ตอนที่ 6 : Teacher’s pet
นกสีฟ้า
AMURO x OC
------------------------------------------------------
Teacher’s pet
If I’m so special, why am I secret?
Yeah, why the x is that?
Do you regret the things we shared that I’ll never forget?
‘ลุกขึ้น! ฉันสั่งให้เธอลุกขึ้นถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ หากเธอไม่ลุกนอกจากไม่เพียงแต่ฉันจะไล่เธอออกไปจากการฝึก ฉันจะถอนเธอออกจากภารกิจของเราด้วย!’ น้ำเสียงนั้นดุดันและเข้มงวด น้ำเสียงที่ฝังตรึงอยู่ในสมอง เสียงที่คงไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่สุภาพอย่างเขาจะเป็นคนเปล่งออกมา
‘เซย์ใจเย็นๆ นั่นน้องสาวนายนะ…’ คนหนุ่มที่อยู่ข้างๆ กันกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทีกระอัดกระอ่วนยามมองเด็กสาวอายุน้อยที่สุดในห้องที่พึ่งถูกซัดให้หมอบลงไปกองกับพื้นซึ่งกำลังพยายามยันกายให้ลุกขึ้น บริเวณข้อมือของเธอบวมช้ำไม่รู้ว่าซ้นหรือหักดูแล้วน่าสงสารไม่น้อย
‘อึก…’ ความเจ็บนั้นมันมากพอที่จะทำให้หยาดน้ำไหลร่วงออกมาจากดวงตา แต่ก็เพียงแค่หยดเดียวเท่านั้นก่อนที่ใบหน้างดงามเกินอายุจะแปรเปลี่ยนเป็นราบเรียบเย็นชา
ราวกับตุ๊กตา…
‘ลุกขึ้นมาไอรีน ลุกและจำเอาไว้ว่าศัตรูของเธอไม่มีเวลาให้เธอลุกนานขนาดนี้หรอก!’ เมื่อเห็นว่าเด็กสาวไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ชายหนุ่มจึงก้าวเข้าไปกระชากแขนเธอสุดแรงทำเอาเด็กสาวถึงกับเซ โดยไม่สนใจเสียงห้ามของเพื่อนตัวเองแม้แต่น้อย
‘พี่เซย์…’
ดวงตาสีอเมทิสต์เบิกกว้างเมื่อกรามถูกบีบเพื่อบังคับให้เงยมองสบตากับเขา วาจาร้ายกาจเด็ดขาดยังถูกเอ่ยออกมาเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าคนรับฟังนั้นมีสภาพไม่พร้อมแต่อย่างไ
‘ต่อให้มือกับเท้าไม่ไหวก็ต้องหาอย่างอื่น เปลี่ยนทุกส่วนในร่างกายให้เป็นอาวุธซะ อย่าเอาความเจ็บมาคิดเล็กคิดน้อยจนปิดทางรอดของตัวเองไปจนหมด!’
‘…’
‘ต่อให้ถูกเรียกว่าหมาจนตรอก ก็จงยอม จำไว้ ทากิซาวะ ไอรีน เธอต้องทำทุกอย่างในการต่อสู้จริง ใช่ ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองไม่ตาย เพราะพ่อกับแม่เธอยอมตายเพื่อให้เธอรอด ไม่ได้ตายเพื่อให้เธอเอาชีวิตมาทิ้งๆ ขว้างๆ!’
…!!!
“อึก!” ดวงตาสีอเมทิสต์เบิกกว้าง คนที่จมไปในห้วงความฝันร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ภาพเพดานห้องพร่าเลือนบ่งบอกว่าเธอกำลังร้องไห้กระนั้นแล้วบรรยากาศที่แสนคุ้นเคยก็ทำให้ใจซึ่งเต้นแรงเพราะเรื่องราวในอดีตค่อยสงบลงได้บ้าง
หญิงสาววัยสามสิบเอ็ดปีในคราบของเด็กหญิงวัยสิบขวบถอนหายใจพลางพลิกตัวไปมา ฝังใบหน้าลงกับหมอนของเจ้าของห้องหวังให้คราบน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดนี้ไหลเปื้อนนี้ซึมมันลงไปในเนื้อผ้า
“หยุดสิ หยุด…” เพราะไม่ได้ร้องไห้มานานมากจึงไม่รู้จริงๆ ว่าจะต้องจัดการกับมันอย่างไร ดังนั้นแล้วริมฝีปากจึงพึมพำซ้ำไปซ้ำมาราวกับว่าผู้พูดกำลังสะกดจิตตัวเอง
ไม่คุ้นชิน…
แม้จะผ่านมาแล้วสองปีก็ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย…
ให้ตายยังไงก็ไม่สามารถคุ้นชินกับร่างกายที่เปลี่ยนมาเป็นเด็กเล็กนี่ได้เลย แม้จะเป็นเด็กแบบนี้มานานถึงสองปีแล้วก็ตาม
สองปีที่เธอติดอยู่ในร่างเด็กแบบนี้ สองปีที่ราวกับทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน สองปีที่บอกข่าวออกไปว่าตัวจริงของเธอนั้นได้ตายจากไปแล้ว สองปีที่อยากกลับมาหาคนรักตามสัญญาว่าเมื่องานเสร็จแล้วให้กลับบ้านแต่ไม่อาจทำได้
สองปีที่ต้องโกหกเขา…
เรื่องราวมันแฟนตาซีเกินกว่าจะยอมรับได้ง่ายๆ
ในคราแรกตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกลายเป็นเพียงเด็กน้อยทุกคนที่รู้เรื่องทราบดีว่าไอรีนอาละวาดหนักมากเพียงไร หากแต่หลังจากทำการขว้างปาข้าวของรวมถึงคำรามด้วยความโกรธเพราะจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองก่อนจะกลายเป็นเด็กจนพอใจเธอก็เริ่มหัวเราะ
หญิงสาวในร่างเด็กหัวเราะ
เธอส่งเสียงก้องกังวานใส ท่ามกลางห้องพักคนไข้ที่ข้าวของแตกหัก กระจุยกระจายและเลือดที่ไหลซึมออกจากปากแผล เมื่อรวมเข้ากับใบหน้างดงามเกินมนุษย์และสีผมที่เหมือนว่าจะกลับมาเป็นสีตามธรรมชาติเมื่อร่างกายย้อนกลับไปเป็นเด็กก็ดูราวกับปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรกที่ลึกที่สุด
คราแรกเธอโกรธที่รู้ว่าตัวเองพลาด
แต่คราต่อมาเธอก็ยินดีที่ตัวเองยังไม่ตายจึงได้หัวเราะออกไปอย่างพึงพอใจ เพราะการที่ไม่ตายนั่นย่อมหมายถึงโอกาสในการแก้แค้นให้ครอบครัวยังคงอยู่
เยี่ยมที่สุด…
ร่างกายสั่นเทาหยุดนิ่ง เสียงสะอื้นหายไปในทันทีที่ความคิดอยากจะแก้แค้นเข้ามาในหัว ทากิซาวะ ไอรีนมักจะมีปฏิกิริยาที่ชัดเจนเมื่อคิดถึงการแก้แค้น ดังนั้นแล้วเธอรู้ดีว่าเมื่อคิดถึงมันน้ำตาของเธอจะหยุดไหล
ซึ่งมันก็เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้เสียด้วย
ร่างเล็กๆ ขยับลุกขึ้นนั่งก่อนกวาดมองไปรอบห้อง ห้องที่เมื่อสองปีก่อนตัวเองได้มีโอกาสมาค้างคืนบ่อยๆ ทุกอย่างไม่เปลี่ยนไปมากนัก เพิ่มเติมคือข้าวของที่มากขึ้น หากแต่ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบสมนิสัย
เมื่อคิดถึงห้องก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะคิดถึงเจ้าของห้อง
เธอและเขามีความทรงจำร่วมกันมากมายในสองปีก่อน ทว่าตอนนี้ไอรีนไม่อาจจะบอกกับเขาไปตามตรงได้ว่าตัวเองคือใคร และคิดว่าคงไม่มีโอกาสสร้างความทรงจำเช่นเดียวกับวันเวลาก่อนๆ อีกแล้ว
ก็ตอนนี้เธอเป็นเด็ก!
แต่ทั้งที่คิดว่าจะไม่มีทางมาเจอกันอีกแล้วแท้ๆ…
ทั้งที่ตัดใจเรื่องที่จะได้กลับมาหาเขาและฟังความจริงจากปากของเขาไปแล้วแท้ๆ แต่ร่างกายเจ้ากรรมกลับทำตามสัญญาที่เคยได้ให้ไว้จนได้รู้ความจริงเข้าษโยบังเอิญเสียนี่
สัญญาที่เคยให้ไว้กับเจ้าของนี้ก่อนที่ตัวตนของเธอจะถูกลบออกไปในฐานะคนตาย
เด็กหญิงยอมรับว่าการที่เขาได้เจอเธอในตรอกร้านปัวโรต์ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นเพราะเด็กหญิงทำสิ่งที่ตัวเองเคยพูดกับเขาเอาไว้เท่านั้น เพราะเคยบอกเขาเอาไว้ว่าถ้าหากวันไหนจะตายจะกลับมาหาเขา
เพราะงั้นตอนที่ถูกไล่ล่าจนปางตายจึงลองไปหาเขาตามที่อยู่ที่เคยสืบทราบมาว่าเขาย้ายมาทำงานที่นี่เพื่อหวังเพียงเห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้าย ทว่าเธอดันหมดแรงเสียก่อน และตอนที่ฟื้นขึ้นมาก็ยังไม่มีสติมากนักจึงโจมตีใส่เขาไปตามสัญชาตญาณ
หมดกันความประทับใจแรก…
ชื่อจริงของเธอคือทากิซาวะ ไอรีน เป็นคนรักของเจ้าของห้องนี้ที่ควรตายไปแล้วเมื่อสองปีก่อน คนที่ถูกเขาปิดบังเรื่องงานมาตลอด ตลกดีที่ตอนอยากรู้ดันไม่รู้ แต่พอตอนที่ไม่อยากรู้กลับได้รับรู้ทุกสิ่งเองด้วยความบังเอิญ เธอรู้ รู้เกือบทุกอย่าง และไม่ได้โกรธอะไร ถ้าพูดให้ถูกก็คือเข้าใจเสียด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่แค่เขาที่โกหกตอนที่คบกัน
ตัวเธอเองก็พูดความจริงเสียที่ไหน…
มีเรื่องจริงเพียงสองเรื่องคือหนึ่งเธอรักเขามากและสองชื่อของเธอ
แต่เธอก็ไม่ได้ร้ายกาจขนาดใช้ชื่อปลอมกับเขาแบบที่เขาใช้กับเธอ เธอแค่โกหกเรื่องงานกับอาชีพเท่านั้น ให้ถือว่าเสมอกันกับที่เขาเองก็หลอกเธอเหมือนกัน
เธอคิดเอาไว้ว่าถ้าเขาไม่พูดออกมาเองกับไอรีนว่าตัวเองชื่อจริงว่าอะไร ตัวเองก็จะไม่มีวันบอกเรื่องราวทั้งหมดของตนให้แก่เขาเช่นกัน
“เจ้าคิดเจ้าแค้นจังนะฉัน… อายุก็ปูนนี้แล้วแท้ๆ”
เอ๊ะ…
อายุ
คนที่กำลังทบทวนเรื่องราวหยุดชะงัก พลันหวนคิดถึงคำถามของอดีตคนรักตัวเองขึ้นมาได้หลังจากที่เอาปืนจ่อเขาและต่อรองกันเมื่อคืน เธอพบว่าเขาถามคำถามแปลกๆ ทว่าในตอนนั้นตัวเองกลับไม่เคยเอะใจเลยว่าเรย์ได้ถามคำถามที่คนปกติไม่น่าจะถามออกมา
คนปกติจะไม่ถามออกมาเช่นนั้นแม้ว่าจะเจอเด็กที่ฉลาดมากเพียงไรก็ตาม เพราะมันคือสิ่งที่เหนือความคาดหมาย
‘เธอไม่ใช่เด็ก ?’
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ และไม่ใช่การลองเชิง นั่นมันหมายความว่ามีคนอื่นที่กลายเป็นเด็กแบบเธองั้นหรือ ?
คล้ายทุกอย่างถูกกวนวนไปวนมาในสมอง…
หลังจากครุ่นคิดจนพอใจ เธอจึงลุกไปรื้อตู้เสื้อผ้าของเขา ไม่คิดจะแสร้งทำเป็นว่าหาของอะไรไม่เจอแต่อย่างใดเพราะมันเสียเวลา ไอรีนมองหาชุดที่ขนาดพอที่จะสวมได้แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานก็ออกมาเพื่อตรงไปยังครัวซึ่งมีกลิ่นหอมอบอวลของอาหาร
ยังเป็นคนที่ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลย
แต่เขานอนน้อยเกินไปหน่อยในความคิดของเธอ
“อ้าว ตื่นพอดีเลย เพื่อต้อนรับน้องสาวคนใหม่ ฉันอุตส่าห์ลางานร้านปัวโรต์วันนี้เพื่อเธอเชียวนะ เพราะดูเหมือนว่าน้องสาวของฉันจะต้องไปซื้อเสื้อผ้าให้ด้วยนี่นา” เรย์เอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นเด็กหญิงออกมาจากห้องนอนในชุดตัวเก่าของเขา
ท่าทางของสันติบาลหนุ่มราวกับจะบอกให้เธอช่วยเห็นใจและซาบซึ้งใจกับสิ่งที่เขาทำหน่อย ทำเอาเด็กหญิงส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆ ก่อนจะหยุดลงที่จานข้าวห่อไข่ของตนเองและอีกฝ่าย
ยังคงทำอาหารเก่งเหมือนเคย
อดเอ่ยชมในใจไม่ได้ แต่กระนั้นกลับแย้มรอยยิ้มราวกับกำลังเหยียดหยันราวกับว่ามันคือสิ่งง่ายๆ ไม่ชวนให้ประทับใจ
มันคือสิ่งที่ไอรีนจะไม่มีวันทำกับเขาอย่างเด็ดขาด ไอรีนมักจะหยอกเย้าโทโอรุคุงของเธอ กระนั้นเจ้าหล่อนจะไม่เคยทำสิ่งที่เรียกว่าการดูถูกแต่อย่างไร ทว่านั่นไม่ใช่กับ อามุโร่ คริสตี้ ตัวตนของเด็กหญิงลึกลับ ที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ ปากร้าย ซ้ำยังสนุกที่ได้ปั่นหัวคนเล่น
ใช่ คริสตี้นั้นคือตัวตนที่เธอสร้างมาเมื่อสองปีก่อนตั้งแต่กลายมาเป็นเด็ก แต่ตอนนั้นไม่มีนามสกุล นามสกุลเธอเปลี่ยนไปตามภารกิจที่ทำ ดังนั้นแล้วแม้บางสิ่งจะไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิดแต่เมื่อไม่ได้อยู่คนเดียว การแสดงออกทุกอย่างของไอรีนจึงไม่ใช่ไอรีนแต่เป็นคริสตี้
มีคนบอกว่าหากอยากเป็นนักแสดงก็ให้เข้าถึงบทบาท การโต้ตอบที่แสดงออกมานั้นต้องไม่ใช่การแสดงออกที่เป็นไปอัติโนมัติของเรา
‘จำไว้ไอรีน ถ้าเธอจะสร้างตัวตนใหม่เธอต้องทำความเข้าใจให้ดีว่าตัวตนนั้นเป็นแบบไหน อย่าให้พลาด เธอต้องสร้างตัวละครนั้นขึ้นมา เข้าใจความคิดของเขาและแสดงมันออกมาในมุมมองของตัวละครนั้นแม้ว่ามันจะดูไร้สาระสำหรับตัวเธอก็ตามที’
“ตายจริง ไม่คิดว่าคุณพี่ชายจะมีประโยชน์ขนาดนี้นะคะ สารพัดประโยนชน์สมเป็นสุนัขตำรวจจริงๆ” ว่าแล้วก็ก้าวไปนั่งที่โต๊ะตรงข้ามกับเขา เบะปากให้กับนมร้อนในเช้าวันนี้
เธออยากได้กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
แต่คงช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ เพราะเธอในตอนนี้เป็นเพียงเด็ก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ชงให้เธออยู่แล้วและเธอก็ไม่ได้ใจแข็งพอจะไล่ให้เขาไปทำใหม่ด้วย แม้เมื่อคืนจะทำตัวโหดร้ายเอาปืนจ่อหัวเขาก็เถอะ แต่นั่นเธอก็แค่ทำเพื่อพิสูจน์ดูเฉยๆ ว่าเขาจะมีปฏิกิริยายังไง ไม่คิดจะยิงจริงๆ เสียหน่อย
“ปากคอเราะร้ายจริงๆ”
“หนูแค่พูดความจริงนี่คะ”
“เรื่องรัม…” เรย์เอ่ยกล่าวเข้ามาอย่างตรงประเด็น
เด็กหญิงตักข้าวห่อไข่เข้าปาก เคี้ยวจนหมดก่อนจะเริ่มอธิบาย “หนูไม่เคยเห็นเขาหรอก แต่ก็มีข่าวที่สามารถทำให้มั่นใจได้ว่าเขาจะไปที่ไหน”
“ข่าว..?”
“อ่า จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่คุณนะ” ไอรีนว่า ท่าทางไม่ใส่ใจนักแต่ก็แฝงแววจริงจังเอาไว้หลายส่วน “อีกสองเดือนหลังจากนี้ ที่โตเกียวสกายทรี รัมจะมาจัดการหนอนตัวใหญ่ด้วยตัวเองและหนูรู้ว่าหนอนคนนั้นเป็นใคร”
“ใคร ?”
ข่าวที่ได้มาด้วยความยากลำบาก
“เป็นความลับของผู้หญิงค่ะ”
ข่าวที่เจ้าของข่าวตายไปเสียแล้ว แต่กระนั้นกำหนดการณ์ยังคงเดิมไม่เปลี่ยน “แต่คุณรู้ไหม ในเมื่อรัมลงมือเองนั่นก็หมายถึงบอสขององค์กรคนที่คุณตามหาจะเป็นคนกำกับอยู่เบื้องหลังโดยตรง”
เด็กหญิงหลุบตาลง มือที่ถือช้อนกำแน่นจนขึ้นข้อบ่งบอกได้ถึงความแค้นเคือง “ลักษณะเด่นของรัมนั้นคิดว่าคุณรู้อยู่แล้ว ส่วนแนวทางการลงมือ แน่นอนว่าหนูคุ้นชินกับมันดี”
“เหตุผลล่ะ อันนี้ถามได้ใช่ไหม ?”
“ได้ค่ะ เหตุผลเพราะว่ารัมเป็นคนฆ่าครอบครัวของหนู ดังนั้นคนที่รอดตายมาได้อย่างหนูจึงรู้วิธีการลงมือของมันอย่างดี”
ความเงียบโรยตัวขึ้นมาระหว่างคนทั้งคู่
ไอรีนส่ายศีรษะ “ไม่ต้องเสียใจกับหนูหรอกนะ”
เอ่ยกล่าวทันทีที่เห็นว่าใบหน้าของสันติบาลหนุ่มแฝงไว้ด้วยความเห็นใจ แต่ในทันทีที่เธอพูดด้วยน้ำเสียงสบายใจเขาก็เปลี่ยนสภาพอารมณ์ได้ทันที
“โอเค งั้น…”
ไอรีนและเรย์พูดคุยกันต่ออีกเล็กน้อย ก่อนที่มื้ออาหารยามเช้าจะจบลงด้วยความเคร่งเครียดเพราะแผนการในการดักจับรัม
กระนั้นชายหนุ่มก็ตัดสินใจเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการพาร่างเล็กไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ประจำวันเพราะเห็นว่าเธอน่าจะอยู่กับเขาไปอีกสักพักหนึ่ง ซึ่งตรงกับความต้องการของเด็กหญิงพอดิบพอดี
แน่นอนว่าระหว่างการซื้อของสันติบาลหนุ่มเสนอว่าจะเปิดห้องพักในโรงแรมให้แก่เด็กหญิงแล้วด้วยข้ออ้างว่าคงไม่เหมาะหากให้เธอมาอยู่ห้องกับเขาที่เป็นผู้ชายสองต่อสองเพราะแม้ทางกายภาพคริสตี้จะอายุสิบปีแต่ภายในคงมากกว่านั้น
แต่ความเป็นจริงคือเขาไม่อยากให้เธอมีโอกาสได้ฟังเขาคุยโทรศัพท์กับทางตำรวจและองค์กรเยอะนัก
แต่แค่เสนอไปเท่านั้น เด็กหญิงก็ยิ้มแล้วปล่อยมือของเขาที่จับจูงเธอเอาไว้เพื่อกันหลงในสถานที่ที่คนพลุกพล่าน แววตาที่เหมือนกับของเล่นแวววาวขึ้นมาก่อนน้ำเสียงกระจ่างใสชวนฟังจะเปล่งถ้อยคำที่ไม่น่าฟังออกมา
“รู้ไหมคะ ถ้าตอนนี้สมมุติว่าหนูตะโกนขึ้นมาว่า ช่วยด้วย คุณลวนลามหนู มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ?”
“เฮ้ๆ” สันติบาลหนุ่มเหงื่อตก
และเหมือนว่าคริสตี้จะชอบท่าทางนั้นของเขามากเหลือเกิน เจ้าหล่อนเลยยกยิ้มหยอก ดวงตาแพรวพราวแล้วเริ่มเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสากว่าเดิมหลายส่วนนัก
“คุณนี่เป็นตำรวจที่แย่จริงๆ เลยนะคะ พาเด็กผู้หญิงมาซ่อนตัวไว้ที่ห้อง ทำเรื่องผิดกฎหมายกับเธอ จากนั้นยังพยายามจะขับไล่ไสส่งเธออีก”
ยัย…
ยัยเด็กผี!
“โอเคเลย คริสตี้ เธออยู่กับฉันต่อไปเถอะนะ” เรย์ยกมือยอมแพ้ ท่าทางจนใจมากจริงๆ ไม่คิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะโดนคำพูดของเด็กน้อยไล่ต้อนจนทำเอาตัวเองแทบจนมุม
“จะดีเหรอคะ ?” ดวงตากลมโตช้อนมองเขา คล้ายจะอ้อนแต่กลับแฝงความเยาะเย้ยอยู่ในที
“ดีสิ จากใจเลย อยู่ด้วยกันเถอะ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!”
ไอรีนแสะยิ้มพอใจเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกัดฟันท่าทางเจ็บใจไม่น้อย นานมากแล้วที่เธอไม่ได้หยอกเย้าเขาแบบนี้ แต่น่าเสียดายที่เธอเป็นเพียงแค่เด็กสิบขวบเท่านั้นจึงไม่เหมาะหากจะเล่นอะไรมากกว่านี้จึงตัดสินใจถอยแต่โดยดี
แต่ก็พอใจแล้ว…
หญิงสาวในคราบเด็กหญิงฮัมเพลงในลำคอท่าทางพออกพอใจก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นแมวจร สองขาสั้นๆ วิ่งตรงเข้าไปหาสัตว์ตัวเล็กนั้นอย่างลืมตัว คริสตี้ย่อตัวลง มือเล็กเอื้อมไปลูบลูกแมวไปมา
“ชอบแมวงั้นหรือ ?” เรย์เอ่ยถาม ดูประหลาดใจไม่น้อยที่พบว่าเด็กหญิงยังเหลือด้านที่ไร้เดียงสาอยู่บ้าง
“อ่า ไม่เชิงหรอกค่ะ” เด็กหญิงส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติม “แต่ชอบนิสัยแมวน่ะ”
“นิสัยแมวเหรอ ?”
“ค่ะ นี่พี่ชายคุณไม่รู้เหรอ ว่าแมวน่ะ ต่อให้มันไปเถลไถลที่ไหน แต่ถ้าหากมันเจ็บ มันป่วย หรือใกล้ตายมันก็จะกลับมาที่บ้านของมันนะคะ เพราะฉะนั้นหนูเลยชอบนิสัยแมวค่ะ” ดวงตาที่ราวกับของเล่นหลุบลง มันเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้างดงามหมดจรด
คำพูดนี้มาจากใจจริงไม่ได้เสแสร้งแบบทุกที คงเพราะลืมตัว
แต่ก็เป็นคำพูดที่ทำเอาคนฟังหยุดชะงัก…
เพราะเขาเหมือนเคยได้ยินมาก่อน…
จากไอรีน…
‘ไอรีนนี่เหมือนแมวเลยนะครับ’
‘ก็… คงงั้นมั้งคะ ว่าแต่โทโอรุคุงรู้ไหม ว่าฉันน่ะชอบแมวนะ’ ครั้งหนึ่งไอรีนเคยกล่าวคำนั้นออกมา ท่าทางเต็มไปด้วยความสุขเสียจนเขาได้แต่สงสัยจนหลุดร้องออกไป
‘เอ๋ ชอบแมวงั้นเหรอครับ ?’
‘จริงๆ ก็ไม่เชิงว่าชอบแมวหรอกค่ะ แต่ชอบนิสัยแมวเพราะแมวน่ะ ต่อให้มันไปเถลไถลที่ไหน แต่ถ้าหากมันเจ็บ มันป่วย หรือใกล้ตายมันก็จะกลับมาที่บ้านของมันอย่างไงล่ะคะ’ มันคือเหตุผลที่แปลกประหลาด ทว่าก็สมกับเป็นไอรีน
‘ไอรีนเนี่ยมีอะไรให้ผมแปลกใจเสมอจริงๆ นะครับ ถ้าแบบนั้นคนที่เหมือนแมวแบบไอรีนจะกลับมาบ้านของเราถ้าจะตายหรือเปล่า ?’ เอ่ยถามออกไปโดยไร้เจตนาร้าย ทว่าพอถามออกไปจึงพึ่งคิดได้ว่ามันเหมือนกับว่าเขากำลังแช่งเธออยู่กลายๆ
แต่ในตอนที่กำลังจะขอโทษ หญิงสาวกลับพยักหน้าขึ้นลง
‘ค่ะ ฉันสัญญาเลยค่ะ ว่าต่อให้ฉันเจ็บ หรือใกล้ตาย ถ้าไหวล่ะก็จะกลับมาหาโทโอรุคุง’ รอยยิ้มหวานประดับริมฝีปากสีแดงสด ‘เพราะโทโอรุคุงเหมือนบ้านของฉันไงคะ’
วินาทีนั้น ใบหน้าของสันติบาลหนุ่มก็ร้อนจนแทบไหม้
เขาแพ้แฟนสาวที่อายุมากกว่าของตัวเองอีกครั้งเสียแล้ว
“ไม่คิดว่าจะมีคนชอบแมวเพราะนิสัยเพิ่มมาอีกคนแฮะ…” สันติบาลหนุ่มพึมพำกับตัวเองพลางหัวเราะแผ่วเบา ดวงตายังไม่ละสายตาออกจากหน้าของเด็กน้อย
มันไม่ใช่การจ้องมองในเชิงชู้สาว…
แต่เป็นการจ้องมองเพราะความสงสัยติดใจ
ถ้าฉันพิเศษจริงๆ ทำไมเรื่องของฉันถึงเป็นความลับล่ะ ?
ใช่ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ ?
คุณเสียใจรึเปล่า ที่ฉันได้แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่มีวันลืมไปให้ ?
TBC.
------------------------------------------------------
ฉลาดขึ้นรึเปล่า ฉันเขียนให้พระเอกฉลาดขึ้นใช่รึเปล่า-
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

งุ้ยย สงสัยได้ถูกต้องแล้วค่า