ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : โชคชะตา
ตอนที่ 3 โชคชะตา
วันใหม่เคลื่อนตัวเข้ามาแทนวันเก่า หลังจากรับประทานอาหารเช้าและทำอะไรอีกนิดหน่อย ยูเมมิก็เตรียมไปธุระข้างนอกกับมาซายะ จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่ธุระอะไร แค่เธอจะพาชายหนุ่มออกไปเปิดหูเปิดตา และเริ่มคิดที่จะหางานทำ
   
“เราจะไปไหนกันก่อน” มาซายะถามอย่างผู้ไม่รู้
   
“จะไปเดินเล่นดีไหม หรือว่าเธออยากไปไหนล่ะ”
   
“สวนสนุกไง อยู่ที่โตเกียวก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเลย ไหนๆ ก็มาแล้ว ลองไปดูดีไหม น่าสนุกออก” มาซายะเอ่ยปากชวน
   
“สวนสนุกเหรอ เธอเคยบอกว่ามันเป็นที่ของเด็กๆ ไงล่ะ ไหงคราวนี้มาชวนฉันไปล่ะ”
   
“ก็เธอบอกตามใจฉันไง ก็ในเมื่อฉันบอกว่าสวนสนุก เธอก็ต้องยอมรับสิ ได้โปรดไปสวนสนุกกับผมเถิดครับ เจ้าหญิง” ชายหนุ่มทำท่าทางโค้งและชวนราวกับว่าเป็นเจ้าชายขอเจ้าหญิงเต้นรำยังไงยังงั้น
   
“ได้ค่ะ เจ้าชาย” หญิงสาวตอบก่อนจะจับกระโปรงทั้งสองข้างแล้วถอนสายบัวเหมือนเจ้าหญิงตอบรับคำชวน ก่อนที่คนทั้งสองจะเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่สวนสนุก
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
   
“ก๊อกๆๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหวที่ด้านหน้าห้องของวิธวินท์ ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เดินออกมาเปิดประตู
   
“ครับ...ยัยออม มีธุระอะไร ปกติกินข้าวเช้าเสร็จแล้วก็นอนต่อไม่ใช่เหรอเราน่ะ” วิธวินท์เอามือไปไว้ที่หน้าผากของศริมน เพื่อสำรวจว่าเธอป่วยหรือไม่ ทำให้น้องสาวตัวดีตอบกลับทันควันอย่างเอาเรื่อง
   
“ไม่ต้องเลยพี่วินท์ ออมสบายดี แล้วก็คงไม่มีปรากฏการณ์หิมะตกในเมืองไทยด้วย อะไรกันเนี่ย น้องสาวอุตส่าห์ทนไม่นอนสำเร็จแล้วเชียว ชมซักคำก็ไม่มี”
   
“ครับผมคุณน้อง นายวิธวินท์ สุธรรมรพีขอยอมรับผิด คุณศริมน คุณหนูที่น่ารักจะยกโทษให้พี่ชายคนนี้ไหมครับ”
   
“ก็ได้ เร็วซีพี่วินท์ ออมพร้อมแล้วนะ”
   
“จะไปไหนยัยออม” พี่ชายสุดหล่อถามน้องสาวจอมเฮี้ยว
   
“สวนสนุกไง ไปหาพี่สาวคนนั้นกัน เขาอาจจะเป็นลูกอาศักดิ์ชัยก็ได้ ถ้าเป็นยังงั้นก็ดีมากรู้ไหม รีบเข้าซี ทำตัวชักช้าอยู่ได้นะพี่วินท์” ศริมนเร่งเร้าให้พี่ชายรีบไปกับเธอ และทันที่ที่ชายหนุ่มเดินก้าวออกจากห้อง น้องสาวตัวดีก็ฉุดมือพี่ชายลงบันไดไปในทันที
   
“ไปนะคะคุณพ่อ ฝากบอกแม่ด้วย ออมกับพี่วินท์จะไปหาพี่สาวลูกอาศักดิ์ชัยค่ะ” ศริมนกล่าวบอกพัฒนา ผู้เป็นพ่อ ก่อนจะฉุดกึ่งลากวิธวินท์ขึ้นรถไป
   
เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากตัวบ้านได้ไม่นาน วิธวินท์ก็หันมาถามอะไรบางอย่างที่ยังค้างคาใจในคำพูดของศริมน
   
“ยัยออม เมื่อกี้เราว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นคือลูกสาวอาศักดิ์ชัย มันดีมาก ดียังไงหะยัยออม พี่ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ดีใจแทนอาศักดิ์ชัยเหรอ”
   
“พี่วินท์.....” ศริมนตะโกนเรียกชื่อพี่ชายแทบลั่นรถ “ก็ถ้าพี่สาวคนนั้นเป็นลูกของอาศักดิ์ชัย แล้วพ่อเรากับอาศักดิ์ชัยเขาก็เพื่อนรักกัน มากกว่าแม่กับแม่ของยัยติ๊งต๊องนั่นเป็นร้อยเท่า ก็แสดงว่า โอกาสที่พี่วินท์กับพี่สาวคนนั้นจะเป็นแฟนกันก็มีมากกว่าเป็นกับยัยพี่วดีติ๊งต๊องบ๊องตื้นนั่น มันน่ายินดีขนาดนี้พี่วินท์ยังไม่รู้สึกรู้สาอีกเหรอไง คงไม่ใช่ว่าชอบยัยนั่นนะ แหวะ” ศริมนทำท่าจะอาเจียนเมื่อพูดถึงยุบลวดี หรือเวนดี้
   
“มันก็จริงของเธอ” ชายหนุ่มพูดเบาๆ โดยที่น้องสาวไม่ได้ยิน แล้วแอบอมยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักที่เคยเป็นเพื่อนเล่นกันเขาเมื่อยังเล็ก
“พี่วินท์ พี่วินท์ อยู่ไหนคะ” เด็กหญิงตัวน้อยเรียกหาเพื่อนสนิทของเธออย่างกลัวๆ
“ใครเอ่ย ทายซิ ถ้าตอบไม่ถูกต้องยกขนมให้พี่หมดเลย”
“ไม่รู้คะ ใครคะ” เด็กหญิงตัวน้อยแกล้งทำเป็นไม่รู้
“ตอบแบบนี้อีกแล้ว พี่กินขนมหมดจริงๆ นะ ห้ามร้องไห้แงๆ ด้วย” เด็กชายขู่เด็กหญิง แต่เธอก็ไม่หวาดวิตกไปกับคำพูดนั้น
“เค้าไม่ได้ขี้แยอย่างนั้นสักหน่อย พี่วินท์พูดไปเอง ถ้ายังว่าอีก เค้าไม่ยกขนมให้แล้ว” เด็กหญิงตอบอย่างงอนๆ ก่อนจะวิ่งไปหาผู้เป็นแม่
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
หลังจากรถแล่นมาเรื่อยๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็มาถึงสวนสนุก ด้วยเวลาสายๆ เช่นนี้ทำให้ยังมีคนมาเที่ยวไม่มากนัก หญิงสาวจ่ายเงินให้คนขับรถแท็กซี่ ก่อนจะเดินเข้าไปซื้อบัตรสำหรับคนสองคน และเดินเข้าไปภายใน
“ถึงแล้วพี่วินท์ เลี้ยวเข้าไปเลย ออมอยากเล่น” ศริมนเผยนิสัยแบบเด็กๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้วิธวินท์ขยี้หัวน้องสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะเลี้ยวเข้าไป ปล่อยให้น้องสาวเดินลงไปซื้อบัตรก่อนแล้วตัวเองไปหาที่จอดรถ
“เล่นอะไรก่อนดี เธออยากเล่นอะไรล่ะ เคเบิ้ลคาร์ไหม หรือว่าจะจักรยานน้ำ หรือว่ารถไฟ หรือว่าเอาอะไร” ยูเมมิหันมาถามเพื่อนหนุ่มเมื่อเธออ่านสำรวจจากแผ่นพับแผนผังสวนสนุก
“อะไรที่มันดูโรแมนติกกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง อุตส่าห์มาเดททั้งที”
“โรแมนติก? นี่เธอเป็นคนโรแมนติกตั้งแต่เมื่อไร แล้วหมายความว่าไงที่บอกว่าเดท?” หญิงสาวถามอย่างงุนงง
“ล้อเล่นน่า ล้อเล่น” มาซายะกลบเกลื่อนเมื่อเห็นว่ายูเมมิไม่ได้มีท่าทางว่ายินดีกับคำพูดของเขาเลย นั่นอาจจะหมายความว่าเธอยังไม่คิดกับเขาถึงขั้นนั้น
...ทำไมเธอยังไม่เข้าใจว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอนะ จะต้องให้พูดออกไปตรงๆ เลยเหรอ นี่ถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้เขาไม่นิ่งแบบเธอหรอกนะ เธอไม่รู้สึกอะไรกับฉันเลยหรือไง...
“ฉันซื้อบัตรเคเบิ้ลคาร์มาแล้ว ขึ้นนี่เถอะ” ยูเมมิเดินมาพร้อมกับบัตรเคเบิ้ลคาร์ 2 ใบ เธอยื่นมันให้กับมาซายะ แล้วคนทั้งสองก็เดินขึ้นบันไดไป บนที่รอเคเบิ้ลคาร์นั้น มีเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นมาต่อหลังพร้อมกับแม่ ทำให้ภาพของตนเองและแม่ปรากฏขึ้นมาในมโนภาพของยูเมมิอีกครั้ง
“แม่ขา รถมาแล้วๆ”
“ระวังลูก อย่าเข้าไปจ้ะ เดี๋ยวตกแล้วอดขึ้นนะ มานี่เร็ว แม่อุ้มให้ดูนะ มาเร็วยัยหนู” เด็กหญิงตัวน้อยเดินกลับมาให้ผู้เป็นแม่อุ้มเอาไว้ และเหม่อมองไปรอบๆ ตามประสาเด็ก
“แม่ขา รถมาแล้วๆ”
“อย่าเข้าไปใกล้ลูก ระวัง ถ้าตกลงไปหนูจะอดขึ้นนะจ้ะ มาหาแม่นะ มาเร็วคนดี” บทสนทนาเดิมที่ฟังดูคุ้นหูดังขึ้นอีกครั้ง แม่ลูกคู่นั้นนั่นเอง หญิงสาวยืนฟังแล้วน้ำตาก็เหมือนจะไหลออกมา เธอสะกดกลั้นมันเอาไว้ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเคเบิ้ลคาร์ที่เพิ่งเข้ามาจอดใหม่
หลังจากนั้น หญิงสาวก็เริ่มนิ่งเงียบ ไม่พูดสิ่งใดออกมาเหมือนเช่นทุกครั้งเมื่อนึกถึงผู้เป็นแม่ที่ตายจากไป มาซายะมองอาการของเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วง เขาไม่อยากเห็นเธอไม่สบายใจ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจมากนักว่าทำไมหญิงสาวถึงมีสีหน้าเรียบเฉยและแววตาที่เศร้าหมองเช่นนั้น
เมื่อเคเบิ้ลคาร์เข้ามาจอดอีกครั้ง คนทั้งสองก็เดินลงมาเบื้องล่าง ยูเมมิยังคงนิ่งเงียบเหมือนไม่รู้สึกตัว ชายหนุ่มจึงชวนเธอไปเล่นอะไรที่น่าตื่นเต้นและดูจะสนุกสนานกว่านี้
“ไปเล่นเฮอริเคนกันดีไหม ดูท่าทางจะมันส์นะ เธอว่าไง...”
“....................” ไม่มีคำตอบจากหญิงสาว เธอกำลังครุ่นคิดเรื่องอดีตภายในใจอย่างมีสมาธิจนไม่รับรู้เรื่องโลกภายนอก จนกระทั่งมาซายะเอากระป๋องโค้กเย็นๆ ที่เพิ่งซื้อมาสัมผัสที่ใบหน้า เธอจึงรู้สึกตัว
“อุ๊ย... ขอบคุณจ้ะ ตกใจหมดเลย” หญิงสาวมองหน้ามาซายะอย่างงอนๆ เล็กน้อยที่เขาแกล้งเธอ
“ถ้าไม่ทำอย่างนี้ เธอก็มัวแต่เหม่ออยู่นะสิ เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายหรือเปล่า กลับกันไหม วันหลังค่อยมาก็ได้” ชายหนุ่มเอื้อมมือมาสัมผัสที่หน้าผากของเธออย่างเป็นห่วง แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธความหวังดีของเขา
“ไม่เป็นไรหรอก แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ อย่าเพิ่งกลับเลย เพิ่งมาแป๊ปเดียวเอง เมื่อกี้เธอชวนไปไหนนะ”
“เฮอริเคน ไปเล่นกันไหม”
“ไม่ดีกว่า ฉันรู้สึกเพลียๆ อยากนั่งคิดอะไรสักพัก เธอไปเล่นเถอะ ฉันจะรอตรงนี้”
“ถ้าเธอไม่เล่น ฉันจะนั่งเป็นเพื่อนนะ”
“ไม่เอาน่า เธอไปเล่นเถอะ อุตส่าห์มาทั้งที อย่าไม่เล่นเพราะฉันเลย ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงใคร เธอไปเล่นเถอะ ถือว่าเล่นแทนฉันไง ไปเถอะ เดี๋ยวคนเต็มนะ” ยูเมมิไล่ชายหนุ่มให้ไปเล่นเฮอริเคน แม้ว่าตอนแรกเขาจะอิดออดไม่ยอมไป แต่ในที่สุด เขาก็เดินไปที่เครื่องเล่นนั้น แต่ยังไม่วายหันมามองเธออย่างเป็นห่วง
“ถ้าเธอรู้สึกไม่สบาย โทร.หาฉันทันทีนะ”
“จ้า...ไปเถอะ” เมื่อยูเมมิรับปาก เขาจึงเดินไป
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
หญิงสาววัย 18 ปีคนหนึ่งกำลังเดินมองหาพี่ชายของเธอที่เพิ่งพลัดหลงกัน “พี่วินท์นะ ไปไหนของเขา” เธอบ่นออกมาเมื่อเดินหาพี่ชายอยู่นานแต่ก็ยังไม่พบสักที
“ที่เธอเห็นว่าฉันไม่มองไม่แคร์....” เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น หญิงสาวหยิบขึ้นมาและก็เป็นวิธวินท์นั่นเองที่โทร.เข้ามา
“พี่วินท์ อยู่ไหน...” หญิงสาวกรอกเสียงเข้าไปทางโทรศัพท์
“ก็ที่เดิมนั่นแหละ อยู่ไหนยัยออม”
“ออมก็ที่เดิม แต่ตอนนี้ออมเดินหาพี่วินท์อยู่ มันห่างจากที่เดิมแค่ไหนก็ไม่รู้ ออมเดินมาเรื่อยๆ ตอนนี้ตรงหน้าออมคือ เฮอริเคน” ศริมนตอบพี่ชายของเธอ เบื้องหน้าเธอคือเครื่องเล่นเหินเวหา ตีลังกากลางอากาศ บนความสูงกว่า 20 เมตรหรือเฮอริเคน หญิงสาวมองมันอย่างสนใจและ...
“งั้นรออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวพี่จะเดินไปเอง คราวนี้ห้ามเดินไปไหนนะ รออยู่ที่นั่นแหละ”
“เดี๋ยวพี่วินท์ ตอนนี้มันกำลังว่างพอดี ออมไปเล่นเฮอริเคนก่อนได้ปะ คงไม่นาน ถ้าพี่วินท์เดินมาแล้ว ก็นั่งรอก่อนนะ แล้วออมจะรีบลงมา บ๊ายบาย” ศริมนตอบแล้วรีบปิดกดสายโทรศัพท์ ก่อนที่จะถูกพี่ชายว่าที่เธอมัวแต่คิดเรื่องเล่น ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง
ข้างฝ่ายวิธวินท์ หลังจากที่น้องสาวตัวดีปิดกดสายไปแล้ว เขาก็ส่ายศีรษะอย่างชินชากับนิสัยขี้เล่นของน้องสาวที่แก้ไม่หายสักทีตั้งแต่เด็กยันโต ก่อนจะเดินไปที่เฮอริเคนตามที่ศริมนบอก เมื่อเขาเดินมาถึงบริเวณที่เบื้องหน้าเป็นเครื่องเล่นเฮอริเคนแล้ว เขาก็ทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่ง ชายหนุ่มวางของลง และนั่งคิดถึงเพื่อนสาวสมัยเด็กที่หายตัวไป
...เธออยู่ไหนนะ จะยังจำพี่วินท์คนนี้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ตั้ง 17 ปีแล้วนี่ จะลืมก็ไม่แปลกหรอก แต่พี่ยังไม่ลืมเธอเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราเคยมาเที่ยวที่นี่ด้วยกัน ตอนเล่นอะไรน้า เธอร้องไห้แทบตาย เป็นยัยขี้แยที่ต้องให้คนดูแลอยู่เรื่อย ขี้งอนเป็นที่สุด ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้างน้า ผู้หญิงคนที่หน้าตาเหมือนอาธรา ใช่เธอหรือเปล่า ยัยตัวเล็ก...
เขาครุ่นคิดถึงอดีตแล้วก็ยิ้มออกมา เขามองไปข้างหน้าแล้วมโนภาพก็ปรากฏภาพเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังร้องไห้แล้วเด็กชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาปลอบให้เธอหยุดร้อง แล้วภาพหญิงสาวที่พบเจอที่สนามบินก็ปรากฏขึ้นมาซ้อนทับ และภาพหญิงสาวคนนั้นเดินไปทิ้งกระป๋องน้ำอัดลม ปรากฏออกมาเป็นภาพสุดท้าย แต่ภาพนี้ไม่ใช่ภาพความทรงจำ มันคือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้น ผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนธราธารก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วน่ะสิ
“คุณ....” เขาเผลอเรียกเธอออกไป แต่เสียงเบาๆ ของเขานั้นไม่อาจเล็ดลอดผ่านโสตประสาทของหญิงสาวไปได้ เธอหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงนั้น แล้วพลันสายตาของเธอก็หันมาหยุดไว้ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่จ้องมองมาทางเธอเช่นกัน
“..........” หญิงสาวไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเธอ
“คุณจำผมได้ไหม เราเคยเจอกันที่ดอนเมือง” ชายหนุ่มอธิบาย หญิงสาวขมวดคิ้วพลางคิดในใจถึงชายหนุ่มตรงหน้า นี่เป็นคำถามจากใจของเขา หรือแค่พวกผู้ชายประเภทที่ชอบหาเรื่องทำความรู้จักเพื่อเข้ามาจีบเท่านั้น ความไม่แน่ใจและสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจ ทำให้หญิงสาวตัดสินใจไม่ตอบคำถามของเขา
“คุณอย่าระแวงเลย ผมถามอย่างที่พูดจริงๆ ผมไม่ใช่พวกผู้ชายแบบที่คุณคิดหรอก ผมมีเรื่องจะถามคุณจริงๆ” วิธวินท์พยายามอธิบายให้เธอฟัง เมื่อเห็นท่าทางลังเลของหญิงสาว
“ค่ะ จำได้” หญิงสาวตอบแล้วก็นึกไม่พอใจนักเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าจับได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ผมมีคนรู้จักที่หน้าตาเหมือนกับคุณ เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนของพ่อผม เราตามหาเธอมานาน หน้าของคุณเหมือนกับภรรยาของเพื่อนพ่อผมมาก ผมเลยสงสัย...”
“สงสัยว่าฉันอาจจะเป็นคนที่คุณตามหางั้นหรือคะ” หญิงสาวกล่าวต่อแทรกคำพูดของเขา
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
ระหว่างนั้น ศริมนขึ้นไปเล่นเฮอริเคนกำลังประสบปัญหาเรื่องที่นั่งเล็กน้อย เมื่อมีครอบครัวหนึ่งมาขอสลับที่กับเธอ
   
“น้องคะ น้องช่วยเขยิบไปอีกที่นั่งได้ไหมคะ พี่มากับลูกแล้วก็ครอบครัว นั่งแถวนี้แล้วมันขาดไปทีนึงพอดี ขอโทษนะคะ ช่วยหน่อยได้ไหม”
   
“ค่ะ...เชิญตามสบายค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างสุภาพก่อนจะเขยิบไปอีกที่หนึ่ง ที่นั่งใหม่ของเธออยู่ถัดจากที่นั่งด้านริมสุดเพียงที่เดียว ด้านข้างเธอเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เธอตัดสินใจถามอะไรบางอย่างกับเขาเพื่อความมั่นใจ
   
“ขอโทษนะคะ ข้างคุณมีคนนั่งหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถาม ชายหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นมา เพียงแวบแรกที่ศริมนเห็นเขา เธอก็เหมือนเกิดอาการรักแรกพบชายหนุ่มหล่อตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจที่เธอพูดมากนัก
   
“ห๊ะ Nandesuka?” เขาถามกลับมาเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยความเคยชิน
   
“.............” อาการเหม่อยังไม่หายดีเท่าไรนัก ทำให้เธอนิ่งอึ้งไม่ตอบอะไร ชายหนุ่มจึงเข้าใจว่าหญิงสาวคงไม่เข้าใจที่เขาพูดเป็นแน่
   
“คุนว่าอารัยนาครับ” ชายหนุ่มพูดภาษาไทยอย่างไม่ชัดด้วยความไม่มั่นใจนัก
   
“คือ.....ฉันถามว่าตรงนี้มีคนนั่งไหมค่ะ” หญิงสาวพยายามใช้ภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ เท่าที่เคยเรียนประกอบกับศึกษาเองพูดกับเขาไป แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของเธอจะเข้าที เมื่อชายหนุ่มรู้เรื่องกับคำพูดของเธอ
   
“ไม่มีครับ เชิญตามสบาย มาคนเดียวเหรอครับ” ชายหนุ่มถามอย่างเป็นกันเองมากขึ้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวพูดภาษาญี่ปุ่นกับเขารู้เรื่อง
   
“เปล่าค่ะ มากับพี่ชาย แต่พี่เขารออยู่ข้างล่าง แล้วคุณมาคนเดียวเหรอคะ” ศริมนถาม เธอพยายามซ่อนใบหน้าที่เป็นสีชมพูระเรื่อเอาไว้
   
“มากับเพื่อนอีกคน เธอรออยู่ข้างล่างเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบ แล้วไม่นานหลังจากนั้น การเล่นเฮอริเคนก็เริ่มต้นขึ้น
   
“กรี๊ด” เสียงคนมากมายตะโกนออกมาด้วยทั้งความตื่นเต้นและกลัวปนเร้าใจ ศริมนเองก็เช่นกัน เธอร้องด้วยความกลัว พร้อมกับหาอะไรเกาะยึดตัวเธอเอาไว้ โดยไม่ทันสังเกตว่าสิ่งที่เธอเกาะเอาไว้แน่นนั้นคืออะไร เฮอริเคนยังคงเหินเวหา ตีลังกากลางอากาศขึ้นลงอีกหลายครั้ง จนเมื่อเครื่องเล่นหยุด...
   
“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ” ศริมนพูดอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เธอเกาะมาตลอดเวลานั้นคือแขนของชายหนุ่มข้างเคียงนั่นเอง
   
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มพูดอย่างไม่ถือสาอะไรนัก
   
“ฉันขอโทษค่ะ นึกว่าเป็นพี่ชาย ขอโทษนะคะ” หญิงสาวกล่าวขอโทษด้วยใบหน้าแดงก่ำ
   
“ไม่เป็นไรครับ คุณคงกลัว เราลงกันดีกว่า พี่ชายคุณกับเพื่อนผมคงรอแย่แล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยความเขินเล็กน้อยที่หญิงสาวแปลกหน้ามาเกาะแขนเขาเอาไว้ตลอดเวลา
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
“ใช่ครับ เราอยากเจอเธอมาก คุณพ่อกับคุณย่าของเธอรอเธออยู่ตลอดเวลา”
“แล้วแม่ของเธอล่ะคะ....” หญิงสาวถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะต้องออกมาเป็นอย่างไร
“เสียไปนานแล้ว เธอหายไปตั้งแต่อาธรา แม่ของเธอเสีย เราไม่ได้เจอเธออีกเลยนับตั้งแต่นั้น เมื่อวาน ผมเพิ่งเห็นรูปของอาธรา คุณเหมือนกับอาธราอย่างกับฝาแฝด ผมอยากให้คุณลองไปพบคุณลุงกับคุณย่า ถ้าคุณคือเธอ ท่านทั้งสองคงจะดีใจมาก”
“.....แล้วทำไมพวกคุณถึงเพิ่งคิดจะมาหาเธอตอนนี้ล่ะคะ แม่ของเธอน่าจะเสียไปนานมากแล้ว” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้น วิธวินท์ตอบด้วยความแปลกใจ
“คุณลุงกับคุณย่าหาเธอมานาน แต่ก็ยังไม่เจอ ท่านเริ่มจะหมดหวังแล้วครับ พอดีว่าผมเห็นรูปอาธรา เลยคิดว่าถ้าเจอคุณ คุณอาจจะ....”
“หมดหวัง...งั้นเหรอคะ แล้วคุณอยากจะให้ฉันไปพบกับคุณลุงกับคุณย่าคุณ แล้วพวกเขาจะยอมรับฉันเหรอ ถ้าฉันเป็นลูกเป็นหลานของพวกเขาจริงๆ ฉันจะได้อะไรในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยสนใจฉันเลย”
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
วันใหม่เคลื่อนตัวเข้ามาแทนวันเก่า หลังจากรับประทานอาหารเช้าและทำอะไรอีกนิดหน่อย ยูเมมิก็เตรียมไปธุระข้างนอกกับมาซายะ จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่ธุระอะไร แค่เธอจะพาชายหนุ่มออกไปเปิดหูเปิดตา และเริ่มคิดที่จะหางานทำ
   
“เราจะไปไหนกันก่อน” มาซายะถามอย่างผู้ไม่รู้
   
“จะไปเดินเล่นดีไหม หรือว่าเธออยากไปไหนล่ะ”
   
“สวนสนุกไง อยู่ที่โตเกียวก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเลย ไหนๆ ก็มาแล้ว ลองไปดูดีไหม น่าสนุกออก” มาซายะเอ่ยปากชวน
   
“สวนสนุกเหรอ เธอเคยบอกว่ามันเป็นที่ของเด็กๆ ไงล่ะ ไหงคราวนี้มาชวนฉันไปล่ะ”
   
“ก็เธอบอกตามใจฉันไง ก็ในเมื่อฉันบอกว่าสวนสนุก เธอก็ต้องยอมรับสิ ได้โปรดไปสวนสนุกกับผมเถิดครับ เจ้าหญิง” ชายหนุ่มทำท่าทางโค้งและชวนราวกับว่าเป็นเจ้าชายขอเจ้าหญิงเต้นรำยังไงยังงั้น
   
“ได้ค่ะ เจ้าชาย” หญิงสาวตอบก่อนจะจับกระโปรงทั้งสองข้างแล้วถอนสายบัวเหมือนเจ้าหญิงตอบรับคำชวน ก่อนที่คนทั้งสองจะเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่สวนสนุก
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
   
“ก๊อกๆๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหวที่ด้านหน้าห้องของวิธวินท์ ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เดินออกมาเปิดประตู
   
“ครับ...ยัยออม มีธุระอะไร ปกติกินข้าวเช้าเสร็จแล้วก็นอนต่อไม่ใช่เหรอเราน่ะ” วิธวินท์เอามือไปไว้ที่หน้าผากของศริมน เพื่อสำรวจว่าเธอป่วยหรือไม่ ทำให้น้องสาวตัวดีตอบกลับทันควันอย่างเอาเรื่อง
   
“ไม่ต้องเลยพี่วินท์ ออมสบายดี แล้วก็คงไม่มีปรากฏการณ์หิมะตกในเมืองไทยด้วย อะไรกันเนี่ย น้องสาวอุตส่าห์ทนไม่นอนสำเร็จแล้วเชียว ชมซักคำก็ไม่มี”
   
“ครับผมคุณน้อง นายวิธวินท์ สุธรรมรพีขอยอมรับผิด คุณศริมน คุณหนูที่น่ารักจะยกโทษให้พี่ชายคนนี้ไหมครับ”
   
“ก็ได้ เร็วซีพี่วินท์ ออมพร้อมแล้วนะ”
   
“จะไปไหนยัยออม” พี่ชายสุดหล่อถามน้องสาวจอมเฮี้ยว
   
“สวนสนุกไง ไปหาพี่สาวคนนั้นกัน เขาอาจจะเป็นลูกอาศักดิ์ชัยก็ได้ ถ้าเป็นยังงั้นก็ดีมากรู้ไหม รีบเข้าซี ทำตัวชักช้าอยู่ได้นะพี่วินท์” ศริมนเร่งเร้าให้พี่ชายรีบไปกับเธอ และทันที่ที่ชายหนุ่มเดินก้าวออกจากห้อง น้องสาวตัวดีก็ฉุดมือพี่ชายลงบันไดไปในทันที
   
“ไปนะคะคุณพ่อ ฝากบอกแม่ด้วย ออมกับพี่วินท์จะไปหาพี่สาวลูกอาศักดิ์ชัยค่ะ” ศริมนกล่าวบอกพัฒนา ผู้เป็นพ่อ ก่อนจะฉุดกึ่งลากวิธวินท์ขึ้นรถไป
   
เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากตัวบ้านได้ไม่นาน วิธวินท์ก็หันมาถามอะไรบางอย่างที่ยังค้างคาใจในคำพูดของศริมน
   
“ยัยออม เมื่อกี้เราว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นคือลูกสาวอาศักดิ์ชัย มันดีมาก ดียังไงหะยัยออม พี่ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ดีใจแทนอาศักดิ์ชัยเหรอ”
   
“พี่วินท์.....” ศริมนตะโกนเรียกชื่อพี่ชายแทบลั่นรถ “ก็ถ้าพี่สาวคนนั้นเป็นลูกของอาศักดิ์ชัย แล้วพ่อเรากับอาศักดิ์ชัยเขาก็เพื่อนรักกัน มากกว่าแม่กับแม่ของยัยติ๊งต๊องนั่นเป็นร้อยเท่า ก็แสดงว่า โอกาสที่พี่วินท์กับพี่สาวคนนั้นจะเป็นแฟนกันก็มีมากกว่าเป็นกับยัยพี่วดีติ๊งต๊องบ๊องตื้นนั่น มันน่ายินดีขนาดนี้พี่วินท์ยังไม่รู้สึกรู้สาอีกเหรอไง คงไม่ใช่ว่าชอบยัยนั่นนะ แหวะ” ศริมนทำท่าจะอาเจียนเมื่อพูดถึงยุบลวดี หรือเวนดี้
   
“มันก็จริงของเธอ” ชายหนุ่มพูดเบาๆ โดยที่น้องสาวไม่ได้ยิน แล้วแอบอมยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักที่เคยเป็นเพื่อนเล่นกันเขาเมื่อยังเล็ก
“พี่วินท์ พี่วินท์ อยู่ไหนคะ” เด็กหญิงตัวน้อยเรียกหาเพื่อนสนิทของเธออย่างกลัวๆ
“ใครเอ่ย ทายซิ ถ้าตอบไม่ถูกต้องยกขนมให้พี่หมดเลย”
“ไม่รู้คะ ใครคะ” เด็กหญิงตัวน้อยแกล้งทำเป็นไม่รู้
“ตอบแบบนี้อีกแล้ว พี่กินขนมหมดจริงๆ นะ ห้ามร้องไห้แงๆ ด้วย” เด็กชายขู่เด็กหญิง แต่เธอก็ไม่หวาดวิตกไปกับคำพูดนั้น
“เค้าไม่ได้ขี้แยอย่างนั้นสักหน่อย พี่วินท์พูดไปเอง ถ้ายังว่าอีก เค้าไม่ยกขนมให้แล้ว” เด็กหญิงตอบอย่างงอนๆ ก่อนจะวิ่งไปหาผู้เป็นแม่
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
หลังจากรถแล่นมาเรื่อยๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็มาถึงสวนสนุก ด้วยเวลาสายๆ เช่นนี้ทำให้ยังมีคนมาเที่ยวไม่มากนัก หญิงสาวจ่ายเงินให้คนขับรถแท็กซี่ ก่อนจะเดินเข้าไปซื้อบัตรสำหรับคนสองคน และเดินเข้าไปภายใน
“ถึงแล้วพี่วินท์ เลี้ยวเข้าไปเลย ออมอยากเล่น” ศริมนเผยนิสัยแบบเด็กๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้วิธวินท์ขยี้หัวน้องสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะเลี้ยวเข้าไป ปล่อยให้น้องสาวเดินลงไปซื้อบัตรก่อนแล้วตัวเองไปหาที่จอดรถ
“เล่นอะไรก่อนดี เธออยากเล่นอะไรล่ะ เคเบิ้ลคาร์ไหม หรือว่าจะจักรยานน้ำ หรือว่ารถไฟ หรือว่าเอาอะไร” ยูเมมิหันมาถามเพื่อนหนุ่มเมื่อเธออ่านสำรวจจากแผ่นพับแผนผังสวนสนุก
“อะไรที่มันดูโรแมนติกกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง อุตส่าห์มาเดททั้งที”
“โรแมนติก? นี่เธอเป็นคนโรแมนติกตั้งแต่เมื่อไร แล้วหมายความว่าไงที่บอกว่าเดท?” หญิงสาวถามอย่างงุนงง
“ล้อเล่นน่า ล้อเล่น” มาซายะกลบเกลื่อนเมื่อเห็นว่ายูเมมิไม่ได้มีท่าทางว่ายินดีกับคำพูดของเขาเลย นั่นอาจจะหมายความว่าเธอยังไม่คิดกับเขาถึงขั้นนั้น
...ทำไมเธอยังไม่เข้าใจว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอนะ จะต้องให้พูดออกไปตรงๆ เลยเหรอ นี่ถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้เขาไม่นิ่งแบบเธอหรอกนะ เธอไม่รู้สึกอะไรกับฉันเลยหรือไง...
“ฉันซื้อบัตรเคเบิ้ลคาร์มาแล้ว ขึ้นนี่เถอะ” ยูเมมิเดินมาพร้อมกับบัตรเคเบิ้ลคาร์ 2 ใบ เธอยื่นมันให้กับมาซายะ แล้วคนทั้งสองก็เดินขึ้นบันไดไป บนที่รอเคเบิ้ลคาร์นั้น มีเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นมาต่อหลังพร้อมกับแม่ ทำให้ภาพของตนเองและแม่ปรากฏขึ้นมาในมโนภาพของยูเมมิอีกครั้ง
“แม่ขา รถมาแล้วๆ”
“ระวังลูก อย่าเข้าไปจ้ะ เดี๋ยวตกแล้วอดขึ้นนะ มานี่เร็ว แม่อุ้มให้ดูนะ มาเร็วยัยหนู” เด็กหญิงตัวน้อยเดินกลับมาให้ผู้เป็นแม่อุ้มเอาไว้ และเหม่อมองไปรอบๆ ตามประสาเด็ก
“แม่ขา รถมาแล้วๆ”
“อย่าเข้าไปใกล้ลูก ระวัง ถ้าตกลงไปหนูจะอดขึ้นนะจ้ะ มาหาแม่นะ มาเร็วคนดี” บทสนทนาเดิมที่ฟังดูคุ้นหูดังขึ้นอีกครั้ง แม่ลูกคู่นั้นนั่นเอง หญิงสาวยืนฟังแล้วน้ำตาก็เหมือนจะไหลออกมา เธอสะกดกลั้นมันเอาไว้ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเคเบิ้ลคาร์ที่เพิ่งเข้ามาจอดใหม่
หลังจากนั้น หญิงสาวก็เริ่มนิ่งเงียบ ไม่พูดสิ่งใดออกมาเหมือนเช่นทุกครั้งเมื่อนึกถึงผู้เป็นแม่ที่ตายจากไป มาซายะมองอาการของเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วง เขาไม่อยากเห็นเธอไม่สบายใจ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจมากนักว่าทำไมหญิงสาวถึงมีสีหน้าเรียบเฉยและแววตาที่เศร้าหมองเช่นนั้น
เมื่อเคเบิ้ลคาร์เข้ามาจอดอีกครั้ง คนทั้งสองก็เดินลงมาเบื้องล่าง ยูเมมิยังคงนิ่งเงียบเหมือนไม่รู้สึกตัว ชายหนุ่มจึงชวนเธอไปเล่นอะไรที่น่าตื่นเต้นและดูจะสนุกสนานกว่านี้
“ไปเล่นเฮอริเคนกันดีไหม ดูท่าทางจะมันส์นะ เธอว่าไง...”
“....................” ไม่มีคำตอบจากหญิงสาว เธอกำลังครุ่นคิดเรื่องอดีตภายในใจอย่างมีสมาธิจนไม่รับรู้เรื่องโลกภายนอก จนกระทั่งมาซายะเอากระป๋องโค้กเย็นๆ ที่เพิ่งซื้อมาสัมผัสที่ใบหน้า เธอจึงรู้สึกตัว
“อุ๊ย... ขอบคุณจ้ะ ตกใจหมดเลย” หญิงสาวมองหน้ามาซายะอย่างงอนๆ เล็กน้อยที่เขาแกล้งเธอ
“ถ้าไม่ทำอย่างนี้ เธอก็มัวแต่เหม่ออยู่นะสิ เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายหรือเปล่า กลับกันไหม วันหลังค่อยมาก็ได้” ชายหนุ่มเอื้อมมือมาสัมผัสที่หน้าผากของเธออย่างเป็นห่วง แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธความหวังดีของเขา
“ไม่เป็นไรหรอก แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ อย่าเพิ่งกลับเลย เพิ่งมาแป๊ปเดียวเอง เมื่อกี้เธอชวนไปไหนนะ”
“เฮอริเคน ไปเล่นกันไหม”
“ไม่ดีกว่า ฉันรู้สึกเพลียๆ อยากนั่งคิดอะไรสักพัก เธอไปเล่นเถอะ ฉันจะรอตรงนี้”
“ถ้าเธอไม่เล่น ฉันจะนั่งเป็นเพื่อนนะ”
“ไม่เอาน่า เธอไปเล่นเถอะ อุตส่าห์มาทั้งที อย่าไม่เล่นเพราะฉันเลย ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงใคร เธอไปเล่นเถอะ ถือว่าเล่นแทนฉันไง ไปเถอะ เดี๋ยวคนเต็มนะ” ยูเมมิไล่ชายหนุ่มให้ไปเล่นเฮอริเคน แม้ว่าตอนแรกเขาจะอิดออดไม่ยอมไป แต่ในที่สุด เขาก็เดินไปที่เครื่องเล่นนั้น แต่ยังไม่วายหันมามองเธออย่างเป็นห่วง
“ถ้าเธอรู้สึกไม่สบาย โทร.หาฉันทันทีนะ”
“จ้า...ไปเถอะ” เมื่อยูเมมิรับปาก เขาจึงเดินไป
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
หญิงสาววัย 18 ปีคนหนึ่งกำลังเดินมองหาพี่ชายของเธอที่เพิ่งพลัดหลงกัน “พี่วินท์นะ ไปไหนของเขา” เธอบ่นออกมาเมื่อเดินหาพี่ชายอยู่นานแต่ก็ยังไม่พบสักที
“ที่เธอเห็นว่าฉันไม่มองไม่แคร์....” เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น หญิงสาวหยิบขึ้นมาและก็เป็นวิธวินท์นั่นเองที่โทร.เข้ามา
“พี่วินท์ อยู่ไหน...” หญิงสาวกรอกเสียงเข้าไปทางโทรศัพท์
“ก็ที่เดิมนั่นแหละ อยู่ไหนยัยออม”
“ออมก็ที่เดิม แต่ตอนนี้ออมเดินหาพี่วินท์อยู่ มันห่างจากที่เดิมแค่ไหนก็ไม่รู้ ออมเดินมาเรื่อยๆ ตอนนี้ตรงหน้าออมคือ เฮอริเคน” ศริมนตอบพี่ชายของเธอ เบื้องหน้าเธอคือเครื่องเล่นเหินเวหา ตีลังกากลางอากาศ บนความสูงกว่า 20 เมตรหรือเฮอริเคน หญิงสาวมองมันอย่างสนใจและ...
“งั้นรออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวพี่จะเดินไปเอง คราวนี้ห้ามเดินไปไหนนะ รออยู่ที่นั่นแหละ”
“เดี๋ยวพี่วินท์ ตอนนี้มันกำลังว่างพอดี ออมไปเล่นเฮอริเคนก่อนได้ปะ คงไม่นาน ถ้าพี่วินท์เดินมาแล้ว ก็นั่งรอก่อนนะ แล้วออมจะรีบลงมา บ๊ายบาย” ศริมนตอบแล้วรีบปิดกดสายโทรศัพท์ ก่อนที่จะถูกพี่ชายว่าที่เธอมัวแต่คิดเรื่องเล่น ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง
ข้างฝ่ายวิธวินท์ หลังจากที่น้องสาวตัวดีปิดกดสายไปแล้ว เขาก็ส่ายศีรษะอย่างชินชากับนิสัยขี้เล่นของน้องสาวที่แก้ไม่หายสักทีตั้งแต่เด็กยันโต ก่อนจะเดินไปที่เฮอริเคนตามที่ศริมนบอก เมื่อเขาเดินมาถึงบริเวณที่เบื้องหน้าเป็นเครื่องเล่นเฮอริเคนแล้ว เขาก็ทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่ง ชายหนุ่มวางของลง และนั่งคิดถึงเพื่อนสาวสมัยเด็กที่หายตัวไป
...เธออยู่ไหนนะ จะยังจำพี่วินท์คนนี้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ตั้ง 17 ปีแล้วนี่ จะลืมก็ไม่แปลกหรอก แต่พี่ยังไม่ลืมเธอเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราเคยมาเที่ยวที่นี่ด้วยกัน ตอนเล่นอะไรน้า เธอร้องไห้แทบตาย เป็นยัยขี้แยที่ต้องให้คนดูแลอยู่เรื่อย ขี้งอนเป็นที่สุด ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้างน้า ผู้หญิงคนที่หน้าตาเหมือนอาธรา ใช่เธอหรือเปล่า ยัยตัวเล็ก...
เขาครุ่นคิดถึงอดีตแล้วก็ยิ้มออกมา เขามองไปข้างหน้าแล้วมโนภาพก็ปรากฏภาพเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังร้องไห้แล้วเด็กชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาปลอบให้เธอหยุดร้อง แล้วภาพหญิงสาวที่พบเจอที่สนามบินก็ปรากฏขึ้นมาซ้อนทับ และภาพหญิงสาวคนนั้นเดินไปทิ้งกระป๋องน้ำอัดลม ปรากฏออกมาเป็นภาพสุดท้าย แต่ภาพนี้ไม่ใช่ภาพความทรงจำ มันคือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้น ผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนธราธารก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วน่ะสิ
“คุณ....” เขาเผลอเรียกเธอออกไป แต่เสียงเบาๆ ของเขานั้นไม่อาจเล็ดลอดผ่านโสตประสาทของหญิงสาวไปได้ เธอหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงนั้น แล้วพลันสายตาของเธอก็หันมาหยุดไว้ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่จ้องมองมาทางเธอเช่นกัน
“..........” หญิงสาวไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเธอ
“คุณจำผมได้ไหม เราเคยเจอกันที่ดอนเมือง” ชายหนุ่มอธิบาย หญิงสาวขมวดคิ้วพลางคิดในใจถึงชายหนุ่มตรงหน้า นี่เป็นคำถามจากใจของเขา หรือแค่พวกผู้ชายประเภทที่ชอบหาเรื่องทำความรู้จักเพื่อเข้ามาจีบเท่านั้น ความไม่แน่ใจและสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจ ทำให้หญิงสาวตัดสินใจไม่ตอบคำถามของเขา
“คุณอย่าระแวงเลย ผมถามอย่างที่พูดจริงๆ ผมไม่ใช่พวกผู้ชายแบบที่คุณคิดหรอก ผมมีเรื่องจะถามคุณจริงๆ” วิธวินท์พยายามอธิบายให้เธอฟัง เมื่อเห็นท่าทางลังเลของหญิงสาว
“ค่ะ จำได้” หญิงสาวตอบแล้วก็นึกไม่พอใจนักเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าจับได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ผมมีคนรู้จักที่หน้าตาเหมือนกับคุณ เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนของพ่อผม เราตามหาเธอมานาน หน้าของคุณเหมือนกับภรรยาของเพื่อนพ่อผมมาก ผมเลยสงสัย...”
“สงสัยว่าฉันอาจจะเป็นคนที่คุณตามหางั้นหรือคะ” หญิงสาวกล่าวต่อแทรกคำพูดของเขา
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
ระหว่างนั้น ศริมนขึ้นไปเล่นเฮอริเคนกำลังประสบปัญหาเรื่องที่นั่งเล็กน้อย เมื่อมีครอบครัวหนึ่งมาขอสลับที่กับเธอ
   
“น้องคะ น้องช่วยเขยิบไปอีกที่นั่งได้ไหมคะ พี่มากับลูกแล้วก็ครอบครัว นั่งแถวนี้แล้วมันขาดไปทีนึงพอดี ขอโทษนะคะ ช่วยหน่อยได้ไหม”
   
“ค่ะ...เชิญตามสบายค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างสุภาพก่อนจะเขยิบไปอีกที่หนึ่ง ที่นั่งใหม่ของเธออยู่ถัดจากที่นั่งด้านริมสุดเพียงที่เดียว ด้านข้างเธอเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เธอตัดสินใจถามอะไรบางอย่างกับเขาเพื่อความมั่นใจ
   
“ขอโทษนะคะ ข้างคุณมีคนนั่งหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถาม ชายหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นมา เพียงแวบแรกที่ศริมนเห็นเขา เธอก็เหมือนเกิดอาการรักแรกพบชายหนุ่มหล่อตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจที่เธอพูดมากนัก
   
“ห๊ะ Nandesuka?” เขาถามกลับมาเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยความเคยชิน
   
“.............” อาการเหม่อยังไม่หายดีเท่าไรนัก ทำให้เธอนิ่งอึ้งไม่ตอบอะไร ชายหนุ่มจึงเข้าใจว่าหญิงสาวคงไม่เข้าใจที่เขาพูดเป็นแน่
   
“คุนว่าอารัยนาครับ” ชายหนุ่มพูดภาษาไทยอย่างไม่ชัดด้วยความไม่มั่นใจนัก
   
“คือ.....ฉันถามว่าตรงนี้มีคนนั่งไหมค่ะ” หญิงสาวพยายามใช้ภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ เท่าที่เคยเรียนประกอบกับศึกษาเองพูดกับเขาไป แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของเธอจะเข้าที เมื่อชายหนุ่มรู้เรื่องกับคำพูดของเธอ
   
“ไม่มีครับ เชิญตามสบาย มาคนเดียวเหรอครับ” ชายหนุ่มถามอย่างเป็นกันเองมากขึ้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวพูดภาษาญี่ปุ่นกับเขารู้เรื่อง
   
“เปล่าค่ะ มากับพี่ชาย แต่พี่เขารออยู่ข้างล่าง แล้วคุณมาคนเดียวเหรอคะ” ศริมนถาม เธอพยายามซ่อนใบหน้าที่เป็นสีชมพูระเรื่อเอาไว้
   
“มากับเพื่อนอีกคน เธอรออยู่ข้างล่างเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบ แล้วไม่นานหลังจากนั้น การเล่นเฮอริเคนก็เริ่มต้นขึ้น
   
“กรี๊ด” เสียงคนมากมายตะโกนออกมาด้วยทั้งความตื่นเต้นและกลัวปนเร้าใจ ศริมนเองก็เช่นกัน เธอร้องด้วยความกลัว พร้อมกับหาอะไรเกาะยึดตัวเธอเอาไว้ โดยไม่ทันสังเกตว่าสิ่งที่เธอเกาะเอาไว้แน่นนั้นคืออะไร เฮอริเคนยังคงเหินเวหา ตีลังกากลางอากาศขึ้นลงอีกหลายครั้ง จนเมื่อเครื่องเล่นหยุด...
   
“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ” ศริมนพูดอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เธอเกาะมาตลอดเวลานั้นคือแขนของชายหนุ่มข้างเคียงนั่นเอง
   
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มพูดอย่างไม่ถือสาอะไรนัก
   
“ฉันขอโทษค่ะ นึกว่าเป็นพี่ชาย ขอโทษนะคะ” หญิงสาวกล่าวขอโทษด้วยใบหน้าแดงก่ำ
   
“ไม่เป็นไรครับ คุณคงกลัว เราลงกันดีกว่า พี่ชายคุณกับเพื่อนผมคงรอแย่แล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยความเขินเล็กน้อยที่หญิงสาวแปลกหน้ามาเกาะแขนเขาเอาไว้ตลอดเวลา
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
“ใช่ครับ เราอยากเจอเธอมาก คุณพ่อกับคุณย่าของเธอรอเธออยู่ตลอดเวลา”
“แล้วแม่ของเธอล่ะคะ....” หญิงสาวถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะต้องออกมาเป็นอย่างไร
“เสียไปนานแล้ว เธอหายไปตั้งแต่อาธรา แม่ของเธอเสีย เราไม่ได้เจอเธออีกเลยนับตั้งแต่นั้น เมื่อวาน ผมเพิ่งเห็นรูปของอาธรา คุณเหมือนกับอาธราอย่างกับฝาแฝด ผมอยากให้คุณลองไปพบคุณลุงกับคุณย่า ถ้าคุณคือเธอ ท่านทั้งสองคงจะดีใจมาก”
“.....แล้วทำไมพวกคุณถึงเพิ่งคิดจะมาหาเธอตอนนี้ล่ะคะ แม่ของเธอน่าจะเสียไปนานมากแล้ว” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้น วิธวินท์ตอบด้วยความแปลกใจ
“คุณลุงกับคุณย่าหาเธอมานาน แต่ก็ยังไม่เจอ ท่านเริ่มจะหมดหวังแล้วครับ พอดีว่าผมเห็นรูปอาธรา เลยคิดว่าถ้าเจอคุณ คุณอาจจะ....”
“หมดหวัง...งั้นเหรอคะ แล้วคุณอยากจะให้ฉันไปพบกับคุณลุงกับคุณย่าคุณ แล้วพวกเขาจะยอมรับฉันเหรอ ถ้าฉันเป็นลูกเป็นหลานของพวกเขาจริงๆ ฉันจะได้อะไรในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยสนใจฉันเลย”
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น