คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : PINKGRAY x 02 | รีไรท์
PINKGRAY
THE GRAY!SH
คิ้วกระตุกรัวเป็นสัญญาณแห่งภัยร้าย
ซึงยุนกำลังไม่พอใจสุดๆเมื่อสายตาทุกคนภายในสาขาของตนมองมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ
และมันจะเป็นอย่างนี้ทุกๆเช้าตั้งแต่เขาเข้ามา
ทุกคนหยุดทุกการกระทำไม่ว่าจะเป็นเช็คเสียงดนตรีของตนหรือเล่นสนุกกับเพื่อนเพื่อหยุดมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว
“ซึงยุน!”
อย่างน้อยในความโชคร้ายเขาก็ยังมีความโชคดีที่มีชื่อว่านัม
แทฮยอนรวมอยู่ในนั้น
อยากจะขอบใจอีกฝ่ายจริงจริ้งที่มาเดินเป็นเพื่อนในเวลาได้เพราะจะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดมากมายเหมือนเมื่อกี้
นัม
แทฮยอนเป็นเพื่อนร่วมห้องคนแรกที่เข้ามาทำความรู้จัก
เป็นคนที่สอบได้ร้อยเต็มในการสอบเข้าซึ่งโคตรสุดยอดสำหรับซึงยุน สกิลเรื่องทฤษฎีดนตรีนี่เรียกได้ว่าเพอร์เฟคถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ค่อยเรื่องการเล่นดนตรีซะเท่าไหร่
“ทำการบ้านภาษาอังกฤษเสร็จรึยัง”
“เสร็จก็แย่ละ” ตอบไปด้วยความไม่สบอารมณ์สุดๆ
วันนี้ตัวเบาหวิวอย่างโคตรน่าตกใจปกติจะชินกับการมีอยู่ของน้องต้าร์ลูกรักที่อาศัยบนหลังตลอด
พอหายไปงี้พี่คังยังทำใจไม่ได้.. คิดถึงน้องต้าร์ง่ะ ._.
มีใครสนใจแต่งฟิคพี่คังxน้องต้าร์มั้ย
“อ่าว
กีต้าร์ไปไหน?” น่าน จุดประเด็นจนได้
ไม่อยากจะเล่าแต่ขอหน่อยเถอะคือมันอยากระบายอารมณ์ มันฟหกด่าสวมาก
“กูอยากจะกรี๊ดเป็นภาษาอาหรับ อ้าก!”
บ่นกับตัวเองพลางยีเส้นผมสีดำของตนจนยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
“ก็ใช้ฟาดไอ่พี่นัมจุนไปน่ะดิ”
“มีเรื่องกับพวกนั้นอีกแล้วหรอ?”
“เอ้อ โคตรเซ็งน่าเศร้า”
นึกขึ้นได้อีกก็เดือดอีกครั้ง
ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งละที่ต้องเจอแบบนี้
ไม่รู้ว่าไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้กับผู้ชายต่างสายเลือดที่หน้าตาเหมือนกันอย่างอู จีโฮ
“แล้วคาบวิชาเอกนายจะทำไง” แทฮยอนถามกับคิ้วตกๆนั่น
จริง.. คาบสามมีเรียนวิชาเฉพาะซึ่งคัง
ซึงยุนคนนี้อยู่เอกกีต้าร์ครับผม ถ้าไม่มีกีต้าร์แล้วจะทำอย่างไรเล่าพี่
“โอ่ย!!!!!!!!!!! ไม่รู้อ่ะ ช่างแม่ม!”
เรื่องมันเศร้า
“เห้ย ซึงยุน!”
เดินไปจนถึงตึกเรียนเด็กดุริยางค์ก็เจอเดอะแก๊งปีหนึ่งกำลังเล่นเตะบอลพลาสติกกันตรงลานหน้าตึก
มีหรือที่น้องยุนคนแมนจะไม่ไปแจมด้วย
ส่วนคุณหนูแทฮยอนก็ปลีกตัวไปนั่งเล่นไอฟุนรออยู่ในโถงใต้ตึกเรียนคอยอยู่เช่นเดิม
ถึงจะเข้ามาได้ไม่ถึงเดือดแต่ซึงยุนก็มีเพื่อนเยอะอยู่พอสมควรซึ่งส่วนมากก็หนีไม่พ้นเด็กดุริยางค์ปี
1 นี่แหละ
เล่นเรียกเหงื่อได้ซักพักก็นึกขึ้นได้ว่าควรโทร.ไปหาพี่รหัสเพื่อขอยืมกีต้าร์
เลยขอตัวออกมาและล้วงกระเป๋ากางเกงควักน้องไอฟุน 78s ขึ้นกดหาเบอร์ของพี่รหัสคนตะล้าก
ตู๊ด
ตู๊ด
“โหล พี่ มีเรื่องให้ช่วยอ่ะ”
ซึงยุนบอกให้เพื่อนคิ้วตกของตนเข้าห้องเรียนไปก่อนส่วนตัวเขาเองจะเดินไปโรงอาหารรวมเพื่อไปเอากีต้าร์กับพี่รหัส
เด็กหนุ่มเดินบนทางเชื่อมระหว่างอาคารเรียนดุริยางค์กับโรงอาหารก่อนจะสาวเท้าลงบันไดอย่างเร่งรีบเพราะอีกไม่กี่นาทีพี่รหัสของเขาก็ต้องเข้าเรียนเหมือนกัน
ไอ่ตัวเขาจะเข้าสายหน่อยคงไม่เป็นไรแค่ไม่อยากให้พี่เขามาเดือดร้อนเพราะน้องรหัสก็แค่นั้น
มาถึงโรงอาหารที่มีคนหลอมแหลมพลางกวาดสายตาหาเป้าหมายและก็สะดุดตาได้เมื่อเห็นใครบางคนถือกีต้าร์
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆซึงยุนเริ่มสงสัยขึ้นมานิดๆว่าใช่พี่รหัสของเขาจริงๆรึเปล่า
เมื่อไอ่คนที่นั่งหันหลังดีดกีต้าร์บนโต๊ะกินข้าวนั้นสวมฮู๊ดเทาที่ดึงขึ้นมาคลุมหัวไว้เหมือนคุ้นๆว่าเคยเจอในการ์ตูนเรื่องสงครามแดนสนธยา
สงสัยคิดว่าตัวเองเป็นคิดะ มาซาโอมิอยู่อะไรประมาณนั้น
“พี่ยูควอน..”
ไม่..
อาจจะคิดไปเองอ่ะ ไหนลองเรียกดิ
“อ่าว มาแล้วหรอน้องยุน~”
ชัด
เลย
ชัดตรงไอ่คนข้างหน้าเขานี่ไม่ใช่คิม
ยูควอนพี่รหัสอย่างที่คาดการณ์ไว้แต่เป็นเพื่อนสนิทต่างสาขาของพี่แกซึ่งมาพร้อมด้วยตำแหน่งคนที่ซึงยุนเกลียดขี้หน้ามากที่สุดในสามโลก
จะว่ายังไงดีล่ะ..งานโปเตโต้ต้องมา ‘บังเอิญ โลกกลม พรมลิควิด’
“ควอนรีบเข้าเรียนอ่ะเลยฝากพี่ไว้” จรื้อ!(จริงหรือ)
แล้วตัวเองนี่ไม่เรียนรึไง โอ่ย
ทำไมต้องมาเจอกับไอ่คนที่ทำให้เขาเดือดร้อนนี่ตั้งแต่เช้าวะ! ลางร้ายสุดๆ
เจอหน้ากันเป็นได้ฟึดฟัดใส่
คนเด็กกว่ามองตาขวางไม่สบอารมณ์นักเลยรีบเอื้อมมือไปคว้าคอกีต้าร์เพื่อจะได้ไปพ้นๆจากคนตรงหน้าแต่ไอ่คนขี้แกล้งก็ยังเป็นคนขี้แกล้งอยู่วันยันค่ำเมื่อจีโฮยิ้มเผล่ไม่ยอมปล่อยมือออกจากกีต้าร์ตัวนั้น
“ปล่อยดิวะ!”
พออีกฝ่ายเห็นเขาขึ้นเสียงก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
โอ้ย! ขัด! ใจ! ทำไมทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะทุกครั้ง
ยื้อยุดกันอยู่นานแต่จีโฮก็เป็นฝ่ายปล่อยเหมือนกับว่ากลัวกีต้าร์ตัวนี้จะเสียหาย
“อย่าเอาไปฟาดใครเล่นล่ะเดี๋ยวควอนเสียใจ”
เออดี
นิสัยดีเนอะ
ละไม่เคยเห็นใจกูเลยใช่ป่ะ
วดฟ!!!!!!
“บอกไว้เลยนะ ถ้าภายในอาทิตย์นี้ผมไม่ได้กีต้าร์ตัวใหม่ของพี่ผมเอาคืนแน่”
“ไอ่ห้อย
อ้วน จมูกโต เหนียงยาน!!”
-.
PING TO GRAY .-
ซึงยุนกระทืบเท้าปึงปังกลับห้องเรียนด้วยความไม่พอใจมากๆยิ่งพอได้ยินเสียงหัวเราะดังของอีกฝ่ายไล่หลังแล้วยิ่งอยากเอากีต้าร์ฟาดหน้าให้รู้แล้วรู้รอดติดที่ว่ามันไม่ใช่ของเขา
แทฮยอนมองเพื่อนที่เดินกลับมาด้วยความงงกับอารมณ์ขึ้นๆลงๆยิ่งกว่าผู้หญิงประจำเดือนมาไม่ปกติ
“โอ้ย” โทรไปฟ้องแม่ดีมั้ย โง่ย
สะบัดหัวแรงและซบหน้าลงบนกีต้าร์ของพี่รหัสตนที่วางบนโต๊ะเรียนจนแก้มบวมๆเป็นรอยสายกีต้าร์ทั้ง
6 สาย มองผ่านๆคงมีคนนึกว่าเป็นลูกแมว
“แทฮยอนเราควรทำไงดีวะ T
v T”
ไม่ได้คาดหวังคำตอบดีๆแต่แค่อยากระบายให้อีกฝ่ายฟังซึ่งแน่นอนว่าแทฮยอนไม่มีคำตอบให้เขาหรอก
เช้านี้ซึงยุนเลยได้แต่นั่งเรียนด้วยความจิตตกกับชีวิตที่เริ่มอยู่ยากขึ้นทุกวัน
พักกลางวันยังไม่วายเจอเรื่องยุ่งๆอีกเพราะซง
มินโฮเด็กปี 2 สาขาทัศนศิลป์ยังคงมาเกาะเขาแจ
เป็นคนน่ารำคาญแต่ก็พึ่งพาได้(แบบหลอกใช้ให้ทำนู้นทำนี่ 555) ซง
มินตุ๊ดเป็นตุ๊ดประเภทไหนก็ไม่รู้ที่ตั้งฉายาให้เขาและแทฮยอนว่าน้องหมวยและทอมแมนตามลำดับ
แถมยังมาเกาะแกะตั้งเขามาเข้าเรียนใหม่ๆสงสัยไม่มีแอนติบอดี้ที่จะต้านทานความหล่อของน้องยุนอยู่
“น้องหมวยจ๋าวันนี้กินอะไร”
“ใครหมวยว่ะ
เดี๋ยวๆ” ซึงยุนเบ้ปากห้อยมองตาขวางไม่สบอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น ไอ่เรื่องตอนที่โทร.ไปแล้วไม่รับสายนี่ยังไม่หายงอนเลยนะไม่ต้องมีเสียงอ่อนเสียงหวาน
“ก็วันนั้นเค้าหลับอ่ะหมวยเลยไม่ได้รับ..”
“ไม่รู้เว้ย ช่างหัวพี่สิ”
“โง้ย เค้าขอโทษแล้วหมวยจ๋าของเค้าเจ็บมั้ยไหนดูสิๆ”
อีกฝ่ายยื่นมือมาจับใบหน้าของเขาพลิกซ้ายพลิกขวาระหว่างทางเดินกลับห้องเรียนโดย position ที่ค่อนข้างจะยากลำบากต่อการคุยระหว่างเขากับมินโฮไปนิดเพราะตรงกลางที่กั้นพวกเขาสองคนไว้อยู่นั่นคือ
นัม แทฮยอน
“บางทีก็ช่วยเห็นหัวกูบ้างไง”
ยังไม่ทันขาดคำนุ้งนัมคนขี้เหวี่ยงก็มองตาขวางใส่พวกเขาทั้งคู่จนมินโฮสะดุ้งแล้วรีบชักมือกลับทันที
เพื่อนสนิทของเขาเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าไปและแน่นอนว่าซง มินตุ๊ดรีบเดินตามแทบจะทันที
ความสัมพันธ์ของเรา
3 คนถ้าให้เขียนเป็นหนังรักสามเศร้าคงประมาณว่ามินโฮชอบเขา เขาเป็นเพื่อนแทฮยอน และแทฮยอนชอบมินโฮแต่มินโฮก็ยังมีใจให้แทฮยอนซึ่งมันเรียกว่ารักสามเศร้านี่ถูกเปล่าเหอะเพราะดูเหมือนจะเป็นแค่เรื่องราวของสองคนนั้นโดยมีซึงยุนเป็นตัวประกอบ
เออ
แต่เอาเถอะนี่มันไม่ใช่หนังรักสามเศร้าอย่างที่ว่าหรอกคงไม่มีทางเป็นอย่างนั้นได้
-.
PINK TO GRAY .-
ด้วยความที่คาบบ่ายเอกของเขาไม่ได้มีสอนต่อซึงยุนเลยว่างทั้งวันถือโอกาสมานั่งเล่นใต้ตึกชิวๆตามประสาคนมีกีต้าร์โปร่งตัวเดียวพลางฮัมเพลงไปตามอารมณ์จนไม่ได้สังเกตว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นมองตามเขาด้วยความหลงใหลสุดๆ
นำโดยสายตาหญิงสาวที่จ้องมองกันปานจะกลืนกินทั้งตัวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่นและชายหนุ่ม(?)ที่อยากได้ยินเพียงเสียงที่บอกรักเพ้อถึงพวกเขาผู้เดียว............ #งานโอ้ยโอ้ยต้องมา
“ซึงยุน” เสียงใสๆนั้นเรียกให้ซึงยุนต้องเงยหน้าขึ้นมามองตามและก็พบกับเด็กสาวหน้าตาน่ารัก
“อ่าวโซฮยอน” เด็กหนุ่มยิ้มให้เพื่อนร่วมห้องของตนเป็นการทักทาย
โซฮยอนเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่บางลุคก็ดูเท่ๆ
แนวๆเข้ากับเครื่องดนตรีเอกที่เธอเลือกเรียน
ใบโปสเตอร์อะไรซักอย่างถูกยื่นจากมือของเด็กสาวซึงยุนเลยได้แต่รับมาอ่านงงๆ
แล้วสาวเจ้าก็ถือโอกาสนั่งลงบนโต๊ะตัวข้างๆ
“เฮ้ย น่าสนใจนิ่”
ในมือของเขาคือโปสเตอร์ประกวดวงดนตรีของโรงเรียนโดยมีเงินจำนวนไม่น้อยและใบประกาศสำหรับผู้ชนะเป็นรางวัล
โซฮยอนพยักหน้าถี่ๆให้เขาอย่างสนอกสนใจเช่นกัน
“เราก็อยากแข่งเหมือนกันแต่ยังไม่มีทีมเลยอ่ะ”
เข้า
ทาง น้อง ยุน สิ ครับ
“มาทำกับเราสิ!”
เด็กหน้าตี๋พูดด้วยสีหน้าและดวงตาที่เป็นประกาย
คิดดูแล้วก็น่าสนใจจริงเพราะโซฮยอนเองก็อยู่เอกเปียโนและคีย์บอร์ด(เครื่องสังเคราะห์เสียง)
ส่วนเขาก็กีต้าร์ล่ะแน่นอน อย่างนี้ต้องชวนนัม แทฮยอนมาเป็นนักร้องด้วย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เอร้ย
ตื่นเต้น
“จริงหรอ! ได้หรอ”
“อื้มๆๆๆ”
นี่คือความฝันตั้งแต่ม.ต้นของน้องยุนละบอกตรงๆ
จากทั้งชีวิตที่เล่นแนวคลาสสิคและแจ๊สมาตลอดเริ่มสนใจแนวร็อค อินดี้-ร็อคขึ้นมาก็ตอนสมัยม.ต้นที่ได้ดูหนังเรื่องนึงที่มีพระเอกเล่นดนตรีได้ห่วยแต่ยังคงไล่ตามความฝันกับเพื่อนๆเป็นแรงบันดานใจนั่นทำให้เขาเริ่มอยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง
ความฝัน
เพื่อนร่วมวง เสียงหัวเราะ และความสนุก
อีกฝั่งหนึ่งของอาคารมีเสียงโหวกเหวกของชายคนหนึ่งเหมือนกำลังตามหาใครบางคนอยู่
ร่างสูงโปร่งนั้นไล่มองหน้านักเรียนชายที่เดินผ่านไปผ่านมาเรียงคนพร้อมกับพูดว่า ‘ไม่ใช่ๆๆ’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนซึงยุนและโซฮยอนละความสนใจจากโปสเตอร์ขึ้นมามองด้วยความสงสัย
พร้อมกับคำถามในใจว่าพี่แกเป็นอะไร..
“เห้ยไม่ใช่ว่ะ!”
“เห้ยปากยังห้อยไม่พอ”
“นี่ก็หน้าบานไม่เท่า!!”
“นี่ก็ไม่ใช่!”
“โว้ย
คัง ซึงยุนนี่มันหายากหาเย็นจริงๆ!!!!!!!!!!!!”
เดี๋ยวนะ
เมื่อกี้เรียกใครนะ
คล้ายๆจะเป็นชื่อของคนหน้าตาดี
เดี๋ยวก่อน.. ถ้าอีกฝ่ายตามหาเขาจริงๆก็แปลว่าไอ่ประโยคพวกนั้นมันเท่ากับหลอกด่าน้องยุนชัดๆ
วดฟ! เชี่ยไรนี่ไอ่ตี๋หน้าเหมือนเด็กส่งน้ำแข็งกล้ามาว่าเขาได้ไง!!!!!!!
มือผมนี่กำคอกีต้าร์แน่นมากเลยครับ
“กูเจอแล้ว!!!!!!”
ไม่นะเว้ย
ซึงยุนยังคงยืนยันว่าคนโรงเรียนนี้มันยิ่งเรียนยิ่งบ้าไม่ว่าจะเป็นมินโฮหรือจีโฮรวมกระทั่งไอ่คนตรงหน้าที่เตรียมเข้าชาร์ตมาที่ร่างของเขา
เด็กหนุ่มเลยรีบกรูหนีทันที
“เชี่ย
ใจเย็นดิพี่”
“มึงคัง
ซึงยุนใช่มั้ย!?”
อ..เออก็ใช่
แต่ไม่ต้องมากอดน้องยุนขนาดนั้นก็ได้มั้ง นี่ช่วยแคร์สายตาชาวบ้านบ้างป่านนี้ถูกสาววายถ่ายรูปลงทวิตเตอร์กับพันทิปแล้วมั้งเพ่
“มึง!”
“...”
“มึงมาตั้งวงกับกู”
“ห๊ะ!?”
“โอเคตกลงใช่มั้ย”
“เดี๋ยว
ผมไปบอกพี่ตอนไหน”
มองตาปริบๆพลางเสหน้าไปขอความช่วยเหลือจากโซฮยอนแต่เธอเองก็ได้แต่ยิ้มแหยๆอย่างช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน
และเมื่อคนตรงหน้าปล่อยซึงยุนจากแขนก็ฉวยโปสเตอร์ในมือของเขาไปกับคำพูดที่โคตรคิดเองเออเอง
“นี่ไงมึงก็สนใจเหมือนกันใช่มั้ยงั้นก็แปลว่ามึงตกลง”
ว๊อท
เด้อะ?
กูไม่อยากมีวงบ้าบอเหมือนในหนังที่กูได้แรงบันดาลใจมาเท่าไหร่หรอกนะ..
“โอเคมั้ยน้องรัก!”
รักกับพ่อพี่ดิ
“ถ้าตอบว่าไม่โอเคอ่ะพี่”
“เออกูลืมบอกกูชื่อ
อี ซึงฮุนอยู่ปี 2 เอกกลองชุด” อีกฝ่ายไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเลยแถมยังทำหูทวนลม
ละนั่นใครถามชื่อพี่กัน คิดไปเองละ *กด6รัวๆ*
“ทีนี้ก็ครบละ
มึงเล่นกีต้าร์ กูเล่นกลอง ส่วนมือเบสอ่ะน้องกูเอง”
ช่วยเอาน้องยุนออกไปจากบ่วงนี้ที
“ส่วนชื่อวงคือ..”
เฮ่ย.. ทำไมพี่เค้าพร้อมแบบนี้วะ
มีนักดนตรีครบแถมยังมีชื่อแล้ว
“The Grayish!”
สีเทา..
โอเคจ้า
โคตรสิ้นคิด แรนดอมสัดๆ
และในวันนั้นวงดนตรีที่มีชื่อว่าสีเทาก็ได้กำเนิดขึ้น ณ โถงใต้ตึกฝึกซ้อมของนักเรียนดุริยางค์โดยมีสักขีพยานร่วมสิบคนเข้าร่วมอย่างไม่ตั้งใจ วงที่เกิดขึ้นงงๆ สมาชิกก็ได้มาแบบงงๆ ชีวิตน้องยุนที่เดินหลงทางมาเจอกับวงดนตรีคนเพี้ยนจะดำเนินต่อไป
อย่างไร
และกีต้าร์ตัวเก่งของเขาจะได้รับความรับผิดชอบหรือไม่ติดตามชมตอนต่อไปนะเหล็กๆ *เอคโค่เหล็กรัวๆ*
#ฟิคพี่โค่น้องยูน
นี่ไม่มีคนอ่านแต่ก็แต่งต่อไป55555555555555
*สลายร่าง*
ความคิดเห็น