คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : PINKGRAY x 04 | รีไรท์
PINKGRAY
ความขัดแย้งของผู้ชายนามว่าอู จีโฮ
เด็กหนุ่มในเครื่องแต่งกายผิดชาวบ้านที่นั่งอยู่โต๊ะหลังสุดริมหน้าต่างให้สมกับความเป็นพระเอกฟิคชั่นมัธยมปลาย(?)
ดวงตาเรียวไม่ได้ให้ความสนใจกับอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ข้างหน้าห้องเรียนนัก
แต่กลับเบนมองออกไปยังนอกหน้าต่างที่ปรากฏทัศนียภาพอันกว้างขวางของสนามฟุตบอลที่คั่นระหว่างตึกเรียนของเขาและตึกเรียนดุริยางคศิลป์
พอมองไปก็อดจะนึกถึงเรื่องเมื่อวานไม่ได้
เลื่อนมือของตนไปแตะมุมปากที่มีรอยช้ำม่วงจากการโดนหมัดอัดกระแทกเข้าอย่างแรง
เมื่อวานจีโฮไปทำเรื่องมา
แต่ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก.. ก็แค่ไปหาซื้อของมาไถ่บาปเสร็จก็เลยไปจัดการปัญหานิดหน่อย
แค่ไปบอกกับไอ่คนที่ได้ชื่อว่าคู่อริ(แบบไม่ตั้งใจจะเป็น)ว่า ‘อย่ามายุ่งกับซึงยุน’ เป็นอันจบด้วยการแลกหมัดกันนิดหน่อยให้คุณครูที่ปรึกษาไล่ตีตูดเล่นเมื่อเช้ากับหลักฐานฟ้องอยู่บนหน้า
ใช่ว่าเขาสำนึกเรื่องที่ทำให้ซึงยุนเดือดร้อนน้อยซะเมื่อไหร่.. ก็แค่ไม่อยากให้ตอนนี้ แค่อยากมีอะไรที่สามารถLinkอีกฝ่ายเอาไว้ได้เหมือนเป็นพันธะที่ทำให้ได้เจออีกฝ่ายได้บ่อยขึ้น
แต่พอเห็นไอ้เด็กที่คนทั้งโรงเรียนว่าว่าหน้าเหมือนกันทำหน้าเป็นหมาหงอยคอยมาขอยืมกีต้าร์จากยูควอนแถมโทร.ไปอ้อนแม่แบบนั้นก็แอบรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้
ส่วนอีกเหตุผลที่เขาก็ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นความรู้สึกอะไร
ก็แค่ไม่อยากถูกใครเกลียดแค่นั้น
..ล่ะมั้ง
เสียงอ่อดดังขึ้นเป็นอันหมดคาบเรียน
ร่างโปร่งเจ้าของฮู้ดสีเทาหันมาปิดสมุดเล่มเล็กที่เต็มไปด้วยภาพวาดแทนที่จะเป็นตัวหนังสือเกี่ยวกับวิชาเรียนเก็บเข้าลิ้นชักแล้วหยิบกระดานA3เตรียมตัวจะเดินออกจากห้องเรียน
ไม่วายเสียงของหัวหน้าห้องสาวก็ดังขึ้นเรียกให้พวกเขาทั้งหลายหันไปฟังซะก่อน
“ทุกคน ฟังหน่อยๆ” เธอยืนเคาะที่ลบกระดานอยู่หน้าห้องเรียกให้เพื่อนๆฟัง
จีโฮเองเลยจำใจต้องนั่งฟังอย่างช่วยไม่ได้
มองไปที่ร่างเล็กที่หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา
“กำหนดการณ์งาน Noise Market มาแล้วนะทุกคน!”
“เฮ่ยจริงดิ?” เสียงตื่นเต้นของเพื่อนๆดังขึ้นเมื่อได้ยินว่า Noise
Market กำลังจะจัดขึ้น
Noise
Market เป็นตลาดขายของD.I.Yของนักเรียนสาขาทัศนศิลป์และรวมถึงคอนเสิร์ตกลางแจ้งของนักเรียนสาขาดุริยางคศิลป์
เป็นงานใหญ่ที่จัดเพียงปีละครั้งซึ่งจะเปิดให้คนนอกสามารถเข้ามาได้
แน่นอนว่าปีก่อนๆทำไว้ได้ดีมาก
“เออพวกเราปีสามน่ะต้องไปจัดการคิดงานต่างๆและควบคุมให้พวกปีหนึ่งกับปีสองทำงาน
ส่วนใครที่มีของมาขายวันงานก็ทำมาได้เลยเหมือนทุกปี”
“แล้วก็ขอรายชื่อคณะกรรมการดูแลฝ่ายต่างๆด้วยนะ”
รองหัวหน้าชายลุกขึ้นพูดพร้อมๆกับการเลือกคณะกรรมการตามมา
จีโฮไม่คิดจะสนใจเท่าไหร่ตามแบบฉบับผู้ชายที่ขี้เกียจที่สุดในสามโลก.. แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ความร่วมมือหรอก ไม่ใช่ประเภทเด็กเกเรที่มีปัญหาแต่ถ้าใครมาขอให้ช่วยอะไรก็ทำให้ได้
“เอาเป็นว่าตามนี้นะทุกคน
ไว้เราประชุมได้เรื่องเมื่อไหร่ก็น่าจะเริ่มทำงานกันได้เลย”
ในขณะที่ทุกคนรับทราบแล้วเก็บของเข้ากระเป๋าเพื่อกลับบ้านหัวหน้าห้องสาวก็เดินมุ่งหน้ามาหาเขาที่กำลังจะเดินออกจากห้องเป็นครั้งที่
2 เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว
“จีโฮ ช่วยเรื่องSculptureได้รึเปล่า”
“อ่อ..ไม่มีปัญหา แต่ขอลูกทีมให้เราด้วยดิ”
เขาไม่ได้มีปัญหาเพราะงานประติมากรรมที่จะจัดวางเพื่อตกแต่งเป็นสีสันให้กับงานนี้เขาเองก็ทำมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง
“ได้ๆ เดี๋ยวพอได้เรื่องแล้วจะมาบอกอีกทีนะ”
“โอเค”
“อื้อ ขอบใจมากนะ”
-.
PINK TO GRAY .-
จีโฮเดินลงจากตึกเรียนก่อนจะมุ่งหน้าไปยังตึกสตูดิโอชั้นสองซึ่งเป็นสตูดิโอหลักหรือเรียกอีกอย่างได้ว่าเป็นที่อยู่อาศัยของพวกปีสามเลยก็ไม่ผิด..เพราะทุกคนต่างจะมาคลุกตัวทำงานที่นี่โดยแบ่งอาณาเขตโต๊ะทำงานของตนได้อย่างชัดเจน
ที่ตึกสตูดิโอจะไม่มีการปิดไฟและจะเปิดต้อนรับนักเรียนสาขาทัศนศิลป์นี้อยู่ตลอด
ยิ่งช่วงใกล้ปิดเทอมที่ต้องทำงาน Final ส่งยิ่งเรียกได้ว่ากินนอนอยู่ที่นี่เป็นอาทิตย์ๆเลยก็ว่าได้
หลังจากไปเอากระดานA3เก็บไว้ที่เขตแดน(?)ของตนเนื่องจากจะได้ไม่ต้องแบกมาจากหออีกในวันพรุ่งนี้
แต่พอลงจากบันไดมาก็เหลือบไปเห็นสตูปีหนึ่งที่คึกคักไปด้วยไอ้สองเกลอที่ทำงานเงียบๆกันไม่ค่อยจะเป็น
ว่าแล้วก็เดินเข้าไปทักทายซักหน่อยตามประสารุ่นพี่
“อร้าย! พี่จีโฮขราของเขา”
“อ่าวลูกเพี้ยะ!”
ทันทีที่ไอ่สองเกลอเพื่อนซี้นั้นเห็นหน้าเขาก็ส่งเสียงดังจนเป็นที่สนใจปีหนึ่งในสตูแห่งนั้น
ก็แน่ดิ..ปฏิเสธไม่ลงหรอกว่าเมื่อสามหนุ่มสามมุมมารวมตัวเมื่อไหร่เป็นอันเฟดเฟ่อย่างกะบอยแบนด์เมื่อนั้นมาก!
“ทำไรกันวะ” เห็นมินโฮกำลังขึ้นรูปปั้นดินเหนียวเพื่อทำอะไรซักอย่างที่น่าจะเรียกว่าแจกัน
“งานครูปาร์คไงพี่ คือสั่งตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแต่มินโฮแม่มพึ่งทำ
ใช้ไม่ได้”
จีฮุนทำหน้าตาเหมือนเด็กน้อยฟ้องคุณครูพลางบ่นให้รุ่นพี่ที่นับถือฟังจนมินโฮนึกหมั่นไส้สลัดดินเหนียวในมือใส่รัวๆ
“ละมึงเสร็จละไง”
“ระดับนี้ละ”
จีฮุนว่าพลางถอยมาโชว์ผลงานอันแสนภาคภูมิใจของตนแต่คนที่มีประสบการณ์มากกว่ากลับขมวดคิ้วไม่ชอบใจเท่าไหร่นักพร้อมกับประโยคที่สามารถทำให้จิตใจนุ้งโพว้าวุ่น
“กูว่าเนี่ยไม่ D ก็ D-”
พอเห็นไอ่พิกเล็ตเจ้าของท่าฮอตพิ้งค์ตัวโตทำหน้าเหวอพร้อมกับเตรียมตัวจะขึ้นรูปดินเหนียวใหม่ก็อดขำไม่ได้
มีเสียงหัวเราะของตุ๊ดตัวดำที่ทุ้มใหญ่ไม่เหมาะกับการกระทำแสนมุ้งมิ้งเป็นซาวด์แบ็คกราวน์ประกอบฉาก
ครืด
ครืด
เสียงไอฟุนสีดำเหมือนสีผิวของใครบางคนสั่นบนโต๊ะตัวไม่ใกล้ไม่ไกล
ไอ่เด็กรุ่นน้องเขาที่มือเปื้อนไปด้วยดินเหนียวจะให้ไปรับก็ยังไงอยู่เขาเลยอาสาไปหยิบและรับแทนให้
ยิ้มเผล่ออกมาจนปากห้อย(ได้ข่าวว่าห้อยอยู่ละ)เมื่อชื่อที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอเป็นชื่อ ‘โน’sน้องหมวย’
“...”
“พี่! พี่! ช่วยผมด้วย! แฮ่กๆๆ”
ได้ยินเสียงพูดปนกับเสียงหอบดังขึ้นจากปลายสาย
ประโยคขอความช่วยเหลือทำให้จีโฮขมวดคิ้วแน่น
ในใจหวูบโหวงแปลกๆราวกับรู้สึกว่ามีเรื่องไม่ดี(ซึ่งอาจเกี่ยวกับเขา)เกิดขึ้น
วิ่งสิครับ
“อ่าวเฮ้ย! ไปไหนวะพี่!”
-.
PINK TO GRAY .-
อีกแล้ว..
กูจะกรี๊ด T
v T
แม่จ๋าพ่อจ๋าช่วยน้องยุนด้วย.. คราวนี้กะว่าจะไปห้างเพื่อซื้อของมาทำบอร์ดกับแทฮยอนเองไอ่ขาไปก็ไม่ได้มีอะไรหรอกแต่พอขากลับมานี่ดันมาเจอประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกซะได้
ไม่รู้ว่าไอ่คนที่เขาโทร.ไปขอความช่วยเหลือจะมาเมื่อไหร่เลยได้วิ่งหนีอยู่แบบนี้
อยากจะโทษกับความบ้าดนตรีของตนจนไม่ค่อยได้ออกกำลังกายทำเอาวิ่งหอบมากซะขนาดนี้
“คัง ซึงยุนหยุดนะเว้ย!!”
หยุดก็โง่ละเตง .
_ .
เขาล่ะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่ายจริงๆ
เพราะครั้งนี้มันผิดไปจากทุกครั้งจากที่ปกตินัมจุนจะวิ่งไล่ฆ่าฟันเขาด้วยเหตุผลเข้าใจผิดคิดว่าเขาคือจีโฮแต่ครั้งนี้รู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นก็ยังตามราวีอี๊ก
“อะไรของพี่วะเนี่ย!”
ผู้คนบนริมฟุตบาทตลอดข้างทางมองเขาที่ถูกไล่ตีก็ไม่คิดจะปรามหรือช่วยอะไรเลยซักนิด
ยังดีที่หลบให้วิ่งหนีได้สะดวก ซึงยุนหวังจะวิ่งกลับโรงเรียนเหมือนครั้งก่อนๆเลยหักตัวเลี้ยวเข้าซอยทางลัดของโรงเรียนพร้อมกับไอ่ฝ่าเท้ากับอีกนับสิบคู่ที่ยังคงดังตามไล่หลังมาใกล้เข้าเรื่อยๆ
เหมือนกำลังถูกReplayไปตอน01
ผู้ชายฮู๊ดสีเทาหอบตัวโยนต่อหน้ากลุ่มอริของเขาเองแต่ผิดไปจากทุกครั้งเมื่ออู
จีโฮดันวิ่งตรงเข้าไปซัดหน้าฝ่ายตรงข้ามด้วยความเดือดดาล
เป็นการกระทำนั้นทำให้ซึงยุนถลึงตาออกมาด้วยความตกใจ
จีโฮเข้าไปในกลุ่มนั้นและจัดการด้วยตัวคนเดียว.. อีกแล้ว
อีกแล้วที่ไม่ว่าจะมีเรื่องกี่ครั้งต่อกี่ครั้งผู้ชายที่เป็นสาเหตุของความวุ่นวายมักจะมาอยู่ตรงหน้าเขาในเวลาเช่นนี้เสมอ
“กูบอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับเด็กกู”
ประโยคจากปากของคนที่เกลียดทำให้ลมหายใจของคนที่ถูกเรียกว่า ‘เด็กกู’ สะดุดพร้อมๆกับหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ
เสียงต่อยระคนกับเสียงร้องทำให้เขามองด้วยความวิตกและไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อไป
ยิ่งเห็นว่าคนที่มาช่วยเหลือตนท่าไม่ดีเข้ายิ่งสับสนไปหมด
ควรเข้าไปช่วยรึเปล่านั่นคือคำถามในใจแต่เหตุผลที่โดนไล่ต้อนแบบนี้มันก็เป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ใช่หรอ?
มันสมควรแล้วที่จีโฮจะโดนแบบนั้น ..อย่างนั้นหรอ?
“หนีไปซึงยุน!”
ไอ่คนอวดเก่งยังจะมาปากดีหวังดีกับคนอื่นอีก
โอ้ย
มองภาพตรงหน้าด้วยแววตาหวาดหวั่นกับขาที่พร้อมจะวิ่งหนีไปเสียตอนนี้
หันหลังกลับพร้อมจะวิ่งหนีด้วยความสับสนกับภาพสุดท้ายที่เห็นจีโฮลงไปนอนกองไปกับพื้นไม่อาจสู้กับคนนับสิบคนได้
ร่างเด็กหนุ่มที่ยังสั่นไม่หายวิ่งออกมาไกลแล้วก็ไม่หายว้าวุ่น
ภาพของคนที่ไม่ชอบขี้หน้านอนลงไปกองกับพื้นวนลูปมาหลอกหลอนจนข้างในอกมันปวดแน่นไปหมดพร้อมกับคำถามที่ว่า ‘ทำไมต้องมาช่วย’
ไม่อาจทนรอความสับสนอีกต่อไป
เด็กหนุ่มที่ไม่เคยสู้คนหรือแม้แต่ออกกำลังกายหนักตัดสินใจหนักแน่นหันหลังกลับไปเพื่อช่วยเหลืออู
จีโฮ
แต่.. คงไม่ทัน
ซึงยุนกลับไปจุดเดิมที่เกิดเหตูแต่กลับไม่เห็นใครซักคนเลยมีเพียงร่องรอยที่เหลือไว้ยิ่งทำให้คนที่ตั้งใจจะมาช่วยใจหายขวัญหนีกระเจิงไปใหญ่
ไม่จริงน่า.. พี่แกจะเป็นอะไรมั้ย
โอ้ยน้องยุนจะร้อง
นี่มันกลายเป็นฟิคดาร์คไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เอา T
__ T
ตุ๊บ
“โอ้ย”
อะไรบางอย่างขนาดใหญ่ล้มมาพิงหลังเขาทำให้ต้องร้องออกมาและเมื่อหันกลับไปดูก็ดันพบกับผู้ชายที่ตัวสูงกว่านิดหน่อยล้มตัวหนักๆลงมาใส่เขาอย่างหมดแรง
“พี่จีโฮ!”
ได้ยินเสียงลมหายใจหอบถี่ซะจนน่ากลัวทำให้คนที่เฝ้าดูอาการเป็นห่วงมากขึ้นกว่าเดิม
ดวงตาตี่เล็กมองอีกฝ่ายในสภาพที่เรียกว่ายับสุดๆพลางใช้สายตาตรวจสอบว่าบาดเจ็บหนักรึเปล่า.. ร่างโปร่งนั้นแทบไม่มีแรงพยุงตัวเองเขาเลยจำต้องหิ้วปีกอีกฝ่ายขึ้นมาถึงอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้ได้ยินเสียงหอบหนักของอีกฝ่ายดังเป็นเท่าตัว
ตอนนี้เลยกลายเป็นภาพที่ดูเหมือนว่าเขากำลังกอดจีโฮไว้อยู่ทั้งๆที่ความจริงจะช่วยพยุงตัวเฉยๆ
“ไปโรง’บาลมั้ยพี่”
“ม..ไม่”
คนเด็กกว่ากัดริมฝีปากอย่างชั่งใจ
หน้าเหน่อนี่ไปหมดละพอเห็นสภาพอีกฝ่ายที่มาช่วยตนแบบนั้นเข้า
ไอ่ตาก็ดันร้อนเหมือนจะมีอะไรหยดลงมา เห็นอีกฝ่ายทำท่าชี้ที่กระเป๋ากางเกงอย่างยากลำบากซึงยุนเลยช่วยล้วงของที่อีกฝ่ายต้องการและก็พบกับ.. ยาพ่น
มองอีกฝ่ายกำลังพ่นยาสำหรับคนเป็นโรคหอบหืดยิ่งทำให้ใจเสีย
เขาไม่รู้มาก่อนว่าคนหน้าเหมือนตรงหน้านี่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง
คนอะไรไม่เจียมตัวเลย!
“กูไม่เป็นไร..กูแค่หายใจ..ไม่ทัน”
เสียงหอบของอีกคนค่อยๆแผ่วลงจนเกือบปกติแต่สำหรับซึงยุนแล้งดูยังไงมันก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดี
ห้อยคนน้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำเป็นจุดๆตามใบหน้าของอีกฝ่าย
ไหนมันแค่ทะเลาะกันเรื่องเหนียวไก่..ต้องต่อยตีกันรุนแรงขนาดนี้นะหรอ?
“โอเครึยัง” ซึงยุนไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงของตนมันแฝงไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยขนาดไหนจนคนพี่ที่ซบลงบนบ่านั่นต้องหันมามองหน้าเขาเล็กน้อย
“ช่วยไปส่งพี่ที่ห้องได้มั้ย”
-.
PINK TO GRAY .-
ซึงยุนเดินมาหยุดอยู่หน้าห้อง
708 ของหอนอกที่อยู่หลังโรงเรียนไม่มากนักโดยที่ยังคงแบกร่างโปร่งหนักๆที่ไม่มีแรงจะพูดกวนเหมือนครั้งก่อนๆ
อดทนมองมือสั่นๆของเจ้าของห้องที่พยายามไขกุญแจไม่ไหวเลยฉวยกุญแจมาช่วยไขแทนก่อนจะเปิดประตูเข้าไปยังห้องของจีโฮที่น่าจะเรียกว่าแกลอรี่หรือหอศิลป์อะไรเทือกนั้นมากกว่า..
โซซัดโซเซแบกอีกคนไปด้านในสุดตามทางที่อีกฝ่ายบอกเพื่อไปหาฟูกนอนสีขาวสะอาดติดกับหน้าต่างบานใหญ่คั่นระหว่างห้องกับริมระเบียงแล้วทิ้งตัวคนเจ้าปัญหาลงเบาๆพร้อมกับพาตัวเองนอนลงข้างๆอย่างหมดแรงด้วยเช่นกัน
“พี่บ้า” บ่นกระท่อนกระแท่นพลางบีบหัวไหล่ของตน
“...”
“ทำไมไปสู้กับมันคนเดียวแบบนั้น”
“ก็ไม่รู้นี่หว่าขามันไปเอง”
“เมื่อก่อนพวกพี่ไปมีเรื่องอะไรกัน” นั่นดิ.. คงไม่ใช่ลักเหนี่ยวไก่ธรรดาแล้วปะ?
“...”
พอมีแต่ความเงียบซึงยุนเลยหันไปมองผู้ชายเจ้าของห้องที่นอนอยู่ข้างๆ
ดวงตาปิดสนิทด้วยความเหนื่อยล้ากับเสียงลมหายใจที่สลับเข้าออกค่อนข้างถี่ทำให้ซึงยุนไม่กล้าคิดจะต่อบทสนทนาต่อไป
เขาหยัดตัวขึ้นนั่งแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าของคนที่ได้ชื่อว่าหน้าเหมือน
จมไปกับความคิดของตัวเองพร้อมๆกับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นในใจ
คนที่พาความซวยมาให้แต่ดันยื่นมือมาช่วยตลอด
เป็นคนที่เหมือนจะนิ่งเฉยไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับความเดือดร้อนของเขาแต่กลับเป็นคนมาช่วยเขาเกือบทุกครั้ง
คนที่ดูเหมือนจะชอบมีเรื่องกับคนอื่นไปทั่วแต่เอาเข้าจริงก็วิ่งหนีตลอด
แต่เวลาโมโหขึ้นมาจริงๆกลับเอาตัว เอาชีวิตเข้าไปแลกอย่างกับว่าไม่กลัวตายซะงั้นน่ะ
สรุปแล้วคนตรงหน้าเขานี่เป็นคนดีหรือไม่ดี?
“พี่เป็นคนยังไงกันแน่วะเนี่ย”
ทำไมผู้ชายคนนี้มีความขัดแย้งในตัวเองสูงจริ้ง
‘กูบอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับเด็กกู’
หัวใจดันกระตุบวูบเมื่อนึกถึงประโยคนั้นก่อนจะซ่อนใบหน้าเห่อร้อนหันไปทางอื่นทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่เห็น
อะไรทำให้ซึงยุนรู้ว่าตัวเองเหมือนนางเอกนิยายมากขนาดนี้.. ผู้ชายสีเทาอะไรแม่งมีหลาย Shades เหลือเกิน
โอ้ย
Connection ไหนที่เรียกว่าความสัมพันธ์?
กับคนที่หน้าตาคล้ายกันที่กำลังค่อยๆเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ความคิดของคนน้องอาจเปลี่ยนไปหลังจากคืนนี้รึเปล่า?
และคืนนี้ซึงยุนควรกลับบ้านหรือ.. แต่คงไม่ต้องหาคำตอบให้มากความแล้วล่ะเมื่อไอ่คนที่นอนหลับตานิ่งดันพูดขึ้นมาเงียบๆว่า
“อยู่ด้วยกันก่อนได้มั้ย”
#ฟิคพี่โค่น้องยูน
ความคิดเห็น