ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC BLOCK B & WINNER) PINK TO GRAY {COYOON} #REWRITE

    ลำดับตอนที่ #15 : 12 เธอคือความฝันในใจฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 59


    เธอคือความฝันในใจฉัน

     

     

     

     

     

                    ใครมันพรากความเรียบร้อยแล้วเอาความอ่อยมายัดเยียดบอกเขาที รู้ตัวอีกทีก็ไปอยู่ในอ้อมแขนของคนที่ยืนอยู่ให้แล้วได้แต่ฝังหน้าร้อนๆกับพุงอีกฝ่าย น่าอายมาก.. ใครอย่าไปฟ้องแม่เขานะ  อย่าเด็ดขาด! ทำไมถึงเผลอปากพูดออกไปแบบนั้นเขาเองยังไม่รู้ตัวเลยจริงๆ แต่โคตรไม่อยากยอมรับว่ามันเป็นการกระทำที่ทำให้อารมณ์ร้อนรนใจเมื่อครู่จมหายไปในอ้อมกอดอีกฝ่ายโดยที่มีความรู้สึกใหม่เข้ามาแทนที่

                    The only one ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆเช่นเดียวกับร่างทั้งสองที่ยังคงกอดกัน ซึงยุนไม่รู้ว่าถ้าผละตัวอีกฝ่ายออกไปแล้วเขาควรทำหน้ายังไงหรือพูดอะไร

                    แต่เรามีตัวช่วยสำหรับเรื่องนี้เสมอ

     

                    “จีโฮ!” เสียงของชายคนหนึ่งตะโกนไล่หลังคนที่กอดเขาไว้และนั่นเป็นตัวช่วยที่ทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกันและกันได้อย่างอัตโนมัติ ซึงยุนเห็นรุ่นพี่ที่จบไปแล้วโดยมีศักดิ์เป็นอดีตหัวหน้าวงคนเก่าเดินเข้ามาตะปบไหล่จีโฮก่อนที่ทั้งคู่จะกอดทักทายกัน

                    ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยว่าทำไมผู้ชายคนนี้มันถึงรู้จักคนไปทั่ว วงศาคนาญาติช่างเยอะจริงๆ.. ฟังดูเหมือนทั้งคู่จะค่อนข้างสนิทกันพอสมควรเพราะน้ำเสียงและคำพูดที่หยอกกันกับรอยยิ้มของห้อยคนพี่เป็นคำตอบได้อย่างดี สมาชิกในวงของซึงยุนเดินตามมาเห็นภาพนั้นด้วยความไม่แปลกใจอะไรซึ่งผิดกับปีหนึ่งในวงทั้งสองคนเป็นเหลือหลาย

                    “เขาสนิทกันน่ะ” จุนฮเวเดินสะพายเบสเข้ามากระซิบข้างหูเขา..อันนั้นก็พอเดาได้อยู่หรอก

                    ก่อนหน้านี้เขาเจอรุ่นพี่คนนี้มาแล้วและพูดคุยตามภาษารุ่นพี่-รุ่นน้องรวมไปถึงเกี่ยวกับวงด้วย แถมยังโดนทักอีกว่าหน้าเหมือนกับคนที่พี่แกสนิทและตอนนี้มันทำให้เขารู้แล้วแหละว่าคนที่รู้จักที่พี่แกว่านั่นหมายถึงใคร

                    “เดี๋ยวนี้ปล่อยตัวหรอพี่ อ้วนเชีย!” จีโฮพูดด้วยใบหน้าสนุกแกล้ง อีกฝ่ายถึงกับถลึงตาจะยกหมัดมาต่อยอยู่รอมร่อแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากขู่เพราะไอ่คนที่ได้ชื่อว่าเด็กกว่าคัวเองนี่มันน่ากลัวกว่าอายุอยู่หลายเท่า แจฮโยได้แต่เจ็บช้ำด้วยความเต็มใจในข้อนั้น

                    “ว่าก็ว่าเหอะ เอ็งยังไม่โดนไล่ออกหรอวะ?” อัน แจฮโยถามด้วยน้ำเสียงจริงจังเลยดูเหมือนทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปจนน่าสงสัย ซึงยุนยังคงยืนฟังทุกประโยคนั้นถึงแม้จะไม่รู้ว่าหมายความว่ายังไง

                    “ก็เห็นผมยังอยู่ป่ะล่ะ”

                    “กวนตีน คนอุตส่าเป็นห่วง” ถึงแจฮโยจะว่าอย่างนั้นคนถูกว่าก็ยังมีหน้ามาหัวเราะเหมือนเรื่องตลกๆอีก ก่อนที่จะสังเกตเห็นซึงยุน และจ้องใบหน้าซึงยุนสลับกับจีโฮพร้อมพูดประโยคแสนงงประโยคหนึ่งขึ้นมา

                    “ทำไมพระเจ้าช่างโหดร้ายกับโลกใบนี้ซะจริงๆ”

                    “อะไรพี่?” ซึงฮุนที่ยืนฟังอยู่ข้างๆมานานมองอดีตหัวหน้าวงของเขางงๆแต่ก็ยังไม่วายตบมุกให้..

                    “ดูดิ..สร้างคนที่หน้าตาน่าเกลียดเหมือนกันมาตั้งสองคนได้ไง”

     

                    .....

                   

                    จ้า พ่อคนหน้าตาดี พ่อ.ออจังคนเก่ง

     

                    แต่ถึงอย่างนั้นอู จีโฮก็ยังหัวเราะอารมณ์ดีเหมือนกับว่าถูกหยอกล้ออย่างนี้บ่อยๆก่อนจะเปลี่ยนฝั่งมายืนข้างเขาแทน และสัมผัสที่แขนนั้นทำให้เขาต้องก้มลงมอง

                    จีโฮ-กำลัง-กอดแขนเขา!

                    แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะระรื่นผิดกับคนน้องที่มองเหตุการณ์ด้วยความงง.งวย

                    “เฮ้ ซึงยุนนายยอมหรอ? เค้าว่าเราขี้เหร่อ่ะ” จีโฮโหมดอารมณ์ดีเกิ้นถามเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มนั้นมันช่างอยู่ใกล้ใบหน้าซึงยุนซะต้องเอาสายตาไปวางไว้ที่อื่นแทน

                    “หรือไม่จริง?” แจฮโยยังคงยืนยันคำขาดว่า เราพี่น้องดับเบิ้ลห้อยนั้นหน้าตาขี้เหร่.. เรื่องแบบนี้คัง ซึงยุนยอมไม่ได้!!

                    “นายว่าเขาหน้าตาเป็นไง” แรงสะกิดที่ต้นแขนทำให้เขามองตามอีกครั้งและก็พบใบหน้าอารมณ์ดีที่ได้หยอกล้อรุ่นพี่ใหญ่เหมือนเคย พอห้อยพี่ชงมามีหรอห้อยน้องจะไม่ตบมุก..

                    “เขาดูบ้านนอกอ่ะ” 

                    เท่านั้นแหละคนทั้งวงขำก๊ากออกมายกเว้นก็แต่คนที่ถูกกล่าวหานั่นแหละ นั่นนับว่าเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกสามัคคีกับอู จีโฮมากที่สุดในชีวิตแล้ว..เราสองคนหันหน้าแล้วหันเราะใส่กันพร้อมๆกับแปะมืออย่างสะใจ ซึงยุนสังเกตเห็นแจฮโยทำท่าจะสกายคิกส์พวกเขาทั้งคู่แต่เขายังพอจะมีบุญอยู่บ้างเลยได้รับการช่วยเหลือจากคนที่คล้องแขนอยู่ มองตามคนที่หัวเราะจนตาปิดแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้เหมือนกัน

                    กว่าจะสงบศึกกันก็ตอนที่สตาฟเดินมาบอกให้ไปแสตนบายข้างเวที การต่อสู้เมื่อครู่เลยยุติลงพร้อมๆกับความร้อนรนใจที่ค่อยๆละลายหายไป.. ระหว่างที่รออีกวงเล่นเพลงสุดท้ายจุนฮเวยังเล่าให้ฟังอีกว่าแจฮโยสนิทกับจีโฮตอนที่เรียนอยู่แล้ว ชื่อวงนี้ยังเป็นชื่อที่จีโฮช่วยอดีตหัวหน้าวงตั้งอีกด้วย น้องยุนสัมผัสได้ว่ายิ่งอยู่นานไปยิ่งมีแต่ชื่อของผู้ชายคนนี้มาพัวพันกับเรื่องราวของเขา

                    “นี่ซึงยุน..” เสียงกระซิบข้างหูทำให้เขาหันไปเจอกับแจฮโยเลยได้แต่ขมวดคิ้วเชิงถามว่า มีอะไรครับ?

                    “ระวังจีโฮไว้ด้วยล่ะ บางทีเขาก็ชอบผู้ชาย”

                    “ใช่” ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นบุคคลที่สามที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่รี่เข้ามากอดรุ่นพี่ใหญ่จากด้านหลังแล้วฝังริมฝีปากที่ต้นคอนั่นเป็นการกระทำที่ทำให้คนน้องที่ยืนมองอยู่รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาแทนพลางลูบคอตัวเองแล้วสั่นไหล่ด้วยความขนลุกขนพอง.. เรื่องนั้นน่ะระวังคงไม่ทันแล้วมั้งพี่แจฮโย

     

                    “น้องหมา” มีคนเดียวที่ชอบเรียกเขาแบบนั้นถึงบางครั้งจะฟังดูไม่เพราะแบบ ไอ่หมาแต่มีคนเดียวแหละที่มองเขาว่าเป็นลูกหมาเนี่ย! ซึงยุนมองผู้ชายหน้าเหมือนด้วยความสงสัยแต่อีกฝ่ายก็ยังคงเงียบและไม่พูดอะไร

                    มืออุ่นๆเลื่อนมาจับมือเขาเงียบๆท่ามกลางวุ่นวายเหมือนกับว่ากำลังส่งต่อกำลังใจ ซึงยุนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทนั้นและเป็นนาทีที่เขาอยากจะหยุดเวลาไว้ซะจริงๆ แต่สัมผัสเย็นๆบนฝ่ามือทำให้เขาตื่นจากความคิดซะก่อน ซึงยุนก้มลงมองวัตถุนั้นที่อีกฝ่ายให้เขามา

                    สร้อยคอเชือกจี้ไม้รูปกีต้าร์

                    “สู้เค้านะ กูคอยดูอยู่ตรงนี้ตลอดแหละ”

     

                    กำลังใจเพิ่มขึ้น 200% ไอ่พี่ห้อยเหนียงยานมันจะรู้บ้างมั้ยว่าแค่กอดนั้นมันก็มากพอสำหรับสิ่งที่เรียกว่ากำลังใจแล้ว!

     

                    บนเวทีมันแตกต่างมากเมื่อเทียบกับมุมมองของคนที่ยืนอยู่ข้างล่าง ซึงยุนเคยชินกับเวทีแต่ในที่นี้มักจะเป็นที่ที่อยู่แบบอินดอร์มากกว่าเนื่องจากเคยได้ร่วมแข่งกีต้าร์คลาสิคสมัยม.ต้น นี่มันต่างกันมาก..คนเบียดเสียดกันเพื่อให้ได้มายืนข้างหน้า เขาสามารถสัมผัสคนดูได้เพียงแค่เอื้อมมือออกไป

                    หัวใจเต้นเร็วกว่าเดิมยิ่งกว่าตอนลุ้นผลสอบ

                    จัดการกับเครื่องดนตรีของตนด้วยท่าทีร้อนรนจนซึงฮุนต้องตะโกนเรียกขวัญ มือสั่นๆกำไมค์บนขาตั้งไว้แน่นมองคนดูที่ตะโกนหวีดร้องอย่างชั่งใจก่อนสายตาที่หลุบลงย้ายไปโฟกัสกับจี้ไม้ในมือ เขากำมันแน่นแล้วหันไปหาคนที่ให้ของชิ้นนี้มา.. จีโฮยิ้มมาให้เขามันเป็นรอยยิ้มที่หาไม่ได้ง่ายๆจากผู้ชายคนนี้ มือเรียวผูกสร้อยไว้ที่ลูกบิดก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

                    เอาว่ะ!

                    เราเริ่มเล่นดนตรีด้วยเพลงซาวด์เช็คของ The Grayish เสียงกรี๊ดและตบมือของผู้คนอย่างชอบใจเริ่มทำให้ใจชื้นและเผยยิ้มกว้างออกมา ทุกครั้งที่ร้องตะโกนชื่อวงคนฟังก็ตะโกนต่อจากเราซึ่งมันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก.. ตอนนี้ขอสวมวิญญาณพี่ตูนบอดี้สลัมเพื่อเข้าเพลงแปปครับ

                    “ไหนใครในที่นี้พึ่งอกหักมาบ้างครับ” ซึงยุนบิ้วท์คนดูด้วยการยกมือทั้งสองข้างและมันเป็นผลให้คนจำนวนหนึ่งยกมือขึ้นตาม เขายิ้มเผล่ออกมาก่อนจะว่าต่อ

    “ผมเชื่อว่าทุกคนเคยอกหัก..และก็คิดว่าถ้าไม่มีหัวใจมันยังดีซะกว่าเพราะมันจะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวด”

    เสียงซินธ์เป็นเอกลักษณ์ของเพลงในช่วงอินโทรทำให้ทุกคนกรีดร้องออกมาและยกแขนขึ้นโอบคอคนข้างๆเตรียมพร้อมจะโดดอย่ารู้งาน ซึงยุนหมดแล้วทุกความตื่นเต้นมีเพียงแต่ความสนุกเข้ามาแทนที่ ทุกครั้งที่ร้องออกมาคนดูก็ร้องตามไปด้วย.. มันเป็นคอนเสิร์ตที่สุดยอดที่สุดในชีวิตน้องยุนละ!

     

     

    จีโฮยืนค้ำบันไดข้างเวทีด้วยอาการหอบเล็กน้อยเพราะเมื่อกี้เขาเองก็โดดสุดแรงกับแจโฮไม่แพ้คนที่อยู่หน้าเวที เขาล่ะนับถือพลังของไอ่น้องหมาจริงๆไม่รู้ว่ามันเอาแรงมากจากไหนตั้งเยอะแยะทั้งร้อง ทั้งเล่นกีต้าร์โซโล่และริทึ่ม แถมต้องเอนเตอร์เทรนคนดูอีก

    “มึงว่ามีแววป่ะ?” เสียงตะโกนแข่งกับเครื่องเสียงของรุ่นพี่ใหญ่ดังข้างหูเขา จีโฮเองได้แต่มองกลับมาด้วยความงง

    “แววอะไร?” แวว..น้ำมันน่ะหรอ

    “กูว่าเนี่ยสุดยอดตำนานเดอะเกย์” อย่าพึ่งเข้าใจผิดว่าซึงยุนมันเป็นขวัญใจชาวสีลมซอยสี่ไปแล้วแต่ชื่อ เดอะเกย์คือชื่อเล่นที่พวกเขาชอบเอาไว้ล้อกัน ส่วนไอ่เรื่องสุดยอดตำนานที่ว่านี่มันละเอียดยัง #ทำไมพี่โค่ชอบปล่อยมุกแป๊ก

    “ตอนแรกที่กูได้ข่าวจากซึงฮุนว่าได้มือกีต้าร์คนเก่งที่สุดในปีนี้กูก็กลัวว่าแม่มจะเนิร์ด..”

    “แล้วนี่เป็นไง?” จีโฮอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อมีคนมาชื่นชมลูกหมาน้อยของเขาแบบนั้น

    “โคตรใช่!

    เสียงกรี๊ดของสาวๆหน้าเวทีทำให้ทั้งคู่หันไปให้ความสนใจอีกครั้ง จีโฮคิ้วกระตุกรัวๆทันทีที่เห็นไอ่เด็กน้อยมันเดินออกไปเช็คเรตติ้งด้วยการก้มหน้าให้สาวหน้าเวทีเช็ดเหงื่อ

    “เพลงต่อไป เป็นเพลงดังที่ทุกคนน่าจะรู้จักดีครับ” เขาที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลิสต์เพลงของวงและไม่ได้ไปแอบดูตอนซ้อมเริ่มสนอกสนใจ

    “บางทีการแอบรักถ้าเราบอกรักออกไปเนี่ย..มันจะดูไร้ความหมาย” เสียงหวีดร้องของเหล่าผู้คนดังขึ้นราวกับรู้ว่าเพลงต่อไปคือเพลงอะไรและแน่นอนว่าสำหรับคนแต่งอย่างเขาก็คงไม่ลืมเพลงที่ตัวเองแต่งง่ายๆหรอก

    ‘I’m the person you trust, however good that is

    I won’t risk any more than this, because..’

    เริ่มด้วยการขึ้นท่อนฮุคโดยมีเพียงเสียงของนักร้องนำเป็นการกล่อมให้คนดูคล้อยตามและมันได้ผลเมื่อคนข้างล่างร้องเพลงนี้ขึ้นตามแทบจะทันทีที่ซึงยุนร้องพยางค์แรก

    “กูชอบเพลงนี้” จีโฮหันไปหาคนข้างๆลอบยิ้มอยู่คนเดียวเงียบๆ ความสุขของคนทำเพลงคือได้รับคอมเม้นต์จากคนฟังนี่ล่ะ

                    ถึงจะเคยฟังเสียงอีกฝ่ายร้องเพลงที่ตัวเองแต่งก็แล้วแต่ครั้งนี้มันมีความสุขมากกว่าครั้งก่อนๆ.. เขามองนักร้องนำคนนั้นที่อมยิ้มเวลาร้องมันอดให้เขายิ้มตามไปด้วยไม่ได้ ท่อนโซโล่ของเพลงอีกฝ่ายหันมามองเขาน้อยๆนั่นยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงจากเครื่องเสยงที่ดังกระหึ่มนั้นมันแทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว

                    แรงสะกิดที่ต้นแขนของเขาทำให้ต้องหันไปมองต้นเหตุ เด็กผู้ชายหน้าตาซื่อๆคนนึงยื่นกระดาษโน้ตให้เขาก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว จีโฮคลี่กระดาษออกมางงๆพลางกวาดสายตาอ่านไปยังข้อความที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ ทันทีที่อ่านจบเขาแทบจะอยู่ไม่สุข..มองซึงยุนสลับกับกระดาษในมือ ขายาวตัดสินใจก้าวออกจากหลังเวทีและไปยังจุดมุ่งหมายที่บอกไว้ในแผ่นกระดาษนั้น

                    “คิม นัมจุน”

     

                    จีโฮวิ่งออกมาจากงานมาถึงบริเวณหลังตึกสตูดิโอด้วยอาการหอบเล็กน้อยและแน่นอนว่าคนที่นัดเขามาที่นี่ก็นั่งบนเก้าอี้เก่าตัวหนึ่งรายล้อมไปด้วยลูกกระจ่อกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เขาก้าวเท้าไปหาอย่างใจเย็นและอีกฝ่ายก็ยังคงมองด้วยสายตาเย็นชาดั่งเช่นเคย

                    “มาเร็วนี่” อีกฝ่ายว่าหลังจากเป่าลูกโปร่งจากหมากฝรั่งจนพองแตก จีโฮไม่ได้ตอบอะไรกลับนั่นทำให้นัมจุนต้องลุกจากบัลลังก์ราชาที่มีสนมนวดไหล่นวดขาอยู่ข้างๆ(?)

                    จีโฮไม่มีท่าทีหวาดกลัวเหมือนเช่นเคยยังไงซะพวกเขาก็คือคนที่คนเคยกันดีและเคยสนิทกันมาก.. เบี่ยงสายตามองตามหมากฝรั่งที่ถูกถุยออกมาจากปากนัมจุนก่อนจะหันกลับมามองคนตรงหน้าที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เห็นมันพยักหน้าให้สมุนหน้าอ่อนทั้งหลายก่อนที่ทั้งหมดนั้นจะเดินแยกออกไปเหลือไว้เพียงเขาและนัมจุนสองคน

                    “เฮ้อ..ในที่สุดก็ได้กลับมา” นัมจุนสูดอากาศราวกับจะบอกว่าคิดถึ๊งคิดถึงที่แห่งนี้ซะเหลือแหล่

                    “มึงจะทำอะไรซึงยุน”

                    “แหมรีบเข้าประเด็นจังเลย ดูท่าจะถูกใจไอ่ลูกหมานี้มาก”

                    เขาขบกรามแน่นเมื่อเห็นท่าทีไม่ทุกข์ไม่ร้อนของอีกฝ่าย ขยำเศษกระดาษที่อีกฝ่ายส่งมาให้ก่อนจะปาใส่หน้ามัน.. นัมจุนตวัดสายตาเย็นๆแล้วเผล่รอยยิ้มที่น่าหมั่นไส้ตั้งแต่เมื่อก่อนยันปัจจุบันเหมือนเคย

                    “ระหว่างความรักกับอนาคตมึงจะเลือกอะไรวะ?” จู่ๆก็เกิดคำถามขึ้นมาจากนัมจุน จีโฮได้แต่มองนิ่งๆด้วยความไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

                    “ทุนมหาลัยศิลปะที่อังกฤษกับคัง ซึงยุน”

     

     

                    “มึงเลือกเอาว่าจะชดใช้ความผิดหรือให้กูไปลากเด็กนั่นมาเกี่ยวข้อง”

     

                    


     


    #ฟิคพี่โค่น้องยูน
    มีคำผิดก็ขออภัยนะขรับ ใครไม่อภัยแต่พระอภัยมณี..

    ไหนพี่มันบอกว่าจะคอยดูตลอดออกมางี้น้องไม่โกรธหรอ อิ__อิ
    เมื่อไหร่จะเฉลยปมค่ะ *ดิ้น*
    อยากแต่งต่อละคนอ่านช่วยอยากอ่านต่อด้วย #หืม
    555555555555555555555555555

    มีคนบอกอยากรวมเล่ม เขิง ขอเวลาคิด10..ปี 


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×