คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : 14 เมื่อปรับโฟกัสอะไรๆก็เริ่มชัดเจน
เมื่อปรับโฟกัสอะไรๆก็เริ่มชัดเจน
ซึงยุนวางโทรศัพท์ในมือลงแล้วหันไปหาเจ้าของมันที่ตอนนี้หลับปุ๋ยไปตอนไหนก็ไม่รู้ เงยหน้ามองห้องไปรอบๆเหลือบเห็นผนังที่ถูกเพ้นท์เมื่อเช้านี้ยังไม่เสร็จดีและจากการพูดคุยก่อนที่เจ้าตัวจะหลับเมื่อครู่ทำให้คัง ซึงยุนรู้ว่าพี่แกนอนไม่หลับเลยนั่งเพ้นท์เล่นจนเช้าแบบนี้.. คิดดูคนปกติที่ไหนเขาทำเรื่องแบบนี้
กดปุ่มลดเสียงเพลง Robbers ของ The 1975 หนึ่งในเพลย์ลิสต์โปรดของอีกฝ่ายลงเมื่อเห็นคนที่หลับนิ่งๆ เด็กน้อยนั่งขัดสมาธิมองอีกฝ่ายอย่างเหม่อลอย สำรวจใบหน้าฟกช้ำแล้วอดคิดไม่ได้ว่ามันก็คล้ายๆกับเบ้าหน้าตัวเองอย่างที่คนอื่นเค้าว่าน่ะล่ะ
แต่แรงสั่นและเสียงเพลงที่เปิดค้างไว้นั้นหยุดลงเรียกความสนใจของซึงยุนให้เปลี่ยนไปที่มือถืออีกฝ่ายทันที เอื้อมมือยกมาดูชื่อที่ปรากฏอยู่หน้าจอแล้วได้แต่มุ่นคิ้ว
ก่อนความสงสัยจะมีมากไปกว่านี้ก็ถูกฉวยเอามือถือไปต่อหน้าต่อตาด้วยมือของเจ้าของมันที่ไม่รู้ว่าพี่แกตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่
“ครับพี่” คนที่มาอาศัยห้องเขาอยู่เงี่ยหูฟังด้วยความสงสัยแม้มันจะไม่ได้ยินอะไรมากนักหรอก
น้ำเสียงงัวเงียๆของจีโฮคุยกับปลายสายคล้ายบทสนทนานั้นจะเกี่ยวกับนัดออกไปที่ไหนซักที่ ลูกหมาหยิบไอฟุนตัวเองมาเล่นฆ่าเวลาพร้อมๆกับเอนตัวลงนอนข้างๆอีกครั้ง
“โอเค ไว้เจอกันครับ” เหลือบหางตาสังเกตจีโฮเล็กน้อยก่อนหลุบลงที่จอเหมือนเดิมเมื่อจีโฮมองมาที่เขา
“จะไปไหนอ่ะ” ถามด้วยน้ำเสียงไม่สนใจซึ่งแปรผกผันกับในใจที่อยากรู้สุดๆ
“ทำงานไง” จีโฮตอบแบบง่ายๆก่อนจะลุกขึ้นยืนแอบเห็นอีกฝ่ายเซน้อยๆแถมยังยกมือขึ้นมาลูบหน้าแรงๆบ่งบอกถึงสังขารตอนนี้ ไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้อย่างแรงคนอะไรทำงานหนักจนไม่สบายแถมยังไปมีเรื่องต่อยตี พอกลับมาบ้านก็ไม่ยอมนอนแถมตอนนี้จะออกไปทำงานในวันหยุดของโรงเรียนด้วยสภาพแบบนี้อีก!
น้องยุนชั่งใจเมื่อมีความคิดหนึ่งในหัว ..ไปด้วยดีมั้ย
โคตรไม่อยากพูดออกไปเพราะน้องยุนไม่ใช่เด็กขี้อ่อยอะไร อีกอย่างนั่นมันที่ทำงานของอีกฝ่ายด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นแบบไหนจะเป็นบริษัท หรือร้านอาหาร หรือผับอะไรเทือกนั้นก็ยังไม่รู้เลยจะให้บอกออกไปก็กลัวจะเสียลุคซึนแต่จะให้ปล่อยอีกคนไปทั้งๆร่างกายแบบนี้มันก็ใช่เรื่อง
“ไปด้วยกันมั้ยล่ะ” ซึงยุนรีบพยักหน้ารับทันทีอย่างกับว่าอีกฝ่ายอ่านใจเขาออก
เจ้าของฮู๊ดสีเทาตัวโปรดเดินไปตามทางรางรถไฟที่ถูกปิดการใช้งานเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนโดยมีซึงยุนติดตามอยู่ข้างๆไม่ห่าง
ลูกหมาที่อยู่ไม่สุขแบบเขาปีนไปตามรางรถไฟพยายามทรงตัวให้อยู่ก่อนจะข้ามไปยังอีกรางเรียกให้จีโฮหันมามองด้วยรอยยิ้มและยิ่งเด็กน้อยทำท่าจะควบคุมบาลานซ์ไม่อยู่จนตกลงมาเขาก็ยิ่งยิ้มออกมากว้าง
“ยิ้มไร” หมาน้อยขู่ฟ่อด้วยการแยกเขี้ยวที่มันดูน่ารักซะมากกว่าในความคิดเขา
จีโฮไม่ได้ตอบอะไรและเดินนำหน้าซึงยุนไป ระหว่างทางมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินจับมือกันผ่านพวกเขาไปราวกับทั้งโลกมีเพียงเราสองคนอย่างไงอย่างงั้น หันไปมองหน้าคนที่เด็กกว่ามีสีหน้าแหยๆนั่นทำให้เขาหัวเราะขึ้นจมูกและนึกไปถึงความเชื่อนึงที่เคยได้ฟังจากปากของลุงขายทาโกะยากิข้างทางนี่..ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงเท็จมากแค่ไหน
“เค้าบอกว่าถ้าพาคนที่เราชอบเดินตามรางรถไฟนี้ไปจนสุดทางคุ่นั้นจะได้เป็นแฟนกัน” หันหน้าไปพูดกับไอ่เด็กตี๋แล้วก็ได้เพียงการตอบรับโดยการกระพริบตาพริบๆมา
“เค้าไหนอ่ะ?” นี่ถ้าไอ่เด็กข้างๆเขามันไม่ได้ขี้สงสัยจริงๆก็คงกวนตีนล่ะมั้ง และดูเหมือนซึงยุนะผิดประเด็นไปอีกละ
จีโฮกรอกสายตาไปมาก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินนำหน้าอีกฝ่ายเข้าไปยังทางประตูหลังโรงเรียน “ก็..เค้านั่นแหละ” และตอบอย่างขอไปที
“ละมันไกลแต่ไหน” ซึงยุนยังคงเซ้าซี้
“ทำไม? จะเดินไปกับใคร?”
“ก็แค่อยากรู้” เด็กนั่นตอบพร้อมยักไหล่เรียกรอยยิ้มให้เขาได้อีกครั้ง
“เออ อยากรู้เหมือนกัน..วันหลังเดินไปด้วยกันมั้ยล่ะ”
“พี่จีโฮ!” เสียงเล็กๆที่ได้ยินอยู่ไกลเร่งให้ฝีเท้าของเจ้าของชื่อเดินไปยังเป้าหมายมากยิ่งขึ้น จีโฮทักคนที่เขานัดมาเจอและตามด้วยเสียงแปลกใจของเด็กน้อยที่ติดสอย’ห้อย’ตามมาด้วย
“เห้ย โซฮยอน?”
“อ่าวแกมาได้ไงเนี่ยซึงยุน” โซฮยอนชี้หน้าเพื่อนของเจ้าตัวด้วยสีหน้าแปลกใจแต่ก็ไม่มากนักก่อนที่จีโฮจะเป็นคนบอกคำตอบของคำถามนั้นซะเอง
“หมามันเหงาเลยพาออกมาขี้มาเยี่ยวไง” แล้วตามด้วยการหัวเราะแบบปากกว้างตามจีโฮสไตล์
แล้วก็ต้องจุกเมื่อฝ่ามือหนักๆของไอ่หมาน้อยที่ริอยากแปรพรรค์เป็นหมาป่าตบเข้ากลางหลังจนต้องร้องออุ๊กออกมา จีโฮยิ้มแห้งๆให้คนที่มองเขาตาขวางสลับกับโซฮยอนที่มองตามด้วยความงุนงง
“พี่ไม่ใช่เจ้าของผมซักหน่อย” ดุเหมือนจะผิดประเด็นป่ะไอ่หนู..ยออมรับหรอว่าตัวเองเป็นหมา?
“แล้วอยากมีเปล่าล่ะ? เจ้าของอ่ะ” ยิ้มแกล้งอีกฝ่ายจนซึงยุนหลบสายตาไม่กล้าสู้กับสายตาเจ้าเล่ห์ของเขา โอ้ย มีความสุขจริงๆแกล้งคนไม่มีทางสู้ด้วยวิธีแบบนี้เนี่ย
ก่อนจะได้มากความไปกว่านี้สาวเจ้าคนเดียวในนั้นก็กระแอ่มกระไอออกมาเป็นการตัดบทก่อนจะเดินอ้อมไปหาเพื่อนเจ้าตัวแล้วเกาะแขนซึงยุนแน่น “ดีเหมือนกันเราจะได้มีเพื่อน”
จีโฮพยักหน้าเชิงเห็นด้วยก่อนจะเดินนำออกไปโบกแท็กซี่เพื่อไปยังสถานที่ทำงานของเขาพร้อมๆเด็กน้อยอีกสองคนที่เดินซุบซิบคุยเรื่องอะไรกันซักอย่างซึ่งแน่นอนว่าให้เดาก็คงไม่พ้นเรื่องระหว่างเขากับซึงยุนนั่นแหละ
“มาพี่ถือให้” แล้วก็กลับไปเอากล่องในมือโซฮยอนที่มีซินธิไซเซอร์บรรจุไว้และขึ้นรถไป
รถแท็กซี่จอดหน้าบริษัทค่ายเพลงเล็กๆจีโฮจ่ายค่าโดยสารแล้วลงจากรถตามด้วยสองหน่อที่ตาลุกวาวเหมือนเจอสมบัติวันพีชในตำนาน ที่เล่าขานจากราชาโจรสลัด
“เข้ามาเร็ว” เดินนำเข้าไปในตัวออฟฟิศอย่างง่ายดายแม้จะมีผู้รักษาความปลอดภัยอยู่เพราะเขาเองก็เป็นหนึ่งในพนักงานถึงจะไม่ประจำทีเดียวแต่ก็เข้ามาบ่อยอยู่เหมือนกัน
จีโฮก้าวเท้าขึ้นบันไดแต่ยังเห็นไอ่หมาน้อยของเขามันตาวาวกับอะไรบางสิ่งเลยต้องลงไปดูแล้วก็เห็นว่าเจ้าของสายตานั้นกำลังโฟกัสไปยังวงสุดแนวในยุคนี้ที่กำลังเล่นวินนิ่งกันในห้องเล็กๆตรงข้ามพวกเขา
นั่นทำให้จีโฮหัวเราะออกมาเพราะความตื่นเต้นของซึงยุน จริงๆตอนเข้ามาที่นี่ครั้งแรกเขาก็ค่อนข้างๆเหมือนไอ่เด็กนี่นั่นแหละแต่พออยู่ไปนานๆยิ่งสนิทกับศิลปินพวกนั้นยิ่งลดอาการแบบนั้นและคำว่าศิลปินก็ถูกพัฒนาเป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วงวง(เหล้า)
ลากคออีกฝ่ายให้ละสายตาออกมาจากภาพดั่งกล่าวก่อนจะสะกิดโซฮยอนให้เดินตามมา เขาพาทั้งสองไปยังห้องอัดห้องหนึ่งก่อนน้ำเสียงแปลกใจของทั้งสองจะดังขึ้นอีกครั้ง
“ครูมุนซอบ?” ใช่.. เพราะตอนที่เปิดประตูเข้าไปยังห้องอัดนั้นทั้งสองรวมถึงเขาก็เจอกับคนที่คุ้นเคยดี ฮวัง มุนซอบอาจารย์ประจำวิชาศิลปะของเด็กปี 1 นั่งประจำที่ที่ตำแหน่งของโปรดิวเซอร์
ครูหนุ่มยิ้มซื่อๆมาให้เด็กทั้งสองที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดีและคงรู้ว่าเป็นเด็กในโรงเรียนของเขาแน่นอนจึงยกมือทักทาย “ไหนว่ามือซินธ์คนเดียวไงจีโฮ”
“ผิดตรงไหนล่ะพี่” เขายักไหล่ก่อนจะเด้งตัวนั่งลงบนโซฟาสีดำขนาดเล็ก
“แล้วไอ่นักร้องนำวงเดอะเกรย์มันมาได้ไงล่ะนั่น มาช่วยคอรัสรึไง?” อีกฝ่ายพูดติดตลก จีโฮอบเห็นสีหน้าตื่นเต้นของไอ่หมาน้อยผุดขึ้นมาหลังจากที่ถูกจดจำได้ว่าตนเป็นใคร..แหม่ ไอ่คนดังของโรงเรียน ดังกว่ากูแล้วดิ?
จีโฮไม่ตอบอะไรเลยแกล้งหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคแล้วสไลด์สองสามครั้งแล้วล็อคเก็บลงกระเป๋าเช่นเดิม..เป็นการหลีกเลี่ยงคำตอบที่งี่เง่ามากที่สุดแต่เชื่อเหอะว่าทุกคนเคยใช้ แรงยวบของโซฟาทำให้จีโฮรู้ว่าอีกสองคนได้ลงมานั่งตามแล้ว
“เมื่อคืนสุดยอดจริงๆซึงยุน” มุนซอบหันไปชมซึงยุน เด็กนั่นก็ยิ้มกว้างออกมาและก้มหัวขอบคุณตามลำดับ
“นัดวงไว้กี่โมงอ่ะพี่” มุนซอบก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือแล้วตอบกลับมาทันที “เดี๋ยวก็มาแล้วมั้ง”
“งั้นผมไปละนะ”
“อ้าว?” นั่นเป็นเสียงของสองหน่อที่นั่งเรียบร้อยอยู่ คนนึงคงแปลกใจเพราะอยู่ก็ทิ้งเจ้าตัวไว้ ส่วนอีกคนคงอยากอยู่ที่นี่ต่อ.. จีโฮก็อยากอยู่ดูงานโปรดิวซ์ด้วยแต่เขาอยากทำอย่างอื่นมากกว่า อิ__อิ
“ปะ..ไอ่หมา” ดึงคอเสื้อซึงยุนเป็นการบังคับ
“เดี๋ยวพี่มารับนะโซฮยอน!” แล้วเปิดประตูออกจากห้องไปโดยมีเสียงโวยวายของเด็กน้อยที่ยังอยากอยู่ดูงานและวงดนตรีที่ว่าอยู่
มิชชั่นการจูงลูกหมาออกมาจากสิ่งเย้ายวนใจเป็นอันสำเร็จ จริงๆเขาไม่ได้มีแผนอะไรหรอกก็แค่อยากออกมากับซึงยุนก็แค่นั้นส่วนเรื่องอื่นค่อยเดินไปคิดไปเอาก็ได้
“จะไปไหนอ่ะ” เด็กน้อยขี้สงสัยถามด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดแต่ก็ยังคงเดินตามเขาไปเรื่อยๆ
“อยากไปไหน”
จีโฮมองหน้าอีกฝ่ายที่กรอกตาขึ้นข้างบนแล้วทำท่านึกแล้วอดยิ้มน้อยๆขึ้นมาไม่ได้ ท่าทางก็เหมือนเด็กผู้ชายวัยรุ่นทั่วๆไปแต่ทำไมถึงดึงดูดเขาถึงขนาดนี้ก็ไม่รู้
“แถวนี้มีที่เที่ยวป่ะล่ะ” ซึงยุนหันมาถามเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน
“ห้างเล็กๆแถวนี้อ่ะ”
“งั้นไป”
“ไม่เอาอ่ะกูไม่ชอบ”
“เอ้า?”
เด็กหน้าตาคล้ายตัวเองขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิดนั่นยิ่งทำให้เขาได้ใจที่ได้แกล้งอีกฝ่ายก่อนจะเสนอที่เที่ยวให้อีกฝ่ายได้พิจารณา
“หอศิลป์ใกล้ๆนี่ ไปป่ะ?” ใช่..หอศิลป์ที่เขาชอบเดินไปอ่านหนังสือเงียบๆคนเดียวอยู่บ่อยครั้งที่มาทำงาน ไม่ก็นั่งแต่งเพลงที่นั่นหรือไปเดินดูนิทรรศการที่มาจัดบ้างเป็นบางครั้งบางคราว
พอเห็นสีหน้าตื่นเต้นของอีกฝ่ายเขาเลยตัดสินว่ามันคือคำตกลง แขนยาวๆภายใต้ฮู้ดสีเทาวาดขึ้นโอบรอบคอคัง ซึงยุนแล้วพาไปยังจุดหมาย
สองร่างที่ความสูงไล่เลี่ยกันบวกกับใบหน้าที่ใครได้เห็นก็คงนึกว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝด พวกเขาเดินเข้าไปยังหอศิลป์สีขาวสะอาดดูเป็นทางการ ดูเหมือนเด็กน้อยจะตื่นตาตื่นใจเหลือเกินเมื่อเดินเข้ามาภายในนี้
“พี่เคยมาที่นี่ป่ะ?”
“เคยดิ กูคนโซลโดยกำเนิดนะ” เห็นซึงยุนเบ้ปากมองแรงแล้วโคตรจะขำแต่ก็ต้องรีบตะคุบปากห้อยๆของตนไว้ก่อนเพราะที่นี้มันเงียบซะจนไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงดัง
เขามองซึงยุนเดินไปดูนู้นดูนี่รอบๆเหมือนคุณครูที่คอยดูแลเด็กประถมมาทัศนศึกษาก็ไม่ปาน แอบเห็นเหมือนลูกหมาตัวนั้นหัวตั้งแล้วหางสั่นดิกๆกำลังกวักมือให้เขาเข้าไปหา
“ถ่ายรูปให้หน่อยๆ” จีโฮยิ้มเมื่อร่างนั้นไปหยุดอยู่หน้าผนังที่มีศิลปะแนว Pop Art วาดอยู่เต็มพื้นที่ รับสมาร์ทโฟนจากมือนั้นเพื่อถ่ายรูปให้อีกฝ่าย รอยยิ้มที่ปรากฏบนโฟกัสนั้นทำให้เขายิ้มตาม
นิ้วเรียวกดรัวชัตเตอร์จนเด็กน้อยเปลี่ยนท่าไม่ทันแต่แล้วอีกฝ่ายก็กวักมือเขาไปหาเจ้าตัวอีกและแย่งไอฟุน 78s ไปซะเองก่อนจะโอบรอบคอเขาแล้วยื่นแขนที่ถือโทรศัพท์จนสุดแขน “เซลฟี่กัน~” ไอ่เด็กตี๋พูดด้วยท่าทีร่าเริงแถมยังกระชับโอบรอบคอทำให้แก้มของพวกเขาแนบชิดกัน
แชะ!
ทุกอย่างรวดเร็วจนจีโฮตั้งตัวไม่ทันรู้ตัวอีกทีก็เห็นเด็กนั่นกำลังก้มดูมือถือเพื่อเช็คภาพซะแล้ว
“ผมไม่อยากยอมรับหรอกนะ ให้ตายเห๊อะ” น้ำเสียงเหง้าๆเรียกให้เขาเดินเข้าไปใกล้เพื่อดูสาเหตุที่ทำให้ซึงยุนบ่นอย่างนั้น
ไอฟุน 78s ปรากฏรูปคู่ของเขากับซึงยุนที่ถ่ายไปเมื่อคู่ทำให้เขาเองพิจารณาอย่างตั้งใจกับไอ่คำว่ากล่าวของคนอื่นๆ ผมหน้าม้าที่ปิดหน้าปากลงมานั่นเป็นอย่างแรกที่ทำให้ใบหน้าพวกเขาคลับคล้ายกันต่างก็ตรงที่สีผมเท่านั้น ตาเรียวเล็กนั่นก็ดูเหมือนจะคล้ายกันเมื่อมองมา ไล่มาถึงจมูกสันนั้น และไม่ต้องพูดถึงริมฝีปาก..
จีโฮละสายตาออกมาจากหน้าจอ มือขาวๆทั้งสองข้างล้วงเข้าไปซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อฮู้ดก่อนจะพูดด้วยท่าทีสบายหลังจากดูรูปนั้น
“เค้าว่าคนที่หน้าเหมือนกันจะเป็นเนื้อคู่กันไง”
“เค้าที่ว่านี่ใครวะพี่” เหมือนกับว่าคำถามนี้จากปากซึงยุนจะกลายเป็นประเด็นหลักของวันนี้ไปซะแล้ว
“ก็เค้าไง”
และปิดท้ายด้วยการฉีกยิ้มกวนตีนไปให้คนถาม
พวกเขาเดินขึ้นบันไดวนไปยังชั้นสองก่อนจะเข้าไปดูภาพวาดที่พเอิญมีนิทรรศการจัดอยู่พอดิบพอดี ห้องกระจกแต่ละห้องมีภาพวาดของอีกาในลักษณะต่างๆเต็มไปหมดสมกับชื่อของนิทรรศการครั้งนี้ ซึงยุนคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเรื่องศิลปะแต่กลับถูกดึงดูดให้มองอย่างไม่น่าเชื่อ และเขาผู้ถือครองไอฟุนของน้องยุนเลยกลายเป้นตากล้องประจำตัวอย่างช่วยไม่ได้
พอขึ้นไปในชั้นที่สูงขึ้นคนที่เคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกก็เดินนำลิ่วไปที่ร้านขายเครื่องประดับหนังและมองด้วยแววตาเป็นประกายจนเขาต้องเอ่ยปากถามว่าอยากได้อะไรรึเปล่า
“จะซื้อให้?”
“จะเอาอะไรมั้ยล่ะ” จริงๆเขาตั้งใจจะซื้ออะไรให้เด็กนี่อยู่เหมือนกันเพื่อแสดงความยินดีที่วงของอีกฝ่ายชนะ
เหมือนซึงยุนจะชั่งใจอยู่ซักพักแล้วหันมามองหน้าเขาในที่สุดก่อนจะส่ายหน้าพรืดปฏิเสธซะดื้อๆกับเหตุผลที่แม่งโคตรน่ารักเลยเหอะ!
“พี่ก็ให้อะไรผมมาเยอะละ ช่างมันเถอะ”
สุดท้ายแล้วจีโฮเลยพาซึงยุนไปกินไอศกรีมที่ชั้นบนสุดแทนก่อนจะพากันมาที่ชั้นล่างสุดอีกครั้งเพื่อไปดูห้องสมุดของหอศิลป์ที่รวบรวมหนังสือเกี่ยวกับศิลปะทุกรูปแบบรวมไปถึงดนตรีด้วยเช่นกัน และอีกครั้งที่เขาเห็นหัวตั้งๆกับหางส่ายดิกๆของอีกฝ่าย
ในนี้เงียบมากและเป็นอย่างนี้ตลอดที่เขามา ยกเก้าอี้หนักๆออกมาและนั่งลงเงียบๆ เท้าคางมองเด็กน้อยเดินดูหนังสือตามุมนู้นมุมนี้ด้วยความซน ก่อนจะหยิบสมุดปกสีน้ำตาลเล่มโปรดที่ถือติดตัวไว้ประจำออกมาพร้อมๆกับจรดดินสอลงเมื่อเนื้อเพลงที่ยังขาดไปกลับโผล่ขึ้นมาในหัวดื้อๆเมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อเช้านี้
‘จะเกิดอะไรมั้ย ถ้าใจของฉันอยากขอให้เธอเป็นแดดยามเช้าที่สดใสของฉัน..ทุกวัน’
“เขียนอะไรอ่ะพี่?”
เสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นเบาๆทำให้จีโฮแทบจะฉีกกระดาษหน้านั้นแล้วขย้ำทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด
ผู้ชายก็เขินเป็นะคะ
#ฟิคพี่โค่น้องยูน
มีคำผิดก็ขออภัยนะขรับ ใครไม่อภัยแต่พระอภัยมณี..
เก๊าขอโทษคนับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หายนานหายแรงแต่ไม่ทิ้งนะ ช่วงนี้เหือดแห้งมาก
ขอโค่ยูนทีค่ะคุณโค่และคุณคัง ฮือออออออออออออออ
ไม่ทิ้งแน่นนอนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ฮวัง มุนซอบคือพี่หลุยวงgeeksนะะ ตอนแรกจะเอาพี่บีนเพราะแกวาดรูปเก่ง
แต่แกฮอตเกินไม่เอา ค่าตัวแพง(?)555555555555555555555555555
ผู้ชายก็เขินเป็นะคะ จือดึดจือจือดึดจื้อ
ความคิดเห็น