหว่างตนกับเอฟบีไอสาวที่ชื่อโจดี้ ทั้งที่ควรจะตัดมันออกจากหัวไปแท้ๆ แต่มันกลับติดตึงอยู่ในหัว
‘เธอจะไม่บอกเขาเหรอ ?’ หล่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด แววตาคู่นั้นที่จ้องมองมาราวกับกำลังมองผ่านเธอไปถึงบางสิ่ง แววตาของคนที่คิดถึงอดีต
‘จะไม่บอกเขาเหรอว่าเธอคือคนรักของเขาและเธอยังไม่ตาย’
ไอรีนเข้าใจความหมายนี้ดี เพราะในขณะที่เล่าแผนและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันกับทั้งโคนันและสึบารุ โจดี้เป็นเพียงคนเดียวที่พยายามเอ่ยขัดเรื่องที่เธอไม่ยอมบอกกับเรย์ว่าตัวตนที่แท้จริงของตัวเองคือใคร ต่างจากสองคนนั้นที่ไม่ได้ขัดขวางอะไรซ้ำยังสนับสนุนให้เธอเก็บเป็นความลับนั่นแหละดีแล้ว
‘ใช่สิ ก็ฉันกลายมาเป็นแบบนี้นี่นา ขืนเขารู้ว่าคนรักตัวเองกลายมาเป็นแบบนี้คงเสียใจเปล่าๆ’ หญิงสาวในร่างเด็กหญิงว่า สังคมในยุคปัจจุบันที่ให้ความสนใจแก่ความรุนแรงที่เกิดในเด็กและ Pedophilia ภาพลักษณ์นั้นสำคัญมากกว่าที่คิด อีกทั้งร่างเด็กนี่ยังอ่อนแอเกินไป แค่ปกป้องตัวเองด็นับว่าเต็มกลืนแล้ว ถ้าต้องลากเรย์เข้ามาเกี่ยวข้องในส่วนที่มากกว่าความรับผิดชอบของเขาเอง…
‘ไม่ได้หรอก ฉันรู้ว่าเรย์แข็งแกร่ง เขามีพละกำลัง มีเส้นสายและอำนาจ ป้องกันตัวเองได้ แต่ว่ามันก็จำกัดด้วยคำว่ากฎหมาย ฉันยอมไม่ได้หรอกถ้าเขาจะต้องเจ็บเพราะตัวของฉันเอง’
เธอยอมที่จะเป็นคนโกหก
ขอแค่เขาปลอดภัย
อย่างน้อยก็อยากให้รอจนเธอหาทางคืนร่างเดิมได้อย่างถาวร อย่างน้อยก็รอให้ทุกอย่างจบ อย่างน้อยถึงตอนนั้นเธอก็จะสามารถบอกความจริงให้แก่เขาได้โดยไม่ต้องกังวล
ตอนนั้นต่อให้โดนโกรธก็จะไม่เสียใจอะไร
แต่ถ้านานขนาดนั้นเขาจะยังรักเธอไหมนะ ?
‘ดังนั้นให้เรย์เข้าใจว่าไอรีนตายไปแล้วเพื่อที่เขาจะได้หรือว่าความรู้สึกเปลี่ยนไปแล้วฉันก็จะยอมรับ’
‘แต่ว่า…’ โจดี้พยายามที่จะเอ่ยเกลี้ยกล่อมคริสตี้อีกทีหนึ่ง หญิงสาวยอมรับว่าตนเองกำลังปล่อยให้อารมณ์ส่วนตัวมานำเหตุผล เพราะว่าเธอคิดถึงเรื่องของตัวเองกับอากาอิ มันทรมานใจจริงๆ กับการไม่รู้อะไร
สำหรับเธอการได้รู้และอยู่ข้างๆ คนรักนั่นเพียงพอแล้ว
‘โจดี้’ สึบารุเอ่ยปรามขึ้นมาเบาๆ ทำเอาหญิงสาวเงียบเสียงลง
เธอยกมือยอมแพ้ ดูเหมือนเรื่องความรักคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคนสินะ
ปลายเท้าแตะลงที่พื้นระเบียงห้อง ไอรีนปัดฝุ่นที่ติดตามชุดนอนออก วันที่ถึงกำหนดการณ์นัดรับหนังสือนั่นเธอคงต้องขอให้เพื่อนร่วมงานช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับเอฟบีไอเสียหน่อยเพราะมีบางสิ่งเกี่ยวกับสึบารุซึ่งเธอคาใจ เด็กหญิงครุ่นคิดก่อนจะหยุดชะงักเมื่อพบว่ามีใครบางคนนั่งรออยู่บนเตียงอยู่แล้วด้วยท่าทีใจเย็นขัดกับบบรยากาศมาคุรอบตัวโดยสิ้นเชิง
“เรย์…”
โป๊ะแตกว่าแอบออกไปข้างนอก…
มีอะไรเข้าใกล้คำว่าหายนะกว่านี้อีกไหมนะ ?
“ไง กลับมาแล้วเหรอ คุณ น้อง สาว” น้ำเสียงนั้นนิ่งสงบ หากแต่แววตาสีซีดกลับมีความโกรธปะปนอยู่ไม่น้อย และคำถามของเขาก็ยิ่งตอกย้ำให้ไอรีนรับรู้ว่าตัวเองไม่น่ารอด “คลิปที่อัดมีอะไรสำคัญหรือไงครับถึงต้องไปขโมยคืนมา ?”
อ้อ มี…
หมายถึงมีสิ่งที่ใกล้เคียงกับคำว่าหายนะและมีอะไรอยู่ในคลิป
มองดูเพื่อนของเราค่อยๆ ล้มลง
พวกเขาเข้าและออกในโบสถ์
ฉันมีความคิดสนุกๆ
เล่นวีดีโอเกม
TBC.
------------------------------------------------------
ไอรีน...เธอก็โป๊ะแตกตลอดนั่นแหละ-
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เจอคนรู้ทันหลายคนเลยแหะ