ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เชียนรื่อหง กลรักวังต้องห้าม

    ลำดับตอนที่ #3 : รับกรรม

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 64


    รุ่งเช้าของอีกวัน…

    สายฝนถูกพัดพาหายไป นกกระจิบต่างบินออกจากรังเพื่อหาอาหารใบไม้ยังคงมีหยดน้ำเกาะพราวเต็มไปหมด

    เชียนรื่อหงพิถีพิถันกับการเเต่งกายวันนี้เต็มที่ อาภรณ์ราคาสูงค่าถูกสวมบนกายเย้ายวน ริมฝีปากบางถูกประทับด้วยชาดสีชมพูอ่อนดูเป็นธรรมชาติ นางปักปิ่นเรียบๆทว่าไข่มุกที่ประดับนั้นราคาย่อมไม่ธรรมดา กล่าวได้ว่าเชียนรื่อหงในวันนี้เเต่งตัวเรียบง่ายเเต่บ่งบอกถึงความร่ำรวยเป็นอย่างยิ่ง

    เชียนรื่อหงยื่นเเขนให้บ่าวรับใช้ช่วยประคอง นางเดินด้วยท่าทางสงบสำรวม 

    "คุณหนูหลินข้าคงเสียมารยาทให้ท่านรอนาน"น้ำเสียงหวานเอ่ยทักผู้มาก่อนในศาลา

    "คุณหนูเชียนสุขภาพร่างกายไม่เเข็งเเรงดี โปรดถนอมร่างกายด้วย"หลินซูฮวากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานไม่เเพ้กัน

    "ขอบใจเจ้าที่เป็นห่วง"เชียนรื่อหงเเย้มยิ้ม ทว่าในใจกลับลอบรังเกียจ 

    หลินซูฮวาลอบมองอาภรณ์เเละเครื่องประดับของเชียนรื่อหง มือบางใต้ร่มผ้ากำหมัดเเน่นจนซีดขาว ความริษยาพาดผ่านเข้ามาในจิตใจ

    "ข้านั้นรอดตายมาได้ก็เสียขวัญมากเหลือเกิน....."

    เชียนรื่อหงเอ่ย นางจ้องลึกเข้าไปนัยน์ตาของศัตรู เเม้สตรีตรงหน้าจักทำให้เจ้าของร่างตกตาย ทว่าตนก็เกือบตายเป็นครั้งที่สองจากหลินซูฮวาเช่นกัน

    "ข้าเเค่อยากถามถึงอาภรณ์ที่ท่านใส่เมื่อวันที่เราเข้าไปหาสมุนไพรด้วยกัน ท่านซื้อจากร้านใดรึ"

    เพล้ง!!

    จอกชาของหลินซูฮวาหลุดมือ ใบหน้าซีดเผือดจากความกลัวที่ถาโถมเข้ามาในจิตใจ 

    "เจ้าพูดเรื่องอันใดคุณหนูเชียน ข้ากับเจ้าไม่เคยเจ้าไปหาสมุนไพรด้วยกันเสียหน่อย"

    "งั้นรึ"เชึยนรื่อหงหลุบตาต่ำ นางย้อนนึกถึงความทรงจำของเจ้าของร่าง 

    .

    .

    .

    "คุณหนูเชียน ท่านจะไปหาสมุนไพรในหุบเขารึ"หลินซูฮวาเอ่ยกับเชียนรื่อหงด้วยความใจดี เป็นครั้งเเรกที่นางเข้ามาทักทายเด็กสาวก่อน เชียนรื่อหงจ้องมองหลินซูฮวาด้วยความเเปลกใจ

    "เจ้าเกลียดข้าไม่ใช่รึ เหตุใดถึงเข้ามาทักข้าก่อนได้เล่า"ในความทรงจำซูฮวาทำท่ามึนตึงใส่รื่อหงมาตลอด ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด 

    “ข้าใคร่คิดดูทุกเมื่อเชื่อวัน…เราควรมอบไมตรีจิตให้กันไม่ใช่รึ การที่เรารังเกียจกันนั้นย่อมไม่เกิดผลดีใดๆเลย”

    “เช่นนั้นรึ”

    เชียนรื่อหงเอ่ยนางสะพายตระกร้าไว้ที่หลังบอบบาง ไม่ได้ปลดระวางความเคลือบเเคลงในใจเเต่อย่างใด

    “ข้า….ข้าขอไปหาสมุนไพรกับเจ้าได้ด้วยหรือไม่”หลินซูฮวาอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยความต้องการในใจของตนออกมา

    “หากเจ้าต้องการก็ตามมา”

    สองดรุณีต่างเดินเข้าไปยังหุบเขาอี้เจียง เชียนรื่อหงเดินหาสมุนไพรยังป่ารอบนอก ด้วยเดือนนี้เป็นเดือนที่มีฝนตกชุกชุมทำให้ผักสมุนไพรมากมายชูช่ออวดโฉมใบสีเขียวขจี

    สายตาของเชียนรื่อหงปะทะเข้ากับดอกจุหวีฮวาดอกสีเรืองรองบานเต็มที่ ทว่านางยังไม่ทันได้เก็บมือบางของสตรีอีกนางหนึ่งก็คว้าเก็บไปอย่างไร้ยางอาย

    “หลินซูฮวา…”เด็กสาวกดเสียงต่ำ รังสีเเห่งความโกธาเเผ่ซ่านออกมา

    หลินซูฮวาเมินท่าทีของเชียนรื่อหงนางเเย้มยิ้มอ่อนหวาน เชียนรื่อหงเเสร้งเจอสมุนไพรอีกสองสามชนิด ทว่ากลับถูกฉวยไปก่อนทุกครั้ง 

    เชียนรื่อหงกำลังย่อตัวลงนั่งเก็บสมุนไพรป่า ทว่าเเรงกระเเทกทำให้นางเซถลาล้มลง สมุนไพรในตระกร้าหกกระจาย เต็มพื้นดินที่มีดินโคลน นางมองหลินซูฮวาด้วยความไม่พอใจ มือบางที่ถลอกกำเเน่นอย่างไม่รู้ตัว

    สองสตรีต่างมุ่งสนใจกับสมุนไพรที่ตนหาเจอ ในป่าปรากฏเเต่ความเงียบไร้เสียงพูดคุยอย่างที่ควรจะเป็น เพราะหลินซูฮวาคงไม่ได้อยากมาเก็บสมุนไพรกับเชียนรื่อหงเเต่อย่างใด 

    “เจ้าจะไปที่ใด”

    เมื่อเห็นทิศทางที่สตรีอีกนางกำลังเดินไปเชียนรื่อหงเอ่ยห้ามเสียงเข้ม หลินซูฮวากำลังรุกล้ำเข้าไปยังป่าชั้นในที่เต็มไปด้วยหุบเหวเเละสัตว์ร้ายรวมถึงสมุนไพรพิษ

    “ข้าเก็บสมุนไพรเเถวนี้จนหมดเเล้ว ตระกร้ายังคงใส่สมุนไพรได้อีกมากควรเข้าไปหาลึกกว่านี้ไม่ใช่รึ”

    “มันอันตราย เจ้าโง่งมมากรึไง”

    “หากไม่เสี่ยงจะได้ของดีรึ เจ้ายังคงขี้ขลาดตาขาวเช่นเดิมเชียนรื่อหง”

    “ข้าไม่ใช่คนขี้ขลาด ข้าเเค่ไม่โง่งมเช่นเจ้าหลิวซูฮวา”สองสตรีวัยปักปิ่นปะทะฝีปากกันอย่างไม่มีใครยอมใคร 

    “เช่นนั้นข้าจะเข้าไป เจ้าก็รออยู่ข้างนอกก็เเล้วกัน”

    “อืม”เชียนรื่อหงขานรับ นางยืนกอดอกมองร่างบอบบางผลุบหายเข้าไปในหุบเขา 

    ครึ่งชั่วยามต่อมา…..

    สรรพสิ่งในหุบเขาเงียบสงัดไร้เสียงเเมลงเสียงนกอย่างที่ควรเป็น เชียนรื่อหงสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ นางตัดสินใจสาวเท้าเข้าไปยังทิศทางที่หลินซูฮวาเดินเข้าไป ด้วยตั้งใจตามซูฮวาออกจากป่า เพราะพายุตั้งเค้าเมฆฝนคลืบคลานเข้ามาให้เห็น

    นางเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆจนเห็นเเผ่นหลังบอบบางของหลินซูฮวา มือบางของเชียนรื่อหงเเตะเข้าที่ไหล่มน หลินซูฮวาสะดุ้งตัวโยน ใบหน้าบิดเบ้ไปด้วยความตกใจ

    “เหตุใดเจ้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ”

    “ออกจากหุบเขากัน พายุฝนใกล้จะมาเเล้ว”

    เชียนรื่อหงเอ่ยเสียงเรียบ ทำให้หลินซูฮวาเเหงนหน้ามองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม เเม้จะเสียดายสมุนไพรที่เรียงรายอยู่มากเพียงใด นางได้เพียงเเค่ปัดดินออกจากชายกระโปรง ลุกเดินนำออกไปอย่างเย่อหยิ่ง

    ทางที่ทั้งสองเดินมาเป็นทางที่พรานป่าทำไว้อยู่เเล้ว ด้วยหุบชั้นในไม่เหมาะที่จะให้สตรีบอบบางไร้การป้องกันรุกร้ำเข้ามา เเต่หลินซูฮวากลับฝ่าฝืนคำเตือน

    ทางที่กว้างเเคบลงมาเรื่อยๆ เชียนรื่อหงเดินอย่างระเเวดระวัง หากเผลอลื่นหล่นลงไปยังหุบเหวด้านล่างสภาพศพคงไม่ดีนัก อยู่ๆหลินซูฮวาก็หยุดเดินเชียนรื่อหงมองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง

    “เจ้าหยุดเดินทำไม”นางกล่าวเสียงเรียบสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ

    หลินซูฮวาหันหน้ามาสบตาเชียนรื่อหง ในสายตาปรากฎเพียงเเต่ความเกลียดชัง เชียนรื่อหงผงะรีบถอยห่างจากอีกฝ่ายด้วยความรวดเร็ว

    “ข้าเกลียดเจ้า นังเเพศยา!"

    หลินซูอวาเเผดเสียงออกมาด้วยความโกรธเคือง ดวงตาเเดงกล่ำ 

    “เหตุใดกัน?”เชียนรื่อหงเอ่ยถามด้วยควมงุนงง

    “ยังไม่รู้ตัวอีกรึ! ไม่ใช่เจ้ารึที่ทอดสะพานให้พี่หมิง พี่หมิงเกือบจะได้หมั้นหมายกับข้าเเล้วเเท้ๆ เเต่เหตุใดถึงปันใจไปหลงใหลเจ้าหากไม่ใช่เจ้าใช้มารยากับใบหน้าน่ารังเกียจนั่นล่อลวงพี่หมิงของข้า”

    หมิงซือบุตรชายสายตรงของเถ้าเเก่โรงเตี้ยมชื่อดังในเมืองอี้ เป็นที่ใฝ่ฝันของหญิงสาวทั่วเมือง ด้วยรูปโฉมที่เหนือบุรุษในเมืองอี้ ร่ำรวยเงินทองมหาศาลทั้งยังเป็นผู้สืบต่อกิจการทั้งหมดต่อจากบิดา

    หลินซูฮวาเอ่ยความอัดอั้นในใจของตนออกมา คนรักของนางปันใจไปให้ผู้หญิงที่นางเกลียดเเสนเกลียด 

    “ข้าไม่ได้ทำ….”

    เชียนรื่อหงส่ายหน้า ทว่าคำพูดกลับเติมเชื้อไฟให้หลินซูฮวาโกรธยิ่งขึ้นไปอีก

    “ไม่ได้ทำรึ? ฮ่าฮ่าฮ่า คิดว่าข้าจะเชื่อหญิงเเพศยาอย่างเจ้ารึ เจ้าใช้มารยาให้พี่หมิงไปหาถึงจวน ล่อลวงให้เขารักเจ้าอย่างหัวปักหัวปำจนทิ้งข้าอย่างไม่ใยดี”

    “เข้าใจผิดเเล้วซูฮวา หมิงซือนั้นเข้าไปคุยเรื่องข้าวที่จะส่งให้โรงเตี้ยมกับพ่อของข้า ข้าพบหน้าหมิงซือเเทบนับนิ้วได้”

    “โกหก!”หลินซูอวาเดินเข้าหารื่อหงด้วยท่าทีคุกคาม เชียนรื่อหงก็ถอยหลังหนีเช่นเดียวกัน

    "หากข้าตบตีเจ้าหลักฐานคงสาวมาถึงตัวข้า "เเววตาของหลินซูฮวามีเเต่ความปองร้ายชัดเจน

    หลินซูฮวาตัดสินใจใช้กิ่งไม้ที่มีหนามที่นางเก็บไว้ในตระกล้ากระหน่ำฟาดเข้าไปที่ร่างกายของศัตรูหัวใจ เชียนรื่อหงได้เเต่เอามือบังความเจ็บปวดเเล่นเข้ามาเป็นขณะ ทำให้ลดความระวังลง

    หลินซูฮวาใช้โอกาสนั้นผลักร่างของของเชียนรื่อหงให้ตกลงไปยังหุบเหวเบื้องล่าง เชียนรื่อหงรับรู้ได้ว่าตัวเองถูกผลัก ร่างของนางตกลงสู่ข้างล่างอย่างรวดเร็วหัวใจของนางเต้นระรัวราวกลองศึก

    'หายใจไม่ออก….'

    นั่นเป็นความรู้สึกสุดท้ายที่เชียนรื่อหงวัย 15 ปีรับรู้ก่อนจะหมดสติไปตลอดกาล

    .

    .

    .

    สตรีตั้งสองต่างนั่งเงียบอยู่ในศาลาเนิ่นนาน ต่างจมอยู่ในความคิดของตนเอง เชียนรื่อหงตัดสินใจเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา

    “บาดเเผลคงไม่สามารถโกหกผู้ใดได้ รอยตีของเจ้ายังคงปรากฏข้าฟ้องร้องไปตั้งเเต่วันที่ข้าฟื้นคืนสติ ข้าจำได้ทุกอย่างว่าเจ้าคิดจะสังหารข้าเช่นไร ข้าจำเเววตาสุดท้ายที่เจ้ามองข้าได้…"เชียนรื่อหงเอิ่ยด้วยความแค้น

    “เจ้าจะไปหาหลักฐานจากที่ใดเล่า "หลินซูฮวาเอ่ยอย่างมีความมั่นใจ

    “ไม่ง่ายเเละไม่ยาก เพราะมีคนเห็นข้ากับเจ้าเข้าไปในหุบเขาอี้เจียง เเต่ตอนออกมากลับมีเจ้าเพียงเเค่คนเดียว หลังจากนั้นมีข่าวคราวว่าข้าหายตัวเข้าไปในหุบเขาเจ้าคิดว่าชาวบ้านคนนั้นจะคิดเห็นเช่นไรเล่า?"

    นับว่าเชียนรื่อหงคนก่อนนั้นฉลาดไม่เบา สนทนากับหลินซูฮวาในที่ๆมีชาวบ้านเดินผ่าน

    "อาจเป็นคนของบิดาเจ้าใส่ร้ายข้าก็ได้ "

    “หึหึ เจ้าจะไม่ยอมรับใช่หรือไม่?”เพียงรื่อหงส่งสัญญาณทหารจากทางการก็จับกุมตัวของหลิวซูฮวาทันที

    “ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า!"

    “หากเจ้ายอมรับโทษคงเบาบางลง เจอกันในศาลหลินซูฮวา"

    ใบหน้าของหลินซูฮวาปรากฏเเต่ความกลัว เชียนรื่อหงบีบคางของอีกฝ่ายด้วยเเรงที่ไม่เบานัก บังคับให้อีกฝ่ายสบตา

    “เจ้าเตรียมตัวเข้าไปนอนในคุกที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน พี่หมิงซือคงจะผิดหวังในตัวเจ้ามาก ผู้ชายทั่วทั้งเมืองอี้คงไม่มีผู้ใดกล้ามาสู่ขอเจ้า เจ้าจะถูกประนามเเละได้รับการกระทำยิ่งกว่าสัตว์จากคนรอบข้าง….”เเววตาของหลินซูฮวาปรากฏเเต่ความหวาดหวั่น

    “ข้าไม่เคยปล่อยใครที่บังอาจทำร้ายข้าให้ตายดี”เชียนรื่อหงเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

    “เชิญเจ้าค่ะ”

    นางเอ่ยกับทหารด้วยรอบยิ้ม นั่งจิบชาที่เย็นชืดด้วยท่าที่เฉยชา เสียงกรีดร้องของหลิวซูฮวาเสียดเเทงหูไม่น้อย

    “ชาเย็นชืดเเล้วเจ้าค่ะ คุณหนู”มือที่รินชาของสาวใช้สั่นเบาๆ เมื่อเห็นความร้ายกาจของเชียนรื่อหง

    “ขอบใจเจ้ามาก เจ้าไปเถอะข้าอยากอยู่คนเดียวสักพัก”เชียนรื่อหงเหม่อมองเหล่าปลาที่เเหวกว่ายภายในสระ 

    สามวันต่อมา….

    การไต่สวนได้เริ่มขึ้น สมาชิกในตระกูลเชียนต่างมากันพร้อมหน้าเพื่อดูความพินาศของใครบางคน หลินซูฮวาอยู่ในชุดนักโทษ ผมเผ้ารุงรังเเววตาปรากฏเเต่ความเลื่อนลอย

    “หลินซูฮวา คุกเข่า!”

    “สตรีเเซ่หลิน นามว่าซูฮวา กระทำการอุกอาจผลักเชียนรื่อหงบุตรสาวนายเกษตรเชียนซีห่าวตกหน้าผา ใช้ไม้ฟาดตีทำร้ายร่างกายกว่า 14 ครั้ง ทำให้คุณหนูเชียนรื่อหงได้รับผลกระทบทั้งร่างกายเเละจิตใจ เจ้าจะยอมรับข้อกล่าวหาหรือไม่”

    “ข้าไม่ได้ทำเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ทำ”หลินซูฮวาส่ายหน้า เจ้าหน้าที่ใตร่สวนส่งสัญญาณให้เบิกตัวพยานได้

    “เบิกตัวพยายานในเหตุการณ์ พยานให้การว่าเชียนรื่อหงกับหลินซูฮวาต่างหายเข้าไปในหุบเขาอี้เจียง ทว่าตอนกลับออกมามีเพียงเเค่หลินซูฮวา ต่อมาจึงได้ข่าวว่าคุณหนูเชียรื่อหงนั้นตกหน้าผาเป็นตายไม่ทราบ”

    “ข้าไม่ได้กระทำสิ่งที่กล่าวหาออกมาทั้งหมด เชียนรื่อหงนางเพียงเเค่อยากหาสมุนไพรเพิ่ม ข้าจึงขอตัวกลับก่อนเพียงเท่านั้นด้วยเวลานั้นฝนใกล้ตกเต็มที”หลินซูฮวาเอ่ยออกมาอย่างไม่ยอมรับ

    “เเล้วสิ่งนี้พอจะทำให้เจ้ายอมรับได้หรือไม่”เชียนรื่อหงเอ่ยเสียงเรียบ ทว่าสิ่งที่นำออกมาทำให้หลินซูฮวาเบิกตาโต

    “ไม่จริง…”

    “เจ้าบอกว่าข้าอยากหาสมุนไพรเพิ่ม เเต่เหตุใดสมุนไพรในตระกร้าของเจ้าจึงพบได้เพียงเเค่หุบเขาชั้นใน ตะกร้าของข้าหล่นหายไปในหุบเหวที่ข้าตกลงไป เเล้วเจ้าจำสิ่งนี้ได้หรือไม่ ไม้ที่เจ้ากระหน่ำทุบตีข้าไม่ยั้ง ”

    เมื่อเชียนรื่อหงนำไม้ที่มีเลือดเเห้งกรังติดอยู่ออกมา เสียงตกใจของชาวบ้านที่รับชมการใตร่สวนดังขึ้นทันที

     

     

    ‘นางใข้ไม้นั่นตีคุณหนูรื่อหงรึ ร้ายกาจเกินไปเเล้ว’

    ‘อั๋ยหย๋า ไม้นั่นมีหนามด้วยเจ้าเห็นรึไม่’

    ‘จริงด้วยๆ รู้หน้าไม่รู้ใจ’

    ‘คุณหนูรื่อหงเข้มเเข็งนัก สามารถมาฟังคำใตร่สวนด้วยตัวเองได้ หากเป็นข้าเเม่เเต่ชายเเขนเสื้อยังไม่อยากชายตาเเล

     

     

    “นางใส่ร้ายข้าเจ้าค่ะ”หลินซูฮวายังคงไม่ยอมรับเมื่อเห็นหมิงซือมีรับชมการใคร่สวนนี้เช่นกัน

    “หากเจ้าไม่ได้ผลักข้าตกหน้าผาจริง ข้าหายไปนานเช่นนั้นเจ้าเป็นคนที่อยู่กับข้าเเท้ๆ เหตุใดตอนท่านพ่อเเละท่านพี่ตามหาข้า เจ้าถึงไม่บอกจุดที่ข้าอยู่ตั้งเเต่เเรก กลับชี้ทางมั่วๆทำให้ข้าเกือบตายมาเเล้ว”

    "จริงขอรับ เส้นทางที่ซูฮวาบอกนั้นไม่ใช่เส้นทางเดียวที่คุณหนูรื่อหง เดินทางเข้าไปเก็บสมุนไพรกับนาง ทว่ากลับอยู่ตรงข้ามจนทำให้ทหารค้นหาล่าช้า"พยานเอ่ยทำให้ฝั่งรื่อหงมีน้ำหนักขึ้นทันที

    “ครอบครัวของเจ้าอาจวางเเผนใส่ร้ายข้าก็ได้”

    “ไม่มีเหตุผลที่ข้าต้องไปรนหาที่ตายเช่นนั้นเจ้าให้เหตุผลได้หรือไม่”หลินซูฮวาเม้มปาก ด้วยไม่มีเหตุผลรองรับ

    “หลินซูฮวา พยายามสังหารเชียนรื่อหงทั้งยังทำร่ายร่างกาย ได้รับโ์ทษดังต่อไปนี้….ปลดไปเป็นทาสเเรงงานที่ชายเเดน ทำงานหนักตลอดชีวิต”

    เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเเละหลินจ้าวกงได้รับรู้คำตัดสินโทษของบุตรสายตัวเองก็หมดสติไปทันที

    “ไม่….ไม่! กรี๊ดดดด"

    เมื่อรับคำตัดสินโทษหลินซูฮวาก็กรีดร้องออกมา ชายเเดนนั้นเต็มไปด้วยนักโทษป่าเถื่อนทั้งยังถูกบังคับให้ทำงานตลอดเวลาเเม้เเต่ยามป่วย หากอืดอาดจะถูกหวายลงลังทันที หากนางต้องไปอยู่ยังที่เเห่งนั้นนางขอตายเสียยังดีกว่า

    .

    .

    .

    ท่ามกลางความเงียบสงัดของคุกใต้ดินเมืองอี้ ร่างของสตรีนางหนึ่งปล่อยตัวลงจากกรงขัง ขาของนางไม่ถึงพื้นนางตะกุยตะกายหาทางรอดเมื่อนึกเสียดายชีวิต ชุดนักโทษถูกทำเป็นผ้าที่คร่าลมหายใจ ร่างนั้นดิ้นทุรนทุรายอยู่พักใหญ่ก่อนจะเเน่นิ่งไป

    เสียงนกในยามเช้าปลุกนักโทษคนอื่นๆให้ลืมตาตื่น สตรีร่วมห้องขังถอยกรูไปชุดมุมห้อง ใบหน้าของนางซีดเซียว ริมฝีปากสั่นจากความหวาดกลัว

    “ชะ ช่วยด้วยมีคนตาย กรี๊ดดดด”

    นางกรีดร้องจนปลุกนักโทษทุกคนรวมถึงผู้คุม ภาพที่ทุกคนเห็นนั้นไม่น่าชมนัก หลินซูฮวาทำการอัตวินิบาตกรรมตนเองด้วยการผูกคอกับกรงขัง ดวงตาของนางเบิกโพลงจากการขาดอากาศหายใจ ไม่เหลือเคล้าสตรีงดงามอันดับสองเเห่งเมืองอี้ ความริษยานำพานางมาสู่จุดจบที่น่าสังเวชในชีวิตด้วยวัยเพียง 15 ปี

     

     

     

     

     


     
     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×