ตอนที่ 1 : ✰ one
#นาทีที่ข้ามฟ้า
✰
one
เขามองท้องฟ้าตอนเช้าด้วยสายตาที่พร่าเบลอ นาทีกระพริบตาไปมาก่อนจะหลับไปอีกรอบ ซุกหน้าไปกับบรรดาหมอนที่มากอง ๆ อยู่บนเตียงเพราะยังไม่อยากตื่น มันยังเช้าเกินไป...
6:36 น.
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องลุกขึ้นมาอยู่ดี ตอนนี้ที่มหาลัยยังคงอยู่ในช่วงปิดเทอมของเทอมหนึ่งซึ่งนาทีไม่รู้ว่าจะอยู่หอไปทำไมก็เลยกลับมาอยู่ที่บ้าน แต่การอยู่บ้านมันก็ไม่ได้สบายกายนักหรอกแต่สบายใจดีเพราะได้กินกับข้าวฝีมือแม่ทุกวัน
ทุก ๆ เช้ายกเว้นวันพระที่บ้านเขาจะมีการทำบุญตักบาตรกันหน้าบ้าน นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องตื่นไวขนาดนี้ คนที่กำลังซุกตัวในกองหมอนกองผ้าห่มค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงของตัวเอง ลากสังขารไปอาบน้ำเพื่อไปช่วยยายกับแม่เตรียมของ
พออาบน้ำเสร็จนาทีก็รีบเดินลงไปข้างล่าง ไปกอดแม่จากด้านหลังก่อนจะชะโงกดูว่าวันนี้มีกับข้าวอะไรไปทำบุญบ้าง
"นาที ไปช่วยคุณยายจัดดอกไม้ไปลูก"
"จัดดอกไม้อีกแล้ว ให้นาทีทำอย่างอื่นได้ไหม"
"..." เมื่อเห็นแม่เงียบไป นาทีก็ทำหน้าบึ้งก่อนจะเดินไปหาคุณยายที่กำลังจัดดอกไม้อยู่ เขาไม่ชอบจัดดอกไม้เพราะมันดูน่ารักเกินไป มันไม่เหมาะกับเขาเลย!
"หน้าบึ้งอีกแล้ว เด็กคนนี้"
"นาทีไม่อยากจัดดอกไม้"
"ทำไมล่ะลูก ช่วยยายจัดดอกไม้ ง่ายจะตาย" นาทีเงยหน้ามองยายก่อนจะหยิบดอกบัวตูมขึ้นมาพับกลีบให้สวยตามที่เคยได้รับการสอนมา
"ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ไม่อยากจัดเฉยๆ" ขืนบอกยายไปว่าไม่อยากทำเพราะว่าดูน่ารักเกินไปต้องโดนหยิกแน่ ๆ เนื่องจากยายชอบพูดว่าเขาน่ารัก จับหอมแก้มซ้าย หอมแก้มขวาตลอด แบบนั้นเขาก็จะยิ่งโกรธ
โกรธตัวเองเนี่ยแหละที่หงุดหงิดกับคำว่าน่ารัก
โดนชมแบบนี้ตลอดจนไม่ชอบคำนี้แล้ว
: (
"วันนี้น้านัทมานะ พาเจ้าน้อยหน่าตัวแสบมาด้วย ตอนบ่ายนี้ก็พาน้องไปเที่ยวที่ห้างหน่อยสิ" แม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาพูดก่อนจะวางถาดกับข้าวลงกับโต๊ะเตี้ย ๆ
"ทำไมต้องให้นาทีพาไปด้วยล่ะครับ ให้น้านัทพาไปก็ได้"
"พาน้องไปเที่ยวหน่อยนะลูก ตามประสาลูกพี่ลูกน้อง ขี่มอไซกันไป ห้างก็อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง" เขาไม่ค่อยชอบน้อยหน่าเพราะเป็นเด็กที่โคตรเอาแต่ใจและดื้อมาก ๆ ชอบร้องไห้เสียงดังลั่นซอยจนเขาไม่ได้นอนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และน้อนหน่าเพิ่งขึ้นประถมหนึ่งปีนี้เอง
"ก็ได้ครับ" ไม่อยากขัดใจแม่ก็เลยตกลงไปอย่างช่วยไม่ได้
พวกเราสามคนมาตักบาตรหน้าบ้าน แม่กับเขานั่งคุกเข่าไปกับพื้นส่วนคุณยายนั่งบนเก้าอี้ หลังจากที่พระบิณฑบาตรเสร็จ เราก็ช่วยกันเก็บของแล้วก็มานั่งกินอาหารเช้าด้วยกันอย่างเช่นทุกวัน
ตกบ่ายน้านัทที่เป็นน้องสาวแม่ก็มาพร้อมกับน้อยหน่าตัวแสบ เขาถูกแม่กับน้าบังคับให้พาน้องไปเดินเที่ยวเล่นที่ห้างใกล้บ้าน ซึ่งนาทีก็ไม่ขัดคำสั่ง ตอนนี้พวกเราทั้งสองคนเลยมาอยู่ในห้างสรรพสินค้าแล้ว
"พี่นาที หนูอยากกินไอติม"
"โอเค" เขาพาน้อยหน่าไปยืนต่อแถวที่ Dairy Queen จนกระทั่งถึงคิว
"สวัสดีค่ะ รับแบบไหนดีคะ" นาทีอุ้มน้อยหน่าให้มาเกาะที่ขอบเคาน์เตอร์เพื่อเลือกอันที่ชอบ
"เอาอันนี้ ใหญ่สุด!" นาทีมองตามนิ้วป้อมที่กำลังชี้ไปที่โอรีโอ้บลิซซาร์ดขนาดใหญ่ก่อนจะสั่ง
"เอาโอรีโอ้บริซซาร์ดไซส์ s ครับ"
"น้อยหน่าจะเอาใหญ่สุด!!! ทำไมพี่นาทีสั่งอันเล็กให้อ่ะ!"
"พี่ก็สั่งอันใหญ่ให้นี่ไง"
"เอ็ดๆ มันอันเล็ก อันใหญ่ต้องเอ็กแอน!"
"..." เพิ่งขึ้นแค่ประถมหนึ่งแต่รู้ขนาดเป็นภาษาอังกฤษแล้วเหรอ... นาทีเงียบไปก่อนจะพยายามคิดและอธิบายให้น้องฟังว่ามันไม่จำเป็น
"น้อยหน่ากินคนเดียว อันเล็กก็พอแล้ว"
"ไม่เอา!" นาทีถอนหายใจออกมาก่อนจะเห็นว่าน้อยหน่าเริ่มเบะปากเตรียมจะแหกปากร้องไห้ และเขาคิดไว้เลยว่ามันต้องวุ่นวายขนาดไหน
เหนื่อยรอก่อนแล้ว
และสิ่งที่คิดก็เกิดขึ้น นาทีหลับตาปี๋เพราะน้อยหน่าร้องไห้เสียงดังลั่น เขารีบขอโทษคนที่ต่อคิวอยู่ข้างหลังก่อนจะพาน้องเดินออกมาก่อน
"ขอโทษครับ"
เสียงร้องไห้ยังคงดังลั่นจนคนรอบข้างหันมามอง นาทีก็เลยจะกอดปลอบน้องแต่เขาก็โดนทำร้ายร่างกายด้วย
ไอ้เด็กคนนี้!!!
"พี่เจ็บนะน้อยหน่า! ถ้าจะดื้อแบบนี้พี่จะไม่เดินด้วยแล้วนะ" นาทีทำหน้าบึ้งแต่คำพูดของเขามันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เข้าหูเด็กตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว
"พี่นาทีใจร้าย น้อยหน่าแค่อยากได้อันใหญ่อ่ะ ซื้อให้ไม่ได้เหรอ!"
"...ก็อันใหญ่น้อยหน่ากินไม่หมดหรอก สั่งอันเล็กก็พอแล้ว"
"..."
และน้องฟังเขาที่ไหน นาทียืนมองเด็กที่ร้องไห้ดังลั่นห้าง เขาไม่รู้ว่าจะปลอบยังไงก็เลยยืนตัวแข็งทื่อทนสายตาของคนมอง คิดว่าเดี๋ยวน้อยหน่าก็คงหยุดร้องไห้เอง จนกระทั่ง...
"หนูเป็นอะไรคะ บอกพี่ได้ไหม"
มีใครที่ไหนก็ไม่รู้มาคุกเข่าคุยกับน้อยหน่าด้วยน้ำเสียงที่ใจดี นาทีมองใครบางคนที่หันมาทางเขาก่อนจะพูด
"ขออนุญาตนะ น้องจะได้หยุดร้องไห้ซะที"
"อือ" ก็ไม่ได้ไว้ใจหรอกแต่ถ้าจะทำให้เด็กคนนี้หยุดร้องไห้ได้เขาก็โอเคเพราะว่าไม่สามารถทำให้เด็กคนนี้หยุดร้องไห้ได้จริง ๆ
"พี่ชื่อเดโม่นะคะ... เกิดอะไรขึ้นเล่าให้พี่ฟังได้ไหม"
"พี่นาที ฮึก ไม่ยอมซื้อไอติมอันใหญ่ให้หนู" เขาทำหน้าบึ้งก่อนจะมองไปทางน้อยหน่าที่ตอนนี้หยุดร้องไห้แล้วและก็ฟ้องไอ้คนแปลกหน้าใหญ่เลยว่าเขามันเลวยังไง ทำไมไม่ยอมซื้อไอติมอันใหญ่ให้!
"ที่พี่เขาบอกก็ถูกแล้วนะ" เขายิ้มเพราะไอ้คนตรงหน้ามันเข้าข้างเขา "หนูซื้ออันเล็กก็พอ ตังค์เหลือเราจะได้ไปซื้อขนมอย่างอื่นได้ไง" นาทีหน้างอเพราะน้อยหน่าพยักหน้ารัว ๆ เชื่อฟังอย่างเต็มที่
"จริงด้วย!"
"ไป งั้นเดี๋ยวพี่พาไปซื้อนะ"
"โอเคค่ะ"
นาทีกรอกตาสามร้อยหกสิบองศา คนที่ชื่อเดโม่นี่ก็จูงมือน้องเขาเหมือนเป็นน้องของตัวเอง แต่เขาจะไม่ให้คลาดสายตาหรอก ถ้าเป็นแก็งลักพาตัวเด็กขึ้นมา เขาจะกระโดดถีบเลย
"โอรีโอ้บริซซาร์ดไซส์ s ครับ" พอคนตัวสูงสั่งเสร็จพนักงานก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนนาทีรู้สึกหมั่นไส้ พอมองดี ๆ คนที่มาช่วยให้น้องเขาหยุดร้องไห้ก็หล่ออยู่เหมือนกัน ตัวสูงมาก ๆ อย่างกับนายแบบ แต่งตัวก็ดี ดูแพงไปทั้งตัวเลย
"ขอบคุณค่ะ" คนแปลกหน้ายื่นตังค์ให้พนักงาน นาทีก็รีบหยิบเงินของตัวเองส่งต่อให้อีกคนแทบจะทันที
"อ่ะ คืน"
"ไม่เป็นไร เลี้ยง" อีกคนพูดก่อนจะรับถ้วยไอศกรีมมาแล้วยื่นให้น้อยหน่า เขามองน้องตัวเองที่รับถ้วยไอติมมาแล้วก็กินเหมือนมันอร่อยมาก แต่มันก็อร่อยแหละ เขาเคยกิน...
"เลี้ยงอะไร เอาคืนไปเถอะ"
"ไว้ถ้าเจอกันอีกค่อยคืน"
"..."
"แล้วคุณจะทำหน้างอทำไม"
"เปล่าทำ เอาคืนไปเถอะ คงไม่ได้เจอกันหรอก แล้วก็ขอบคุณมากเรื่องที่มาช่วยให้น้อยหน่าหยุดร้องไห้โวยวาย"
"ยินดีครับ" รอยยิ้มของคนตรงหน้าทำให้นาทีรู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ "แต่เรื่องเงินไม่เป็นไร"
"..."
"มันไม่ได้แพงมากอยู่แล้ว" พอพูดแบบนี้นาทีก็รีบเก็บเงินเข้ากระเป๋าเลย คนอยากอวดรวยก็ให้อวดรวยไป
"อือ ขอบคุณอีกทีแล้วกัน" นาทีพูดขอบคุณอีกทีก่อนจะจูงมือน้องสาวให้เดินไปอีกทาง และมันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีคนมาตามเดโม่พอดี
"คุณเดโม่อยู่นี่เอง ผมก็นึกว่าหลง... สตูดิโออยู่ทางนี้นะครับ" คนนำทางผายมือไปในทิศทางตรงข้ามกับที่ที่อีกคนเดินห่างออกไป
"ครับ"
ก็ได้แต่หวังว่าคงจะได้เจอกันอีกครั้ง
✰
การเรียนเทอมสองได้เริ่มขึ้นแล้ว นาทีที่เพิ่งกลับมาจากบ้านเดินขึ้นหออย่างห่อเหี่ยว เอาจริง ๆ ก็คือไม่อยากเรียนแล้ว เขาขี้เกียจ แต่นี่ก็เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยมาได้เทอมเดียวเอง ก็เลยฉุกคิดได้ว่าก็ลองขยันหน่อย จะได้เรียนจบด้วยเกรดดี ๆ
"อ่ะ อีนี่ เหี่ยวเป็นขยะเปียกแล้ว" นาทีที่กำลังทำหน้าหงอหันไปทางเพื่อนร่วมห้องของเขา เพลย์ดิสเป็นกะเทย ที่เพิ่งมาเป็นกะเทยได้ไม่นาน...
"ขี้เกียจเรียน"
คือเพื่อนเขามันสับสนกับตัวเองเลยอยากลองเป็นกะเทยดู ล่าสุดมีเพื่อนกะเทยแล้วชื่อออกัส คนนี้เป็นของจริงไม่ติงนัง
"มึงแค่ง่วง ไปนอนไป"
"อือ นอนก็นอน"
นาทีล้มตัวลงบนเตียงที่เต็มไปด้วยหมอนและผ้าห่มต่าง ๆ เขาชอบนอนแบบนี้เพราะมันนิ่มและสบายมากโดยเฉพาะตอนหน้าฝนกับหน้าหนาว มันอุ่นสบายจนไม่อยากลุกไปไหนเลย
การเปิดเทอมวันแรกเป็นอะไรที่ตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะจะได้เจอเพื่อนเยอะ วันนี้เขากับจ้าวน่านมาเรียนวิชาภาคเช้าด้วยกัน แล้วก็ลงตารางเรียนคล้าย ๆ กันด้วย
จ้าวน่านเป็นเพื่อนในภาคที่นาทีสนิทด้วยที่สุด เพื่อนของเขาเป็นคนเงียบ ๆ แถมยังเป็นโรคประหลาดที่ถ้าคงไปบอกใคร ก็คงโดนหาว่าบ้า จ้าวน่านเป็นโรคหูดับตอนฝนตก แปลกดีเหมือนกัน ไม่เคยได้ยินเลย ในตอนแรกก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกแต่พิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่างก็คิดว่าจริง นาทีเคยลองตะโกนใส่หูเพื่อนด้วย แต่อีกคนก็ยังนิ่ง
พอถึงวิชาคาบบ่ายที่เราลงเรียนด้วยกัน เขากับน่านก็ไปนั่งตรงที่ว่างกลาง ๆ ห้องจนกระทั่งมีใครบางคนเดินเข้ามาและมันทำให้มีเสียงกรี๊ดเล็ก ๆ เกิดขึ้น
เขาก็พอจะรู้จักเหนือเมฆอยู่บ้าง ได้ยินมาว่าเป็นคนที่มีผู้หญิงเยอะและเจ้าชู้ด้วย ส่วนอีกคนนึงที่เขาเห็นก็คือ...
"เหมือเมฆกับเดโม่"
"กลุ่มคนหล่อชัดๆ"
"ทำไมวันนี้มาแค่สองคนล่ะเนี่ย ปกติกลุ่มนี้มีสี่คน มีแฝดด้วย"
"แฝดก็หล่อนะ กรี๊ดดดดดด"
เดโม่... เป็นคนเดียวกันกับคนที่เขาเจอที่ห้าง เป็นคนเดียวกับที่เลี้ยงไอติมน้อยหน่า... นาทีทำเป็นไม่สนใจ เพราะไม่ชอบคนอวดรวย ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนของตัวเองจนอาจารย์เข้ามาสอนในห้อง สรุปได้ว่าต้องซื้อหนังสือ เขากับจ้าวน่านเลยปรึกษากันเรื่องนี้มาควรไปขอพี่รหัสหรือซื้อเองเลยดี
"จ้าวน่าน นาที เย็นนี้ไปร้านเดิมกันไหม" นาทีทำหน้างง
"ร้านเดิม?" จ้าวน่านทวนคำถาม
"อ้าว ไม่ได้อ่านในไลน์รุ่นเหรอ" นาทีฟังก่อนจะรีบเปิดโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาแล้วกดไปในไลน์รุ่นที่เขากดปิดเสียงเอาไว้เพราะชอบคุยกันแต่เรื่องไร้สาระ ก็เลยไม่ค่อยได้เข้าไปอ่าน ข้อความล่าสุดมีเพื่อนถามว่า วันเปิดเทอมวันแรกไปร้านเดิมกันไหม ฉลองเนื่องในโอกาสที่เราเป็นเพื่อนกันมาหนึ่งเทอมแล้ว...
เนื่องในโอกาสนี้ก็ได้เหรอ ?
"อ่านละ" เขาตอบเพื่อนก่อนจะมองจ้าวน่านที่ทำสีหน้าลำบากใจ ก็ถ้าเพื่อนไม่ไปเขาก็ไม่ไปเหมือนกัน นาทีมองน่านที่ปฏิเสธเพื่อนก่อนจะโดนเพื่อนอีกหลายคนรบเร้าให้ไปจนจ้าวน่านขอมาคุยกับนาทีเป็นการส่วนตัว
"ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปก็ได้ เดี๋ยวพูดให้ ไม่มีใครบังคับมึงหรอกน่าน"
"แต่ความจริงก็แอบอยากไปเหมือนกัน"
"อ้าว ยังไง" นาทีเริ่มขมวดคิ้ว
"แต่ว่าถ้าฝนตก นาทีต้องอยู่เป็นเพื่อนนะ"
"รู้แล้วน่า" เขายิ้มให้จ้าวน่านก่อนจะกระแทกไหล่เพื่อนให้ร่าเริงขึ้นหน่อย นาทีสงสารเพื่อนมาก ๆ จ้าวน่านชอบทำหน้าเศร้าตอนฝนตกตลอด ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะอยู่เป็นเพื่อนถึงแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม...
พอตกลงกับเพื่อนได้ว่าจะไปที่ร้านเดิมด้วย ทุกคนก็ดีใจยกใหญ่เพราะปกติแล้วถ้าจ้าวน่านไม่ไปเขาก็ไม่ไปเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าติดเพื่อนขนาดนั้นหรอก นาทีขี้เกียจเฉย ๆ
เราแยกย้ายกันกลับมาเปลี่ยนชุดที่ห้อง นาทีใส่เสื้อยืดตัวย้วย ๆ ที่ใช้ใส่นอนกับกางเกงยีนตัวหลวม ๆ ที่ชอบใส่เพราะว่ามันสบาย
"มึงจะไปไหนอีตัวดี"
"ไปเที่ยวกับเพื่อนในรุ่น"
"เดี๋ยวนี้หัดแรด" นาทีกรอกตาไปมาก่อนจะพูด
"มึงเลิกเรียกกูอีตัวดีกับไปแรดได้ไหมอ่ะ กูไม่ชอบ"
"ค่า นังตัวดี จะไปไหนก็ไป" นาทีทำหน้างอใส่เพลย์ดิสก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับกระเป๋าสตางค์ ที่เขาไม่เถียง ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบสรรพนามที่เพลย์ดิสตั้งให้นะ แต่เป็นเพราะนาทีเถียงไม่เคยชนะเลย... ดังนั้นก็จะไม่เถียงด้วยแล้ว
นาทีมาถึงร้านที่นัดหมายคนแรก ๆ เขาไปนั่งกับเพื่อนในรุ่นที่มากันสองสามคนแล้ว กินเหล้ารอเพื่อนไปนิดหน่อยจนกระทั่งเขาอยากเข้าห้องน้ำ
"กูไปห้องน้ำก่อนนะ"
"เออ ๆ"
คนตัวเล็กกับเสื้อตัวย้วย ๆ เดินไปที่ห้องน้ำของร้านนี้ ความจริงก็ไม่รู้หรอกว่าห้องน้ำมันอยู่ตรงไหน แต่ก็จะงมดู ถ้าให้เพื่อนพามามันจะดูเหมือนเป็นเด็ก ดังนั้นนาทีจะหาเอง
เขาเดินไปทางหลังร้านก่อนที่จะพบว่าตัวเองกำลังไปทางผิดก็เลยจะเดินกลับไปทางเดิม แต่พอหันไปเขาก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากหน้าอกของใครก็ไม่รู้ที่นาทีเอาหน้าผากชนดังปั่ก
“ขอโทษครับ”
“เห้ย พี่น้อยหน่า!” นาทีขมวดคิ้วก่อนจะเงยหน้ามองคนที่กำลังยิ้มกว้าง เขามองต่างหูจิวสีดำเล็ก ๆ ที่อยู่บนหูก่อนจะเลื่อนสายตากลับมาจ้องตากับคนที่เคยเจอกันเมื่อนานมากแล้ว (ประมาณสองอาทิตย์)
“ไม่ใช่ซะหน่อย”
“ใช่ นี่จำได้”
“ไม่ใช่!” เขาเถียงอีกคนจนคนที่ตัวสูงกว่ายกมือขึ้นมาเป็นอันว่ายอมแล้ว
“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แล้วนี่กำลังจะไปไหน”
“...”
“หลังร้าน ?”
“จะไปห้องน้ำ”
“โธ่ มันทางนี้ที่ไหนกันล่ะครับคุณ มาๆ เดี๋ยวผมพาไป” เดโม่ยิ้มขำออกมาก่อนจะพาใครบางคนที่หน้าตาโคตรดื้อเดินไปห้องน้ำซึ่งจัดอยู่ข้าง ๆ ร้านและมันก็มีป้ายบอกเป็นระยะ ๆ ด้วย ต้องเด๋อขนาดไหนถึงหลงเข้าไปหลังร้านขนาดนั้น ถ้าเกิดเดโม่ไม่ไปเจอคิดว่าคงหาทางไปห้องน้ำจนทะลุหลังร้านไปเลย
“ขอบคุณ” พี่ชายน้อยหน่าบอกขอบคุณก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำเลยโดยที่ไม่มองหน้ากันสักนิด คนตัวสูงกับจิวสีดำยืนยิ้มกอดอกอยู่หน้าห้องน้ำ ไม่นานมากนักคนที่จัดการยากยิ่งกว่าเด็กร้องไห้ก็เดินออกมา ตอนแรกก็ทำหน้าเฉย ๆ อยู่หรอกแต่พอเจอเขาก็ทำหน้าดื้อทันที
“ไปส่งที่โต๊ะไหม เผื่อหลง”
“ไม่ต้อง ไปเองได้” อีกคนตอบ ใบหน้าดื้อ ๆ ตรงหน้าทำให้เดโม่ยิ้มออกมาอีกรอบ
“งั้นคืนตังค์มาก่อน”
“...”
“ค่าไอติมน้อยหน่า” เขาแบมือต่อหน้าอีกคน แต่สักพักก็โดนอีกคนตีมือมาแทน
“ไหนบอกเลี้ยงไงวะ”
“ไหนบอกไม่ใช่พี่ชายน้อยหน่าไง”
“...”
“อ้าว ไปไหนอ่ะ” เขาเรียกไล่หลังคนที่เดินหนีไป แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ คราวนี้เดโม่เลยตัดสินใจตะโกน “ไว้คราวหน้าค่อยคืนก็แล้วนะครับ”
“...”
“นาที!”
นาทีเดินปิดหูจนมาถึงโต๊ะที่ตอนนี้มีเพื่อนมากขึ้น และจ้าวน่านก็มาแล้วด้วย คนตัวเล็กไม่ต่างกับเพื่อนของตัวเองนั่งลงก่อนจะหยิบแก้วเหล้าของตัวเองมากระดกลงคออย่างอารมณ์เสีย
แบบนี้ไอ้คนอวดรวยนั่นมันกวนตีนเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ ก็บอกว่าไม่ใช่พี่ชายน้อยหน่าแต่กลับหลอกถามจนเขาพูดจนได้ กะอีแค่เงินไม่กี่บาทเขาคืนให้ได้อยู่แล้ว! นาทีกินเหล้าไปอีกแก้วก่อนจะหยิบกระเป๋าตังค์ในกางเกงของตัวเองออกมา ตาเบลอ ๆ มองกระเป๋าสตางค์ของตัวเองที่แยกร่างได้ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
นาทีคิดว่าเขาอารมณ์เสียมากเกินไปจนมาลงที่แก้วเหล้าและตอนนี้ก็เมาแล้วด้วย เจ้าของเสื้อยืดตัวย้วย ๆ เอนหลังไปกับเบาะที่หนังแล้วหลับตาลงฟังเสียงคนร้องเพลงบนเวทีที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร
แต่หลับตาไปก็ดันเห็นภาพเดโม่ยิ้มอยู่ในความคิด
เขาไม่ชอบหน้าเดโม่เลย...
✰
#นาทีที่ข้ามฟ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ระวังน้าาาาาา