อัจฉริยะจำแลง - อัจฉริยะจำแลง นิยาย อัจฉริยะจำแลง : Dek-D.com - Writer

    อัจฉริยะจำแลง

    เมื่อบุญมาหนุ่มบ้านนอกเซ่อซ่ากลายเป็นอัจฉริยะด้วยไบโอคอมพิวเตอร์ที่ฝังลงสมอง ใครๆก็พากันอยากใกล้ชิด แต่รักฝังใจในอดีตกลับทำให้บุญมาต้องพบกับปัญหาเกินกว่าความเป็นอัจฉริยะจำแลงจะแก้ไขได้

    ผู้เข้าชมรวม

    413

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    413

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ส.ค. 56 / 12:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

      “อัจฉริยะจำแลง”

                                                                            โดย  อรรถกมล

    (หมายเหตุ เคยลงในหนังสือขายหัวเราะ ราวปี2535 / ผู้เขียนเคยเป็นนักเขียนในทำเนียบนักเขียนขายหัวเราะ ลงเพื่อไม่ให้ต้นฉบับสูญหายไป)

                       ดูเหมือนว่าบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์กำลังก้าวเข้าใกล้ตำแหน่งผู้นำเทคโนโลยีของโลกในไม่ช้านี้แล้ว   เมื่อทีมงานในห้องทดลองของดอกเตอร์นภดลประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาของผลกระทบทางควอนตัมที่มีต่อนาโนเทคโนโลยีได้อย่างชาญฉลาด  ปัญหาที่ซิลิกอนสารกึ่งตัวนำสารกึ่งตัวนำที่ใช้สร้างไมโครชิพไม่อาจสร้างให้มีขนาดเล็กเกินกว่าห้าสิบในล้านส่วนของเมตรได้  แต่ด้วยเทคโนโลยีสารชีวภาพกึ่งตัวนำ  พวกเขาสามารถสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ขนาดเซลขึ้นมาได้สำเร็จในชื่อของ “นิวโรนชิพ”  ชิพคอมพิวเตอร์ที่สร้างจากสารประกอบชีวภาพที่เลียนแบบเซลสมองของมนุษย์  ซึ่งเมื่อประกอบเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมซูเปอร์คอมพิวเตอร์เมนเฟรมแล้ว  ขนาดของมันก็ไม่ใหญ่เกินไปกว่าปลายนิ้วก้อยเสียด้วยซ้ำ

     

                            ดอกเตอร์อุดรประธานบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์ได้ทุ่มเทงบประมาณจำนวนมหาศาลของบริษัทโดยปกปิดข้อมูลเป็นความลับไม่เว้นแม้แต่คณะกรรมการบริษัท  ด้วยความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ล้ำลึกในใจ  น่าเสียดายที่แม้จะปราดเปรื่องเพียงใดแต่ดร.อุดรก็ไม่อาจคำนวณหรือคาดการณ์ไปได้ทุกสิ่ง  ในคืนหนึ่ง...ดร.อุดรก็พลันหัวใจวายเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน

                       มรดกที่ดร.อุดรเหลือทิ้งไว้ให้กับบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์ก็คือหนี้สินจำนวนมหาศาลที่ซ่อนเร้นอยู่ในกลไกระบบบัญชี จากการทุ่มเทเงินทองทรัพยากรทั้งหมดไปเพื่อการพัฒนาคอมพิวเตอร์ชีวภาพที่ใกล้จะประสบความสำเร็จสมบูรณ์ในไม่ช้านี้แล้ว  แต่การปะทุของปัญหาด้านการเงินที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลาก็อาจกวาดทุกสิ่งทิ้งลงทะเลไปได้อย่างง่ายดาย  บัดนี้ทีมงานวิจัยของดร.นภดลรองประธานบริษัทฝ่ายวิจัยและพัฒนามีอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย  เมื่อไร้ซึ่งเงาผู้ที่เคยเป็นกำแพงเหล็กคอยปกป้องจากดร.อุดรประธานบริษัทผู้ทรงอิทธิพลและปราดเปรื่อง  พวกเขาก็อาจถูกกล่าวหาว่าใช้เงินวิจัยนับแสนๆล้านของบริษัทในทางฉ้อฉลจากคณะกรรมการบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์  และอาจต้องใช้ชีวิตที่เหลือวิจัยงานอยู่หลังกำแพงคุก  ดังนั้นเองพวกเขาจึงตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่...อย่างไม่มีทางเลือก!

     

                            ในวันแรกที่บุญมา แย้มกระโทกได้งานทำเป็นนักการภารโรงในบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์  เขาดีใจจนต้องรีบเขียนจดหมายไปบอกกับสำเนาหญิงสาวที่เติบโตมาด้วยกันที่บ้านนอกเมืองหลังเขาแสนกันดาลซึ่งเขาหลงรักเธอมาตั้งแต่เด็กๆด้วยความตื่นเต้น  สองเดือนต่อมาเธอก็เข้ามาในกรุงเทพฯเพื่อหางานทำอย่างเขาบ้าง  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบุญมาดีใจแค่ไหนที่มีคนรักมาอยู่ร่วมชายคา  เขาอวดเครื่องแบบภารโรงของบริษัทให้เธอดูทันทีด้วยความภาคภูมิใจ  แต่สำเนาดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรด้วยเลย  ห้องเล็กๆคับแคบข้างๆตึกใหญ่ของอวตารคอมพิวเตอร์กลายเป็นดั่งสวรรค์สำหรับบุญมา  แต่ไม่ใช่สำหรับ..สำเนา  เธอไม่ได้เข้ากรุงมาเพียงเพื่อเป็นเมียของภารโรง 

                            แม้บุญมาจะทะนุถนอมเธอย่างดีราวกับเป็นเจ้าหญิง  แต่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นสำเนาก็หนีจากเขาไปอยู่กินกับหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างปากซอยโดยไม่รู้สึกลังเลใจเลยแม้แต่น้อย

                       เป็นครั้งแรกที่บุญมารู้จักกับเหล้า  เขาเมาไม่ได้สติจนกระทั่งตกลงไปในสระน้ำพุหน้าบริษัทในคืนนั้นเอง  กว่าจะมีใครมาพบ เขาก็จมอยู่ในน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว...

     

                            “ฟื้นแล้วเหรอครับ คุณบุญมา”เสียงของชายวัยกลางคนเอ่ยกับเขาทันทีที่เขาลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้ากังวลกับตัวเขามากมายอย่างเห็นได้ชัด

                            “ท่านรองฯนภดล..”บุญมาพูดขึ้นด้วยสีหน้าทั้งตกใจและประหลาดใจสับสนปนเป  ด้วยฐานะที่เหมือนอยู่กันคนละโลก เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้เห็นดร.นภดลมานั่งเฝ้าไข้ภารโรงอย่างเขา

                            “ผมดีใจจริงๆที่คุณฟื้น  รู้มั้ยว่าคุณจมน้ำนานตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ จนโรงพยาบาลบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับรักษาคุณ พวกนั้นเชื่อว่าสมองของคุณคงจะตายไปแล้วเพราะขาดออกวิเจนนานเกินไป”ดร.นภดลพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเอาใจจนบุญมาทำอะไรแทบไม่ถูก

                            “ถ้าอย่างนั้น...ผมจะต้องตายตามสมองไป..มั้ยครับ!”เขารู้สึกว่าคำถามของเขาช่างโง่สิ้นดี

                            “ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณบุญมา  คุณไม่เป็นไรแล้ว  แต่...ผมจำเป็นต้องอธิบายบางอย่างกับคุณ  อย่างที่บอกนั่นแหละครับว่าคุณจมน้ำไปนานมากจนหมอคิดว่าสมองคุณหยุดทำงานไปแล้ว  ดังนั้นผมกับทีมงานจึงจำเป็นต้องตัดสินใจผ่าตัดใส่ไบโอคอมพิวเตอร์เข้าไปเชื่อมกับสมองของคุณ!

                            “อะไรนะครับ  ในสมองของผม...”บุญมาร้องเสียงสูงอย่างตื่นเต้นตกใจ

                            “ผมขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตคุณก่อน  แต่มันจำเป็นจริงๆเพราะถ้าไม่ทำแบบนี้คุณอาจกลายเป็นมนุษย์ผักที่ไม่สามารถจะเคลื่อนไหวหรือแม่แต่คิดได้  แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะไบโอคอมพิวเตอร์ที่เราฝังไว้ใต้แกนสมองของคุณไม่เพียงแต่จะทำให้คุณเป็นปรกติเท่านั้น  แต่ยังจะทำให้คุณกลายเป็นมหาอัจฉริยะที่ลาดที่สุดในโลกอีกด้วย”ดร.นภดลพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงเอาใจ

                       “คนอย่างผมน่ะเหรอครับ จะฉลาดได้...”บุญมาย้อนถาม น้ำเสียงเหมือนจะเย้ยหยันตัวเอง

                            “แน่นอนครับ...คุณรู้มั้ยว่าสมองของเรามีสามชั้นด้วยกัน ชั้นในสุดคือก้านหรือแกนสมอง คือ Reptilian complex หรืออาร์-คอมเพล็กซ์  เป็นสมองที่เก็บข้อมูลสัญชาตญาณดิบของเราเอาไว้  มันบังคำให้เราต้อองทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดและเพื่อสืบเผ่าพันธุ์ต่อไป  ถ้าคิดตามทฤษฏีจิตวิทยาของฟรอยด์มันก็คืออิด(ID)นั่นเอง  สมองชั้นที่สองคือลิมบิค มันจะควบคุมความรู้สึกและอารมณ์ของเรา ความรักความสงสารหรือความเกลียดชัง ซึ่งก็คืออัตตาหรืออีโก้(EGO)  ถ้าอาร์คอมเพล็กซ์ทำให้เราหวงถิ่นที่อยู่อาศัยเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลาน ลิมบิคก็จะเปลี่ยนมันให้เป็นความคิดรักชาติ  มันทำให้ความคิดและจิตใจของเราซับซ้อนขึ้นมากกว่าสัตว์  ส่วนสองชั้นนอกสุดหรือนีโอคอร์เท็กซ์ก็คือวิวัฒนาการของความเป็นมนุษย์ของเราที่รู้จักศึกษาเรียนรุ้และแก้ไขปัญหาทั้งด้านรูปธรรมและนามธรรม โดยแบ่งออกเป็นสมองซีกซ้ายและซีกขวา...เหมือนกับหยินและหยาง  มันคือส่วนที่สร้างซูเปอร์อีโก้หรืออภิปรัชญาในตัวเรา อุดมการณ์และความเสียสละ ความรักในมนุษยชาติหรือเด็กๆโดยไม่แบ่งแยกลำเอียง แต่ดูเหมือนว่าสมองส่วนนี้ของมนุษย์เราในยุคปัจจุบันยังพัฒนาไปไม่ถึงไหนเลย...คุณว่ามั๊ย”ดร.นภดลเอ่ยถามขึ้นอย่างติดตลก

                            บุญมาพยักหน้ารับ รู้สึกผ่อนคลายขึ้น หากเป็นเมื่อก่อนนี้เขาคงไม่เข้าใจเรื่องที่ดร.นภดลพูดมาเลยแม้แต่น้อย  แต่น่าแปลกที่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจำมันได้ทุกคำพูดจนแทบว่าจะสามารถพูดทวนหรือแม้แต่พูดย้อนถอยหลังได้ทุกคำพูดโดยไม่ผิดเพี้ยนเลยด้วยซ้ำ

                            “นั่นสิ เรารู้กันมานานแล้วว่ามนุษย์ปัจจุบันใช้ความสามารถของสมองได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของประสิทธิภาพแท้จริง...แม้แต่บรรดาอัจฉริยะก็เถอะ  ศักยภาพของสมองส่วนใหญ่ซ่อนเร้นอยู่ในระบบของจิตใต้สำนึกของเรา...หรือบางทีอาจจะรวมถึงจิตใต้สำนึกร่วมของเผ่าพันธุ์ตามทฤษฏีของดร.คาร์ล จุงนักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่งนับจากฟรอยด์  หรืออาจจะหมายถึงคลังสมองของจิตแห่งจักรวาล  ดังนั้นถ้าเราสามารถกระตุ้นให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  มนุษย์เราทุกคนก็จะสามารถกลายเป็นอัจฉริยะที่เข้าใจสรรพสิ่งได้ทั้งจักรวาลทีเดียว  นั่นแหละคือหน้าที่และการทำงานของไบโอคอมพิวเตอร์ละ...”ดร.นภดลพูดพลางประสานมือมองเขาด้วยรอยยิ้ม เหมือนกำลังชื่นชมผลงานอัจฉริยะของตนเอง

                            “ท่านรองหมายความว่า  ตอนนี้ผมจะมีความสามารถ...เป็นอัจฉริยะ..เหรอครับ”บุญมาถาม เสียงแกมประหม่า

                            “ใช่แล้วครับ  และตอนนี้ผมและทีมงานวิจัยคงต้องอาศัยความเป็นอัจฉริยะของคุณบุญมาเป็นที่พึ่ง..”

    ดร.นภดลพูดพลางยิ้มเหมือนจะประจบ ในขณะที่บุญมาหนุ่มบ้านนอกหน้าซื่อมองเขาด้วยสีหน้างุนงงสงสัย

     

                            เพียงแค่สามเดือนทีมงานวิจัยของดร.นภดลก็สามารถดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมหาศาลเข้าสู่สมองมหัศจรรย์ของบุญมาได้หมดสิ้น บัดนี้บุญมาสามารถพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และภาษาอาหรับได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ อีกทั้งยังมีความรู้ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ กฎหมาย รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การบริหารธุรกิจและการตลาดได้ดีในระดับปริญญาเอก  บุญมาถูกผลักดันเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของอวตารคอมพิวเตอร์ด้วยการผลักดันอย่างสุดกำลังของดร.นภดล และด้วยความเป็นอัจฉริยะที่ทำให้คณะกรรมการบริษัทต้องตกใจจนตาค้าง

                            เอ็มดีคนใหม่ของบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์ได้ลายเป็นคนดังระดับโลกได้ในเวลาอันรวดเร็ว  เขาสามารถทำให้สถานะของบริษัทที่ง่อนแง่นพุ่งทะยานกลายเป็นบริษัทที่มั่นคงและทรงอิทธิพลของโลกได้ราวกับเนรมิต  จากหนุ่มบ้านนอกที่หน้าตาและการแต่งตัวสุดเห่ย บัดนี้กลายเป็นบุคคลทรงเสน่ห์ที่คนทั่วโลกชื่นชมและต้องการรู้จักใกล้ชิดด้วยคุณสมบัติทั้งด้านสติปัญญาและทรัพย์สมบัติมหาศาล เขาจึงกลายเป็นที่หมายปองของสาวสวยมากมายทั้งดารานางแบบหรือลูกหลานผู้ดีมีสกุล  จนทำให้แม้แต่ดร.นภดลก็พลอยต้องยุ่งยากถูกขอร้องให้เป็นพ่อสื่อพ่อชักจากคนในวงสังคมชั้นสูงจนแทบไม่มีเวลาทำงานเลยทีเดียว  แต่ดูเหมือนว่าบุญมาจะไม่ได้แสดงความสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษเลย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความเจ็บช้ำในอดีตก็เป็นได้

     

                            คืนนี้เป็นงานราตรีสโมสรที่เต็มไปด้วยแขกเหรื่อในสังคมชั้นสูงรวมทั้งทูตานุทูตและนักธุรกิจใหญ่จากต่างประเทศ ตั้งแต่เช้าแล้วที่ดร.นภดลต้องคอยตอบคำถามทางโทรศัพท์จากเพื่อนคุณหญิงคุณนายที่มีลูกสาวกับคำถามว่าผู้จักการหนุ่มโสดของบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์จะมาร่วมงานหรือไม่  ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องขอร้องแกมบังคับให้บุญมาไปร่วมงานในคืนนี้ให้ได้ เพื่อให้บรรดาลูกท่านหลานเธอทั้งหลายได้มีโอกาสทำความรู้จักกับนักบริหารหนุ่มที่โด่งดังที่สุดในโลก

                            ในงานเลี้ยง ใครต่อใครพากันเข้ามาแนะนำตัวและทำความรู้จักกับบุญมาอย่างมากมายโดยเฉพาะบรรดาหญิงสาวสวยมากหน้าหลายตา บุญมาจำทุกคนได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากนัก  ทุกคนจึงรู้สึกประทับใจในตัวเขาเพราะคิดว่าบุญมาจำพวกเขาได้อย่างละเอียดทุกเรื่องเพราะเห็นความสำคัญ

                            เมื่อเดินออกจากงานราตรีสโมสรอันหรูหราในตอนเลิกงาน  บุญมาเดินออกมาพร้อมกับดร.นภดล  แวบหนึ่งเขาเห็นเงาตะคุ่มๆของใครคนหนึ่งใกล้ๆกับรถ และเมื่อเขาจ้องมองไป ทันใดนั้นบุญมาก็พลันร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจอย่างที่ดร.นภดลไม่เคยได้ยินมาก่อนขึ้นว่า

                            “นั่นสำเนาใช่มั้ย  สำเนา! นี่พี่เองนะ...บุญมาไง”

                            ดร.นภดลหันไปมองตามทันที หญิงสาวรูปร่างเตี้ยป้อมหน้าตาธรรมดาดาษดื่นเดินสะอื้นออกมาจากมุมมืดนั้นเนื้อตัวมอมแมม พูดเสียงสั่นเครือขึ้นว่า

                            “พี่บุญมา สำเนาผิดไปแล้ว สำเนาขอโทษ พี่บุญมาโกรธสำเนารึเปล่า..”

                            อย่าไปเชื่อ!บุญมา   ใครก็ดูออกทั้งนั้นว่าผู้หญิงคนนี้กลับมาเพราะเงิน ท่าทางที่แสดงออกก็มารยาตื้นๆชัดๆ......ดร.นภดลคิดในใจขึ้นด้วยความโกรธ

                            “ไม่เลย  พี่บุญมาไม่เคยโกรธสำเนาเลย  ยังจำได้มั้ย สมัยเด็กๆที่เราเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียนด้วยกัน เลี้ยงควาย เก็บผักบุ้งด้วยกัน  พี่ไม่เคยลืมช่วงเวลาที่มีความสุขของเราสองคนเลย”บุญมาพูด น้ำเสียงฟุ้งฝันเปี่ยมสุขท่วมท้น  เดินเข้าไปโอบกอดหญิงสาวขะมุกขะมอมที่เบื้องหน้าอย่างทะนุถนอมราวกับเป็นสิ่งสูงค่าที่แสนเปราะบาง

                            “จริงเหรอจ๊ะพี่ ถ้าอย่างนั้น...พี่บุญมาจะแต่งงาน กับ...”สำเนาซ่อนสายตาหลุกหลิก พูดจาเลียบเคียง

                            “แน่นอน! พี่ดีใจจริงๆที่ได้ยิน...พี่พูดอะไรไม่ถูกแล้ว”บุญมาอุทานขึ้นด้วยนำเสียงตื่นเต้นดีใจ

                            ไม่นะ...นังนี่มันกำลังหลอกเธออยู่นะบุญมา ใครๆเขาก็มองออก

    ดร.นภดลอยากจะร้องตะโกนออกไปด้วยความอัดอั้นตันใจยิ่งนัก

                       แต่แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในนาทีนั้นเอง ร่างของบุญมาพลันชะงักแข็งทื่อเหมือนเป็นอัมพาตขึ้นมาอย่างกะทันหัน ท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพลิดของทุกคนในบริเวณนั้น

             

                       “คุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับบุญมา..”ดร.นภดลมองดูร่างที่นอนแข็งทื่อบนเตียงของบุญมาโดยไม่เคยละสายตาอันห่วงใยไปจากเขาแม้แต่แตอนที่พูดกับหมอวีระหนึ่งในทีมงานวิจัยของเขา

                            “เราพบการหลั่งสารฟินิลเอทิลลามีนรวมทั้งโดพามีนในสมองของเขาซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นในตอนที่รู้สึกซาบซึ้งโรแมนติก  แสดงว่าเขาเกิดความรักขึ้นเต็มหัวใจในขณะที่เกิดอาการผิดปรกติ..”หมอวีระอธิบายตามข้อมูลที่ตรวจสอบมา

                            “แสดงว่าบุญมารักผู้หญิงคนนั้นหมดหัวใจ แม้จะรู้ว่าถูกหลอก!  ....นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้”ดร.นภดลพูดเสียงซังกะตาย

                            “หมายความว่ายังไงเหรอครับ”หมอวีระถาม

                            “หมายความว่า มันเกิดภาวะซูเปอร์โพซิชั่นขึ้นมาในวงจรตรรกะของคอมพิวเตอร์ชีวภาพในสมองของเขา   เพราะว่าระบบประมวลผลยืนยันว่าผู้หญิงคนนั้นโกหกและไม่จริงใจกับเขา  แต่เพราะความรักทำให้บุญมาไม่ยอมเชื่อและสั่งคำสั่งที่ขัดแย้งกับการประมวลผลอย่างรุนแรง ทำให้ระบบสารเคมีในสมองปั่นป่วนอย่างรุนแรง เครื่องคอมพิวเตอร์ชีวภาพจึงแฮงค์...มันหยุดการทำงานเพราะไม่ยอมรับคำสั่งไร้เหตุผลของบุญมาที่ต้องการแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นไงล่ะ”

                            “ผมเข้าใจแล้ว  ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ แค่น้ำตาไม่กี่หยดของผู้หญิงก็ทำให้โครงการคอมพิวเตอร์ชีวภาพที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมีอันพังครืนลงมาได้”หมอวีระพูดพลางถอนใจ

                            “นั่นนะสิ  สมัยก่อนมีนิทานเรื่องเมิ่งเจียหนีไปตามหาสามีที่ถูกเกณฑ์ไปสร้างกำแพงเมืองจีนแล้วเสียชีวิต เธอร้องไห้จนกำแพงพังทลายลงมา แต่ครั้งนี้...มันแค่น้ำตาแห่งความเสแสร้างไม่กี่หยดแท้ๆ...”

    ดร.นภดลพูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง

                            “น้ำตาของผู้หญิงนี่ช่างมีอานุภาพทำลายล้างเสียยิ่งกว่าอาวุธปรมาณูซะอีก!

                                 ---จบ---

                 

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×