คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CH2 : แทยอนหรือแทงกู
CHAPTER 2
“คุณ...เป็นใครเหรอคะ”
ทิฟฟานี่เอ่ยถามเสียงแผ่วเบา นัยตาจดจ้องไปยังร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอ แทยอนสบตากับคนร่างบาง ก่อนจะหันใบหน้าไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการมองใบหน้าหวานที่มันทำให้แทยอนรู้สึกไม่เป็นตัวเอง ใบหน้าของร่างเล็กยังคงเรียบนิ่ง เขาขมวดคิ้วใช้ความคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมา
“ชื่อของฉัน...แทยอน...คิมแทยอน” เสียงนุ่มเอ่ย แทยอนหันหน้ากลับมามองคนบนเตียงอีกครั้ง ไล่สายตาลงมามองบาดแผลตามลำตัวของร่างบาง
“เจ็บ...รึเปล่า” แทยอนถาม ทิฟฟานี่ส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ขอบคุณนะคะ...คุณแทยอน” เสียงหวานใสเอ่ย ริมฝีปากยิ้มกว้างอย่างไร้เดียงสา แทยอนจ้องมองคนบนเตียงอยู่อย่างนั้น เขากำลังจะเอื้อมมือไปสัมผัสผ้าพันแผลบนหัวของทิฟฟานี่แต่ก็ต้องชะงักและรีบดึงกลับ เด็กสาวมองคนร่างเล็กอย่างแปลกใจ แต่ยังไม่ทันได้มีใครพูดอะไร เสียงบานประตูก็เปิดออกซะก่อน
“อ้าว...ฟื้นแล้วเหรอคะ” ผู้มาใหม่ถาม ในมือของเธอมีถาดอาหารมาด้วย ซอฮยอนส่งยิ้มให้คนบนเตียงอย่างเป็นมิตร ซึ่งทิฟฟานี่เองก็ส่งยิ้มกลับไป ก่อนจะเหลือบเห็นร่างสูงอีกคนที่เดินตามหลังซอฮยอนมา ยุนอาเดินเข้ามาในห้องพร้อมทั้งยิ้มบางๆให้
“กินอาหารก่อนดีกว่านะคะ กินเสร็จจะได้พักผ่อนต่อ” ถาดอาหารถูกวางลงบนโต๊ะเล็กๆที่ถูกเลื่อนให้มาอยู่ข้างๆเตียง เด็กสาวกล่าวขอบคุณ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับช้อนมาตักซุปร้อนๆทาน
“มือยังมีแผลอยู่เลย...คุณกินไหวเหรอ...ให้ป้อนมั้ย” ร่างสูงถือวิสาสะมานั่งลนบนเตียงข้างๆทิฟฟานี่ ยุนอายิ้มแป้นอย่างทะเล้น พลางทำท่าจะหยิบช้อนมาช่วยป้อน แต่ทิฟฟานี่กลับปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรค่ะ...ไม่เจ็บแล้วหล่ะ” เด็กสาวชูกำปั้นขึ้นเป็นเชิงว่าไม่เจ็บแล้ว ยุนอาจึงขำเล็กน้อยพลางล้มตัวนอนลงบนเตียงของคนไข้ และเกลือกกลิ้งไปมาข้างๆทิฟฟานี่
“นี่...พี่ยุนอาคะ เดี๋ยวเถอะ ไปนอนบนเตียงกับคุณทิฟฟานี่ได้ยังไง คุณทิฟฟานี่เธอบาดเจ็บอยู่นะคะ ถ้าอยากจะนอนก็ลงไปนอนที่โซฟาสิ” ซอฮยอนดุคนเป็นพี่ที่เอาหมอนอุดหูไม่ยอมฟังที่เธอบ่นแล้วก็ต้องถอนหายใจเบาๆ
“จริงสิ...แล้ว...คุณพ่อ...คุณแม่หล่ะคะ” ทิฟฟานี่เอ่ยถามแทยอนที่ยืนอยู่ข้างเตียง นัยตาของร่างเล็กฉายแววตกใจเล็กน้อย เขาเบนสายตาไปทางอื่น คิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน ยุนอากับซอฮยอนได้แต่มองหน้ากันอย่างลำบากใจ ซอฮยอนเอ่ยกับทิฟฟานี่
“คือ...คุณทิฟฟานี่คะ...ที่จริงแล้ว...” เธอกำลังจะเอ่ยต่อแต่กลับถูกเสียงนุ่มของแทยอนขัดเอาซะก่อน
“ไม่ต้องห่วง...พวกเขาปลอดภัยดี” ทั้งยุนอาและซอฮยอนต่างรีบหันขวับไปทางเดียวกัน
เด็กสาวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แทยอนมองน้องสาวทั้งสองเป็นเชิงว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรออกมา ทั้งคู่จึงพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่ยุนอาจะเปลี่ยนเรื่อง
“ว่าแต่...คุณทิฟฟานี่อายุเท่าไหร่เหรอ” เด็กสาวมองคนที่ยิ้มแป้นอยู่บนเตียงเดียวกับเธอก็ขำเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“เค้าอายุ19ปีค่ะ” ร่างสูงพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ทิฟฟานี่จึงถามกลับบ้าง ซอฮยอนกับยุนอาจึงจำเป็นต้องโกหกเรื่องอายุไป เพราะแวมไพร์อย่างพวกเธออยู่บนโลกกันมาก็หลายร้อยปีแล้ว ขืนบอกอายุจริงไป มีหวังเด็กสาวคงตกใจแย่ อีกทั้งเรื่องที่พวกเธอไม่ใช่มนุษย์ยังไงซะก็ควรจะเงียบเอาไว้ก่อนดีกว่า ดังนั้นยุนอาจึงโกหกไปว่าตัวเองอายุ21ปี ส่วนซอฮยอนอายุ20ปี
“ถ้าอย่างนั้น...เค้าก็คงต้องเรียกทุกคนว่าพี่แล้วสินะคะ” เด็กสาวยิ้มอย่างน่ารัก
“นี่ พี่แทยอน บอกอายุตัวเองบ้างสิ” ยุนอาพยักเพยิดไปทางคนตัวเล็กที่ยืนเงียบมาแทบจะตลอด แทยอนจึงเอ่ยตอบไป
“400ปี” จบประโยคนั้น ยุนอาที่กินน้ำอยู่ก็แทบจะสำลักน้ำออกมา ซอฮยอนเห็นดังนั้นจึงรีบพูดแก้ให้
“เอ่อ...คือ...พี่แทยอนคงจะบอกว่าอายุ24ปีหน่ะค่ะ” เด็กสาวที่กำลังทำหน้างงก็ร้องอ๋อขึ้นมาเบาๆ
“ฉันว่าพวกเรามากวนคุณทิฟฟานี่มากเกินไปแล้วนะ กลับกันเถอะ” ยุนอาพูดพลางกระโดดลงจากเตียงของคนไข้
“ถ้างั้นพวกเราไปก่อนนะคะ...ถ้าคุณทิฟฟานี่ทานข้าวเสร็จแล้วก็อย่าลืมกินยาแล้วนอนพักผ่อนนะคะ” ซอฮยอนหันมาพูดกับเด็กสาวบนเตียง ร่างบางพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ยุนอาโบกมือลาก่อนจะเดินเปิดประตูออกจากห้อง ซอฮยอนเองก็ยิ้มให้เล็กน้อยแล้วเดินตามร่างสูงออกไป เหลือเพียงแทยอนและทิฟฟานี่ ร่างเล็กมองเด็กสาวบนเตียงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะหันหลังเดินไปทางประตู ในจังหวะที่เอื้อมมือไปจับลูกบิดนั้น เสียงนุ่มทุ้มก็ดังขึ้นมา
“นอนพักเยอะๆหล่ะ” เอ่ยเพียงแค่นั้น เขาก็เปิดประตูออกจากห้องไป....
เสียงปิดประตูดังขึ้นเบาๆ แทยอนปล่อยมืออกจากลูกบิด มองบานประตูเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังทำท่าจะลงบันได แต่กลับมีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นซะก่อน…
“ใครใช้ให้พามนุษย์มาอยู่ในบ้านกัน ไม่กลัวฉันจะจับเด็กคนนั้นฆ่ารึยังไง”
.
.
.
.
.
.
.
.
“กะไว้แล้วว่าต้องมาที่นี่” ร่างสูงยืนพิงต้นไม้มองดูเพื่อนของตน
“ก็มีเรื่องที่คาใจอยู่นิดหน่อยหน่ะ” แทงกูตอบไปยูริ วันนี้ร่างเล็กย้อนกลับมาดูสถานที่เกิดเหตุ เขามีเรื่องที่ยังติดใจไม่หาย
กระจกฝั่งเบาะข้างคนขับที่แตกจนเป็นช่องกว้างพอที่จะให้คนเข้าไป
ทำไมมันถึงแตกแค่บานนี้บานเดียว นั่นคือสิ่งที่น่าแปลกใจ
“แทงกู ฉันได้กลิ่นของไอ่แวมไพร์อยู่แถวๆตรงนี้” ยูริชี้มายังขอบกระจกที่แตก ร่างเล็กจึงรีบเดินเข้ามา
“เป็นอย่างที่คิดจริงๆซะด้วยแฮะ” ร่างเล็กพึมพำเบาๆจนร่างสูงสงสัย
“หมายความว่าไง”
“ตอนแรกฉันสงสัยอยู่แล้วหล่ะ ว่าทำไมถึงมีแค่กระจกบานนี้บานเดียวที่แตก...” แทงกูใช้แขนจับประตูรถแล้วออกแรงดึงมันเพียงนิดเดียวก็หลุดออก ร่างเล็กสลัดบานประตูทิ้งก่อนจะก้มลงมองดูรอยเลือดสีเข้มที่แห้งกรังติดอยู่บนเบาะ แล้วเอ่ยต่อ
“แทยอน...เขาคงจะใช้ตัวกระแทกกระจก...เข้ามาช่วยผู้หญิงคนนี้เอาไว้” แทงกูใช้ปลายนิ้วปาดรอยเลือดบนเบาะนั้นขึ้นมาดม
“ที่สำคัญ...กลิ่นเลือดนี่...ก็เป็นของแทยอน”
“ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ไอ่ผีดิบนั่นมันจะมาช่วยมนุษย์ไว้ทำไม” ยูริถามพลางยักไหล่อย่างกวนๆ
ร่างเล็กยิ้มเล็กน้อยให้กับคำพูดของยูริ ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลัง ยูริและแทงกูต่างหันขวับไปทางต้นตอของเสียง ก่อนจะต้องตกใจอีกรอบเมื่อมีเงาดำวิ่งตัดผ่านหน้าอย่างรวดเร็ว นัยตาของแทงกูเปลี่ยนเป็นสีทอง เขากำลังจะวิ่งไล่ตามเงานั้นไปแต่กลับกลายเป็นว่าเงาดำนั่นกลับหยุดอยู่กับที่เองซะก่อน เป็นเพราะวิ่งด้วยความเร็วสูงจึงทำให้ฝุ่นรอบๆเงานั่นลอยขึ้นหนาจนบดบังสิ่งที่อยู่ข้างหลังนั้น แทงกูกับยูริค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ในขณะที่กลุ่มควันฝุ่นเองก็ค่อยๆจางลง เผยให้เห็นหมาป่าสามตัวที่อยู่ข้างหลัง สองตัวขนสีน้ำตาลและอีกตัวขนสีเทา มันกำลังค่อยๆกลายสภาพเป็นคน แทงกูเบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นยิ้มขัน ซึ่งยูริเองก็ถอนหายใจพลางเลิกคิ้วใส่ทั้งสามคนข้างหน้าอย่างกวนๆ หนึ่งในกลุ่มคนที่เพิ่งมาใหม่เดินเข้ามาหาร่างเล็กและร่างสูง ก่อนจะเอ่ยประโยคยียวน ชวนให้คนฟังหมั่นไส้ขึ้นมา
“มีเรื่องสนุกๆแบบนี้ทั้งที จะขาดพวกเราไปได้ยังไงเล่า”
“ถึงไม่ชวนก็มาเองอยู่ดีไม่ใช่รึยังไง ซูยอง” ยูริเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะโดนอีกคนกอดคออย่างแน่น แทงกูขำเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาอีกสองคนที่เหลือ
“โดนซูยองลากมาสินะ ซันนี่” ร่างที่เล็กพอๆกับแทยอนพยักหน้าอย่างเบื่อหน่าย
“ก็คงงั้นแหละ” ซันนี่ตอบก่อนจะพยักเพยิดไปทางคนข้างกาย
“ฮโยยอนเองก็โดนลากมาเหมือนกัน”
“ก็นะ...” ฮโยยอนเดินเข้ามากอดคอแทงกู ก่อนที่จะพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก…
“เวลาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับแวมไพร์แล้วมันอยู่เฉยๆไม่ได้หน่ะ รู้สึกอยากจะฆ่าพวกมันยังไงก็ไม่รู้”
.
.
.
.
.
.
.
“ใครใช้ให้พามนุษย์มาอยู่ในบ้านกัน ไม่กลัวฉันจะจับเด็กคนนั้นฆ่ารึยังไง”
เสียงที่เอ่ยขึ้นฉุดให้แทยอนหยุดเดิน ร่างเล็กหันใบหน้าเรียบนิ่งไปหาคนที่เพิ่งมาใหม่ พลางหัวเราะเบาๆ
“งั้นเธอก็คงต้องฆ่าฉันก่อนซะแล้วหล่ะ เจสสิก้า” นัยตาสีฟ้าจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความนิ่งเฉย เจสสิก้าหัวเราะให้กับประโยคของแทยอน
“ฆ่าเธอก่อนงั้นเหรอ...น่าสนใจดีนี่” ร่างบางเดินเข้ามาหาอีกคนก่อนจะเอ่ยต่อ
“ที่เธอทำเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงตลอดเวลา คงเป็นเพราะว่ามือข้างซ้ายนั่นมันถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสินะ” เจสสิก้าก้มลงมองมือของแทยอนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง
“คงจะเข้าไปช่วยมนุษย์คนนั้นจนบาดเจ็บเองหล่ะสิ” จบประโยคของเจสสิก้า แทยอนขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน จ้องมองอีกคนที่ดูเหมือนว่าจะกำลังเยาะเย้ยเขาอยู่
“เลิกพูดซะ” แทยอนตอบ ก่อนทำท่าจะเดินลงบันไดแต่กลับถูกอีกคนขวางเอาไว้ซะก่อน
“อยากจะให้ฉันฆ่าเธอนักรึยังไง” ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ มันแฝงไปด้วยความรำคาญ
“อยากจะฆ่าฉันก็ลองดูสิ มาดูว่าใครจะตายก่อนกัน”
“หุบปากซะ...” แทยอนพูดด้วยความเหลืออด แต่เจสสิก้าทำเพียงหัวเราะอย่างกับสิ่งที่แทยอนพูดไปมันเป็นเรื่องตลก ร่างบางพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“คิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าเธองั้นเหรอ...แทยอน” จบประโยคนั้นนัยตาของเจสสิก้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนที่เล็บของหล่อนจะค่อยๆงอกยาวขึ้น มือบางยกขึ้นทำท่าจะตวัดเฉือนคอแทยอน แต่ดูเหมือนว่าร่างเล็กจะเร็วกว่า นัยตาของแทยอนที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเฉกเช่นเดียวกันกำลังจ้องค้างมายังมือของเจสสิก้าก่อนที่ภายในเสี้ยววินาทีถัดมา มือของแทยอนจะยึดข้อมือของร่างบางไว้ พลางหมุนตัว ก่อนจะยกขาซ้ายขึ้นแล้วเหวี่ยงเตะเข้าที่ต้นคอของเจสสิก้า ร่างเล็กปล่อยมืออกจากข้อมือบาง ก่อนจะเกร็งขาขวาแล้วอัดเข้าไปที่หน้าท้องของร่างบางซ้ำอีกครั้ง เจสสิก้ากระเด็นไปชนกับกระจกด้านหลังจนแตกละเอียด แทยอนถอยออกมาเล็กน้อย ก่อนทำท่าจะวิ่งเข้าไปอัดซ้ำแต่กลับถูกขัดเอาไว้ซะก่อน
“พี่แทยอน! พี่เจสสิก้า! เกิดอะไรขึ้นหน่ะ” ยุนอาวิ่งขึ้นมาก่อนจะหันไปเห็นเจสสิก้าที่พยายามจะยันตัวเองลุกขึ้น นัยตาของร่างเล็กกลับมาเป็นสีฟ้าเฉกเช่นเดิม แทยอนหันมองยุนอาเล็กน้อย แล้วจึงหันกลับมามองเจสสิก้าอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเดินลงบันไดไป ทิ้งไว้เพียงประโยคที่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง…
“ใครที่ขัดหูขัดตาฉัน ฉันจะฆ่ามันทิ้งหมด จำไว้นะ เจสสิก้า”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทิฟฟานี่ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเพลียเล็กน้อย เธอค่อยดึงผ้าห่มออกจากตัว ก่อนจะหย่อนขาลงจากเตียงเตรียมจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องรีบก้มลงมองสภาพตัวเอง เธอเพิ่งนึกได้ว่าเธออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวบางตัวโคร่งเพียงตัวเดียว ใบหน้าหวานขึ้นสีเล็กน้อยด้วยความเคอะเขินที่มีคนมาเปลี่ยนชุดให้ ทิฟฟานี่เปิดตู้เสื้อผ้าออกก่อนจะเห็นชุดที่ซอฮยอนเตรียมไว้ให้ มันเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวบางตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นสีดำ เมื่อร่างบางเปลี่ยนชุดแล้วก็ก้มมองตัวเองเล็กน้อย เป็นเพราะเสื้อเชิ้ตมันใหญ่เกินไปจึงทำให้มันยาวจนแทบจะปิดกางเกงขาสั้นจนมิด แต่เด็กสาวก็ไม่ได้สนใจอะไรกับชุดมากนัก ทิฟฟานี่เดินออกจากห้องนอนมาและตรงลงมาที่ชั้นล่าง แต่กลับไม่เจอใครสักคน เด็กสาวจึงตัดสินใจเปิดประตูเดินออกมานอกตัวบ้านเพื่อมองหาทุกคน แต่เธอก็ยังไม่พบกับใครอีกเช่นเคย ในขณะที่สายตายังสอดส่องหาคนอื่นๆนั้น ใบหน้าหวานก็หยุดชะงักพลางมองสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่มีขนสีขาวปุย
“อ๊ะ...คุณกระต่ายน้อยนี่” ทิฟฟานี่เดินเข้าไปใกล้เจ้าขนปุยตัวนั้นมากขึ้น แต่ยังไม่ทันไร กะต่ายน้อยก็กระโดดเข้าป่าไปซะก่อน เด็กสาวเงยหน้ามองป่าเขียวทึบด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินเข้าไปในป่าเพื่อหากระต่ายตัวนั้น...
.
.
.
.
.
.
.
“แทงกู กลับกันเหอะ” ยูริจับไหล่คนร่างเล็กที่กำลังสำรวจซากรถมาตั้งนานอย่างไม่หยุดหย่อน จนนี่มันก็ค่ำแล้ว
“ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยมาดูใหม่ก็ได้” ซูยองพูดอีกคน พลางลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย
“ก็ได้” แทงกูถอนหายใจอย่างเสียดายที่ไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม
“งั้นก็กลับกันเถอะ” ซันนี่พูดพลางวิ่งนำไปก่อน ตามหลังไปด้วยซูยอง
“เฮ้ แทงกู ตามไปเร็ว” ฮโยยอนพูดเร่งแต่คนตัวเล็กกลับยังยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าหันไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับทิศทางกลับบ้าน
“มีอะไรรึเปล่า” ยูริถามด้วยความสงสัย แต่แทงกูกลับขมวดคิ้วด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“ยูริ ฮโย พวกแกกลับไปก่อนเลย เดี๋ยวเอาไว้ฉันจะตามไป” พอจบประโยค แทงกูก็กลายสภาพเป็นหมาป่าขนสีขาวก่อนจะวิ่งไปยังอีกทิศทางนึง
“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนสิแทงกู” ยูริพยายามตะโกนเรียกไว้แต่ก็ไม่ทัน ร่างสูงจึงได้แต่หันมามามองหน้ากับกับฮโยยอน พลางถอนหายใจแผ่วเบา
“อะไรของมันนะ...”
.
.
.
.
.
.
.
“นี่...คุณกระต่ายน้อย...หายไปแล้วหล่ะ” ทิฟฟานี่พึมพำกับตัวเองเสียแผ่วเบา นี่มันก็ใกล้จะค่ำมาแล้ว แสงตะวันเลือนรางลงทุกที สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจหันหลังเดินกลับไปยังทางที่มา
สวบ!
อยู่ดีๆกลับมีเสียงๆหนึ่งดังมาจากพุ่มไม้ด้านหลัง ทิฟฟานี่รีบหันไปมองอย่างตกใจ
สวบ!
ยังไม่ทันไรก็มีอีกเสียงหนึ่งดังมาทางพุ่มไม้ข้างๆอีกพุ่มหนึ่ง เด็กสาวค่อยๆเดินถอยหลังไป พุ่มไม้สองพุ่มนั้นยังคงสั่นไหวไปมาแต่เพียงไม่กี่วินาทีถัดมา ก็มีหมาป่าขนสีดำสองตัวโผล่พรวดเข้ามาล้อมร่างบาง เด็กสาวยืนตัวสั่นระริกด้วยความกลัว หมาป่าทั้งสองส่งเสียงขู่อย่างหน้าหวาดเกรง ร่างบางค่อยๆเดินถอยหลังไปจนแผ่นหลังบางชนเข้ากับต้นไม้สูง ทิฟฟานี่มองหมาป่าทั้งสองตัวที่เดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ทันทีทันใดนั้นมันก็กระโจนเข้ามาหาเธอ ร่างบางล้มลงบนพื้นพร้อมกับหลับตาลงแน่นด้วยความกลัว
พลั่ก!
เพียงพริบตาเดียวที่หมาป่าสองตัวนั้นจะกระโจนเข้ามาหาร่างบาง ก็มีเงาดำตัดหน้าเธอไปพร้อมกับเหวี่ยงหมาป่าสองตัวนั้นออกไปด้วย ทิฟฟานี่ลืมตามองภาพข้างหน้าอย่างตกใจ เธอมองหมาป่าสองตัวนั้นที่มีรอยกัดจนเป็นแผลเหวอะ ก่อนจะมองสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาช่วยเธอไว้ หมาป่าขนสีขาวค่อยๆเดินเข้ามาหาร่างบาง ทิฟฟานี่ค่อยใช้แขนยันเพื่อถอยห่าง แต่เธอลืมไปว่าด้านหลังของเธอนั้นเป็นต้นไม้ จึงทำเพียงมองหมาป่าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ด้วยความหวาดกลัว แต่สักพักอยู่ดีๆมันก็หยุดเดิน ก่อนที่ร่างกายของมันค่อยๆเปลี่ยนไป ขนสีขาวที่ปกคลุมอยู่เริ่มเลือนหายไปเช่นเดียวกับเล็บยาวที่ค่อยๆหดสั้นลง ทิฟฟานี่ไม่อยากจะเชื่อ หมาป่าตัวนั้น...กลายร่างกลับมาเป็นคน แต่มีสิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากกว่า นั่นคือ คนๆนั้นกลับมีหน้าตา...เหมือนแทยอนทุกอย่าง เว้นแต่สีผมนั้นที่แตกต่าง เธอจำได้ว่าแทยอนมีผมบรอนซ์ทอง แต่คนตรงหน้าเธอนั้นกลับมีผมสั้นสีน้ำตาลที่ถูกรวบไว้พร้อมกับกัดปลายสีทอง เขาค่อยๆนั่งยองๆลงข้างหน้าเธอ พร้อมกับยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“เป็นอะไรรึเปล่า” ร่างเล็กถามพร้อมกับสำรวจร่างกายของเด็กสาว ทิฟฟานี่ที่ยังคงตกใจไม่หายได้แต่มองหน้าอีกคนอยู่อย่างนั้น
“คุณ...ไม่ใช่คุณแทยอน...” ทิฟฟานี่พูดเสียงแผ่วเบา คนร่างเล็กได้ยินดังนั้นก็ยิ้มให้ร่างบางด้วยความเอ็นดู
“ฉันชื่อแทงกู...คิมแทงกู....”
“คุณเป็น....มนุษย์หมาป่า....”
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ...ฉันไม่ทำอะไรหรอก”
แทงกูยิ้มกว้างให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะก้มลงมองดูหัวเข่าของร่างบางที่มีรอยแผลเล็กน้อย ร่างเล็กค่อยๆเอื้อมมือไปเพื่อจะสัมผัสบาดแผลนั่น แต่ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วจะแตะหัวเข่าของเด็กสาว แทงกูก็ถูกแรงดึงจากข้างหลังเหวี่ยงไปอย่างรวดเร็วจนไปกระแทกกับต้นไม้อย่างแรง ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันเร็วมากจนดูแทบไม่ทัน ทิฟฟานี่มองร่างเล็กที่ถูกเหวี่ยงด้วยความตกใจ แต่เมื่อเธอมองคนที่มาใหม่ ก็ต้องตกใจยิ่งกว่า…
“คุณแทยอน...”
ทิฟฟานี่อุทานชื่อคนมาใหม่ด้วยเสียงแผ่วเบา แทยอนกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโนน นัยตาจ้องมองแทงกูที่กำลังยันตัวเองลุกขึ้น ก่อนที่แทยอนจะเดินตรงเข้ามาหาทิฟฟานี่ ใช้สองแขนช้อนตัวคนร่างบางขึ้น กระชับอ้อมกอดแน่น จนเด็กสาวเผลอใช้สองแขนโอบรอบคอแทยอนด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆก็ถูกอุ้มขึ้นมา
“แก...มาที่นี่ทำไม” แทยอนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ฉันต้องเป็นคนถามมากกว่ามั้ง” แทงกูปาดเลือดตรงหัวคิ้วที่แตกออก ก่อนจะยิ้มให้แทยอน นัยตาจ้องมองทิฟฟานี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของคนร่างเล็ก
“เด็กคนนี้เองสินะ ที่แกช่วยเอาไว้”
“อย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนี้” แทยอนเอ่ยสวนกลับไป จนอีกคนได้แต่หัวเราะเบาๆ
“โทษทีนะ แต่เมื่อกี้ฉันเป็นคนช่วยเด็กคนนี้ไว้ จะไม่ให้ยุ่งคงไม่ได้แล้วหล่ะ อ่อ...แล้วก็....” แทงกูเดินเข้ามาจับไหล่แทยอน ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมาด้วยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทว่าหนักแน่นอยู่ในที
“แวมไพร์อย่างแก...ไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งฉันหรอกนะ...แทยอน”
----------------------------------------------------------------
❀ Supercell
ความคิดเห็น