ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <<หนี้แค้นในหัวใจ>>

    ลำดับตอนที่ #14 : มือที่สาม (IV)

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 48


    ตอนที่ 14 มือที่สาม (IV)



        

    นับตั้งแต่วันที่บุษราคัมพยายามฆ่าตัวตายนั้น ธราธารก็เอาแต่ครุ่นคิดอย่างหนักถึงเรื่องนี้ นึกถึงวิธีการที่บุษราคัมบอกกับเธอ ความลับที่จะบอกใครไม่ได้ทั้งนั้น ทางข้างหน้าของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในครั้งนี้

        

        



    “หนูบุษไม่อยู่เหรอน้อม” รัตนาถามขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อไม่เห็นบุษราคัมที่โต๊ะอาหารเช้า

        

    “ออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะ ฝากบอกคุณว่าไม่ต้องรอ เดี๋ยวสายๆ จะกลับมาค่ะ” ป้าน้อมรายงานตามที่รับรู้ วันนี้บุษราคัมแปลกกว่าทุกวัน ปกติ หญิงสาวไม่เคยออกไปธุระที่ไหนเช้าแบบนี้ วันนี้จึงดูผิดสังเกตไป





    บริเวณร้านขายยาแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า

        

    “มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” พนักงานขายถามขึ้นเมื่อเห็นลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาใหม่กำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่

        

    “มียานอนหลับหรือเปล่า?” หญิงสาวผู้เป็นลูกค้าถามขึ้น

        

    “มีค่ะ จะรับตัวยาไหนดีคะ?”

        

    “เอาที่แรงที่สุดมาแล้วกัน”

        

    “จะดีหรือคะ? ถ้าแรงเกินไปจะอันตรายนะคะ ให้คุณหมอจ่ายยาให้ไม่ดีกว่าหรือคะ มันจะปลอดภัยกว่ากันมากนะคะ” พนักงานสาวเตือนด้วยความหวังดี แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างห้วนๆ จากหญิงสาวผู้เป็นลูกค้า

        

    “ฉันเป็นลูกค้านะ ฉันต้องการอะไร เธอก็ไปเอามาสิ ฉันจะเป็นยังไงก็เรื่องของฉัน เธอไม่เกี่ยว รีบๆ ไปเอามาตามที่ฉันสั่งก็พอ”

        

    “แต่ว่า....”

        

    “ไม่มีแต่ ฉันเป็นลูกค้า ก่อนมาเป็นพนักงาน ไม่มีใครสั่งสอนมาบ้างหรือไงหะ? รู้ฐานะตัวเองแล้วก็รีบๆ เอามาให้ฉันเร็วๆ ด้วย” เธอออกคำสั่งอย่างผู้มีอำนาจ กิริยาที่เรียกได้ว่าไร้มารยาทของเธอทำให้พนักงานขายเหนื่อยหน่ายใจ จนยอมหยิบยานอนหลับชนิดที่แรงที่สุดมาให้เธอจนได้

        

    “คุณจะเอาเท่าไรคะ?” พนักงานถามขึ้นเมื่อได้ตัวยาที่ต้องการแล้ว

        

    “ทั้งกล่องนั่นแหละ...” หญิงสาวตอบ แต่พนักงานก็ยังดึงดื้อไม่ยอมให้เธอ “จะต้องให้ฉันพูดมากหรือไงหะ ทั้งกล่องที่เธอถือนั่นแหละ...เป็นพนักงานอะไร ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย” ผู้เป็นลูกค้าคว้ากล่องยานั้นจากในมือของพนักงานขายแล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ด้วยตนเอง

        

    “ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ” พนักงานกล่าวกับเธอเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวเดินถือถุงออกจากไป ใบหน้าของเธอฉายประกายแห่งความยินดี

        

    ...วิธีนี้เท่านั้น...



        

    เมื่อบุษราคัมกลับมาถึงบ้านเสถียรวงศ์ หญิงสาวก็ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องตามลำพัง ไม่ออกไปไหนเลยจนถึงเวลาอาหารเที่ยง อาหารถูกจัดวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ขาดแต่บุษราคัมเพียงคนเดียวที่ยังไม่ลงมา จิต สาวรับใช้คนหนึ่งจึงขึ้นไปตามเธอลงมา

        

    “ก๊อก ก๊อก” เธอเคาะประตูเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับมาแต่อย่างใด จิตจึงลองหมุนลูกบิดประตู ปรากฏว่าไม่ได้ล็อก เธอจึงเดินเข้าไป “คุณบุษคะ ทานอาหารเที่ยงได้แล้วค่ะ” แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับอยู่ดี

        

    “คุณบุษ....คุณบุษเป็นอะไรไปคะ??” จิตร้องอย่างตกใจ เมื่อเห็นบุษราคัมนอนหลับอยู่บนเตียง ที่พื้นข้างเตียงก็มียาเม็ดสีขาวหล่นอยู่ เห็นได้ว่าเป็นยานอนหลับ นอกจากนี้ยังมีแก้วน้ำที่ตกลงแตกอยู่ข้างๆ...ฆ่าตัวตาย??...

        

    บุษราคัมถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ระหว่างนั้นเอง ธราธารที่เพิ่งกลับมาจากการไปรับทอฝันจากโรงเรียนอนุบาล เธอรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากป้าน้อม หญิงสาวตกใจเป็นอย่างยิ่ง คำพูดของบุษราคัมย้อนกลับมาอีกครั้ง

        

    “บุษต้องตายเท่านั้น”

        

    “บุษไม่อยากอยู่อีกแล้ว”

        

    “มีแค่วิธีเดียวเท่านั้น”


        

    ธราธารพยุงตัวเองกลับไปที่ห้องนอนอย่างอ่อนแรง คำพูดของบุษราคัมเป็นจริงแล้วอย่างที่เธอเคยบอกเอาไว้ หญิงสาวไม่อยากคิดถึงมันเลย พระเจ้าไม่ประทานของสองสิ่งในเวลาเดียวกันจริงๆ นั่นล่ะ จะให้ทั้งเธอและบุษราคัมมีความสุขพร้อมกันคงเป็นไปไม่ได้ ความสุขที่เธอได้รับมามาก คงจะถึงแก่เวลาที่ต้องเสียสละแล้วสินะ มันอาจจะสมควรแก่เวลาแล้วก็ได้

        

    เมื่อเปิดประตูห้องแล้ว หญิงสาวก็พบว่ามีจดหมายฉบับหนึ่งสอดอยู่ ธราธารขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจก่อนจะหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่าน

        

    ...ธรา...

        เมื่อธราได้อ่านจดหมายฉบับนี้ บุษอาจจะตายจากโลกนี้ไปแล้วก็ได้ บุษทนไม่ไหวแล้ว บุษคุมตัวเองไม่ได้ แต่ก็ดีเหมือนกัน บุษตายไปก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะได้ไม่มีใครทำให้ธราต้องลำบากใจอีก ธราจ๋า ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ ธราไม่ต้องฝืนทำเรื่องที่ไม่อยากทำแล้ว ต่อไป ธรากับพี่ศักดิ์จะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่มีใครมาขัดขวางอีก แต่บุษก็ขอโทษนะ จนถึงเดี๋ยวนี้ เวลานี้ บุษก็ยังรักพี่ศักดิ์อยู่ดี ขอโทษนะ ขอโทษ

                                        ...ลาก่อน...

                                        ...บุษ...


        

    “คุณบุษ...” ธราธารรำพึงเสียงเบา สิ่งที่บุษราคัมพูดมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เมื่อเธอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งออกจากห้องทันที เธอต้องไปที่นั่น ไปหาบุษราคัม

        



    ช่วงที่ธราธารมาถึงโรงพยาบาล บุษราคัมก็ได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว สาเหตุมาจากการรับประทานยานอนหลับเกินขนาดนั่นเอง แต่โชคยังดีที่มาถึงมือแพทย์เร็วจึงล้างท้องได้ทัน เวลานี้ บุษราคัมยังต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน โดยมีธราธารที่อาสาเฝ้าด้วยตัวเอง หญิงสาวต้องการพูดคุยในเรื่องที่ยังค้างคากับบุษราคัมให้เรียบร้อย แม้ว่าก่อนหน้านี้ธราธารอาจจะยังบอกตัวเองว่าทำไม่ได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบังคับให้เธอต้องทำ ไม่ทำไม่ได้

        

    “คุณบุษต้องฟื้นขึ้นมานะคะ ธราจะทำตามวิธีของคุณ คุณบุษจะได้มีความสุข....ธรามีความสุขมามากแล้วจริงๆ ธราจะยกเวลาที่เหลือให้กับคุณ ธราจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตคุณอีก จะไม่มีธราอยู่ที่บ้านหลังนั้นอีกต่อไป....มีแต่คุณบุษเท่านั้น” ธราธารบอกกับร่างอันไม่ได้สติของบุษราคัม

        

    สิ่งที่ธราธารตัดสินใจทำนั้นก็คือ การที่ตัวเธอและทอฝันจะย้ายออกไปจากบ้านเสถียรวงศ์ เมื่อไม่มีเธอ บุษราคัมก็จะมีความสุข ไม่ต้องทุกข์ทรมานใจ เรื่องทุกอย่างจะจบลงด้วยดี เธอจะเป็นผู้เสียสละทุกอย่างเอง

        





    “คุณแม่คะ...ธราเองค่ะ” หญิงสาวโทรศัพท์ไปหามารดา พยายามควบคุมน้ำเสียงเอาไว้ให้เป็นปกติ

        

    “จ๊ะ นี่แม่กับยัยธารกำลังพูดถึงธราอยู่พอดี กะว่าจะชวนกันไปเยี่ยม ตั้งแต่งานแต่งแม่ธารก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย พรุ่งนี้แม่ไปเยี่ยมได้ไหม? สามีแม่ธารก็จะไปด้วยกัน” บุหงากล่าวอย่างยินดี นับตั้งแต่เสร็จงานแต่งงานของสายธารประมาณ 3 เดือนมาแล้ว แม่กับลูก พี่กับน้องก็แทบไม่ได้เจอกัน ดูเหมือนว่าบุหงาก็พอรู้อยู่บ้างเกี่ยวกับธราธารและรัตนา จึงเป็นฝ่ายไปหาเสียเอง

        

    “ไม่ต้องหรอกค่ะ” ธราธารตอบเสียงแผ่วเบา “ธราจะไปหาคุณแม่เองค่ะ จะพายัยหนูไปด้วย...ภายในวันสองวันนี้แหละค่ะ เดี๋ยวธราไปหาคุณแม่เองนะค”

        

    “เอาอย่างนั้นก็ได้จ้ะ แล้วพ่อศักดิ์จะมาด้วยหรือเปล่า?” บุหงาถามคำถามที่กรีดแทงเข้าไปในใจของบุตรสาวคนโต หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตอบ “ไม่ค่ะ แค่ธรากับฝัน แค่สองคน”

        

    หลังจบการสนทนากับมารดา หญิงสาวก็เดินทางกลับบ้านเสถียรวงศ์เพื่อจัดเตรียมเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋า ตอนนี้ทุกคนในบ้านกำลังสนใจในอาการป่วยของบุษราคัม ศักดิ์ชัยและยศสวินไปติดต่อธุรกิจกับลูกค้าที่ชลบุรีเมื่อ 2 วันที่แล้ว เย็นวันนี้ถึงจะกลับ ตุลยดาก็ต้องรับหน้าที่เข้าบริษัทแทนสามีและน้องชาย จึงไม่มีใครอยู่บ้าน เวลานี้เป็นเวลาปลอดคน เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะออกจากบ้านหลังนี้

        

    “ฝันจ๊ะ ไปกันเถอะ” ธราธารเข้าไปปลุกทอฝันที่หลับอยู่ในห้อง เด็กหญิงยังไม่ตื่นเต็มที่แต่ก็เดินตามมารดาไปด้วยท่าทางงัวเงีย

        

    “จะไปไหนคะนั่น?” ป้าน้อมที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัวเห็นธราธารที่กำลังขนกระเป๋าไปไว้หน้าบ้านเข้าจึงถาม

        

    “ธราจะไปแล้วค่ะ...” หญิงสาวตอบสั้นๆ สะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา

        

    ป้าน้อมซึ่งพอจะรู้เรื่องอยู่บ้างรีบเข้ามาขวางทันที “ไม่ได้นะคะ คุณเป็นคนบ้านนี้ บ้านนี้เป็นบ้านของคุณนะคะ แล้วยังคุณศักดิ์อีก คุณหนูทอฝันอีก อิฉันไม่รู้อะไรมากหรอกค่ะ แต่คุณไม่ควรทำแบบนี้ รอให้คุณศักดิ์เธอกลับมาก่อนเถอะนะคะ” ป้าน้อมเข้าไปรั้งสะใภ้คนเล็กของเสถียรวงศ์เอาไว้

        

    “นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วค่ะ ให้ธราไปเถอะนะคะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ธรากับยัยหนูควรอยู่หรอกค่ะ ธราจะกลับบ้าน....” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ “ธราจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว”

        

    “แต่คุณเป็นแม่ของคุณหนู เป็นภรรยาของคุณศักดิ์นะคะ ถ้าคุณทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณกำลังพรากลูกจากพ่อนะคะ เชื่อป้าเถอะค่ะคุณธรา รอให้คุณศักดิ์เธอกลับมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน...นะคะ”

        

    “ไม่ได้ค่ะ ธรา....ธราไม่ไหวแล้ว ป้าน้อมก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือคะ คุณบุษเธอยอมตาย เธอยอมตายเพราะทนอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ศักดิ์ เธอรักพี่ศักดิ์มากนะคะ....เธอรักพี่ศักดิ์ขนาดนี้แล้วจะให้ธราทนอยู่หน้าตาเฉยเหมือนกับไม่รู้อะไรเลยเหรอคะ??” หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งที่โซฟารับแขกอย่างอ่อนแรง

        

    “ป้าเข้าใจนะคะ แต่คุณธราไม่จำเป็นต้องเสียสละเพื่อคุณบุษราคัม แม้ว่าเธออาจจะทำแบบนั้นเพราะรักคุณศักดิ์ก็ตาม แต่อย่าลืมสิคะ ว่าคนที่คุณศักดิ์รักคือคุณธรานะคะ ถึงคุณยอมเสียสละไปก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกค่ะ ป้าไม่คิดว่าคุณศักดิ์จะรักคุณบุษราคัมได้ แล้วคุณบุษราคัมจะมีความสุขได้ยังไงคะ ไอ้การอยู่กับคนที่เขาไม่รักเราแบบนี้” ป้าน้อมให้ข้อคิด

        

    ธราธารส่ายศีรษะ ยืนยันคำพูดเดิม “ขอบคุณมากนะคะที่ให้คำแนะนำกับธรา แต่ธราเชื่อค่ะว่าถ้าไม่มีธรา พี่ศักดิ์อาจจะรักคุณบุษเข้าสักวันก็ได้ คุณบุษเธอน่าสงสารมากนะคะ ธราอยากเห็นเธอมีความสุขค่ะ...........” หญิงสาวย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับบุษราคัม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวของเธอเองว่าเธอทำถูกแล้ว







    ...คุณแม่...

    ...พี่ยศ และพี่ดา...

        ธราขอโทษค่ะที่ไปโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ธรามีความจำเป็นจริงๆ ค่ะ ธราเลยฝากจดหมายฉบับนี้ไว้กับป้าน้อม เมื่อทุกคนได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ธราคงจะถึงที่หมายแล้ว ธราขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนเคยมอบให้กับธรา และธราก็ขอโทษสำหรับความผิดพลาดที่แล้วมา สำหรับทอฝัน ธราพาไปด้วย ธราคงทิ้งยัยหนูไม่ได้ ไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องตามหาธรานะคะ ธราสบายดีค่ะ

                            ...ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างค่ะ...

                            ...ธราธาร...  







    ...พี่ศักดิ์...

        ธราขอโทษค่ะที่ต้องทำแบบนี้ แต่มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำได้ ธราไม่อยากเห็นใครต้องเป็นทุกข์ ต้นเหตุของเรื่องคือธราคนเดียว ถ้าไม่มีธรา คุณบุษก็จะมีความสุข...คุณบุษเป็นคนดี เป็นคนน่าสงสารมากนะคะ ธราอยากให้พี่ศักดิ์ดูแลเธอให้ดี เธอเหมาะสมกับพี่ศักดิ์ยิ่งกว่าใคร ที่สำคัญ คุณบุษรักพี่ศักดิ์มากนะคะ อาจจะเป็นการเอาแต่ใจไปหน่อย แต่ธราอยากให้พี่ศักดิ์รักคุณบุษให้มากๆ นะคะ ไม่ต้องห่วงธรากับฝันอีกแล้ว เราสองคนอยู่กันได้ ธราจะไม่ลืมเรื่องที่ผ่านมาหรอกค่ะ ธรายังจำมันได้ดีและจะจำตลอดไป

        เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เราอย่าเจอกันอีกเลยนะคะ

                                    ...ลาก่อนค่ะ พี่ศักดิ์...

                                    ...ธราธาร...







    ...คุณบุษ...

        ถ้าคุณบุษกลับมาที่บ้านหลังนี้ เราคงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะค่ะ วิธีนั้นเป็นทางออกเดียวจริงๆ คุณบุษไม่ต้องคิดมากหรอกนะคะ ทำตามหัวใจของตัวเองก็พอ ความจริงทุกอย่างมันอาจจะควรเป็นของคุณบุษตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ จุดจบถึงเป็นแบบนี้ แต่ไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะคะ บ้านเสถียรวงศ์ไม่มีคนชื่อธราธารอีกแล้ว ไม่มีทั้งธราธารและทอฝัน ขอให้คุณบุษมีความสุขนะคะ อย่าทุกข์ใจจนต้องหาทางออกด้วยวิธีนั้นอีก ธราเชื่อค่ะว่าคุณบุษจะต้องมีความสุขแน่ๆ

                                    ...มีความสุขนะคะ...

                                    ...ธราธาร...




        



    จดหมาย 3 ฉบับที่ธราธารทิ้งเอาไว้ต่างถูกส่งให้ผู้รับ แม้ว่าข้อความที่เขียนจะต่างกัน แต่มีใจความเดียวกัน คนแรกที่ได้รับจดหมายคือตุลยดาและรัตนา ส่วนศักดิ์ชัยและยศสวินรู้เรื่องทันทีที่กลับจากชลบุรี สำหรับบุษราคัมนั้นยังไม่รับรู้เรื่องราวใดใด เพราะอยู่โรงพยาบาลและร่างกายยังไม่แข็งแรงพอ

        

    “หมายความว่ายังไง??” ศักดิ์ชัยอุทานอย่างไม่เข้าใจการกระทำของภรรยาสาว

        

    “ก็หมายความอย่างที่เขียนนั่นแหละตาศักดิ์ แม่ธราคงจะรู้ตัวแล้วว่าไม่เหมาะสมกับตระกูลเสถียรวงศ์มากน้อยแค่ไหน หล่อนไปก็ดีแล้ว ยังไงเราก็ยังมีหนูบุษอยู่ทั้งคน ดูสิ...หนูบุษเสียใจเรื่องเราจนถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย เลิกคิดถึงแม่คนนั้นแล้วหันมาใส่ใจหนูบุษดีกว่า ไว้ตกลงกันได้เรียบร้อย แม่จะได้ทำให้ถูกต้องตามประเพณี” รัตนาพูดไปเรื่อยๆ ด้วยความยินดีที่ธราธารเดินออกไปจากชีวิตลูกชายของเธอด้วยตนเอง

        

    ตุลยดาที่ทนฟังมานานเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึม “ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า ลองไปคุยกับธราดูก่อน พี่ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ถึงทำให้ธราออกจากบ้านไป แล้วยังพายัยฝันไปอีกคน...” หญิงสาวหันไปทางแม่สามี “คุณแม่ก็เถอะค่ะ อย่าหาว่าดาอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ คุณแม่ยังไม่เลิกคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้นอีกเหรอคะ? คุณแม่ไม่ห่วงธรากับทอฝันบ้างเหรอคะ?”

        

    “จะต้องไปห่วงมันทำไม?” รัตนาถามราวกับว่าไม่เคยรู้จักคนทั้งสองมาก่อน

        

    “ธราก็เหมือนลูกสาวคุณแม่คนหนึ่ง แล้วยังทอฝันอีก นั่นน่ะหลานคุณแม่แท้ๆ เลยนะคะ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น....คุณแม่ไม่ห่วงหลานบ้างเหรอคะ?”

        

    “ฉันไม่สนหรอก หลานสาวแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไร พอโตเข้าหน่อยก็ไม่เป็นคนของเสถียรวงศ์แล้ว ไร้ค่า...” รัตนาเอ่ยอย่างไม่สนใจใยดีก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองเพื่อไปพักผ่อน ทิ้งให้คนที่เหลืออีก 3 คนนั่งครุ่นคิดอย่างกังวลใจ



        



    “สวัสดีค่ะ...” หญิงสาวยกหูโทรศัพท์ขึ้นมารับสายที่เรียกเข้า

        

    “ธรา...” อีกฝ่ายเอ่ยกลับมา ทำให้หญิงสาวผู้รับโทรศัพท์เดาออกได้ทันทีว่าใครเป็นผู้โทร.มา

        

    “ไม่ใช่ค่ะ นี่ธารเองค่ะ พี่ศักดิ์ชัยใช่ไหมคะ?” สายธารที่มาอยู่เป็นเพื่อนมารดาชั่วคราวในยามที่สามีของเธอไปติดต่อธุรกิจตอบกลับมา

        

    “ครับ ธราอยู่ที่นั่นหรือเปล่าครับ?”

        

    “เอ่อ......ไม่อยู่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” น้องสาวของภรรยาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

        

    “คือ...ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ธราเขาหายไป ทิ้งจดหมายเอาไว้แล้วก็หายไปทั้งธรากับฝัน ธารพอจะรู้บ้างไหมว่าธราเขาจะไปไหน” ชายหนุ่มถามอย่างมีความหวัง แต่ความหวังของเขาก็ต้องดับวูบเมื่อได้ยินคำตอบ “ขอโทษนะคะ ธารไม่รู้จริงๆ ค่ะ แต่ถ้าธารรู้ ธารจะรีบโทร.ไปบอกพี่ศักดิ์นะคะ.....ค่ะ....ค่ะ...โอเคค่ะ...สวัสดีค่ะ” ทันทีที่วางสาย สายธารถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ถูกจับได้ว่าพูดโกหก

        

    “พี่ธรานะพี่ธรา นี่ธารเกือบถูกพี่ศักดิ์จับได้แล้วไหมล่ะ” สายธารบ่นอุบกับพี่สาวที่นั่งอยู่ด้านข้างตนเอง หญิงสาวอยู่ในอาการเศร้าสร้อย

        

    “พี่ขอโทษนะธาร แล้วก็ขอบคุณมากที่ช่วยพี่”

        

    “พี่ธราทะเลาะกับพี่ศักดิ์เหรอ? ทำไมล่ะ? เรื่องอะไร?” น้องสาวยิงคำถามเป็นชุด แต่ยิ่งถามมาก สีหน้าพี่สาวก็ดูย่ำแย่ขึ้นทุกขณะ วันนี้พี่สาวของเธอดูเศร้าหมองผิดปกตินับตั้งแต่มาถึงบ้านเมื่อตอนบ่ายๆ

        

    “อย่าเพิ่งถามอะไรพี่ตอนนี้เลยนะ ขอพี่อยู่เดียวเถอะ....แล้วก็อีกอย่าง อย่าบอกใครนะธารว่าพี่อยู่ที่นี่ อย่าบอกใครเด็ดขาดเลยนะ” ธราธารมองหน้าน้องสาวด้วยความวิงวอน สายธารพยักหน้ารับรู้ ไม่ถามเซ้าซี้พี่สาวอีก รอให้หญิงสาวเป็นฝ่ายพูดมันออกมาเอง เมื่อเธอพร้อม...



        



    “แม่ขา เมื่อไรพ่อจะมาคะ?” ทอฝันที่นั่งมองมารดาจัดดอกไม้ถามขึ้น ธราธารอึ้งไปเล็กน้อยกับคำถามของเด็กหญิง ทอฝันยังไม่รู้เรื่องทั้งหมด จึงคิดว่ามารดาพาตนเองมาเที่ยวบ้านคุณยายเท่านั้น

        

    “ฝัน...มาหายายนี่มา เดี๋ยวยายจะสอนเราจัดดอกไม้นะ อย่าเพิ่งไปกวนแม่เขาเลย” บุหงาช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของทอฝัน ผู้เป็นยายเดินจูงหลานสาวไปอีกทาง รู้ดีว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ถึงบุตรสาวคนโตจะไม่พูด แต่มีหรือที่คนเป็นแม่จะไม่รู้

        

    ...ขอโทษนะฝัน เมื่อถึงเวลา แม่จะบอกทุกอย่างกับหนูเอง...

        

    ระหว่างนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นใกล้ๆ กับทอฝัน บังเอิญว่าในเวลานั้นไม่มีใครอยู่ใกล้โทรศัพท์เลย เด็กหญิงจึงยกหูโทรศัพท์ขึ้นมารับเสียเอง

        

    “ครับ...ขอสายธารหน่อยครับ”

        

    “น้าธารเหรอคะ?” เสียงแจ๊วๆ ของเด็กหญิงดังกลับมา ศักดิ์ชัยจำได้ดีว่ามันเป็นเสียงของลูกสาวตัวน้อยของเขานั่นเอง “ฝันเหรอลูก”

        

    “ค่ะ...คุณพ่อหรือเปล่าคะ?”

        

    “พ่อเองนะฝัน...ฝันอยู่ที่ร้านของคุณยายเหรอลูก?....แล้วคุณแม่อยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามบุตรสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยินดี

        

    “ค่ะ....แม่ช่วยคุณยายจัดดอกไม้ค่ะ เมื่อไรพ่อจะมาหาฝันคะ? ฝันคิดถึงพ่อจัง” เด็กหญิงถามพ่อของเธอตรงๆ เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากผู้เป็นแม่

        

    “เดี๋ยวนี้เลยฝัน พ่อจะไปหาเดี๋ยวนี้เลย ฝันรอพ่อนะ”

        

    “ค่ะ...พ่อมาจริงๆ นะคะ” เด็กหญิงถามย้ำความมั่นใจ

        

    “แน่นอนฝัน...พ่อจะไปเดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มยืนยันกับทอฝัน ทำให้เด็กหญิงยิ้มกว้างรอคอยการมาถึงของบิดา

        

    ...รอเดี๋ยวนะฝัน พ่อกำลังจะไปหาลูกอยู่แล้ว ผมหาคุณเจอแล้วธรา เราจะไม่หลงกันอีกแล้ว...




    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×