ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โลกส่วนตัว

    ลำดับตอนที่ #6 : เบ็ดเตล็ดเรื่องกรรม

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 52


    คนเราได้พบประสบเจอเรื่องราวต่างๆมากมาย มีความคิด คำพูด และการกระทำ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ ดังนั้นในโลกและมุมมองของแต่ละคน ก็จะมีลักษณะเฉพาะพิเศษส่วนตัว อันเปรียบได้กับยีนหรือดีเอ็นเอที่ถ่ายทอดผ่านทางร่างกายสืบต่อกันมา

    เพียงแต่ลักษณะนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะร่างกาย แต่ถ่ายทอดไปยังเหตุการณ์ภายนอกส่วนอื่นๆด้วย โครงสร้างของกรรมที่ถูกถักทอขึ้นมาทีละเล็กละน้อยจนเป็นเหมือนร่างแหที่มาผูกมัดครอบคลุมตัวของแต่ละบุคคลอยู่นี้

    เป็นสิ่งที่กำหนดชะตาชีวิตของแต่ละคนในแต่ละภพชาติ ในแต่ละช่วงว่า จะต้องได้เจอกับสิ่งใดบ้าง การที่แต่ละคนจะหลุดออกไปจากตาข่ายหรือแหร่างของกรรมซึ่งตนเองเป็นคนผูกมัดตัวเองเอาไว้ได้นั้น แต่ละคนก็จำเป็นต้องรู้จักตนเอง รู้จักโครงสร้างของกรรมของตนอย่างละเอียดถูกต้องเสียก่อน เมื่อรู้จักโครงสร้างนี้ดีแล้ว ตนจึงจะทราบว่าต้องทำเช่นไรจึงจะหลุดรอดออกจากบ่วงหรือร่างแหที่มีลักษณะเฉพาะเหล่านี้ของแต่ละคนออกไปได้

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่ที่เจ้าของด้วยว่าต้องการที่จะแก้เครื่องผูกมัดเหล่านี้หรือไม่ หรือว่าคิดที่จะถักทอโครงสร้างของกรรมของตนไม่ให้วุ่นวายสับสน แต่ทำให้เป็นระเบียบเรียบร้อยหรือเปล่า.....ชะตาชีวิตของแต่ละคนสามารถลิขิตได้ด้วยตัวของเราเองนี่แหละครับ

    ความเห็น>>>ความคิด>>>การกระทำ>>>อุปนิสัย>>>ชะตากรรม>>>โชคชะตา>>>ความเห็น.....ฯ

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    กรรม (ภาษาสันสกฤต : กรฺม, ภาษาบาลี : กมฺม) แปลว่า "การกระทำ" ได้แก่ กระทำทางกาย เรียก กายกรรม ทางวาจา เรียก วจีกรรม และทางใจ เรียก มโนกรรม

    • กรรม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
    1. กรรมดี เรียกว่า กุศลกรรม หรือ บุญกรรม
    2. กรรมชั่ว เรียกว่า อกุศลกรรม หรือ บาปกรรม

    เนื้อหา

    [ซ่อน]

    [แก้] กรรม 2

    กรรม 2 (การกระทำ, การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา ทางกายก็ตาม ทางวาจาก็ตาม ทางใจก็ตาม - Kamma: action; deed)[1]

    1. อกุศลกรรม (กรรมที่เป็นอกุศล, กรรมชั่ว, การกระทำที่ไม่ดี ไม่ฉลาด ไม่เกิดจากปัญญา ทำใหเสื่อมเสียคุณภาพชีวิต หมายถึง การกระทำที่เกิดจากอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ หรือโมหะ - Akusala-kamma: unwholesome action; evil deed; bad deed)
    2. กุศลกรรม (กรรมที่เป็นกุศล, กรรมดี, การกระทำที่ดี ฉลาด เกิดจากปัญญา ส่งเสริมคุณภาพของชีวิตจิตใจ หมายถึง การกระทำที่เกิดจากกุศลมูล คืออโลภะ อโทสะ หรืออโมหะ -Kusala-kamma: wholesome action; good deed)

    [แก้] การจำแนกประเภทของกรรม

    กรรมดี หรือ กรรมชั่วก็ตาม กระทำทางกาย วาจา หรือทางใจก็ตาม สามารถจำแนกอีก เป็นประเภทต่าง ๆ ได้หลายแบบ ดังนี้

    • กรรมจำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม (ปากกาลจตุกะ) 4 อย่าง
    • กรรมจำแนกตามหน้าที่ของกรรม (กิจจตุกะ) 4 อย่าง
    • กรรมจำแนกตามลำดับการให้ผลของกรรม (ปากทานปริยายจตุกะ) 4 อย่าง
    • กรรมจำแนกตามฐานที่ให้เกิดผลของกรรม (ปากฐานจตุกะ) 4 อย่าง

    [แก้] จำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม

    การกระทำทางกาย วาจา ใจ ทั้งที่เป็นฝ่ายดีหรือไม่ดีก็ตาม ย่อมตอบสนองแก่ผู้กระทำ ไม่เร็วก็ช้า เวลาใดเวลาหนึ่ง กรรมจำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม (ปากกาลจตุกะ) แสดงกำหนดเวลา แห่งการให้ผลของกรรม มี 4 อย่าง คือ

    1. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน คือในภพนี้
    2. อุปปัชชเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในภพที่จะไปเกิด คือในภพหน้า
    3. อปราปริเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไป
    4. อโหสิกรรม หมายถึง กรรมเลิกให้ผล ไม่มีผลอีก

    [แก้] จำแนกตามหน้าที่ของกรรม

    กรรมจำแนกตามหน้าที่การงานของกรรม (กิจจตุกะ) กรรมมีหน้าที่ ที่จะต้องกระทำสี่อย่าง คือ

    1. ชนกกรรม หมายถึง กรรมที่เป็นตัวนำไปเกิด กรรมแต่งให้เกิด
    2. อุปัตถัมภกกรรม หมายถึง กรรมสนับสนุน กรรมที่ช่วยสนับสนุนหรือซ้ำเติม ต่อจากชนกกรรม
    3. อุปปีฬิกกรรม หมายถึง กรรมบีบคั้น กรรมที่มาให้ผล บีบคั้นผลแห่งชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรมนั้น ให้แปรเปลี่ยนทุเลาลงไป บั่นทอนวิบากมิให้เป็นไปได้นาน
    4. อุปฆาตกกรรม หมายถึง กรรมตัดรอน กรรมที่แรงฝ่ายตรงข้ามกับชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรม เข้าตัดรอนการให้ผลของกรรมทั้งสองอย่างนั้น ให้ขาดไปเสียทีเดียว

    [แก้] จำแนกลำดับการให้ผลของกรรม

    กรรมจำแนกตามลำดับการให้ผลของกรรม (ปากทานปริยายจตุกะ) จำแนกตามความยักเยื้อง หรือ ลำดับความแรงในการให้ผล 4 อย่าง

    1. ครุกกรรม (หนังสือพุทธธรรมสะกดครุกกรรม หนังสือกรรมทีปนีสะกดครุกรรม) หมายถึง กรรมหนัก ให้ผลก่อน เช่น ฌานสมาบัติ 8 หรือ อนันตริยกรรม
    2. พหุลกรรม หรือ อาจิณกรรม หมายถึง กรรมที่ทำมาก หรือ ทำจนเคยชิน ให้ผลรองจากครุกรรม
    3. อาสันนกรรม หมายถึง กรรมจวนเจียน หรือ กรรมใกล้ตาย คือกรรมที่ทำเมื่อจวนจะตาย จับใจอยู่ใหม่ๆ ถ้าไม่มีสองข้อก่อน ก็จะให้ผลก่อนอื่น
    4. กตัตตากรรม หรือ กตัตตาวาปนกรรม หมายถึง กรรมอื่นที่เคยทำไว้แล้ว นอกจากกรรม 3 อย่างข้างต้น, ฏีกากล่าวว่า กรรมนี้ให้ผลในชาติที่ 3 เป็นต้นไป(กตตฺตา-สิ่งที่เคยทำไว้, วา ปน-ก็หรือว่า, กมฺม-กรรม).

    [แก้] จำแนกตามฐานที่ให้เกิดผลของกรรม

    กรรมจำแนกตามฐานที่ให้เกิดผลของกรรม (ปากฐานจตุกะ) แสดงที่ตั้งแห่งผลของกรรมสี่อย่าง เป็นการแสดงกรรมโดยอภิธรรมนัย (ข้ออื่นๆข้างต้นเป็นการแสดงกรรมโดยสุตตันตนัย)

    1. อกุศลกรรม
    2. กามาวจรกุศลกรรม
    3. รูปาวจรกุศลกรรม
    4. อรูปาวจรกุศลกรรม

    [แก้] กรรมดำ กรรมขาว

    นอกจากเรื่องของกรรมดีกรรมชั่วแล้ว ยังมีการอธิบายกรรมอีกนัยหนึ่ง โดยอธิบายถึงกรรมดำกรรมขาว จำแนกเป็นกรรม 4 ประการ คือ

    1. กรรมดำมีวิบากดำ ได้แก่ บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกาย วาจา ใจ อันมีความเบียดเบียนบุคคลอื่น ย่อมได้เสวยเวทนาที่มีความเบียดเบียน เป็นทุกข์โดยส่วนเดียว เช่น เป็นผู้ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา ฆ่าพระอรหันต์ มีจิตประทุษร้ายต่อพระตถาคต ยังพระโลหิตให้ห้อขึ้น ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ดื่มน้ำเมา
    2. กรรมขาวมีวิบากขาว ได้แก่ บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกาย วาจา ใจ อันมีไม่ความเบียดเบียนบุคคลอื่น ย่อมได้เสวยเวทนาที่ไม่มีความเบียดเบียน เป็นสุขโดยส่วนเดียว เช่น เป็นผู้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ จากการลักทรัพย์ จากการประพฤติผิดในกาม จากการพูดเท็จ จากการพูดส่อเสียด จากการพูดคำหยาบ จากการพูดเพ้อเจ้อ ไม่มากไปด้วยความเพ่งเล็งอยากได้ มีจิตไม่พยาบาท มีความเห็นชอบ
    3. กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาว ได้แก่ บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกาย วาจา ใจ อันมีความเบียดเบียนบุคคลอื่นบ้าง ไม่ความเบียดเบียนบุคคลอื่นบ้าง ย่อมได้เสวยเวทนาที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่ความเบียดเบียนบ้าง มีทั้งสุขและทั้งทุกข์ระคนกัน
    4. กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ได้แก่ เจตนาใดเพื่อละกรรมดำอันมีวิบากดำ เจตนาใดเพื่อละกรรมขาวอันมีวิบากขาว และเจตนาใดเพื่อละกรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม เช่น ผู้ปฏิบัติตามมรรคมีองค์แปด โพชฌงค์เจ็ด

    [แก้] กฎแห่งกรรม

    กฎแห่งกรรม คือ กฎธรรมชาติ ข้อหนึ่ง ที่ว่าด้วยการกระทำ และผลแห่งการกระทำ ซึ่ง การกระทำและ ผลแห่งการกระทำนั้น ย่อมสมเหตุ สมผลกัน เช่น ทำดี ย่อมได้รับผลดี ทำชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว เป็นต้น

    • กรรมใดใครก่อ ตนเองเท่านั้นที่จะได้รับผลของสิ่งที่กระทำ
    • กรรมในปัจจุบันเป็นผลมาจากการกระทำในอดีต และกรรมที่ก่อไว้ในปัจจุบันเป็นเหตุที่จะส่งผลสืบเนื่องต่อไปยังอนาคต
    • กรรมดี-กรรมชั่ว ลบล้างซึ่งกันและกันไม่ได้
    • ถึงแม้ว่าการทำกรรมดีจะลบล้างกรรมชั่วเก่าที่มีอยู่เดิมไม่ได้ แต่มีส่วนช่วยให้ผลจากกรรมชั่วที่มีอยู่เดิมผ่อนลง คือ การผ่อนหนักให้เป็นเบา (ข้อนี้ อุปมาได้กับ การที่เรามีน้ำขุ่นข้นอยู่แก้วหนึ่ง หากเติมน้ำบริสุทธิ์ลงไปแล้ว มิสามารถทำให้น้ำขุ่นกลับบริสุทธิ์ได้ แต่ทำให้น้ำขุ่นข้นนั้นกลับเจือจางลงและใสยิ่งขึ้นกว่าเดิม)

    สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้ [2] พุทธพจน์ จากพระไตรปิฎก

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    วิธีแก้กรรม

    ครอบครัวมีแต่ปัญหา

     เกิดจากกรรม (สิ่งใดสิ่งหนึ่งดังนี้)
      1.เคยทำแท้งไหม
    2.ไม่ทำบุญให้บรรพบุรุษไหม
    3.ไม่เข้าใจครอบครัว สามี ลูกหรือเปล่า
    4.เคยผิดศัลกาเม ในชาติก่อนและชาตินี้ไหม
    5.ทำผิดต่อเจ้าที่เจ้าทางไหม
    วิธีแก้กรรม
     1.นิมนต์พระเลี้ยง ทำบุญบ้าน วันเกิด สวดชะยันโต ขอพร ประพรมน้ำมนต์ให้ครอบครัว อยู่เย็นเป็นสุข และถวายสังฆทานสวดอุทิศให้ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายให้อโหสิกรรมและช่วยครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
    2.ไปถวายผ้าบังสุกุลอุทิศให้บรรพบุรุษให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขหรือทำบุญให้บรรพบุรุษให้ได้รับกุศล
    3.เคยบอกรักสามีและลูกบ้างไหม ทำซะ จะทำให้เขาเข้าใจมากขึ้นว่าเรารัก
    4.สวดมนต์ทุกวันเกิดตนเอง ขอพรเทพประจำตัวให้คุ้มครองครอบครัวให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
    5.กราบไหว้เจ้าที่เจ้าทางด้วย อาหารคาวหวานชุดใหญ่ แก่พระภูมิเจ้าที่ให้ได้รับและขอพรให้อำนวยโชคลาภความร่มเย็นเป็นสุขให้ครอบครัวท่าน
      
    กรรม....เสียเงินตลอด
     เกิดจากกรรม
      1.เคยเอาเงินเขามาในชาติอดีตแล้วไม่คืน
    2.ปล่อยกู้คิดดอกเบี้ยแพง
    3.โกงคนในชาติปัจจุบัน
    4.ทำแท้ง
    5.ยุยงให้คนเสียเงิน โดยรู้ว่าผิดก็ให้ทำ
    วิธีแก้กรรม
     1.พยายามทำบุญอุทิศส่วนกุศล ทุกวันเกิด ให้ผู้ที่เคยล่วงเกินกันมาตั้งแต่อดีตชาติปัจจุบันชาติ ให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
    2.หากมีคนที่ล่วงเกินยังมีชีวิตอยู่ หาเงินไปคืนและขออโหสิกรรมซะเพื่อชีวิตเราจะได้ดีขึ้นต่อไป
    3.ตักบาตร วันโกนอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรและวิญญาณเด็กที่ตามมาให้ได้รับกุศล และเปิดทางให้ชีวิตดีขึ้น
    4.ทำกุศลกับผู้มีพระคุณและช่วยคนไว้ เพื่อยามทุกข์ยากจะได้มีคนมาเหลียวแล และดูแลเราบ้าง
    5.สวดมนต์ทุกวันเกิด และแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
      
    กรรมต้องสะเดาะเคราะห์
     เกิดจากกรรม
      เมื่อตนเองเข้าเสวยอาบุที่ไม่ดี ก็จะประสบเคราะห์ร้าย เช่น ป่วยหนัก อุบัติเหตุ เสียเงิน จึงต้องสะเดาะเคราะห์ดังนี้
    กรรมจาก 1.ชอบทำร้ายคนต่ำกว่าให้ทุกข์ทรมาน
    2.ป่วยหนัก ซ่าสัตว์ไว้ ผิดศีลข้อ 1
    วิธีแก้กรรม
     1.กินเจ 7 วัน อุทิศให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เคยทำไว้ตั้งแต่อดีตชาติปัจจุบันชาติ
    2.ตักบาตรให้ครบตามปีที่เข้าเสวยอายุ
    3.ไหว้พระให้ครบ 7 วัน 7 วา ล้างเคราะห์ได้
    4.ปล่อยสัตว์ลงน้ำ ตามกำลังวันเกิดตนเอง จนครบ 1 ปี เคราะห์จะกลายเป็นดี
    5.ขอพรพระที่ตนนับถือ ไปที่วัด ไปขอพรท่านให้พ้นเคราะห์พ้นโศกและช่วยให้ชีวิตก็จะดีขึ้น
      
    กรรมคู่ไม่ด
     เกิดจากกรรม
      1.เคยเป็นชู้กับผู้อื่นไว้ ในชาติอดีตและชาติปัจจุบัน
    2.ทำร้ายจิตใจคู่ตนเองไว้
    3.ทำร้ายร่างกายโดยตนเองอยากทำ เพราะหึงหวงให้เขาเจ็บปวด
    4.ผิดศีลกาเม
    5.ยุยงผู้อื่นให้เลิกกัน
    วิธีแก้กรรม
     1.ตั้งสัจจะว่าจะไม่แย่งผัวคนอื่น มาเป็นของตนเอง
    2.หมั่นถวายเทียนคู่ในวันเกิดตนเองปีละครั้ง ขอเสริมดวงชีวิตคู่ให้พบแสงสว่างในชีวิตคู่ที่ดี โดยไปกับแผนและอธิษฐานขอพร
    3.ถวายสังฆทานในวันเกิด เพื่อขอพรให้สมหวังด้านชีวิตคู่ และอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรและคู่ชีวิตที่เคยล่วงเกินไว้ทั้งอดีตชาติและปัจจุบันชาติให้ได้รับกุศล และอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
    4.บริจาคทรัพย์ให้กับคู่ตางงานในงานแต่งงาน เพื่อส่งเสริมให้เขาสมหวังในความรัก และตนเองก็จะได้บุญต่อไป
    5.ไกล่เกลี่ยคู่สามี-ภรรยา ที่ทะเลาะกันแยกทางกัน ให้มารู้สึกดีต่อกัน จะได้บุญด้านธรรมทางด้านชีวิตคู่
      
    กรรมเป็นเมียน้อย
     เกิดจากกรรม
      1.เคยผิดลูกผิดเมียเขามาในชาติก่อน
    2.ผิดศีลกาเม
    3.เคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ภพก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
    4.ขืนใจเขาโดยเขาไม่ยินยอม
    เมียน้อยมี 3 ประเภท
    1.เมียน้อย ผัวดี ช่วยเหลือ เกิดจากเคยทำบุญใหญ่ ช่วยเหลือคนและครอบครัวมามาก และอธิษฐานจิตมาเจอกัน แม้ไม่ได้เป็นเมีย 1 แต่เป็นเมีย 2 ที่ถูกต้อง เพราะกุศลนำพามาเจอ จึงทำให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ผิด ไม่บาป
    2.เมียน้อย ผัวร้าง แต่ไม่หยุดที่เขา ทำให้เป็นโดยขำยอมเพราะกรรมเก่าที่เคยทำไว้ จึงต้องรับภาระเพราะทั้งรัก ทั้งเจ็บ กรรมนี้อยู่ในการเคยขืนใจเขาไว้ แต่พอมาชาตินี้จึงต้องตกอยู่ในภาระจำยอมเจ็บ เพราะรักเขา
    3.เมียเก็บ ผัวบังคับ แต่ส่งเสีย เกิดจากกรรมที่เคยผิดลูกผิดเมียเขาไว้ จึงต้องทุกข์ใจ แต่สบายกาย
    วิธีแก้กรรม
     1.ทำบุญสังฆทานสด ในวันเกิดตนเอง เดือนละครั้ง เพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติและวิญญาณที่ตามมาให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรม
    2.ถือศีล 5 ให้ได้ 1 ปี ต่อ 1 เดือน จะทำให้ชีวิตดีขึ้น
    3.ถวายธงคู่ อธิษฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ที่ดีขึ้น
    3.บวชชีพราหมณ์ ปีละ 1 ครั้ง 3 วัน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินให้ได้รับกุศลและเปิดทางให้ชีวิตคู่ดีขึ้น
    5.ร่วมเป็นเจ้าภาพ งานแต่ง เพื่อชีวิตตนจะดีขึ้น และสมหวัง และสวดมนต์ขอพรทุกวันเกิดด้านความรักให้สมหวังต่อไป
      
    กรรม ทุกข์ใจเพราะญาติพี่น้องและสามี
     เกิดจากกรรม
      1.เคยลำเอียง ไร้คุณธรรมในด้านครอบครัวไว้ก่อน
    2.เคยเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดไว้ในชาติอดีตและชาติปัจจุบัน
    3.เคยทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกในอดีตชาติ
    วิธีแก้กรรม
     1.ต้องบวชชีพราหมณ์ เพราะเมื่อเกิดอีกภพชีวิตจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะกุศลของการบวช ปฏิบัติธรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม และตนเองได้พบสิ่งที่มีกุศลมากขึ้น
    2.ยึดพรหมวิหาร 4 มี เมตตา กรุณ มุทิตา อุเบกขา จะทำให้ชีวิตมีความเมตตา และไม่ลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนใกล้ชิด ทำให้วิถีชีวิตมีคนนับถือและพ้นจากความทุกข์ในเรื่องญาติพี่น้องยุ่งเกี่ยวได้
    3.นำพระคู่บ้านคู่เมืองเข้าสักการะที่บ้าน และสวดมนต์ขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
      
    กรรมเป็นอัมพฤกษ์
     เกิดจากกรรม
      1.ฆ่าสัตว์
    2.ทรมานสัตว์
    3.ทำร้ายคนไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
    วิธีแก้กรรม
     1.ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติรวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้กุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
    2.ปล่อยสัตว์ลงน้ำ ในวันเกิดตนเอง กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับและอโหสิกรรม
    3.ถวายยาเข้าวัด หรือช่วยเหลือคนป่วย
      
    กรรมเป็นมะเร็ง
     เกิดจากกรรม
      1.เคยฆ่าสัตว์ หรือทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงฆ่าสัตว์มาก่อน จึงส่งผลให้มีสุขภาพที่รักษาไม่ได้
    2.มีจิตใจเหี้ยมโหดมาตั้งแต่อดีตชาติ โดยสั่งฆ่าคนและทำร้ายคนให้เจ็บปางตาย
    3.ทำแท้งมากมาย
    4.เบียดเบียนเงินคนมากมาย บนความทุกข์คนอื่นในอดีตชาติ
    วิธีแก้กรรม
     1.ต้องทำบุญใหญ่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และบวชชีพราหมณ์ 1 เดือน เพื่อส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
    2.สร้างพระถวายให้เจ้ากรรมนายเวร
    3.ให้มาสัมผัสจิตกับพระแม่อุมาเทวีโดยตรง
      
    กรรมลูกไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง
     เกิดจากกรรม
      1.ทำแท้ง
    2.เคยทำร้ายคนใกล้ชิดมาก่อน และทำร้ายจิตใจครอบครัวในชาติก่อน
    วิธีแก้กรรม
     1.บวชเณร โดยให้ลูกบวชหรือไปร่วมบวช จะทำให้กรรมน้อยลง
    2.พาลูกไปหาหลวงปู่ ให้เทศน์สอน
    3.ปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูกตนเอง
      
    กรรมค้าขายขาดทุน
     เกิดจากกรรม
      1.ไม่รู้เชี่ยวชาญในงานที่ทำ และไม่กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
    2.ทำแท้ง
    3.ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้
    4.ตั้งสัจจะกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะทำบุญเท่านั้น แต่พอทำจริงทำน้อยนิดผิดสัญญาเป็นกรรม
      
    กรรมเกิดมาไม่สวย
     เกิดจากกรรม
      1.ทำอะไรลวก ๆ กับพระ พ่อแม่
    2.ชอบว่าผู้อื่น และทำร้ายสัตว์
    3.ถวายดอกไม้แห้ง-เหี่ยว
    แก้วิบากกรรม
     1.หมั่นถวาย ดอกไม้หอม พวงมาลัย ไม่เวียนต่อพระพุทธรูป พระภิกษุสงฆ์ เทพด้วยกิริยาที่ตั้งใจ
    2.ไม่ลบหลู่ ผู้มีพระคุณ รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    3.บริจาคน้ำมันตะเกียง ขอแสงสว่างด้านความงาม
      
    กรรมมีกลิ่นตัวเหม็นตลอด
     เกิดจากกรรม
      1.ชาติก่อนชอบดูถูก คนอื่น
    2.ชาติก่อนชอบคิดอิจฉาริษยาผู้อื่น
    วิธีแก้วิบากกรรม
     1.ต้องรู้จัก เห็นผู้อื่นได้ดี พลอยยินดีไปด้วย
    2.หมั่นถวายของหอม ดอกไม้ไม่ให้ขาด
      
    กรรมเกิดมาโง
     เกิดจากกรรม
      1.ดูถูกผู้ที่หมั่นหาความรู้ และชักชวนไปทำผิด
    2.ไม่ขยันหมั่นเพียรศึกษาหาความรู้ แต่ทำตัวมั่วสุมในทางผิด
    แก้วิบากกรรม
     1.หมั่นทำบุญด้านหนังสือธรรมมะ หรือพิมพ์บทสวดมนต์แจก
    2.ให้ถวาย หลอดไฟฟ้า เพราะกุศลจะส่งผลให้ตนเองมีปัญญาแจ้งแดงตลอดในงานนั้น ถวายในวันเกิดข้างขึ้น 7-15 ค่ำ เจริญขึ้น
    3.หมั่นสวดมนต์ทุกวัน
    4.หมั่นกตัญญูต่อความถูกต้อง และมีวิริยะมากขึ้น
      
    กรรมมีบริวารไม่ด
     เกิดจากกรรม
      1.ไม่กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และคนใกล้ชิดในชาติก่อน
    2.เคยให้ร้ายคนอื่นไว้ก่อน เมื่ออดีตชาติ
    3.ไม่ช่วยเหลือส่วนรวม
    แก้วิบากกรรม
     1.หมั่นทำบุญโดย ให้ทาน กับบุคคลที่ใกล้ตัว และหมั่นชักชวนบุคคลอื่นทำบุญร่วมกัน เกิดชาตินั้นฉันใดจะมีบริวารมากมาย
    2.ให้ร่วมทำบุญด้าน บวชนาคหมู่ หรือสามเณรภาคฤดูร้อน จะทำให้พ้นทุกข์และมีบริวารที่ดี อยู่ในศีลธรรม
    3.หมั่นกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
      
    กรรมให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
     เกิดจากกรรม
      1.ฆ่าสัตว์ไว้เยอะ
    2.เห็นคนเป็นอันตราย ก็พลอยสมน้ำหน้า
    3.จิตใจอาฆาต คอยแช่งบุคคลอื่นเสมอ
    4.ทำแท้ง ฆ่าคนมาก่อน
    แก้วิบากกรรม
     1.สร้างประตูวัด ป้องกันอันตรายให้ตนเอง ทำวันเกิดตนเองจะทำให้แคล้วคลาดอันตรายได้
    2.มีหิริ โอตัปปะ ในจิตใจ
    3.สวดมนต์คาถาป้องกันภัย 10 ทิศ ทุกวันเกิด 3 จบ
    4.ตักบาตรทุกวันเกิด อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรให้อโหสิกรรม
      
    กรรมเจอแต่คนเอาเปรียบ
     เกิดจากกรรม
      1.เคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติ
    2.เคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ
    3.ขโมยเงินครอบครัวมาใช้
    แก้วิบากกรรม
     1.หมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น
    2.ไม่ดื่มเหล้า ทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย
    3.หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดี ๆ เข้ามาในชีวิต
      
    กรรมไม่มีลาภลอย
     เกิดจากกรรม
      1.ไม่เคยทำบุญเกินจิตที่ตั้งไว้ และเวลาบริจาคเสียดายทรัพย์ทั้งทั้งที่ตนมรเงินมากมาย เกิดความตระหนี่แบบไม่ให้ทานอย่างเต็มใจ
    2.ไม่ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ และยังอยากโลภได้เงินมาก ๆ โดยมิชอบ
    แก้วิบากกรรม
     1.ตั้งจิตทำบุญ ทำกุศลด้วยความบริสุทธิ์ใจ และตั้งมั่นที่จะช่วยเหลือศาสนาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
    2.หมั่นทำบุญใหญ่ ขอพรด้านลาภลอย
    3.ให้ฝังลูกนิมิตร ปีละครั้ง อธิษฐานขอพรจะทำให้สมหวังในจิตที่ขอ
      
    การออกกรรม
     

    กรรม คือ การกระทำ หากทำกรรมไม่ดีก็ทำให้ทุกข์ทรมาน การออกกรรมทำให้รู้กรรมและแก้กรรมได้
    ทุกข์จากกรรมที่ตนเคยทำไว้ตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ยังผลให้ตนเองได้รับวิบากนั้น ทำให้ชีวิตทุกข์ต่าง ๆ การออกจากกรรมนั้น เป็นการแสดงอาการกรรมให้รู้ เพื่อแก้ไขมิใช่ให้ยึดติด เพราะจะทำให้จิตไม่ตัดกรรม ฉะนั้นเมื่อรู้กรรม ควรทำกุศลในทางที่ถูกต้อง เพื่อชีวิตที่จะดีขึ้นต่อไป

    วิธีออกกรรม
     นั่งสมาธิ บริกรรมยุบ พอง เป็นอาการเร่งกรรมให้แสดงออก ควรมีพระผู้รู้กำกับจะทำให้ไม่บ้า และส่งกุศลได้ถูกต้อง ดวงจิตที่มืดก็เปิดสว่างได้ บุญก็เกิด เช่น
    เคยฆ่าปลา - ควรทำสังฆทานอุทิศให้ทุกเดือนติดกัน 1 ปี (กรรมป่วยบ่อย) จะทำให้คุณดีขึ้น
    เคยทำร้ายผู้มีพระคุณ -ควรขอขมาผู้มีพระคุณ และขอพรทุกปี ทำให้ (กรรมโดนกด) วันสำคัญทุกปี
    เคยด่าคนไว้ -หมั่นตักบาตรทุกวันเกิดตนเอง อุทิศให้เจ้ากรรม (กรรมเป็นโรคลม) นายเวร อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×