ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] You are my dream that comes true. (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4 :: Understudy

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 54




    Chapter 4 :: Understudy




             
    ชายหนุ่มดูไม่ค่อยสนใจอาการเก้ๆกังๆของฮโยยอนหลังจากที่เห็นเขา  อาจจะเป็นเพราะสายตาของเขาต้องการเห็นผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น


                “ผู้หญิงคนนั้น..” คังอินไม่สนใจเสียงเรียกของฮโยยอนอีก เดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวร่างบางที่นั่งตัวลีบเมื่อสังเกตเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเดินเข้าใกล้เธอ  ภายในใจร้องเรียกแทยอนให้มาหาเธอ..


                “เธอ..ออกจากโรงพยาบาลมาได้ยังไง” เสียงทุ้มเอ่ยถาม สายตามองร่างบางตั้งแต่ผ้าพันแผลบนศีรษะเรื่อยลงมาถึงเฝือกที่แขน เขาจำใบหน้านี้ได้ไม่ผิดแน่ ถึงแม้จะเห็นไม่บ่อยก็ตามที


                “คังอิน  นายจะทำอะไรมิยอง”


                “แทแท..”


                แทยอนเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับซันนี่  ร่างเล็กก้าวฉับๆตัดหน้าคังอินเพื่อใช้ตัวบังร่างบางเอาไว้ มิยองลุกขึ้นยืนหลบหลังแทยอนคว้าแขนเกาะเอาไว้ราวกับจะไม่ยอมปล่อยให้คนตรงหน้าหายไปไหนอีก


                “แทยอน..รู้ไหมว่าวันนี้ผมตามหาตั้งนาน ไปที่คอนโดก็ไม่อยู่ โทรไปหาก็ไม่ยอมรับสาย  ..  แต่ที่แทหายไปคือไปพาตัวยัยนี่ออกจากโรงพยาบาลงั้นเหรอ?  แทคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่” ปรายตาคอยมองคนตัวเล็ก เลยไปจนถึงร่างบาง   ไม่สนใจว่าการมาของเขานั้นเรียกความสนใจจากคนทั่วทั้งร้านได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


                “ฉันกำลังทำในสิ่งที่นายไม่คิดจะทำไงล่ะ คังอิน  ..  ฉันผิดหวังในตัวนายมากรู้ไหม” แทยอนจ้องตากลับเขม็ง จับมือของร่างบางไว้แน่นซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบสนองสัมผัสของเธอเช่นกัน


                “ผมบอกแทแล้วไงว่าไม่ต้องทำถึงขนาดนี้  เราพาเขาส่งโรงพยาบาล พาไปนอนห้องพิเศษ จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เท่านั้นก็พอแล้ว”


                “แต่มิยองความจำเสื่อมนะ  ฉันทิ้งเขาไว้แบบนายไม่ได้หรอก”


                “เอางี้ๆ  เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่รับผิดชอบอะไรเลย .. เธอ  ความจำเสื่อมใช่ไหม  ฉันพอรู้จักคนอยู่บ้าง สถานสงเคราะห์ไงล่ะ  ฉันจะพาเธอไปอยู่ที่นั่นจนกว่าเธอจะจำอะไรได้  ยุติธรรมพอไหม?”


                เพียะ
    !


                “น่าเกลียดที่สุด นายมันน่าเกลียดกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีกยองอุน
    !  มิยองจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เธอจะอยู่กับฉัน  ฉันจะเป็นคนดูแลเธอเอง  ..  ถ้านายยังไม่คิดจะทำอะไรที่ดีกว่านี้ก็ไม่ต้องแบกหน้ามาให้ฉันเห็นอีก!  ฉันเกลียดนาย!   ขอโทษนะซุนคยู วันนี้ฉันขอกลับก่อน ไปกันเถอะมิยอง” แทยอนคว้ามือมิยองเดินออกจากร้านไปโดยไม่สนใจใครอีก


                คังอินที่โดนตบจนหน้าหัน ค่อยๆลูบรอยเปื้อนนิ้วแดงๆบนแก้มอวบๆของตัวเอง เมื่อรู้สึกตัวขายาวๆก็รีบวิ่งตามหญิงสาวสองคนที่เพิ่งเดินออกจากร้านไป


                “แทยอน
    !  แทยอน!   ฟังผมก่อน ผมขอโทษ!


                “อย่าหันกลับไปมองคนที่ใจร้ายกับเธอ มิยอง” แทยอนบอกเสียงเรียบ เมื่อร่างบางคอยหันกลับไปมองชายหนุ่มที่วิ่งตามมา


                “แทยอน
    ! ผมรักคุณนะ! ได้ยินไหมว่าผมรักคุณ!


                สิ้นประโยคนั้นกลับเป็นร่างเล็กที่ยอมหยุดเดินเสียเอง และกลับเป็นมิยองที่อยากจะเดินต่อไปไม่อยากให้หยุดเลยแม้แต่ก้าวเดียว  ร่างบางมองคนตัวเล็กที่หยุดยืนนิ่ง  เธอใจอ่อนกับคำว่ารักของเขางั้นเหรอแทยอน   แล้วทำไมฉันต้องเจ็บปวดด้วยที่เห็นเธอเป็นแบบนี้..


                ร่างบางกระชับสัมผัสจากมือให้แน่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามันเริ่มคลายลง แทยอนเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้เธอก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับคังอิน


                “ถ้าเป็นแต่ก่อน ฉันคงรับฟังความรู้สึกจากนาย .. แต่สำหรับวันนี้ เก็บความรู้สึกของนายไว้เถอะยองอุน เพราะนอกจากฉันจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว ฉันยังกลับรู้สึกว่าคำว่ารักของนายมันไร้ค่าสิ้นดี..” แทยอนยิ้มเย็นเป็นครั้งสุดท้ายให้ชายหนุ่ม


                คังอินยืนนิ่งเหมือนโดนแทยอนตบหน้าอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้มันรู้สึกชาไปทั้งตัว  ราวกับมีใครบางคนสาดน้ำเย็นๆจากขั้วโลกเสียท่วมร่างเปียกปอน หนาวเย็นเยือกไปทั้งตัว  ยิ่งยืนอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่ก็ยิ่งสมเพชตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
    ..

     




             
    บริเวณม้าหินอ่อนสีขาว หน้ามหาวิทยาลัย  ยุนอาคอยชะเง้อมองหารถของคนรักทุกๆห้านาที เธอไม่ได้ฟุบหลับลงกับโต๊ะเหมือนในทุกครั้งที่มีเวลาว่างและเวลาเรียน  โดยมีซอฮยอนนั่งอ่านหนังสือเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ


                “ไปไหนของเขานะพี่สิก้า  โทรไปก็ปิดเครื่อง”


                “อาจจะรถติดอยู่ แล้วแบทหมดก็ได้” เสียงพูดลอดผ่านหนังสือเล่มหนาของซอฮยอน


                “นั่นไง มาพอดีเลย” ร่างสูงลุกขึ้นพรวดเมื่อเห็นคนที่เธอรอคอยกำลังลงจากรถแท็กซี่ เจสสิก้าส่งยิ้มแห้งๆเป็นเชิงขอโทษที่มาช้าให้กับยุนอา


                “ทำไมมารถแท็กซี่ล่ะพี่สิก้า แล้วรถพี่ไปไหน?”คำทักทายเป็นไปตามที่เธอคาดการณ์ไว้อยู่ก่อนแล้ว


                “รถพี่น้ำมันหมดน่ะ จอดทิ้งไว้อยู่ที่บริษัท  เลยนั่งแท็กซี่มา”


                “แล้วทำไมไม่โทรบอกยุน”


                “มือถือพี่แบทหมดน่ะสิ”


                “เธอเดาถูกไปข้อนึงแน่ะซอ” ยุนอายิ้มกว้างให้กับเพื่อนสนิทที่เดินตามมาสมทบ ซอฮยอนโค้งตัวเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวคำทักทายให้กับเจสสิก้า เพราะอย่างน้อยคนรักของเพื่อนเธอคนนี้ก็เคยเป็นรุ่นพี่ที่เธอชื่นชมมาก่อนเช่นกัน


                “เป็นไงบ้างคะน้องซอ หมู่นี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลย .. ยุนมันยังหลับในเวลาเรียนอยู่หรือเปล่า?”


                “เป็นเรื่องปกติค่ะ”


                “จูฮยอนอาา...
    ~


                “ไม่ต้องเลยอิม ยุนอา  ไหนสัญญากับพี่ว่าจะไม่หลับในเวลาเรียน” เจสสิก้าหยิกแขนร่างสูงเบาๆ  ยุนอาแบะปากลูบแขนป้อยๆวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังซอฮยอน


                “ซอ ช่วยฉันด้วยสิ”


                “เอ่อ..พี่สิก้าคะ ไหนๆพี่สิก้าก็ไม่ได้เอารถมา  เดี๋ยวนั่งรถไปกับซอไหมคะ” ซอฮยอนเปลี่ยนประเด็น แต่ไม่ใช่เพื่อช่วยเพื่อนหรอกนะ


                “จะดีเหรอซอ” พูดไปตามมารยาทอีกครั้ง อันที่จริงเธอเองก็ไม่อยากเสียเงินค่ารถแท็กซี่แล้ว  ..นึกแล้วก็แค้นยัยผู้จัดการนั่นเหลือเกิน


                “ดีสิคะ .. พี่ยูลมาพอดีเลย”


                เจสสิก้ากับยุนอาหันไปมองตามสายตาของซอฮยอน  รถแอสตันมาร์ตินคันสีดำสนิทขับตรงเข้ามาจอดข้างๆ
      ..  ทำเอาผู้ที่ถูกเชิญชวนหรี่ตามองเพื่อพิจารณารถคันนี้


              รถคันนี้ มันดูคุ้นๆแฮะ .. เอ๊ะ นี่มันรถของยัยลิงดำนี่นา


                แล้วมันก็เป็นไปตามอย่างที่เจสสิก้าคิดไว้ เมื่อกระจกรถเลื่อนลงเผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มสวยของเจ้าของรถที่เธอคุ้นเคย


                “ไง เจอกันอีกแล้วนะ..”


                “ย่ะ..”


                “อ้าว รู้จักกันแล้วเหรอคะ?” ซอฮยอนมองทั้งคนทั้งคู่สลับไปสลับมาด้วยความงง  ไหนจะท่าทีราวกับโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางไหนของเจสสิก้านั่นอีก


                “เธอเป็นลูกน้องคนใหม่ของพี่เองซอ เพิ่งรับเข้ามาทำงานวันนี้น่ะ” ยูริยิ้มกวนๆ


                “ห๊ะ??  รับฉัน รับฉันเข้าทำงานแล้วเหรอ?  อ๊ะ..ไม่สิๆ กลับบ้านกันเถอะยุน” เจสสิก้าคว้าแขนยุนอาที่ยัง งงๆเดินหนีเพื่อแก้เก้อ ก็ดูยัยลิงดำนั่นลอบหัวเราะกับท่าทางเผลอดีใจของเธอนั่นสิ เห็นแล้วน่าโมโหชะมัด


                “อ้าว พี่สิก้าคะ  ไม่กลับพร้อมพวกเราเหรอ”


                “ไม่ล่ะน้องซอ  ต่อให้หัวเด็ดตีนขาด ทั้งชีวิตนี้พี่จะไม่มีวันนั่งรถคันนั้นแน่นอน
    !” เจสสิก้าประกาศกร้าวท่ามกลางความงงงันของยุนอาและซอฮยอน แต่กลับเรียกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของยูริ


                “แล้วฉันจะคอยดู เจสสิก้า จอง”

     

     




                ประตูถูกผลักออกแรงตามอารมณ์คุกรุ่นของคนตัวเล็ก  เธอปล่อยมือจากร่างบางเป็นครั้งแรก  เดินตรงเข้าห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียงนุ่ม โดยมีร่างบางเดินตามเข้ามานั่งข้างๆ


                “แทแท..เป็นอะไรหรือเปล่า?” ร่างบางเอ่ยปากถาม เพราะในช่วงก่อนหน้านี้ระหว่างเดินทางทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันเลย มีเพียงสัมผัสจากมืออุ่นเท่านั้นที่ร่างบางได้รับจากคนตัวเล็กมาตลอดทาง


                “ฮืม.. ฉันไม่เป็นไร  มิยองไปอาบน้ำเถอะ  เดี๋ยวฉันเตรียมชุดให้” แทยอนพูดๆทั้งๆที่ยังหลับตา  มิยองเดินเข้าห้องน้ำอย่างเชื่อฟัง สภาพของเธอดูทุลักทุเลมากเมื่อแขนข้างหนึ่งใช้การไม่ได้ แต่ไม่กล้าบอกแทยอนเพราะแค่นี้คนตัวเล็กก็มีเรื่องของตัวเธอกลุ้มใจมากมายพออยู่แล้ว


                สักพักมิยองก็เดินออกมาจากห้องอาบน้ำในชุดคลุมอาบน้ำตัวเล็กของแทยอน หยดน้ำเล็กๆเกาะพราวตามเนื้อนวล  มือบางคว้าชุดนอนที่คนตัวเล็กเตรียมไว้ให้  มองไปทางเตียงนอนจนแน่ใจแล้วว่าเจ้าของห้องอยู่ในห้วงนิทรา ก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อให้ตัวเอง .. เริ่มจากกางเกง ดูไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรนอกจากขาที่สั้นเต่อ .. แทยอนตัวเล็กกว่าเธอขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย


                ร่างบางพยายามใส่แขนหุ้มเฝือกให้เข้าแขนเสื้ออย่างยากลำบาก ตอนถอดทำไมเธอถึงถอดได้ง่ายจังเลยนะ


                “กรี๊ดด ด..” ดูเหมือนความพยายามของเธอจะมีมากเกินไป เท้าของเธอไปสะดุดเข้ากับเตียง  ส่งผลให้ร่างบางเซถลาหล่นตุ้บไปกองบนเตียงนุ่มข้างๆคนตัวเล็กที่สะดุ้งเฮือกตั้งแต่ได้ยินเสียงกรี๊ดของมิยอง


                “มิยอง เป็นอะไรไป ...
    !” ทันทีที่ลืมตาขึ้นมองเพื่อหาร่างบาง ก็เจอเข้ากับเจ้าตัวพอดิบพอดี .. แต่มิยองเอ๋ย ทำกันแบบนี้เอามีดมาแทงคิม แทยอนคนนี้เลยดีกว่า  เพราะเลือดคงหมดตัวในเวลาใกล้เคียงกัน   ก็ดูสภาพแม่คุณสิ นอนตะแคงทุลักทุเลในชุดคลุมอาบน้ำที่แทบจะหลุดอยู่แล้ว  เผยให้เห็นเนินอกขาวๆ  กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะลมหายใจเข้าออก  ส่วนเสื้อสีชมพูอ่อนที่แทยอนเตรียมเอาไว้ให้ก็คาอยู่ที่ศีรษะ


                ร่างบางส่งยิ้มแห้งๆให้คนตัวเล็ก  ไม่ได้อยากนอนแอ้งแม้งอยู่แบบนี้นักหรอกนะ แต่มันลุกไม่ขึ้นนี่สิ  แล้วดูแทยอนมองเธอเข้า  แทนที่จะช่วย กลับมองอยู่นั่นแหละ คนเขาอายเป็นนะ..


                “ใส่เสื้อลำบากเพราะเฝือกแล้วทำไมไม่ยอมบอกฉันล่ะ” แทยอนประคองร่างบางให้ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็จัดแจงสวมเสื้อให้แบบเก้ๆกังๆ พร้อมกับถอดเสื้อคลุมอาบน้ำเจ้าปัญหาออก


                “ก็เค้านึกว่าแทแทหลับไปแล้ว”


                อืม.. อันที่จริงก็หลับไปแล้ว แต่ตอนนี้หลับไม่ลง  ตามันค้าง..


                “แทแท คิดอะไรอยู่น่ะ?”


                “ปะ..เปล่า  นอนเถอะ  นี่ก็ดึกแล้ว” พูดจบก็ล้มตัวลงนอนต่อ ตบหมอนอีกใบเพื่อบอกให้ร่างบางล้มตัวลงนอนตาม


                “แล้วแทแท ไม่อาบน้ำเหรอ?”


                “ไม่อ่ะ ง่วงแล้ว  นอนเถอะนะมิยอง”


                ร่างบางยอมล้มตัวลงนอนข้างๆแต่โดยดีแบบไร้ข้อแม้ เรียกรอยยิ้มจากแทยอนไปไม่น้อย  คนตัวเล็กเขยิบเข้าใกล้ร่างบาง ใช้เท้าเขี่ยปลายผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างตัวเองและมิยองเอาไว้


                “ถ้าหนาวหรือนอนไม่หลับ บอกฉันนะ”


                “ทำไมเหรอ?”


                “ฉันก็จะกอดเธอไว้น่ะสิ ... ฝันดีนะ มิยอง” แทยอนพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็หลับตาลงไปทั้งรอยยิ้ม  ปล่อยให้มิยองหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขินจากประโยคนั้นของคนข้างกาย ดีที่แสงรอบตัวค่อนข้างสลัวและผู้ที่พูดประโยคนั้นหลับไปแล้ว ไม่งั้นคงได้เห็นว่าเธอหน้าแดงแน่ๆ


                ฉันจะนอนไม่หลับก็เพราะเธอเนี่ยแหละ คิม แทยอน..

     


                “ป๊า เสร็จหรือยังคะ?” เด็กน้อยเขย่งสุดตัวเกาะเคาน์เตอร์ที่สูงกว่าตัว มองผู้เป็นพ่อจัดแจงใส่อาหารลงกล่องข้าวขนาดปานกลาง


                “เสร็จแล้วครับๆ  ทำไปให้ใครกินเยอะแยะเหรอแทยอน” จินยงส่งกล่องข้าวให้ลูกสาวอย่างระมัดระวัง  ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นแทยอนมาช่วยเขาทำคิมบับของโปรด มีแต่นั่งดูและรอกินอย่างเดียว แต่วันนี้มาแปลก นอกจากจะขอให้ทำเยอะเป็นพิเศษแล้วยังมาขอช่วยทำอีกด้วย


                “หมีค่ะ แทแทจะเอาไปให้หมีกิน .. แทแทไปก่อนนะคะ” พูดจบก็วิ่งปรู๊ดออกจากบ้านไปแบบไม่รอฟังพ่อพูดอีก ผู้เป็นพ่อจึงได้แต่ส่ายศีรษะระอาใจเล็กๆ


                “ระวังทำกล่องข้าวหกนะลูก” ตะโกนไล่หลังทั้งๆที่รู้ว่าเด็กหญิงตัวเล็กอาจจะไม่ฟังแล้วก็ตาม

     


                “มิยอง  มิยอง  แทแทมาแล้ว~” เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเท่าที่ขาสั้นๆของเธอจะพาไป  การมาของเธอเรียกรอยยิ้มน่ารักจากอีกฝ่ายได้  รอยยิ้มที่เธอหลงรักเป็นที่สุด


                “แทแท  ถืออะไรมาด้วยเหรอ?” มิยองมองกล่องขนาดปานกลางในมือคนตัวเล็ก  แทยอนยิ้มกว้าง วางกล่องลงบนชิงช้า ก่อนจะเปิดฝาออก เผยให้เห็นอาหารรูปร่างหน้าตาคล้ายซูชิอยู่ข้างใน


                “ว้าว แทแททำเองเหรอ?”


                “อื้อ  แทแทกับป๊าแทแทช่วยกันทำ  แทแททำมาให้มิยองเลยนะ ไม่รู้ว่ามิยองจะกินได้หรือเปล่า” แทยอนมองอาหารในจานของตัวเองสลับกับมิยอง มือน้อยๆหยิบของกินขึ้นมาหนึ่งชิ้นส่งให้เพื่อนอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่มิยองกลับยิ้มกว้าง กัดเข้าไปคำโต


                “อร่อยจังเลยแทแท”


                “จริงเหรอ?” แทยอนว่า พลางใส่คำที่เหลือจากมิยองเข้าปากตัวเอง เคี้ยวตุ้ยๆ ...อร่อยจริงๆด้วย...


                “เห็นไหมล่ะ ว่าแต่มันคืออะไรเหรอแทแท?”


                “คิมบับน่ะ  แทแทชอบกิน ก็เลยทำมาให้มิยองกินบ้าง มิยองชอบไหม?”


                “ชอบสิ  โดยเฉพาะคิมบับของแทแท เค้าชอบที่สุดเลย” มิยองยิ้มตาปิดอย่างเคย คว้าคิมบับขึ้นมาอีกชิ้นยื่นให้แทยอนซึ่งหยิบคิมบับขึ้นมาอีกชิ้นยื่นให้มิยองเช่นกัน


                เด็กหญิงสองคนกัดคิมบับที่ป้อนให้กันและกันด้วยรอยยิ้ม จากที่มีอยู่เต็มกล่องตอนนี้ถูกทานจนหมดไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว  ต่างจากความรู้สึกที่เด็กทั้งสองต่างมีให้กัน มันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันจนจากคำว่าเพื่อนก็กลายมาเป็นคำว่าผูกพัน .. ความผูกพันที่แม้นานวันจะผ่านไปก็ไม่มีวันลบเลือนหายไปจากจิตใจได้เลย...

     



                “อื้อ.. มิยอง”


                ร่างเล็กส่งเสียงครางเบาๆ ความหนาวของอากาศยามค่ำคืนและไออุ่นจากคนข้างกายกระตุ้นให้เธอขยับตัวเข้าหาโดยอัตโนมัติ แขนยกขึ้นเพื่อโอบกอดร่างบาง ขณะที่ร่างเบียดอีกฝ่ายจนชิด ลมหายใจอุ่นๆกระทบใบหน้าของกันและกันส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในอ้อมกอดลืมตาปรือขึ้นมา


                ..เธอกำลังทำให้ฉันนอนไม่หลับจริงๆแล้วนะ แทยอน..


                ร่างบางบังคับหัวใจไม่ให้เต้นรัวมากไปกว่านี้ด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายนั้นจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา มิยองพยายามข่มตาหลับอีกครั้ง แต่ใบหน้าเนียนใส ดูราวกับเด็กทารกของแทยอนนั้นก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะมองใบหน้านั้นแบบไม่รู้เบื่อ


                “อืมม... มิยอง..หนาวเหรอ?” จู่ๆ ตัวการที่ทำให้เธอนอนไม่หลับก็ลืมตาขึ้นมา  มิยองส่ายหน้าดิก ส่งสายตากลับไปประมาณว่า มีเธอกอดอยู่แบบนี้ ต่อให้อยู่ขั้วโลก ฉันก็ไม่มีวันหนาวหรอก


                แทยอนยกยิ้ม หากแต่ดูเจ้าเล่ห์เสียจนมิยองตามไม่ทัน


                “แต่ฉันหนาว ขอกอดเธอนะ” ถามไปแต่กลับไม่รอฟังคำตอบ  คนเจ้าเล่ห์กระชับกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม  ถึงกระนั้นร่างบางก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด  ได้แต่ทำตามสิ่งที่หัวใจของเธอเรียกร้องมา


                คราวนี้เป็นร่างบางที่เป็นฝ่ายหลับสนิทไปเสียก่อน ร่างเล็กลืมตาขึ้นมองคนตรงหน้า คนที่สามารถเปิดประตูหัวใจที่ถูกปิดตายมานานแสนนานของคิม แทยอนอีกครั้ง ... คนที่ช่วยดึงความทรงจำครั้งเก่าของเธอที่ถูกเก็บไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ ส่วนที่เธอไม่อยากรับรู้ความเจ็บปวดจากมันอีก


                ...หรือเธอจะมาเป็นตัวแทนของเขากันแน่นะ มิยอง...

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×