ตอนที่ 11 : ✰ ten
นาทีที่ข้ามฟ้า
✰
ten
ตอนแรกเขากะจะไม่มาหรอกนะ ไอ้เชียร์ฟุตซอลเนี่ย แต่จ้าวน่านชวนมา ไอ้เพลย์ก็เซ้าซี้ หนักสุดคือเดโม่ที่ชอบส่งข้อความมากวนตีนกัน
วอแวเก่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ตอนมาเขานั่งรถของเหนือเมฆมาเพราะอีกคนมารับจ้าวน่านเลยได้มาพร้อมกัน โรงยิมที่ใช้แข่งตอนนี้คนค่อนข้างแออัด ไม่คิดเลยว่าคนจะเยอะขนาดนี้…
เข้าใจนะว่าเหนือเมฆเป็นคนที่หน้าตาดี แฝดก็หน้าตาดี แต่เดโม่ไม่ใช่ไง!
"คุณมาแล้วเหรอ" หันไปมองคนตัวสูงที่เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ กัน นาทีเบะปากใส่เดโม่ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอด ไม่รู้จะยิ้มทำไมนักหนา
"ยังไม่มามั้ง นี่ตัวปลอม"
"โห เหมือนจริงจัง ลองจับ ๆ ได้ไหมเนี่ย"
"ห้ามจับ!" นาทีทำตาโตตะโกนขึ้นมาส่วนคนที่ทำท่าจะยื่นมือมาจับก็รีบยกขึ้นเหมือนผู้ร้ายที่กำลังโดนตำรวจตรวจสอบ
"โอเค ไม่จับ แต่ฝากข้อความถึงตัวจริงได้ไหม"
"…" เดโม่ยังคงไม่เลิกเล่น ส่วนนาทีหันหน้าไปตั้งใจฟังสิ่งที่อีกคนกำลังจะพูด
"สระผมบ้างนะ หัวเหม็น" พูดจบก็เอาจมูกตัวเองเฉียดกลุ่มผมนิ่มไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับคนที่ถูกกล่าวหาว่าไม่สระผมยื่นมือไปต่อยไหล่นักกีฬาอย่าวเคียดแค้น!
เขาสระผมเมื่อคืนเถอะ
"ไปไกล ๆ เลย หัวเหม็นแล้วจะมาดมทำไม!"
"หนูอย่าเสียงดัง เดี๋ยวเพื่อนรู้นะว่าไม่ได้สระผม" นาทีหน้างอ หันมองไปทางโปเต้กับเลย์ที่กำลังแกล้งจ้าวน่านกับเมฆอยู่ ส่วนไอ้เพลย์กับออกัสกำลังเดินเข้ามาในโรงยิมพอดี นาทีมองบนย่นจมูกใส่ไอ้คนขี้แกล้ง
"ไม่ต้องมายุ่ง"
"ล้อเล่นนะ เชียร์ผมด้วย"
"จะเชียร์ฝั่งตรงข้าม" แลบลิ้นใส่ไอ้คนขายาวไปหนึ่งที นาทีหันหน้าไปคุยไอ้เพลย์แล้วก็ออกัส ไม่อยากสนใจนายข้ามฟ้าไอ้โหมดนักกีฬาแล้ว
จนกระทั่งถึงการแข่งขันจริง ๆ นาทีมองตามเดโม่ที่ดูเหมือนว่าจะได้ลูกมาไว้ในครอบครองตลอดและจะคอยส่งต่อให้เพื่อนคนอื่นต่อ เขารู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีความจริงจังมาก ๆ มีบางครั้งแอบขัดขาทีมเราด้วย ไหนบอกกระชับความสัมพันธ์ไง ทำไมถึงขนาดนี้ได้
พอหมดครึ่งแรก เหนือเมฆวิ่งมาขอยางมัดผมน่านแบบขี้เก็ก ส่วนคนอื่นเดินไปกินน้ำกันรวมถึงวางแผนอะไรกันสักอย่าง
"…" นาทีพยายามทำหน้านิ่งเพราะเดโม่สักคิ้วมาให้บ่อยมาก ๆ เขาเลยตัดสินใจหลับตาซบไหล่จ้าวน่านไปเลย
ไม่อยากมองเยอะเดี๋ยวความอยากโกนคิ้วไอ้บ้าขายาวจะมีมากกว่าเดิม!
การแข่งขันจบลงโดยที่ฝั่งเดโม่เป็นฝ่ายชนะ นาทีที่กำลังสะลึมสะลือเดินตามเพื่อน ๆมออกนอกโรงยิมในขณะที่ไอ้เพลย์กับออกัสกรี๊ดกร๊าดทั้งสี่คนกันใหญ่เรื่องแข่งชนะ
"ก็คือตอนเมฆเตะบอลเข้าโกล กูอยากกรี๊ดให้คอแตก แต่พอดีว่าเสียงใหญ่ อีเหี้ย!" ไอ้เพลย์พูดทำเขาขำออกมาส่วนออกัสก็ไปเกาะแกะเดโม่จนคนมองยิ้มมากกว่าเดิมเพราะเดโม่ทำหน้าเกรงกลัวแบบสุด ๆ ตลกมากเลย
"ยิ้มไรอ่ะเรา ช่วยผมด้วย"
"ไม่ช่วยหรอก"
"เดโม่คะ คือแบบแค่เรียกชื่อกูก็รู้สึกอยากท้องแล้วอ่ะ" คราวนี้เขาขำออกมาจริง ๆ จนเดโม่ทำหน้าดุใส่ เลยค่อย ๆ หุบยิ้มแล้วหันไปทำหน้างออยู่คนเดียว แค่ขำทำไมต้องหน้าดุใส่ด้วยก็ไม่รู้
"เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุด รอก่อนนะ"
"…"
"อันนี้บอกใครอ่ะคะ" เพลย์เสริมขึ้นมา
"บอกทุกคนโดยเฉพาะคนที่กำลังทำหน้างออยู่"
"มึง กูหน้างอยังวะ" ออกัสพยายามทำหน้างอตามคำพูดของตัวเองพร้อมกับหันไปถามเพลย์ดิส เดโม่เดินผ่านไปพร้อมกับมือที่ยื่นมาขยี้ผมนาทีจนยุ่ง
"ไอ้ข้ามฟ้า!"
"เดี๋ยวจะนับแต้มเรียกชื่อจริงแล้วนะ ยิ่งแต้มเยอะ ยิ่งนาน"
"อะไรนานอ่ะคะ"
"ไม่รู้ รอดูเองแล้วกัน" นาทีหรี่ตามองคนร้ายกาจเดินไปทางห้องน้ำกับเพื่อน เดโม่ก็ชอบเป็นแบบนี้อ่ะ ทิ้งปริศนาให้เพื่อนเขาสงสัยอยู่เรื่อย ชอบทำตัวให้มีพิรุธทั้ง ๆ จะทำเฉย ๆ ไปก็ได้อ่ะ
ไอ้คนกลุ่มนี้มันเจ้าเล่ห์ทุกคน!
ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหน้ามหาวิทยาลัย เห็นเหนือเมฆบอกจะเลี้ยง เขาเลยคิดว่าจะแกล้งกินเยอะ ๆ ให้สมกับความขี้เก็กของคนพูด
"โห กินเยอะนะ" แต่มันก็ยังมีคนนึงที่ชอบกวนประสาทกันอยู่เรื่อย
"ทำไมชอบยุ่ง" ในขณะที่ทุกคนกำลังแกล้งตักอาหารไปใส่ในชามของน่าน ลูกชิ้นในชามของนาทีก็ถูกขโมยโดยไอ้คนตรงข้าม เขาทำหน้าไม่พอใจก่อนจะยื่นตะเกียบไปจิ้มเอาลูกชิ้นคืน
"ขี้ขโมย"
"คุณกินเยอะแล้ว ตัวหนักอ่ะ ลดความอ้วนได้แล้วนะ"
"ไปอ้วนบนตัวมึงเหรอ" นาทีรู้ว่าถ้าพูดคำหยาบออกมาเดโม่จะพอใจ แต่มันอดไม่ได้ เดโม่ชอบกวน ว่าเขาอ้วน เมื่อตอนในโรงยิมก็ว่าเขาไม่สระผม มันจะเกินไปแล้วนะ
"พูดไม่เพราะ"
"แล้วจะมากวนทำไม"
"โอ๋ ๆ ขอโทษ อย่างอนนะ" พูดแล้วคีบลูกชิ้นคืนให้ นาทีหน้างอมองลูกชิ้นในชามของตัวเองก่อนจะมองหน้าคนที่ทำเป็นรู้สึกผิดแต่จริง ๆ แกล้งกันทั้งนั้น
"เอาลูกชิ้นมาให้หมดเลย"
"จะไม่ให้ผมกินเลยเหรอ"
"ใช่!"
"โอ้ย อีสองคนนี้ก็เล่นกันอยู่ได้ เหมือนบนโต๊ะนี้มึงอยู่กันสองคนอ่ะ!" ไอ้เพลย์ตะโกนขึ้นมา ทีนี้ทั้งโต๊ะเลยหันมาโฟกัสทางเรากันหมด เดโม่ยิ้มค่อย ๆ คีบลูกชิ้นของตัวเองมาใส่ให้ หมูเด้งก็ให้ จนในชามเหลือแต่เส้นเพียว ๆ
"โห อีนาที นี่มึงปล้นเดโม่เหรอ"
"ให้เอง ช่วยไม่ได้"
"จะกลายเป็นอีอ้วนอยู่ละ จะแดกอะไรนักหนา แค่แก้มมึงนี่ก็ใหญ่กว่าพุงกูแล้วนะ จะขุนตัวเองไปเพื่ออะไร แม่มึงเลี้ยงไม่ไหวแน่" ออกัสแรปไม่หยุดส่วนนาทีรีบยัดลูกชิ้นเข้าปากเพราะเดี๋ยวเดโม่เอาคืนแล้วจะไม่ได้แย่ง
"เดี๋ยวช่วยแม่เลี้ยงเอง โอเคไหม" นายข้ามฟ้าของทุกคนยิ้ม ขยิบตาให้เขา จะคายไอ้ลูกชิ้นที่อยู่ในปากก็ไม่ได้เลยต้องกลืนไปทั้ง ๆ ที่ทุกคนกำลังแซวกันอย่างหนัก
"พวกมึงจะแซวทำไมเนี่ย"
"กิ้ว ๆๆๆๆ" โปเต้พูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่เงียบมานานจนกระทั่งได้ยินคำพูดที่นาทีตอบกลับไป เลยทำให้น้ำตาแทบไหล
"กิ้วเหี้ยไร" เกิดเป็นโปเต้แสนลำบาก
"ไม่เป็นไรนะมึง" เลย์ตบไหล่พี่ชายของตัวเองเพื่อปลอบใจ
"นาที พูดกับเพื่อนดี ๆ"
"อ่ะโดนผัวดุแล้ว" ออกัส
"เงียบนะคะทุกคน สงสารอีนาที หน้านี่หงอหมดแล้ว" เพลย์ดิส
นาทีเม้มปากแน่น ถ้ามีหู คงเห็นเลยว่ามันลู่และหางตกขนาดไหน ไอ้ดื้อของเดโม่ทำหน้าไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้เลยตัดสินใจนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเงียบ ๆ เพราะรู้สึกว่าถ้ายิ่งพูด ยิ่งแก้ตัว เพื่อนยิ่งแซว
ไม่อยากให้แซวเลยเพราะยิ่งแซวมันก็ยิ่งรู้สึกอายแล้วมันก็เขินแปลก ๆ ด้วย
✰
Demo: คุณ
นาทีนอนมองข้อความในโทรศัพท์แล้วคว่ำหน้าจอลงบนเตียง ไม่อยากคุยด้วยแล้ว วันนี้โดนแซวจนรู้สึกอายไปหมด เป็นเพราะเดโม่คนเดียวเลย
"อีนาที ตอบข้อความแฟนมึงด้วย"
"ไม่ใช่แฟน!!!"
"เออ ชอบข้อความเพื่อนด้วยจ้ะ เดโม่ทักมาบอกกูว่าเป็นห่วงมึงเนี่ย" เพลย์มองบนก่อนจะถอนหายใจออกมาเพราะไอ้คำว่าดื้อที่เดโม่ชอบเรียกอีนาทีเนี่ยมันเป็นความจริง คนอะไรโคตรดื้อ อยากจะจับมาตีสักที
"จะตอบแล้ว!"
"เดโม่บอกเร็ว ๆ" นาทีถอนหายใจออกมาก่อนจะเข้าไปตอบข้อความนั้น ทำไมต้องไปลำบากไอ้เพลย์ด้วยก็ไม่รู้
นาทีเอง: อะไร
Demo: หนูโกรธอะไรหรือเปล่าเนี่ย
นาทีเอง: เปล่า
Demo: งั้นคอลหน่อย รู้นะว่าโกหก
นาทีเอง: ไม่คอล จะนอนแล้ว
Demo: คอลหน่อยนะ
นาทีเอง: บอกแล้วไงว่าจะนอน
Demo: ไม่ได้คุยกันก่อนนอน ผมนอนไม่หลับ
นาทีเอง: ไม่ช่วยหรอก : (
Demo: ไม่สงสารหน่อยเหรอ เราคุยกันทุกวัน แล้ววันนี้คุณก็มาโกรธผมอีก จะนอนได้ยังไง
Demo: มาคุยกัน รับด้วย ห้ามตัดสาย ห้ามปิดเครื่องหนี ห้ามบอกว่าสัญญาณไม่ดี
นาทีอ่านแต่ไม่ได้ตอบจนกระทั่งอีกคนวิดิโอคอลมา เขาหันหลังไปมองไอ้เพลย์ที่ตอนนี้ไม่อยู่ที่เตียงและกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ไอ้ดื้อหยิบหูฟังมาเสียบให้เรียบร้อย รับสายนั้นแต่หันหน้ากล้องไปทางอื่น
"อะไร"
"เสียงแข็งเลย โกรธเรื่องโดนแซวใช่ไหม" โคตรเกลียดเดโม่เลย รู้ทันตลอด ความจริงแล้วมันไม่ถึงกับโกรธหรอกแต่มันเซ็งมากกว่า เขาไม่ค่อยชอบให้เพื่อนแซว และยิ่งเป็นเรื่องนี้ด้วยแล้ว มันยิ่ง… รู้สึกเหมือนว่าทุกคนรู้แล้วว่าเราจูบกัน มันอาย
"อือ"
"นั่นไง ว่าแล้ว"
"…"
"หันหน้ากล้องหน่อย อยากเห็นหน้าหนู"
"…"
"นาที" พอเดโม่ทำเสียงอ่อนจนเหมือนลมหายใจจะขาดห้วง เจ้าตัวเลยค่อย ๆ หันกล้องกลับมา เรามองหน้ากันผ่านกล้องหน้าของโทรศัพท์ คนหน้างอจนแก้มยุ้ยไปกับที่นอนมองรอยยิ้มของอีกคนที่มันไม่ได้กวนตีนแล้ว แต่มันเป็นรอยยิ้มที่มองแล้วรู้สึกใจเย็นมาก ๆ
"…"
"ขอโทษนะ อายใช่ไหม"
"…"
"งั้นต่อไปนี้รู้กันสองคนเหมือนเดิม โอเคไหม"
"รู้กันสองคนอะไร"
"…ก็เรื่องที่ผมจี--"
"อีนาที! มึงคุยกับคนขายข้าวมันไก่อีกแล้วเหรอ กูล่ะอยากรู้นักว่าจะเด็ดดวงสักแค่ไหน ที่ทำให้มึงรับสายเขาทุกวันได้เนี่ย"
"…มันขายตรง มึงไม่เข้าใจหรอก"
"เหรอ กูจะฟ้องเดโม่ อีคนหลายใจ!"
"ฟ้องไปเลย!!" คุยกับเพื่อนก่อนจะหันมามองหน้าจอโทรศัพท์ต่อ "เมื่อกี้จะพูดอะไร"
"เปล่า"
"…"
"ง่วงหรือยังไอ้ดื้อ"
"นิดหน่อย"
"แล้วหายโกรธไหม"
"ไม่ได้โกรธ แค่ไม่ชอบให้ใครมาแซว…" ช้อนตามองคนปลายสาย มันไม่ชอบจริง ๆ นะ ไม่ชอบจนพาลไม่อยากคุยกับไอ้คนไม่มีเพื่อนเลยด้วย
"ทีหลังไม่ทำแล้ว จะคุยกันเงียบ ๆ แบบนี้ โอเคไหม" เดโม่มองตัวดื้อที่พยักหน้าในจอช้า ๆ นาทีโหมดเชื่อฟังน่ารักจนอยากทะลุตัวเองไปนั่งมองหน้าใกล้ ๆ ส่งอีกคนให้นอนสบาย ๆ และหลับฝันดีอย่างที่อยากจะให้เป็น แต่คงต้องรอเวลาหน่อย
"เดโม่"
"หืม"
"จะนอนหรือยัง"
"ยัง หนูมีอะไร" เดโม่มองในจอโทรศัพท์ตอนนี้อีกฝั่งมืดกว่าเมื่อสักครู่มาก คงเป็นเพราะเพลย์ปิดไฟนอน คนที่กลัวผีเลยต้องอ้อนเขาแบบนี้
เป็นแบบนี้หลายคืนแล้ว
"อยู่เป็นเพื่อนก่อนนะ"
"รู้แล้ว ให้เปิดเพลงให้ฟังไหม"
"อื้อ" เอื้อมมือไปเปิดเพลงผ่านโน๊ตบุคที่ยังไม่ได้ปิด เพลงช้า ๆ เสียงสบาย ๆ ที่เขาโหลดไว้เมื่อหลายวันก่อนเพื่อที่จะมาเปิดให้คนขี้กลัวสิ่งลี้ลับฟังก่อนนอนโดยเฉพาะ เวลาผ่านไปพอสมควรเขาถึงได้พูดเสียงเบา ๆ
"หนู"
"…"
"หลับแล้วเหรอ"
"…" ปลายสายเงียบเสียงไปแล้ว ตอนนี้เดโม่ได้ยินแต่เสียงลมหายใจเข้าออกที่เป็นจังหวะราบเรียบ
"ฝันดี ไอ้ดื้อ"
พูดก่อนจะกดวางสายไปทั้งแบบนั้น บางครั้งก็คิดว่าอยากจะย้ายตัวเองไปเช่าหอพักใกล้ ๆ นาที จะได้จีบได้อย่างเต็มที่ แต่พอมาคิดดูอีกที เขาอยู่บ้านนั่นแหละดีแล้ว จะได้อยู่เป็นเพื่อนแม่ด้วย เพราะพ่อไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนไอ้พี่มัดหมี่ก็เอาเงินไปลงทุนทำร้านเหล้าที่พวกเพื่อน ๆ ชอบไปกันนั่นแหละ เลยซื้อคอนโดแถวนั้นอยู่
ยอมรับเลยว่าหลงอีกคนเข้าเต็มเปา เขาไม่ได้มองใครเลยตอนนี้ วางสายตาไว้กับคนคนเดียวมาหลายสัปดาห์แล้ว ถึงจะพูดแล้วไม่ค่อยฟังแต่เขาว่าตอนนี้ดีกว่าตอนแรกมาก ๆ แล้ว คิดว่ายังไงต่อไปในอนาคตน่าทีคงจะกลายเป็นคนที่ดื้อน้อยกว่านี้
เขาคิดว่างั้นนะ
หลายวันผ่านไป เราไม่ได้เจอกันหน้ากันจริง ๆ เลย ทุกเย็นเขามีซ้อมฟุตซอลกับเพื่อนเลยไม่ได้ไปดักไอ้ตัวดื้อที่ป้ายรถเมล์ มีแค่วิดิโอคอลที่ทำให้ได้เห็นหน้าดื้อ ๆ ที่อีกคนแสดงออกมา และลูกอ้อนเล็ก ๆ ตอนที่ให้อยู่เป็นเพื่อนตอนไฟในห้องถูกปิดจนหมด
อยากได้เป็นแฟนมากนะ แต่เจ้าตัวคงไม่ยอมง่าย ๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย จนถึงตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าจะทำยังไงให้นาทียอมรับว่าตัวเองก็มีหวั่นไหวเหมือนกัน
เขาดูออก
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่พวกเขามีแข่ง จ้าวน่านกับนาทีมาด้วยกันเหมือนเดิม แต่เจ้าตัวดื้อดูอ่อนเพลีย ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เดโม่รู้สึกแบบนั้น
ฟุตซอลวันนี้เต็มไปด้วยความเครียดเพราะไอ้เมฆมีท่าทีแปลก ๆ เหมือนคนไม่มีสมาธิ ทีมเราพลาดไปหลายครั้งจนในที่สุดผลตัดสินก็บอกเราว่า เป็นฝ่ายแพ้
"เมฆ มึงโอเคนะ"
"กูโอเค ขอโทษที่ไม่มีสมาธิ"
"เออ ไม่เป็นไร กูก็ขี้เกียจแข่งต่อแล้วเหมือนกัน" พูดก่อนจะตบไหล่เพื่อนไปสองสามที ตามด้วยไอ้โปเต้กับไอ้เลย์ที่เดินเข้ามาสมทบ ไม่มีใครโทษใครเรื่องที่แพ้ในวันนี้
พวกเราเดินออกมาจากโรงยิม เขามองนาทีที่เหมือนพูดอะไรบางอย่างกับน่านก่อนจะเดินเร็วไปอีกทาง เพลย์กับออกัสก็รีบตามไป เดโม่ดูสถานการณ์ที่ค่อนข้างอึดอัดระหว่างเหนือเมฆกับจ้าวน่าน จนเพื่อนทั้งสองคนแยกไปอีกทาง เขาถึงหันหลังเดินเร็วไปทางที่เพลย์กับออกัสวิ่งไป
"อีนาที มึงไหวไหมเนี่ย"
"กูไหว อย่าบอกน่านนะ"
"เออ ๆ ไปห้องพยาบาลไหม" เพลย์ตอบกลับเสียงเครียด เขารู้ว่ามันเหมือนจะท้องไม่ดีตั้งแต่เมื่อวานแล้ว กินก็ไม่ค่อยกินแต่คลื่นไส้เกือบจะตลอดเวลา
"กูอยากนอน"
"นาทีเป็นอะไร" เขาถามออกัสที่ทำหน้าซีดมองไปทางคนป่วย
"มันปวดท้อง คลื่นไส้ แต่ทนมาเรียน อีนี่ชอบฝืนอะไรแบบนี้ตลอด" เดโม่ถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปอุ้มคนที่กำลังคุยกับเพื่อนขึ้นนั่งบนเค้าท์เตอร์อ่างล้างหน้า เขาขมวดคิ้วมองใบหน้าที่ค่อนข้างซีดแต่ยังพอมีเลือดฝาดอยู่บ้าง เลยทำให้มองไม่ค่อยออกว่าป่วย
"อุ้มทำไมเนี่ย"
"ป่วยแล้วทำไมไม่บอก"
"…"
"ยังฝืนมาเรียนอีก ถ้าเป็นลมล้มหัวฟาดพื้นจะทำยังไง" รู้ว่าเผลอทำเสียงดุออกไปมากกว่าปกติ เลยทำให้คนที่ป่วยน้ำตารื้นขึ้นมาแต่มันยังไม่ไหลออกมาเพราะเจ้าของกลั้นเอาไว้
"…"
"ไปห้องพยาบาล"
"ไม่ไป จะกลับห้อง"
"คราวนี้ไม่เล่นนะ เชื่อกันบ้าง"
"…" นาทีเงียบไป เม้มปากแน่น ส่วนเดโม่ก็ยืนหันหลัง
"ให้ขี่หลัง เดี๋ยวพาไป"
"ไม่เอา เดินไหว"
"นาที"
"…รู้แล้ว ทำไมต้องดุเยอะด้วย" พูดเสียงอ่อยก่อนจะค่อย ๆ ขึ้นขี่หลังของเดโม่ เพลย์ดิสกับออกัสปิดปากน้ำตาแทบไหล นี่แหละคือคนที่อีกนาทีเกรงกลัว รองมาจากแม่ ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องเหนื่อยบังคับให้มันกินยาอีกแล้ว เพลย์ขอยกหน้าที่บุรุษพยาบาลสุดหล่อให้เดโม่ไปเลย!!!
"ทีหลังป่วย ให้บอกผมคนแรก"
"…"
"เข้าใจไหม"
"อือ" นาทีฟุบหน้าไปที่ไหล่กว้าง หลับตาลงในขณะที่อีกคนพาเดินไปที่รถยนต์เพื่อพาไปห้องพยาบาล เขาถูกปล่อยลงในยืนก่อนจะถูกพาเข้าไปนั่งในรถ ตามด้วยเพลย์ดิสกับออกัสที่ตามมาเปิดประตูนั่งอยู่ข้างหลัง
เขาปวดท้องมาตั้งแต่เช้าเลย คิดว่าตอนกลางวันคงหายเอง เลยพยายามทำตัวปกติอยู่ตลอดเวลา นาทีบอกเพลย์ตั้งแต่เมื่อวานว่ารู้สึกปวดท้องแต่ไม่คิดว่ามันจะหนัก และไม่อยากให้จ้าวน่านรู้ด้วย ช่วงนี้น่านเครียด ๆ ไม่อยากให้เรื่องเล็กน้อยของตัวเองไปรบกวนความคิดของเพื่อน
เดโม่ที่หน้าเครียดมาตลอดทาง จอดรถที่คณะก่อนจะรีบเดินลงมาอุ้มเขา คราวนี้จะอุ้มแบบลูกลิงเพราะมันง่าย แต่เขาคิดว่ามันไม่โอเค…
"เดโม่ ปล่อย เดินเองได้"
"อะไร จะถึงแล้วเนี่ย"
"ทำไมต้องอุ้มท่านี้ด้วย"
"มันง่ายดี" ไม่มีแรงเถียงแล้วเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย นาทีฟุบหน้าไปกับไหล่ ต้นขาก็เสียดสีอยู่บริเวณเอวสอบ จนกระทั่งถูกพามานั่งที่โต๊ะไม้หน้าห้องพยาบาล เขามองตามเดโม่ที่ไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ให้ สักพักก็มีพี่พยาบาลมาพาเข้าไปในห้อง เพื่อตรวจเช็กอาการต่าง ๆ ตามลำดับขั้นตอน
เวลาผ่านไปคิดว่านานพอสมควร นาทีเดินถือถุงยาออกมาจากห้องพยาบาล เขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถึงแม้ว่าจะมาตรวจอาการและได้ยามาแล้วก็ตาม
"อีห่า กูว่ารีบพามันกลับไปนอนเถอะ หน้าตอนนี้แบบไม่ไหวแล้ว" ออกัสพูด ส่วนเดโม่ก็รีบเดินเข้ามาหา ค่อย ๆ คว้าถุงยามาดูรายละเอียดต่าง ๆ
"จะจอดรถให้หน้าหอนะ ทั้งสามคนลงไปก่อน นี่จะไปจอดรถ แล้วก็เดี๋ยวจะซื้อของกินขึ้นไปให้ เพราะมียาก่อนอาหาร"
"ไม่ค่อยอยากกิน"
"ต้องกิน" นาทีเงียบไป ตอนนี้เราทั้งสี่คนขึ้นมาอยู่บนรถแล้ว ภายในรถไม่มีเสียงใครพูดอะไรออกมาเลย ส่วนคนป่วยก็เริ่มจะหลับเพราะเพลียมาทั้งวัน
"ถึงแล้ว" เดโม่พยักหน้าให้เพลย์กับออกัสพาคนป่วยลงไปก่อน ส่วนตัวเองไปจอดรถไว้ในที่ที่เคยจอด แวะซื้อโจ๊กสี่ถุง เผื่อตัวเอง และเพื่อนทุกคนก่อนจะเดินขึ้นไปบนหอ
"อีนี่ ตอนสบายดีเสือกไม่อยากอาบน้ำ พอตอนป่วยคือ ขยันอาบเหลือเกิน" เพลย์บ่นออกมา ส่วนเดโม่ที่เปิดประตูเข้ามาได้ยินพอดีถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"เป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ"
"มันคิดเอาเองว่า ถ้าอาบน้ำแล้วจะรู้สึกดีขึ้น แต่ความจริงแล้ว มันแค่สดชื่นแต่ไม่ได้ช่วยให้หายป่วยหรอก"
"ซื้อโจ๊กมาฝากทุกคนเลย ขอยืมพวกถ้วยหน่อยนะ"
"ได้ค่ะ ใจดีจัง" เพลย์รับถุงโจ๊กมาไว้ในมือก่อนจะมองเดโม่ที่ยืนกอดอกรออีตัวดีออกมาจากห้องน้ำ ดี ๆ แบบนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก ขอถาม
Playdis: พวกมึง กูว่าคืนนี้มีเฮ
Playdis: อีนาทีโดนปราบแน่!
August: ขอขยายความ ตอนนี้กูกำลังปลดทุกข์อยู่ ไปเสือกด้วยไม่ได้จริง ๆ
Potae: เกิดอะไรขึ้น ๆ
Lay: *อยากเสือก
Playdis: กูว่าคืนนี้ เดโม่ต้องอยู่กับอีนาทีทั้งคืนแน่ มึงว่ากูควรจะทำตัวยังไง
Playdis: ภายใต้ใบหน้าอันเรียบนิ่งของกูคือกรีดร้องไปสามบ้านแปดบ้าน ดังยิ่งกว่าเสียงไจแอนท์ร้องเพลง
Potae: ยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
Lay: ขอเนื้อได้ไหม ไม่เน้นน้ำ
August: กูยกหน้าที่ให้มึงอีเพลย์ กูแบบ ปลดทุกหนัก ของจริง
Playdis: ขอเวลาพิมพ์แป๊บ
Playdis: อีนาทีมันไม่สบาย เดโม่เลยพาไปห้องพยาบาล พากลับมาด้วย แต่อีนาทีมันดื้อ มันไม่ชอบหมอ ไม่ชอบกินยา ถึงจะกินก็กินพอให้มันหาย มันจะไม่กินต่อ กูคิดว่าเดโม่ต้องบังคับให้มันกินจนหมด
Playdis: คนที่อีนาทีเกรงกลัวรองจากแม่ของมันก็คือเดโม่(ผัวกู)เนี่ยแหละ!!
✰
#นาทีที่ข้ามฟ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทันยิ่งกว่าแฟนแล้วมั้นแบบนี้เดโม่ คนที่ปราบน้องได้ แล้วเมฆกับเจ้าร่านงอนอะไรกันน๊า งอนแต่ไปดูแข่งค่อดน่ารักอะ
หนูงอแงพี่เดตบก้นลายนะคะ