ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] VAMPIRE & WOLF (TAENY)

    ลำดับตอนที่ #2 : CH2 : แทยอนหรือแทงกู

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 57


     

    CHAPTER 2


    คุณ...เป็นใครเหรอคะ                  

    ทิฟฟานี่เอ่ยถามเสียงแผ่วเบา นัยตาจดจ้องไปยังร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอ แทยอนสบตากับคนร่างบาง ก่อนจะหันใบหน้าไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการมองใบหน้าหวานที่มันทำให้แทยอนรู้สึกไม่เป็นตัวเอง ใบหน้าของร่างเล็กยังคงเรียบนิ่ง เขาขมวดคิ้วใช้ความคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมา

    ชื่อของฉัน...แทยอน...คิมแทยอน             เสียงนุ่มเอ่ย แทยอนหันหน้ากลับมามองคนบนเตียงอีกครั้ง ไล่สายตาลงมามองบาดแผลตามลำตัวของร่างบาง

    เจ็บ...รึเปล่า”      แทยอนถาม ทิฟฟานี่ส่ายหน้าแทนคำตอบ

    ขอบคุณนะคะ...คุณแทยอน”          เสียงหวานใสเอ่ย ริมฝีปากยิ้มกว้างอย่างไร้เดียงสา แทยอนจ้องมองคนบนเตียงอยู่อย่างนั้น เขากำลังจะเอื้อมมือไปสัมผัสผ้าพันแผลบนหัวของทิฟฟานี่แต่ก็ต้องชะงักและรีบดึงกลับ เด็กสาวมองคนร่างเล็กอย่างแปลกใจ แต่ยังไม่ทันได้มีใครพูดอะไร เสียงบานประตูก็เปิดออกซะก่อน

    อ้าว...ฟื้นแล้วเหรอคะ”    ผู้มาใหม่ถาม ในมือของเธอมีถาดอาหารมาด้วย ซอฮยอนส่งยิ้มให้คนบนเตียงอย่างเป็นมิตร ซึ่งทิฟฟานี่เองก็ส่งยิ้มกลับไป ก่อนจะเหลือบเห็นร่างสูงอีกคนที่เดินตามหลังซอฮยอนมา ยุนอาเดินเข้ามาในห้องพร้อมทั้งยิ้มบางๆให้

    กินอาหารก่อนดีกว่านะคะ กินเสร็จจะได้พักผ่อนต่อ”              ถาดอาหารถูกวางลงบนโต๊ะเล็กๆที่ถูกเลื่อนให้มาอยู่ข้างๆเตียง เด็กสาวกล่าวขอบคุณ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับช้อนมาตักซุปร้อนๆทาน

    มือยังมีแผลอยู่เลย...คุณกินไหวเหรอ...ให้ป้อนมั้ย”         ร่างสูงถือวิสาสะมานั่งลนบนเตียงข้างๆทิฟฟานี่ ยุนอายิ้มแป้นอย่างทะเล้น พลางทำท่าจะหยิบช้อนมาช่วยป้อน แต่ทิฟฟานี่กลับปฏิเสธ

    ไม่เป็นไรค่ะ...ไม่เจ็บแล้วหล่ะ”     เด็กสาวชูกำปั้นขึ้นเป็นเชิงว่าไม่เจ็บแล้ว  ยุนอาจึงขำเล็กน้อยพลางล้มตัวนอนลงบนเตียงของคนไข้ และเกลือกกลิ้งไปมาข้างๆทิฟฟานี่

    นี่...พี่ยุนอาคะ เดี๋ยวเถอะ ไปนอนบนเตียงกับคุณทิฟฟานี่ได้ยังไง คุณทิฟฟานี่เธอบาดเจ็บอยู่นะคะ ถ้าอยากจะนอนก็ลงไปนอนที่โซฟาสิ”             ซอฮยอนดุคนเป็นพี่ที่เอาหมอนอุดหูไม่ยอมฟังที่เธอบ่นแล้วก็ต้องถอนหายใจเบาๆ

    จริงสิ...แล้ว...คุณพ่อ...คุณแม่หล่ะคะ”        ทิฟฟานี่เอ่ยถามแทยอนที่ยืนอยู่ข้างเตียง นัยตาของร่างเล็กฉายแววตกใจเล็กน้อย เขาเบนสายตาไปทางอื่น คิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน ยุนอากับซอฮยอนได้แต่มองหน้ากันอย่างลำบากใจ ซอฮยอนเอ่ยกับทิฟฟานี่

    คือ...คุณทิฟฟานี่คะ...ที่จริงแล้ว...”              เธอกำลังจะเอ่ยต่อแต่กลับถูกเสียงนุ่มของแทยอนขัดเอาซะก่อน

    ไม่ต้องห่วง...พวกเขาปลอดภัยดี”                  ทั้งยุนอาและซอฮยอนต่างรีบหันขวับไปทางเดียวกัน

    เด็กสาวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แทยอนมองน้องสาวทั้งสองเป็นเชิงว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรออกมา ทั้งคู่จึงพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่ยุนอาจะเปลี่ยนเรื่อง

    ว่าแต่...คุณทิฟฟานี่อายุเท่าไหร่เหรอ”          เด็กสาวมองคนที่ยิ้มแป้นอยู่บนเตียงเดียวกับเธอก็ขำเล็กน้อยก่อนจะตอบ

    เค้าอายุ19ปีค่ะ”                  ร่างสูงพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ทิฟฟานี่จึงถามกลับบ้าง ซอฮยอนกับยุนอาจึงจำเป็นต้องโกหกเรื่องอายุไป เพราะแวมไพร์อย่างพวกเธออยู่บนโลกกันมาก็หลายร้อยปีแล้ว ขืนบอกอายุจริงไป มีหวังเด็กสาวคงตกใจแย่ อีกทั้งเรื่องที่พวกเธอไม่ใช่มนุษย์ยังไงซะก็ควรจะเงียบเอาไว้ก่อนดีกว่า ดังนั้นยุนอาจึงโกหกไปว่าตัวเองอายุ21ปี ส่วนซอฮยอนอายุ20ปี

    ถ้าอย่างนั้น...เค้าก็คงต้องเรียกทุกคนว่าพี่แล้วสินะคะ”            เด็กสาวยิ้มอย่างน่ารัก

    นี่ พี่แทยอน บอกอายุตัวเองบ้างสิ”                ยุนอาพยักเพยิดไปทางคนตัวเล็กที่ยืนเงียบมาแทบจะตลอด  แทยอนจึงเอ่ยตอบไป

    400ปี”                  จบประโยคนั้น ยุนอาที่กินน้ำอยู่ก็แทบจะสำลักน้ำออกมา ซอฮยอนเห็นดังนั้นจึงรีบพูดแก้ให้

    เอ่อ...คือ...พี่แทยอนคงจะบอกว่าอายุ24ปีหน่ะค่ะ”                   เด็กสาวที่กำลังทำหน้างงก็ร้องอ๋อขึ้นมาเบาๆ

    ฉันว่าพวกเรามากวนคุณทิฟฟานี่มากเกินไปแล้วนะ กลับกันเถอะ”                      ยุนอาพูดพลางกระโดดลงจากเตียงของคนไข้

    ถ้างั้นพวกเราไปก่อนนะคะ...ถ้าคุณทิฟฟานี่ทานข้าวเสร็จแล้วก็อย่าลืมกินยาแล้วนอนพักผ่อนนะคะ”        ซอฮยอนหันมาพูดกับเด็กสาวบนเตียง ร่างบางพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ  ยุนอาโบกมือลาก่อนจะเดินเปิดประตูออกจากห้อง ซอฮยอนเองก็ยิ้มให้เล็กน้อยแล้วเดินตามร่างสูงออกไป เหลือเพียงแทยอนและทิฟฟานี่  ร่างเล็กมองเด็กสาวบนเตียงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะหันหลังเดินไปทางประตู ในจังหวะที่เอื้อมมือไปจับลูกบิดนั้น เสียงนุ่มทุ้มก็ดังขึ้นมา

    นอนพักเยอะๆหล่ะ                       เอ่ยเพียงแค่นั้น เขาก็เปิดประตูออกจากห้องไป....

     

    เสียงปิดประตูดังขึ้นเบาๆ แทยอนปล่อยมืออกจากลูกบิด มองบานประตูเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังทำท่าจะลงบันได แต่กลับมีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นซะก่อน

    ใครใช้ให้พามนุษย์มาอยู่ในบ้านกัน ไม่กลัวฉันจะจับเด็กคนนั้นฆ่ารึยังไง

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    กะไว้แล้วว่าต้องมาที่นี่”                   ร่างสูงยืนพิงต้นไม้มองดูเพื่อนของตน

    ก็มีเรื่องที่คาใจอยู่นิดหน่อยหน่ะ”                  แทงกูตอบไปยูริ วันนี้ร่างเล็กย้อนกลับมาดูสถานที่เกิดเหตุ เขามีเรื่องที่ยังติดใจไม่หาย

     

    กระจกฝั่งเบาะข้างคนขับที่แตกจนเป็นช่องกว้างพอที่จะให้คนเข้าไป

     

    ทำไมมันถึงแตกแค่บานนี้บานเดียว นั่นคือสิ่งที่น่าแปลกใจ

    แทงกู ฉันได้กลิ่นของไอ่แวมไพร์อยู่แถวๆตรงนี้”     ยูริชี้มายังขอบกระจกที่แตก ร่างเล็กจึงรีบเดินเข้ามา

    เป็นอย่างที่คิดจริงๆซะด้วยแฮะ”                    ร่างเล็กพึมพำเบาๆจนร่างสูงสงสัย

    หมายความว่าไง

    ตอนแรกฉันสงสัยอยู่แล้วหล่ะ ว่าทำไมถึงมีแค่กระจกบานนี้บานเดียวที่แตก...                แทงกูใช้แขนจับประตูรถแล้วออกแรงดึงมันเพียงนิดเดียวก็หลุดออก ร่างเล็กสลัดบานประตูทิ้งก่อนจะก้มลงมองดูรอยเลือดสีเข้มที่แห้งกรังติดอยู่บนเบาะ แล้วเอ่ยต่อ

    แทยอน...เขาคงจะใช้ตัวกระแทกกระจก...เข้ามาช่วยผู้หญิงคนนี้เอาไว้             แทงกูใช้ปลายนิ้วปาดรอยเลือดบนเบาะนั้นขึ้นมาดม

    ที่สำคัญ...กลิ่นเลือดนี่...ก็เป็นของแทยอน”               

    ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ไอ่ผีดิบนั่นมันจะมาช่วยมนุษย์ไว้ทำไม”              ยูริถามพลางยักไหล่อย่างกวนๆ

    ร่างเล็กยิ้มเล็กน้อยให้กับคำพูดของยูริ  ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลัง ยูริและแทงกูต่างหันขวับไปทางต้นตอของเสียง ก่อนจะต้องตกใจอีกรอบเมื่อมีเงาดำวิ่งตัดผ่านหน้าอย่างรวดเร็ว นัยตาของแทงกูเปลี่ยนเป็นสีทอง เขากำลังจะวิ่งไล่ตามเงานั้นไปแต่กลับกลายเป็นว่าเงาดำนั่นกลับหยุดอยู่กับที่เองซะก่อน  เป็นเพราะวิ่งด้วยความเร็วสูงจึงทำให้ฝุ่นรอบๆเงานั่นลอยขึ้นหนาจนบดบังสิ่งที่อยู่ข้างหลังนั้น  แทงกูกับยูริค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ในขณะที่กลุ่มควันฝุ่นเองก็ค่อยๆจางลง  เผยให้เห็นหมาป่าสามตัวที่อยู่ข้างหลัง สองตัวขนสีน้ำตาลและอีกตัวขนสีเทา มันกำลังค่อยๆกลายสภาพเป็นคน แทงกูเบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นยิ้มขัน ซึ่งยูริเองก็ถอนหายใจพลางเลิกคิ้วใส่ทั้งสามคนข้างหน้าอย่างกวนๆ  หนึ่งในกลุ่มคนที่เพิ่งมาใหม่เดินเข้ามาหาร่างเล็กและร่างสูง ก่อนจะเอ่ยประโยคยียวน ชวนให้คนฟังหมั่นไส้ขึ้นมา

    มีเรื่องสนุกๆแบบนี้ทั้งที จะขาดพวกเราไปได้ยังไงเล่า

    ถึงไม่ชวนก็มาเองอยู่ดีไม่ใช่รึยังไง ซูยอง”                 ยูริเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะโดนอีกคนกอดคออย่างแน่น  แทงกูขำเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาอีกสองคนที่เหลือ

    โดนซูยองลากมาสินะ ซันนี่”         ร่างที่เล็กพอๆกับแทยอนพยักหน้าอย่างเบื่อหน่าย

    ก็คงงั้นแหละ”                   ซันนี่ตอบก่อนจะพยักเพยิดไปทางคนข้างกาย

    ฮโยยอนเองก็โดนลากมาเหมือนกัน”          

    ก็นะ...”               ฮโยยอนเดินเข้ามากอดคอแทงกู  ก่อนที่จะพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก

    เวลาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับแวมไพร์แล้วมันอยู่เฉยๆไม่ได้หน่ะ รู้สึกอยากจะฆ่าพวกมันยังไงก็ไม่รู้

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    ใครใช้ให้พามนุษย์มาอยู่ในบ้านกัน ไม่กลัวฉันจะจับเด็กคนนั้นฆ่ารึยังไง

    เสียงที่เอ่ยขึ้นฉุดให้แทยอนหยุดเดิน ร่างเล็กหันใบหน้าเรียบนิ่งไปหาคนที่เพิ่งมาใหม่ พลางหัวเราะเบาๆ

    งั้นเธอก็คงต้องฆ่าฉันก่อนซะแล้วหล่ะ เจสสิก้า”      นัยตาสีฟ้าจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความนิ่งเฉย เจสสิก้าหัวเราะให้กับประโยคของแทยอน

    ฆ่าเธอก่อนงั้นเหรอ...น่าสนใจดีนี่”              ร่างบางเดินเข้ามาหาอีกคนก่อนจะเอ่ยต่อ

    ที่เธอทำเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงตลอดเวลา คงเป็นเพราะว่ามือข้างซ้ายนั่นมันถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสินะ”                             เจสสิก้าก้มลงมองมือของแทยอนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง

    คงจะเข้าไปช่วยมนุษย์คนนั้นจนบาดเจ็บเองหล่ะสิจบประโยคของเจสสิก้า  แทยอนขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน จ้องมองอีกคนที่ดูเหมือนว่าจะกำลังเยาะเย้ยเขาอยู่

    เลิกพูดซะ”          แทยอนตอบ ก่อนทำท่าจะเดินลงบันไดแต่กลับถูกอีกคนขวางเอาไว้ซะก่อน

    อยากจะให้ฉันฆ่าเธอนักรึยังไง”       ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ มันแฝงไปด้วยความรำคาญ

    อยากจะฆ่าฉันก็ลองดูสิ มาดูว่าใครจะตายก่อนกัน”  

    หุบปากซะ...   แทยอนพูดด้วยความเหลืออด  แต่เจสสิก้าทำเพียงหัวเราะอย่างกับสิ่งที่แทยอนพูดไปมันเป็นเรื่องตลก ร่างบางพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

    คิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าเธองั้นเหรอ...แทยอน                จบประโยคนั้นนัยตาของเจสสิก้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนที่เล็บของหล่อนจะค่อยๆงอกยาวขึ้น มือบางยกขึ้นทำท่าจะตวัดเฉือนคอแทยอน แต่ดูเหมือนว่าร่างเล็กจะเร็วกว่า นัยตาของแทยอนที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเฉกเช่นเดียวกันกำลังจ้องค้างมายังมือของเจสสิก้าก่อนที่ภายในเสี้ยววินาทีถัดมา มือของแทยอนจะยึดข้อมือของร่างบางไว้ พลางหมุนตัว ก่อนจะยกขาซ้ายขึ้นแล้วเหวี่ยงเตะเข้าที่ต้นคอของเจสสิก้า ร่างเล็กปล่อยมืออกจากข้อมือบาง  ก่อนจะเกร็งขาขวาแล้วอัดเข้าไปที่หน้าท้องของร่างบางซ้ำอีกครั้ง เจสสิก้ากระเด็นไปชนกับกระจกด้านหลังจนแตกละเอียด  แทยอนถอยออกมาเล็กน้อย ก่อนทำท่าจะวิ่งเข้าไปอัดซ้ำแต่กลับถูกขัดเอาไว้ซะก่อน

    พี่แทยอน! พี่เจสสิก้า! เกิดอะไรขึ้นหน่ะ”                   ยุนอาวิ่งขึ้นมาก่อนจะหันไปเห็นเจสสิก้าที่พยายามจะยันตัวเองลุกขึ้น นัยตาของร่างเล็กกลับมาเป็นสีฟ้าเฉกเช่นเดิม แทยอนหันมองยุนอาเล็กน้อย แล้วจึงหันกลับมามองเจสสิก้าอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเดินลงบันไดไป ทิ้งไว้เพียงประโยคที่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

    ใครที่ขัดหูขัดตาฉัน ฉันจะฆ่ามันทิ้งหมด จำไว้นะ เจสสิก้า

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    ทิฟฟานี่ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเพลียเล็กน้อย เธอค่อยดึงผ้าห่มออกจากตัว ก่อนจะหย่อนขาลงจากเตียงเตรียมจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องรีบก้มลงมองสภาพตัวเอง เธอเพิ่งนึกได้ว่าเธออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวบางตัวโคร่งเพียงตัวเดียว ใบหน้าหวานขึ้นสีเล็กน้อยด้วยความเคอะเขินที่มีคนมาเปลี่ยนชุดให้ ทิฟฟานี่เปิดตู้เสื้อผ้าออกก่อนจะเห็นชุดที่ซอฮยอนเตรียมไว้ให้ มันเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวบางตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นสีดำ เมื่อร่างบางเปลี่ยนชุดแล้วก็ก้มมองตัวเองเล็กน้อย เป็นเพราะเสื้อเชิ้ตมันใหญ่เกินไปจึงทำให้มันยาวจนแทบจะปิดกางเกงขาสั้นจนมิด แต่เด็กสาวก็ไม่ได้สนใจอะไรกับชุดมากนัก ทิฟฟานี่เดินออกจากห้องนอนมาและตรงลงมาที่ชั้นล่าง แต่กลับไม่เจอใครสักคน เด็กสาวจึงตัดสินใจเปิดประตูเดินออกมานอกตัวบ้านเพื่อมองหาทุกคน แต่เธอก็ยังไม่พบกับใครอีกเช่นเคย ในขณะที่สายตายังสอดส่องหาคนอื่นๆนั้น ใบหน้าหวานก็หยุดชะงักพลางมองสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่มีขนสีขาวปุย

    อ๊ะ...คุณกระต่ายน้อยนี่”                  ทิฟฟานี่เดินเข้าไปใกล้เจ้าขนปุยตัวนั้นมากขึ้น แต่ยังไม่ทันไร กะต่ายน้อยก็กระโดดเข้าป่าไปซะก่อน เด็กสาวเงยหน้ามองป่าเขียวทึบด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินเข้าไปในป่าเพื่อหากระต่ายตัวนั้น...

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    แทงกู กลับกันเหอะ”        ยูริจับไหล่คนร่างเล็กที่กำลังสำรวจซากรถมาตั้งนานอย่างไม่หยุดหย่อน จนนี่มันก็ค่ำแล้ว

    ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยมาดูใหม่ก็ได้”      ซูยองพูดอีกคน พลางลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย

    ก็ได้”    แทงกูถอนหายใจอย่างเสียดายที่ไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม

    งั้นก็กลับกันเถอะ”            ซันนี่พูดพลางวิ่งนำไปก่อน ตามหลังไปด้วยซูยอง

    เฮ้ แทงกู ตามไปเร็ว”        ฮโยยอนพูดเร่งแต่คนตัวเล็กกลับยังยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าหันไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับทิศทางกลับบ้าน

    มีอะไรรึเปล่า”                    ยูริถามด้วยความสงสัย  แต่แทงกูกลับขมวดคิ้วด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

    ยูริ ฮโย พวกแกกลับไปก่อนเลย เดี๋ยวเอาไว้ฉันจะตามไป”         พอจบประโยค แทงกูก็กลายสภาพเป็นหมาป่าขนสีขาวก่อนจะวิ่งไปยังอีกทิศทางนึง

    เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนสิแทงกู”                    ยูริพยายามตะโกนเรียกไว้แต่ก็ไม่ทัน  ร่างสูงจึงได้แต่หันมามามองหน้ากับกับฮโยยอน พลางถอนหายใจแผ่วเบา

    อะไรของมันนะ...

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    นี่...คุณกระต่ายน้อย...หายไปแล้วหล่ะ”                      ทิฟฟานี่พึมพำกับตัวเองเสียแผ่วเบา  นี่มันก็ใกล้จะค่ำมาแล้ว แสงตะวันเลือนรางลงทุกที  สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจหันหลังเดินกลับไปยังทางที่มา

     

    สวบ!  

     

    อยู่ดีๆกลับมีเสียงๆหนึ่งดังมาจากพุ่มไม้ด้านหลัง  ทิฟฟานี่รีบหันไปมองอย่างตกใจ 

     

    สวบ!

     

    ยังไม่ทันไรก็มีอีกเสียงหนึ่งดังมาทางพุ่มไม้ข้างๆอีกพุ่มหนึ่ง  เด็กสาวค่อยๆเดินถอยหลังไป  พุ่มไม้สองพุ่มนั้นยังคงสั่นไหวไปมาแต่เพียงไม่กี่วินาทีถัดมา  ก็มีหมาป่าขนสีดำสองตัวโผล่พรวดเข้ามาล้อมร่างบาง  เด็กสาวยืนตัวสั่นระริกด้วยความกลัว  หมาป่าทั้งสองส่งเสียงขู่อย่างหน้าหวาดเกรง ร่างบางค่อยๆเดินถอยหลังไปจนแผ่นหลังบางชนเข้ากับต้นไม้สูง  ทิฟฟานี่มองหมาป่าทั้งสองตัวที่เดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ทันทีทันใดนั้นมันก็กระโจนเข้ามาหาเธอ  ร่างบางล้มลงบนพื้นพร้อมกับหลับตาลงแน่นด้วยความกลัว

     

    พลั่ก!

     

    เพียงพริบตาเดียวที่หมาป่าสองตัวนั้นจะกระโจนเข้ามาหาร่างบาง ก็มีเงาดำตัดหน้าเธอไปพร้อมกับเหวี่ยงหมาป่าสองตัวนั้นออกไปด้วย ทิฟฟานี่ลืมตามองภาพข้างหน้าอย่างตกใจ เธอมองหมาป่าสองตัวนั้นที่มีรอยกัดจนเป็นแผลเหวอะ ก่อนจะมองสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาช่วยเธอไว้  หมาป่าขนสีขาวค่อยๆเดินเข้ามาหาร่างบาง  ทิฟฟานี่ค่อยใช้แขนยันเพื่อถอยห่าง แต่เธอลืมไปว่าด้านหลังของเธอนั้นเป็นต้นไม้  จึงทำเพียงมองหมาป่าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ด้วยความหวาดกลัว แต่สักพักอยู่ดีๆมันก็หยุดเดิน ก่อนที่ร่างกายของมันค่อยๆเปลี่ยนไป ขนสีขาวที่ปกคลุมอยู่เริ่มเลือนหายไปเช่นเดียวกับเล็บยาวที่ค่อยๆหดสั้นลง ทิฟฟานี่ไม่อยากจะเชื่อ หมาป่าตัวนั้น...กลายร่างกลับมาเป็นคน  แต่มีสิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากกว่า นั่นคือ คนๆนั้นกลับมีหน้าตา...เหมือนแทยอนทุกอย่าง เว้นแต่สีผมนั้นที่แตกต่าง เธอจำได้ว่าแทยอนมีผมบรอนซ์ทอง แต่คนตรงหน้าเธอนั้นกลับมีผมสั้นสีน้ำตาลที่ถูกรวบไว้พร้อมกับกัดปลายสีทอง  เขาค่อยๆนั่งยองๆลงข้างหน้าเธอ พร้อมกับยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

    เป็นอะไรรึเปล่า”               ร่างเล็กถามพร้อมกับสำรวจร่างกายของเด็กสาว  ทิฟฟานี่ที่ยังคงตกใจไม่หายได้แต่มองหน้าอีกคนอยู่อย่างนั้น

    คุณ...ไม่ใช่คุณแทยอน...”               ทิฟฟานี่พูดเสียงแผ่วเบา  คนร่างเล็กได้ยินดังนั้นก็ยิ้มให้ร่างบางด้วยความเอ็นดู

    ฉันชื่อแทงกู...คิมแทงกู....”          

    คุณเป็น....มนุษย์หมาป่า....

    ไม่ต้องกลัวหรอกนะ...ฉันไม่ทำอะไรหรอก”            

    แทงกูยิ้มกว้างให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะก้มลงมองดูหัวเข่าของร่างบางที่มีรอยแผลเล็กน้อย   ร่างเล็กค่อยๆเอื้อมมือไปเพื่อจะสัมผัสบาดแผลนั่น แต่ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วจะแตะหัวเข่าของเด็กสาว  แทงกูก็ถูกแรงดึงจากข้างหลังเหวี่ยงไปอย่างรวดเร็วจนไปกระแทกกับต้นไม้อย่างแรง ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันเร็วมากจนดูแทบไม่ทัน  ทิฟฟานี่มองร่างเล็กที่ถูกเหวี่ยงด้วยความตกใจ  แต่เมื่อเธอมองคนที่มาใหม่ ก็ต้องตกใจยิ่งกว่า

    คุณแทยอน...

    ทิฟฟานี่อุทานชื่อคนมาใหม่ด้วยเสียงแผ่วเบา แทยอนกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโนน นัยตาจ้องมองแทงกูที่กำลังยันตัวเองลุกขึ้น  ก่อนที่แทยอนจะเดินตรงเข้ามาหาทิฟฟานี่ ใช้สองแขนช้อนตัวคนร่างบางขึ้น กระชับอ้อมกอดแน่น จนเด็กสาวเผลอใช้สองแขนโอบรอบคอแทยอนด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆก็ถูกอุ้มขึ้นมา 

    แก...มาที่นี่ทำไม”             แทยอนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

    ฉันต้องเป็นคนถามมากกว่ามั้ง”                     แทงกูปาดเลือดตรงหัวคิ้วที่แตกออก ก่อนจะยิ้มให้แทยอน นัยตาจ้องมองทิฟฟานี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของคนร่างเล็ก

    เด็กคนนี้เองสินะ ที่แกช่วยเอาไว้

    อย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนี้”     แทยอนเอ่ยสวนกลับไป จนอีกคนได้แต่หัวเราะเบาๆ

    โทษทีนะ แต่เมื่อกี้ฉันเป็นคนช่วยเด็กคนนี้ไว้ จะไม่ให้ยุ่งคงไม่ได้แล้วหล่ะ อ่อ...แล้วก็....”                          แทงกูเดินเข้ามาจับไหล่แทยอน ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมาด้วยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทว่าหนักแน่นอยู่ในที

    แวมไพร์อย่างแก...ไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งฉันหรอกนะ...แทยอน”  



     

    ----------------------------------------------------------------





    Supercell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×