ตอนที่ 5 : ✰ five
#นาทีที่ข้ามฟ้า
✰
Five
คนเมาถูกเพื่อนแบกมานอนที่เตียง นาทีมองเพื่อนที่บ่นอะไรเรื่อยเปื่อย ฟังไม่รู้เรื่องหรอกแต่คิดว่าคงบ่นเรื่องเมาแล้วไม่ยอมอาบน้ำ ตอนนี้อาบไม่ไหวจริง ๆ มันมึนทุกอย่าง โลกหมุนไปหมดแล้ว เขาหลับตาลงทั้ง ๆ ที่ยังมึนอยู่แบบนั้นและอาการปวดหัวมันเพิ่มมากขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีการยับยั้งช่างใจที่ร้านเหล้า
จูบกับเดโม่ไปแล้ว
ตอนนั้นมันรู้สึกเหมือนเพียงแค่ชั่ววินาทีเท่านั้น รู้ตัวอีกทีคือจูบกันแล้ว มันใจเต้นไปหมด ยอมรับตามตรงว่าไม่เคยจูบกับใครมาก่อน แล้วเขาก็เกลียดตัวเองที่ดันรู้สึกดีขึ้นมาจนเผลอพูดไปว่าอยากจูบอีก โคตรบ้า โคตรแย่ โคตรอาย คนมันเมาให้ทำยังไงวะ!
คนหน้าดื้อซุกใบหน้าลงบนหมอน ดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดหัว พยายามไม่นึกถึงเรื่องนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง พรุ่งนี้จะทำเป็นจำไม่ได้ และจะไม่คุยกับเดโม่แล้วด้วย พอขอจูบอีกทำไมไม่รู้จักห้ามเลย ถ้าตอนนั้นไม่อยากรู้สึกอ้วกขึ้นมามันจะไปถึงไหนเนี่ย...
ไม่อยากนึกแล้ว
เขาหลับตาลงไปทั้งแบบนั้น ความฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้หลับง่ายทั้ง ๆ ที่มีเรื่องให้คิด นาทีหลุดไปในโลกแห่งความฝันโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนส่งข้อความมาหาอีกแล้ว
Demo: ฝันดีแล้วกัน ไอ้ดื้อ :P
✰
เพลย์ดิสนั่งมองเพื่อนของตัวเองนอนอยู่ในกองผ้าห่มซึ่งตอนนี้โผล่มาแค่เส้นผม เขาถอนหายใจออกมาเพราะเป็นคนที่ค่อนข้างรักสะอาดแต่อีนาทีชอบทำตัวซกมก เช่น ไปข้างนอกกลับมาแล้วไม่ยอมอาบน้ำก่อนขึ้นไปนอนบนเตียง หมอนข้างของมันเป็นเหมือนหมอนข้างเน่าที่ไม่กอดจะนอนไม่หลับ ที่สำคัญ ห้ามซัก เข้าใจนะว่าติดกลิ่นที่บ้านแต่บางครั้งช่วยอาบน้ำก่อนขึ้นไปนอนบนเตียงน่าจะดี ยิ่งเมื่อคืนนี่หนักเลย เมาจนหัวทิ่ม คือก็เมากันทุกคนแหละที่ดูเพื่อนเขามันจะเมาไม่มีสติถึงไปปีนขึ้นไปนั่งบนตักของเดโม่ ซุกหน้าตัวเองไปที่คอเขา แขนก็กอดเอวอีกคนแน่นเลย เหมือนเด็กที่ต้องการจะนอนซึ่งห้ามมีเสียงรบกวนเด็ด
ตอนแรกจะเข้าไปห้ามแล้วแหละแต่ดูเหมือนฝั่งเราก็มีใจหรือเปล่านะ ต้องมีนิดนึงแหละ ไม่อย่างนั้นจะคุยกันในแชททำไม... เขายิ้มกรุ้งกริ่มไปทางอีตัวดีที่กำลังนอนอยู่ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นของโทรศัพท์มือถือ
Demo: ตื่นหรือยัง
Demo: นาทีเป็นไงบ้าง
ปากที่กำลังจะอ้าเพื่อกรี๊ดรีบหุบลงทันทีเมื่อเจอประโยคที่สอง เขาหรี่ตามองข้อความดังกล่าวก่อนจะตอบเพื่อนไป
PLAYDIS: กูเกือบกรี๊ดละ ถ้าไม่เห็นประโยคที่สอง
“เพลย์ มึงคุยกับใครอ่ะ” มองไปทางผู้พูดที่ตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง หัวฟู ๆ กับหน้ามึน ๆ บ่งบอกได้อย่างดีเลยว่านาทีกำลังแฮงก์สุด ๆ
“อย่าเรียกกูเพลย์เฉย ๆ มันแมน เรียกเพลย์ดิส” นาทีขมวดคิ้วหลังจากฟังประโยคนั้นเสร็จ ถอนหายใจออกมาแล้วเอามือมาจับหัวบริเวณที่กำลังปวด
“กูปวดหัว หิวด้วย”
“เออ ไปล้างหน้า แปรงฟันไป กูก็หิว” เขาไล่เพื่อนตัวเล็กไปจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองก่อนจะมาตอบข้อความของเดโม่ที่ส่งค้างเอาไว้
PLAYDIS: มันตื่นแล้ว กำลังจะลงไปกินข้าวค่ะ
Demo: ส่งโลร้านข้าวมาหน่อย
PLAYDIS: จะมาเหรอๆๆ กรี๊ดดดดด
Demo: ไปดูคนเมา
PLAYDIS: sent a location
Demo: ขอบคุณครับ
“อ่ะ อี้เหี้ย พูดเพราะไปอีก”
“มึงคุยกับใคร” นาทีที่ออกมาจากห้องน้ำมองเพื่อนของตัวเองที่ตอนนี้คุยกับใครก็ไม่รู้ เขามองไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะกลับมามองเพื่อนตัวเองอีกที ไม่อยากจะคิดหรอกว่าห้องนี้มันจะมีผีและเพลย์สามารถคุยได้ขนาดนี้...
“ไม่ใช่ผีอย่างที่มึงคิด อีตัวดี”
“มึงรู้ได้ไงว่ากูคิดอะไรอยู่”
“รู้แล้วกัน” ทำหน้าเซ็ง ก่อนจะมองเพื่อนที่ตัวเท่าควายแต่ใจเป็นหญิงไปแล้ว นาทีพยักหน้าหงึกหงักเป็นสัญลักษณ์ว่าเราต้องไปกินข้าวกันได้แล้ว “เออ ไอ้เหี้ย งอแงยิ่งกว่าจ้าวน่านอีก”
“กูไม่ได้งอแง กูหิวไง”
เราทั้งสองตัดสินใจลงไปหาอะไรกินข้างล่างหอด้วยกัน นาทีเดินตัวเหี่ยวตามหลังเพื่อนเข้าไปในร้านอาหารตามสั่งที่วันนี้เปิดอยู่ร้านเดียว หลังที่หาที่นั่งได้แล้ว มือขาวจึงเอื้อมหยิบกระดาษและปากกามาจดเมนูที่ต้องการจะกิน
“มึงกินไร”
“กูขอคะน้าหมูกรอบไข่ดาวพิเศษ” นาทีจดลงในกระดาษตามด้วยเมนูข้าวต้มทะเลที่คิดไว้ตั้งแต่ตอนเดินมาว่าจะเลือกอันนี้ คนตัวเล็กเดินเอากระดาษไปยื่นให้กับคนทำก่อนจะกลับมานั่งเอาหน้าฟุบลงบนแขนตัวเองที่วางอยู่กับโต๊ะ
“โคตรปวดหัว พวกมึงอ่ะให้กูกินเยอะ”
“กูก็กินเยอะเถอะ”
“แต่เมื่อคืนกูเมา แล้วมึงก็ปล่อยให้กูอยู่กับไอ้เดโม่สองคนด้วย”
“เพื่อนดูแลมึงอย่างดี ไปเรียกเขาไอ้ได้ไง”
“ดูแลดีเหี้ยไรเล่า” พูดเสียงอู้อี้ พอนึกขึ้นมาทีไร อยากต่อยคนทุกทีเลย อยากต่อยตัวเองด้วย “กูไม่อยากเจอเดโม่แล้ว”
“มึงไปทำอะไรไว้หรือเปล่าเนี่ย”
“กูเปล่า!!!”
“พิรุธชิบหาย มึงไปต่อยมันเหรอ” นาทีพยายามทำหน้าทำตาให้ดูปกติมากที่สุด
“เออ ไปต่อยมันไว้ เจ็บมากด้วย”
“เหรอ”
“มึงต้องเชื่อกู!”
“กูพูดหรือยังว่าไม่เชื่อ” คนหงุดหงิดเงียบไปในระหว่างที่กำลังรอข้าว เขาปวดหัวจริง ๆ โดยเฉพาะเมื่อถึงหน้าอันกวนตีนของเดโม่ที่กำลังยักคิ้วมาให้
ทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมดเลย
“กรี๊ดดดดด อีเหี้ย ๆๆ” นาทีเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนที่กำลังกรี๊ดเสียงเบา ๆ ขมวดคิ้วมองตาเพื่อนที่ตอนนี้จ้องไปที่ข้างหลัง ในจังหวะนั้นเองที่คนอยากรู้หันตามไป
เดโม่กับเสื้อยืดสีเทาและกางเกงขาสั้นประมาณเข่าเดินควงกุญแจรถเดินยิ้มเข้ามาในร้าน เจ้าตัวดื้อทำปากมุบมิบอยู่คนเดียวจนมีใครบางคนล้มตัวลงที่ข้าง ๆ นาทีไม่กล้าแม้แต่จะหันหน้าไปมอง
“ไง เราอ่ะ” หัวไหล่ถูกสะกิด เขาเลยพยายามหลบหัวไหล่ของตัวเองเพื่อไม่ให้โดนมือของไอ้เดโม่
“ไร”
“ขี้เมา”
“ขี้เมาแล้วหนักหัวใครไม่ทราบ”
“หนักหัวผมเนี่ยแหละ”
“เดี๋ยวกูไปห้องน้ำก่อนนะ อิอิ”
“ไอ้เพลย์อย่าไป!!”
“บายจ้า” มองเพลย์ดิสหัวเราะคิกคักลุกไปทางหลังร้าน นาทีถอนหายใจออกมาก่อนะจะหันไปมองหน้าเดโม่ดี ๆ
“มาทำไม”
“มากินข้าว”
“ไปร้านอื่น”
“กินร้านนี้ไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้” คนข้าง ๆ ทำหน้าเหลือเชื่อพยักหน้าเบา ๆ และเลิกคิ้ว นั่นมันยิ่งทำให้คันไม้คันมืออยากโกนคิ้วให้เดี๋ยวนี้เลย ไม่กี่นาทีให้หลังเดโม่ก็ขมวดคิ้ว นาทีถอยใบหน้าออกห่างเมื่ออีกคนขยับเข้ามาใกล้เกินไปแล้ว “มาใกล้ทำไม”
“กำลังดู”
“...” คนมีพิรุธรีบเม้มปากใช้มือผลักใบหน้าที่เหมือนจะหล่อแต่ก็ไม่หล่อนั้นออก แต่มือที่ใช้ผลักดันถูกจับเอาไว้ เราสบตากัน วินาทีนี้แหละที่นาทีเริ่มอยู่ไม่สุขเลยตัดสินใจลุกขึ้นยืน
“ยืนทำไมเนี่ย”
“แล้วเมื่อกี้จะทำอะไร”
“ดูเฉย ๆ”
“จะดูอะไร”
“จำไม่ได้เหรอ”
“จำเรื่องอะไร”
“เรื่องเมื่อคืน.... ในห้องน้ำ” คนฟังพยายามที่จะทำให้ตัวเองมีพิรุธน้อยที่สุดก่อนจะตัดสินใจตอบ
“ห้องน้ำอะไร”
“ที่เราจูบกัน”
“เหี้ย!” เขารีบเอามือมาปิดปากอีกคนทันที สอดส่องสายตาไปรอบร้านที่ทุกคนดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไร แต่นาทีรู้! ว่าแอบฟังกันหมดเพราะถ้าเขาได้ยินเขาก็แอบฟังเหมือนกัน แล้วไอ้นี่มันจะพูดเสียงดังทำไมวะเนี่ย
“...”
“กู ไม่ ได้ จูบ กับ มึง” พูดทีละคำให้ได้ยินชัด ๆ แล้วปล่อยมือของตัวเองออกจากปากของเดโม่เมื่อคิ้วเข้ม ๆ นั่นเริ่มขมวด
“พูดดี ๆ” ความรู้สึกที่โดนดุกลับมาอีกแล้ว นาทีถอนหายใจกลับมานั่งลงดี ๆ แต่เว้นระยะห่างเอาไว้มากกว่าเดิม
“เออ”
“ห้ามเออด้วย”
“...”
“ที่สัญญากันไว้ลืมแล้วเหรอ”
“เปล่า” เขาไม่กล้ามองหน้าเดโม่เลยทำเป็นมองไปทางอื่นซึ่งความจริงแล้วความสนใจทั้งหมดของเขาตอนนี้ไปอยู่ที่อีกคนจนหมด ที่เมื่อกี้ทำหน้าเศร้าหมายความว่ายังไงกันแน่ แต่แค่เศร้าแป๊บเดียวเท่านั้น สุดท้ายก็กลับมาทำหน้าดุใส่เหมือนเดิม
อย่ามาทำตัวเป็นแม่แถวนี้ได้ไหม
“งั้นเข้าเรื่อง”
“...”
“เมื่อคืน ในห้องน้ำ จำไม่ได้ใช่ไหม”
“อือ” ปฏิเสธไปทั้ง ๆ ที่จำได้ทุกอย่างทุกช็อตแบบฟูลเอชดียิ่งกว่าหนังบลูเร
“โอเค งั้นไม่เป็นไร” หันไปมองเดโม่ที่ทำหน้าเหมือนต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น ทำเหมือนกับว่าที่เขาลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันผิดเอามาก ๆ จนชีวิตนี้ไม่น่าให้อภัย
“...” นาทีเลือกที่จะเงียบถ้าไม่ได้ยินประโยคต่อจากนี้
“อุตส่าห์ตั้งใจจูบ”
“มึงตั้งใจเหรอ!” เขาตะโกนขึ้น ส่วนเดโม่ที่แอ๊บทำหน้าเศร้าหายไปแล้วเหลือแต่รอยยิ้มที่กวนตีนกับจิวที่เขาอยากดึงออกจากหูให้เลือดไหลไปเลย แต่ทำได้แค่ทำหน้าหงุดหงิดบวกกับตาโตเพราะตัวเองเผลอปล่อยไก่ออกไปแล้ว ไก่ตัวเท่าควายเลยด้วย
“ไหนบอกจำไม่ได้”
“จำไม่ได้”
“แล้วจะตะโกนทำไม”
“...”
“แล้วพูดดี ๆ บอกแล้วใช่ไหม”
“ทำไมต้องฟัง” แอบไปแลบลิ้นใส่กำแพงพร้อมกับเพลย์ดิสที่ไปห้องน้ำได้โคตรนานเดินกลับมาพร้อมกับสีหน้ากรุ้มกริ่ม ทำไมทุกคนถึงทำหน้านาทีหงุดหงิดขนาดนี้ เหมือนนัดกันมาแกล้งเขาเลย!
“ทำหน้าเหมือนคนโดนผัวทิ้ง”
“ไอ้เพลย์ มึงแม่ง ไปไหนมา!”
“มึงจะตะคอกทำไม”
“อารมณ์ไม่ดี”
“แต่ดูเดโม่อารมณ์ดีมากเลยนะคะ”
“พอประมาณ”
“เดโม่กินอะไร สั่งหรือยัง” เดโม่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะลุกขึ้นไปบอกคนทำว่าจะสั่งอะไรเพิ่ม คนตัวสูงเดินมานั่งข้าง ๆ กันเหมือนเดิม ส่วนนาทีจะเงียบไปก่อนเพราะถ้าไปเถียงกับเดโม่ตอนนี้ ความต้องแตกแน่ ๆ
กลัวเพื่อนรู้...
“เอาเลยนะ เลี้ยง”
“กรี๊ดดดด ผู้ชายนิสัยรวย!” นาทีทำหน้าบูดเมื่อถูกสะกิดที่ไหล่อีกรอบ
“อะไร”
“หนูเป็นอะไรของหนูเนี่ย”
“ไม่ใช่เด็กอย่ามาเรียกหนู”
“โอ้ย อีสัด กูอยากตายตรงนี้” เพลย์ดิสทำประกายในตาปิ๊ง ๆ ส่วนเขาหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
“อยากให้พูดเหรอ”
“ไม่ อย่าพูดนะ”
“พูดอะไรเหรอ ๆๆๆ พูดเลย อยากเสือก” เพื่อนเขาแม่งก็ทำท่าอยากรู้ใหญ่เลย
“ไม่มีไร ๆ” พูดพร้อมกับที่อาหารตามสั่งมาเสิร์ฟพอดี แต่มาแค่สองอย่างเพราะไอ้คนข้าง ๆ มันมาทีหลัง นาทีถอนหายใจออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช้อนมาไว้ในถ้วยของตัวเองแล้วนั่งเฉย ๆ
“กูกินก่อนนะ หิวแบบแดกควาย” พยักหน้าให้เพลย์ดิสก่อนจะหันไปมองคนข้าง ๆ ที่ยังคงยิ้มกวนตีนกันอยู่ นิสัยนี้มันติดมาตั้งแต่เด็กแล้ว เขาชอบรอเพื่อนทุกคนได้อาหารจนครบก่อนแล้วค่อยพร้อมกัน เข้ามหาวิทยาลัยแล้วยังติดอยู่ ถึงแม้ว่าเพื่อนคนอื่นจะกินก่อนนาทีก็ไม่โกรธ มันเป็นสิทธิ์ของทุกคนอยู่ที่จะกินอาหารของตัวเองตอนไหนก็ได้
“ไม่กินล่ะครับคุณ หิวไม่ใช่เหรอ”
“เห็นหน้าบางคนแล้วจะอ้วกเลยรอหายคลื่นไส้ก่อน”
“โอ้ย มันรอ--”
“ไอ้เพลย์ หุบปาก มึงกินไปเลย”
“จ้า อีดอก ปากแข็งเหลือเกิน”
“ก็ไม่ได้แข็งนะ”
“...”
เราสามคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก หลังจากนั้นไอ้คนพูดลอยหน้าลอยตามองนกมองไม้ยิ้มอย่างอารมณ์ นาทีส่ายหน้าให้เพื่อนที่มองมาด้วยสายตามีเลศนัย
‘เลิกพูดอะไรแบบนี้ได้ไหม’
เดโม่ไม่ตอบแต่กลับยิ้มส่งไปให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อีกคนทำเป็นจำจูบของเราเมื่อคืนไม่ได้ และเรื่องที่เขาว่าตั้งใจทำให้ดี มันเป็นความจริง เลยต้องแกล้งแหย่แบบนี้ ถึงตอนแรกจะนึกว่าจำไม่ได้จริง ๆ แต่สุดท้ายพิรุธก็ออกมาจนหมด
ตัวดื้อยังคงเป็นตัวดื้อ
“มาแล้วจ้า รอนานเลย”
“ขอบคุณครับ”
ในที่สุดอาหารสั่งไปจึงถูกวางที่โต๊ะ พร้อมกับที่นาทีเริ่มตักอาหารของตัวเองเข้าปาก แอบลอบมองคนที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ จนแก้มออก เขายิ้มออกมาก่อนจะเริ่มตักอาหารของตัวเองเข้าปากบ้าง
น่ารักนะเนี่ย มีการรอกินข้าวพร้อมกันด้วย
✰
โคตรเด็กแสบ
หลังจากที่อาหารมื้อกลางวันในวันนั้นของเราทั้งสามคนหมด เขาบอกแล้วว่าจะเลี้ยงข้าว ไอ้ตัวดีเลยสั่งอาหารเพิ่มแบบใส่กล่องไปอีกหลายอย่าง แล้วแต่ละอย่างคือเป็นทะเลทั้งหมด และใช่ ถ้าเป็นกุ้งหรือปลาหมึกมันจะมีราคาสูงกว่าหมูหรือไก่
นาทียักคิ้วให้เขาก่อนกลับขึ้นหอ กวนตีนนะแต่...
“ยิ้มเหี้ยไรนักหนา ถูกหวยเหรอ” โปเต้ที่เอาคางไถกับโต๊ะถาม
ยอมให้กวนตีน
“เปล่า”
“แล้วเดี๋ยวนี้ไม่ออนเกมเลยนะ ไอ้เมฆก็ไม่เล่น ติดจ้าวน่านแบบสุด” เลย์เสริมซึ่งมันเป็นความจริง ช่วงนี้เหนือเมฆตัวติดกับจ้าวน่านเพื่อนของนาทีมาก ๆ ได้ข่าวว่าอยู่คอนโดเดียวกันด้วย อะไร ๆ คงเข้าทางเพื่อนเขาไปเสียหมดทุกอย่าง
“กูไม่ว่าง”
“ไม่ว่างแล้วทำไรอ่ะ” ทั้งสองแฝดถามพร้อมกัน ยอมรับเลยว่าปวดหัวมากตั้งมีเพื่อนเป็นไอ้สองคนนี้ มันชอบกวนประสาทมากถึงมากที่สุก และบางทีเขาก็อยากจะเตะมันทั้งคู่ให้ออกไปไกล ๆ
“ซักผ้าให้แม่มึงมั้ง ไม่ต้องอยากรู้ได้ไหม”
“ทำไมชอบเล่นแม่อ่ะ” เลย์ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ขอเสือกไม่ได้เหรอ นึกว่าไปจีบนาที” โปเต้เข้ามาเสริมพร้อมกับทำหน้าเหมือนรู้อะไร และมันก็รู้อะไรจริง ๆ
“...”
“เงียบแบบนี้ใช่แน่ ๆ” โปเต้
“กรี๊ด ๆๆๆ รับผิดชอบลูกเขาด้วยนะเดโม่ วันนั้นคือโอบเอวอย่างไว” เลย์
“แล้วไหนที่พากันไปห้องน้ำนาน ๆ อีก กูว่ามันมีเงื่อนงำ!!” โปเต้
“ไม่มีอะไร”
“เสียงเข้มเชียวเพื่อนกู มีอะไรแน่นอน” โปเต้
“วันนั้นนี่อะไรนะ เสื้อมึงยับด้วย แล้วนาทีหน้าแดง ปากก็แดง คล้ายจะช้ำนิดนึง” เลย์
“พอ ๆ ไม่มีอะไรคือไม่มีอะไร พวกมึงอย่ากวนตีน” เดโม่ห้ามทัพเพื่อนก่อนที่เรื่องราวมันจะไปมากกว่านี้ เข้าใจนะว่าไอ้สองคนนี้มันน่าจะรู้แต่เขาจะไม่พูดให้ใครฟัง ไม่ใช่ไม่อยากอวดแต่เดี๋ยวเจ้าตัวดื้อจะเสียหายเอา
ไม่นานนักเหนือเมฆก็มาถึง พวกเราทั้งสี่คนเลยเดินไปเรียนด้วยกัน ช่วงนี้เริ่มปรับตัวมาเรียนตอนแปดโมงเช้าได้แล้วนิดหน่อย ช่วงแรกง่วงจนต้องร้องขอชีวิตแต่ตอนนี้มีเป้าหมายมากขึ้นเพราะตอนบ่ายมีเรียนวิชาเลือกที่ตอนแรกไม่ได้น่าเรียนขนาดนั้นแต่ตอนนี้เขาโคตรอยากเข้าเรียนเลย
Demo: กินข้าวเช้ายัง
นาทีเอง: ยุ่ง
คำตอบส่วนใหญ่จะได้มาแบบนี้เสมอ อิโมจิรูปแลบลิ้น หน้าบึ้ง หรือคำว่ายุ่งจะถูกส่งมาบ่อยที่สุด และตอนนี้เดโม่กำลังแผนการอะไรบางอย่างอยู่ถ้าอีกคนไม่ตอบกัน
มันต้องมีพลิกแพลงกันบ้าง ไม่อย่างนั้นไม่ก้าวหน้าแน่ ๆ
จำได้ว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องน้ำชายที่ตรงกระจก นั่นแหละ เขาคิดว่าจะไปโหลดไฟล์นั้นมาเก็บไว้แล้วลบของที่ร้านทิ้งเดี๋ยวคนอื่นมาเห็นแล้วจะไม่ค่อยดี
พูดตามตรงคือไม่อยากให้ใครได้เห็นตอนที่อีกคนอ้อนเท่านั้นเอง
กว่าการเรียนการสอนตอนบ่ายจะเริ่ม การเรียนช่วงเช้าเล่นเอาซะหมดแรง เราทั้งสี่คนพากันไปที่คณะเพื่อเรียนวิชาตอนบ่าย ซึ่งพอเข้าไปในห้องเรียน สิ่งแรกที่พบก็ไม่ใช่สิ่งอื่นที่นอกเหนือความคิดในช่วงนี้
เราทั้งสี่คนได้นั่งข้างหน้าเหมือนเดิมเพราะมาสายกว่าคนอื่น เดโม่หันหลังไปมองใครบางคนกำลังคุยกับจ้าวน่าน แถมยังยิ้มเสียจนคนมองว่าน่ารัก ให้ตายเถอะ ตั้งแต่คุยกันมานี่ยังไม่เคยยิ้มให้เขาแบบนั้นเลยนะ นอกจากขำเมื่อได้แกล้งกัน
พอเรียนหมดเราตกลงกันว่าจะไปสุมหัวกันที่ร้านเหมือนเดิม เหนือเมฆพาจ้าวน่านกลับคอนโด เหลือแต่พี่ชายน้อยหน่าที่บอกว่าจะกลับเองให้ได้ เดโม่ไล่ไอ้สองแฝดไปไกล ๆ ก่อนจะเดินตามเด็กดื้อไปอีกทาง
“เดี๋ยว ๆ” คนตัวเล็กสำหรับเขาหันหน้ามามอง เดโม่กึ่งวิ่งกึ่งเดินจนมายืนใกล้ ๆ แย่งกระเป๋าผ้าที่ใส่หนังสือของอีกคนตอนทีเผลอมาหลบข้างหลังตัวเอง
“เห้ย เอาไปทำไม”
“ฟังก่อน”
“อะไรอีก”
“เดี๋ยวไปส่ง”
“กลับเองได้” นาทีไม่ยอมพยายามจะแย่งกระเป๋าที่ถูกขโมยไปกลับมาให้ได้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามันเหมือนจะกอดอีกคนอยู่รอมร่อ ส่วนคนแกล้งก็ได้ใจไม่ยอมคืนให้จนเจ้าหน้าดื้อเริ่มเหนื่อยและกว่าจะรู้ตัวคือโดนกอดไปแล้วทั้งตัว “อะไรเนี่ย! ปล่อยเลย เอากระเป๋าคืนมาด้วย!”
“ให้ไปส่งก่อนถึงจะปล่อย” ยิ่งเดโม่พูด นาทียิ่งดิ้น ดิ้นอยู่อ้อมแขนเนี่ยแหละ เขาถอนหายใจออกมาเพราะคนในกอดไม่รู้จะดื้อไปถึงไหน กว่าจะให้พูดดี ๆ ได้ก็เหนื่อยแล้ว นี่แค่ขอไปส่งที่หอเอง ต้องถึงขนาดนี้เลยใช่ไหม
งั้นเดโม่จะตอบว่าได้เลย
“เห้ย! ไอ้เดโม่!! ไอ้ข้ามฟ้า!!!” ตัวนาทีถูกอุ้มพาดบ่าจนโลกที่มองเห็นกลับหัวกลับหางไปหมด แต่ยังพอเห็นว่ามีคนมองเยอะมาก ไม่มองก็บ้าแล้ว ใครมันจะมาอุ้มแบบนี้กันกลางคณะ ทำเป็นหนังเป็นละครไปได้!
“ตัวหนักนะเราอ่ะ”
“โรคจิต ปล่อย!”
“เงียบก่อน ถึงจะปล่อย” นาทีเม้มปากแน่น เขารู้สึกเริ่มปวดหัวแล้วโมโหไอ้บ้านี่ด้วย อยู่ดี ๆ มาอุ้มแบบนี้ได้ยังไง พอเงียบได้สักพักเดโม่ถึงปล่อยให้อีกคนยืนดี ๆ ใบหน้าดื้อ ๆ นั้นแดงไปหมดเนื่องจากเลือดเหมือนจะลงหัว เขาขำเพราะผมอีกคนฟูไปหมด
จะรู้ตัวไหมว่าทำให้ใครบางคนชอบไปแล้ว
“โรคจิต”
“ฮ่า ๆๆ”
“เอากระเป๋าคืนมา”
“ให้ไปส่งก่อน จะคืนตอนถึงหอ”
“...”
“คราวที่แล้วคุณหนีขึ้นวิน ผมจำได้” คนตรงหน้าทั้งหน้าบึ้ง หน้าแดง เดโม่ยังขำแต่ยอมเอื้อมมือไปตัดทรงผมให้เพราะมันยุ่งมากจริง ๆ ตอนแรกโดนตีมือแต่พอเขาทำหน้าจริงจัง นาทีก็ยอมและทำหน้ารู้สึกผิดเหมือนกำลังโดนดุ
“แล้วจะไปส่งทำไม”
“แค่อยากทำให้”
“...”
“ไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้”
“ถ้าไม่ยอมจะอุ้มแบบเมื่อกี้อีกนะ เอาไหม”
“เออ! ให้ไปส่งก็ได้!” :P
“ก็แค่เนี้ย”
✰
#นาทีที่ข้ามฟ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แพ้ทางเนอะแบบนี้
งื้อออ นาทีโดนยังคับ คริคริ ☺
คนนึงดื้อ คนนึงตื๊อ น่ารักกก