คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
Intro
“ทิฟฟานี่ เราเลิกกันเถอะ”
เสียงที่เอ่ยออกมานั้นแผ่วเบา แต่กลับชัดเจนผิดปกติภายในจิตใจของผู้ที่รับฟังประโยคนั้น
ฮวัง มิยอง หรือที่ใครๆต่างรู้จักเธอในชื่อ ทิฟฟานี่ นั่งนิ่ง หลังจากที่คำบอกเลิกหลุดออกมาจากปากของชายคนรัก ไม่มีคำพูดใดๆอีกระหว่างคนทั้งสอง เมื่อชายหนุ่มค่อยๆถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายนั้นออก
แหวนที่เขาซื้อมาให้เธอ ในวันที่เขากล้าบอกความรู้สึกที่มีต่อเธอ วันที่เริ่มคบกันวันแรก..
แหวนที่เขาบอกกับเธอว่าจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกให้คนอื่นรู้ว่า เขารักเธอมากแค่ไหน..
แหวนที่สลักชื่อของเธอเอาไว้ ซึ่งเขาพร่ำบอกอยู่เสมอว่า เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้อยู่เสมอว่าเธอจะได้อยู่ข้างกายเขาตลอดไป..
แหวนที่ตอนนี้ถูกถอดออกมาวางลงบนโต๊ะราวกับสิ่งของไร้ค่า เช่นเดียวกับคนที่ถูกมองว่าเป็นแบบเดียวกัน มีเพียงน้ำตาและเสียงสะอื้นเบาๆเท่านั้นที่บอกความรู้สึกของเธอในตอนนี้
“ท..ทำไมล่ะ เพราะอะไรกัน ช่วยบอกฉันทีสิ แท..” เสียงใสสะอื้นและสั่นเครือ เธอดูอ่อนแอลงไปมากเลย มิยอง
“ฉันชื่อแทยัง เลิกเรียกฉันแบบนั้นสักทีได้ไหม”
ทิฟฟานี่สะอึกกับคำพูดนั้น .. ทำไมกันล่ะแทยัง ชื่อนี้เองไม่ใช่เหรอที่เธอเคยบอกให้ฉันเรียกเธอแบบนั้น แต่วันนี้มันกลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากปากของเธอเอง
“..แล้วเหตุผลน่ะ ฉันก็ว่ามันชัดเจนอยู่แล้วนะทิฟฟานี่ เหตุผลคือฉันหมดความอดทนกับเธอ หมดความอดทนกับความเอาแต่ใจของเธอเต็มทน .. คิดง่ายๆว่า ฉันไม่ได้รักเธอแล้ว”
น้ำเสียงเย็นชานั้น เริ่มกรีดหัวใจของเธออีกครั้ง ราวกับว่าเป็นมีดเย็นบางเฉียบ แหลมคมที่กำลังบาดเนื้อช้าๆอย่างเลือดเย็นที่สุด มีน้ำตาใสเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของเลือดสีแดงสดที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนมากมายขนาดนี้ ทิฟฟานี่ซุกใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตานั้นกับฝ่ามือ เพียงเพราะเธอไม่อยากมองใบหน้าเรียบเฉย เย็นชานั้นอีกแม้แต่วินาทีเดียว ใบหน้าที่เคยแสดงความอ่อนโยนทุกครั้งที่มองเธอ แต่ตอนนี้กลับไม่มีความอบอุ่นนั้นหลงเหลืออยู่เลย
“คิดซะว่า เธอฝันร้ายแล้วกันนะ ทิฟฟานี่..”
ร้านกาแฟ Sun shy
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งมองร้านกาแฟเล็กๆที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า เขาสามารถกล้าพูดได้เต็มปากถึง
เหตุผลที่เขามาร้านนี้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เว้นเสียแต่ว่าร้านจะปิด ซึ่งน้อยครั้งนักที่จะมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น เหตุผลก็อาจจะเป็นเพียงเพราะเขาติดใจคนดูแลร้านพอๆกับรสชาติหอมกรุ่น น่าลิ้มลองของกาแฟเลยน่ะสิ
มือหนากระชับช่อดอกไม้สีขาวในมือ อย่างรวบรวมความกล้าก่อนจะก้าวเดินเข้าไปในร้าน ภายในร้านดูโล่ง มีลูกค้าเพียงสองสามโต๊ะ ในยามกลางคืนที่ใกล้ปิดร้านเช่นนี้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของเขาแม้แต่น้อย กลับดีซะอีก..จะได้ไม่ต้องเก้อเขินมาก
“อ้าว คังอิน วันนี้ทำไมมาช้านักล่ะ ทุกทีจะมาเร็วกว่านี้ไม่ใช่เหรอ วันนี้มาซะร้านเกือบปิดแน่ะ” คิม ฮโยยอน ที่เป็นทั้งหุ้นส่วน เพื่อน และพนักงานประจำร้าน เอ่ยแซวลูกค้าขาประจำที่เดินเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้ในมือ คงจะมาตามเอาใจเพื่อนร่วมงานตัวเล็กของเธออีกล่ะสิ
“แทยอนอยู่หลังร้านน่ะ”
คังอินยิ้มกว้างให้กับคำพูดนั้น สงสัยเขาคงจะมองไปรอบๆร้านเพื่อหาใครบางคนจนฮโยยอนจับทางถูก หรือไม่ก็สาวเจ้านั้นเดาออกเสียตั้งแต่เดินก้าวเข้ามาในร้านแล้วล่ะ คนอย่างคังอิน ลองให้เดินเข้ามาในร้านเมื่อไหร่ ต้องไม่ใช่แค่จะมาหากาแฟดื่มอย่างเดียวแน่ๆ
ชายหนุ่มเดินไปที่หลังร้านก็เจอกับคนที่เขาต้องการพบ เธอยืนหันหลังให้เขาและกำลังตรวจเช็คของสำหรับวันพรุ่งนี้ ไม่ทันรู้ตัวว่ามีใครบางคนเดินเข้ามายืนอยู่ด้านหลังเธอเงียบๆอย่างหยอกล้อ ช่อดอกไม้ถูกซ่อนไว้อยู่ด้านหลังแม้จะบังได้ไม่มิดก็ตาม
“ซันนี่ ฉันว่าเธอต้องไปซื้อ....อ๊ะ!?” ร่างเล็กหมุนตัวหลับอย่างรวดเร็วเมื่อมีความรู้สึกว่ามีใครบางคนที่เธอคิดไปเองว่าเป็นเพื่อนของเธอมายืนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าของเธอชนเข้ากับแผ่นอกกว้างของชายหนุ่มก่อนจะเซผละออกด้วยความตกใจจนเกือบล้มลง ถ้าไม่มีอ้อมแขนแข็งแรงโอบเอวเธอไว้
“ค..คังอิน” คิม แทยอน ใช้มือดันไหล่กว้างนั้นเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างเธอและเขา คังอินปล่อยร่างเล็กด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กๆ แต่เมื่อสังเกตเห็นใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนสีนั้นเขาก็ยิ้มย่องได้ใจ
“สำหรับแทนะ” ช่อดอกกุหลาบสีขาวถูกยื่นมาอยู่ตรงหน้าร่างเล็กที่หน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ไม่ใช่ว่าเธอหวั่นไหวกับเขามากมายขนาดนั้นหรอกนะ แต่เหตุการณ์มันต่อเนื่องจากเมื่อกี้ก็ช่วยทำให้ใบหน้าเปลี่ยนสีได้ไม่ยากเหมือนกัน
“เนื่องในโอกาสอะไร?” เบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตา อาจจะเป็นเพราะว่ากลัวสายตานั้นมันจะทำให้เธออ่อนไหวมากขึ้นไปอีก
“อืมม.. เอาเป็นว่า เนื่องในโอกาสที่วันนี้ผมจะขอไปส่งแทที่คอนโดแล้วกัน ..นะครับ” ประโยคออดอ้อนที่ถูกส่งมาแนวเดียวกันนี้แทบทุกวัน ประโยคที่เธอปฏิเสธมันทุกครั้งด้วยความเกรงใจชายหนุ่ม แต่วันนี้..เธอจะปฏิเสธมันลงเหรอ
“เป็นอะไรไปซัน ยอดลูกค้าเดือนนี้ตกหรือไง” ฮโยยอนแซวเพื่อนตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกมาจาก..หลังร้าน! งานเข้าแล้วคิม ฮโยยอน! ซันนี่เดินออกมาจากหลังร้านที่คังอินเพิ่งจะเดินเข้าไป หน้าตาบ่งบอกบุญไม่รับแบบนี้ สงสัยต้องไปเจออะไรมาแน่ๆ เธอพลาดแล้วล่ะฮโยยอน..
ลี ซุนคยู หรือ ซันนี่ไม่โต้ตอบอะไรดั่งเช่นทุกวันที่มักจะถูกแซวจากฮโยยอน เธอกลับทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้และฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ไม่น่าเลยซุนคยู เธอไม่น่าเดินเข้าไปในนั้นทั้งๆที่รู้ว่าใครบางคนก่อนหน้านี้ที่เดินเข้าไปก่อนนั้นเป็นใคร และที่เขามาที่ร้านทุกๆวันนี้เพราะอะไร .. ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกค้าประจำร้าน(แม้จะมีเหตุผลบางอย่างแอบแฝง) เธอคงไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แค่เพียงเพราะ......
“ซัน ฮโย ฉันกลับบ้านก่อนนะ” แทยอนเดินออกมาจากหลังร้าน ในมือของเธอมีช่อดอกกุหลาบสีขาว ตามด้วยอดีตเจ้าของดอกกุหลาบนั้นอย่างคังอินที่เดินยิ้มหน้าบานไม่เกรงใจสายตาลูกค้าที่ยังอยู่ในร้าน รวมไปถึงสายตาของเจ้าของร้านด้วย
“อือ กลับบ้านดีๆล่ะ” ฮโยยอนเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูด ในขณะที่ซันนี่ทำได้เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น ก่อนจะเดินหายเข้าไปที่หลังร้าน โดยมีฮโยยอนมองตามด้วยสายตาเป็นห่วง
“รีบไปกันเถอะครับ แท เดี๋ยวฝนตก” คังอินเปิดประตูกระจกร้านให้หญิงสาวที่โบกมือลาฮโยยอนอีกครั้งก่อนไป
“ฝนจะตกงั้นเหรอ..” ฮโยยอนหัวเราะเบาๆในลำคอ มองไปทางหลังร้านที่คนจากด้านในไม่มีทีท่าว่าจะเดินออกมาสักที วันนี้แทยอนคงยอมให้คังอินไปส่งแล้วสินะ เธอถึงได้ดูเศร้าขนาดนี้ซันนี่ ถ้าไม่ติดว่าที่พักของเธอทั้งสองคนอยู่ชั้นบนของร้านนี้เองเธอคงหาเหตุผลไปส่งแทยอนได้ล่ะสิ ...ความรักมันเจ็บปวดและซับซ้อนแบบนี้เอง...
“หยาา.. ฝนตกแล้วสิ” ร่างเล็กพูดกับตัวเองเบาๆเมื่อสังเกตเห็นหยดน้ำหลายๆหยดปะทะเข้ากับกระจกรถจนเป็นจุดๆรอบแผ่นใสนั่น และเริ่มลงเม็ดหนักขึ้นเรื่อยๆ
“เห็นไหมล่ะ วันนี้ผมถึงอยากไปส่งแทไง”
“ก็เห็นอยากไปส่งอยู่ทุกวัน..” แทยอนพึมพำเบาๆอีกครั้ง แต่สำหรับภายในรถที่เงียบ มีเพียงเสียงฝนภายนอกรถเท่านั้น ก็ทำให้คนที่ขับรถอยู่ข้างๆได้ยินง่ายๆ รอยยิ้มเขินๆ ที่ดันถูกสาวเจ้ารู้ทันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ บวกกับความมืดในเวลากลางคืนจนทำให้แทบจะมองไม่เห็นทางข้างหน้า แต่คังอินยังคงรักษาความเป็นตัวเองไว้ คือการขับรถเร็วที่มีอยู่เป็นทุนเดิม จนร่างเล็กเริ่มนั่งเกร็งๆด้วยความกลัว
“ฝนตกอยู่ ขับรถช้าลงหน่อยก็ได้นะ”
“กลัวเหรอครับ?” น้ำเสียงกวนๆเชิญชวนให้แทยอนหันไปมองเขม่น แต่ดูเหมือนคังอินจะลืมตัวไปว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เมื่อหันมาสบตากับร่างเล็ก แทยอนหันหน้ากลับไปทันทีเพราะไม่อยากสบตานานเกินไป ..ชั่ววินาทีนั้น เธอสังเกตเห็นร่างเงาดำๆที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ใครคนนั้นเดินเอื่อยเกินไปสำหรับคนที่กำลังจะข้ามถนน ยิ่งในเวลาฝนตกหนักๆแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ บวกกับความเร็วของคังอินด้วยแล้ว...
“มีคนข้ามถนนอยู่ตรงหน้า!”
“ห๊ะ!”
เอี๊ยดดดด ดด ด !!!
โครมมม ม!!
ความคิดเห็น