ตอนที่ 10 : BEAST OF NIGHTMARE :: EPISODE 07 100% {อัพครบ}
EPISODE 07
{Lamiah Part}
“นี่เป็นแค่เศษเสี้ยวของนิสัยฉันเท่านั้น เพราะฉะนั้น..อย่าไว้ใจฉันเกินความจำเป็น”
“นี่เป็นแค่เศษเสี้ยวของนิสัยฉันเท่านั้น เพราะฉะนั้น..อย่าไว้ใจฉันเกินความจำเป็น”
“นี่เป็นแค่เศษเสี้ยวของนิสัยฉันเท่านั้น เพราะฉะนั้น..อย่าไว้ใจฉันเกินความจำเป็น”
“ลามิอา!”
กึก!
“ห๊ะ!” ฉันสะดุ้งพร้อมกับแก้วน้ำในมือที่หล่นลงจนเกิดเสียงดัง ‘กึก’
“เป็นอะไร? ทำไมเหม่อจัง” ชมพูขมวดคิ้วถามฉัน ในขณะที่มือเธอกำลังหยิบกระดาษทิชชู่จากกระเป๋าออกมาเช็ดน้ำที่ฉันทำหกราดโต๊ะเมื่อกี้
“ปะ..เปล่า ไม่มีอะไร” ฉันตอบเสียงเรียบทั้งๆที่ในหัวสมองยังวนคิดเรื่องประโยคที่ฟองเบียร์พูดกับฉัน
ความจริงฉันไม่จำเป็นต้องเก็บเรื่องของหมอนั่นมาคิดก็ได้ แต่ไม่รู้ทำไม ฉันถึงได้คิดจนหัวสมองแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆเอาให้ได้แบบนี้ก็ไม่รู้ หลังจากประโยคที่ฟองเบียร์บอกกับฉันในห้อง ฉันก็ไม่ได้พูดหรือโต้ตอบอะไรกับเขาอีก จนกระทั่งเขามาส่งฉันที่มหาวิทยาลัยเสร็จ เขาก็ออกไปเลยโดยที่ไม่ได้พูดคุยกับฉัน
บางอย่างมันแปลก.. มันแปลกจริงๆในความรู้สึกที่สับสนวกวนของฉัน
“สีหน้าเธอไม่ค่อยดีเลยนะ ไปหาหมอไหม?” ชมพูเอื้อมมือมาอังหน้าผากฉัน “ตัวเธอร้อนด้วยนะ”
“ฉะ..ฉันไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่เธอต้องเข้าเรียนตอนไหนเนี่ย?” ฉันยกโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาดูเวลา พบว่าตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว
“อีกสักพักแหละ เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำก่อนนะ น้ำหมดพอดีเลย” ฉันมองดูชมพูเมื่อเธอลุกออกไป
หว่างคิ้วฉันขมวดเข้าหากันอีกรอบเมื่อนึกถึงประโยคสุดท้ายของฟองเบียร์ ที่หมอนั่นพูดฉันไม่อาจตีความได้เลยว่ามันหมายถึงอะไร ฉันไม่ได้ไว้ใจฟองเบียร์ แต่ก็ไม่นึกว่าเขาจะเลวร้ายอะไร เขาก็แค่ผู้ชายที่ทำตัวมึนไปวันๆ ไม่ใช่หรือไง
“ลามิอา..” ฉันเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงชมพู แต่สายตาก็สะดุดลงที่ร่างของผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเธอ “นี่เพื่อนฉันเอง ชื่อฟองเบียร์”
“…….” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ฉันจ้องฟองเบียร์ที่ทำท่าเมินใส่ฉัน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะลามิอา” ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาแล้วส่งยิ้มพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าฉัน
ตึกตัก...
ก้อนเนื้อในอกฉันกระหน่ำรัวไม่หยุดเมื่อได้ยินการทักทายของฟองเบียร์ ทำไมหมอนี่ถึงได้รู้จักชมพู แล้วชมพูไปรู้จักหมอนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ คำถามมากมายตีวนในสมองฉันจนไม่รู้จะเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวยังไง
แล้วท่าทางที่ฟองเบียร์ทำเหมือนไม่รู้จักฉันมันคืออะไร...
“ยะ..ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันตอบกลับไปแล้วลดสายตามองมือของฟองเบียร์ที่ยังนิ่งค้างไว้
ในจังหวะที่ฉันกำลังจะยื่นมือไปจับ แต่ฟองเบียร์กลับหดมือของตัวเองกลับไปก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “สงสัยเพื่อนชมพูคงไม่อยากทำความรู้จักเราเท่าไหร่นะ ฮ่าๆๆ” ฉันจึงทำได้แค่หดมือของตัวเองกลับมาไว้ที่เดิม
“พูดอะไรอย่างนั้นอ่ะฟอง ลามิอานิสัยดีนะ” ชมพูหันมายิ้มให้ฉัน ฉันจึงยิ้มตอบเธอไปแบบเจื่อนๆ
“หรอ?” ฉันตวัดสายตาไปมองฟองเบียร์ในจังหวะที่หมอนี่พูดขึ้น
“อะ..อื้ม ทำไมถามแบบนั้นล่ะ?” เป็นชมพูเองที่เริ่มจะหน้าซีดขึ้นมาเมื่อเธอหันมามองฉัน
ฉันแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าเริ่มไม่ชอบใจฟองเบียร์สักเท่าไหร่ อย่างที่ฉันเคยบอกไป ถ้าไม่ชอบอะไรฉันก็จะแสดงออกมาทันที และในเวลานี้ ฉันไม่ชอบฟองเบียร์!
“ฮ่าๆๆ เปล่าๆ เดี๋ยวเราไปเรียนก่อนนะชมพู ไว้ค่อยเจอกันนะ” ว่าจบฟองเบียร์ก็เดินออกไปเลย
ฉันมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างไม่เข้าใจนัก ก่อนที่จะเหลือบไปมองชมพูที่ยืนมองฟองเบียร์อยู่ ฉันขมวดคิ้วมองปฏิกิริยาระหว่างสองคนนี้
“ชมพู..” ฉันเรียกชมพู เธอหันมาแล้วเลิกคิ้วให้ฉัน “ฉันถามไรหน่อยสิ”
“ถามมาเลยๆ” เธอวางแก้วน้ำลงแล้วทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกับฉัน
“เธอรู้จักกับผู้ชายคนเมื่อกี้หรอ?” ฉันพยักพเยิดหน้าไปทางฟองเบียร์
“อ๋อ เป็นเพื่อนสมัยเรียนน่ะ ทำไมหรอ?”
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” ฉันตอบกลับไปแล้วหยิบขนมขึ้นมากิน
หรือฉันเองจะเป็นแบบที่ฟองเบียร์บอก.. ฉันรู้จักเขาแค่เพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น
หลังจากที่ฉันนั่งใจลอยคิดเรื่องฟองเบียร์อยู่ตั้งนานสองนาน ฉันก็เหลือบมองเวลาในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ตอนนี้ก็ใกล้เวลาเรียนคาบบ่ายของฉันแล้ว ฉันเหลือบตาไปมองชมพูที่เอาแต่นั่งยิ้มไปแชทไป สงสัยคุยกับเฮียฉันอยู่แน่ๆ หมั่นไส้คนมีความรักจริง..
“ชมพู..” เธอเงยหน้าจากจอมือถือขึ้นมองฉัน
“หืม..” เสียงหวานครางรับ “ว่าไงลามิอา?”
“ฉันต้องไปเรียนแล้วนะ เธอจะนั่งอยู่นี่หรอ?” ฉันเก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋าสะพายของตัวเอง
“ฉันมีเรียนตอนบ่ายสองครึ่ง เดี๋ยวฉันนั่งเล่นอยู่แถวนี้แหละ เธอไปเถอะ”
“แน่ใจนะว่าไม่กลัว?” ฉันเลิกคิ้วเพื่อรอดูปฏิกิริยาของเธอ
“มีอะไรน่ากลัว? ฮ่าๆๆ เธออ่ะชอบคิดมาก” ชมพูส่ายหน้าก่อนจะก้มลงแชทต่อ “เธอก็รู้ว่าฉันกับเฮียเธอมีสถานะอะไร คนในมหาวิทยาลัยนี้กลัวเฮียเธอจนหัวหดแล้วมั้ง”
“อืม.. ก็จริง งั้นก็ระวังตัวด้วยนะ” ฉันบอกแล้วเม้มริมฝีปากแน่น
คือก่อนหน้านี้ที่ฟองเบียร์เข้ามาทักทายฉันโดยที่เขาไม่ได้บอกชมพูว่ารู้จักกับฉันมาก่อนนั่นแหละ ฉันกลัวว่าฟองเบียร์จะเข้ามาตีสนิทกับชมพู และฉันก็เริ่มที่จะกลัวหมอนั่นขึ้นมาบ้างแล้ว ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฟองเบียร์คิดจะทำอะไร ฉันอ่านเกมเขาไม่ออก การที่เขาเข้าหาชมพูแบบนี้ บางทีเขาอาจต้องการทำลายเฮียฉัน หรืออาจต้องการทำลายชมพูก็เป็นได้
“เธอไปเถอะ ฉันอยู่ได้ คิก!” ในแชทมันมีอะไรสนุกขนาดนั้นนะ ถึงได้หัวเราะคิกคักอย่างนี้
“คุยกับใครอ่ะ?” ฉันอดถามไม่ได้ก่อนจะชะโงกคอไปดู แต่มันก็ยังเห็นไม่ชัดอยู่ดี
“คุยกับเฮียเธอน่ะสิ ฮ่าๆๆ เธอดูนี่สิ” ชมพูหัวเราะร่วนก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกหน้าจอมาทางฉันเพื่อให้ฉันดูบางอย่างที่ปรากฏอยู่ในนั้น
“เอิ่ม..” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรออกไปเลย
รู้ไหมว่าทำไม.. เฮียแวมพ์มันถ่ายคลิปมาเว้ย แล้วก็บอกประมาณว่าตัวเองป่วยหนัก แถมทำท่าไอค่อกๆแค่กๆ แล้วตอนท้ายก่อนที่คลิปจะจบดันพ่วงมาด้วยประโยคบอกรักชวนสะอิดสะเอียนที่ว่า ‘เมื่อไหร่ชมพูจะกลับ เฮียคิดถึงจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว’ ว๊อท!? คืออะไรวะ? นี่ถ้าฉันไม่เห็นด้วยตาตัวเองคงคิดว่านี่เป็นความฝันแน่ๆ
พี่ชายที่สุดแสนจะโหดเหี้ยมของกูอยู่ที่ไหนเนี่ย!?
“อะ..เอากลับไปเลยไป ยึ้ย! ขนลุก” ฉันสะบัดตัวเองแรงๆเพื่อไล่อาการขนลุกขนพองอย่างกับเจอผีออกไป
“ฮ่าๆๆ ตลกอ่ะ” ชมพูส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มกริ่ม เธอพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปพร้อมกับจูจุ๊บลงบนหน้าจอโทรศัพท์ด้วย
พอฉันเห็นแบบนั้นเลยได้แต่เบะปากให้อย่างไม่รู้จะทำยังไง คือเข้าใจฟีคพวกอินเลิฟป่ะ ทำอะไรมันก็จะดูหวานแหววไปหมดอ่ะ ซึ่งฉันเห็นแล้วโคตรจะรับไม่ได้ โดยเฉพาะกับพี่ใหญ่ของฉันอย่างเฮียแวมพ์เนี่ย ปกติเคยเห็นมันง๊องแง๊งอ้อนเมียแบบนี้ซะที่ไหน มีแต่จับปืนไล่ยิงคน
“เออๆ ฉันไปละนะ” ฉันยิ้มให้กับท่าทางของชมพูแล้วรีบคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างทางฉันก็คิดเรื่องของฟองเบียร์ไปด้วย แล้วถ้าฉันจำไม่ผิดหรือไม่ได้ตาฝาดไปเอง ตอนที่ฟองเบียร์เดินเข้ามาทักทายฉันกับชมพู หมอนั่นสวมชุดนักศึกษาด้วย ตราที่ประดับอยู่ตรงเนคไทด์ก็เป็นตราของมหาวิทยาลัยนี้อีกเหมือนกัน
“เป็นไปไม่ได้หรอก..” ฉันพึมพำกับตัวเองในขณะที่นิ้วกำลังจะเอื้อมไปแตะปุ่มลิฟท์
ติ๊ง!
พอลิฟท์เปิดออก ผู้คนที่อยู่ด้านในก็พากันกรูออกมาจนเกือบจะชนฉันบ้างก็มี ฉันเดินเข้าไป ประตูลิฟท์ปิดตัวลงในระหว่างที่ฉันเงยหน้าขึ้นมองกระจกภายในลิฟท์ ภาพผู้ชายตัวสูงที่ยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลังทำเอาฉันแทบลมจับ ฉันรีบเอื้อมมือไปเพื่อหวังจะเปิดลิฟท์ออก แต่ไม่ทันแล้ว ลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้นเรียบร้อยแล้ว
“จะรีบไปไหนของเธอ?” เสียงเย็นที่ทักขึ้นจากทางด้านหลังพร้อมกับฝ่ามือหยาบที่แตะลงบนหน้าท้องฉัน ทำให้หว่างคิ้วฉันขมวดเข้าหากันแน่น
“ปล่อย!” ฉันกัดฟันพูดออกไป
“ดุจัง” เขาแค่นยิ้ม ชั่ววูบ.. ฉันได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำจากลำคอเขา “ทีตอนอยู่ต่อหน้าชมพูกับฉันไม่เห็นดุแบบนี้เลย”
“ไอ้ฟองเบียร์!!!” ฉันถลึงตามองเขาผ่านกระจกด้านใน “ปล่อยมือสกปรกๆของนายออกจากเอวฉัน!”
“จุ๊ๆๆ ไม่ดุสิยาหยี” เขายกนิ้วชี้ของมืออีกข้างขึ้นจรดที่ริมฝีปาก
กึก!
ฉันสะบัดตัวเองอย่างแรง แต่ก็ยังไม่หลุดอยู่ดี ฉันจ้องฟองเบียร์ผ่านทางกระจกและทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดให้เขาดู ฟองเบียร์ยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก ในขณะที่ฝ่ามือร้อนผ่าวที่แตะผิวฉันผ่านเนื้อผ้าตรงหน้าท้องขยุ้มเข้ามา ฉันนิ่วหน้าพร้อมกับคิ้วที่ขมวดขึ้นมากกว่าเดิม
“ปล่อยฉัน!” ฉันกัดฟันพูดออกไปอีกครั้ง มือทั้งสองข้างที่ว่างอยู่รีบจับหมับเข้าที่ท่อนแขนแข็งแกร่งก่อนจะจิกเล็บลงไปจนสุดความยาว
“ซี๊ด~” เสียงสูดปากของฟองเบียร์ทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าฉัน “รุนแรงจัง.. แต่ขอโทษทีว่ะ” วินาทีนั้นฟองเบียร์ก้มลงขบริมฝีปากลงทบนใบหูฉัน
“อ๊ะ!” ฉันสะดุ้งพร้อมกับเอียงคอหนี ในขณะที่ขนทั้งร่างพร้อมใจกันลุกชันเมื่อโดนสัมผัสชวนขนลุกจากฟองเบียร์
“ไม่เห็นเจ็บ” ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกระซิบแหบพร่าของฟองเบียร์ที่ดังอยู่ข้างหูฉัน
ฉันจงใจจ้องเขาผ่านทางกระจกอย่างหาเรื่อง ก่อนจะเคลื่อนสายตาลงมองที่ชุดนักศึกษาของเขา เออดี มีฉันคนเดียวที่เป็นควาย เขาเรียนอยู่ที่เดียวกับฉัน เขารู้เรื่องทุกอย่าง ยกเว้นฉันคนเดียวที่โง่งมไม่รู้ห่าอะไรเลย
“ฟองเบียร์.. ปล่อยฉัน!” เสียงหอบหายใจของฉันดังเล็ดลอดออกมาผสมกับเสียงพูด
โกรธจนหอบ...
“หอบเชียว..” เขามองตาฉันผ่านกระจก “ฉันยังไม่ได้ ‘ทำ’ อะไรเลย”
“ถ้านายกล้า..ก็ลองดู!” ฉันออกแรงจิกเพิ่มลงไปอีกครั้ง
“ฉันกล้าได้มากกว่าที่เธอคิดอีกนะลามิอา”
“…….” ฉันสะอึกเมื่อจ้องกับดวงตาดำขลับของฟองเบียร์
ดวงตาที่เหมือนจะมีคำตำหนิมากมายอยู่ในนั้น ราวกับฟองเบียร์กำลังก่นด่าฉันทางสายตา และฉันรับรู้คำด่าทั้งหมดนั้นได้ผ่านทางสายตาเขา ถ้ามันกลายร่างเป็นคำพูด ฉันสาบานได้ว่ามันหยาบพอสมควรเลย ฉันสูดลมหายใจลึกเมื่อเหลือบตาจ้องมองเลขบอกชั้นของลิฟท์
มันเลยชั้นที่ฉันจะเข้าเรียนมาแล้ว...
“ฟองเบียร์! มันเลยชั้นเรียนฉันมาแล้ว!” ฉันเริ่มจะหงุดหงิดแล้ว..
“รู้.. ไม่ได้ตาบอด” เขาตอบได้หน้าตาเฉยมากๆ แถมยังไม่ยอมปล่อยฉันอีกด้วย
“นายจะพาฉันไปไหน!?” ฉันถามอย่างตื่นตระหนกเมื่อลิฟท์มันเลื่อนขึ้นช้าๆจนเกือบจะมาสุดชั้นของตึกนี้แล้ว
“เธอว่าตึกนี้สูงไหม?” เสียงกระซิบเยือกเย็นดังขึ้นที่ข้างหูฉัน
ฉันเบิกตากว้างเมื่อลิฟท์เปิดออกที่ชั้นดาดฟ้า ฟองเบียร์อุ้มฉันออกจากลิฟท์ด้วยท่อนแขนข้างเดียว
“นะ..นายคิดจะทำอะไรฟองเบียร์!?” ฉันถามเสียงดังในขณะที่เท้าตัวเองที่แตะไม่ถึงพื้นสะบัดไปมาอย่างร้อนรน
ตึกตัก...
เสียงหัวใจฉันกระหน่ำเต้นอย่างรัวเร็วเมื่อถูกฟองเบียร์อุ้มมาหยุดอยู่ที่พื้นดาดฟ้า น้ำตาฉันเริ่มคลอที่หน่วยตา ความรู้สึกกลัวและสับสนตีวนในความรู้สึกทั้งหมด ร่างทั้งร่างของฉันสั่นจนเริ่มเกร็ง ฉันหลุบตามองด้านล่างที่มีผู้คนเดินพลุกพล่านไปมา
จะมีใครรู้ไหมว่าฉันอยู่บนนี้..
จะมีใครรู้ไหมว่าฉันกำลังยืนอยู่ที่ตรงนี้..
“เธอกลัวไหมลามิอา?” ฉันเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเมื่อถูกคนด้านหลังถาม “เธอคิดว่าถ้าเธอตกลงไป ร่างกายของเธอมันจะเป็นแบบไหน?”
“ฮึก.. ฮือ.. ปล่อยฉัน..” เสียงฉันสั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง
ยิ่งมองที่พื้นด้านล่างในระดับความสูงนี้ ฉันก็ยิ่งกลัวเป็นเท่าทวี..
“แขนหัก? ขาหัก? หรือว่า..” ฟองเบียร์แนบใบหน้าลงที่ข้างแก้มฉันก่อนที่เขาจะหันเข้ามาจนริมฝีปากแตะเข้าที่ใบหูฉันเบาๆ เสียงกระซิบอันเยียบเย็นดังเข้ามาในหูฉัน “คอหัก?”
“ฮึก.. ปะ..ปล่อยฉัน” ฉันหลับตาลง ไม่อยากมองข้างล่างแล้ว มันน่ากลัวเกินไป ฉันไม่ชอบเลย “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
“เป็นถึงน้องสาวของแวมไพร์เจ้าพ่อเงินกู้นอกระบบ ฉันไม่นึกว่าเธอจะขี้ขลาดขนาดนี้นะลามิอา” คำพูดของฟองเบียร์ทำให้ฉันลืมตาขึ้นโดยอัตโนมัติ
เขารู้.. รู้จักเฮียฉัน
“ฮึก.. นาย.. นายรู้จักพี่ชายฉันได้ยังไง!?” เสียงที่เปล่งออกไปสั่นมากจนแทบจะไม่เป็นประโยค
“คนอย่างมัน มีใครไม่รู้จักวะถามจริง?” ฟองเบียร์กระซิบเสียงเย็นที่ข้างหูฉัน
“…….” ฉันเงียบ
นี่แสดงว่า.. ก่อนหน้านี้ฟองเบียร์รู้จักเฮียฉันมาก่อน แถมยังรู้จักกับชมพูด้วย ส่วนฉันคือคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยงั้นหรอ? ตลกร้ายเกินไปแล้วนะชีวิต
“ลองทายหน่อยสิ ถ้าเธอตกลงไปแล้ว ‘ตาย’ ขึ้นมา เธอคิดว่าคนข้างล่างจะคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรือเป็นเหตุฆาตกรรม?” คำถามของฟองเบียร์บีบให้ฉันต้องมองลงไปยังพื้นเบื้องล่างอีกครั้ง
ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วพยายามให้กำลังใจตัวเองในใจว่า ‘ฟองเบียร์ไม่กล้าทำหรอก’
“พี่ฉันต้องไม่ปล่อยนายแน่ ถ้านายทำอะไรฉันแม้แต่นิดเดียว!” ฉันแค่นเสียงขู่กลับไป พยายามซ่อนความสั่นในน้ำเสียงเอาไว้ให้ลึกที่สุด
“พี่เธอเก่ง ฉันรู้” ในน้ำเสียงเมื่อครู่เหมือนแฝงความประชดประชันอยู่ในนั้น
“งั้นนายก็ควรจะรู้ด้วยว่านายจะไม่มีวันได้ผุดได้เกิดแน่ ถ้าฉันเป็นอะไรไป!” ฉันกัดฟันไว้
ทนหน่อยๆ ทนอีกนิดลามิอา
“มั่นใจมาก..” ฟองเบียร์กระซิบลงที่ข้างหูฉัน “ระวังตอนตกลงมามันจะเจ็บนะ”
“ปล่อยฉัน!”
กึก!
ฉันสะบัดตัวเองอีกรอบ แต่ยิ่งสะบัดก็ดูเหมือนว่าความกลัวที่มีมากอยู่แล้วยิ่งมากเข้าไปใหญ่ เนื่องจากการทรงตัวที่ไม่คงที่ของฉันอาจจะนำพาความซวยมาให้ตัวเองก็ได้ ฉันอาจจะตกลงไปด้านล่าง อาจจะตาย ทำให้เรื่องนี้มันสมใจฟองเบียร์ก็ได้ เพราะฉะนั้น..ไม่มีวันที่ฟองเบียร์จะทำได้สมใจแน่
“สะบัดมาก ถ้าตกลงไปฉันไม่ช่วยนะบอกก่อน” ฉันก็ไม่เคยหวังกับความช่วยเหลือของฟองเบียร์อยู่แล้ว
“เหอะ! น้ำหน้าอย่างนายเคยช่วยใครด้วยหรอฟองเบียร์?” ฉันปรายตามองไปที่ด้านข้าง มองเสี้ยวหน้าของฟองเบียร์ “คงไม่เคย”
“…….” แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลับมีเพียงความเงียบเท่านั้น เขาไม่ตอบโต้ฉันอย่างที่ควรจะเป็น
ร่างฉันลอยหวือขึ้นจนเท้าแตะไม่ถึงพื้นอีกครั้ง มือทั้งสองข้างของฉันแตะลงบนท่อนแขนของฟองเบียร์ เขาอุ้มฉันออกมาจากจุดเสี่ยงตรงนั้น เราเข้ามาในลิฟท์อีกครั้ง ก่อนที่ร่างฉันจะถูกบดอัดเข้ากับผนังลิฟท์จนแผ่นหลังรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา
ฟองเบียร์จ้องฉันเขม็ง ในขณะที่ฉันก็ไม่หลบตาเขาเหมือนกัน ฉันบอกแล้วว่าไม่ชอบถูกท้าทาย ถ้าเขาทำมา ฉันก็ทำกลับ ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว
ติ๊ง!
จนกระทั่งลิฟท์เปิดออกที่ชั้นห้า ฟองเบียร์คว้าร่างฉันไว้แล้วผลักฉันออกมาจากลิฟท์ ฉันเกือบจะล้มลงที่หน้าลิฟท์หากทรงตัวไม่มั่นคงจริงๆ ฉันมองประตูลิฟท์ที่กำลังปิดตัวลง มองฟองเบียร์ที่ส่งสายตาว่างเปล่ามาให้ ความสับสนทำให้ฉันปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ได้เลย
สุดท้ายฉันถึงได้เลือกที่จะถอนหายใจให้กับเหตุการณ์เมื่อครู่ ก่อนจะเดินไปยังห้องเรียน พับเก็บเรื่องของฟองเบียร์ไว้และลืมมันไปชั่วคราว..
วันถัดมา..
ฉันนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่โต๊ะอาหารตัวประจำของโรงอาหารในมหาวิทยาลัย ในใจยังคงตัดเรื่องฟองเบียร์ไม่ขาด ฉันมองชมพูที่นั่งกินขนมอยู่เก้าอี้ตัวตรงข้าม เธอหันมาสบตากับฉันพอดี ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่า ‘มองอะไร?’
“เธอ.. รู้จักกับผู้ชายคนเมื่อวานนานแล้วหรอชมพู?” ฉันถาม
“เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนน่ะ เอ้อ.. จริงสิ ฉันเห็นเธอดูตกใจมากเลยตอนที่เห็นฟองเบียร์ มีอะไรหรือเปล่า?” จะว่ายัยนี่ซื่อบื้อก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะ ช่างสังเกตเป็นบ้า
“เขาเป็นคนดีหรอชมพู?” ฉันกำแก้วน้ำไว้ในมือแน่นในขณะที่คำถามถูกถามออกไปแล้ว
“ฟองเบียร์น่ะหรอ? ก็โอเคนะ” ชมพูหยิบขนมขึ้นกินต่อ
ฉันถอนหายใจยืดยาวอีกครั้ง คนดีบ้าอะไรวะ เหตุการณ์ที่เขาเกือบจะฆ่าฉันเมื่อวานยังติดอยู่ในความทรงจำฉันอยู่เลย คนดีที่ไหนเขาเที่ยวมาไล่ขู่ฆ่าคนอื่นแบบนั้น ฉันขมวดคิ้ว
“แล้วนี่เฮียฉันไม่มาเรียนอีกแล้วหรอ?”
“วันนี้เขาไปดูงานที่ต่างประเทศ ฉันอยากไปด้วยนะ แต่พี่ชายเธอห้ามไว้ พี่พอร์ชก็ห้ามฉันเหมือนกัน บอกว่ามันอันตราย” รู้จักห่วงเมียก็เป็นว่ะ
“มันอันตรายจริงอย่างที่เฮียฉันกับพี่เธอบอกนั่นแหละ เธออยู่นี่อ่ะดีแล้ว” ฉันมองพวงแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อของชมพูนิ่ง
อยู่ๆก็แก้มแดงขึ้นมา ในประโยคที่ฉันพูดไปเมื่อกี้มีอะไรน่าเขินวะ?
“คิดถึงเขาจัง” ฉันเบือนหน้าหนีอย่างเอือมระอา ห่างกันวาสองวาไม่ได้เชียวแหละ
“ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหมชมพู? เธอโดนลูกดอกอาบความหลงจากเฮียฉันไปเท่าไหร่เนี่ย ทำไมถึงได้ทั้งหลงทั้งรักเฮียฉันหัวปักหัวปำขนาดนั้น” ฉันเลิกคิ้วและยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
“เธอจะบ้าหรอ~” ฉันยิ้มเจื่อนอีกครั้งเมื่อพบกับปฏิกิริยาบิดตัวไปมาของชมพู
แต่ยังไม่ทันจะได้แซวหรืออะไรไปมากกว่านี้ สายตาเจ้ากรรมของฉันดันเหลือบไปเห็นฟองเบียร์ที่กำลังเดินตรงมาทางนี้เข้าพอดี ฉันเบิกตากว้างก่อนที่มืออีกข้างจะคว้ากระเป๋าสะพายด้านข้างไว้ แล้วรีบเอ่ยบอกชมพูอย่างว่องไว
“ฉันไปก่อนนะ มีธุระต้องทำ” ฉันบอกทิ้งท้ายไว้แล้วรีบวิ่งออกมาเลย
{Fongbia Part}
ผมแค่นหัวเราะเมื่อเห็นลามิอาคว้ากระเป๋าสะพายแล้วรีบวิ่งออกไป นึกไว้แล้วว่าถ้าเธอเห็นผมแล้วต้องเผ่นแนบไป ผมเดินเข้าไปหาชมพูที่นั่งทำหน้าเหวออยู่คนเดียว
“ชมพู..” ผมเรียกชื่อเธอก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดียวกับที่ลามิอานั่งก่อนหน้านี้
“อ้าวฟอง.. มาพอดีเลย มาอยู่เป็นเพื่อนเราหน่อย ลามิอาทิ้งเราไว้คนเดียวเนี่ย ไม่รู้จะรีบไปไหนของเขา” ชมพูหยิบขนมเข้าปากแล้วทำหน้างอ
ผมยิ้มให้เธอก่อนจะเอ่ยต่อว่า “เพื่อนชมพูกลัวเรามั้ง”
“บ้าหรอ ฟองมีอะไรน่ากลัว” ชมพูพูดติดตลก
ทุกคนมักจะคิดในแบบเดียวกับที่ชมพูคิดคือผมมีอะไรน่ากลัว ถ้ามองเพียงผิวเผินก็คงเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งผมก็ไม่ได้พิเศษไปกว่าใครหรอก เพียงแค่คิดว่า.. ทุกคนประเมินผมจากแค่ที่เห็นเท่านั้น
“แล้วนี่ชมพูเป็นยังไงบ้าง?”
“เราสบายดี แล้วฟองล่ะ?” เธอถามกลับ
ผมยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “เราก็สบายดี” ก่อนจะโยงเข้าประเด็นของตัวเอง “ช่วงนี้เราไม่ค่อยเห็นชมพูตัวติดกับไอ้แวมไพร์เลยนะ”
ชมพูเลิกคิ้วขึ้นมองผม “เขาไปทำงานน่ะ” เธอตอบ
“งานอะไรหรอ?” ผมถาม
อยากจะลองหยั่งเชิงชมพูดูเหมือนกันว่าเธอจะเลือกปกป้องไอ้แวมไพร์หรือเปล่า ถึงแม้ในใจจะรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องเลือกไอ้แวมไพร์แน่ แต่ผมก็แค่อยากรู้ว่าชมพูเพื่อผมคนนี้ที่ไม่เคยโกหก ไม่เคยทำผิดมาก่อน จะเลือกที่จะโกหกผมเพื่อปกป้องคนเลวๆอย่างไอ้แวมไพร์ไหม
“งานทั่วๆไปแหละฟอง ฟองไม่มีเรียนหรอ?” เธอเลือกที่จะหลีกเลี่ยงตอบคำถามผมจริงๆ แถมยังแสร้งเปลี่ยนประเด็นด้วย
ไอ้แวมไพร์คงจะมีความหมายกับเธอจริงๆ ความจริงในใจผมก็รู้สึกผิดที่ต้องมาเป็นศัตรูกับสามีเพื่อนของตัวเอง แต่มันเลือกไม่ได้ ในเมื่อไอ้แวมไพร์มันทำผมก่อน
“เราไม่มีเรียนแล้ว เดี๋ยวเราไปก่อนนะชมพู มีธุระต้องทำน่ะ” ผมยิ้มให้เธอแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
“โอเค บ๊ายบายฟอง” ชมพูยกมือขึ้นโบกลา ผมยิ้มให้เธอแล้วเดินเลี่ยงออกมา
ผมเดินมาที่รถของตัวเอง ก้าวเท้าขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาไอ้เกอร์
“เกอร์..” ทันทีที่มันรับสาย ผมก็กรอกเสียงอันหงุดหงิดของตัวเองลงไปทันที
[อือ.. ว่า?] มันตอบเสียงงัวเงียกลับมา
“มึงทำอะไรอยู่?” ผมถามพร้อมกับหางตาที่เหลือบไปเห็นร่างของใครบางคนเข้าโดยบังเอิญ
[นอน..] มันตอบสั้นๆก่อนจะเงียบไป แล้วตอบกลับมาอีกครั้ง [กับกานต์]
“กูมีงานให้มึงทำ ช่วยกูหน่อย” ผมจ้องคนที่ปรากฏอยู่ในสายตาตอนนี้นิ่ง
[งานอะไร?] มันถามพร้อมกับเสียงขยับตัวดัง ‘สวบ’
“มึงช่วยสืบให้กูหน่อยว่าตอนนี้ไอ้แวมไพร์มันอยู่ที่ไหน”
[แวมไพร์?] เสียงไอ้เกอร์คล้ายกับกำลังแปลกใจที่ได้ยินชื่อนี้ [ชื่อคุ้นๆ]
“เจ้าพ่อเงินกู้นอกระบบ มึงไม่คุ้นก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว คู่แข่งกับป๊ามึงไง”
ไอ้เกอร์มันธรรมดาซะที่ไหน พ่อมันก็เป็นคนปล่อยเงินกู้นอกระบบเหมือนกันกับไอ้แวมไพร์ อิทธิพลก็พอๆกับไอ้แวมไพร์นั่นแหละ แถมยังเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของไอ้แวมไพร์ด้วย เลวๆอย่างมันต่อให้มีคู่แข่งเป็นพันผมก็ไม่สงสัยเลย ก็แม่งทำตัวเองล้วนๆป่ะวะ
[ถึงว่า.. ทำไมกูคุ้นนัก นิ่งๆได้ไหมกานต์!] ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินประโยคแปลกๆของมันที่ดังเล็ดลอดออกมาจากสาย [จะดิ้นทำไมนักหนา!?] สงสัยดุเด็กอีกแน่
“ดุทำไมนัก? เด็กนั่นกลัวมึงจะตายห่าแล้วมั้ง” ผมพูดติดตลก มือกำพวงมาลัยแน่นขึ้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
[เสือก!] มันบอกกลับมาเสียงดัง และผมมั่นใจเลยว่ามันไม่ได้ด่ากานต์แน่ แต่มันด่าผม [สรุปมีเรื่องให้กูช่วยแค่นี้?]
“อืม..” ผมครางรับ
[วางไป กูจะนอน] หลังจากได้ยินมันพูดตอบกลับมา เสียงดัง ‘ตุบ’ ก็ดังตามหลังมา และถ้าให้ผมเดา มันคงโยนโทรศัพท์ไปจากตัวแล้ว
“แม่ง!” ผมสบถเสียงดังพร้อมมือที่ทุบลงบนพวงมาลัย
ผมถอนหายใจแล้วก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าตรงไปยังเหตุการณ์ชุลมุนที่อยู่ด้านหน้ารถของตัวเอง
“มะ..ไม่เป็นไร ฉันโอเค” ผมได้ยินเสียงลามิอา
“เธอไม่โอเคแน่ๆ ฉันขับชนเธอ” แถมยังได้ยินเสียงกรามของตัวเองที่บดเข้าหากันด้วย
ก็จะอะไรซะอีกล่ะ ก็ยัยบ้าลามิอานั่นเดินเหม่อจนไม่มองทาง รถมอเตอร์ไซค์ของไอ้ที่พยายามจะเข้ามาพยุงเธอตอนนี้ก็เลยชนเข้าให้ ที่ข้อศอกมีแผลถลอกนิดหน่อย มันติดกับสีผิวขาวๆของเธอจนขึ้นรอยแดงอย่างชัดเจน ผมเคลื่อนสายตาลงมองที่ตำแหน่งแขนของเธอที่มีไอ้หน้าหล่อจับอยู่ก่อนจะเดินเข้าไปคว้าแขนลามิอากลับคืนมา
“ยัยนี่บอกไม่เป็นไร ฉันว่านายอย่าเสือกดีกว่า” ผมจ้องหน้า ‘มัน’ อย่างท้าทาย
“นายเป็นใคร?” มันถามผม
“ผัวยัยนี่ มีปัญหาอะไรเคลียร์!?”
ปึก!
อาการเจ็บจุกเกิดขึ้นที่หน้าท้องหลังจากพูดจบ ผมก้มลงมองคนตัวเล็กกว่า เห็นลามิอาขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องผมเขม็งราวกับกำลังจะหาเรื่องกัน ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มนั่นจะขยับคล้ายจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
“ใครเมียมึง!?”
ปิดพรีแล้วนะคะ เดี๋ยวถ้ารูปเล่มเสร็จจะมาอัพเดตทางหน้านิยายเด้อ อีบุ๊คมีหลังจากส่งหนังสือทั้งหมดเรียบร้อยแล้วนะคะ <3 ให้เดาปมรอเลย 5555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

293 ความคิดเห็น
-
#289 Netnapa Pluemjit (จากตอนที่ 10)วันที่ 4 กันยายน 2561 / 19:30ฟองน่ากลัววว#2890
-
#211 I_WaNabee (จากตอนที่ 10)วันที่ 1 มกราคม 2561 / 22:03ไงล้ะ ใครเมีย-!! ฟองทำร้ายเค้าไว้เยอะ โดนแค่นี้คงไม่จุกหรอกเนอะ!!#2110
-
#210 chalisabts (จากตอนที่ 10)วันที่ 1 มกราคม 2561 / 21:31ไรท์อัพแย้วววว#2100
-
#209 dsnfdskjfpodsl (จากตอนที่ 10)วันที่ 15 ธันวาคม 2560 / 23:44รออออออนะคะไรท์#2090
-
#208 I_WaNabee (จากตอนที่ 10)วันที่ 10 ธันวาคม 2560 / 22:46ลามิอาต้องแกร่งนะ มีผัวแบบนี้#2080
-
#207 Sirintra2560 (จากตอนที่ 10)วันที่ 10 ธันวาคม 2560 / 22:26อยากให้มีฉากฟองเบียร์หึงลามิอาบ้างอ่าไรท์~#2070
-
#206 Belive729 (จากตอนที่ 10)วันที่ 10 ธันวาคม 2560 / 21:13สงสารลามิอาอะ#2060
-
#205 jin_monbebe (จากตอนที่ 10)วันที่ 10 ธันวาคม 2560 / 21:01ตั้งใจหลบหน้าชัดๆ#2050
-
#204 panglovepm (จากตอนที่ 10)วันที่ 10 ธันวาคม 2560 / 20:58ไรท์หายไปไหนมาอะคะ จะมีทำเป็น e-book ไหมอะคะ งือออออคือตู้เราไม่พอใส่หนังสือละอ่าาาาาาาอันนี้ความในใจ5555#2040
-
#203 ส้มชื้น (จากตอนที่ 10)วันที่ 8 ธันวาคม 2560 / 21:08ต่อเร็วๆๆๆๆๆ#2030
-
#201 kkk---lovely (จากตอนที่ 10)วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 / 22:49จะฆ่าปะเนี่ยน่ากลัวจุง#2010
-
#200 kkk---lovely (จากตอนที่ 10)วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 / 22:48จะฆ่าปะเนี่ยน่ากลัวจุง#2000
-
#199 kkk---lovely (จากตอนที่ 10)วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 / 22:48จะฆ่าปะเนี่ยน่ากลัวจุง#1990
-
#198 Kaewkanya1414 (จากตอนที่ 10)วันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 / 22:23มาต่ออออค่ะมาต่อออออออสนุกมากเป็นกำลังใจให้#1980
-
#197 Jipaporn (จากตอนที่ 10)วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 / 12:13อิฟองแก่แม้งเ-้ยว่ะ #ขอโทษที่ใช้คำหยาบนะค่ะ.อินจัดอะ#1970
-
#196 I_WaNabee (จากตอนที่ 10)วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 / 09:28สงสารลามิอาอ่ะ ฟองทำไมแกใจร้ายจัง แค้นอะไรหนักขนาดนั้นเลยหรอออ#1960
-
#195 lana..dex (จากตอนที่ 10)วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 / 08:53งือออลามิอาาาา#1950
-
#194 SopapornPogpoon (จากตอนที่ 10)วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 / 01:40ทำไมฟองโหดดดด สงสารมิอา#1940
-
#193 19122544 (จากตอนที่ 10)วันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 / 22:32ฟองเบียร์ชอบชมพู่หรือเป็นแฟนเก่าที่โดนพี่นางเองแย่งไปอะ งงงง#1930
-
#192 มุกมันเดย์ (จากตอนที่ 10)วันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 / 09:57แก้แค้นให้ชมพูมะรึยังไง งง แฟนเก่างี้ เอองง#1920
-
#191 Belive729 (จากตอนที่ 10)วันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 / 06:01คิดถึงแวมพ์กับชมพูจังเลย#1910
-
#188 Tay Za (จากตอนที่ 10)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 / 15:08เอ้ยยังไม่เคยอ่านเรื่องอื่นๆนะ แต่ชมพูนี้ดีไหมอะหรือว่าเป็นคนที่บอกว่าชอบฟองตั้งแต่อยู่ฝรั่งเศสให้ทำงานอะไรก็ทำอะ มโนไปแล้วจ้าาาา สงสารลามิอาสุดๆ ถึงบนมาม่าขอแบบสุดๆนะไรท์ขอให้ฟองมันเจ็บหนักๆ#1880
-
#187 I_WaNabee (จากตอนที่ 10)วันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 / 07:37รีดสงสารลามิอาจัง แทบจะไม่รู้อะไรเลยแบบนี้ ฟองมันร้ายจังงง#1870
-
#186 HVKDS (จากตอนที่ 10)วันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 / 01:25จำได้แล้ว!!!!! ฟองเบียร์คือเพื่อนที่แอบรักชมพูแล้วคอยช่วยเหลือชมพูทุกอย่างตอนนางถูกเฮียแวมพ์ราวีใช่มั้ย!!! เหมือนจะจำได้รางๆจากที่เคยอ่านเรื่องของชมพูนะ เอ๊ะ?!!55555555555#1860
-
#185 panglovepm (จากตอนที่ 10)วันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 / 22:42ฟองมันมีแผนอะไร#1850