ยอดคนพลังจิต
คุณเคยคิดไหม ว่าถ้าคนเราสามารถนึกคิดอะไรแล้วเขียนหรือพิมพ์แล้วมันกลายเป็นจริง ถูกสรา้งขึ้นมาได้จริงๆมันจะดีไหม แล้วถ้าหากว่าโลกเรามีมนุษย์ที่ทำได้แบบนี้จริงๆจะเป็นอย่่างไร เชิญลองมาติดตามในเรืองราวได้
ผู้เข้าชมรวม
75
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
นวนิยายเรื่องยอดคนเนรมิต
บทประพันธ์ โดย ณัฐพัชร ทรงรัฐเศรษฐ์
ได้มีวัตถุบางอย่างคล้ายๆกับจักรลอยมาตัดแขนและอาวุธของพวกกลุ่มก่อการร้ายอย่างเร็วไว
"ควับ ควับ "
"ฉึก ฉึก อ๊าคคค อ๊าคค "
เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของพวกเหล่านักรบทมิฬเหล่านี้ต่างร้องเจ็บปวดทรมาณอย่างฉับพลัน
ซึ่งภาพจากโดรนและกล้องวงจรปิดของเมืองได้จับภาพของชายคนหนึ่ง ที่เป็นคนไทยได้ ซึ่งเป็นบุคคลที่รัฐบาลชาติมหาอำนาจทั่วโลกและรัฐบาลชาติเผด็จการทั่วโลกต่างต้องการตัวของเขามาก
ซึ่งก็คือ ณัฐพัชร ชัชชัย
ชายหนุ่มวัย ๔๒ปี
รูปร่างสูง ๑๖๓เซ็นติเมตร
"พบเป้าหมายแล้ว มันกำลังวิ่งหนีเราอยู่ในทุ่งสะวันนา กำลังจะเข้าเขตป่าโปร่งแล้ว ระดับพลังจิตของมันตอนนี้อ่อนมาก ยังไม่สามารถใช้พลังจิตต่อต้านได้ "
ชายสองคนนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่กำลังขับบินไล่ตามหลังชายคนไทยคนหนึ่งนั้นพูดวิทยุสื่อสารกับใครบางคนทางวิทยุสื่อสาร โดยมีเป้าหมายคือการจับตัวของชายไทยคนนี้มาให้ได้
ชายคนหนึ่งบนเฮลิคอปเตอร์พูดรายงานผลการวิเคราะห์ให้แก่ทีมงานบนเฮลิคอปเตอร์อีกลำหนึ่งที่บินตามมาข้างๆกันอยู่
จนตัดสินใจกระโดดลงไปในน้ำแล้วถูกตาข่ายจับตัวเขาขึ้นมาจากน้ำ ในที่สุด
นั่นเป็นภาพความทรงจำก่อนที่จะเขาจะต้องมาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งภายในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวในประเทศทางตะวันออกกลาง ณเมืองใดก็ไม่รู้
"เฮ๊ย เบื่อโว๊ย ทำไมพลังจิตของเราถึงบันดาลพลังอาวุธทำลายล้างออกมาใช้ทำลายห้องขังนี้ไม่ได้เลย ทำไมมันทำได้แค่นี้เอง "
ณัฐพัชรพยายามจะสร้างอาวุธร้ายแรงอย่างปืนใหญ่ ปืนเลเซอร์หรือจรวดและระเบิดออกมาเพื่อจะพังห้องขังนี้ออกไปให้ได้ แต่ก็ทำไม่ได้ พลังจิตของเขาเหมือนถูกล๊อค มีอะไรมาสกัดกั้นระดับพลังจิตของเขาให้ใช้งานไม่ได้อย่างเต็มที่
"ด๊อกเตอร์ครับ นักโทษพยายามใช้พลังจิตในระดับสีแดงอยู่หลายครั้งครับ แต่โชคดีที่ชุดพิเศษกับอุปกรณ์ของด๊อกเตอร์ช่วยสกัดหยุดยั้งระดับพลังของนักโทษให้ใช้พลังไม่ได้เต็มที่นะครับ "
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งภายในห้องควบคุมอันล้ำยุคพูดขึ้น เมื่อตรวจดูระบบการทำงานบนจอคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อันล้ำยุคต่างๆภายในห้องควบคุมแห่งนี้แล้ว
"อย่าคิดพยายามจะใช้พลังจิตของแกที่ฟื้นขึ้นมาแล้วเพื่อหนีออกไปจากที่นี่เลย เพราะอุปกรณ์พวกนี้รวมทั้งชุดที่แกสวมใส่อยู่จะต้านทานระดับพลังจิตชั้นสูงของแกที่จะสร้างอาวุธวิเศษหรือพลังวิเศษ ร่างพลังแบบต่างๆของแก
หรือแม้แต่การสร้างสิ่งมีชีวิตบริวารของแกขึ้นมาช่วย อุปกรณ์กับชุดนี้ก็จะสกัดพลังจิตระดับของแกให้ทำงานไม่ได้หมดนั่นแหละ พวกเราศึกษาวิจัยความสามารถทางพลังจิตของแกมานายหลายปีจนรู้วิธีจะจัดการกับแกได้แล้ว อย่าได้คิดหนีออกไปเลย เสียเวลานะฮ่าๆๆ "
"คุณจะสามารถใช้พลังได้ต่อเมื่อผมต้องการ และมีคนของพวกเราคอยควบคุมอยู่อย่างใกล้ชิด คุณเห็นกล่องโลหะนั่นมั๊ย มันคือปืนกลที่พร้อมยิงคุณให้พรุนไปทั้งตัวเลย หากคุณคิดจะใช้พลังจิตเนรมิตอาวุธร้ายแรงหรือร่างแปลงและสิ่งมีชีวิตบริวารให้มาทำลายห้องขังนี้หนีออกไปน่ะ
พลังระดับสูงของคุณมันจะไปแจ้งเตือนให้ระบบของเรา อย่าได้คิดพยายามเลย นะขอบอกเอาไว้ก่อนเลย คุณณัฐพัชร "
ชายแต่งตัวแบบนักวิทยาศาสตร์เดินเข้ามาพูดอยู่ที่หน้ากระจกของห้องควบคุมที่มองเห็นภาพของชายไทยคนนี้นามว่าณัฐพัชร จากจอภาพกล้องวงจรปิดภายในห้องขังแห่งนี้ได้อย่างชัดเจนหมด
๓เดือนต่อมา หลังจากที่ณัฐพัชรได้หลบหนีพวกองค์กรลึกลับพวกนี้ได้ ด้วย สิ่งเนรมิตพลังงานต่ำ แล้วจึงดื่มกินสารอาหารบำรุงพลังของพวกองค์กรลึกลับแห่งนี้
“ลาขาดแล้วละนะพวกแกขอบใจสำหรับอาหารเสริมบำรุงพลังจิตนี่ของพวกแกมากนะ “
ณัฐพัชรพูดจบ
แล้วเขาจึงใช้พลังเนรมิตร่างพลังสายฟ้าหลบหนีจากองค์กรลับนี้ออกมาแล้วพักฟื้นพลัง
“บุญคุณนี้ต้องตอบแทนนะ อย่างสาสมด้วย สำหรับอาวุธเลวๆอันล้ำยุคที่พวกแกบังคับให้ฉันสร้างขึ้นเพี่อให้พวกแกเอาไปทำความชั่วบนโลกใบนี้ ฉันขอทวงคืนทั้งดอกและทั้งต้นแล้วกันนะ “
ณัฐพัชรพูดขึ้นอย่างยิ้มๆแบบเย็นชาก่อนจะรวบรวมพลังอีกครั้งสร้างเป็นจรวดยิงถล่มใส่อาคารขององค์กรลับนี้จนระเบิดพินาศในที่สุดแล้วจึงเดินทางกลับมาเมืองไทยอย่างเงียบๆธรรมดาที่สุด
ทางเรือขนสินค้าลำหนึ่ง ที่มุ่งหน้ามาที่ไทย
"ฮ่า ๆสำเร็จแล้ว ในที่สุดเราก็หนีออกมาจนได้ แล้วฉันจะกลับมาคิดบัญชีกับพวกแกอย่างแน่นอน รอก่อนนะ" | |||||||||||||||||||||
จึงได้ไปหาพระชรารูปนึงผู้ทรงอภิญญาและบรรลุธรรมชั้นสูง ผู้ซึ่งให้พรแก่เขาหลังจากที่ณัฐพัชรได้ทำบุญด้วยวัตถุสิ่งของ ของกินของใช้หลายอย่าง รวมทั้งดูแลปรณิบัตรพระชรารูปนี้มานานหลายปี โดยไม่รู้ว่าท่านเป็นพระอรหันต์ขีณาสพผู้ทรงอภิญญาหก ซึ่งท่านได้ให้พรวิเศษจนทำให้เขากลายเป็นผู้มีพลังจิตแห่งการเนรมิตทั้ง๖เกิดขึ้นมา และเมื่อเขามาหาท่านอีกครั้งในคราวนี้จึงได้คาถามาฝึกพลังการควบคุมระดับพลังของตนเองและเก็บซ่อนพลังที่แท้จริงของตนเอง ฟื้นคืนพลังยืดพลังของตนเองให้ได้นานมากที่สุด จึงเดินทางไปหาพระชรารูปนี้
อยู่๓เดือน
และยังได้วิธีการเพิ่มพลังฟื้นคืนพลังด้วยน้ำมนต์จากวัดต่างๆ
และได้ให้เหล็กไหลมาติดตัวเอาไว้เพื่อทำให้ณัฐพัชรมีพลังจิตเพิ่มขึ้นและยืดพลังได้นานกว่าเดิม
ณัฐพัชรกำลังขายอาหารอยู่ในตลาดนัด ในร้านเล็กในคูหาเพียง ๑๘ตารางวาของเขานั่นเอง
"แย่แล้วพวกชายลึกลับจากองค์กรร้ายมาล่าตัวเราอีกแล้ว จะให้คนแถวนี้หรือคนที่รู้จักกับเราต้องมาเดือดร้อนด้วยไม่ได้ เราต้องไปอยู่ที่อื่นเหมือนเดิมอีกแล้ว"
ณัฐพัชรเดินทางไปหลบซ่อนตัวอยู่ในต่างจังหวัดเพราะได้เห็บพวกคนลึกลับมาตามหาสอดแนมดูเขาอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งณัฐพัชรก็เป็นห่วงคนที่รู้จักในซอยหมู่บ้านเดียวกันกับเขาจะเดือดร้อนไปด้วย โดยเฉพาะพวกพ่อค้าแม่ค้า และลูกค้าที่เขามาซื้อของในตลาดจะพลาดโดนลูกหลงไปด้วย เขาจึงตัดสินใจหลบหนีไปอยู่ต่างจังหวัดโดยได้สร้างที่พักอาศัยอยู่แบบง่ายในหมู่บ้านแห่งนี้ แล้วย้ายที่อยู่ไปอีกในหมู่บ้านอื่นๆอยู่ตลอดทุกสัปดาห์
พอเข้าไปในเมืองเพื่อพบปะสังคม และรับรู้ข้อมูลข่าวสารอะไรในเมืองบ้าง โดยเฉพาะการไปหาอาหารที่เขาชอบกินนั่นคือ เบอเกอร์ไก่ ไข่ดาวหรือเบอเกอร์เจ และอาหารอินเดียกับข้าวแกงปักษ์ใต้นั่นเอง
"แย่แล้ว พวกมันมาถึงแถวนี้ได้ยังไงเนี่ย อ้อ กล้องวงจรปิดภายในร้านนี่เอง หรือเราลืมใส่หน้ากากหรือเนี่ย แย่แล้วสิ "
แต่แล้วพวกสายลับก็เจอตัวของเขาจนได้จากการที่เขาเข้าไปกินอาหารในร้านเบอเกอร์ชื่อดังแล้วไม่ได้ใส่หน้ากากปิดบังหน้าของตนเอง จนทำให้พวกสายลับออกมาตามล่าตัวของเขาอีก ซึ่งณัฐพัชรก็ได้ทำการต่อสู้ด้วย
พลังร่างเนรมิตเป็นยอดนักจารยุทธ์นั่นเอง จนเขาสามารถจัดการทำร้ายพวกสายลับเหล่านี้ได้จนบาดเจ็บแล้วเค้นเอาความลับเกี่ยวกับองค์กรของพวกมัน ถึงที่ตั้งของพวกมันเบอร์ติดต่อได้สำเร็จแล้วจึงใช้สิ่งของเนรมิตทำให้พวกสายลับสลบและลืมทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องของเขาไป
๓วันต่อมา
"หวังว่าเราปลอมตัวเข้ามาในสภาพแบบนี้ พวกมันคงจะไม่รู้นะ "
ณัฐพัชรได้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ด้วอุปกรณ์แต่งหน้า โดยไม่ใช้สิ่งที่สร้างจากพลังจิตของเขา เพราะจะทำให้พวกมันจับสัญญาณคลืนพลังงานจิตของเขาได้
แล้วณัฐพัชรก็เดินไปหาซื้อปาแก๊ต อาหารแบบขนมปังยัดใส้เช่นไข่ กุ้นเชียงแบบฝรั่งเศสกับกัมพูชาและลาวเอามากินรองท้องอย่างอิ่มอร่อยพอใจ
แล้วจึงเดินทางไปที่ด่านเข้าประเทศเพื่อนบ้านในที่สุด
เขาเนรมิตสิ่งของวิเศษที่ทำให้เขารู้ได้ว่าที่ซ่อนของพวกองค์กรลับนี้อยู่ที่ใดของบ่อนแห่งนี้
"แว่นวิเศษนี่คงจะใส่แล้วดูดีและบอกที่ซ่อนของพวกมันได้ง่ายนะ "
ณัฐพัชรสวมใส่แว่นตาวิเศษ ที่มีความสามารถทำให้เขามองเห็นและรับรู้สิ่งต่างๆรอบตัวรวมทั้งแผนผัง โครงสร้างของบ่อนแห่งนี้
รวมทั้งรับรู้ข้อมูลข่าวสาร แม้กระทั่งเสียงของผู้คนในห้องต่างๆของอาคารในบ่อนแห่งนี้ได้อีกด้วย
"อ๊าคคค "
เสียงร้องของพวกมือสังหารที่คอยเฝ้ารักษาความปลอดภัยภายในฐานลับของพวกองค์กรร้าย แล้วร่างของมันก็ร่วงลงไปนอนอยู่กับพื้น
ณัฐพัชรได้ทำการลากร่างของพวกมันเอาไปซ่อนในห้องน้ำและมุมของอาคารแห่งนี้ เพื่อให้หลบสายตาของผู้คนและกล้องวงจรปิดอีกด้วย
"โอย ทำไมเรารู้สึกอ่อนเพลียมากขนาดนี้ พลังจิตของเราเริ่มลดน้อยลงไปมากแล้ว หรือว่าพวกมันจะติดตั้งระบบต้านทานพลังจิตของเราเอาไว้ในนี้ด้วย "
ณัฐพัชรพูดขึ้นหลังจากที่
เขาได้แอบเข้าไปในฐานลับของพวกองค์กรลับในตอนกลางคืน แล้วใช้พลังร่างล่องหนและพลังร่างสายฟ้า
โดยใช้พลังร่างละ๓๐นาที จนเข้าไปถึงภายในฐานลับของพวกองค์กรลับนี้ได้จึงเนรมิตอาวุธวิเศษออกมาแล้ว ทำการสังหารพวกนักฆ่าขององค์กรลับและได้เจอกับพวกสายลับ ที่มีอุปกรณ์ไฮเทคและไสยเวทย์ที่ต่อต้านกับพลังจิตของเขาได้ ทำให้พลังจิตของเขาลดน้อยลงไปได้
"เป็นไงบ้างละ เห็นว่าเก่งมากนักนี่ เวลาใช้พลังจิตได้นะ แต่ตอนนี้ใช้พลังจิตไม่ได้ แกมันก็ไม่ต่างอะไรกับไอ้คนอ่อนแอคนนึงละว่ะ ฮ่าๆๆ จับตัวมันเอาไปขังเอาไว้ก่อนพวกเรา "
ณัฐพัชรถูกพวกมือสังหารขององค์กรลับจับตัวได้ หลังจากที่เขาถูกอุปกรณ์บางอย่างในอาคารแห่งนี้ต่อต้านสกัดพลังจิตของเขาเอาไว้ได้มาก
จึงทำให้เขาต่อสู้อย่างยากลำบากมาก หากแต่ว่าเขายังไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงออกมาเพียงเท่านั้น จึงแสร้งทำเป็นอ่อนพลังลงไปจนถูกจับตัวไปหาหัวหน้าใหญ่ขององค์กรลับกลุ่มนี้ และถูกจับตัวเข้าไปขังอยู่ในห้องลับอันไฮเทคและมีพลังไสยเวทย์อันลึกล้ำอีกด้วย
"เดี๋ยวพวกแกก็จะได้รู้ว่าคนที่หัวเราะที่หลังน่ะ มันดังกว่ามากเลยนะ ฮึ"
ณัฐพัชรพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะที่ยังแสร้งว่าอ่อนแอหมดพลัง และยอมให้พวกศัตรูจับตัวได้อยู่
เขาได้คายอุปกรณ์ไขกุญแจข้อมือ ที่เขาถูกจับตัวอยู่ออกมาจากปาก อย่างช้า แล้วยิ้มๆ นึกถึงสิ่งของวิเศษอื่นๆ ที่เขาได้แอบสร้างตอนอยู่ในห้องพักและเนรมิตสร้างเอาไว้ระหว่างทาง ที่เข้ามาด้วย
โดยเฉพาะพวกหุ่นระเบิด ที่ได้เคลื่อนที่ไปติดตั้งตัวเองตามจุดต่างๆของฐานลับแห่งนี้แล้วทำการระเบิดตัวเองตามที่ชายคนนี้กำหนดเอาไว้
"ตูม ตูม"
จนเกิดเหตุระเบิดสนั่นหวั่นไหวไปทั่วอาคารของฐานลับแห่งนี้ จนทำให้ผู้คนที่มาเล่นการพนันต่างแตกตื่นตกใจกับเสียงระเบิดจึงรีบวิ่งหนีออกจากบ่อนและโรงแรมอย่างโกลาหล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของโรงแรมและเจ้าหน้าที่ของบ่อนด้วย
"ระเบิด เสียงระเบิด พวกเรารีบหนีออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ ฉันยังไม่อยากตายนะ "
ผู้คนภายในบ่อนต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาจากบ่อนแห่งนี้กันอย่างอลหม่านวุ่นวายไปหมดรวมทั้งพนักงานของบ่อนแห่งนี้ด้วย
จึงทำให้ภายในบ่อนแห่งนี้ตอนนี้เหลือเพียงแต่พวกขององค์กรลับเท่านั้น
"ถึงเวลาจะได้สนุกกันแล้ว มาดุพลังที่แท้จริงของฉันดูสักหน่อยนะ "
"แย่แล้วพวกเรา นั่นมันยักษ์ ไอ้คนไทยคนนั้น มันกลายเป็นยักษ์ร้ายไปแล้วดูสิร่างของมันสูงตั้ง ๘เมตร พังห้องต่างในอาคารหลังนี้พังเสียหายหมดแล้ว ไฟไหม้ เกิดระเบิดไปทั่วเลย มันอะไรกันวะ หนีเอาตัวรอดกันก่อนเถอะพวกเรา ก่อนจะถูกมันฆ่าตายหรือถูกระเบิดฆ่าตายกันหมดเสียก่อน "
เสียงพวกมือสังหารขององค์กรลับร้องตะโกนหวาดกลัว ทั้งร่างยักษ์ของณัฐพัชรและระเบิดที่กำลังเกิดขึ้น
ณัฐพัชรได้เนรมิตเครื่องบินบินไล่ล่าพวกแกนนำขององค์กรที่กำลังหนีไปทางอากาศและทางน้ำ โดยเขาได้ยิงถล่มสังหารด้วยจรวดและปืนกลจนพวกแกนนำองค์กรลับพวกนี้ตายกันหมด
จบ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ atrtder695159 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ atrtder695159
ความคิดเห็น