คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : PINKGRAY x 07 | รีไรท์
PINKGRAY
วันที่เธอคิดจะร้ายใส่ใครดูให้ดีก่อน
เสียงทำนองดนตรีกลองหนักๆกับเสียงกีต้าร์อันเป็นเอกลักษณ์โดยช่วงท่อนเวอร์สนำด้วยเสียงเบสและเสียงซินธ์อันบาดหูดังขึ้นในห้องซ้อมสีเหลืองเล็กๆโดยมีสมาชิกเดิมของ The Grayish รวมด้วยโซฮยอนสาวมือซินธิไซเซอร์ที่เข้ามาเป็นสมาชิกคนล่าสุดซึ่งเจ้าตัวเองตกลงทันทีที่ซึงยุนไปชวน ถือว่าดีมากมากดีมากมาย
'Being a human isn’t like being an android
Being able to easily deal with lonliness
However much my heart gets hurt, I won’t die
I’m indestructible
I won’t die’
พอจบเสียงร้องของเขาทุกคนก็เฮลั่นชนิดที่ว่าใส่เต็มที่อย่างกับวันแสดงจริง ซึงยุนทิ้ง gibson ที่ยืมมาจากห้องเครื่องสายแล้วนั่งลงบนแอมป์ด้วยความหมดแรงมือก็ดึงขวดน้ำขึ้นมากระดกแบบรัวๆ เขาเองต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นเป็นสองเท่าเมื่อต้องร้องและเล่นกีต้าร์ไปพร้อมๆกัน
เพลง Android ของศิลปินสุดอินดี้ในยุคที่พวกเขายังอยู่ประถมถูกเลือกเป็นหนึ่งในเพลงโชว์ของวงพวกเขาเป็นซาวน์ใช้ไลน์ซินธ์ได้เท่มากๆและโซฮยอนเองก็เล่นเข้าขากับพวกเขาได้ดีจริงๆ
“เออ พวกมึงอยากเล่นเพลงไหนอีกปะ” ซึงฮุนถามขณะที่ยกขวดน้ำกระดกดื่มไปด้วย พวกเขามองหน้ากันซักพักก่อนที่ซึงยุนจะเสนอความคิดเองออกมาซะเอง
“ทูดอร์ป่ะพี่”
“What you know?” จุนฮเวผู้ที่คนแต่งไม่ค่อยส่งบทให้พูดออกมา
“เออก็ดีนะเอาไว้บิ้วท์คนได้ด้วย” ด้วยความที่เป็นเพลงดังกับจังหวะที่สนุกสนานน่าจะเป็นเพลงที่ชักชวนคนให้โยกตามได้ไม่ยาก
“I can talk ป่ะ?”
อู้ว..สาวฮิปสเตอร์ของเรานี่มาสายแข็งเลย
“เออ ดีนะแม่งเท่ดี เล่นแล้วน่าจะมันส์กว่า What you know ด้วย”
“ของงี้มันต้องพิสูจน์ว่ะ” นี่คือบุคคลที่อยากได้เพลงที่ตัวเองเสนอมากสินะ ใจเย็นๆนะเพื่อนปกติหน้าเฉยๆของมึงก็หาเรื่องอยู่ละ ซึงยุนมองทั้งจุนฮเว โซฮยอนและซึงฮุนออกความเห็นเชิงเถียง ส่วนตัวเขาก็ชอบทั้งสองเพลงนะคือยังไงก็ได้สกิลการร้องของเขาคงน่าจะพอร้องได้
แต่พอยังตัดสินไม่ได้คนกลางที่รับหน้าที่หนักอย่างน้องยุนจึงขอขัดจังหวะซะเล็กน้อย
“แล้วเรามีโควต้ากี่เพลงเนี่ยพี่?”
“2 ว่ะ วงแข่งแม่งเยอะ” คือถ้าไม่เยอะสิแปลกก็นี่มันโรงเรียนวิจิตรศิลป์ มีคนเล่นดนตรีเยอะแยะไป
“แต่ความจริงผมอยากเล่นเพลงบ้านเรานะ”
“เออว่ะ” < พี่ซึงฮุนนี่มันขี้ลังเลจริงๆ หมดกันคุณสมบัติของหัวหน้าวง
“เพื่อนไม่จริง!” นั่น แม่สาวที่ทำตัวเหมือนจะแอบชอบเจ้าของเพลงนี้เสนอ.ออกมาจนได้ แหม่แน่ซิ้ก็โซฮยอนได้ไกด์เพลงนี้อยู่แล้วนิคงไม่ต้องนั่งแกะใหม่
นี่กูหนีเพลงนี้ไม่พ้นใช่มั้ย..
“โอเคป่ะ”
ถ้าตอบไม่โอเคจะโดนตรีนมั้ย?
“อยากเล่นๆ” ไอ่เด็กอาร์ตหน้าตายมึงยังจะสมทบอีกหรออย่างงี้ค้านไม่ได้ละจริง orz
“ว่าไงซึงยุน?”
“ช่วงนี้สนิทกับพี่จีโฮไม่ใช่หรอ”
“อย่าชงได้ป่ะโซฮยอน”
“จะดีหรอวะพี่? คนจะไม่เล่นเยอะหรอ” น้องยุนพูดถูกป่ะล่ะเพลงมันดังมากในตอนนี้ไงมีหวังคนเล่นเยอะชัวร์ๆ
“คิดมากไรวะ เราก็เรียบเรียงใหม่ดิ”
น้าน จนได้
ความจริงก็ทำเป็นแหยงๆไปงั้นแหละเอาจริงๆก็อย่างที่บอกไว้ว่าเขาชอบเพลงนี้อยู่แล้วเพียงแต่หมั่นไส้คนแต่งเฉยๆ ก็ไม่ค่อยอยากยอมรับอ่ะเลยได้แต่เงียบๆคนเดียวแบบนี้ไง
“เอ้อ ก็ได้!"
-. PINK TO GRAY .-
นี่เขาว่าเขาเลิกซ้อมดึกแล้วนะยังเห็นคนบางกลุ่มยังนั่งเตรียมงานบ้านช่องไม่ยอมกลับอยู่เลย จริงๆมันก็เหลือเวลาอีกเกือบเดือนไม่ใช่หรอรีบกันทำไม.. ซึงยุนมองไปยังตึกทัศนศิลป์ที่ยังเปิดไฟสว่างโร่แล้วยังมีผู้ชายกลุ่มใหญ่ๆยืนขึ้นโครงอะไรซักอย่างอยู่
“น้องหมวยต๋า~” ไม่ทันได้หันหลังกลับหอก็มีตุ๊ดตัวดำมาทักเข้าแบบไม่ให้เตรียมตัวเตรียมใจบ้าง
ด้วยความที่ตึกซ้อมของเด็กดุริยางค์ค่อนข้างจะอยู่ใกล้กับสตูดิโอของเด็กอาร์ตเลยได้เห็นหน้าคร่าตากันอยู่บ้าง จำใจหันกลับไปทักทายคนน่ารำคาญที่ตอนนี้เข้ามาเกาะเขาแจ เหงื่อจากอีกคนที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามและกางเกงนักเรียนทำเอาน้องยุนร้องยี๋รีบผลักอีกคนไปไกลๆนี่ยังไม่รวมกับสีหรืออะไรเหนียวๆที่เปื้อนมืออีกฝ่ายอีกนะ
“ยังไม่กลับบ้านหรอหมวย”
“พึ่งซ้อมดนตรีเสร็จอ่ะ” คือค่อนข้างขัดใจกับไอ่สรรพนามที่ใช้เรียกตัวเองแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เบื่อจะเถียงกับเรื่องเดิมๆที่มินโฮไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร อ้าวละคู่ขาไปไหนล่ะนั่นปกติเห็นตัวติดกันเป็นพื้นรองเท้ากับหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้ว
“เด็กอาร์ตเค้าว่างมากหรอพี่ รีบทำกันจัง” ว่าแล้วก็ขอแซะบ้างอะไรบ้าง ชะเง้อคอมองไปยังกลุ่มเด็กอาร์ตทั้งหลายแล้วกลับมามองคู่สนทนาที่ยืนยิ้มแป้นแล้นไม่รู้ว่ายิ้มทำไม ..งี้ล่ะนะคนบ้า
“เป็นอย่างนี้ทุกปีล่ะ ก็งานฝ่ายสถานที่เด็กศิลป์ก็เป็นฝ่ายจัดการทุกอย่างนิ่”
ซึงยุนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจรู้สึกโชคดีอยู่ลึกๆที่สอบเข้าสาขาดุริยางค์เรียกได้ว่าสบายตูดเลยทีเดียวเพราะต้องดูแลแค่ซุ้มนำเสนอของตัวเองซึ่งในส่วนนี้เองน้องยุนไม่ได้เข้าไปช่วยเลยแอบรู้สึกผิดเบาๆ
“อ่าวซึงยุน”
เจ้าของชื่อชะเง้อมองไปตามเสียงเรียกคุ้นเคยนั้นแล้วก็ต้องพบกับเจ้าของใบหน้าน่ารักกับตัวเล็กๆของรุ่นพี่รูมเมทของเขานี่เอง
“พี่ไม่กลับหอหรอครับ?”
“มาช่วย..งานน่ะ”
งานจริงเหย๋อ? แล้วทำไมต้องใช้ตาแป๋วๆเหลือบมองมินตุ๊ดซะขนาดนั้นล่ะ
ตกลงมินโฮมันใช้ความตุ๊ดบังหน้าเพื่อที่จะได้สนิทกับพวกผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้มรึเปล่าวะ? ทั้งจินอู ทั้งแทฮยอน แต่ไม่รวมน้องยุนหรอกนะ(บอกเลยว่าตัวเองไม่ได้เข้าข่ายหน้าตาจิ้มลิ้มเลยซักเปอร์เซต์) เขาก็พึ่งรู้นี่เองว่ารูมเมทตัวน้อยของเขาก็รู้จักมักจี่กับเด็กอาร์ตกับเขาด้วย
“พี่จะกลับหอกับผมเลยมั้ย”
“เอ่อ..ก็ได้ๆ” เขาละไม่เข้าใจโคตรๆเลยแบบว่าทำไมพี่จินอูต้องเหลือบมองมินโฮทุกครั้งเหมือนกับเช็คหรือว่าเกรงใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ขนาดนั้นด้วย
ไม่ได้นะ..พี่จินอูของน้องยุนคนเดียว
“พี่ไปก่อนนะมินโฮ”
“บ๊ายครับพี่ แล้วเจอกันนะน้องหมวย” บอกทีว่าทำไมต้องใช้น้ำเสียงและวิธีพูดแตกต่างกันขนาดนั้น ซึงยุนรู้ทันทีเลยว่าซง มินโฮมัน 2 มาตรฐานมากแค่ไหน
“พี่กินข้าวรึยัง”
“กินแล้ว ซึงยุนล่ะ?”
“กินกับเพื่อนในวงแล้วอ่ะ”
ยืนรออีกฝ่ายล้างมือเบื่อๆก็เลยชวนคุยบ้างหยิบมือถือขึ้นมาเล่นบ้างกว่าจินอูจะล้างคราบสีออกจากมือหมดก่อนที่พวกเขาจะพากันเดินกลับหอไปด้วยกัน
“พี่ซ้อมถึงไหนแล้วอ่ะ” หลอกแอบถามบ้างอะไรบ้างเผื่อจะได้ร ท่าทีคู่แข่งอิอิ ลืมเล่าไปเลยว่าพี่จินอูคนน่ารักของน้องยุนก็ลงประกวดเหมือนกันในตำแหน่งนักร้องนำแถมมือกีต้าร์วงนี้ยังเป็นพี่รหัสของเขาอีก คิดแล้วก็เครียดแปปจะเอาอะไรไปสู้เขาละทีนี้
“ไม่บอกหรอก” อีกฝ่ายหันหน้ามาแลบลิ้นใส่เรียกได้ว่าน้องยุนโดนดาเมจรัวๆๆๆๆๆๆ อ่อก น่ารักอ่ะ *ตาย*
“ฮ่าๆ งั้นถามหน่อยว่าเล่นเพลงอะไรบ้าง”
“เรื่องอะไรจะบอก”
“โหย งกอ่ะ”
ยู่หน้าเมื่ออีกฝ่ายกั๊กไม่บอกอะไรเลย
เอาจริงๆเขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้นะเพราะนี่ถือเป็นการลงแข่งกับวงเป็นครั้งแรกแถมวงที่เค้าอยู่นี่มันกะโหลกหะลาซะเมื่อไหร่ เห็นมือกลองหรือหัวหน้าวงของเขาจะบ้าๆบอๆแบบนั้นเรียกได้ว่าเป็นที่ยอมรับของรุ่นจริงๆ แถมรุ่นพี่ก็ยืนยันว่า The Grayish รุ่นก่อนๆเล่นได้มันส์ทุกรุ่น ประมาณว่าเป็นโคตรรวงในตำนานของโรงเรียนวิจิตรศิลป์แห่งนี้เลยก็ว่าได้
ก็แอบรู้สึกกดดันอยู่หน่อยๆ ต้องรับหน้าที่ทั้งมือกีต้าร์และ Front man อย่างนี้จะให้ชิลได้หรอ
-. PINK TO GRAY .-
เช้าวันใหม่ของวันเสาร์ตื่นมาพร้อมกับความหนักใจอย่างบี้ เดอะสตาร์(มากมาย) มองไอ่ชุดนักเรียนในถุงแล้วก็ถอนหายใจออกมา คิดไว้ว่าตัวเองคงหลุดพ้นจากกงกรรกงเวียนของเจ้าของชุดนี้ได้แล้วแต่ลืมคิดไปซะสนิทว่าตัวเองใส่ชุดนักเรียนของจีโฮมา
หน้าก็ไม่ค่อยอยากเจอเท่าไหร่หรอกแต่จะฝากคนอื่นไปคืนมันก็น่าสงสัยอยู่ป่ะ? ฉะนั้นควรทำไงดี คิดสิคิดสิคิดสิคิดสิคิดสิคิดคิด อิคคิวซัง...................
“พี่จินอูเดี๋ยวผมออกไปข้างนอกนะ”
รู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่หน้าสตูดิโอตึกทัศนศิลป์พร้อมถุงผ้าที่มีชุดนักเรียนอยู่ในนั้นซะละ ให้คำมั่นกับตัวเองว่าถ้าไม่เจออีกฝ่ายจะกลับหอไปนอนละชง ชุดไม่ต้องเอาหรอก บอกไว้ก่อนว่าซึงยุนไม่เคยมาทัวร์ตึกนี้เลยซักครั้งตั้งแต่เข้าโรงเรียนนี้มาเลยเดินเข้าไปงงๆ มองไปตามประตูแล้วประตูเล่าที่เปิดโชว์หราให้ใครเดินเข้าออกได้สบาย
ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุดแต่ก็ยังมีคนพลุกพล่านประจำอยู่ตามมุมของตัวเอง คงแนวๆเดียวกับเด็กดนตรีล่ะมั้งที่นั่งหมกกันในห้องซ้อม ถ้าเป็นเด็กสายสามัญคงนั่งอ่านหนังสือ ท่องตำรากันแต่สำหรับพวกเขาก็คงนั่งฝึกฝนปฏิบัติแทนเอาล่ะมั้ง
“พี่จีโฮขรา!”
“อร้าย จีโฮของเค้า”
“จีโฮๆๆๆๆๆ!”
เสียงของบุคคลกลุ่มนึงทำให้ซึงยุนต้องชะโงกหน้ามองลงไปดูที่ชั้นหนึ่งอันเป็นต้นเสียงแสนความวุ่นวายนั้น พอเห็นเท่านั้นล่ะถึงกับต้องขำกร๊ากออกมาเพราะภาพที่ปรากฎสู่สาธารณะชนคือภาพของผู้ชายคนนึงที่ Keep look มาตลอดทั้งเรื่องนี้กำลังถูกชนกลุ่มเพศที่ 3 ไล่ตาม
โอ้ย ขอขำรัวๆ
ตอนนี้จีโฮได้กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ของตุ๊ดน้อย เกย์น้อยไปแล้วครับท่าน
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” จงใจขำเสียงดังให้อีกฝ่ายได้ยินและก็เป็นเช่นนั้นจริงๆเมื่อคนที่เขาแสนแอนตีนักแอนตี้หนาหันมาจ้องตาเขม็งพลางชี้หน้าเหมือนจะฆ่าเขาให้ได้
เผ่นสิครับรออะไรอยู่
พอเห็นอีกฝ่ายรีบวิ่งมาหาซึงยุนนี่หาที่หลบแทบไม่ทัน สองเท้าวิ่งเข้าไปยังห้องสตูดิโอก่อนจะหามุมหลบไม่ให้อีกฝ่ายหาเจอแต่แน่นอนว่าคนซวยก็ยังซวยอยู่วันยันค่ำเมื่อที่ที่เค้าหลบมันดันเป็นมุมทำงานของอู จีโฮพอดีนี่สิ
โอ้ย วิ่งสิวิ่ง orz
“ซึงยุน!!”
“อุ่ย ขึ้นเสียงทำไมอ่ะเก๊าตกใจนะ” แบ๊วสู้สิ.. ขอยืมสกิลตุ๊ดซงมาใช้แปปนะฮ่ะ
นี่พอหันไปเห็นหน้าพี่แกอดคิดไม่ได้ว่าไอ่รอยจ้ำที่เพิ่มมามันใช่ฝีมือของรุ่นพี่หน้าโฉดคนนั้นหรือเปล่าแต่ใจนึงก็แอบสะใจเบาๆนะ อุคริ จุ๊บุ๊ หุหุ
“แสบจริงๆไอ่ลูกหมา”
“อะไร๊ ผมแค่ช่วยให้พี่เป็นที่รักของทุกเพศทุกวัยนะ” ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ เห้อม
“ช่วยบ้าอะไรหนู” อีกฝ่ายเข้ามาล็อกคอน้องยุนแถมยังเอาอีกมือรวบผมม้าของเขาแล้วตบกลางหน้าผากอีก “โอ้ยย” นี่ก็จะยุ่งกับหน้าผากเขามากไปล่ะ! เข้าใจป่ะว่าคนมันคิ้วต่ำอ่ะหน้าม้านี่มันสำคัญมาก!
“นี่กูก็โดนต่อยเพราะมึงอ่ะ ไอ่เรื่องที่ปฏิเสธผู้หญิงให้นี่ก็ขอบใจแต่การมีผู้ชายเข้ามาคุยด้วยกูนี่ขนลุกเลย”
เห็นคนที่ Keep look พูดน้อย กวนตีนประจำโวยวายแบบนี้น้องยุนล่ะโคตรจะสะใจ จะหัวเราะออกมาซะหน่อยก็โดนอีกฝ่ายล็อกคอแน่นกว่าเดิมไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหนตั้งเยอะตั้งแยะ
‘Bananas in pajamas are coming down the stairs. Bananas in pajamas are coming do--’
เย่ คุณนายโทร..แน่ๆเลย
“ครับแม่”
“อ๋อหน้าโรงเรียนหรอ ได้ฮ่ะๆ”
เยส! ได้กีต้าร์แล้วอิอิ
“ปล่อยดิ้พี่” ดิ้นตัวในแขนอีกฝ่ายแต่ก็ไม่หลุด ส่งตาขวางไปให้ไอ่คนปากห้อยกว่าที่ตอนนี้ยิ้มหน้าแป้นซะเปลี่ยนอารมณ์ตามไม่ทันละ
“จะไปไหน”
“เรื่องของผมอ่ะ นี่เสื้อพี่เอาไปๆ” เอ้อ เอาไปเลยอย่าได้มีวงจรชีวิตเกี่ยวข้องกันอีกเลยขอร้อง
“เดี๋ยวกูไปด้วย อยากกินกาแฟหน้าโรงเรียนพอดี”
คือระ.........
เป็นอันว่าเขาต้องมาร่วมเดินทางกับผู้ชายหน้าเหมือนอีกครั้งโดยไม่เต็มใจ แขนนั้นยังล็อกคอเขาไว้จนปวดไปหมดจะขืนออกมาก็ไม่มีแรงสู้ด้วยเลยได้แต่โวยวายไปตลอดทาง อยากให้จีโฮรู้สึกอายคนอื่นเขาบ้างอะไรบ้าง
“พี่จะไปไหนก็ไปไป้”
“อะไร คนอุตส่าจะไปส่ง”
“อย่าเวอร์ ไม่ได้ขอร้อง”
มองเห็นคุณนายคังยืนอยู่ไกลๆก่อนจะเร่งฝีเท้าไปหาพร้อมใช้กำลังทั้งหมดสะบัดออกจากจีโฮแล้ววิ่งรี่เข้าไปหาบุคคลที่ให้กำเนิดเขาทันที กอดอีกฝ่ายด้วยความคิดตามสไตล์ลูกคุณหนูห่างไกลบ้าน
“สบายดีมั้ยลูก หื้ม” แม่จับแก้มทั้งสองข้างของเขากับน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงซะเหลือเกิน
เอาคำตอบจริงๆหรือเอาที่ทำให้คุณนายสบายใจดีล่ะ..
“สบายดีก็ได้ ฮ่าๆ”
“เด็กคนนี้นิ” ยู่หน้าลงเมื่อคุณนายประเคนมะเหงกให้กลางหน้าผาก
“อ่าวนั่นเพื่อนลูกหรอ?”
“สวัสดีครับ”
อู จีโฮไหนบอกจะไปซื้อกาแฟแล้วตามมาอีกทำไม............
ผมนี่อึ้งเลย
“อุ้ย! ทำไมหน้าตาคล้ายกันแบบนี้ล่ะ” นั่น แม่น้องยุนก็เห็นด้วยกับเขาสินะ
“คนในโรงเรียนก็ว่างั้นแหละครับ” ยังจะมายิ้มให้เขาอีกไอ่บ้าคนนี้แม่ม - _ -
“น่ารักจังเลย” เอาเข้าไป… หลงหน้าตาจนแยกไม่ออกแล้วมั้งเนี่ยว่าคนไหนลูกแท้ๆคนไหนแค่คนรู้จัก
แม่เขานี่ชื่นชมจีโฮอยู่นานสองนานแถมคอยเป็นห่วงรอยฟกช้ำบนหน้านั้นอีก ดูท่าจะเข้าตากรรมการมกสำหรับคนนี้เรียกได้ว่าเคมีเข้ากันเกิ๊น.. แต่แม่ครับ น้องยุนไม่ได้มาเปิดตัวลูกสะใภ้(หรือเขย)นะไม่ต้องถึงกับเอ็นดูขนาดนั้นก็ได้นะ
“ไหน Fender น้องยุน~” รีบตัดบทเข้าก่อนจะเป็นหมาหัวเน่าแทน แม่ที่พึ่งรู้ตัวว่าลืมลูกชายรีบหันไปหยิบกีต้าร์ไฟฟ้าสีดำสนิทให้ลูกชายแสนหวงแถมยังเอา Super Overdrive มาให้อีก อ๊อยแม่รู้ใจง่ะ T v T
ยืนคุยกันซักพักแม่ของซึงยุนเองก็ติดธุระเลยต้องรีบไปรีบบอกลาลูกชายด้วยการหอมแก้มฟอดใหญ่ทั้งสองข้างต่อหน้าไอ่คนที่เขาไม่อยากให้เห็นโมเม้นต์นี้มากที่สุดในสามโลกแล้วยังไม่วายมาฝากฝังอะไรกับเขาให้ไอ้คนข้างๆนี่อีก.. ถ้าน้องยุนมีโอกาสน้องยุนคงบอกไปแล้วว่าไอ่นี่มันคือคนที่นำพาเรื่องซวยมาให้น้องยุนนี่แหละแม่!!!!
“ฮ่าๆ ผมจะดูแลน้องอย่างดีเลยครับ”
“น่ารักจริงๆ แม่ขอจองตัวเป็นลูกเขยได้มั้ยเนี่ย”
“เดี๋ยวนะแม่..”
“แม่ไปนะครับน้องยุน ดูแลตัวเองด้วยล่ะ” แล้วคุณนายเธอก็ขึ้นรถไปด้วยความเร่งรีบเขาล่ะเป็นห่วงจริงๆ แต่ตอนนี้ห่วงตัวเองก่อนดีกว่า.......................................
“ผมว่านี่มันไปไกลละ..”
“ทำไมว่ะ”
“ชอบใครก็ต้องเข้าทางผู้ใหญ่ก่อนไง”
วดฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปได้..นี่คงจะเป็นเนื้อที่เข้ากับสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้ คนพี่แสนขี้แกล้งที่ทำให้คนน้องปวดหัวได้ตลอดเวลา และทำให้ซึงยุนต้องพิจารณาใหม่ว่าก่อนที่คิดจะร้ายใส่ใครนั้นคงต้องดูให้ดีก่อน บางทีมันอาจไม่แน่นอน..เมื่อคนที่เขาแกล้งนั้นมีนามว่าอู จีโฮเนี่ยน่ะสิ
-. PINK TO GRAY .-
#ฟิคพี่โค่น้องยูน
ไมพี่โค่แกล้งแบบนี้วะคิดอะไรเปล่า5555
ตอนนีไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้เกือบ3000แหน่ะแฮ่ก
super overdrive คือ เอฟเฟคกีต้าร์นะทุกคน~
ตอนหน้าแฝดพี่เอาคืนมากกว่านี้แน่
-10/03/15-
สอบถามรวมเล่ม > แบบฟอร์ม
-10/01/16-
ความคิดเห็น