ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <<หนี้แค้นในหัวใจ>>

    ลำดับตอนที่ #13 : มือที่สาม (III)

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 48


    ตอนที่ 13 มือที่สาม (III)

      

        

    “นับตั้งแต่วันนี้ หนูบุษเขาจะเข้ามาอยู่กับเรา เป็นสมาชิกอีกคน” รัตนาประกาศให้ทุกคนในบ้านรู้ บุษราคัมยิ้มหวานให้กับทุกคนโดยเฉพาะศักดิ์ชัย

        

    “แม่ธรา หล่อนพาหนูบุษไปที่ห้องด้วยนะ ขาดเหลืออะไรก็บอกเขานะจ๊ะหนูบุษ” พูดกับบุษราคัมอย่างดี แต่กลับสั่งธราธารราวกับทาสรับใช้



        



    “ห้องนี้ค่ะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”

        

    “เดี๋ยวจ๊ะ อย่าเพิ่งไป ธราว่างหรือเปล่า บุษอยากหาเพื่อนคุย” บุษราคัมตีสนิทธราธารหน้าตาเฉย หญิงสาวมองหน้าผู้พูดอย่างแปลกใจแต่ก็ยอมรับคำชวนนั้น

        

    “บุษอยากจะบอกธราว่าบุษไม่เคยคิดแย่งพี่ศักดิ์กับธรานะ จริงอยู่ที่แต่ก่อนบุษอาจจะเคยชอบพี่ศักดิ์ แต่เมื่อพี่ศักดิ์แต่งงานกับธรา บุษก็เลิกคิดแล้วล่ะ บุษไม่อยากให้ธราเข้าใจผิด ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณป้าหรอกนะ บุษแค่ไม่อยากให้ท่านเสียหน้าเลยยอมมาที่นี่ แต่วันสองวันนี้ บุษจะหาเรื่องคุยกับคุณป้าเองแล้วก็จะกลับไป...บุษมาดีนะ บุษอยากเป็นเพื่อนกับธรา” บุษราคัมยิ้มเศร้าๆ

        

    “ค่ะ เราเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว เดี๋ยวธราขอตัวไปดูยัยหนูก่อนนะคะ” หญิงสาวเดินกลับไปที่ห้องของทอฝัน โดยไม่ได้หันกลับมาสังเกตใบหน้าของบุษราคัมที่เปลี่ยนไป

        

        



    “คุณป้าคะ บุษคิดอีกทีแล้ว ถึงบุษจะรักพี่ศักดิ์ แต่บุษไม่อยากแย่งใคร พี่ศักดิ์มีเจ้าของอยู่แล้ว”

        

    “ใจเย็นสิจ๊ะหนูบุษ ป้าไม่ปล่อยให้เรื่องมันเป็นอย่างนั้นแน่นอน ตาศักดิ์เองก็เถอะ ถึงอย่างไรก็คงต้องเชื่อฟังป้าอยู่แล้ว สบายใจได้นะจ๊ะ”

        

    “คุณป้ามั่นใจเหรอคะ บุษเห็นว่าพี่ศักดิ์รักธราธารยังกับอะไรดี แล้วยังมีลูกเขาอีกคน แล้วก็พี่ตุลยดาที่ทำท่ารังเกียจบุษ บุษอึดอัดค่ะ บุษรู้สึกผิดรู้สึกไม่ดีอยู่ตลอดเวลา เราเลิกเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ”

        

    “ไม่ได้เชียวนะ ป้าขอเถอะ หนูเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ป้ายอมรับเป็นสะใภ้ ป้าหวังในตัวหนูมาตั้งนานแล้ว ป้ารับรองว่าแผนการของป้าจะต้องสำเร็จ สะใภ้คนเล็กของเสถียรวงศ์จะต้องเป็นหนูบุษราคัมคนเดียวเท่านั้นจ๊ะ ป้าสัญญา” รัตนารับรองกับบุษราคัม ไม่ว่าธราธารจะดีสักเท่าไรก็ไม่มีทางจะเป็นสะใภ้ในฝันของรัตนาได้



        



    “แม่ขา ฝันไปเล่นกับพี่วินท์ที่สวนนะคะ” ทอฝันวิ่งเข้ามาบอกธราธารพร้อมกับวิธวินท์

        

    “จ้ะ อาฝากน้องด้วยนะจ๊ะวินท์” หญิงสาวฝากฝังลูกสาวไว้กับวิธวินท์ เธอรู้สึกเป็นสุขใจอยู่บ้างที่เห็นว่าทอฝันร่าเริงแจ่มใสและมีความสุขดี อย่างน้อยแค่นี้ก็พอแล้ว

        

    “ครับผม รับรองได้เลย” เด็กชายรับปากแข็งขัน



        



    “ธราจ๊ะ เดี๋ยวบุษช่วยนะ” บุษราคัมเดินเข้ามาช่วยธราธารยกแจกันดอกไม้ที่หญิงสาวเพิ่งจัดเสร็จออกไปที่ห้องรับแขกโดยไม่สนใจว่าธราธารจะห้ามปราม เธอเดินถือแจกันออกไป ระหว่างทางเธอเดินเซเล็กน้อยก่อนที่จะล้มลง แจกันในมือหล่นตกลงแตกกระจาย

        

    “ว้าย! ช่วยที คุณบุษเธอเป็นลม ช่วยด้วย” หนึ่งในสาวใช้โวยวายอย่างตกใจที่เห็นเจ้านายคนใหม่ล้มลง ธราธารรีบวิ่งออกมาดู “คุณบุษคะ คุณบุษ...” หญิงสาวเรียกพร้อมกับค่อยๆ ประคองบุษราคัมให้ลุกขึ้นมาจากพื้น แต่ตัวผู้ป่วยเองดูจะไม่ค่อยมีปฏิกิริยาตอบสนองใดใด

        

    “ตามคุณศักดิ์มาเถอะค่ะ คุณบุษแย่แล้ว” จากนั้นป้าน้อมก็วิ่งไปตามศักดิ์ชัยให้มาช่วย เมื่อชายหนุ่มมาถึง เขาก็อุ้มหญิงสาวไปไว้ที่โซฟาก่อนแล้วจึงค่อยทำการปฐมพยาบาลต่อไป พักเดียวต่อมา บุษราคัมก็ฟื้นขึ้น...เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่เข้าไปหูรัตนาเสียก่อน

        

    “อะไรกัน อะไรกัน นี่หนูบุษเพิ่งมาอยู่บ้านเราได้แค่วันเดียวก็เกิดเรื่องซะแล้ว ใครเป็นตัวต้นเหตุ? ใครหะ? ถ้าหนูบุษเป็นอะไรขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้น” รัตนาหยุดพูดสักครู่แล้วมองไปที่ธราธารอย่างจับผิด ก่อนจะเอ่ยปากอย่างเป็นห่วงเป็นใยบุษราคัม “เล่าให้ทุกคนฟังสิหนูบุษ ทำไมอยู่ๆ ถึงเป็นลมเป็นแล้งไปได้ล่ะ?”

        

    บุษราคัมมองหน้าธราธารอย่างลำบากก่อนจะตอบรัตนา “เปล่าค่ะคุณป้า บุษคงไม่สบายนิดหน่อย ไม่มีใครเกี่ยวข้องด้วยหรอกคะ บุษทำตัวเอง” บุษราคัมตอบเสียงเศร้า แต่รัตนาไม่ยอมให้จบเรื่องนี้อย่างง่ายดาย

        

    “จริงเหรอ? แล้วทำไมถึงมีแจกันแตกอยู่ข้างๆ และยังดอกไม้นั่นอีก หนูบุษเป็นคนถือมันมา ใครใช้? บอกป้ามาสิว่าใคร? ไม่ต้องกลัว ป้าคิดว่าป้าก็พอรู้บ้างว่าคนจิตใจเลวร้ายนั้นเป็นใคร”

        

    “เอ่อ...” บุษราคัมทำเสียงลำบากใจ

        

    “ธราเองค่ะ คุณบุษมาช่วยธรา”

        

    “อ๋อ! นี่หล่อนคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้าดีมาใช้หนูบุษราคัม” รัตนาหันไปมองลูกชายคนเล็ก “ดูเมียเราสิตาศักดิ์ ไม่ทันไรก็ออกลายซะแล้ว ถ้าหนูบุษไม่เป็นลมไปซะก่อน หล่อนคงกะว่าจะใช้ไปเรื่อยๆ ใช่ไหม? เลวมาก” รัตนาพูดอย่างโกรธเคือง ประมุขของบ้านลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาสะใภ้คนเล็ก

        

    “เพี๊ยะ!!!” เสียงมือกระทบกับใบหน้านวลของหญิงสาวอย่างแรง เมื่อผู้กระทำถอนมือไปแล้วก็ปรากฏรอยมือสีแดงอยู่บนใบหน้านั้น ทุกคนมองภาพนั้นด้วยความตกใจ ไม่มีใครคิดว่าแค่เรื่องคนเป็นลมธรรมดาเท่านี้ จะทำให้ถึงกับต้องจัดการด้วยวิธีรุนแรงเช่นนี้

        

    “นี่เป็นการสั่งสอนให้รู้เอาไว้ ห้ามใครมาทำร้ายหนูบุษอีก ถ้าใครกล้าทำอีกล่ะก็ ฉันจะเอาให้หนักเชียว แค่นี้มันยังน้อยไป ถ้ามีใครกล้าแตะหนูบุษแม้แต่ปลายเล็บล่ะก็ ฉันจะไม่เอาไว้” รัตนาพูดเสียงประกาศิตก่อนจะเดินออกจากห้องไป

        

    ทันทีที่รัตนาออกไป ศักดิ์ชัยก็รีบถามธราธารทันที “เจ็บหรือเปล่าธรา?...” เขามองที่ใบหน้าของเธออย่างเป็นกังวล

        

    “คุณแม่นี่ก็เกินไป เรื่องแค่นี้ทำไมจะต้องทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตด้วย” ตุลยดาโกรธแทนน้องสะใภ้ที่โดนแม่สามีทำร้าย

        

    “เป็นเพราะบุษเองแหละค่ะ บุษอาสาช่วยธราแท้ๆ แต่กลับทำให้ธราต้องเดือดร้อน บุษขอโทษค่ะ ขอโทษ” บุษราคัมขอโทษทุกคนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

        

    “ไม่ใช่ความผิดของคุณบุษหรอกค่ะ ธราผิดเอง แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวธราไปดูยัยหนูก่อนนะคะ” ธราธารยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่สวนซึ่งลูกสาวตัวน้อยกำลังเล่นกับเพื่อนชายของเธอ ทันทีที่ก้าวออกจากบริเวณนั้น น้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง ไหลออกมากับความผิดที่เกิดขึ้น แม้ว่าตนเองจะไม่ใช่ผู้กระทำก็ตามที







    “พี่วินท์ พี่วินท์ อยู่ไหนคะ?” เด็กหญิงตัวน้อยเรียกหาเพื่อนสนิทของเธออย่างกลัวๆ



    “ใครเอ่ย? ทายซิ ถ้าตอบไม่ถูกต้องยกขนมให้พี่หมดเลย” เด็กชายเดินเข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับใช้มือปิดตาของเธอเอาไว้



    “ไม่รู้คะ ใครคะ?” เด็กหญิงตัวน้อยแกล้งทำเป็นไม่รู้



    “ตอบแบบนี้อีกแล้ว พี่กินขนมหมดจริงๆ นะ ห้ามร้องไห้แงๆ ด้วย” เด็กชายขู่เด็กหญิง แต่เธอก็ไม่หวาดวิตกไปกับคำพูดนั้น



    “เค้าไม่ได้ขี้แยอย่างนั้นสักหน่อย พี่วินท์พูดไปเอง ถ้ายังว่าอีก เค้าไม่ยกขนมให้แล้ว” เด็กหญิงตอบอย่างงอนๆ ก่อนจะวิ่งไปหาผู้เป็นแม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในสวน



    “ทำไมทำหน้างอนตุ๊บป่องอย่างนั้นล่ะจ๊ะ? ไหนบอกแม่สิคะ” ธราธารยิ้มหวานให้ลูกน้อยที่วิ่งเข้ามากอดเธอ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นแม่เพื่อจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ต้องหยุดปากไว้ก่อน เมื่อเห็นคราบน้ำตาที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้า รวมทั้งรอยมือสีแดงนั่นด้วย



    “แม่ร้องไห้ใช่ไหมคะ?...ทำไมคะ?...ใครแกล้งแม่คะ?...เดี๋ยวฝันจัดการให้...” ทอฝันเอียงคอถามด้วยแววตาหดหู่ แม่ของเธอร้องไห้อีกแล้ว เพื่อให้แม่กลับมาร่าเริง เด็กน้อยต้องพยายามเข้าไว้ ร่าเริง หยอกล้อ จะช่วยธราธารได้

        

    หญิงสาวมองหน้าเด็กน้อยอย่างปลื้มใจ ลูกคือกำลังของเธอ เธอสู้เพื่อลูก เพื่อคนที่เธอรัก จะหนักหนาแค่ไหนก็ต้องฝ่าฟัน จะหมดกำลังใจต่อสู้แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด “ขอบคุณนะฝัน ขอบคุณนะจ๊ะ ขอบคุณจริงๆ แม่ต้องสู้สินะ ขอบคุณนะจ๊ะ ขอบคุณที่ให้กำลังใจแม่เสมอ แม่นี่แย่นะ ต้องทำให้ฝันเดือดร้อนอยู่เรื่อย แม่นี่แย่จริงๆ”

        

    “ไม่นะคะ แม่เยี่ยมมากเลย แม่เป็นคนที่ฝันคิดว่าจะเอาไว้เป็นต้นแบบนะคะ แม่เป็นต้นแบบของฝัน แม่เก่งที่สุดในสายตาของฝันนะคะ ไม่ว่าแม่จะเป็นยังไง แม่ก็เป็นที่หนึ่งในใจฝันค่ะ” ทอฝันบอกมารดาด้วยความมั่นใจ ไม่มีใครจะมาแทนที่ธราธารได้เด็ดขาด ไม่มีทาง

        

    เมื่อได้กำลังใจจากทอฝัน ธราธารก็เข้มแข็งมากขึ้น เวลาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุษราคัมถ้าไม่จำเป็น เธอกลัวว่าจะเกิดเรื่องที่ทำให้เจ็บช้ำอีกเหมือนเมื่อครั้งนั้น ดูเหมือนว่าการหลีกเลี่ยงของธราธารนี้ บุษราคัมจะรู้อยู่ตลอดเวลา วันหนึ่ง เธอจึงหาโอกาสพูดคุยเรื่องนี้กับธราธารให้จริงจัง วันนั้น...วันที่เรื่องราวทุกอย่างเกือบจะแตกหัก

        

    “ธรา...ขอคุยด้วยหน่อยสิ” บุษราคัมเรียกธราธารเข้าไปคุยกันในห้องของตัวเธอเอง หญิงสาวมีใบหน้าที่เศร้าสร้อย แววตาก็เหมือนคนอดนอน ร่างกายก็ดูทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่เหมือนกับบุษราคัมที่ทรงเสน่ห์คนเก่า

        

    “คุณบุษไม่สบายหรือเปล่าคะ?” ธราธารถามอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพของบุษราคัม ไม่น่าเชื่อว่าการที่หญิงสาวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับบุษราคัมเพียงไม่นาน จะทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้

        

    “ธรากำลังระแวงบุษใช่ไหม? บุษรู้ดี ธราหนีบุษตลอดเลย ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากพูดคุยกับบุษ บุษน่ารังเกียจมากเหรอ? บุษน่ารำคาญถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? บอกบุษสิธรา” บุษราคัมคาดคั้นหญิงสาวตรงหน้า

        

    “ไม่ใช่นะคะ คุณบุษดีพร้อมทุกอย่าง คุณมีทุกอย่าง คุณเป็นคนดี ธราไม่ได้ระแวงคุณบุษหรอกค่ะ” ธราธารตอบไป หญิงสาวรู้สึกสงสารและเห็นใจบุษราคัมเป็นอย่างมาก แต่เธอไม่ควรจะยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่หรือ ผู้หญิงตรงหน้าที่แสนสวยและน่าหลงใหลคนนี้อาจจะทำลายชีวิตของเธอ แต่ถ้าคิดถึงเรื่องคุณธรรม เธอควร ความคิดที่ว่าบุษราคัมอาจเข้ามาทำลายชีวิตและครอบครัวของเธอค่อยๆ จางหายไป คนที่น่าสงสารและกังวลใจแบบนี้ไม่น่าจะใช่คนร้ายกาจ ทั้งหมดอาจเป็นภาพหลอนที่เธอสร้างขึ้นมาเท่านั้นก็ได้

        

    “ถ้าธราทำให้คุณบุษคิดแบบนั้น ธราขอโทษนะคะ คุณบุษอย่าคิดมากอีกเลยนะคะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

        

    เมื่อได้ยินดังนั้น บุษราคัมแสดงใบหน้าแห่งความยินดีขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับเป็นเศร้าสร้อยเหมือนเดิม “ถึงธราจะไม่ระแวงบุษ แต่สักวันก็ต้องมีเหตุการณ์แบบนั้นแน่....” หญิงสาวเว้นจังหวะการสนทนาสักครู่ “เพื่อความสบายใจของเราทั้งสองคน บุษคงปิดธราไม่ได้แล้วแน่ ขอโทษนะธรา แต่ไม่ว่ายังไง...บุษก็เลิกรักพี่ศักดิ์ไม่ได้เลย บุษทำไม่ได้”

        

    ตอนนี้ หัวใจของธราธารมีความรู้สึกเหมือนถูกกรีดให้ลึกลงไป รอยแผลเกิดขึ้นทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น ทำไมจะต้องเกิดเรื่องเช่นนี้กับตัวเธอด้วย

        

    “หรือคะ?” หญิงสาวเอ่ยสั้นๆ ด้วยไม่รู้ว่าจะพูดสิ่งใดออกมาดี สิ่งที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้

        

    “บุษเคยคิดที่จะทำร้ายธรา ทำร้ายทอฝัน แต่บุษก็ทำไม่ได้จริงๆ มันไม่ใช่ความผิดธราหรือใคร พี่ศักดิ์รักธรามากจนไม่มีใครเข้ามาแทรกระหว่างกลางได้เลย ถ้าจะมีคนผิดก็ต้องเป็นบุษนั่นแหละ บุษอยากตายนะธรา...ถ้าบุษอยู่ต่อไป สักวัน บุษต้องควบคุมตัวเองไม่ได้ บุษอาจจะทำร้ายธราก็ได้...”

        

    “ใจเย็นๆ นะคะคุณบุษ เรื่องทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี” ธราธารปลอบใจคนตรงหน้า ถึงผู้หญิงคนนี้จะเคยคิดร้ายกับเธอก็ตาม แต่อย่างไร ก็เป็นเพราะรักเขาคนนั้น บุษราคัมมีสิทธิ์ที่จะรัก ไม่มีใครห้ามปรามเธอได้ มันไม่ใช่ความผิดของเธอแต่อย่างใด

        

    “ไม่หรอก ไม่มีทาง เชื่อบุษสิ” บุษราคัมคร่ำครวญด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด “บุษรักพี่ศักดิ์มาก แต่ความหวังของบุษไม่มีวันสมหวังได้หรอก ทางเดียวที่บุษควรทำคือเลิกคิดถึงพี่ศักดิ์...ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น บุษคงต้องทำแบบนี้”

        

    บุษราคัมหยิบคัตเตอร์จากลิ้นชักโต๊ะขึ้นมาจ่อแทงไปที่คอของตนเอง “วิธีนี้เท่านั้น” หญิงสาวหลับตาลง ขยับคัตเตอร์เข้าไปใกล้กว่าเดิม

        

    “อย่าค่ะ คุณบุษวางคัตเตอร์ลงเถอะนะคะ คุณบุษหาวิธีอื่นสิคะ คุณบุษใจเย็นๆ เอาไว้ก่อน...” ธราธารปลอบประโลมพลางก้าวเข้าไปใกล้บุษราคัม

        

    “ไม่....ไม่....ทุกคนเกลียดบุษ แม้แต่ธราก็เกลียดบุษ พี่ศักดิ์ก็ไม่เคยสนใจบุษเลยแม้แต่นิดเดียว บุษต้องตายเท่านั้น บุษไม่อยากอยู่อีกแล้ว” บุษราคัมส่ายศีรษะอย่างหวาดกลัว “ไม่เอา...ไม่มีใครช่วยบุษได้หรอก...ไม่มีสักคนเดียว ให้บุษตายเถอะนะ บุษควรทำแบบนี้” หญิงสาวเดินถอยห่างธราธารออกไป

        

    “ธราจะช่วยคุณค่ะ ธราไม่เคยเกลียดคุณบุษนะคะ ส่งคัตเตอร์นั่นให้ธรานะคะ ธราจะช่วยคุณบุษเองค่ะ ธราจะช่วยคุณทุกอย่าง”

        

    “ธราจะช่วยบุษจริงเหรอ...จริงเหรอ??”

        

    “จริงสิคะ...เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือคะ ธราจะช่วยคุณบุษทุกอย่าง ส่งคัตเตอร์นั่นมาเถอะนะคะ แล้วเราค่อยคุยกัน ธรารับปากว่าจะช่วยคุณค่ะ เชื่อธรานะคะ” หญิงสาวปลอบบุษราคัมจนอีกฝ่ายใจเย็นลงและค่อยๆ ผ่อนคัตเตอร์ออกห่างจากคอ แต่เธอก็ชักกลับไปอีกครั้ง

        

    “ไม่จริง...ไม่....ไม่...ธราหลอกบุษ”

        

    “จริงสิคะ ปล่อยคัตเตอร์เถอะค่ะ ธราจะช่วยคุณบุษนะคะ” ธราธารเดินมาถึงตัวของบุษราคัม หญิงสาวรวบมือของบุษราคัมเอาไว้ “เชื่อธรานะคะ ไว้ใจธราสิคะ” หลังจากได้ยินคำพูดนี้ มือของบุษราคัมก็ค่อยๆ อ่อนลงจนปล่อยคัตเตอร์ในที่สุด หญิงสาวร้องไห้ออกมาพลางทรุดตัวลงร้องไห้กับพื้น ธราธารมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสงสาร ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้วอย่างบุษราคัมจะมีวันนี้

        

    เมื่อบุษราคัมค่อยๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติก็พยุงตัวเองขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ “บุษนี่บ้าจังเลย ทำอะไรโง่ๆ” เธอเอ่ยขึ้น

        

    “ไม่หรอกค่ะ ธราเข้าใจคุณบุษนะคะ”

        

    “จริงเหรอ?...ถึงวันนี้บุษหยุดตัวเองไว้ได้ แต่ก็ไม่เสมอไปหรอกนะ สักวัน เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นอีก ตราบเท่าที่บุษยังสั่งใจตัวเองไม่ได้” บุษราคัมแค่นหัวเราะให้ตนเองอย่างสมเพช “วิธีแก้ที่บุษคิดได้ตอนนี้มีแค่วิธีเดียวเท่านั้น...”

        

    “วิธีอะไรละคะ? ถ้าธราช่วยได้ ธราจะช่วยค่ะ” หญิงสาวรับปากเพื่อให้บุษราคัมสบายใจ

        

    “ไม่หรอก ธราไม่มีทางช่วยบุษ”

        

    “คุณบุษบอกมาสิคะ ธราจะช่วยคุณค่ะ”

        

    บุษราคัมแสดงท่าทีลำบากใจ แต่ก็ยอมอธิบายถึงวิธีการนั้นให้ธราธารฟัง ซึ่งเมื่อได้ยินแล้ว หัวใจของธราธารแทบจะแหลกสลาย หญิงสาวทำตามนั้นไม่ได้ ทำไม่ได้ บุษราคัมเห็นท่าทางของธราธารก็รู้ทันทีถึงคำตอบ “เห็นไหมล่ะ ธราก็ไม่อยากจะช่วยบุษ แต่ธรา...วิธีนี้เท่านั้นที่ช่วยบุษได้ บุษรู้ว่ามันไม่ดี แต่บุษหาวิธีอื่นไม่ได้อีกแล้ว อย่าใส่ใจเลยนะ อย่าสนใจกับคนอย่างบุษเลย บุษไม่มีค่าพอให้ใครมาห่วงหรอก”

        

    “เอ่อ...ขอโทษนะคะ ธรานึกได้ว่ายังมีงานเหลืออยู่...” หญิงสาวโกหกเพื่อจะได้ออกจากห้องนี้ ดูเธอจะทรมานเหลือเกินที่ได้อยู่ในบริเวณนี้

        

    “จ้ะ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ...บุษกวนธรามามากแล้ว...” บุษราคัมพูดขึ้นอย่างเข้าใจ ธราธารจึงเดินออกจากห้องไปด้วยความเมื่อยล้า แต่ก่อนที่หญิงสาวจะเดินพ้นประตูห้อง เจ้าของห้องก็เรียกเธออีกครั้ง

        

    “ธรา...ถึงวิธีนั้นจะเป็นวิธีเดียวที่ช่วยบุษได้...แต่...อย่าสนใจมันเลยนะ” บุษราคัมบอกหญิงสาวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย ธราธารยิ้มน้อยๆ ให้ผู้พูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป

        

    เมื่อออกจากห้องแล้ว เธอก็เดินมุ่งตรงกลับไปที่ห้องของตนเอง ปิดประตูห้อง หญิงสาวทรุดตัวลงผิงประตู ปล่อยให้น้ำตาที่อดกลั้นมานานได้มีโอกาสไหลรินออกมาจากนัยน์ตา

        

    ...ทำไม...ทำไม...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย... เธอเฝ้าถามตัวเอง



        

    “ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

        

    “ใครคะ?”

        

    เสียงใสๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยดังเข้ามา “แม่คะ ฝันเองค่ะ เปิดประตูให้ฝันหน่อยสิคะ” เมื่อได้ยินเสียงลูกน้อย ธราธารจึงรีบปาดน้ำตาทิ้ง ทำหน้าร่าเริงเอาไว้ก่อนจะเปิดประตูให้ทอฝันได้เข้ามาหา

        

    “แม่ขา...ฝันหาแม่ทั่วบ้านเลย ในที่สุดก็เจอ” ทอฝันเอ่ยอย่างดีใจ เด็กน้อยเข้าไปสวมกอดมารดาของเธอเอาไว้อย่างหวงแหนและรักใคร่

        

    “แม่นึกว่าหนูเล่นกับอาดากับพี่วินท์แล้วลืมแม่ซะแล้ว”

        

    “เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ไม่มีใครมาแทนที่แม่ได้หรอก” ทอฝันตอบอย่างหนักแน่น

        

    “ฝัน....หนูรักคุณพ่อไหมจ๊ะ??” ธราธารถามราวกับจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง

        

    “รักสิคะ รักมากๆๆๆ” เด็กหญิงตอบอย่างมั่นใจ แต่ก็เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดในคำถามนี้ของมารดา มันให้ความรู้สึกไม่ธรรมดา “ทำไมแม่ถามแบบนี้ล่ะคะ?” ทอฝันเอียงคอถามอย่างสงสัย

        

    “ไม่มีอะไรจ้ะ แม่ก็ถามไปอย่างนั้น...หนูอยู่กับคุณพ่อโดยไม่มีแม่ได้ไหมลูก?”

        

    “ทำไมล่ะคะ? ทำไมวันนี้แม่ถามแปลกๆ”

        

    “ตอบแม่มาก่อนเถอะนะจ๊ะ”

        

    “ไม่ได้หรอกค่ะ ทำไมแม่ถามแบบนี้ละคะ? แม่จะไปไหน? พ่อยังเคยบอกฝันเลยว่ารักแม่กับฝันที่สุด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ หรือว่าอาบุษคนนั้นคะ ตั้งแต่อาบุษเข้ามา ฝันไม่ค่อยเห็นแม่ยิ้มเลย เพราะอย่างนี้เหรอคะ??”

        

    “ไม่ใช่จ๊ะ ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น” หญิงสาวปฏิเสธ ลูกของเธอยังเด็กเกินกว่าจะรับรู้เรื่องความทุกข์ใจของตนเอง จะให้ทอฝันรู้เรื่องพวกนี้ไม่ได้เด็ดขาด

        

    “แม่อย่าถามแบบนี้อีกนะคะ ฝันกลัว” ทอฝันทำหน้าดุ ทำให้ธราธารหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เด็กน้อยขาดแม่ไม่ได้ ตัวเธอเองก็ขาดลูกไม่ได้เช่นกัน เปรียบเสมือนมีโซ่ที่มองไม่เห็นคล้องธราธารและทอฝันเอาไว้ด้วยกัน ไม่มีใครขาดใครได้

        

    ...แม่ก็กลัวนะลูก แต่แม่ไม่อยากปล่อยเรื่องให้มันคาราคาซังแบบนี้อีก แม่อาจจะมีความสุขมากเกินพอแล้วก็ได้ แม่ควรจะเสียสละแม้ว่าจะไม่อยากสูญเสียก็ตาม แต่แม่จะไม่ทิ้งลูกแน่นอน จะเรียกว่าเป็นการเห็นแก่ตัวหรืออะไรก็ช่าง แต่แม่ทิ้งหนูไม่ได้ แม่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหนู แม่จะไม่ทิ้งหนู...




    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×