ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] VAMPIRE & WOLF (TAENY)

    ลำดับตอนที่ #5 : CH5 : แกไม่ใช่น้องฉัน...

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 57




    CHAPTER 5







    ความเงียบงันเข้าครอบงำทั่วผืนห้อง เหมือนถูกหยุดเวลาไว้ให้ไม่สามารถขยับไปไหนได้ คนสามคนเอาแต่นั่งมองหน้ากันไปมา เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายขึ้นบนใบหน้าของร่างสูงทั้งสาม  พวกเขากำลังจะได้รู้ความลับอะไรบางอย่าง...

     

     

     

    ความลับที่ทั้งแทยอนและแทงกูไม่ต้องการจะรับรู้มัน...

    ถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องจริง

    ถ้าเกิดว่าแทยอนกับแทงกูเป็นพี่น้องกันจริงๆ...

     

     

    ฉันว่ามันเริ่มจะไม่สนุกแล้วหล่ะยูริเอ่ยทำลายความเงียบ  เขาเอามือประสานกันแล้ววางไว้ใต้คางอย่างใช้ความคิด

    ถ้าเกิด...แทยอนกับแทงกูเป็นพี่น้องกันจริง….”        ซูยองเว้นวรรคหายใจ จนยุนอาพูดแทรกขึ้นมา

    ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง...มันคงไม่สนุกแน่

    แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงนะ

    หมายความว่ายังไงยูริ”     นัยตาของทั้งยุนอาและซูยองต่างฉายแววสงสัย  ยูริไม่ตอบ แต่เขากลับเอ่ยถามยุนอาแทน

    แทยอนหน่ะ....ไม่ใช่แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ใช่ไหม ”               ยุนอาพยักหน้า

    แทงกูเอง...ก็ไม่ใช่มนุษย์หมาป่าเต็มตัวหรอกนะ  เขามีเลือดมนุษย์วนเวียนอยู่ในร่างกาย เป็นครึ่งคนครึ่งหมาป่า... ยูริพูดพลางโน้มตัวไปหยิบแหวนบนโต๊ะ แล้วหันมันให้ยุนอาดู

    ชื่อแม่เหมือนกัน...เลือดผสมเหมือนกัน...หน้าตาคล้ายกัน...แกคงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรอกนะ?

    แล้วถ้าเป็นงั้นจริงแกจะทำยังไง จะบอกให้สองคนนั้นรู้ หรือจะทำเป็นไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย

    ถึงเราไม่บอกยังไงสองคนนั้นก็ต้องรู้”         ซูยองเอ่ยแทรกบทสนทนาของยูริและยุนอา จนทั้งสองคนหันมาเลิกคิ้วให้อย่างสงสัย

    แกหมายความว่าไง?”      

    แทยอนกับแทงกูหน่ะมีสิ่งหนึ่งที่เชื่อมกันไว้คือสายสัมพันธ์...ยังไงสิ่งนั้นก็ต้องพาให้ทั้งสองคนรับรู้ถึงความจริงข้อนี้...

    แต่สายสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นหน่ะ มันต่างกัน....

     

    ต่างกันตรงที่แทงกูพยายามจะตามหามันไว้...แต่แทยอนกำลังจะพยายามตัดมันให้ขาดสะบั้น...

     

    พูดเท่านี้คงเข้าใจนะ?     ซูยองยักไหล่อย่างสบายๆ

    แกจะบอกว่าแทยอนกับแทงกูรู้...เรื่องที่ตัวเองมีพี่น้องงั้นเหรอ?

    แล้วถ้าฉันบอกว่าใช่หล่ะ?”             ซูยองยิ้มมุมปากก่อนจะพูดต่อ

    ฉันคิดว่าพวกมันน่าจะรู้แค่ว่ามีพี่น้องร่วมสายเลือด.....แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครหล่ะมั้ง           ยุนอาขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด 

    แล้วเราจะทำยังไงกันต่อ?

    ก็ไม่ต้องทำอะไร....แค่บอกความจริงกับสองคนนั้นไป...”      ซูยองพูด เขาถอนหายใจพลางมองคนสองคนตรงหน้า

    ไปปลุกให้สองพี่น้องนั้นตื่นจากฝันได้แล้วได้เวลากลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงสักที....

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ฮโยยอน ซันนี่ เห็นยูริกับซูยองบ้างไหม?”                 เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในบ้าน

    ไม่เลยนะ เห็นออกจากหมู่บ้านไปตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว นี่ก็ยังไม่กลับมาเลย”       สาวร่างเล็กหันมาตอบแทงกู หล่อนเลิกคิ้วพลางถามต่อ

    แล้วนี่แทยอนไม่ได้ไปกับสองคนนั้นหรอกเหรอ?  แทยอนส่ายหน้า

    ฉันออกไปตามพวกนั้นดีกว่า หายไปนานเกินไปแล้ว

    งั้นพวกฉันไปด้วย ฉันเองเป็นห่วงสองคนนั้นเหมือนกัน”     ฮโยยอนปิดหนังสือที่อยู่ในมือและวางไว้บนโต๊เช่นเดียวกับซันนี่ที่ลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสาย

    แล้วแทงกูรู้เหรอว่าสองคนนั้นไปที่ไหนหน่ะ?

    ตามกลิ่นไปก็น่าจะพอรู้นะ”           แทงกูบอกพลางเดินนำทั้งสองออกจากตัวหมู่บ้าน  ฮโยยอนที่เดินตามมาสักพักก็เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าลำคอของร่างเล็กไร้ซึ่งสร้อยเส้นที่เขามักจะสวมเอาไว้ติดตัวตลอดเวลา

    เอ๊ะ แทงกู...ไม่ได้ใส่สร้อยเหรอ”                  แทงกูส่ายหน้า

    มันหายไปไหนไม่รู้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้วหน่ะ”             ร่างเล็กตอบพลางย่อตัวลงดมกลิ่นตามผืนหญ้าที่พวกยูริและซูยองเดินผ่าน  เดินมาเรื่อยๆจนแทงกูเริ่มสะดุดใจและหยุดชะงัก

    มีอะไรเหรอ”     ซันนี่เอ่ยถามพลางเดินมาหาร่างเล็กซึ่งยืนมองไปตามทางข้างหน้า

    ซันนี่ ฮโยยอน ฉันว่าทางนี้มัน...”                                แทงกูขมวดคิ้ว นัยตาของเขานิ่งงัน

    ทางนี้มันมีอะไรเหรอ?...”              ฮโยยอนที่เพิ่งเดินตามมาก็ส่งเสียงถามบ้าง  ร่างเล็กหลับตาใช้ความคิดอยู่สักพักแล้วจึงตอบออกไป

    นี่มันทางไปบ้านของพวกแวมไพร์

    อะไรนะ?”          คนที่เหลือแทบจะอุทานขึ้นพร้อมกัน            

    งั้นก็แสดงว่า...                แทงกูพยักหน้าตอบ

    ยูริกับซูยอง...ไปบ้านของพวกแทยอน....

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    แกจะบอกสองคนนั้นจริงๆหน่ะเหรอ”        แวมไพร์ร่างสูงขมวดคิ้วพร้อมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

    ถึงไม่บอกยังไงสักวันพวกนั้นก็ต้องรู้อยู่ดี สู้บอกตอนนี้เลยไม่ดีกว่ารึไง”                            ซูยองบ่น  พลางใช้มือนวดขมับ

    แล้วจะบอกยังไง? อยู่ๆให้เดินไปพูดตรงๆเลย คิดว่าสองคนนั้นจะเชื่อเหรอ”       ยูริถามขึ้นบ้าง

    เอาเป็นว่ายังไงก็ลองบอกไปก่อนเหอะ ฮะ...เฮ้ย!! อะไรหน่ะ!”           ซูยองที่พูดยังไม่ทันจบประโยคก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีสิ่งของทรงสี่เหลี่ยมแบนขนาดใหญ่กำลังปลิวมาทางตนเอง ประตูอีกบานของบ้านหลังนี้กระเด็นมาเฉียดที่ๆพวกเขาสามคนนั่งอยู่   ยูริกับยุนอาเองก็ได้แต่ลุกขึ้นยืนอย่างตกใจไม่แพ้กัน

    เฮ้ย! ใครเตะประตูบ้านฉันอีกแล้ว!”             ยุนอาถามพลางมองประตูไม้หรูหราที่มันปลิวมาตกอยู่ข้างหน้าอย่างอาลัยอาวรณ์

    เฮ้! นั่นใครหน่ะ!”            ยูริตะโกนถาม แต่เป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อกี้มันเกิดขึ้นเร็วมากจน รวมทั้งฝุ่นที่เกิดจากแรงเตะนั้นก็กระจายคละคลุ้งไปทั่วจนมองเห็นบุคคลที่เพิ่งมาใหม่ไม่ค่อยชัดนัก

    ฉันเอง...          เสียงนุ่มทุ้มคุ้นหูที่ดังขึ้นส่งผลทำให้ยูริและซูยองต่างรีบหันหน้ามามองกัน

    แทงกู...”             

    พวกแกมาทำอะไรที่นี่หน่ะ?”         ยูริเอ่ยถามเมื่อเห็นข้างหลังร่างเล็กยังมีซันนี่และฮโยยอนเดินตามมา

    ฉันควรต้องถามแกมากกว่านะ”     ซันนี่พูดพลางยืนกอดอก แต่สายตาของหล่อนยังคงไม่ละออกไปจากแวมไพร์ร่างสูง

    ไม่เจอกันนานเลยนะ อิมยุนอา”   

    ไม่คิดว่าจะได้เจอเธอเหมือนกัน ซันนี่”       นัยตาร่างสูงฉายแววซุกซน เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะเอ่ยต่อ

    รู้สึกว่าวันนี้จะมีแต่คนมาเยี่ยมฉันนะ

    งั้นเธอก็ควรจะดีใจสินะซันนี่ถาม  ร่างสูงไม่ตอบอะไร เขาเพียงยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน

    เอะอะเสียงดังอะไรกัน..น่ารำคาญซะจริง....          มีเสียงหนึ่งที่แทรกเข้ามาระหว่างวงสนทนา เรียกให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงเงยขึ้นไปมองบนชั้นบน เห็นร่างบางนั่งไขว่ห้างอยู่อยู่ตรงราวบันได  นัยตาของหล่อนเรียบนิ่ง

    พี่เจสสิก้า...”      ยุนอาเอ่ยขึ้นคนแรกเมื่อเห็นบุคคลที่กำลังนั่งอยู่  

    อ้าว เจสสิก้าจอง แวมไพร์สาวผู้เลื่องชื่อนี่เอง เป็นเกียรติอย่างมากที่มาร่วมวงสนทนากับพวกเรา”              ซูยองเอ่ยอย่างขบขัน แต่เพียงไม่ถึงสิบวินาที เขาก็รับรู้ถึงลมแผ่วเบาเคลื่อนผ่านไปทางด้านหลัง  รู้ตัวอีกทีเจสสิก้าก็มายืนอยู่ข้างหลังตัวเองซะแล้ว  ยูริมองคนมาใหม่สลับกับซูยองด้วยความตกใจ

    เอาสิ อยากสู้กับฉันงั้นเหรอ”          ซูยองเอ่ยพลางเหลือบมองคนข้างหลังอย่างนึกสนุก

    พี่เจสสิก้า ใจเย็นสิ”           ยุนอากำลังจะเข้ามาห้าม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทัน  นัยตาเจสสิก้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเช่นเดียวกับนัยตาซูยองที่เปลี่ยนเป็นทองแวววับ  แค่พริบตาที่ร่างบางกำลังจะตวัดเล็บเข้าที่คอ ซูยองก็ถอยไปยืนอยู่บนราวบันไดซะแล้ว

    พี่เจสสิก้า! หยุดก่อนเถอะค่ะ      อยู่ดีๆร่างของผู้หญิงอีกคนก็เข้ามาห้ามพลางจับแขนร่างบางไว้แน่น     คนที่เหลือมาบุคคลมาใหม่ด้วยแววตาสงสัย

    ปล่อยฉันซะ ซอฮยอน”                 เจสสิก้าเอ่ยกับคนที่เพิ่งโผล่เข้ามาห้ามเธอ

    พี่เจสสิก้า ใจเย็นๆสิคะ”                  ซอฮยอนบอกพลางจับแขนร่างบางไว้แน่น  แต่ดูเหมือนห้ามยังไงเจสสิก้าก็ไม่ฟัง  ขาซ้ายกำลังถูกยกขึ้นมาเพื่อที่จะออกแรงถีบคนที่จับแขนหล่อนไว้     ซอฮยอนมองเจสสิก้าด้วยความตกใจ และกำลังจะเอี้ยวตัวหลบขาข้างนั้น  ซึ่งยุนอาก็รีบวิ่งเข้ามาเพื่อที่จะหยุดเจสสิก้าไว้เช่นกัน

    แต่มีสิ่งหนึ่งที่เร็วกว่ายุนอาและซอฮยอน  เพียงแค่ในพริบตา  ร่างของเจสสิก้าที่กำลังตั้งท่าจะเตะก็กลับกระเด็นกลับไปด้วยแรงเตะมหาศาลที่มาจากบุคคลปริศนา  

    พี่แทยอน...”       ซอฮยอนอุทานชื่อคนที่เพิ่งช่วยเธอไว้จากลูกเตะของเจสสิก้า ซึ่งทุกสายตาในห้องต่างจ้องมองมาที่เขาเพียงคนเดียว

    ให้ตายเถอะ...พวกแวมไพร์นี่โผล่กันขึ้นมาเยอะแยะอย่างกับสั่งได้เลยนะ”        ซูยองเอ่ยพลางปรบมืออย่างกวนอารมณ์   แทยอนผินใบหน้ามองคนร่างสูงเพียงแวบเดียว  ก่อนจะกวาดสายตามองแต่ละคนในห้อง  จนมาหยุดอยู่ที่แทงกู  แต่ดูเหมือนแทงกูจะไม่ได้จ้องมองกลับมาที่เขา  แต่กำลังจ้องมองไปยังเด็กสาวคนที่อยู่ยืนอยู่ทางด้านหลังของแทยอน   ทิฟฟานี่มองภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ด้วยแววตาตกใจกลัวเล็กน้อย

    สวัสดีแทยอน ไม่เจอกันนานเลยนะ”           ยูริเอ่ยทักอย่างอย่างสบายๆ   แต่แทยอนยังคงทำเพียงหันไปมองแล้วไม่ตอบอะไร

    เฮ้ ข้างหลังแกนั่นมันมนุษย์นี่?”    ซันนี่ถามขึ้นบ้างพลางเอี้ยวคอมองร่างบางที่ยืนอยู่ด้านหลัง   แทยอนเอื้อมมือไปจับมือบางของทิฟฟานี่ก่อนจะกุมกระชับไว้แน่น แล้วจ้องไปยังคนพูด

    ไม่ใช่เรื่องของพวกแก...”               

    นี่ๆ ไม่คิดจะทักฉันบ้างเหรอ”        อยู่ๆแทงกูที่เงียบไปนานก็เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มมุมปาก เขายกมือโบกไปมาราวกับจะเรียกความสนใจจากแทยอน      แต่แทยอนกลับมองผ่านเลยไปยังด้านหลัง...เจสสิก้ากำลังลุกขึ้นจากการโดนลูกเตะอย่างแรง  นัยตาของหล่อนจ้องเขม็งมายังแทยอน

    อ้าว...ว้า...แย่จัง...จะทะเลาะกันเองอีกแล้ว ”             แทงกูหัวเราะราวกับเป็นเรื่องตลก  

    หุบปาก...”          เจสสิก้ากัดฟันพูดอย่างโมโห ตามนิ้วมือและแขนเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโนน

    พี่เจสสิก้า ไม่เอาน่า ใจเย็นสิ”         ยุนอารีบเข้ามาใช้สองแขนบังร่างบางไว้ไม่ให้พุ้งไปหาแทยอน

    หลบไป...

    พี่เจสสิก้า...

    ฉันบอกให้หลบไป!”        พูดเพียงเท่านั้นหล่อนก็ผลักยุนอาจนกระเด็นออกไป ก่อนจะพุ่งตรงมาที่แทยอน  ร่างเล็กดันทิฟฟานี่ให้ไปยืนอยู่ข้างหลัง ก่อนตั้งท่าจะใช้ขาถีบเจสสิก้าอีกรอบ แต่ดูเหมือนจะมีคนที่เร็วกว่า....แทงกูกระชากเจสสิก้ากระเด็นไปทางที่ซันนี่และฮโยยอนยืนอยู่  ร่างเล็กทั้งสองตกใจเล็กน้อยก่อนที่ซันนี่จะใช้แขนรับเจสสิก้าไว้แล้วให้ฮโยยอนกดแขนและขาไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน

    เฮ้ๆ ใจเย็นๆน่า”      ซันนี่พูดกับร่างบางที่กำลังดิ้นขลุกขลักไปมา

    นี่แทงกู ทีหลังจะโยนใครมาก็บอกฉันก่อนสิ”           ฮโยยอนบ่นพลางมือยังไม่ละออกจากการล็อคตัวแวมไพร์สาว  แทงกูยิ้มขำเล็กน้อยก่อนจะหันไปพูดกับเจสสิก้า

    โทษทีนะที่ต้องทำแบบนั้น...แต่แทยอนหน่ะ ฉันคนเดียวเท่านั้นที่จะฆ่ามันได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์พูดจบก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับแวมไพร์ร่างเล็ก   แทยอนยังคงแววตานิ่งเฉย  เขายิ้มมุมปากก่อนจะตอบกลับ

    คนที่จะตาย...คือแกมากกว่า...”     

    จบประโยคนั้น เสี้ยววินาทีถัดมา ร่างเล็กก็พุ่งตัวเข้าใส่แทงกู   นัยตาสีแดงก่ำจดจ้องไปยังคนตรงหน้า  แทงกูเองก็กระโดดถอยหลังออกมาตั้งหลักก่อนจะพุ่งหมัดเข้าใส่แทยอน    ร่างเล็กของแวมไพร์ย่อตัวหลบเพียงแปปเดียวเขาก็เกร็งแรงที่มือแล้วอัดเข้าที่ท้องของแทงกู   ร่างนั้นกระเด็นออกไปเกือบจะชนกับผนังแต่แทงกูนั้นยังพอตั้งตัวทัน เขาพลิกตัวลุกขึ้นยืน มือเล็กกุมท้องตัวเองไว้ แต่แววตายังคงฉายความสนุกอยู่   ทุกคนในห้องโถงต่างมองไปที่การประลองของทั้งสองคนในตอนนี้  แต่เพียงวินาทีที่แทงกูเผลอ  แทยอนก็โผล่มาอยู่ข้างหลัง  ร่างเล็กเบิกตากว้าง เขาพลิกตัวหันมาหาแล้วเตรียมตัวจะหลบ แต่มันไม่ทันเสียแล้ว  แทยอนจับคอแทงกูไว้แน่น แล้วยกขึ้นอย่างช้าๆ  ท่อนแขนขาวเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโนน  นัยตาของแทยอนดูนิ่งเฉยอย่างไม่รู้สึกอะไร เขาเกร็งข้อมือขึ้นเรื่อยๆจนแทงกูกำลังจะหายใจไม่ออก  ร่างเล็กดิ้นไปมาพลางสองมือก็จับแขนของแทยอนที่กำคอตัวเองเอาไว้ แต่แทยอนกลับไม่รู้สึกอะไรเลย มือเล็กเริ่มบีบคอแทงกูแรงมากขึ้นเรื่อยๆ  ก่อนที่มันกำลังจะออกแรงบีบเฮือกสุดท้าย  เสียงของยูริก็ดังขึ้นมา

    หยุดนะแทยอน! แกกำลังจะฆ่าน้องตัวเองนะ!”       

    ทุกอย่างหยุดนิ่ง แทยอนชะงักข้อมือไว้แค่นั้น เขาเผลอหันหน้าไปมองยูริ ไม่ใช่แค่แทยอนเท่านั้น ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงต่างหันมามองที่ยูริเป็นสายตาเดียวกัน

    แกพูดว่าอะไรนะ”            แทยอนขมวดคิ้ว เขาเอ่ยถามอีกรอบ  ยูริหายใจเข้าพลางมองไปที่ยุนอาและซูยองอย่างขอความช่วยเหลือ

    แกฟังไม่ผิดหรอก ยูริบอกว่าแกกำลังจะฆ่าน้องตัวเอง”            ซูยองเอ่ยพูดขึ้น แทยอนรีบหันหน้าไปหาคนร่างสูงในขณะที่มือค่อยๆคลายออกจากลำคอแทงกู

    แกพูดบ้าอะไรหน่ะซูยอง!”            แทงกูที่เพิ่งถูกปล่อยคอให้เป็นอิสระเอ่ยถามเพื่อนตัวเองเสียงหลง  เขาหอบหายใจถี่เพื่อเอาอากาศเข้าไป

    ฉันพูดเรื่องจริงแทงกู แกกับแทยอนเป็นพี่น้องกัน...คิมจองอา...พวกแกน่าจะรู้จักชื่อนี้ดีนี่

    แม่...                 แทงกูและแทยอนต่างพึมพำเป็นเสียงเดียวกันจนทุกคนที่เหลือในห้องโถงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

    อะไรนะ?....สองคนนี้เป็นพี่น้องกันงั้นเหรอ”                           ซันนี่ถามพลางมองซูยองอย่างขอคำตอบ  ร่างสูงพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ

    ถ้าให้ฉันเดา...คิมจองอา....หล่อนมีสามีทั้งหมดสองคน สามีคนแรกเป็นแวมไพร์ ส่วนสามีคนที่สองเป็นหมาป่า ลูกที่กำเนิดกับสามีคนแรก....คือแก.... แวมไพร์เลือดผสม...คิมแทยอน ถัดมาภายหลังหล่อนก็มีลูกกับสามีใหม่ นั่นคือแก...หมาป่าเลือดผสม...คิมแทงกู ฉันพูดถูกใช่มั้ย...”              ซูยองเอ่ยพลางมองหน้าร่างเล็กทั้งสอง  แทยอนกำมือแน่นเขาเงยหน้าขึ้นมองแทงกูที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม

    ที่แท้...เด็กในตอนนั้นก็คือแกเองเหรอ..”      รอยยิ้มมุมปากเผยขึ้นบนใบหน้าแทยอน เขายิ้มให้กับความจริงอันน่าสมเพชนี้

    บ้าชัดๆ              แทงกูจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ

     

     

     

     

     

    คนที่เขาอยากจะฆ่าให้ตายมาตลอด....

    คือพี่ของเขาเอง....

     

     

     

     

    แทยอนยังคงเงียบ ร่างเล็กพยายามข่มความทรงจำในวัยเด็กที่มันกำลังจะผุดขึ้นมาอีกครั้ง เสียงหัวเราะขันถูกส่งไปยังแทงกู แทยอนหัวเราะ...หัวเราะอย่างสมเพช

    น้องของฉัน...งั้นเหรอ?...”   แวมไพร์ร่างเล็กพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินหันหลังกลับไป   เขาเดินไปหาทิฟฟานี่ที่ยืนดูเหตุการณ์มาตลอดเวลา  เอื้อมมือไปจับมือบางของเด็กสาว

    ไปกันเถอะ”       เสียงเรียบนิ่งเอ่ย เขากำลังจะพาทิฟฟานี่เดินออกมาจากตรงนั้นอย่างไม่ใส่ใจแทงกูที่ยืนอยู่เลยสักนิด

    คะ...คุณแทยอน...ไม่คุยกับพวกเขาก่อนเหรอคะ”    เด็กสาวถามพลางมองไปยังคนที่เหลือ

    ไม่มีเรื่องที่จะต้องคุย...”                  แทยอนตอบ เขากำลังจะก้าวเดินอีกครั้ง แต่เสียงของแทงกูกับหยุดเขาไว้

    ดะ..เดี๋ยวก่อน..พี่แทยอน”               เสียงเรียกพร้อมกับสรรพนามใหม่นั้นทำให้ทุกคนต่างมุ่งสายตาไปที่แทงกู  คนร่างเล็กจ้องมองแผ่นหลังคนที่ได้ชื่อว่าพี่ของตนเอง  เขารอให้แทยอนหันกลับมา  แต่ดูเหมือนว่าแวมไพร์ร่างเล็กจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  เขาเพียงผินใบหน้าเหลือบมองคนข้างหลังแค่นิดเดียว 

    พี่งั้นเหรอ?...”    แทยอนเว้นช่วงพูดสักพัก ก่อนที่วินาทีถัดมา เขาจะยิ้มเยาะแล้วทิ้งประโยคพูดไว้ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ก่อนจะพาทิฟฟานี่ออกจากที่นั่นอย่างไม่คิดที่จะหันหลังกลับไปอีกเลย...

    แกไม่ใช่น้องฉัน...และก็จะไม่มีวันได้เป็นอีกด้วย...จำไว้ซะ...





    Supercell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×