ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : มือที่สาม (II)
ตอนที่ 12 มือที่สาม (II)
นับตั้งแต่ธราธารกลับจากโรงพยาบาล และทุกคนในบ้านรู้ข่าวดีกันแล้ว ตุลยดาจึงถือโอกาสนี้ทำให้เป็นช่วงเวลาอิสระและเวลาแห่งความสุขของธราธาร เธอพูดกับรัตนาเรื่องของธราธาร และขอให้รัตนาเลิกใช้งานหญิงสาว โดยมีเหตุผลสำคัญเป็นข้ออ้าง...ทายาทของเสถียรวงศ์...   
   
“ขอบคุณค่ะพี่ดา”
   
“ไม่เป็นไร แค่นี้คุณแม่ก็ไม่กล้าอีกแล้ว เขาว่าไว้นะธรา เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง คอยดูเถอะ ไว้ธราคลอดเมื่อไร คุณแม่จะเห่อหลานยิ่งกว่าอะไร คราวนี้ท่านก็ไม่กล้าทำอะไรแม่ของหลานแล้วล่ะ ถ้ามีลูกนะ ก็ไม่ต้องรับใช้คุณแม่ เหตุผลของเราน่ะสำคัญเชียวนะ ต้องดูแลทายาทคนโตไงล่ะ”
   
“คุยอะไรกันครับสาวๆ” ศักดิ์ชัยเดินเข้ามาพร้อมกับพี่ชาย
   
“เปล่าจ๊ะ เปล่า นี่จะมาทวงสิทธิ์ดูแลธราล่ะสิ”
   
“ก็....ครับ พี่ดาไม่อยู่ด้วย เฮียเหงาแย่”
   
“นายคนเนี้ยนะเหรอ แมวไม่อยู่ หนูร่าเริงล่ะมากกว่า ใช่ไหมคุณยศสวิน” ตุลยดาหันไปเอาเรื่องยศสวิน
   
“ผิดแล้วมั้ง ผมน่ะแมว คุณสิหนู”
   
“เอ๊ะ! นี่คุณเถียงฉันเหรอ มานี่เลยนะ” ว่าแล้วแมวและหนูก็วิ่งไล่กันอีกตามเคย ทิ้งให้สองหนุ่มสาวอยู่ด้วยกันตามลำพัง ธราธารหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขกับภาพที่เห็น อาการของเธอทำให้ศักดิ์ชัยหันมามองอย่างดีใจ นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงหัวเราะอันสดใสของเธอ คงจะเป็นตั้งแต่ที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และได้พบกับมารดาของเขา
   
“ธราหัวเราะ....ผมไม่ได้ยินธราหัวเราะแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ผมทำลายความสุขของคุณใช่ไหมธรา เพราะผม...” เขาก้มหน้าแล้วพร่ำกล่าวโทษตนเอง ทันใดนั้น มืออันอ่อนโยนก็เอื้อมมาสัมผัสใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา “ไม่ใช่ความผิดพี่ศักดิ์หรอกค่ะ ไม่ใช่” หญิงสาวยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน
   
“ธราดีใจนะคะที่ได้อยู่ที่นี่ อยู่กับพี่ศักดิ์ ทุกคนดีกับธราทั้งนั้น ทั้งพี่ดา พี่ยศ ป้าน้อม คุณแม่ แล้วก็คนอื่นๆ ธราไม่เคยเสียใจที่เลือกชีวิตแบบนี้ ธรามีความสุขต่างหากค่ะ พี่ศักดิ์อย่าคิดมากอีกเลยนะคะ”
   
“ผมดีใจนะธรา ดีใจที่ได้เจอ ดีใจที่ได้แต่งงานกับธรา ทั้งๆ ที่มีคนคู่ควรกับธรามากกว่าผมตั้งเยอะ ผมสัญญา ผมจะดูแลธราให้ดีที่สุด แล้วก็ลูกของเราด้วย เชื่อผมนะ”
   
“ค่ะ ธราเชื่อพี่ศักดิ์ ธราเชื่อพี่ศักดิ์เสมอ” ชายหนุ่มโอบตัวภรรยาเข้าไปในวงแขน เขากอดเธอเอาไว้แน่นอย่างปลื้มใจ แต่เวลาแห่งความสุขมักจะจากไปอย่างรวดเร็วเสมอ ยังไม่มีใครรู้ว่าอนาคตเรื่องราวจะผลิกผันเป็นเช่นไร มันจะอาจจะเลวร้ายหรือสงบสุขก็เป็นได้
   
นับตั้งแต่วันนั้นมา ชีวิตของธราธารก็ดูจะราบรื่นและดำเนินไปด้วยดีมากยิ่งขึ้น รัตนาก็ไม่ใช้งานเธอหนักเหมือนแต่ก่อนอีก แต่ก็ไม่ใช่ยอมรับและเมตตาในตัวสะใภ้เล็กเสียทีเดียว ยังคงตั้งแง่รังเกียจอยู่ตามเดิม
   
“เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณหมอนัดไปตรวจใช่ไหมธรา?”
   
“ค่ะ พี่ดา เกือบลืมไปพอดี”
   
“ลืมไม่ได้นะจ๊ะ พรุ่งนี้พี่ว่างพอดี เดี๋ยวพี่พาไปเองแล้วกัน กี่โมงล่ะ?”
   
“10.00 น. ค่ะ”
   
“อ้อ!...แล้วให้หมอเขาตรวจหรือเปล่าว่าเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง?” รัตนาถามขึ้น
   
“ยังครับ แต่ผมคิดว่าคงไม่ต้อง จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ครับ” ศักดิ์ชัยเอ่ยอย่างไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ผิดกับรัตนา
   
“ไม่เป็นอะไรซะที่ไหน ตระกูลเสถียรวงศ์ต้องมีคนสืบทอด ถ้าเป็นผู้หญิงก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ หลานของฉันต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นนะแม่ธรา ถ้าเป็นผู้หญิง อย่าให้เกิดมาเลยจะยังดีกว่า”
   
“คุณแม่คะ พูดอย่างนี้ได้ยังไง ถึงจะเป็นเด็ก แต่ก็มีชีวิตนะคะ เขามีสิทธิ์จะเกิดมา จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สืบทอดได้ทั้งนั้นแหละค่ะ” ตุลยดาเถียงแม่สามี เธอไม่เข้าใจว่าเมื่อไรจะเลิกนิสัยหัวโบราณไม่เข้าเรื่องแบบนี้สักที
   
“ไม่รู้ล่ะ ฉันแค่อยากจะบอกเอาไว้ ฉันไม่ต้องการหลานสาว” ประมุขของบ้านย้ำอีกครั้งก่อนจะลุกจากโต๊ะรับประทานอาหารไปอย่างไม่พอใจที่สะใภ้ใหญ่เถียงตนเอง
   
“พี่ศักดิ์อยากได้ลูกชายหรือว่าลูกสาวมากกว่ากันคะ?” ธราธารถามอย่างกังวลใจ
   
“อย่างที่ผมเคยพูดนั่นแหละ จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็เหมือนกัน ขอให้เป็นลูกของธรา เป็นลูกของเรา แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงผมก็รักทั้งนั้น เพราะ...” ชายหนุ่มหยุดพูดพร้อมกับมองหน้าธราธาร
   
“เพราะอะไรคะ?”
   
“เพราะผมรักแม่ของลูกเหลือเกิน รักมากกว่าอะไรทั้งหมด”
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
   
“ออกรถได้แล้ว จะได้ไปถึงเร็วๆ”
   
“ทำไมคะแม่? ทำไมแม่ถึงไม่รักหนูละคะ??” ตาฬิกาถามมารดาขณะที่อยู่ในรถเพื่อเดินไปทางไปหาพ่อที่แท้จริงของเธอ อย่างน้อยสักครั้งก่อนที่อาจจะไม่ได้เจอกันอีก เด็กน้อยอยากรู้จากปากของแม่ว่ารักเธอบ้างหรือเปล่า
   
“ฉันจะรักแกหรือไม่รักก็ไม่ต่างกัน เพราะฉันไม่ต้องการแก”
   
“แต่แม่ก็เลี้ยงหนูมาตั้ง 10 กว่าปีนี่คะ”
   
“แต่ 10 ปีนั่นเป็นความทรมานของฉัน แกไม่ต้องมาสงสัยให้มาก อยากรู้อะไรก็ไปถามพ่อแกนู่น แล้วก็ไม่ต้องกลับมาล่ะ อย่ามาขัดความสุขของฉันอีก แกทำให้ชีวิตฉันไม่มีความสุขมาตลอด 10 ปีแล้ว ถ้าแกไป ความสุขของฉันก็จะกลับมา เลิกถามเซ้าซี้ซะที”
   
เด็กหญิงนิ่งเงียบ ไม่ถามอะไรผู้เป็นแม่อีกต่อไป แม่ของเธอย้ำชัดเจนอยู่แล้วว่าลูกคนนี้เป็นตัวเกะกะที่ไม่ต้องการ ถ้าแม่ไม่ต้องการ เธอยังมีพ่อให้ไปหา แต่ถ้าพ่อของเธอก็ไม่ต้องการเธออีกคน แล้วชีวิตที่เหลือของเธอจะเป็นอย่างไร หรือว่าที่แม่ของเธอพูดนั้นถูกต้อง เธอเป็นคนผิด ผิดตั้งแต่ต้น ผิดที่เกิดมา ถ้าเธอไม่เกิดมา คงไม่ต้องเผชิญเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2525 เด็กหญิงตัวน้อยก็ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ถือว่าเป็นเด็กที่โชคดีมากคนหนึ่ง ได้รับความรักและการทะนุถนอมมาตั้งแต่เกิด ทั้งจากแม่ พ่อ ป้า ลุง และคนรอบข้างโดยทั่วไป เว้นแต่เพียงย่าของเด็กหญิงคนเดียวเท่านั้นที่รังเกียจเธออย่างกับอะไรดี
   
“ธราเป็นยังไงบ้างครับหมอ?” ศักดิ์ชัยถามอย่างร้อนรน เมื่อนายแพทย์เดินออกมาจากห้อง ชายวัยกลางคนยิ้มให้เขา “ปลอดภัยดีทั้งแม่และเด็กครับ คุณเป็นสามีคนไข้ใช่ไหมครับ?” ท้ายประโยคเสียงของนายแพทย์ดูแผ่วลง
   
“ใช่ครับ”
   
“หมอขอเชิญคุณไปคุยที่ห้องหน่อยนะครับ” น้ำเสียงของนายแพทย์เคร่งเครียดจนผู้ฟังจับความรู้สึกได้ ศักดิ์ชัยพยักหน้ารับและเดินตามนายแพทย์ไป โดยมียศสวิน พี่ชายตามไปด้วย
   
“ว่ายังไงนะครับ” ชายหนุ่มร้องเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำบอกกล่าวของนายแพทย์
   
“ครับ...ร่างกายคนไข้อ่อนแอมากนะครับ ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาตรวจแล้ว เมื่อครู่ตอนคลอด คนไข้ก็เสียเลือดไปมาก ร่างกายทรุดลง หมอคงต้องบอกคุณไว้นะครับว่าคนไข้จะไม่สามารถมีลูกได้อีก เสียใจด้วยนะครับ”
   
“แล้วภรรยาผมล่ะครับ??....”
   
“ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้วครับ แต่หมอต้องขอเตือนคนใกล้ชิดเอาไว้ว่าสุขภาพร่างกายเธออ่อนแอมากนะครับ ทางที่ดี อย่าให้เธอทำงานหนักหรือว่าฝืนกำลังจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของชีวิตของเธอเองนะครับ หมอไม่มั่นใจว่าถ้าร่างกายของเธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ตัวของเธอจะทนรับไหวหรือเปล่า”
   
คำบอกของนายแพทย์เป็นเสมือนคำตอกย้ำว่าตัวเขาเองไม่สามารถดูแลธราธารให้มีความสุขได้ดีพอ ถ้าเขาใส่ใจดูแลเธอให้มากกว่านี้ สุขภาพของธราธารคงจะไม่ย่ำแย่ขนาดนี้อย่างแน่นอน
   
“แล้วก็อีกเรื่องนะครับ สุขภาพใจก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าคนไข้มีกำลังใจดี สุขภาพของเธอก็จะดีขึ้นเป็นลำดับ จิตใจที่ดีจะอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์ สองสิ่งนี้สัมพันธ์กันนะครับ”
   
“น่ารักจังเลยธรา ดูสิตาแป๋วเชียว” ตุลยดาหยอกล้อกับหลานสาวอย่างสนุกสนาน
   
“ยัยหนูแข็งแรงดีใช่ไหมคะ?”
   
“จ๊ะ...ว่าแต่นายศักดิ์กับอีตาคุณยศหายไปไหนเนี่ย ไม่รู้จักมาดูลูกดูหลาน คุณแม่ก็อีกคน เห็นเป็นหลานสาวก็เลยไม่สนใจงั้นสิ ใช้ได้ที่ไหนกัน” เมื่อได้ยินพี่สะใภ้พูด ธราธารก็หุบยิ้มลงทันที ย้อนนึกถึงคำพูดของแม่สามีที่ก้องอยู่ในใจตลอดเวลา
   
“ฉันไม่ต้องการหลานสาว”
“ฉันไม่ต้องการหลานสาว”
“ฉันไม่ต้องการหลานสาว”
“ขอโทษนะธรา พี่ก็พูดไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจเลย มีย่ายายที่ไหนที่ไม่รักหลานตัวเอง คงติดธุระอยู่ไหนมากกว่า” ดูเหมือนว่าตุลยดาจะเข้าใจความรู้สึกของน้องสะใภ้ จึงรีบพูดให้กำลังใจ
   
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ธราเข้าใจ”
   
“นายศักดิ์มาพอดีเลย มาดูสิ หลานพี่น่ารักมากเลย” ตุลยดาดึงตัวศักดิ์ชัยให้เข้ามาดูลูกสาวตัวน้อยของเขา แต่สีหน้าของชายหนุ่มไม่มีความยินดีเลย
   
“เป็นอะไรไป ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ?”
   
“ผมหิวแล้ว เราไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ” ยศสวินที่เข้าใจเรื่องทั้งหมดเดินเข้าไปดึงมือตุลยดาให้ออกไปกับตนเอง เพื่อไม่ให้ขัดจังหวะการสนทนาของคนทั้งสอง
   
“พี่ศักดิ์ไม่พอใจใช่ไหมคะ? ถึงพี่ศักดิ์จะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ยังไง....ธราขอโทษนะคะ ธราขอโทษ”
   
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะธรา ไม่ใช่เรื่องลูก คุณไม่ผิดหรอก คนที่ผิดคือผมเอง ผมเองธรา” ศักดิ์ชัยค่อยๆ บอกธราธารในสิ่งที่นายแพทย์บอกเขาเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา หญิงสาวมีท่าทีตกใจและเศร้าโศกเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน
   
“นึกว่าอะไรใหญ่โต ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะพี่ศักดิ์ แค่มียัยหนูคนเดียว ธรายังไม่รู้จะเลี้ยงไหวหรือเปล่าเลย แต่ธราห่วงเรื่องคุณแม่ ท่านคงผิดหวังมาก”
   
“ผมคิดว่าคุณแม่ท่านพูดอย่างนั้นไปเองมากกว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ท่านจะต้องไม่รักหลาน ธราพักผ่อนให้สบายเถอะ ไว้แข็งแรงเมื่อไรค่อยกลับบ้าน”
   
“พี่ศักดิ์เสียใจเรื่องลูกหรือเปล่าคะ ที่แกไม่ใช่เด็กผู้ชาย”
   
“ไม่เลย ไม่...ดีใจด้วยซ้ำ เป็นผู้หญิงสิดี โตแล้วเหมือนธรา เหมือนคนที่ผมรักมากที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด”
   
หลังจากที่ธราธารแข็งแรงขึ้นมาก นายแพทย์จึงอนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ วันนั้น ทุกคนมารับเธอทั้งศักดิ์ชัย ตุลยดา ยศสวิน สายธารและบุหงาต่างมากันพร้อมหน้า ยกเว้นแต่รัตนาเท่านั้นที่ไม่ยอมมาเยี่ยมเลยแม้สักครั้งเดียว
   
“คุณแม่ครับ” ศักดิ์ชัยเดินเข้าไปเรียกรัตนาให้ออกมาดูลูกสาวตัวน้อยของเขา ผู้เป็นแม่ทำสีหน้าไม่พอใจสักเท่าไรแต่ก็ยอมตามบุตรชายไปดูหลาน
   
“คุณหนูน่ารักน่าชังจริงค่ะ ให้ป้าช่วยเลี้ยงด้วยนะคะคุณธรา”
   
“เอะอะอะไรกัน เด็กนั่นจะน่ารักเท่าไรกันเชียว” รัตนาเดินเข้ามาในห้องรับแขก มองผ่านหลานสาวไปอย่างไม่สนใจ เพียงเพราะเป็นหลานสาวไม่ใช่หลานชายผู้สืบทอดดังที่หวังเอาไว้แต่ต้น
   
“ธราขอโทษค่ะที่หลานไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่คุณแม่หวังเอาไว้”
   
“รู้ตัวก็ดี ไม่ต้องให้ฉันเตือน แล้วที่เรียกฉันออกมามีธุระอะไรไม่ทราบ”
   
“ธราอยากจะขอให้คุณแม่ช่วยตั้งชื่อให้ค่ะ” ธราธารเอ่ยขึ้น ความจริงแล้ว บุหงาก็อยากช่วยตั้งชื่อหลาน แต่เพราะธราธารขอเอาไว้ว่าเรื่องนี้ให้รัตนาเป็นคนตัดสินใจ จึงรอไว้จนออกจากโรงพยาบาลก่อน
   
“ฉันเคยบอกไปแล้วนี่ ฉันไม่ต้องการหลานสาว ถ้าอยากตั้งชื่อ ก็รู้จักใช้ปัญญาตั้งเอาเองสิ ฉันไม่ใช่ขี้ข้าคอยทำตามคำสั่งหล่อนหรอกนะ” รัตนาพูดเสียงแข็งกระด้างก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปอย่างไม่สนใจในตัวของหลานสาวแท้ๆ เลย
   
“งั้นก็ไม่เป็นไร เราตั้งกันเองก็ได้ คุณแม่ท่านคงไม่ว่างเท่าไร ธราคิดชื่อไว้บ้างหรือยัง”
   
“ค่ะ...แต่ไม่รู้จะดีหรือเปล่า”
   
“ชื่ออะไรเหรอจ๊ะ ลองบอกมาหน่อยซิ” ตุลยดาเร่งเร้าอย่างตื่นเต้น
   
“ฝัน...ชื่อเล่นว่าฝัน ชื่อจริงก็ทอฝัน เป็นยังไงคะ ดีไหม?” ธราธารถามอย่างไม่มั่นใจกับชื่อที่ตัวเองตั้ง
   
“ดีๆ เอาชื่อนี้เลย ความหมายดีออก หลานทอฝัน”
   
และผลสรุปแล้ว ชื่อของเด็กหญิงก็คือ ทอฝัน หลานคนโตของเสถียรวงศ์ ด้วยความที่ธราธารไม่สามารถมีลูกได้อีก หญิงสาวจึงทุ่มเทความรักและความเอาใส่ทั้งหมดไปที่ทอฝัน แต่อย่างไรก็ตาม ความผูกผันระหว่างแม่กับลูกก็มักจะเกิดอุปสรรค เพราะรัตนามักสั่งให้ธราธารทำงานต่างๆ ในบ้านอยู่เสมอ แม้จะเหนื่อยกายและลำบากใจ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยปริปากบ่นในเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย โดยเฉพาะกับทอฝันแล้ว ธราธารจะทำตัวมีความสุขให้ลูกสาวเห็นเสมอๆ
   
เวลา 5 ปีผ่านไป ทำให้เด็กหญิงทอฝันเติบโตขึ้นเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส เป็นที่รักของทุกคน ช่วงเวลานี้เองที่เด็กหญิงได้รู้จักกับพี่วินท์ หรือวิธวินท์  สุธรรมรพี ลูกชายของเพื่อนสนิทของศักดิ์ชัย ซึ่งมักจะแวะมาที่บ้านเสมอ ทำให้เด็กทั้งสองสนิทสนมกันมาก วิธวินท์แก่กว่าทอฝัน 3 ปี เขาจึงเป็นพี่ชายที่แสนดีที่คอยดูแลทอฝันเสมอมา เป็นเพื่อนเล่นกับเธอยามที่เธอเหงาหรือยามที่ธราธารไม่ว่าง เรื่องทั้งหมดน่าจะดำเนินต่อไปด้วยดี ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเสียก่อน
“แม่มีข่าวดีจะบอกทุกคน” รัตนาเปิดฉากพูดเมื่อถึงเวลาอาหารมื้อเย็น
   
“ข่าวดี?”
   
“ใช่....”
   
“เป็นเรื่องบริษัทหรือครับ ผมไม่เห็นว่าจะมีอะไรพิเศษนี่ครับ” ยศสวินพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ ข่าวดีของมารดาไม่น่าจะใช่เรื่องที่บริษัท เขาและน้องชายทำงานที่บริษัททุกวัน ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มารดาจะรู้เรื่องเร็วกว่าเขาหรือน้องชาย
   
“ข่าวดีเกี่ยวกับตาศักดิ์” รัตนาพูดขึ้นอย่างเป็นนัยๆ
   
“เกี่ยวกับผมเหรอครับ” ศักดิ์ชัยทวนคำอย่างแปลกใจ
   
“แม่ขอพูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน แม่ธรา ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ ในเมื่อหล่อนไม่สามารถให้ทายาทกับเสถียรวงศ์ได้ หล่อนก็ต้องรู้จักเสียสละแล้วก็ให้โอกาสกับคนอื่นเขาบ้าง”
   
“เสียสละแล้วก็ให้โอกาสเหรอคะ?”
   
“ใช่แล้ว เสถียรวงศ์จะไร้ซึ่งทายาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะฉะนั้น แม่จะให้ตาศักดิ์มีเมียอีกคน”
   
“คุณแม่ว่ายังไงนะคะ / ครับ” ศักดิ์ชัยและตุลยดาร้องขึ้นพร้อมกัน
   
“ได้ยินไม่ผิดหรอกทั้งสองคน แต่ไม่ต้องห่วง แม่ไม่เลือกผู้หญิงที่ไหนก็ได้มาหรอก คนๆ นี้เป็นคนมีชาติตระกูลดี แล้วเขาก็รักแกด้วย ...หนูบุษราคัม...”
   
“ไม่ได้นะครับคุณแม่” ศักดิ์ชัยรีบพูดทันทีที่ได้ยิน เขารักธราธารเพียงคนเดียวเท่านั้น ในหัวใจของเขามีแต่ธราธารเท่านั้น แค่เพียงคนเดียว
   
“ใช่ค่ะ คุณแม่คะ นี่มันสมัยไหนแล้วคะ จะให้นายศักดิ์มีบ้านเล็กบ้านน้อย ไม่จำเป็นว่าทายาทต้องเป็นผู้ชายนี่คะ ทอฝันก็ดูแลกิจการของเราได้ สมัยนี้ผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชายมีถมไป ทำไมจะต้องมายึดติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ด้วย แล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง คุณแม่มั่นใจได้ยังไงคะว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นเข้ามา เขาจะให้หลานชายกับคุณแม่ได้...ที่สำคัญ คุณแม่เคยนึกถึงใจของนายศักดิ์กับธราบ้างไหมคะ โดยเฉพาะธรา จะให้ทนดูอยู่หน้าตาเฉยได้ยังไง”
   
“ฉันไม่รู้ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว หนูบุษเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรด้วย ที่ฉันทำไปเพื่อตระกูลเท่านั้น มันช่วยไม่ได้นี่ ถ้าแม่ธราให้ทายาทได้ ฉันคงไม่ต้องทำอะไรแบบนี้หรอก” ไม่ว่าอย่างไร ผู้ผิดทั้งขึ้นทั้งล่องก็คือธราธารอยู่ดี หญิงสาวฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลรินออกมา จะเจ็บช้ำเพียงใดก็จงกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้ เพื่อเขาและทอฝัน เพื่อครอบครัวที่รักของตัวเธอเอง
   
“ว่ายังไงนะยัยบุษ นี่แกจะเข้าไปเป็นสะใภ้บ้านนั้นเหรอ แต่เขาแต่งงานกับแม่อะไรนั่นแล้วไม่ใช่เหรอ แกพลาดไปแล้วนี่”
   
“เอ๊ะ! แม่นี่ยังไงนะ บุษบอกว่าอย่างนั้นก็ต้องอย่างนั้นสิ หรือว่าแม่ไม่อยากใช้เงินของคุณป้ารัตนา ถ้าแม่ไม่อยากบุษก็ไม่ว่าหรอก อยากอดมื้อกินมื้อก็ช่าง แต่บุษไม่เอาด้วยหรอก บุษทำทุกอย่างเพราะบุษไม่อยากจน บุษเกลียดความจนที่สุด แล้วที่บุษบอกก็เป็นความต้องการของคุณป้ารัตนาด้วย เขาเสนอมา บุษก็ช่วยตอบสนองให้ก็แค่นั้น”
   
“แล้วแม่คนนั้นล่ะ ได้ยินว่ามีลูกด้วยกันแล้วไม่ใช่เหรอ เขาจะยอมแกหรือไง?”
   
“อย่างยัยหน้าโง่หน้าซื่อนั่นนะเหรอ เฮอะ! จะมาสู้อะไรบุษได้ มันสิต้องกลัวบุษไม่ใช่บุษกลัวมัน แล้วก็อีกอย่าง บุษรู้ดีว่าคุณป้ารัตนาไม่ค่อยอยากได้แม่นั่นเป็นลูกสะใภ้สักเท่าไร แต่ก็ดีเหมือนกัน บุษจะได้เข้าไปทำลายความรักของสองคนนั่น เห็นว่ารักกันนักรักกันหนา สักวันยัยนั่นจะต้องกระเด็นออกไป แล้วทุกอย่างก็จะกลายเป็นของบุษราคัมคนนี้คนเดียวเท่านั้น” บุษราคัมเอ่ยอย่างมาดหมาย ความชั่วร้ายภายใต้ใบหน้างดงามน่าหลงใหลค่อยๆ ปรากฏออกมาชัดเจนขึ้นทุกขณะ ...แผนการอันชั่วร้ายนี้จะเป็นไปดังที่หญิงสาวคาดหวังหรือไม่??...
 
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
นับตั้งแต่ธราธารกลับจากโรงพยาบาล และทุกคนในบ้านรู้ข่าวดีกันแล้ว ตุลยดาจึงถือโอกาสนี้ทำให้เป็นช่วงเวลาอิสระและเวลาแห่งความสุขของธราธาร เธอพูดกับรัตนาเรื่องของธราธาร และขอให้รัตนาเลิกใช้งานหญิงสาว โดยมีเหตุผลสำคัญเป็นข้ออ้าง...ทายาทของเสถียรวงศ์...   
   
“ขอบคุณค่ะพี่ดา”
   
“ไม่เป็นไร แค่นี้คุณแม่ก็ไม่กล้าอีกแล้ว เขาว่าไว้นะธรา เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง คอยดูเถอะ ไว้ธราคลอดเมื่อไร คุณแม่จะเห่อหลานยิ่งกว่าอะไร คราวนี้ท่านก็ไม่กล้าทำอะไรแม่ของหลานแล้วล่ะ ถ้ามีลูกนะ ก็ไม่ต้องรับใช้คุณแม่ เหตุผลของเราน่ะสำคัญเชียวนะ ต้องดูแลทายาทคนโตไงล่ะ”
   
“คุยอะไรกันครับสาวๆ” ศักดิ์ชัยเดินเข้ามาพร้อมกับพี่ชาย
   
“เปล่าจ๊ะ เปล่า นี่จะมาทวงสิทธิ์ดูแลธราล่ะสิ”
   
“ก็....ครับ พี่ดาไม่อยู่ด้วย เฮียเหงาแย่”
   
“นายคนเนี้ยนะเหรอ แมวไม่อยู่ หนูร่าเริงล่ะมากกว่า ใช่ไหมคุณยศสวิน” ตุลยดาหันไปเอาเรื่องยศสวิน
   
“ผิดแล้วมั้ง ผมน่ะแมว คุณสิหนู”
   
“เอ๊ะ! นี่คุณเถียงฉันเหรอ มานี่เลยนะ” ว่าแล้วแมวและหนูก็วิ่งไล่กันอีกตามเคย ทิ้งให้สองหนุ่มสาวอยู่ด้วยกันตามลำพัง ธราธารหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขกับภาพที่เห็น อาการของเธอทำให้ศักดิ์ชัยหันมามองอย่างดีใจ นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงหัวเราะอันสดใสของเธอ คงจะเป็นตั้งแต่ที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และได้พบกับมารดาของเขา
   
“ธราหัวเราะ....ผมไม่ได้ยินธราหัวเราะแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ผมทำลายความสุขของคุณใช่ไหมธรา เพราะผม...” เขาก้มหน้าแล้วพร่ำกล่าวโทษตนเอง ทันใดนั้น มืออันอ่อนโยนก็เอื้อมมาสัมผัสใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา “ไม่ใช่ความผิดพี่ศักดิ์หรอกค่ะ ไม่ใช่” หญิงสาวยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน
   
“ธราดีใจนะคะที่ได้อยู่ที่นี่ อยู่กับพี่ศักดิ์ ทุกคนดีกับธราทั้งนั้น ทั้งพี่ดา พี่ยศ ป้าน้อม คุณแม่ แล้วก็คนอื่นๆ ธราไม่เคยเสียใจที่เลือกชีวิตแบบนี้ ธรามีความสุขต่างหากค่ะ พี่ศักดิ์อย่าคิดมากอีกเลยนะคะ”
   
“ผมดีใจนะธรา ดีใจที่ได้เจอ ดีใจที่ได้แต่งงานกับธรา ทั้งๆ ที่มีคนคู่ควรกับธรามากกว่าผมตั้งเยอะ ผมสัญญา ผมจะดูแลธราให้ดีที่สุด แล้วก็ลูกของเราด้วย เชื่อผมนะ”
   
“ค่ะ ธราเชื่อพี่ศักดิ์ ธราเชื่อพี่ศักดิ์เสมอ” ชายหนุ่มโอบตัวภรรยาเข้าไปในวงแขน เขากอดเธอเอาไว้แน่นอย่างปลื้มใจ แต่เวลาแห่งความสุขมักจะจากไปอย่างรวดเร็วเสมอ ยังไม่มีใครรู้ว่าอนาคตเรื่องราวจะผลิกผันเป็นเช่นไร มันจะอาจจะเลวร้ายหรือสงบสุขก็เป็นได้
   
นับตั้งแต่วันนั้นมา ชีวิตของธราธารก็ดูจะราบรื่นและดำเนินไปด้วยดีมากยิ่งขึ้น รัตนาก็ไม่ใช้งานเธอหนักเหมือนแต่ก่อนอีก แต่ก็ไม่ใช่ยอมรับและเมตตาในตัวสะใภ้เล็กเสียทีเดียว ยังคงตั้งแง่รังเกียจอยู่ตามเดิม
   
“เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณหมอนัดไปตรวจใช่ไหมธรา?”
   
“ค่ะ พี่ดา เกือบลืมไปพอดี”
   
“ลืมไม่ได้นะจ๊ะ พรุ่งนี้พี่ว่างพอดี เดี๋ยวพี่พาไปเองแล้วกัน กี่โมงล่ะ?”
   
“10.00 น. ค่ะ”
   
“อ้อ!...แล้วให้หมอเขาตรวจหรือเปล่าว่าเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง?” รัตนาถามขึ้น
   
“ยังครับ แต่ผมคิดว่าคงไม่ต้อง จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ครับ” ศักดิ์ชัยเอ่ยอย่างไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ผิดกับรัตนา
   
“ไม่เป็นอะไรซะที่ไหน ตระกูลเสถียรวงศ์ต้องมีคนสืบทอด ถ้าเป็นผู้หญิงก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ หลานของฉันต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นนะแม่ธรา ถ้าเป็นผู้หญิง อย่าให้เกิดมาเลยจะยังดีกว่า”
   
“คุณแม่คะ พูดอย่างนี้ได้ยังไง ถึงจะเป็นเด็ก แต่ก็มีชีวิตนะคะ เขามีสิทธิ์จะเกิดมา จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สืบทอดได้ทั้งนั้นแหละค่ะ” ตุลยดาเถียงแม่สามี เธอไม่เข้าใจว่าเมื่อไรจะเลิกนิสัยหัวโบราณไม่เข้าเรื่องแบบนี้สักที
   
“ไม่รู้ล่ะ ฉันแค่อยากจะบอกเอาไว้ ฉันไม่ต้องการหลานสาว” ประมุขของบ้านย้ำอีกครั้งก่อนจะลุกจากโต๊ะรับประทานอาหารไปอย่างไม่พอใจที่สะใภ้ใหญ่เถียงตนเอง
   
“พี่ศักดิ์อยากได้ลูกชายหรือว่าลูกสาวมากกว่ากันคะ?” ธราธารถามอย่างกังวลใจ
   
“อย่างที่ผมเคยพูดนั่นแหละ จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็เหมือนกัน ขอให้เป็นลูกของธรา เป็นลูกของเรา แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงผมก็รักทั้งนั้น เพราะ...” ชายหนุ่มหยุดพูดพร้อมกับมองหน้าธราธาร
   
“เพราะอะไรคะ?”
   
“เพราะผมรักแม่ของลูกเหลือเกิน รักมากกว่าอะไรทั้งหมด”
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
   
“ออกรถได้แล้ว จะได้ไปถึงเร็วๆ”
   
“ทำไมคะแม่? ทำไมแม่ถึงไม่รักหนูละคะ??” ตาฬิกาถามมารดาขณะที่อยู่ในรถเพื่อเดินไปทางไปหาพ่อที่แท้จริงของเธอ อย่างน้อยสักครั้งก่อนที่อาจจะไม่ได้เจอกันอีก เด็กน้อยอยากรู้จากปากของแม่ว่ารักเธอบ้างหรือเปล่า
   
“ฉันจะรักแกหรือไม่รักก็ไม่ต่างกัน เพราะฉันไม่ต้องการแก”
   
“แต่แม่ก็เลี้ยงหนูมาตั้ง 10 กว่าปีนี่คะ”
   
“แต่ 10 ปีนั่นเป็นความทรมานของฉัน แกไม่ต้องมาสงสัยให้มาก อยากรู้อะไรก็ไปถามพ่อแกนู่น แล้วก็ไม่ต้องกลับมาล่ะ อย่ามาขัดความสุขของฉันอีก แกทำให้ชีวิตฉันไม่มีความสุขมาตลอด 10 ปีแล้ว ถ้าแกไป ความสุขของฉันก็จะกลับมา เลิกถามเซ้าซี้ซะที”
   
เด็กหญิงนิ่งเงียบ ไม่ถามอะไรผู้เป็นแม่อีกต่อไป แม่ของเธอย้ำชัดเจนอยู่แล้วว่าลูกคนนี้เป็นตัวเกะกะที่ไม่ต้องการ ถ้าแม่ไม่ต้องการ เธอยังมีพ่อให้ไปหา แต่ถ้าพ่อของเธอก็ไม่ต้องการเธออีกคน แล้วชีวิตที่เหลือของเธอจะเป็นอย่างไร หรือว่าที่แม่ของเธอพูดนั้นถูกต้อง เธอเป็นคนผิด ผิดตั้งแต่ต้น ผิดที่เกิดมา ถ้าเธอไม่เกิดมา คงไม่ต้องเผชิญเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2525 เด็กหญิงตัวน้อยก็ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ถือว่าเป็นเด็กที่โชคดีมากคนหนึ่ง ได้รับความรักและการทะนุถนอมมาตั้งแต่เกิด ทั้งจากแม่ พ่อ ป้า ลุง และคนรอบข้างโดยทั่วไป เว้นแต่เพียงย่าของเด็กหญิงคนเดียวเท่านั้นที่รังเกียจเธออย่างกับอะไรดี
   
“ธราเป็นยังไงบ้างครับหมอ?” ศักดิ์ชัยถามอย่างร้อนรน เมื่อนายแพทย์เดินออกมาจากห้อง ชายวัยกลางคนยิ้มให้เขา “ปลอดภัยดีทั้งแม่และเด็กครับ คุณเป็นสามีคนไข้ใช่ไหมครับ?” ท้ายประโยคเสียงของนายแพทย์ดูแผ่วลง
   
“ใช่ครับ”
   
“หมอขอเชิญคุณไปคุยที่ห้องหน่อยนะครับ” น้ำเสียงของนายแพทย์เคร่งเครียดจนผู้ฟังจับความรู้สึกได้ ศักดิ์ชัยพยักหน้ารับและเดินตามนายแพทย์ไป โดยมียศสวิน พี่ชายตามไปด้วย
   
“ว่ายังไงนะครับ” ชายหนุ่มร้องเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำบอกกล่าวของนายแพทย์
   
“ครับ...ร่างกายคนไข้อ่อนแอมากนะครับ ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาตรวจแล้ว เมื่อครู่ตอนคลอด คนไข้ก็เสียเลือดไปมาก ร่างกายทรุดลง หมอคงต้องบอกคุณไว้นะครับว่าคนไข้จะไม่สามารถมีลูกได้อีก เสียใจด้วยนะครับ”
   
“แล้วภรรยาผมล่ะครับ??....”
   
“ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้วครับ แต่หมอต้องขอเตือนคนใกล้ชิดเอาไว้ว่าสุขภาพร่างกายเธออ่อนแอมากนะครับ ทางที่ดี อย่าให้เธอทำงานหนักหรือว่าฝืนกำลังจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของชีวิตของเธอเองนะครับ หมอไม่มั่นใจว่าถ้าร่างกายของเธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ตัวของเธอจะทนรับไหวหรือเปล่า”
   
คำบอกของนายแพทย์เป็นเสมือนคำตอกย้ำว่าตัวเขาเองไม่สามารถดูแลธราธารให้มีความสุขได้ดีพอ ถ้าเขาใส่ใจดูแลเธอให้มากกว่านี้ สุขภาพของธราธารคงจะไม่ย่ำแย่ขนาดนี้อย่างแน่นอน
   
“แล้วก็อีกเรื่องนะครับ สุขภาพใจก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าคนไข้มีกำลังใจดี สุขภาพของเธอก็จะดีขึ้นเป็นลำดับ จิตใจที่ดีจะอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์ สองสิ่งนี้สัมพันธ์กันนะครับ”
   
“น่ารักจังเลยธรา ดูสิตาแป๋วเชียว” ตุลยดาหยอกล้อกับหลานสาวอย่างสนุกสนาน
   
“ยัยหนูแข็งแรงดีใช่ไหมคะ?”
   
“จ๊ะ...ว่าแต่นายศักดิ์กับอีตาคุณยศหายไปไหนเนี่ย ไม่รู้จักมาดูลูกดูหลาน คุณแม่ก็อีกคน เห็นเป็นหลานสาวก็เลยไม่สนใจงั้นสิ ใช้ได้ที่ไหนกัน” เมื่อได้ยินพี่สะใภ้พูด ธราธารก็หุบยิ้มลงทันที ย้อนนึกถึงคำพูดของแม่สามีที่ก้องอยู่ในใจตลอดเวลา
   
“ฉันไม่ต้องการหลานสาว”
“ฉันไม่ต้องการหลานสาว”
“ฉันไม่ต้องการหลานสาว”
“ขอโทษนะธรา พี่ก็พูดไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจเลย มีย่ายายที่ไหนที่ไม่รักหลานตัวเอง คงติดธุระอยู่ไหนมากกว่า” ดูเหมือนว่าตุลยดาจะเข้าใจความรู้สึกของน้องสะใภ้ จึงรีบพูดให้กำลังใจ
   
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ธราเข้าใจ”
   
“นายศักดิ์มาพอดีเลย มาดูสิ หลานพี่น่ารักมากเลย” ตุลยดาดึงตัวศักดิ์ชัยให้เข้ามาดูลูกสาวตัวน้อยของเขา แต่สีหน้าของชายหนุ่มไม่มีความยินดีเลย
   
“เป็นอะไรไป ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ?”
   
“ผมหิวแล้ว เราไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ” ยศสวินที่เข้าใจเรื่องทั้งหมดเดินเข้าไปดึงมือตุลยดาให้ออกไปกับตนเอง เพื่อไม่ให้ขัดจังหวะการสนทนาของคนทั้งสอง
   
“พี่ศักดิ์ไม่พอใจใช่ไหมคะ? ถึงพี่ศักดิ์จะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ยังไง....ธราขอโทษนะคะ ธราขอโทษ”
   
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะธรา ไม่ใช่เรื่องลูก คุณไม่ผิดหรอก คนที่ผิดคือผมเอง ผมเองธรา” ศักดิ์ชัยค่อยๆ บอกธราธารในสิ่งที่นายแพทย์บอกเขาเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา หญิงสาวมีท่าทีตกใจและเศร้าโศกเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน
   
“นึกว่าอะไรใหญ่โต ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะพี่ศักดิ์ แค่มียัยหนูคนเดียว ธรายังไม่รู้จะเลี้ยงไหวหรือเปล่าเลย แต่ธราห่วงเรื่องคุณแม่ ท่านคงผิดหวังมาก”
   
“ผมคิดว่าคุณแม่ท่านพูดอย่างนั้นไปเองมากกว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ท่านจะต้องไม่รักหลาน ธราพักผ่อนให้สบายเถอะ ไว้แข็งแรงเมื่อไรค่อยกลับบ้าน”
   
“พี่ศักดิ์เสียใจเรื่องลูกหรือเปล่าคะ ที่แกไม่ใช่เด็กผู้ชาย”
   
“ไม่เลย ไม่...ดีใจด้วยซ้ำ เป็นผู้หญิงสิดี โตแล้วเหมือนธรา เหมือนคนที่ผมรักมากที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด”
   
หลังจากที่ธราธารแข็งแรงขึ้นมาก นายแพทย์จึงอนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ วันนั้น ทุกคนมารับเธอทั้งศักดิ์ชัย ตุลยดา ยศสวิน สายธารและบุหงาต่างมากันพร้อมหน้า ยกเว้นแต่รัตนาเท่านั้นที่ไม่ยอมมาเยี่ยมเลยแม้สักครั้งเดียว
   
“คุณแม่ครับ” ศักดิ์ชัยเดินเข้าไปเรียกรัตนาให้ออกมาดูลูกสาวตัวน้อยของเขา ผู้เป็นแม่ทำสีหน้าไม่พอใจสักเท่าไรแต่ก็ยอมตามบุตรชายไปดูหลาน
   
“คุณหนูน่ารักน่าชังจริงค่ะ ให้ป้าช่วยเลี้ยงด้วยนะคะคุณธรา”
   
“เอะอะอะไรกัน เด็กนั่นจะน่ารักเท่าไรกันเชียว” รัตนาเดินเข้ามาในห้องรับแขก มองผ่านหลานสาวไปอย่างไม่สนใจ เพียงเพราะเป็นหลานสาวไม่ใช่หลานชายผู้สืบทอดดังที่หวังเอาไว้แต่ต้น
   
“ธราขอโทษค่ะที่หลานไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่คุณแม่หวังเอาไว้”
   
“รู้ตัวก็ดี ไม่ต้องให้ฉันเตือน แล้วที่เรียกฉันออกมามีธุระอะไรไม่ทราบ”
   
“ธราอยากจะขอให้คุณแม่ช่วยตั้งชื่อให้ค่ะ” ธราธารเอ่ยขึ้น ความจริงแล้ว บุหงาก็อยากช่วยตั้งชื่อหลาน แต่เพราะธราธารขอเอาไว้ว่าเรื่องนี้ให้รัตนาเป็นคนตัดสินใจ จึงรอไว้จนออกจากโรงพยาบาลก่อน
   
“ฉันเคยบอกไปแล้วนี่ ฉันไม่ต้องการหลานสาว ถ้าอยากตั้งชื่อ ก็รู้จักใช้ปัญญาตั้งเอาเองสิ ฉันไม่ใช่ขี้ข้าคอยทำตามคำสั่งหล่อนหรอกนะ” รัตนาพูดเสียงแข็งกระด้างก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปอย่างไม่สนใจในตัวของหลานสาวแท้ๆ เลย
   
“งั้นก็ไม่เป็นไร เราตั้งกันเองก็ได้ คุณแม่ท่านคงไม่ว่างเท่าไร ธราคิดชื่อไว้บ้างหรือยัง”
   
“ค่ะ...แต่ไม่รู้จะดีหรือเปล่า”
   
“ชื่ออะไรเหรอจ๊ะ ลองบอกมาหน่อยซิ” ตุลยดาเร่งเร้าอย่างตื่นเต้น
   
“ฝัน...ชื่อเล่นว่าฝัน ชื่อจริงก็ทอฝัน เป็นยังไงคะ ดีไหม?” ธราธารถามอย่างไม่มั่นใจกับชื่อที่ตัวเองตั้ง
   
“ดีๆ เอาชื่อนี้เลย ความหมายดีออก หลานทอฝัน”
   
และผลสรุปแล้ว ชื่อของเด็กหญิงก็คือ ทอฝัน หลานคนโตของเสถียรวงศ์ ด้วยความที่ธราธารไม่สามารถมีลูกได้อีก หญิงสาวจึงทุ่มเทความรักและความเอาใส่ทั้งหมดไปที่ทอฝัน แต่อย่างไรก็ตาม ความผูกผันระหว่างแม่กับลูกก็มักจะเกิดอุปสรรค เพราะรัตนามักสั่งให้ธราธารทำงานต่างๆ ในบ้านอยู่เสมอ แม้จะเหนื่อยกายและลำบากใจ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยปริปากบ่นในเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย โดยเฉพาะกับทอฝันแล้ว ธราธารจะทำตัวมีความสุขให้ลูกสาวเห็นเสมอๆ
   
เวลา 5 ปีผ่านไป ทำให้เด็กหญิงทอฝันเติบโตขึ้นเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส เป็นที่รักของทุกคน ช่วงเวลานี้เองที่เด็กหญิงได้รู้จักกับพี่วินท์ หรือวิธวินท์  สุธรรมรพี ลูกชายของเพื่อนสนิทของศักดิ์ชัย ซึ่งมักจะแวะมาที่บ้านเสมอ ทำให้เด็กทั้งสองสนิทสนมกันมาก วิธวินท์แก่กว่าทอฝัน 3 ปี เขาจึงเป็นพี่ชายที่แสนดีที่คอยดูแลทอฝันเสมอมา เป็นเพื่อนเล่นกับเธอยามที่เธอเหงาหรือยามที่ธราธารไม่ว่าง เรื่องทั้งหมดน่าจะดำเนินต่อไปด้วยดี ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเสียก่อน
“แม่มีข่าวดีจะบอกทุกคน” รัตนาเปิดฉากพูดเมื่อถึงเวลาอาหารมื้อเย็น
   
“ข่าวดี?”
   
“ใช่....”
   
“เป็นเรื่องบริษัทหรือครับ ผมไม่เห็นว่าจะมีอะไรพิเศษนี่ครับ” ยศสวินพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ ข่าวดีของมารดาไม่น่าจะใช่เรื่องที่บริษัท เขาและน้องชายทำงานที่บริษัททุกวัน ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มารดาจะรู้เรื่องเร็วกว่าเขาหรือน้องชาย
   
“ข่าวดีเกี่ยวกับตาศักดิ์” รัตนาพูดขึ้นอย่างเป็นนัยๆ
   
“เกี่ยวกับผมเหรอครับ” ศักดิ์ชัยทวนคำอย่างแปลกใจ
   
“แม่ขอพูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน แม่ธรา ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ ในเมื่อหล่อนไม่สามารถให้ทายาทกับเสถียรวงศ์ได้ หล่อนก็ต้องรู้จักเสียสละแล้วก็ให้โอกาสกับคนอื่นเขาบ้าง”
   
“เสียสละแล้วก็ให้โอกาสเหรอคะ?”
   
“ใช่แล้ว เสถียรวงศ์จะไร้ซึ่งทายาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะฉะนั้น แม่จะให้ตาศักดิ์มีเมียอีกคน”
   
“คุณแม่ว่ายังไงนะคะ / ครับ” ศักดิ์ชัยและตุลยดาร้องขึ้นพร้อมกัน
   
“ได้ยินไม่ผิดหรอกทั้งสองคน แต่ไม่ต้องห่วง แม่ไม่เลือกผู้หญิงที่ไหนก็ได้มาหรอก คนๆ นี้เป็นคนมีชาติตระกูลดี แล้วเขาก็รักแกด้วย ...หนูบุษราคัม...”
   
“ไม่ได้นะครับคุณแม่” ศักดิ์ชัยรีบพูดทันทีที่ได้ยิน เขารักธราธารเพียงคนเดียวเท่านั้น ในหัวใจของเขามีแต่ธราธารเท่านั้น แค่เพียงคนเดียว
   
“ใช่ค่ะ คุณแม่คะ นี่มันสมัยไหนแล้วคะ จะให้นายศักดิ์มีบ้านเล็กบ้านน้อย ไม่จำเป็นว่าทายาทต้องเป็นผู้ชายนี่คะ ทอฝันก็ดูแลกิจการของเราได้ สมัยนี้ผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชายมีถมไป ทำไมจะต้องมายึดติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ด้วย แล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง คุณแม่มั่นใจได้ยังไงคะว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นเข้ามา เขาจะให้หลานชายกับคุณแม่ได้...ที่สำคัญ คุณแม่เคยนึกถึงใจของนายศักดิ์กับธราบ้างไหมคะ โดยเฉพาะธรา จะให้ทนดูอยู่หน้าตาเฉยได้ยังไง”
   
“ฉันไม่รู้ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว หนูบุษเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรด้วย ที่ฉันทำไปเพื่อตระกูลเท่านั้น มันช่วยไม่ได้นี่ ถ้าแม่ธราให้ทายาทได้ ฉันคงไม่ต้องทำอะไรแบบนี้หรอก” ไม่ว่าอย่างไร ผู้ผิดทั้งขึ้นทั้งล่องก็คือธราธารอยู่ดี หญิงสาวฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลรินออกมา จะเจ็บช้ำเพียงใดก็จงกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้ เพื่อเขาและทอฝัน เพื่อครอบครัวที่รักของตัวเธอเอง
   
“ว่ายังไงนะยัยบุษ นี่แกจะเข้าไปเป็นสะใภ้บ้านนั้นเหรอ แต่เขาแต่งงานกับแม่อะไรนั่นแล้วไม่ใช่เหรอ แกพลาดไปแล้วนี่”
   
“เอ๊ะ! แม่นี่ยังไงนะ บุษบอกว่าอย่างนั้นก็ต้องอย่างนั้นสิ หรือว่าแม่ไม่อยากใช้เงินของคุณป้ารัตนา ถ้าแม่ไม่อยากบุษก็ไม่ว่าหรอก อยากอดมื้อกินมื้อก็ช่าง แต่บุษไม่เอาด้วยหรอก บุษทำทุกอย่างเพราะบุษไม่อยากจน บุษเกลียดความจนที่สุด แล้วที่บุษบอกก็เป็นความต้องการของคุณป้ารัตนาด้วย เขาเสนอมา บุษก็ช่วยตอบสนองให้ก็แค่นั้น”
   
“แล้วแม่คนนั้นล่ะ ได้ยินว่ามีลูกด้วยกันแล้วไม่ใช่เหรอ เขาจะยอมแกหรือไง?”
   
“อย่างยัยหน้าโง่หน้าซื่อนั่นนะเหรอ เฮอะ! จะมาสู้อะไรบุษได้ มันสิต้องกลัวบุษไม่ใช่บุษกลัวมัน แล้วก็อีกอย่าง บุษรู้ดีว่าคุณป้ารัตนาไม่ค่อยอยากได้แม่นั่นเป็นลูกสะใภ้สักเท่าไร แต่ก็ดีเหมือนกัน บุษจะได้เข้าไปทำลายความรักของสองคนนั่น เห็นว่ารักกันนักรักกันหนา สักวันยัยนั่นจะต้องกระเด็นออกไป แล้วทุกอย่างก็จะกลายเป็นของบุษราคัมคนนี้คนเดียวเท่านั้น” บุษราคัมเอ่ยอย่างมาดหมาย ความชั่วร้ายภายใต้ใบหน้างดงามน่าหลงใหลค่อยๆ ปรากฏออกมาชัดเจนขึ้นทุกขณะ ...แผนการอันชั่วร้ายนี้จะเป็นไปดังที่หญิงสาวคาดหวังหรือไม่??...
 
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น