ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <<หนี้แค้นในหัวใจ>>

    ลำดับตอนที่ #11 : มือที่สาม (I)

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 48


    ตอนที่ 11 มือที่สาม (I)

        



    เด็กหญิงวัย 10 ปีคนหนึ่งถูกทิ้งให้อยู่ในห้องเพียงลำพัง ผู้เป็นแม่ของเธอทิ้งเด็กน้อยไว้เช่นนี้หลายครั้งหลายคราโดยไม่เคยคิดที่จะใส่ใจดูแลลูกสาวของตนเองให้ดี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้ที่ปฏิบัติต่อเธออย่างดีจึงมีแต่คุณป้าแม่บ้านคนเดียวเท่านั้น

        

    “คุณป้าแม่บ้าน” เด็กหญิงเรียก

        

    “คะ...จะเอาอะไรคะ?”

        

    “แม่ไม่อยู่หรือคะ?”

        

    “เอ๊ะ! นี่ฉันบอกให้ไปรับชุดมาให้ฉันไม่ใช่เหรอหะ ไม่รู้แหละ ยังไงแกก็ต้องจัดการให้ฉันด้วยล่ะ” เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นขณะที่เดินเข้ามาในห้อง เมื่อละจากโทรศัพท์แล้วก็หันมาทางลูกสาวของเธอและแม่บ้านวัยกลางคน

        

    “นี่ป้า ยังไม่จัดกระเป๋าตามที่ฉันสั่งอีกเหรอ หูหนวกรึไง?”

        

    “ค่ะๆ อิฉันกำลังทำอยู่” ตอบก่อนจะหันไปเก็บเสื้อผ้าและเครื่องใช้ของเด็กน้อยจากตู้เสื้อผ้าและบริเวณห้อง

        

    “แล้วก็แกน่ะ ช่วยป้าเขาด้วย ฉันขี้เกียจเป็นคนตามไปส่งของให้แกทีหลัง”

        

    “หนูไม่ไปไม่ได้เหรอคะแม่ หนูไม่อยากไป” เด็กหญิงเข้ามาหาแม่ของเธอพลางอ้อนวอนขอร้องไปให้แม่เธอพาเธอออกไปจากที่นี่

        

    “ฉันบอกแกแล้วไง อย่ามาทำออเซาะ ฉันจะพาแกไปอยู่กับพ่อแกไงล่ะ เห็นชอบเรียกร้องหาอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่หรือไงล่ะ สมใจแกแล้วนี่ แล้วฉันก็จะได้ไม่ต้องมาเสียเงินเสียทองเลี้ยงแกด้วย แกนี่มันตัวขัดลาภฉันจริงๆ ไปซะได้ก็ดี” นอกจากจะไม่อนุญาตแล้ว ผู้เป็นแม่ยังกล่าวว่าให้เจ็บช้ำน้ำใจ เด็กหญิงได้แต่อดกลั้นเอาไว้ ถ้าร้องออกมา เธอจะต้องโดนแม่ทำโทษอย่างแน่นอน

        

    “คุณป้าแม่บ้านขา ทำไมแม่ถึงไม่รักหนูเลยละคะ??” เด็กหญิงหันมาถามหญิงวัยกลางคนที่กำลังเก็บเสื้อผ้าของเธอ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดใด



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

        

    เวลาผ่านเลยมาเกือบจะครบ 1 อาทิตย์แล้วที่ทอฝันเข้ามาอยู่บ้านเสถียรวงศ์ แต่ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม หญิงสาวยังคงทำตัวเย็นชากับรัตนาและศักดิ์ชัยอยู่อย่างเดิม แต่ก็เพลาๆ ลงบ้าง นับตั้งแต่วันนั้น

        

    “ในเมื่อคุณไม่ไป ฉันไปเอง...”

        

    “อย่าทำแบบนี้เลย ย่าจะไปเอง หลานมานั่งที่นี่เถอะ” รัตนาลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปที่ครัวตามที่หลานสาวของตนเองต้องการ

        

    “ยัยฝัน ทำแบบนี้ไม่แรงไปหน่อยเหรอ คุณย่าท่าน...” ตุลยดาแย้งขึ้น

        

    “อาดาคะ มันไม่แรงหรอกค่ะ ไม่สักนิดเดียว” ทอฝันตอบก่อนจะหันไปสนใจอาหารเบื้องหน้า แม้ว่ามื้อเย็นวันนั้นอาหารจะอร่อยสักแค่ไหน ก็ไม่มีใครทานแล้วรู้สึกเอร็ดอร่อยเลยสักคน ทอฝันที่รับประทานไปได้เพียงสองสามคำก็รวบช้อนส้อมเตรียมจะยกเข้าไปในครัว

        

    “อิ่มแล้วเหรอฝัน เพิ่งทานไปได้นิดเดียวเอง อาหารไม่ถูกปากเหรอ?” ศักดิ์ชัยเอ่ยถามบุตรสาว “ค่ะ ทานไม่ค่อยลงเท่าไร” หญิงสาวตอบอย่างสั้นๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว

        

    “จะเอาอะไรเพิ่มไหมคะ คุณหนู” ป้าน้อมถามเมื่อรับของในมือจากทอฝันแล้ว หญิงสาวส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะพูดขึ้นลอยๆ ว่า “ตอนนี้ที่โต๊ะมีเก้าอี้ว่างแล้ว”

        

    “ฝันช่วยค่ะป้าน้อม” และตกเย็นวันนั้น รัตนาก็ได้กลับไปร่วมโต๊ะอาหารดังเดิม ส่วนเรื่องเก็บโต๊ะอาหารและล้างจานชามก็เป็นหน้าที่ของทอฝันและป้าน้อม แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทอฝันเสียมากกว่า


        

    “ดูท่ายัยฝันน่าจะเริ่มยอมรับคุณแม่กับนายแล้วนี่”

        

    “ผมก็หวังว่าอย่างนั้นแหละเฮีย” ศักดิ์ชัยเงยหน้ามองไปยังบุตรสาวซึ่งกำลังช่วยป้าน้อมจัดของว่างในครัว

        

    “เฮ้อ!...ไม่น่าเชื่อเลยว่าธรากับยัยฝันจะเหมือนกันซะขนาดนี้ นี่ถ้ามาอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน ดาว่าดาคงบอกไม่ได้ว่าใครเป็นใคร” ตุลยดาเอ่ยยิ้มๆ

        

    “วันนั้นไม่มีวันจะมาถึง วันนั้นมาถึงไม่ได้เพราะแม่นั่นแหละ เพราะแม่คนเดียว แม่ธราถึงต้องตาย”



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&



    “ตาศักดิ์ วันนี้ไปธุระเป็นเพื่อนแม่หน่อยสิ”

        

    “ให้เฮียไปแทนไม่ได้เหรอครับแม่ วันนี้ผมไม่ค่อยสะดวก”

        

    “อะไรกัน ตั้งแต่คบหากับแม่คนนั้นก็ลืมแม่ไปหมด ทำไม หรือว่าแม่คนนั้นเสี้ยมสอนว่าไม่ต้องสนใจแม่ใช่ไหม นี่ศักดิ์เห็นผู้หญิงคนนั้นสำคัญกว่าแม่หรือไง?” รัตนาโวยวายเมื่อลูกชายปฏิเสธ

        

    “ไม่ใช่ครับแม่ ธราไม่ใช่คนแบบนั้น...ก็ได้ครับ...เดี๋ยวผมจะไปเป็นเพื่อนแม่เอง” ศักดิ์ชัยเถียงทันควันเมื่อมารดากล่าวว่าคนรักของเขา ในที่สุด เขาจึงจำยอมทำตามที่มารดาต้องการ

        

    ธุระของรัตนาไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากการจับคู่ระหว่างลูกชายคนเล็กกับบุษราคัม ผู้เป็นแม่รู้ดีว่าถ้าพูดกับศักดิ์ชัยตรงๆ คำตอบที่ได้รับจะเป็นการปฏิเสธ ศักดิ์ชัยที่ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน กลับคบหากับธราธาร สาวน้อยสวยหวาน ใครดูก็รู้ว่าสองคนนี้รักกันมาก ยากที่จะแยกพวกเขาออกจากกัน แต่อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นของรัตนาคือ ต้องการลูกสะใภ้ที่มีชาติตระกูลดี ลูกสาวพันเอกกับคุณหญิงมีภาษีดีกว่าลูกสาวเจ้าของร้านขายดอกไม้และพ่อที่เป็นนักวิชาการมีชื่อแต่เสียชีวิตไปแล้วเป็นไหนๆ

        

    ข้างฝ่ายบุษราคัม แม้จะรู้อยู่แล้วว่าศักดิ์ชัยนั้นมีคนรักอยู่เป็นตัวเป็นตน ที่สำคัญ เขาไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเธอเลยแม้สักครั้งเดียว แต่เธอก็ยินดีที่จะร่วมมือกับแผนการจับคู่นี้อย่างเต็มอกเต็มใจ ไม่ใช่เพราะหัวใจ แต่เป็นเพราะตัวเลขในธนาคารของตระกูลเสถียรวงศ์ ถึงภายนอกครอบครัวของเธอจะดูมีฐานะ ความจริงแล้วไม่ใช่ พันเอกวชิระทำงานด้วยความซื่อสัตย์...มีเกียรติ แต่เงินน้อย... น่าเสียดายที่ลูกสาวไม่เหมือนบิดา เธอต้องการเงินและความสุขสบายมากกว่าสิ่งอื่นใด





        

    “ขอโทษนะธรา ผมต้องไปธุระเป็นเพื่อนแม่ นัดวันนี้...”

        

    “ไม่เป็นไรค่ะ ไปเป็นเพื่อนคุณแม่พี่ศักดิ์เถอะค่ะ ดีเหมือนกัน ธราจะได้ช่วยงานที่ร้าน” ธราธารตอบมาทางโทรศัพท์ ทำให้ศักดิ์ชัยโล่งอกที่แฟนสาวไม่ได้โกรธหรืองอนเขาอย่างที่ผู้หญิงทั่วไปชอบทำกัน

        

    “ฮั่นแน่...พี่ธรา สุดที่รักโทร.มาใช่ม้า” สายธารเอ่ยปากล้อพี่สาวเมื่อการสนทนาจบลง

        

    “สุดที่รักที่ไหนกันยัยธาร ไม่คุยด้วยแล้ว พี่จะไปช่วยแม่ดีกว่า” ธราธารเดินหนีน้องสาวอย่างเขินอาย

        

    “คราวหน้าธารจะฟ้องพี่ศักดิ์ว่าพี่ธราบอกว่าไม่รักพี่ศักดิ์แล้ว”

        

    “ตามใจ ใครบอกว่าพี่รักพี่ศักดิ์ล่ะ เธอคิดไปเองต่างหาก” ธราธารปฏิเสธด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

        

    “อืมๆ...รู้หรอกน่า ไม่ได้รักเฉยๆ แต่รักมากๆ ก็สุดที่รักนี่” สายธารล้อเลียนพี่สาวก่อนจะเดินหนีไป ทิ้งให้ธราธารนั่งคิดถึงแฟนหนุ่มตามลำพังอย่างมีความสุข



        



    “บุษดีใจจังเลยค่ะที่พี่ศักดิ์มา” บุษราคัมทำเสียงหวานโปรยเสน่ห์ให้ชายหนุ่มตรงหน้าเต็มที่

        

    “ตอบน้องไปสิตาศักดิ์” รัตนาคะยั้นคะยอบุตรชาย เขาทำหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย “ผมก็ดีใจที่ได้เจอคุณบุษครับ” เขาตอบอย่างเป็นทางการ บุษราคัมเริ่มหน้าถอดสี ทำให้รัตนาต้องรีบเข้าแก้ไขสถานการณ์

        

    “ทำไมไปเรียกน้องซะห่างเหินอย่างกับคนไม่รู้จักกันล่ะ หนูบุษยังรู้จักเรียกเราว่าพี่เลย เราเป็นพี่ก็เรียกหนูบุษว่าน้องบุษสิจ๊ะ เดี๋ยวหนูบุษก็น้อยใจแย่หรอก”

        

    “ไม่หรอกค่ะคุณป้า บุษไม่อยากฝืนใจใคร โดยเฉพาะพี่ศักดิ์” เธอส่งยิ้มหวานให้ศักดิ์ชัย แต่ถึงหญิงสาวตรงหน้าจะสวยกว่านี้สักเพียงใด น่าหลงใหลใฝ่หามากเท่าไร ก็ไม่อาจลบเลือนภาพของธราธาร ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของชายหนุ่มไปได้

        



    เช้าวันรุ่งขึ้น ธราธารแต่งตัวเตรียมจะไปเที่ยวกับศักดิ์ชัยตามที่เขาได้นัดเธอเอาไว้ วันนี้เขาบอกเอาไว้ว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรสเธอ มันคงจะเป็นอะไรที่พิเศษมากแน่ๆ และอะไรที่ว่านั้นก็ทำให้ธราธารเซอร์ไพรสได้จริงๆ จนยิ้มไม่หุบทั้งวัน

        

    “ว่าไงคะ คุณพี่สาว ตั้งแต่กลับมาเนี่ยข้าน้อยยังไม่เห็นพี่ธราหุบยิ้มเลยนะเจ้าคะ เป็นอะไร เซอร์ไพรสมากขนาดนั้นเลยเหรอ??”

        

    “เลิกล้อพี่ได้แล้วน่า ยัยธาร”

        

    “งั้นมีข้อแลกเปลี่ยน เล่าเรื่องทั้งหมดให้ธารฟัง แล้วธารจะเลิก” สายธารเสนอข้อแลกเปลี่ยนด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์

        

    “ไม่บอกดีกว่า”

        

    “ช่างเถอะ...แต่พี่ธรา พี่ทำหน้ายังกับถูกพี่ศักดิ์ขอแต่งงานงั้นแหละ” สายธารพูดพลางมองหน้าพี่สาวที่มีสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันที หญิงสาวมองพี่สาวอย่างรู้ทัน “จริงๆ ใช่หรือเปล่า มิน่าล่ะ ยิ้มไม่หุบทั้งวันเลย แล้วคำตอบล่ะ”

        

    “คำตอบอะไรยัยธาร”

        

    “ก็คำตอบที่พี่ธราตอบพี่ศักดิ์ ตกลง หรือว่าไม่ปฏิเสธ”

        

    “ไม่เห็นต่างกันตรงไหนเลย” ธราธารอ้อมค้อมไม่ตอบมาตรงๆ แต่สายธารก็รู้คำตอบของคำถามข้อนี้ดีอยู่แล้ว จึงยิ้มอย่างพอใจและยินดีกับพี่สาวของเธอ

        

    และในที่สุดด้วยความรักอันมั่นคงของชายหนุ่มหญิงสาว วันแต่งงานแห่งความยินดีก็มาถึง แม้รัตนาจะพยายามขัดขวางเพียงใดก็ไม่สำเร็จ ตำแหน่งสะใภ้คนเล็กของเสถียรวงศ์จึงเป็นของธราธาร ไม่ใช่บุษราคัมดังที่ตนเองหวังเอาไว้



        



    “คุณป้าคะ บุษยินดีกับคุณป้าด้วยนะคะที่ได้ธราธารเป็นสะใภ้เล็ก” บุษราคัมประชดประชัดรัตนาเมื่อได้มาเจอกันอีกครั้งหลังงานแต่งงานของศักดิ์ชัยและธราธาร หญิงสาวเองรู้สึกเสียหน้าไม่น้อยที่ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของศักดิ์ชัยซะเต็มประดา แต่ในที่สุดคนที่ยืนเคียงข้างศักดิ์ชัยในวันแต่งงานกลับเป็นคนอื่น ไม่ใช่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์น่าหลงใหลอย่างตนเอง

        

    “หนูบุษ อย่าประชดป้าแบบนั้นสิจ๊ะ ป้าบอกตามตรงว่ายังไงๆ ป้าก็อยากได้หนูบุษมากกว่าอยู่ดี แต่ตาศักดิ์น่ะสิ แล้วยังตายศแล้วก็แม่ตุลยดาอีกคน รวมหัวกันกล่อมป้าจนป้าต้องยอม”

        

    “ถ้าอย่างนั้นคุณป้าก็คงโดนกล่อมต่อไปนั่นแหละค่ะ ช่างเถอะค่ะ บุษเองก็จะไม่ยุ่งกับพี่ศักดิ์แล้วล่ะค่ะ บุษไม่อยากขึ้นชื่อว่าแย่งสามีชาวบ้าน”

        

    “ไม่มีทางแล้วเหรอที่ป้าจะได้หนูบุษเป็นสะใภ้” รัตนาถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม สะใภ้คนเล็กจะดีแค่ไหน แต่ชาติตระกูลของเธอก็สู้หญิงสาวตรงหน้าคนนี้ไม่ได้อยู่ดี ทำให้รัตนาไม่ยอมรับในตัวของธราธารเสียที

        

    “ก็ถ้าพี่ศักดิ์ไม่มีใคร บุษก็อาจจะ....”

        

    “ถ้าตาศักดิ์ไม่มีใคร หมายถึงแม่ธราธารน่ะเหรอ?”

        

    “ค่ะ ถ้าคุณป้าจะให้บุษเข้าไปแทรกระหว่างสองคนนั่น บุษคงทำไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นการไปแย่งของที่มีเจ้าของแล้ว แต่ถ้าพี่ศักดิ์ไม่มีใคร ก็แปลว่าบุษไม่ต้องแย่ง ถ้ามันเป็นอย่างนั้น ระหว่างบุษกับพี่ศักดิ์ก็เป็นไปได้ค่ะ แต่คงยาก พี่ศักดิ์รักผู้หญิงคนนั้นจะตายไป” บุษราคัมแกล้งทำเสียงใสซื่อทำเป็นไม่ต้องการ แต่การกระทำเหล่านั้นคือการชักจูงรัตนาทางอ้อมนั่นเอง

        





    “คุณแม่ไม่ชอบธราใช่ไหมคะ พี่ศักดิ์” ธราธารเอ่ยถามสามีตรงๆ เพราะตั้งแต่วันแต่งงานจนถึงวันนี้ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว แต่ท่าทางรังเกียจที่รัตนาแสดงกับหญิงสาวก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย กลับยิ่งจะหนักขึ้นทุกวัน

        

    “ไม่หรอก ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะธรา ผมว่า...คุณแม่ท่านยังไม่คุ้นเคยกับคุณมากกว่า ดูอย่างพี่ดาสิ คุณแม่ท่านก็ไม่ได้ให้ความสนิทสนมมากมาย อย่าคิดมากเลย” ศักดิ์ชัยพยายามปลอบใจคนรัก แต่ในใจเขาก็คิดไม่ต่างกันกับธราธารเท่าใดนัก ท่าทีที่มารดาแสดงออกมาบ่งบอกได้ชัดเจนกว่าสิ่งอื่นใด แม้กับตุลยดา รัตนาจะไม่ได้รักใคร่มากมาย แต่ก็ไม่ใช่รังเกียจเช่นธราธาร

        

    “ธราไม่ได้คิดมากหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าธราคิดว่า ธราอาจจะทำตัวไม่ดี คุณแม่เลยไม่ค่อยพอใจ ธราจะพยายามเรียนรู้จากคนที่นี่ค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างร่าเริง อุปสรรคขวากหนามจะมีมากเพียงใด แต่เธอก็จะอดทน เพื่อเขาคนเดียวเท่านั้น

        

    “ขอบคุณนะธรา” หอมแก้มหญิงสาวเบาๆ เป็นการขอบคุณและให้กำลังใจ เพียงแค่นี้ก็ทำให้เธอสุขใจได้แล้ว



        



    ครึ่งปีผ่านพ้นไป แต่รัตนาก็ยังปฏิบัติตัวกับธราธารอยู่อย่างเดิม แม่สามีใช้ลูกสะใภ้ราวกับเป็นทาส ให้ทำงานทุกอย่างเหมือนกับคนรับใช้ในบ้าน เวลาว่างก็คอยหาเรื่องพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจอยู่เป็นประจำ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แม้กระทั่งศักดิ์ชัย เขาไม่รู้เรื่องมากนัก เพราะเขาและพี่ชายต้องไปทำงานที่บริษัททุกวัน จึงมีเพียงแต่ตุลยดาเท่านั้นที่พอจะเป็นที่ปรึกษาและเพื่อนคุยให้กับธราธารได้

        

    “แม่ธรา เดี๋ยวหล่อนทำงานตามที่ฉันสั่งให้เรียบร้อยด้วยล่ะ” รัตนาสั่งงานก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนชั้นสอง

        

    “คุณท่านสั่งให้คุณไปทำความสะอาดห้องพระค่ะ แต่เดี๋ยวอิฉันจะให้คนอื่นทำแทนให้เอง คุณธราไปพักเถอะค่ะ เหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้ว” ป้าน้อมเอ่ยอย่างเห็นใจ ผู้เป็นแม่บ้านไม่เข้าใจว่าทำไมคุณท่านของตนจึงรังเกียจหญิงสาวแสนดีคนนี้ได้ ไม่เคยปริปากบ่นให้ใครฟัง ยอมก้มหน้าทำตามคำสั่งทุกอย่างของรัตนาอย่างแข็งขัน ยิ่งทำให้รัตนาแกล้งหญิงสาวมากขึ้นทุกที

        

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นิดเดียวเอง เดี๋ยวธราทำเองได้ค่ะ ให้คนอื่นไปพักเถอะค่ะ”

        

    “หยุดเถอะธรา”

        

    “พี่ดา...วันนี้ไม่ไปธุระเหรอคะ?”

        

    “ไม่ล่ะ ให้คนอื่นไปทำแทนธรานะป้าน้อม ถ้าคุณแม่ว่าเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง”

        

    “แต่ว่า...”

        

    “ดูตัวเองหน่อยสิธรา ผอมลงทุกวัน ถ้าเป็นอย่างนี้เรื่อยๆ ร่างกายจะอ่อนแอนะ พักซะบ้างเถอะ เห็นทีว่าเย็นนี้พี่จะต้องคุยกับนายศักดิ์กับคุณแม่ซะหน่อยแล้ว”

        

    “ไม่ได้นะคะพี่ดา อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่ศักดิ์นะคะ ธราขอร้องล่ะค่ะ” หญิงสาววิงวอนขอร้องพี่สะใภ้ ถ้าศักดิ์ชัยรู้เรื่อง เป็นที่แน่นอนว่าเขาจะต้องพูดกับรัตนาและผลที่ตามอาจจะเลวร้ายก็ได้

        

    “ถ้าอย่างนั้นก็พักซะ คนนะธราไม่ใช่เครื่องจักร จะได้ทำงานทั้งวันทั้งคืน ตัวเธอเองก็เถอะ ทำไมไม่รู้จักเถียงคุณแม่บ้าง แบบนี้มันมากเกินไปแล้ว เธอเป็นสะใภ้บ้านนี้นะ ไม่ใช่คนใช้ อะไรที่มันเกินเลยไปเราก็ควรจะเตือนคุณแม่บ้าง”

        

    “ขอบคุณพี่ดากับป้าน้อมมากนะคะ แต่ไม่ได้หรอกค่ะ...ไม่เป็นไร แค่นี้ธรายังไหวค่ะ ธราไปทำงานก่อนนะคะพี่ดา” ธราธารฝืนยิ้มร่าเริงแล้วจึงเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดไปเดินขึ้นไปที่ห้องพระตามลำพัง เมื่อเห็นอย่างนี้ ตุลยดาจึงทำอะไรไม่ได้อีก นอกจากมองน้องสะใภ้อยู่ห่างๆ

        

    เมื่อธราธารทำความสะอาดห้องพระไปได้สักพัก หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกเวียนศีรษะ ภาพเบื้องหน้าดูพร่ามัวไปทุกขณะ สักพัก เธอก็ล้มลงกับพื้น

        

    “ธรา...” ชายหนุ่มเรียกธราธารทันทีที่เธอเริ่มรู้สึกตัว หญิงสาวค่อยๆ เปิดเปลือกตาอย่างช้าๆ มองไปโดยรอบ ไม่ใช่ห้องพระ ไม่ใช่ห้องนอนของเธอหรือส่วนไหนของบ้าน ที่นี่คือโรงพยาบาล และคนตรงหน้าเธอก็คือศักดิ์ชัย

        

    “ทำไมธรามาอยู่ที่นี่ล่ะคะ?” หญิงสาวถามอย่างสงสัย เธอจำได้ว่าอยู่ดีๆ ทุกอย่างก็วูบไป ตื่นขึ้นอีกทีก็มาอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว

        

    “ป้าน้อมวิ่งแจ้นมาบอกพี่ว่าธราน่ะล้มอยู่ในห้องพระ สลบไม่ได้สติเลยล่ะ พี่เลยรีบให้คนช่วยกันพามาส่งโรงพยาบาล แล้วก็รีบโทร.ไปเรียกนายศักดิ์มา พี่บอกแล้วว่าอย่าฝืนก็ไม่เชื่อ ต่อไปห้ามฝืนแล้วนะธรา เพราะต่อไป...เธอมีคนที่ต้องดูแลเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งแล้วนะ” ตุลยดายิ้มอย่างยินดี

        

    “ค่ะ พี่ดา...ดูแลเพิ่มอีกคน หมายความว่า…” หญิงสาวสะกิดประโยคสุดท้ายของพี่สะใภ้ เธอมองหน้าผู้พูด ซึ่งตุลยดาก็พยักหน้ารับเป็นเชิงตอบรับ มองหน้าศักดิ์ชัย เขาก็พยักหน้า

        

    “ใช่...ธรา...ผมดีใจมากเลย รู้หรือเปล่า?”




    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

        

    กระเป๋าสองสามใบถูกยกมาจากห้องของตาฬิกา เด็กหญิงมองน้ำตานองหน้า แม่แท้ๆ ของเธอกำลังไล่เธอออกจากบ้าน พ่อเลี้ยงของเธอก็ด้วย คนทั้งสองไม่เคยสนใจและให้ความสำคัญของเธอมาตั้งแต่เกิดแล้ว แม่ของเธอเฝ้าย้ำนักย้ำหนาให้เธอรู้สถานภาพของตัวเอง ให้รู้ว่าตัวเธอเป็นคนที่แม่ไม่ต้องการ พ่อเลี้ยงก็ไม่รัก คนทั้งสองไม่รักและเมตตาเธอ เหลือแต่เพียงพ่อที่แท้จริงของเด็กหญิงที่ตัวเธอเองไม่เคยพบหน้ามาก่อน วันนี้จะเป็นวันแรกที่เธอได้พบพ่อ และเป็นวันสุดท้ายที่ได้อยู่กับแม่

        

    “ไม่ต้องมาร้องไห้ ฉันรู้ว่าแกอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้มีความสุขสักนิด ดีแล้วไม่ใช่เหรอ แกบอกว่าอยากเจอพ่อแก ก็นี่ไงล่ะฉันจะสงเคราะห์ให้ แล้วต่อไปก็ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกล่ะ ถ้าพ่อแกเขาไม่สนใจแก แกก็ควรจะสำนึกเอาไว้ว่าแกน่ะมันไร้ค่า ไม่มีใครต้องการหรอก ความจริงแกไม่น่าเกิดมาด้วยซ้ำ”

        

    “ฮือๆๆๆ” เด็กหญิงร้องไห้กระซิกเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของมารดา ทั้งหมดนี่เป็นชะตากรรมของตัวเธอเอง หรือว่าเป็นผลมาจากสิ่งใดกันแน่      

        

    ...ทำไมไม่มีใครรักหนู ทำไมทุกคนเกลียดหนู แม่ไม่รักหนู พ่อเลี้ยงก็ไม่รักหนู คุณพ่อจะรักหนูไหมคะ จะรักไหมคะ...



    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×