ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Chazacth

    ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบท

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 54


    ว่าด้วยความวุ่ยวายของอาณาจักรคาแซก

     

    เจ็ดร้อยปีก่อนมหาสงครามแห่งทวีปศิลา...

    หนึ่งพันปีก่อนการอวตารครั้งที่สิบขององค์อวาร์มาน...

     

    ........

     

      ไกลแสนไกลออกไปจากทวีปศิลาอันยิ่งใหญ่ของอารยชน ลึกลงไปทางใต้ พวกเราล่องเรือผ่านทะเลผีสิงมาด้วยความยากลำบาก มันทำให้ข้าพเจ้าตระหนักชัดถึงคำพูดของคนเฒ่าคนแก่ที่บอกเล่ากันต่อๆมาในยามที่แผ่นดินของข้าพเจ้ายังสงบสุขกว่านี้ เสียงกระซิบแผ่วเบาที่แสนจะเรือนรางในยามราตรีอันเปลี่ยวเหงา ในคืนที่มีหมู่เมฆทะมึนบดบังไว้ซึ่งแสงดาราทั้งปวง เว้นไว้แต่เพียงแสงจันทร์อันซีดเซียวที่ส่องกระทบเสากระโดงเรือให้ชวนพรั่นใจ หลายครั้งที่ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคนร้องอยู่กลางทะเล ชั่วแต่ต้นหนเท่านั้นที่พร่ำกระซิบเตือนข้าพเจ้าว่าอย่าได้ออกไป ข้าพเจ้าสะกดอารมณ์และข่มตาลงให้หลับ ในดวงจิตเฝ้าภาวนาถึงเทพตาไจผู้ยิ่งใหญ่ให้คุ้มครองคนของพระองค์ผู้นี้ด้วยเถิด...

     

      ...ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเอะอะอึกทึกบนดาดฟ้าเรือ เห็นจะหลับมาได้ไม่เกินสองสามชั่วยามเท่านั้นเอง เพราะข้าพเจ้ายังเห็นแสงจันทร์อยู่เลย มีเสียงครืนครางปานฟ้าถล่ม เสียงน้ำแตกกระจายดังซู่ซ่า และเสียงตะโกนของต้นหนและลูกเรือหลายสิบคนดังระงมไปหมด ข้าพเจ้าคว้าดาบคู่มือแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวที่สุดก็ได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า

     

      งูทะเลยักษ์หรือที่บ้านเมืองของข้าพเจ้าเรียกว่าตัวไคโมกำลังส่ายศีรษะอันมหึมาของมันไหว ๆ อยู่นั่น ตามลำตัวอันใหญ่โตราวกับท่อนซุงของมันเต็มไปด้วยฉมวกจากลูกเรือนับสิบ ดวงตาสีเขียวซีดๆของมันกราดเกรี้ยว คลื่นทะเลปั่นป่วนรุนแรงไปตามอารมณ์อันดุร้ายของมัน ทว่าต้นหนแลลูกเรือของข้าพเจ้านี้ล้วนแต่เป็นบุรุษผู้กล้าหาญทั้งสิ้น ทั้งหมดต่างต่อสู้อย่าสุดชีวิต คอยป้องกันไม่ให้มันเข้ามาใกล้เรือ

     

      และในที่สุด มันค่อยๆถอยห่างจากเรือไป จนเกินระยะที่จะปาฉมวกไปถึง แต่ทว่า โอ้ ดูนั่น มันกำลังยืดลำตัวอันยาวเหยียดของมันจนสูงเสียดฟ้า สูงเสียจนบดบังทุกสิ่งให้ตกอยู่ใต้อนธการ กัปตันเรือผู้เก่งกาจเห็นดังนั้นก็ให้ตกใจอย่างเหลือกำลัง แม้จะเป็นคนกร้าวแกร่งสักเพียงใด แต่ข้าพเจ้าก็ยังสังเกตเห็นได้ว่าเขาหน้าซีด ปากเม้มสนิท เขารีบบังคับพังงาอย่างว่องไว และรีบขับเรือออกไปจากจุดเดิมให้เร็วที่สุด สีหน้าของเขานั้นดูพรั่นพรึงเหลือจะกล่าว วินาทีต่อมาข้าพเจ้าจึงได้เข้าใจเหตุผลในอาการของกัปตัน

     

      ขณะที่กัปตันกำลังรีบพาเรือไปข้างหน้าอย่างสุดแรงเกิดนั้นเอง เจ้าไคโมก็ทิ้งตัวมันลงมาตรงตำแหน่งที่เรืออยู่เมื่อวินาทีที่แล้ว มันตั้งใจจะทำให้เรือแตกนั่นเอง ทว่ากัปตันของข้าพเจ้านั้นเป็นนักเดินเรือที่เก่งที่สุดที่ข้าพเจ้าเคยเห็น หากเป็นผู้อื่นนั้นก็คงจะตกตะลึงอยู่กับขนาดอันมหึมาของมันจนไม่ทันการเป็นแน่แท้

     

      ถึงแม้ว่าเราจะรอดพ้นจากการโจมตีของตัวไคโมได้ แต่แรงที่ตัวมันกระทบกับผิวน้ำนั้นรุนแรงเสียจนกระทั่งก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ กัปตันไม่ต้องการให้เรือจม จึงปล่อยให้เรือไหลไปตามคลื่นนั้น เขาสั่งให้ทุกคนหลับเอาแรง โดยตัวเขาขออยู่ยามเพียงลำพัง

     

      ข้าพเจ้าเห็นดังนั้นจึงมานั่งลงอยู่เคียงข้างเขา ด้วยว่าข้าพเจ้านั้นนอนหลับมาเต็มอิ่มเสียแล้ว เขาเปรยกับข้าพเจ้าว่า

     

      บางทีเราอาจจะหลงไปในเขตทะเลที่ไม่มีใครรู้จัก เสบียงของเราก็เหลือน้อยเต็มที หากภายในสัปดาห์นี้เรายังเดินทางไปไม่ถึงทวีปศิลา เราอาจต้องอดตายกันเป็นผีเฝ้าทะเลอยู่ที่นี่แหละ

     

      ข้าพเจ้าปลอบใจกัปตันคนดีของข้าพเจ้า แล้วเราก็นั่งรำลึกความหลังด้วยกันอย่างขมขื่น

     

      .......

     

      ข้าพเจ้าเป็นชนเผ่าคาแซก ผู้ซึ่งมีความเจริญสูงสุดยิ่งกว่าชนเผ่าใด ๆ ในทวีปดำแห่งนี้ จะมีที่ใดอีกเล่าที่จะมีนักปราชญ์ผู้รอบรู้ นักรบที่แข็งแกร่ง หรือจะมีอาวุธที่ทรงพลังอย่างชนเผ่าของเรา แม้ว่าบ้านเมืองของเราจะมีกษัตริย์ปกครอง หากแต่อำนาจอันแท้จริงนั้นอยู่ที่สภาทั้งสาม อันได้แก่ สภาบริหาร สภานักปราชญ์ และสภาอัศวิน 

     

      มันเริ่มต้นขึ้นที่สภาบริหาร เมื่อสภาสูงลงมติไม่ไว้วางใจสมุหนายกอูมา และกดดันให้เขาลาออก เนื่องจากการยกสัมปทานการค้ากว่าร้อยละเก้าสิบ ให้ไปอยู่ในมือของสมาคมการค้า ทำให้ประชาชนไม่พอใจ หลังจากนั้นเอง ความวุ่นวายทั้งหลายแหล่ ก็ได้เริ่มบังเกิดขึ้น

     

      ..........

      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×