ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <<หนี้แค้นในหัวใจ>>

    ลำดับตอนที่ #18 : ฝึกงาน!?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 103
      0
      3 พ.ค. 48

    ตอนที่ 18 ฝึกงาน!?



        

    การประชุมช่วงเช้าเสร็จสิ้นลงด้วยดี กรรมการทุกคนแสดงท่าทีพึงพอใจว่าที่ผู้บริหารคนใหม่ของบริษัทกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่คุณอนุรักษ์ ที่ปรึกษาอาวุโสที่ก่อนหน้านี้เคยไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับคนรุ่นใหม่อย่างทอฝัน

        

    “ผมคงจะต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ ลูกสาวคุณคนนี้ไม่เหมือนที่ผมคิดเอาไว้เลย ยินดีด้วยนะครับ” และในที่สุด กรรมการที่ไม่ยอมรับใครง่ายๆ ก็ต้องยอมเปลี่ยนแนวความคิดและยินดีต้อนรับที่ทอฝันจะเข้ามาทำงานบริหาร

        

    “ขอบคุณมากครับ คุณอนุรักษ์” ศักดิ์ชัยเอ่ยปากขอบคุณด้วยใจจริง รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ผู้อาวุโสของบริษัทยอมรับในตัวบุตรสาวของเขา

        

    “ผมสิต้องขอบคุณ นี่ถ้าไม่ได้ลูกสาวของคุณผมอาจจะหัวใจวายตายไปตรงนั้นเลยก็ได้ เฮ้อ! คิดแล้วก็ใจหาย เกือบตายอยู่แล้วแท้ๆ” ที่ปรึกษาอาวุโสกล่าวขอบคุณ จริงอย่างที่เขาว่า ถ้าเมื่อครู่ไม่ได้ทอฝันช่วยพาไปโรงพยาบาลขณะที่อาการโรคหัวใจกำเริบแล้ว ตัวเขาเองจะต้องแย่อย่างแน่นอน



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

        

    “ยัยฝันนะยัยฝัน ทำเอาอาเกือบตกใจตาย มาก่อนเวลา 3 นาที เฮ้อ!....” ผู้เป็นอาถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับต่อว่าเมื่ออยู่กันตามลำพัง

        

    “นี่คุณดา หลานสาวเราไปช่วยคุณอนุรักษ์เอาไว้นะไม่ได้ไปเถลไถล”

        

    ตุลยดามองหน้าสามีตาเขียวก่อนจะหันกลับมามองทอฝันด้วยความยินดี “อาขอบคุณมาก ขอบคุณมากๆ เลยนะฝัน.....จริงสิ อายังไม่ได้พาฝันไปที่ห้องทำงานเลย พร้อมยังจ๊ะ ว่าที่ผู้บริหารเสถียรวงศ์คนใหม่” ตุลยดาถามหยอกล้อ ซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นรอยยิ้มจากทอฝัน

        

    ห้องทำงานของทอฝันดูใหญ่โตโออ่าหรูหราไม่ใช่เล่น โต๊ะทำงานส่วนตัวซึ่งมีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ครบถ้วน ชั้นแฟ้มเอกสาร ชุดรับแขก อีกทั้งด้านหลังโต๊ะทำงานยังเป็นเหมือนที่ชมวิวส่วนตัวอีกด้วย ทั้งหมดนี้มันดูไม่ใช่ห้องสำหรับเด็กที่พึ่งเข้ามาฝึกงานอย่างเธอ แต่มันเป็นห้องของผู้บริหารจริงๆ ด้านหน้าห้องก็มีเลขานุการส่วนตัวพร้อมสรรพ หญิงสาวยังพอจำได้บ้างว่าสมัยเด็กๆ เคยมาที่นี่ครั้งสองครั้ง บรรยากาศโดยรวมยังดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

        

    “เป็นไงบ้างจ๊ะ ห้องทำงานของผู้บริหารคนใหม่ ถูกใจหรือเปล่า?”

        

    “ค่ะ สวยมากค่ะ ใหญ่มากด้วย....จะให้ฝันอยู่ห้องนี้จริงๆ หรือคะ?” ทอฝันถามด้วยความแปลกใจ หญิงสาวนึกไม่ถึงเลยว่าสถานที่ที่เธอจะมานั่งทำงานจะดูหรูหราขนาดนี้ เธอสร้างภาพเอาไว้เองว่าคงจะมีแค่โต๊ะทำงานและคอมพิวเตอร์ อยู่แบบกั้นเป็นส่วนตามลักษณะพนักงานออฟฟิศทั่วไป

        

    “ก็ต้องอยู่ห้องนี้น่ะสิจ๊ะ ถามแปลกๆ เอาล่ะ อาจะแนะนำให้รู้จักนะ อิงอร เลขาส่วนตัวของฝัน มีอะไรก็บอกอิงเขาได้เลยนะ....ยังไงก็ช่วยแนะนำงานให้ทอฝันด้วยนะ” อิงอร สาววัย 30 ต้นๆ ใส่แว่น ผมสั้นประบ่า เลขานุการส่วนตัวของทอฝันยิ้มทักทาย

        

    “รบกวนด้วยนะคะ” ทอฝันเอ่ยพร้อมกับยิ้มกลับไปให้เลขานุการของตนเอง

        

    เมื่อรู้จักกันพอเป็นพิธีแล้ว ตุลยดาก็พูดขึ้นถึงเรื่องงาน “เดี๋ยวตอน 10 โมงครึ่งอาจะให้ฝันเริ่มเรียนรู้งานนะจ๊ะ อาพาคนที่เชี่ยวชาญมาสอนฝันเชียวนะ” อาสาวยิ้มอย่างมีเลศนัย

        

    “ขอบคุณค่ะ อาดา แล้วตอนนี้ฝันต้องทำอะไรบ้างคะ?” หญิงสาวถามผู้เป็นอา เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญของตุลยดาจะมาถึง ซึ่งงานของเธอในช่วงนี้ก็คือ ศึกษาเอกสารที่อิงอรนำเข้ามาให้เสียก่อน



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

        

    เสียงโทรศัพท์มือถือของศริมนดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาระหว่างสองพี่น้อง หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของจึงหยิบมันขึ้นรับ **บ้าน** ข้อความนี้ปรากฏขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของศริมน

        

    “มีอะไรคะแม่....”

        

    “อยู่ไหนน่ะออม? แล้วอยู่กับใคร? ทำอะไรอยู่? พี่เราอยู่ด้วยหรือเปล่า??” นันทาเอ่ยถามเป็นชุดยาวเหยียด ทำเอาศริมนฟังแทบไม่ทัน

        

    “หลายคำถามจัง เอาเป็นว่าตอนนี้ออมอยู่ในรถกับพี่วินท์ กำลังจะไปบริษัทของอาศักดิ์ค่ะ แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

        

    “ก็ไม่มีอะไร......สองพี่น้องนี่ดีกันนักนะ จะไปไหนมาไหนไม่บอกไม่กล่าวกันสักคำ แล้วนี่จะไปทำอะไรที่บริษัทคุณศักดิ์ คงไม่ใช่ไปเล่นซนกวนเวลาอาเขานะยัยออม” ผู้เป็นแม่กล่าวเตือนบุตรสาวจอมเฮิ้ยวของตนเองอย่างไม่ไว้ใจปนเอ็นดู

        

    ศริมนทำหน้ามุ่ยก่อนจะตอบ “แม่ขา นี่แม่เป็นแม่ออมนะคะ ไม่ไว้ใจลูกตัวเองบ้างเลย เอาเป็นว่าออมไม่ไปรบกวนอาศักดิ์แน่นอนค่ะ แต่จะไปเพราะเรื่องอะไร...........ความลับค่ะความลับ แม่ขา ออมวางสายก่อนนะ ใกล้จะถึงแล้ว รักแม่ค่ะ บ๊ายบาย” ศริมนเอ่ยอย่างรวดเร็วก่อนจะกดปิดสายไป โดยที่นันทาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่ายศีรษะอย่างเอือมระอา

        

    ทันทีที่วางสายโทรศัพท์ ศริมนก็ถูกพี่ชายทุบศีรษะเบาๆ หญิงสาวหันไปมองวิธวินท์อย่างโกรธๆ “พี่วินท์ มาทำเค้าทำไม เจ็บนะ แรงเยอะเป็นบ้าเลย” ผู้เป็นน้องทำการแก้แค้นโดยการทุบไหล่พี่ชายไป 2 ที แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

        

    “ดีนี่ นวดใช้ได้ เอาข้างขวาด้วย กำลังเมื่อยอยู่พอดีเลย ไม่ยักรู้นะเนี่ยว่าน้องสาวคนนี้จะนวดเก่งเหมือนกัน” วิธวินท์เอ่ยยั่วอารมณ์น้องสาว ซึ่งก็ได้ผลเกินคาด

        

    “หยุดๆ เลยพี่วินท์ ออมไม่เถียงด้วยแล้ว เชอะ พี่ชายอะไรก็ไม่รู้ แกล้งน้องอยู่ได้” ศริมนสะบัดหน้าไปทางอื่นอย่างงอนๆ ท่าทางนี้ของหญิงสาวทำให้วิธวินท์เผลอนึกไปถึงเรื่องราวในสมัยเด็ก ใครคนหนึ่งก็เคยทำท่าแบบนี้ใส่เขาอยู่บ่อยๆ

        

    “พี่วินท์แกล้งเค้า โกรธแล้ว....”

        

    วิธวินท์เผลอยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต “รู้แล้วๆ ขอโทษครับคุณน้องออม พี่ชายคนนี้สำนึกผิดแล้ว เลิกงอนตุ้บป่องเสียทีเถอะนะครับ”

        

    “ไม่รู้ล่ะ ยังไงพี่วินท์ต้องชดใช้ จะขอโทษเฉยๆ ไม่ได้” ศริมนเปลี่ยนสีหน้าเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ รอรับข้อเสนอที่พี่ชายจะยื่นมา

        

    วิธวินท์มองหน้าน้องสาวอย่างรู้ทัน แต่ก็ต้องยอมทำตามเหมือนเช่นทุกครั้ง “เอาไงดี อืม....งั้นก็พี่จะไม่ว่าเรื่องที่เรานอนตื่นสายอีกเป็นไง พอใจหรือยัง” ข้อเสนอที่หนึ่งไม่ผ่าน ศริมนส่ายศีรษะและเมินหน้าไปอีกทาง “ถ้าอย่างนั้น จะเป็นสารถีให้เดือนหนึ่งล่ะ ตกลงไหม” ข้อเสนอที่สองก็ยังไม่ถูกใจสาวน้อยร้อยเล่ห์อยู่ดี “งั้นจะเอาอะไร เสนอมาเองเลยดีกว่า ไม่งั้นเรื่องก็ไม่จบสักที” ดูเหมือนว่าข้อเสนอข้อสุดท้ายจะถูกใจศริมนที่สุด หญิงสาวหันหน้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม

        

    “ข้อเสนอของออมก็คือ พี่วินท์จะต้องเลิกทุบหัวออม เลิกมองออมด้วยไอ้สายตารู้ทันเนี่ย” ศริมนชี้ไปที่ตาของพี่ชาย “แล้วก็จะต้องเข้าข้างออมในทุกๆ เรื่องด้วย โดยเฉพาะเวลาออมมีเรื่องกับยัยพี่ติ๊งต๊องนั่น....โอเค?”

        

    วิธวินท์ส่ายศีรษะอย่างเอือมระอาและชินชา ก่อนจะยอมรับข้อเสนอทั้งหมดที่กล่าวมาอย่างไม่มีเงื่อนไข “ครับผม คุณจิ้งจอกน้อย”

        

    “งั้นก็โอเค ไปเลย Let’s go” ศริมนยิ้มอย่างร่าเริงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำตอบ แต่ก็เหล่ตามองพี่ชายเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำสุดท้าย \"พี่วินท์!!!\"



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&



    เวลา 10.15 น.    

        

    แฟ้มเอกสารมากมายถูกเรียงรายไว้บนโต๊ะทำงานของทอฝัน หญิงสาวค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ โดยมีอิงอรช่วยอธิบาย ผู้เชี่ยวชาญของตุลยดายังมาไม่ถึง ทอฝันยังไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของคนผู้นี้ แต่ดูจากท่าทางของตุลยดาแล้ว คนที่ว่านี้น่าจะเก่งพอสมควรเลยทีเดียว

        

    “พี่อิงคะ คนที่จะเข้ามาสอนงานนี่เป็นใครเหรอคะ?” ทอฝันเอ่ยถามอย่างสงสัย

        

    “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่รู้สึกจะเป็นคนสนิทของท่านประธานนี่แหละค่ะ...ความจริงน่าจะมาถึงแล้วนะคะ งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวแป๊ปนึงนะคะ จะลองไปดูหน้าห้อง เผื่อว่าจะมาถึงแล้วก็ได้”

        

    ...คนสนิทของอาดา....ใครนะ...หรือว่าจะเป็น...

        

    เวลาผ่านไปสองถึงสามนาทีก็มีเสียงเคาะประตู และเปิดประตูตามเข้ามา

        

    “คุณ...” ทอฝันเอ่ยเรียกอย่างแปลกใจเมื่อเห็นผู้ที่เข้ามาใหม่ นอกจากอิงอรแล้วยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่งในเสื้อสีฟ้าคลุมทับด้วยสูทสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ผมค่อนข้างจะยุ่งเหยิง ท่าทางเขาไม่บ่งบอกให้ทราบเลยว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการบริหาร สีหน้าของเขาแสดงความประหม่าอย่างชัดเจน อีกทั้งในมือของเขายังมีถุงพลาสติกซึ่งมีหัวไม้ตะบองโผล่ขึ้นมาเล็กน้อย

        

    อิงอรเห็นสีหน้าแปลกใจของหญิงสาวจึงพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่มั่นใจเท่าไรนัก “เรื่องฝึกงานค่ะ”

        

    ...ไม่ใช่........หรอกเหรอ??...



    “สวัสดีครับคุณผู้หญิง” ผู้ชายตรงหน้ายกมือขึ้นไหว้ทอฝันอย่างหวาดเกรง เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยลักษณะนิ่งตรง อกผายไหล่ผึ่งสมชายชาตรี

        

    ทอฝันมองคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจแต่ก็ยกมือไหว้กลับ แม้ว่าบุคคลตรงหน้าจะดูท่าทางไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหาร แต่คนเราก็ไม่อาจตัดสินคนจากลักษณะภายนอกได้เสมอไป “สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์มา ดิฉัน ทอฝันค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ขอความ…”

        

    ขณะที่หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบ เขาก็รีบแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ผะ...ผะ...ผม สา....สามารถ ครับ ผม.....ผม” น้ำเสียงเขาดูตะกุกตะกักจนพูดไม่ออก ทอฝันต้องบอกให้เขาใจเย็นลงถึงได้คุยกันรู้เรื่อง “ใจเย็นๆ ค่ะ ค่อยๆ พูดนะคะ”

        

    นายสามารถสูดลมหายใจเข้าไปให้เต็มปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ “ผม นายสามารถ วงศ์ชัย มาเรื่องฝึกงาน....อาทิตย์ก่อนมีการฝึกงานแล้วผมไม่ได้มาเลยยังไม่มีชื่อเป็นพนักงานประจำครับ ได้โปรดเถอะครับ วันนั้นผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ รับผมเข้าทำงานเถอะนะครับ จะให้ไปฝึกงานรอบใหม่ก็ได้ครับ แต่ช่วยรับผมเถอะนะครับ ถ้าคุณผู้หญิงคนสวยไม่รับผม ผมต้องแย่แน่ๆ รับผมเถอะครับ นะครับคุณผู้หญิง”

        

    “คุณว่าอะไรนะคะ....คุณมาเพื่อขอฝึกงาน ไม่ใช่มาฝึกงานให้กับฉันเหรอคะ?” ทอฝันพูดอย่างประหลาดใจกว่าเดิมเมื่อได้ยินนายสามารถพูดจบ หมายความว่าอย่างไรกัน คนตรงหน้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่จะมาฝึกงานให้หญิงสาวหรอกหรือ??



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&



    “เรามาเริ่มกันเลยแล้วกันนะ เรามาเข้าใจเรื่องอุตสาหกรรมบริการกันก่อน อุตสาหกรรมการบริหารเป็นธุรกิจประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยธุรกิจการท่องเที่ยวนับเป็นอุตสาหกรรมบริการที่สำคัญอีกธุรกิจหนึ่ง เนื่องจากธุรกิจนี้ทำรายได้ให้ประเทศได้มากและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลองดูตั้งแต่ปี 2530 ปี 2538 และปี 2544” ชายหนุ่มยื่นแฟ้มข้อมูลให้ทอฝันดูตัวเลขสถิติของทั้งสามปี “รายได้ของประเทศจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจท่องเที่ยวนี้แบ่งย่อยได้อีกมาก หนึ่งในนั้นก็คือธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำรายได้มากที่สุดรองจากธุรกิจการค้าของที่ระลึก” วิธวินท์หยุดอธิบายสักครู่เพื่อให้ทอฝันได้ทำความเข้าใจ

        

    “ที่พี่อธิบายไปมีอะไรสงสัยหรือเปล่า? ถ้ามีก็ถามมาเลยนะ อย่าเก็บเอาไว้ เดี๋ยวเข้าเรื่องลึกกว่านี้จะได้ไม่สับสน” ชายหนุ่มดูเป็นการเป็นงานมาก สีหน้าแสดงออกถึงความเคร่งขรึมและจริงจัง

        

    “ไม่มีค่ะ เข้าเรื่องต่อไปได้เลย” หญิงสาวตอบด้วยใบหน้ามุ่งมั่น

        

    “งั้นมาต่อกันเรื่องสถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมในปัจจุบัน เห็นอาศักดิ์บอกว่าให้คนเอาเอกสารมาให้ฝันศึกษาไปบ้างแล้ว อ่านบ้างหรือยัง? แล้วมีข้อสงสัยไหม?” ทอฝันหยิบแฟ้มเรื่องสถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมขึ้นมาเปิดดู หญิงสาวลองอ่านทำความเข้าใจไปบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่ละเอียดพอ

        

    “ลองอ่านไปบ้างแล้ว แต่ไม่ได้เจาะลงรายละเอียดค่ะ”

        

    วิธวินท์หยิบแฟ้มเอกสารของทอฝันขึ้นมาอ่านอย่างคร่าวๆ ใช้ปากกาสะท้อนแสงขีดเน้นข้อความที่สำคัญก่อนจะส่งมันคืนให้กับเจ้าของ “อืม...ตอนนี้ลองศึกษาแค่หลักๆ ก่อนก็พอ เดี๋ยวฝันลองอ่านทำความเข้าใจตรงที่พี่เน้นเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน” ชายหนุ่มชี้ไปที่ข้อความที่ถูกเน้นเอาไว้เหล่านั้น

        

    “ค่ะ...” หญิงสาวรับมันไปอ่านอย่างตั้งใจ

        

    ท่ามกลางบรรยากาศที่ค่อนข้างจะเคร่งเครียดกับการเรียนรู้งานของทอฝัน ยังมีสาวน้อยจอมเฮิ้ยวนั่งรวมอยู่ด้วยอีกคน ศริมนนั่งอยู่ที่โซฟารับแขกกับอิงอร สองสาวต่างวัยมองที่คนทั้งคู่อย่างชื่นชมและเงียบกริบ แต่ก็มีแอบคุยกันบ้างเหมือนกัน

        

    “แล้วเรื่องนายสมาร์ทนั่นไปถึงไหนแล้วคะพี่อิง” หญิงสาวเอ่ยถามถึงนายสามารถ ผู้ถูกเข้าใจว่าเป็นคนฝึกงานให้กับว่าที่ผู้บริหารทอฝัน

        

    “นายสมาร์ท?....อ๋อ นายสามารถเหรอคะ? ก็เรียบร้อยค่ะ คุณทอฝันก็ช่วยฝากเรื่องไปที่ฝ่ายทะเบียนให้ คาดว่าจะมาทำงานในอีกวันสองวัน ถ้าคุณออมเห็นท่าทางนะคะ....ดีใจจนลุกลี้ลุกลนไปหมดเลยค่ะ....แหม ว่าแต่นายนั่นก็พิลึกคน อุตส่าห์แต่งตัวใส่สูทเพื่อมาพบผู้บริหารโดยเฉพาะ” อิงอรกล่าวถึงท่าทางดีใจสุดชีวิตของนายสามารถ วงศ์ชัยหรือนายสมาร์ทของศริมน ภายหลังจากการผ่านเรื่องเข้าใจผิดนั้น

        

    “คิดแล้วก็ขำเหมือนกันนะคะที่อยู่ๆ นายสมาร์ทเกือบจะกลายมาเป็นคนฝึกงานให้พี่ทอฝัน เพราะคำว่าฝึกงานแท้ๆ เลย” ศริมนหัวเราะเบาๆ เพราะคำว่าฝึกเดียวคำเดียวกลับทำให้เรื่องราวตาลปัตรขนาดนี้ไปได้



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&



    ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาบริเวณสุสานซึ่งอยู่ภายในวัดแห่งหนึ่งบริเวณชานเมือง เขามาหยุดอยู่ตรงหน้าสุสานของภรรยาที่จากไปนานหลายปีแล้ว...ใบหน้าเรียวได้ส่วน ผิวขาวนวล ผมยาวสลวย รอยยิ้มจางๆ และแววตาที่ปนเศร้าเล็กน้อย...รูปของหญิงสาวผู้นี้กำลังมองมาทางเขา ศักดิ์ชัยมองที่รูปธราธารพร้อมกับรอยยิ้ม

        

    “ธรา...ทอฝันยอมมาที่บริษัท ผมดีใจมากเหลือเกิน คุณดีใจหรือเปล่า? ผู้บริหารทุกคนมีท่าทางว่าพอใจลูกของเรา ตอนแรกผมไม่คิดเลยว่าฝันจะมา...แต่ฝันก็มาและทำได้ดีด้วย...คงเป็นธราที่ช่วยดลใจฝัน...............ถ้าธรายังอยู่ก็ดีสินะ ถ้าคุณยังอยู่ก็ดี” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองช่อดอกไม้ในมือ

        

    ...ดอกลิลลี่ที่ธราธารชอบ... ศักดิ์ชัยจำได้ดีว่าในบรรดาดอกไม้ทั้งหมด ธราธารชอบดอกที่มีสีขาวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะดอกลิลลี่ ศักดิ์ชัยจะซื้อดอกลิลลี่มาให้ภรรยาทุกครั้งที่มาที่นี่ แต่เมื่อเขาก้มตัวลงวางดอกไม้พร้อมกับวางช่อดอกไม้ในมือลงที่ฐานของสุสาน เขาก็ต้องพบว่ามีช่อดอกลิลลี่ช่อใหญ่วางไว้อยู่ก่อนแล้ว

        

    ในตอนแรกเขาคิดว่าคงเป็นของคนรู้จักสักคนหนึ่ง แต่คนที่รู้ว่าธราธารชอบดอกลิลลี่นั้นมีไม่มาก ที่สำคัญ ดอกลิลลี่นั้นยังดูสวยสดงดงามราวกับว่าเพิ่งมีคนมาที่นี่ก่อนหน้าเขาได้ไม่นาน หรืออย่างมากก็ต้องภายในวันเดียวกัน แล้วบุคคลปริศนาคนนี้จะเป็นใครกันแน่...

        

    “หนูๆ” ศักดิ์ชัยเรียกเด็กผู้ชายซึ่งเดินอยู่แถวนั้นเข้ามาถาม เด็กคนนี้น่าจะเป็นเด็กวัด อาจจะเห็นคนที่นำช่อดอกไม้นี้มาก็เป็นได้ “วันนี้มีใครมาที่นี่บ้างหรือเปล่า”

        

    “ก็มีครับ หลายคนเหมือนกัน” เด็กวัดผู้นั้นตอบด้วยความแปลกใจ

        

    “แล้วมีใครถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่ๆ แบบนี้บ้างไหม?” ศักดิ์ชัยชี้ไปที่ช่อดอกลิลลี่ช่อใหญ่นั้น เด็กชายมองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะทำหน้าว่านึกออก “อ๋อ!...พี่สาวคนสวยๆ ที่ใจดีนั้นเหรอครับ?”

        

    “สวยแล้วก็ใจดีเหรอ?” ศักดิ์ชัยคิดอย่างพิจารณาถึงคำบอกเล่าของเด็กชายพลางคิดถึงคนๆ หนึ่งขึ้นมาในใจ

        

    “ครับ แต่ผมไม่รู้หรอกว่าพี่เขาเอาไปให้ใคร เห็นแต่ว่าเดินเข้ามาที่นี่ตั้งแต่เช้า พอออกมาพี่เขาก็ให้ขนมพวกผมไว้แบ่งกันกินแล้วก็ไป”



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&



    เมื่อผ่านมาถึงเวลาตกเย็น วิธวินท์ซึ่งสังเกตเห็นว่าทอฝันดูจะเหนื่อยจึงตัดสินใจหยุดการเรียนรู้ไว้เพียงเท่านี้ก่อน “วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ไว้พรุ่งนี้ค่อยต่อเรื่องใหม่...พี่อยากให้ฝันลองทบทวนเรื่องที่เพิ่งจบไปแล้วก็อ่านเรื่องใหม่รอไว้ด้วยเลย แต่ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องนะ” ท้ายประโยค แสดงความห่วงใยต่อทอฝัน

        

    “พี่วินท์ ทำไมต้องเครียดอย่างนั้นด้วยล่ะ....พี่ทอฝันอย่าไปพี่ชายออมเลยนะคะ ดูสิ เครียดจนหน้าแก่ก่อนวัยแล้ว” ศริมนชี้ไปที่ใบหน้าของพี่ชายอย่างหยอกเย้า “ออมว่าเรากลับกันเถอะค่ะจะได้พักผ่อน พี่วินท์น่ะโหด ทารุณพี่ทอฝันมาทั้งวัน ออมเห็นแล้วยังเหนื่อยแทนเลย”

        

    ทอฝันยิ้มกับคำพูดของหญิงสาวผู้อ่อนวัยกว่า แต่เธอก็รู้สึกสะดุดกับคำๆ หนึ่ง “เรา?” หญิงสาวมองที่ศริมนอย่างแปลกใจ “เรา....เหรอคะ?”

        

        



    “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง....” ทอฝันกล่าวขอบคุณวิธวินท์ ผลสุดท้าย เธอก็ต้องนั่งรถกลับมากับวิธวินท์และศริมนจนได้ “จะเข้าไปก่อนไหมคะ?” หญิงสาวถามก่อนที่จะเปิดประตูรถออกไป

        

    “ออมไม่เข้าค่ะ แต่พี่วินท์จะเข้าไป เห็นบอกว่ามีเรื่องงานที่จะต้องอธิบายให้พี่ทอฝันเพิ่มเติมอีก ไม่ต้องรีบก็ได้นะคะ ออมรอได้” จิ้งจอกน้อยร้อยเล่ห์ส่งซิกให้พี่ชายเออออตามตนเอง ศริมนกำลังพยายามสร้างสถานการณ์บางอย่าง

        

    “เชิญค่ะ น้องออมไม่เข้าเหรอคะ รอข้างในน่าจะสบายกว่านะคะ” ทอฝันเอ่ยชวน แต่ศริมนปฏิเสธด้วยมีแผนการในใจ “ไม่ดีกว่าค่ะ” หญิงสาวรอจนพี่ชายและทอฝันเข้าไปภายในบ้านแล้วจึงทำท่าดีใจ “เย้ สำเร็จ”

        

    วิธวินท์เดินตามทอฝันเข้ามาภายในบ้าน บ้านเสถียรวงศ์ในเวลานี้ดูเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอาศัยอยู่ ทอฝันพาเขามาที่ห้องนั่งเล่นแล้วจึงเริ่มต้นบทสนทนา “เรื่องงานมีอะไรอีกเหรอคะ?” หญิงสาวถามอย่างเป็นการเป็นงาน

        

    “ก็ไม่มีอะไร พี่แค่จะบอกว่าอย่าเครียดกับมันให้มากก็เท่านั้น” ท่าทางของชายหนุ่มดูไม่เป็นปกติเท่าไรนัก “ถ้าเราทุ่มเทใจทำกับสิ่งนั้นจริงๆ พยายามเต็มที่ ก็ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเราหรอก” วิธวินท์เอ่ยปากให้กำลังใจ แต่ข้อความของเขากลับทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นแทน

        

    “ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันทำอะไรฉันก็จะตั้งใจทำเสมอ เรื่องนี้แม่ย้ำกับฉันมาตลอด” สีหน้าของหญิงสาวเริ่มเย็นชาขึ้นมาทันทีเมื่อชายหนุ่มพูดเหมือนกับจะว่าเธอ “ถึงฉันจะไม่อยากทำงานนี้ แต่ในเมื่อฉันต้องทำ ฉันก็จะทำมันด้วยใจ คุณไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะทำไม่ได้” ทอฝันเข้าใจความหมายของคำพูดของชายหนุ่มผิดไปเสียแล้ว วิธวินท์เองก็เริ่มจะถอดใจขึ้นมาเมื่อเห็นว่าไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรก็ไม่เคยทำให้ทอฝันเข้าใจได้ถูกทางเสียที

        

    “พี่ไม่รู้ว่าคำพูดคำไหนทำให้ฝันคิดแบบนั้น แต่ถ้ามันทำให้ฝันรู้สึกไม่ดีล่ะก็....พี่ขอโทษ ถ้าจะโกรธก็โกรธเถอะนะ”

        

    “ฉัน...” หญิงสาวนิ่งไป เริ่มเกิดความรู้สึกว่าตนเองน่าจะเป็นฝ่ายผิดมากกว่า

        

    “วันนี้คงเหนื่อยมากสินะ รีบไปพักผ่อนเถอะ พี่จะกลับแล้ว ไม่ต้องรอส่งหรอก” ทอฝันพยักหน้ารับคำแล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

        

    “ทอฝัน...” ชายหนุ่มเรียกเธอเบาๆ ผู้ถูกเรียกหันหน้ากลับมาอย่างช้าๆ

        

    “คะ?...” ทอฝันตอบรับแต่ไม่กล้าที่จะสบสายตากับชายหนุ่มตรงหน้าโดยตรง หญิงสาวรู้ว่าเมื่อครู่เธอพลาดไป เธอกำลังทำให้คนที่ดีกับตนเองเสียใจ แต่ทอฝันก็ยังไม่กล้าพอที่จะเอ่ยปากขอโทษเขา

        

    “...............เปล่า ไม่มีอะไร พี่ไปล่ะ” คำบางคำที่เขาอยากพูดให้ทอฝันได้รับรู้ แต่เมื่อเห็นสายตาหลบเลี่ยงของเธอเขาจึงเปลี่ยนใจ หญิงสาวตรงหน้าคงไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีก เพราะฉะนั้น เขาควรที่จะไปจากตรงนี้

        

    ...พี่ดีใจมากที่ฝันมานะแล้วก็ดีใจที่ได้สอนฝัน...



    “ขอโทษ...ฝันขอโทษค่ะพี่วินท์” หญิงสาวรำพึงขึ้นเบาๆ แต่คนที่เธออยากพูดคำนี้ด้วยก็ไม่อยู่เสียแล้ว ทอฝันจึงได้แต่มองตามไปจนลับสายตา



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

        

    สายลมอ่อนๆ พัดโชยเข้ามาภายในห้องนอน หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้องเดินเข้าไปด้วยท่าทางอ่อนแรง เธอเปิดไฟและปิดหน้าต่างให้เรียบร้อย จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอน หญิงสาวถอดเสื้อคลุมสีดำออกเหลือไว้แต่เสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อนมีปกเพื่อคลายความร้อน มือของเธอเอื้อมไปหยิบรูปของมารดาที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนขึ้นมาอีกครั้งพลางยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน

        

    “แม่คะ วันนี้ฝันไปที่นั่นแล้วค่ะ ตกลงว่าฝันควรไปใช่ไหมคะ? ฝันไม่รู้หรอกว่าฝันคิดถูกหรือเปล่า แต่ฝันคิดว่าแม่น่าจะอยากให้ฝันทำแบบนี้” หญิงสาวย้อนนึกไปถึงคำพูดของคนผู้หนึ่ง “ขอบคุณค่ะแม่ที่ให้กำลังใจฝัน ว่างๆ ฝันจะไปหาแม่อีกนะคะ แม่ชอบดอกลิลลี่ใช่ไหมคะ? ดอกลิลลี่หมายถึงความบริสุทธิ์ มันเหมือนกับแม่ เหมือนจิตใจที่บริสุทธิ์ของแม่...หวังว่าแม่จะชอบดอกลิลลี่ของฝันนะคะ...”



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

    เอื้อเฟื้อข้อมูลเรื่องธุรกิจโรงแรมจาก http://www.thaifta.com/ascn_serth.doc ค่ะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×