ตอนที่ 14 : BEAST OF NIGHTMARE :: EPISODE 10 100% Loading... อัพเพิ่ม
EPISODE 10
“ฮึก.. ฮือ..” เสียงร้องไห้ของชมพูยังดังตามมาติดๆ
ฉันนั่งอยู่ข้างเธอ พลางกอดปลอบประโลมเธอไปด้วย ถึงแม้ชมพูจะอายุเท่าฉัน แต่ระดับความเข้มแข็งในจิตใจของเธอนับว่าต่ำกว่าฉันมาก
ตอนนี้เรานั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมือง เฮียแวมพ์ถูกยิงในระหว่างที่กำลังขับรถไปสนามบิน ตอนนั้นมีลูกน้องเป็นคนขับให้หนึ่งคน แต่รู้สึกว่าลูกน้องคนนั้นจะถูกยิงตายไปแล้ว เฮียฉันโทรหาพี่ชายของชมพูให้ไปช่วยหลังจากถูกถล่มยิง ก่อนหน้านั้นเขายังไม่หมดสติ
“ขอบคุณมากนะพี่พอร์ช” ฉันบอกกับคนที่ยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้า
“ไม่เป็นไร” พี่พอร์ชบอกเสียงเรียบ “ใครมันกล้าขนาดนี้วะ”
“…….” ฉันนิ่งเงียบ โดยที่ตอนนี้ก็สงสัยไม่ต่างไปจากพี่พอร์ชเหมือนกัน “ชมพู.. เธออยู่ที่นี่คนเดียวได้ไหม?” ฉันหันไปถามชมพูที่เอาแต่นั่งร้องห่มร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน
“ดะ..ได้ ฮึก.. แล้วธะ..เธอจะไปไหน?” ฉันขมวดคิ้วทันทีเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา ดวงตากลมโตนั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสๆ จมูกเล็กๆของเธอแดงจนน่ากลัว
“ฉันจะให้พี่ชายเธอพาไปดูรถที่เฮียฉันโดนถล่มยิงหน่อย” ฉันมองไปที่พี่พอร์ช พอเขารู้เจตนาที่ฉันจะสื่อถึงได้พยักหน้าตอบกลับมา
“ฮึก.. ใครมันชั่วขนาดนี้นะ! ฮึก.. ฉันเกลียดมัน!” ฉันถอนหายใจเมื่อได้ยินประโยคที่ชมพูเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฉันก็แค้นไม่ต่างจากเธอ
“ใจเย็นๆก่อนชมพู ตั้งสติ” ฉันเอื้อมมือไปคว้ามืออันเย็นเฉียบของเธอมากุมไว้ พยายามแกะมือเล็กที่กุมกันแน่นออก
“ฮึก.. ฮือ.. กลับมาเร็วๆนะลามิอา” ชมพูโผเข้าหาฉัน
ฉันลูบแผ่นหลังบางนั่นเบาๆ พลางพูดปลอบโยนเธอ “เฮียฉันต้องไม่เป็นอะไร เฮียฉันมันหนังเหนียว ไม่ตายง่ายๆหรอกนะ เธออย่ากังวลไปเลย”
“ฮึก.. ฮึก.. รีบกลับมานะลามิอา รีบมาหาฉันนะ ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว” ฉันผละออกจากร่างของเธอ ก่อนที่มือทั้งสองจะเคลื่อนไปวางแหมะอยู่ที่ไหล่มนทั้งสองข้างของชมพู
“แล้วฉันจะรีบกลับมา” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงมั่นคงหนักแน่น “ไปกันเถอะพี่พอร์ช” ก่อนจะหันไปหาพี่พอร์ชพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
ฉันต้องไปดูให้แน่ใจว่าวิถีกระสุนที่เฮียฉันโดน มันเจตนาฆ่าเฮียฉันหรือต้องการฆ่าแค่ลูกน้องของเฮียฉันกันแน่!
ตึกร้างที่ตั้งเรียงรายกันมากมายนับสิบตึก บนตึกถูกฉาบด้วยสีขาว มีรอยสเปรย์ที่ฉีดบนผนังด้วยฝีมือของพวกนักวาดอิสระที่ต้องการรังสรรผลงานลงบนที่แห่งนี้ บรรยากาศวังเวงในขณะที่ตอนนี้เป็นตอนกลางวันแสกๆ ทำให้ฉันอดที่จะยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองไม่ได้ ดูเหมือนว่าเฮียฉันจะขับรถเข้ามาหลบอยู่ที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากพี่พอร์ชหลังจากที่ลูกน้องของตัวเองถูกยิงเสียชีวิต
สัตว์โลกย่อมรักชีวิตตัวเองเสมอ เฮียฉันก็เหมือนกัน..
“ตอนฉันเข้ามารับไอ้แวมพ์ สภาพรถดูแทบไม่ได้” ฉันได้ยินเสียงพี่พอร์ชพึมพำตามหลังมา
“ฉันแค่อยากมาดูวิถีกระสุนให้แน่ใจ” ฉันบอก
“รถอยู่ฟากตึกฝั่งโน้น” ฉันหันกลับไปมองพี่พอร์ชที่ชี้นิ้วไปยังตึกอีกฟากหนึ่ง
สองเท้าเร่งจ้ำอ้าวเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ รถยนต์คันสีดำ หมายเลขทะเบียนที่บ่งบอกว่าเป็นรถของเฮียฉันอย่างแน่นอนจอดนิ่งสนิทอยู่ใต้ตึกร้างสีขาว ฉันเดินไปที่หน้ารถ มองผ่านกระจกที่มีรอยพรุนนับสิบรอยเข้าไป ตรงเบาะคนขับมีรอยเลือดสีแดงเป็นวงกว้าง ถัดไปเป็นเบาะด้านหลังก็ถูกฉาบไปด้วยเลือดเช่นเดียวกัน
ฉันมองกระจกหน้าอย่างพินิจพิจารณาพลางย่างเท้าเข้าไปใกล้ๆเพื่อที่จะได้สังเกตอะไรต่อมิอะไรให้ชัดเจนขึ้น วิถีกระสุนที่ถูกสาดเข้ามายังตัวรถไม่ได้เจาะจงว่าต้องการฆ่าใครคนใดคนหนึ่งหรือต้องการที่จะจงใจให้ใครบางคนเสียชีวิต แต่นี่คือการกราดยิง และมันเดาได้ไม่ยากเลยว่า..มีคนต้องการที่จะล้มเฮียฉัน!
ดูจากกระสุนที่ถูกยิงเข้าไปทางด้านหน้ารถทั้งซ้ายและขวาแล้ว เหมือนกับว่าคนยิงต้องการให้คนในรถไม่ว่าจะนั่งอยู่ในตำแหน่งไหนของรถได้รับบาดเจ็บ แต่การสาดกระสุนยิงแบบไม่ยั้งขนาดนี้คงไม่ได้หวังแค่ให้บาดเจ็บอย่างเดียวแน่นอน ฉันคิดว่าคนยิงหมายหัวเฮียฉันด้วย
“นี่มันกราดยิง” ฉันพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปแตะฝากระโปรงรถด้านหน้า
“ใช่” พี่พอร์ชยืนยันอีกเสียง “ฉันว่าตอนนี้มีคนตั้งใจจะเอาชีวิตพี่ชายเธอที่เป็นน้องเขยฉัน”
คิ้วฉันขมวดเข้าหากัน สมองทุกส่วนถูกระดมความคิดอย่างหนัก “แต่เฮียฉันก็ไม่ได้มีปัญหากับลูกค้าคนไหน”
“ทำไมไม่คิดว่าเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของพี่ชายเธอล่ะ?” ฉันหันขวับไปจ้องพี่พอร์ชทันที
“แต่ตลอดที่ผ่านมา พวกนั้นไม่เคยกล้าทำอะไรเปิดเผย พวกนั้นไม่เคยทำอะไรอุกอาจกับเฮียฉันแบบนี้”
“มันไม่ใช่อดีตแล้วนะลามิอา” ฝ่ามือของพี่พอร์ชแตะลงบนไหล่ข้างขวาฉันก่อนจะออกแรงบีบนิดๆ “ทุกคนต่างก็ต้องขยายอำนาจ ยิ่งเฮียเธอโค่นยากเท่าไหร่ ไอ้พวกนั้นมันก็ยิ่งอยากล้มเฮียเธอมากเท่านั้น”
“แต่ว่า..” ฉันไม่อยากยอมรับมันเลยจริงๆ แต่ที่พี่พอร์ชพูดมามันก็ถูก ฉันเถียงอะไรไม่ได้
“ฉันจะช่วยสืบอีกแรง ไอ้แวมพ์มันเป็นน้องเขยฉัน เป็นแฟนกับน้องฉันก็เท่ากับว่าเป็นน้องฉันนั่นแหละ” ฉันเงยหน้าขึ้นมองพี่พอร์ช
“แล้วต่อไป.. เฮียฉันก็ตกอยู่ในอันตรายงั้นหรอ?” ฉันบังคับเสียงสั่นเครือของตัวเองที่เอ่ยออกไปให้เป็นปกติไม่ได้เลย
“ฉันไม่ได้อยากโกหกเธอหรอกนะ แต่เธอต้องยอมรับความจริงเรื่องนี้” ฉันหลุบตาลงมองพื้น ม่านตาเริ่มพร่ามัว
“แล้วทำไมต้องเป็นเฮียฉัน!? ฮึก..” ในที่สุดความเข้มแข็งที่สะสมมาตลอดชีวิตของฉันก็พังทลายลงต่อหน้าต่อตาคนเป็นพี่ชายของชมพู “ฉันไม่ได้ต้องการชีวิตแบบนี้!”
“ตั้งสติก่อนลามิอา ฉันรู้ว่าเธอเสียใจ แต่ที่พี่ชายเธอทำทั้งหมดมันก็เพื่อเธอเพื่อน้องๆไม่ใช่หรือไง” มันก็ใช่ไง
แต่นี่มันไม่ใช่ชีวิตที่ฉันต้องการ ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครมาก้มหัวให้ฉันแบบที่เฮียทำ..
“ฮึก.. แล้วมันคุ้มตรงไหน!? ต้องมาโดนยิง โดนแทง โดนทำร้ายปางตายแบบนี้ ตอบสิพี่พอร์ช! มันคุ้มมากไหมที่ต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงแบบนี้!?”
ปึก!
ประโยคสุดท้ายฉันตวาดออกไปเท่าที่เสียงตัวเองจะมีพร้อมกับกำปั้นที่ถูกใช้ทุบลงบนอกแกร่งของพี่พอร์ชไปอีกหนึ่งที น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่อยู่ไหลพรากลงอาบแก้ม ฉันไม่สนว่าใครจะมาเห็นความอ่อนแอไหม แต่ตอนนี้ฉันจะเข้มแข็งไปเพื่อใคร ในเมื่อพี่ชายคนโตก็เข้าไปนอนอยู่ในห้องฉุกเฉิน ถูกยิงอาการสาหัส แล้วพี่คนรองทั้งสองคนล่ะ จะถูกตามฆ่าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้!
“ใจเย็นๆสิวะ” เสียงของพี่พอร์ชไม่ได้ตวาด เขาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงปกติ แต่มันกลับแผ่วเบา
“ฮึก.. ฉันจะถูกตามฆ่าเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย!” ฉันระบายคำพูดทั้งหมดออกมาพร้อมกับซบหน้าลงบนอกของพี่พอร์ช
“เธอไม่ถูกฆ่าง่ายขนาดนั้นหรอกน่า” ฉันแค่นเสียงในลำคอเมื่อได้ยินที่พี่พอร์ชพูด
“หึ..”
การมีชีวิตอยู่มีอยู่สองจำพวก..
พวกแรกคือพวกที่มีชีวิตอยู่บนโลกด้วยความสุข มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆแม้จะไม่มีทางรู้เลยว่าชีวิตจะต้องเจอกับอะไรบ้างในอนาคต
ส่วนพวกที่สองคือพวกที่จำใจมีชีวิตอยู่บนโลก ไม่มีกำลังใจพอที่จะทำให้ชีวิตตัวเองดำเนินไปได้
และสุดท้าย.. ชีวิตของคนจำพวกที่สองอาจลงเอยด้วยการจบชีวิตลงอย่างอนาถ
{Fongbia Part}
ปึก!
“อะไรอีกวะ!?”
เสียงหงุดหงิดของไอ้ฟาห์ดังขึ้นหลังจากที่ผมเขวี้ยงหมอนไปใส่มันด้วยแรงทั้งหมดที่มี โทรศัพท์ที่มันใช้คุยกับใครบางคนก่อนหน้านี้หล่นตกลงพื้นจนหน้าจอดับไป มันหันมาจ้องผมเขม็ง
“มึงทำนอกเหนือจากที่กูสั่ง!” ผมบอกเสียงเครียด หางคิ้วกระตุกเป็นพักๆเนื่องจากอาการโมโห
“มึงเป็นน้องกู ไม่มีสิทธิ์มาสั่งกู” มันบอกพร้อมกับก้มลงเก็บโทรศัพท์มือถือบนพื้น
“กูจะฟ้องป๊าเรื่องนี้!” ผมขู่
“คิดว่าทำได้ก็ลอง” มันเหยียดยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา
“กูไม่ได้ต้องการให้มึงสั่งคนไปยิงมันแบบนั้น!” ผมตวาดลั่นจนเสียงดังก้องห้อง
“มึงแค้นมันไม่ใช่หรือไง?” ไอ้ฟาโรห์เลิกคิ้วขึ้นมองผม
“แต่กูไม่ได้ต้องการให้มันตาย!” เสียงหอบหายใจของผมรุนแรงมากขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มเหยียดที่มุมปากของฟาโรห์พี่ชายแท้ๆของตัวเอง “กูแค่อยากสั่งสอนมัน ไม่ได้อยากให้มันตาย อีกอย่าง.. ที่มึงทำแบบนี้ พ่อของไอ้เกอร์จะถูกเพ่งเล็ง!”
“ถูกเพ่งเล็งแล้วไงวะ? กูก็ช่วยอยู่ดี” ไอ้ฟาโรห์บอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“เรื่องนี้มึงไม่ต้องยุ่งแล้ว ปล่อยให้กูจัดการ”
หลังจากที่ผมได้ข่าวจากลูกน้องของไอ้เกอร์ว่ารถของไอ้แวมไพร์ถูกถล่มยิง ผมก็รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของใคร คนที่ได้ประโยชน์ทางตรงก็คือไอ้ฟาโรห์ มันต้องการแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันอยากให้ไอ้แวมไพร์ล้มมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทำไมผมจะเดาไม่ออกว่าเป็นฝีมือของพี่ชายตัวดีคนนี้
“มึงกำลังใจอ่อนนะฟองเบียร์” ไอ้ฟาโรห์หรี่ตามองผม
ผมขมวดคิ้ว “ยังไง!?”
“วันนั้นที่มึงพายัยนั่นมา มึงไม่ได้ทำอะไรยัยนั่นใช่ไหม?” ผมกัดฟันแน่นพร้อมกับกำมือเข้าหากัน
“เรื่องของกู มึงไม่ต้องเสือก” ผมว่าก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินออกจากห้องของมัน
แต่ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวขาแม้แต่ก้าวเดียวก็ถูกรั้งไว้ด้วยคำพูดของไอ้ฟาโรห์
“มึงกำลังใจอ่อนให้กับผู้หญิงคนนั้น” ผมหมุนตัวหันกลับไปจ้องหน้ามันทันที
ไอ้ฟาโรห์จ้องผมด้วยสายตาราบเรียบ มันหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมาก่อนจะชูขึ้น ผมเพ่งมองรูปใบนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว ผู้หญิงในรูปทำให้หัวใจของผมแทบจะสลายลงตรงนี้
“มึงเอามาจากไหน!?” ผมถามมันเสียงสั่น
“มึงอยู่คอนโดเดียวกับกูนะฟองเบียร์ อย่าลืม” ไอ้ฟาโรห์ตอบ
“…….” ผมเงียบ ทั้งร่างสั่นไปหมดจนยากจะควบคุม
“แถมกูยังรู้ด้วยว่ามึงกับผู้หญิงในรูปนี้คบกันมาสามปีแล้ว” คำว่าสามปีที่ไอ้ฟาโรห์บอกเปรียบเสมือนดาบคมกริบที่บาดลึกเข้ามาในใจผม
“เอารูปนั้นไปเผาไฟทิ้งซะ!” ผมกัดฟันกรอดพร้อมกับตวาดลั่น
“กูรู้ว่ามึงไม่ได้อยากเผามันทิ้งหรอกฟองเบียร์ มึงรักผู้หญิงคนนี้มาก และเขาสำคัญกับมึงแค่ไหน มึงรู้ตัวเองดี”
.ใช่.. ผู้หญิงในรูปสำคัญกับผมมาก
เพราะเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของผม ผมกับเธอคบกันมาแล้วสามปี ผมรักเธอ และยังรู้ด้วยว่าเธอก็รักผมเหมือนกัน
“กะ..กูจะไปแล้ว ฝากมึงเอารูปนั้นเก็บไว้ที่เดิมด้วย” ผมหมุนตัวหันกลับไปยังประตูแล้วหลุบตาลง
น้ำตาหยดแรกจากหางตาไหลออกมา...
“มึงรักเขามาก เพราะฉะนั้นงานนี้อย่าใจอ่อนนะฟอง กูเตือนแค่นี้” เสียงไอ้ฟาโรห์ยังคงดังตามหลังมาเมื่อผมก้าวเท้าแรกออกจากประตูไป
“ได้.. กูจะไม่ใจอ่อน” ผมบอกเสียงหนักแน่น
ต่อจากนี้.. ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
{Lamiah Part}
“ฮึก.. ฮือ..” เสียงร้องไห้ของชมพูยังคงดังออกมาจากร่างบางที่นั่งตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวอย่างต่อเนื่อง
ฉันหันไปมองพี่พอร์ชที่ยืนอยู่ด้านข้าง พี่พอร์ชถอนหายใจแล้วยักไหล่อย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ฉันก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเหมือนกัน ถามว่าอยากร้องไห้ไหม ฉันร้องมันออกไปหมดแล้วตอนอยู่ที่ตึกร้าง และถ้าตอนนี้ฉันร้องไห้อีก ใครจะเป็นคนอยู่ปลอบชมพู
ฉันเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งลงข้างชมพู มือข้างหนึ่งเอื้อมไปแตะไหล่เธอพลางออกแรงบีบมันเบาๆเพื่อให้กำลังใจ ฉันเข้าใจชมพูมาโดยตลอด ฉันเคยเห็นน้ำตาแห่งความอ่อนแอของชมพูมามากจนรู้ว่าเธอรู้สึกแย่แค่ไหนที่ร้องไห้ออกมา
“ไม่เป็นไรนะ” ฉันปลอบเสียงเบา
“ฮึก.. ฮึก..” ตัวชมพูสั่นสะท้านจนในใจฉันวูบไหว
กึก!
ชมพูโผเข้ากอดฉันอย่างรวดเร็ว เธอซบใบหน้าลงตรงคอฉัน ผิวฉันสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอุ่นๆของของเหลว น้ำตาของเธอ.. ฉันวางมือทั้งสองข้างของตัวเองลงบนแผ่นหลังบอบบางนั่นเบาๆพลางลูบขึ้นลงอยู่ครู่หนึ่ง
“เฮียฉันต้องไม่เป็นไร” ฉันปลอบเธอ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฉันก็แอบปลอบใจตัวเองเหมือนกัน
ถ้าฉันรู้ว่าใครเป็นคนทำ รับรองว่าทุกอย่างจะต้องกลับไปหามันแบบที่เฮียฉันโดนมากกว่าอีกเท่าตัว
ฉันกลับมาที่BEAST CLUBพร้อมกับพี่พอร์ช วันนี้พี่พอร์ชอาสามาช่วยคุมคลับให้ เพราะกลัวจะมีคนกล้าเข้ามาระรานถึงคลับอีก ส่วนชมพูก็ให้อยู่เฝ้าเฮียแวมพ์ที่โรงพยาบาล เพราะเธอไม่ยอมกลับ เธอบอกว่าเธอจะไม่กลับจนกว่าเฮียฉันจะฟื้นขึ้นมา
ฉันบอกใจตัวเองให้นิ่งและสงบลง พยายามใช้สมองมากกว่าขาดสติ คิดทุกอย่างให้รอบคอบ ฉันตัดสินใจโทรบอกเรื่องนี้กับเฮียเซนและเฮียไซ พวกเขารับรู้เป็นที่เรียบร้อย และกำลังเดินทางมาที่ไทยเพื่อมาเยี่ยมเฮียแวมพ์ และมาคุยเรื่องที่เฮียแวมพ์โดนลอบทำร้ายกับฉัน
“ขอบคุณนะพี่พอร์ช” ฉันหมุนตัวกลับไปหาพี่พอร์ชพร้อมกับส่งยิ้มที่แห้งเหี่ยวของตัวเองไปให้
“ไปนอนเถอะ เดี๋ยวฉันคุมที่นี่ให้” พี่พอร์ชพยักหน้า ฝ่ามือหยาบใหญ่เอื้อมมาลูบผมฉันเบาๆ “เธอก็เหมือนน้องสาวฉัน ขอบคุณที่ดูแลน้องฉันมาตลอดนะลามิอา”
“…….” ฉันพยักหน้ารับ นัยย์ตาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ
มันปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าคนเราอ่อนแอกันทุกคน หรือใครจะเถียงว่ามีบางคนที่เข้มแข็งได้ตลอดเวลา
“ฉันรู้ว่าเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีหัวใจ รับรู้ได้ทั้งความเจ็บปวดและดีใจ ไม่เป็นไรนะ อ่อนแอบ้างก็ไม่เป็นไร” ฉันช้อนตาขึ้นมองพี่พอร์ช
น้ำตาหนึ่งหยดจากดวงตาข้างขวาไหลลงที่ข้างแก้ม..
“ฮึก..”
กึก!
ฉันโผเข้ากอดพี่พอร์ชเต็มแรงจนร่างแกร่งของเขาเซไปด้านหลังเล็กน้อย เขาเหมือนเฮียแวมพ์มาก ทั้งนิสัยและการพูดจา แผ่นหลังที่เรียบตึงของฉันสะท้านเบาๆเมื่อสัมผัสได้ถึงวงแขนแข็งแรงที่โอบรอบตัวเอง ฉันกระชับกอดพี่พอร์ชให้แน่นขึ้น
“ไม่เป็นไร ไปนอนเถอะ” พี่พอร์ชบอกพร้อมทั้งลูบแผ่นหลังฉันไปมาคล้ายกับกำลังปลอบโยนกัน
ชั่วจังหวะหนึ่ง.. ฉันผละออกมาก่อนจะยิ้มให้พี่พอร์ชแล้วหมุนตัวเองเดินกลับไปยังห้องนอน
ทันทีที่เข้ามาในห้อง ฉันตรงไปที่โต๊ะข้างเตียง กรอบรูปที่ด้านในบรรจุรูปของพวกเราสี่พี่น้องเอาไว้ ฉันหยิบมันขึ้นมากำไว้แน่นแล้วซบหน้าลงบนนั้น น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลพรั่งพรูออกมาจนมันหยดลงกับกรอบรูป ฉันสะอื้นจนได้ยินเสียงตัวเองอีกหนึ่งที
Rrrr!
เสียงริงโทนของมือถือที่ดังออกมาจากกระเป๋าสะพายด้านข้างลำตัวทำให้ฉันชะงัก ฉันวางกรอบรูปกลับเข้าที่เดิมแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา วาดนิ้วไปที่ด้านข้างเพื่อกดรับสาย ในขณะที่อีกมือยกขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออกลวกๆ
“ว่าไงวาด?” ฉันทักปลายสายด้วยเสียงอันแผ่วเบา
[ทำไมเสียงเธอเป็นแบบนี้อ่ะ? เป็นหวัดหรอ?] ภาพวาดถามกลับมาเมื่อได้ยินเสียงฉัน
“…….” ฉันเงียบไป ก่อนจะตัดสินใจตอบวาดไปว่า “อื้อ..”
ความจริงแล้วฉันอยากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ภาพวาดได้ฟัง แต่เขาเป็นคนนอก เฮียฉันจะบาดเจ็บมากมายขนาดไหนก็ไม่ควรให้เขาต้องมารับรู้ด้วย มันเป็นเรื่องในครอบครัวของฉัน เพราะฉะนั้นอย่าบอกให้ภาพวาดรู้เลยจะดีกว่า
[เธอโอเคไหม? กินยายัง?] วาดถามฉัน
“กินแล้ว” ฉันตอบพลางทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง
ฉันหลับตาลง.. ปีนี้เป็นปีชงของฉันหรือไงกัน ทำไมเรื่องแย่ๆต้องเข้ามาพร้อมกับอะไรดีๆ
[ลามิอา] ภาพวาดเรียกชื่อฉัน
“หืม..” ฉันครางรับ เมื่อยล้าไปทั้งร่างกายเลยตอนนี้
[เธอมีอะไรไม่สบายใจ เล่าให้ฉันฟังได้] ฉันถอนหายใจยาวเมื่อได้ยินสิ่งที่วาดพูด
ถ้านายรับรู้แล้วจะช่วยอะไรฉันได้ล่ะวาด
“ไม่เป็นไร ฉันโอเค” ฉันตัดสินใจตอบวาดไป
[เธออาจจะยังระแวงฉัน หรืออาจจะยังไม่เชื่อใจฉัน แต่เชื่อเถอะว่าฉันไม่มีวันคิดร้ายกับเธอ ฉันสาบาน…]
“…….”
[……..] เราทั้งสองคนต่างก็นิ่งเงียบ
มีเพียงเสียงลมหายใจอันแผ่วเบาของเราทั้งคู่เท่านั้นที่เล็ดลอดเข้ามาในสายจนได้ยินมันเป็นจังหวะ น้ำตาฉันคลอที่ดวงตาก่อนจะกลิ้งหลุนๆไปตามหางตาแล้วหยดลงบนที่นอน เสียงสะอื้นของฉันดังขึ้นหลังจากนั้น
โดยที่ฉันกับวาดไม่ได้คุยอะไรกันอีก..
เพียงแค่เรา.. นอนฟังเสียงลมหายใจอันแผ่วเบาของกันและกัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

293 ความคิดเห็น
-
#285 Flamingo_i (จากตอนที่ 14)วันที่ 21 กรกฎาคม 2561 / 19:25ปมเยอะเวอร์5555 เราชอบมากอ่ะเนื้อเรื่องแบบไม่ได้มีฉากsexตลอดเวลาแต่มีฉากที่พระเอดขู่นางเอกตอนอยู่ดาดฟ้าออะ คือดีมากให้ฟิวความรู้สึกแรงๆ รอเด้ออออ#2850
-
#283 yui-oi (จากตอนที่ 14)วันที่ 8 พฤษภาคม 2561 / 17:35ภาพวาดคู่กับคีตะนิ ไรต์เปิดเรื่องyไว้#2830
-
#281 beam-chida (จากตอนที่ 14)วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 / 19:46หายไปไหนอ่ะ รออยู่นะตัวเทอ~~~#2810
-
#279 maeyemind (จากตอนที่ 14)วันที่ 16 เมษายน 2561 / 21:18ปมเยอะไปไหนนน#2790
-
#278 numerous2 (จากตอนที่ 14)วันที่ 13 เมษายน 2561 / 19:03รออ่านจ้า#2780
-
#276 WareeyaThiangram (จากตอนที่ 14)วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 / 20:39เฮียแวมไพน์อย่าเป็นอะไรนะ#2760
-
#275 dsnfdskjfpodsl (จากตอนที่ 14)วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 / 15:13รออออออค่ะรอออออ#2750
-
#274 I_WaNabee (จากตอนที่ 14)วันที่ 28 มกราคม 2561 / 22:59ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นลามิอานั่นแหล่ะ คิดว่างั้นนะ! ลามิอาความจำเสื่อมแน่ๆ#2740
-
#273 CosecA (จากตอนที่ 14)วันที่ 28 มกราคม 2561 / 21:54สงสารลามิอา ฮือๆ ฟองเบียร์นายมันโหดร้ายยยยย#2730
-
#272 SopapornPogpoon (จากตอนที่ 14)วันที่ 28 มกราคม 2561 / 20:49มีอาน่าสงสารจังววง#2720
-
#271 dsnfdskjfpodsl (จากตอนที่ 14)วันที่ 27 มกราคม 2561 / 00:47โอ้ยยยยยรอนะคะๆ#2710
-
#270 SopapornPogpoon (จากตอนที่ 14)วันที่ 24 มกราคม 2561 / 23:37ใครอะ ผญ.คนนั้น#2700
-
#269 gor_iforgifto (จากตอนที่ 14)วันที่ 24 มกราคม 2561 / 23:29ปมเยอะปมแยะ#2690
-
#268 I_WaNabee (จากตอนที่ 14)วันที่ 24 มกราคม 2561 / 22:33ผู้หญิงคนนั้นคือใคร!!#2680
-
#267 ช็อกโกแลตร้อน/Hot chocolates (จากตอนที่ 14)วันที่ 24 มกราคม 2561 / 20:32ผู้หญิงในรูปคือใครรรรรรรรรรร#2670
-
#265 Mini_MiniHeart (จากตอนที่ 14)วันที่ 23 มกราคม 2561 / 06:28ฟองเบียร์สั่งทำหรือป่าวว??#2650
-
#264 SopapornPogpoon (จากตอนที่ 14)วันที่ 23 มกราคม 2561 / 01:49ใครทำเฮียแวม#2640
-
#262 Kaewkanya1414 (จากตอนที่ 14)วันที่ 22 มกราคม 2561 / 22:25รอออออ#2620
-
#261 I_WaNabee (จากตอนที่ 14)วันที่ 22 มกราคม 2561 / 22:07ทำไมต้องฆ่าด้วยล่ะ หวังว่าฟองจะไม่ทำอะไรแบบนั้นกับเฮียแวมนะ อย่างน้อยก็พี่ชายเมีย!!#2610
-
#259 I_WaNabee (จากตอนที่ 14)วันที่ 21 มกราคม 2561 / 08:24รอออออ#2590
-
#258 annjaijai (จากตอนที่ 14)วันที่ 21 มกราคม 2561 / 07:01รอออออออ#2580
-
#256 Benzabens (จากตอนที่ 14)วันที่ 21 มกราคม 2561 / 01:23เจิมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ#2560
-
#254 Frongkanokpan (จากตอนที่ 14)วันที่ 20 มกราคม 2561 / 23:19เจิมๆๆๆๆ รออออ#2540
-
#253 SopapornPogpoon (จากตอนที่ 14)วันที่ 20 มกราคม 2561 / 23:19เจิมมมม#2530
-
#252 beam-chida (จากตอนที่ 14)วันที่ 20 มกราคม 2561 / 23:19เจิมมมมมมม#2520