ตอนที่ 9 : CHAPTER 8 :: I'm Confuse 100% [Complete]
“วา!!!” ฉันเรียกเขาเสียงดังเมื่อเสียงของเขาดังขึ้นทักผู้ชายคนนั้นอย่างหาเรื่องกัน
“ว่าไง!? จะเอามั้ยเบอร์รองเท้ากู? อยากให้ถีบตีนเดียว หรือกระโดดถีบตีนคู่ดี?” วาเล็นจ้องหน้าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันอย่างหาเรื่อง ผู้ชายตรงหน้าฉันน่ะตัวสูงกว่าเขาตั้งเยอะ แต่วาเล็นไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเลยแม้แต่น้อย
“เอ่อ.. ผมขอโทษนะครับ ผมไม่รู้จริงๆว่าคุณคนนี้เธอมีแฟนแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ผู้ชายตรงหน้าบอกอย่างกลัวๆพร้อมกับเดินเลี่ยงออกไป
“มึงรีบไปให้ไว ไวที่สุดในชีวิตมึงเลยนะ! ก่อนที่จะโดนตีนกูเสยหน้า” วาเล็นจ้องผู้ชายคนที่เดินออกไปด้วยสายตาวาวโรจน์มีแววกรุ่นโกรธอยู่ข้างใน
“วา.. เสียมารยาทว่ะ!” ฉันบอกเขาอย่างสุดจะทน เมื่อไหร่เขาจะเลิกยุ่งกับฉันสักที เมื่อไหร่ฉันจะเป็นอิสระจากเขาสักที
“หรือเธออยากได้มันหรือไง? ทำไม? เธอชอบมันงั้นหรอฮะ!?” เขาขึ้นเสียงใส่ทันทีพร้อมกับกระชับมือเข้าที่วงแขนของฉันก่อนจะบีบมันแน่นจนรู้สึกเจ็บร้าวไปหมดทั้งแขน
“ปล่อยดิวะ! จะมาจับทำส้นตีนอะไร!?”
“ตั้งแต่เลิกรากับฉันไป เธอดูเข้มแข็งและกร้าวร้าวขึ้นมากนะเชลซี” วาเล็นเหยียดยิ้มมุมปากโดยที่มือของเขาก็ยังคงบีบแขนของฉันอยู่อย่างนั้น
สรรพนามที่เขาใช้เรียกฉันก็เปลี่ยนไปด้วย ท่าทางอ่อนโยนตอนที่เราเคยคบกันครั้งนั้นก็หายไป มีเพียงแต่ผู้ชายที่มีท่าทางหาเรื่องคนอื่นอยู่ตลอดเวลาเท่านั้นที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันตรงนี้ เขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายมิทราบ?”
“เชลซี..แกทำอะไรอยู่เนี่ย? เอ๊ะ!”
ยังไม่ทันที่จะได้โต้เถียงกันไปมากกว่านี้ จู่ๆนิวเคลียร์ก็เดินกลับเข้ามาในผับ ก่อนจะหยุดชะงักลงเมื่อเจอวาเล็น จริงสินะ ยัยนี่ยังไม่รู้จักวาเล็นนี่นา เพราะฉันเพิ่งคบกับยัยนี่ตอนเข้าเรียนมหาลัยครั้งแรก ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้ยัยนี่ฟังหมด ยกเว้นเรื่องเดียว..คือเรื่องของฉันกับวาเล็นนี่ไงล่ะ เพราะฉันอยากจะลืมมัน ลืมเรื่องราวความรักที่แสนเจ็บปวดแบบนี้
“กลับกันเถอะนิวเคลียร์.. วันนี้ฉันเหนื่อยมากแล้ว” ฉันบอกพร้อมกับสะบัดแขนตัวเองอย่างแรงจนหลุดออกจากพันธนาการของคนตัวสูง
“เดี๋ยว.. เดี๋ยวฉันไปส่ง” วาเล็นบอกออกมาเสียงแผ่วเบาสายตามองมาที่ฉันอย่างตัดพ้อ
“ไม่เป็นไร ฉันกับนิวเคลียร์มารถส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องให้ใครเสนอหน้าไปส่ง!”
“เชลซี!” เสียงเรียกชื่อฉันดังขึ้นพร้อมกันเนื่องจากทั้งวาเล็นและนิวเคลียร์เรียกชื่อฉันพร้อมกันเสียงดัง ตอนนี้ใบหน้าของวาเล็นเต็มไปด้วยความโกรธปนหงุดหงิด ฉันสัมผัสมันได้
“ไปกันได้ยังนิวเคลียร์!? ฉันง่วงแล้ว”
“อะ..เอ่อ ไปดิไป”
ฉันเดินนำหน้าออกมาก่อนโดยไม่หันไปสนใจวาเล็นอีก ยัยนิวเคลียร์ก็เดินตามมา พอเราทั้งสองคนก้นแตะเบาะรถเรียบร้อย ยัยนิวเคลียร์ก็หันมามองฉันพร้อมกับหน้าเหวอๆของเธอ
“อะไร!” ฉันถามเสียงห้วน
“เมื่อกี้.. อะไรยังไง ไหนเล่า!” ยัยนิวเคลียร์จ้องฉันพร้อมกับสายตาคาดคั้นที่จะเอาคำตอบ
“ไม่มีอะไร” ฉันบอกปัดๆ
“ไม่จริง! มีอะไรแน่ๆ”
“เลิกเซ้าซี้ได้ป่ะวะ! มันน่ารำคาญ!” ฉันขึ้นเสียงใส่เพื่อนรักตัวเองอย่างหงุดหงิด ทำให้ยัยนิวเคลียร์เงียบไปเลย นี่คงไม่ได้กำลังโกรธฉันอยู่หรอกใช่มั้ย
“........”
“เอ่อ.. นะ..นิวเคลียร์คือว่า..คือฉัน..” เลยกลายเป็นว่าฉันติดอ่างขึ้นมาเฉียบพลัน เพราะหันไปเห็นใบหน้าน้อยใจของคนเป็นเพื่อน นี่ฉันพูดแรงไปจริงๆใช่มั้ย
“ฉันขอโทษนะ..ที่ก้าวก่ายเรื่องของแกมากเกินไป ที่ฉันถามเพราะฉันเป็นห่วง ถ้ามันทำให้แกรำคาญ ฉันก็ต้องขอโทษด้วย” ยัยนิวเคลียร์พูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“ไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” นี่ฉันรู้สึกผิดจริงๆนะเนี่ย
“ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นความผิดของฉันเองแหละ ขอโทษนะ” นิวเคลียร์บอกพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆมาให้
“.......”
ความเงียบเข้าปกคลุมทุกอย่างบนรถ นิวเคลียร์สตาร์ตก่อนจะพุ่งทะยานออกไป ตลอดทางที่ขับรถ นิวเคลียร์แทบจะไม่คุยกับฉันเลย ฉันถามคำยัยนี่ก็ตอบคำ ให้ตายดิวะ! บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความอึดอัด ตอนแรกฉันคิดว่าจะปวดหัวแค่เรื่องของวาเล็นคนเดียวซะอีก แต่ไหงมีเรื่องของยัยนิวเคลียร์เข้ามาด้วยอีกวะเนี่ย
“เอ่อ.. ขอบใจมากนะ”
พอลงจากรถ ฉันก็บอกขอบคุณนิวเคลียร์ เธอหันหน้ามาทางฉันนิดนึงก่อนจะพยักหน้าหน่อยๆแล้วขับรถออกไป ให้ตายเถอะพระเจ้า! ฉันไม่ชอบเห็นยัยนี่เป็นแบบนี้เลยแหะ ฉันยอมรับนะว่าฉันผิดที่ไปขึ้นเสียงใส่ยัยนั่น แต่ตอนนั้นมันหงุดหงิดจริงๆนี่หว่า..
MINER TALK ::
“แม่งเอ้ย!!!”
เสียงสบถดังขึ้นเมื่อไอ้วาเล็นกระแทกก้นของมันนั่งลงบนโซฟาของโซนวีไอพี พร้อมกับแย่งวอดก้าในมือผมไปดื่มรวดเดียวหมด ว่าแต่มันไปหงุดหงิดเชี่ยอะไรมาล่ะเนี่ย
“เป็นอะไรของมึงครับ?” ผมถามพร้อมกับแย่งแก้ววอดก้าของตนเองกลับมาคืน
“กูจะทำให้ยัยนั่นกลับมาหากูให้ได้ มึงคอยดูนะไมเนอร์ กูจะทำให้ยัยนั่นกลับมาหากูอีกครั้งมึงคอยแหกตาดูไว้เลย” มันบอกพร้อมกับแย่งแก้วจากมือผมไปแล้วรินวอดก้าใส่ก่อนจะกระดกซดรวดเดียวหมด
“มึงจะเครียดอะไรนักหนาวะ! ผู้หญิงมีอีกเป็นร้อยเป็นพัน”
“แต่ไอ้ที่เป็นร้อยเป็นพันที่มึงว่ามันเทียบไม่ได้กับคนนี้!” พอได้ยินมันพูดดังนั้น ความรู้สึกของผมมันกำลังบอกว่าไอ้วาเล็นมันรักเชลซีจริงๆ ทั้งๆที่ไอ้หน้าสวยอย่างมันไม่เคยมอบใจให้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเนี่ยนะ
“แล้วนี่ไอ้กัสมันจะมาตอนไหนล่ะเนี่ย?” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่บรรยากาศมันเริ่มจะไม่ค่อยดีขึ้นมา
“กูมาล้าวววววว!” นั่นไงเสียงมัน เสียงโหยหวนทุ้มต่ำอย่างกับผีตายโหงของมันนั่นล่ะ!
“มึงอย่าใช้เสียงแบบนี้อีกนะ กูหลอน” ผมบอกแล้วส่ายหน้าให้กับไอ้หน้าหล่อลากไส้จอมกะล่อนอย่างระอา
“อ้าวไอ้วา.. เป็นไรครับมึง? หน้าบึ้งเชียว” มันหันไปถามวาเล็นก่อนจะยกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่ม
“เรื่องของกู!” ไอ้วาเล็นตอบกลับมาเสียงห้วน
“อ้าว.. ไอ้นี่วอนตีน!”
“ไอ้เชี่ยกัส! มึงอย่าเพิ่งไปกวนบาทามัน มันกำลังเครียดเรื่องผู้หญิงอยู่”
“เครียดเรื่องผู้หญิงก็อย่ามาพาลกูดิ กูเป็นเพื่อนมันนะ ไม่ใช่ที่ระบาย” ไอ้ออกกัสบอกพร้อมกับเบ้ปากนิดๆคล้ายกับว่ากำลังงอนอยู่
“เออ.. เอาน่ะ มึงไปม่อหญิงตรงนู้นไป” ผมเอ่ยไล่ ซึ่งพอไอ้ออกัสมันมองไปทางที่ผมชี้ สายตาของมันก็ลุกวาวทันทีก่อนจะรีบลุกออกไป ไม่ค่อยจะกะล่อนเท่าไหร่เลยนะมึง!
ผมมองการกระทำของเพื่อนตัวเองที่ชื่อวาเล็นอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่รู้จักกับมันมาตั้งแต่ห้าขวบ ผมก็ไม่เคยเห็นว่ามันจะชอบใครจริงจังสักที แต่มีช่วงนึงที่ตอนมัธยมปลาย เห็นมันบ่นถึงผู้หญิงคนหนึ่งให้ผมฟัง บอกว่าเธอน่ารักอย่างนู้นเธอน่ารักอย่างนี้ แต่ก็ไม่นึกว่าจะเป็นเชลซี เพราะยัยปากหมาเชลซีลิเวอร์พูลอะไรนั่นน่ะ นิสัยต่างจากตอนที่มันเล่าตอนนั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้าเป็นแชมเปญก็ว่าไปอย่าง..
MINER END TALK ::
[ฮัลโหลเจ้..] เสียงปลายสายเอ่ยทักขึ้นก่อน
“ฮัลโหลเปญ เจ้ขอโทษนะที่วันนี้ไม่ได้เข้าไปหา วันนี้เจ้เที่ยวดึกมากเลย เจ้ขอโทษจริงๆ แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง”
พอฉันกลับมาอาบน้ำทำธุระเสร็จ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าน้องสาวของตัวเองกำลังป่วยอยู่ ฉันจึงรีบกดโทรศัพท์โทรหาน้องสาวอันเป็นที่รักแบบนี้ไง
[ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว เจ้นอนได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้ต้องไปเรียนที่เช้าไม่ใช่หรือไง]
“เออนั่นสิ งั้นแค่นี้ก่อนนะเปญ เจ้นอนละ เดี๋ยวไปมหาลัยสาย หายเร็วๆนะน้องสาวคนสวยของเจ้”
[ค่ะ ฝันดีนะคะเจ้]
“ฝันดีจ้า..”
ฉันกดวางสายหลังจากนั้นก็พาตัวเองเข้ามาในห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ทันทีที่หัวถึงหมอนฉันก็ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ก่อนจะผล็อยหลับไป..
เช้าวันใหม่..
แสงอาทิตย์ที่แยงตาทำให้ฉันค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา พอหยิบนาฬิกามาดูก็พบว่ายังไม่สาย ยังพอมีเวลาให้ทำธุระส่วนตัวนั่นนี่อีกตั้งเยอะแยะไปหมด ฉันจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างที่เคยทำทุกวัน
พอทำธุระอะไรเรียบร้อยแล้วฉันก็เดินออกมาพร้อมกับชุดนักศึกษาเต็มยศก่อนจะตรงปรี่ไปที่ประตูแล้วเปิดมันออกจากนั้นก็เดินไปที่ลิฟท์ แต่เอ๊ะ!
โทรศัพท์ล่ะ?
ฉันก้มหน้าลงควานหาโทรศัพท์ของตนเองในกระเป๋าสะพายข้างพร้อมกับก้าวเท้าเดินไปเรื่อยๆ
“อยู่ไหนนะ?”
ตุ้บ!
“อ๊ะ!”
ฉันชนเข้ากับร่างบางเล็กของใครคนหนึ่ง เธอคนนั้นค่อนข้างตัวเล็กกว่าฉันมากพอสมควรเลยล่ะ เธอล้มลงไปกองกับพื้นทำให้ฉันเบิกตากว้างตกใจก่อนจะรีบตรงเข้าไปหาเธอ
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ฉันรีบพยุงเธอขึ้นก่อนจะสำรวจตัวเธอในชุดนักศึกษามหาลัยเดียวกันกับฉันว่ามีอะไรตรงส่วนไหนได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ^^” เธอตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนหวานละมุน ดูๆแล้วเธอน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับน้องสาวของฉันเลยนะ
“อ๋อค่ะ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ ฉันเดินไม่ดูทางเลย” ฉันบอกขอโทษเธอด้วยความรู้สึกผิด
“อุ้ย! ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเดินรีบไปหน่อยน่ะค่ะ ฉันก็ผิดเหมือนกัน ว่าแต่..รู้จักห้องเฮียไมมั้ยคะ?” สรรพนามที่เธอใช้เรียกชื่อของคนบางคนทำให้ฉันต้องขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
“เฮียไม? หรอคะ?” ไมเนอร์หรือเปล่านะ?
“อ๋อ.. ไมเนอร์น่ะค่ะ รู้จักหรือเปล่าคะ?”
“เอ่อคือ..”
“อ้าวหมวย!” ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรเธอกลับไป เสียงห้าวแสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาซะก่อน
“อ้าวเฮีย!” เธอยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะตรงปรี่เข้าไปหาไมเนอร์ที่เดินอยู่ด้านหลังฉัน ทำให้ฉันหันไปมองตาม
“ไปไงมาไงวะเนี่ย?” ไมเนอร์ถามผู้หญิงคนนั้นก่อนจะเอามือเขย่าหัวเบาๆเหมือนแกล้งเธอเล่น
“ก็ธันเดอร์ให้ฉันมาหาเฮียน่ะสิ ให้เฮียพาไปมหาลัยน่ะ”
“อ่อ.. อย่างนี้นี่เอง งั้นไปเลยสิ เฮียทำธุระเสร็จแล้วพอดีเลย” ไมเนอร์ยิ้มให้เธออย่างเป็นกันเองก่อนจะเกี่ยวคอของเธอให้ร่างเธอเข้ามาแนบชิดแล้วเดินออกไป แต่ทว่า..
“เดี๋ยวเฮีย..” ทั้งสองคนชะงักฝีเท้าลงก่อนที่ร่างบางจะหันหน้ามาทางฉันแล้วเดินเข้ามาหา
“.......”
“เอ่อ.. คือว่าอยู่มหาลัยเดียวกับฉันใช่มั้ยคะ?” เธอถามขึ้นแล้วเบนสายตามามองที่เข็มกลัดติดเสื้อนักศึกษาของฉัน “ไปด้วยกันก็ได้นะคะ ฉันอยากรู้จักคุณด้วย”
“อะ..เอ่อคือ..”
“ทำไมต้องไปชวนคนอื่นด้วยวะหมวย!?” เสียงไมเนอร์แทรกขึ้นมา น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดปนโมโห
“อ้าวเฮีย.. ก็คุณคนนี้เขาอยู่มหาลัยเดียวกับเรานะเฮีย เฮียจะไม่ให้เขาติดรถไปด้วยเลยหรอ? ใจร้ายไปป่ะเนี่ย!?” เธอหันไปบอกแล้วทำหน้ามุ่ยคล้ายกับว่างอนๆ
“เออๆ ก็ได้วะ! ไปดิ!” เขาบอกแล้วกอดอกเบือนหน้าหนี
“ไปด้วยกันเถอะนะคะ ฉันไม่รู้จักใครที่มหาลัยเลย.. แล้ววันนี้ฉันก็ดันเจอคุณคนแรกด้วยอ่ะ” เธอส่งรอยยิ้มจริงใจมาให้
“เอ่อ.. ก็ได้ค่ะ” ฉันบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มแหยๆกลับไปให้เธอเช่นเดียวกัน
บนรถของไมเนอร์..
“นี่เฮีย.. ฉันคิดถึงเฮียมากเลยนะ ธันเดอร์ไม่ให้ฉันออกไปไหนเลย นี่ยังดีนะที่ฉันขอมาเรียนมหาลัยเดียวกับเฮียได้ เพราะเขาบอกจะให้ฉันเรียนมหาลัยเดียวกับเขาอ่ะ จะให้ฉันตัวติดเขาไปถึงไหนกัน” เสียงใสๆของเธอเจื้อยแจ้วน่าฟังที่กำลังเสวนาเรื่องราวต่างๆกับไมเนอร์อย่างสนิทสนมกัน
เธอเป็นอะไรกับไมเนอร์กันแน่นะ.. เห็นไมเนอร์เรียกว่าหมวยงั้นหรอ?
“เอาน่า.. มันคงห่วงเธอแหละ”
“ห่วงไปอ่ะ ฉันไม่มีอิสรภาพเลย” เธอบ่นก่อนจะมองไปที่กระจกมองหลัง ซึ่งฉันก็นั่งอยู่เบาะหลังนั่นแหละ บรรยากาศอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ใจฉันมันเต้นระทึกไปหมด รู้สึกปวดๆที่ใจแปลกๆด้วย
“แล้วคุณชื่ออะไรหรอคะ?” เธอเอ่ยถามฉัน
“เอ่อ.. ฉันชื่อเชลซีค่ะ เรียนปีสองคณะมนุษย์ศาสตร์” ฉันแนะนำตัวเองกลับไปเสร็จสรรพ ส่งยิ้มให้เธอน้อยๆแล้วเบนสายตาออกไปมองนอกหน้าต่างของตัวรถแทน
“ว้าว.. งั้นก็เป็นรุ่นพี่ฉันสิคะ ฉันอายุสิบเก้าแล้วล่ะค่ะ ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนน่ะค่ะ เรียนคณะมนุษย์ศาสตร์เหมือนพี่เชลซีเลยค่ะ แต่ฉันเรียนปีหนึ่งค่ะ ตอนแรกฉันอยากเรียนบัญชีแต่ไปๆมาๆฉันกลับไม่ชอบคณิตศาสตร์เลยล่ะค่ะ มันยาก..” เธอตอบยิ้มๆ รอยยิ้มของเธอสดใสมากจริงๆ รอยยิ้มที่คล้ายกับเด็กๆ พร้อมกับร่างกายที่สมส่วนติดจะผอมหน่อยๆ ใบหน้าละอ่อนน่ารักนั่นน่ะ ทุกอย่างรวมๆแล้วมันโคตรของโคตรจะเพอร์เฟคต์
“.......” ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพียงแค่ส่งรอยยิ้มบางๆไปให้เธอก็แค่นั้น
TK University
ไมเนอร์ขับรถมาถึงมหาลัยก็เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าตึกของคณะเลย.. ทั้งที่ตอนที่มาส่งฉันเขาจอดแค่ด้านหน้าของตึกแล้วให้ฉันเดินเข้ามาเอง นี่แหละนะ.. ความสำคัญมันต่างกันนี่นา ฉันเป็นใคร แล้วผู้หญิงที่ชื่อหมวยนั่นเป็นใคร ก็น่าจะรู้ดี..
ว่าแต่ฉันจะน้อยใจทำเตี่ยไรวะ!
ฉันก้าวลงจากรถแล้วยืนรอหมวย.. หมวยจึงก้าวลงจากรถตาม
“เรียนดีๆล่ะ ตั้งใจเรียนด้วยเข้าใจมั้ย?” ไมเนอร์ชะโงกหน้าออกมาจากรถแล้วตะโกนบอกหมวย
“ค่าคุณเฮีย.. หมวยรักเฮียน้า^^” เธอบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานไปให้ ไมเนอร์ก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นเดียวกัน สายตาของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความรักความเอ็นดูที่มีต่อเธอ ซึ่งป็นสายตาที่แตกต่างจากตอนที่มองฉันมาก
แล้วฉันจะเอาเรื่องหมอนั่นมาคิดทำไมกันเนี่ย? พอเลยเชลซี..
ฉันสะบัดหัวตัวเองนิดๆพร้อมกับมองตามร่างบางของหมวยที่กำลังเดินมาหาฉัน พลันสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นรุ่นพี่ที่หาเรื่องฉันเมื่อวันนั้นที่ฉันโดนตบไปนั่นแหละ แต่ตอนนี้สายตาของพวกนางกลับไม่ได้จับจ้องฉันแต่กลับจ้องไปที่ร่างบางหน้าสวยของหมวยแทน นี่คงคิดจะหาเรื่องหมวยแน่เลยล่ะสิ ยัยรุ่นพี่นิสัยเสียพวกนนี้นี่มันน่าจับฆ่านัก!
“พี่เชลซีคะ.. รู้จักเฮียไมเนอร์มาก่อนรึเปล่าคะ?” เมื่อเดินมาถึง เธอก็เอ่ยถามฉันทันที
“เอ่อ.. ก็รู้จักจ้ะ คือฉันรู้จักโดยที่ไมเนอร์เป็นเจ้านายฉันน่ะ คือฉันทำงานที่ผับของเขาน่ะจ้ะ” ฉันบอกยิ้มๆ
“อ๋อ.. อย่างนี้นี่เอง งั้นเราไปเรียนกันเถอะค่ะ” เธอบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานละมุนมาให้แล้วเดินนำหน้าไป ฉันจึงเดินตามเธอไป พลางสลัดความคิดเรื่องไมเนอร์ออกไปจากสมองด้วย
เพราะไม่รู้ว่า..ฉันมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเอาเรื่องของเขามาคิดให้เปลืองพื้นที่สมอง!!
ตกเย็น..
“อ้าว เฮียไมมาพอดีเลยค่ะ” น้ำเสียงใสๆของหมวยทำให้ฉันต้องเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ขึ้นมองร่างสูงที่ขับรถมาจอดเทียบที่หน้าคณะ
“ไปหมวย.. กลับกันได้ละ แล้ววันนี้จะกินไรป่ะ? เดี๋ยวเฮียเลี้ยงเอง” เขาลดกระจกรถลงก่อนจะพูดเสียงดัง
“ดีเลยดิเฮีย.. หิวมากอ่ะบอกเลย พี่เชลซีไปด้วยกันนะคะ” เธอหันมาถามฉัน ส่วนฉันน่ะเหรอ ก็ได้แต่ทำหน้าเหวอๆน่ะสิ จะตอบว่าไรดีวะ!
ขณะคิดหาคำตอบอยู่นั้น พลันก็ปรากฏรถสปอร์ตราคาแพงของใครบางคนมาจอดเทียบข้างๆกับรถของไมเนอร์ ก่อนที่คนในรถจะลดกระจกลง ทำให้ฉันต้องเบิกตากว้างในทันที
วาเล็น!!!
“เชลซี.. กลับกับวานะ เดี๋ยววาไปส่งที่คอนโดเอง” เขาบอกพร้อมกับมองมาด้วยสายตาคาดหวัง
“เอ่อคือ..” แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร ไมเนอร์ก็ตัดบทพูดขึ้นมาซะก่อน
“อย่าไปชวนคนอื่นเลยหมวย เขาคงไม่ว่างหรอก อีกอย่างเฮียจะเลี้ยงหมวยแค่คนเดียวนะ”
คำพูดแกมประชดประชันกันถูกส่งผ่านจากริมฝีปากสวยได้รูปของคนตัวสูงที่นั่งอยู่ภายในรถสปอร์ตคันคู่ใจ นั่นทำให้ฉันหันไปมองเขาแทบจะทันที ในใจตอนนี้เต้นระทึกจนมันปวดตุบๆ ใช่สิ! ฉันมันไม่ใช่คนสำคัญของใครอยู่แล้วนี่ ดี.. งั้นฉันจะไปกับวาเล็น!
“วา.. ไปส่งซีหน่อยนะ ไปส่งที่ห้องเลยนะ หน้าห้องเลย.. เอ้อ! ถ้าวาอยากจะเข้ามาในห้องซีก่อน วาก็เข้ามาได้นะ” ฉันจึงหันไปพูดกับวาเล็นพลางส่งยิ้มหวานๆให้เขา ทำให้วาเล็นยิ้มตอบกลับมาแทบจะทันที
“งั้นก็ขึ้นรถเลยซี เดี๋ยววาไปส่งเอง”
เมื่อเขาพูดจบ ฉันก็เดินเข้าไปเปิดประตูรถพร้อมกับเข้าไปนั่งตรงข้างๆเบาะคนขับ โดยที่ไม่ได้หันไปมองไมเนอร์อีกเลย ส่วนหมวยฉันก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไปเหมือนกัน รู้แค่ว่าตอนนี้มันหงุดหงิด!
MINER TALK ::
“เฮีย.. ตอนนั้นทำไมพูดแบบนั้นล่ะ? เฮียพูดประชดพี่เชลซีหรอ?” พอขับรถมาได้ซักพัก ผู้หญิงที่ผมมักจะเรียกว่าหมวยก็ถามขึ้นทันที
“เปล่านี่.. เฮียก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนะ” ผมตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้ใครจะรู้ล่ะว่า ภายในใจของผมมันร้อนรนปานไฟสุมอยู่ แล้วมันเป็นเพราะเชี่ยไรวะ!
“ไม่นะ เฮียไม่เหมือนเดิมอ่ะ คำพูดเมื่อกี้มันออกแนวประชดนะ ฉันรู้สึกได้”
ประชดหรอ..? ผมจะไปประชดยัยปากหมานั่นทำไมกันล่ะ!?
คิดแล้วแม่งหงุดหงิด!!!
“พอเลยๆ ไหนอยากกินอะไรไง? บอกเฮียมาดิ”
“อืม.. ถ้าสั่งไปจะให้ฉันได้หรอ?”
“ได้สิ ขอแค่สั่งมา” ผมตอบพร้อมกับปรายตามองใบหน้าหวานสวย
“ฉันอยากกินร้านโปรดของกลุ่มเฮียอ่ะ ที่เฮีย ธันเดอร์ ออกัส แล้วก็วาเล็นชอบไปกินอ่ะ”
“ได้ดิ งั้นจัดไป” พอได้ฟังดังนั้นผมก็เร่งขับรถไปร้านที่ว่านั่นทันที..
MINER END TALK ::
“อยากกินอะไรมั้ยซี?” พอขับมาสักพัก วาเล็นก็เป็นฝ่ายถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“ไม่เป็นไร.. ขอบคุณ!” ฉันตอบกลับไปห้วนๆ ทำให้วาเล็นที่กำลังขับรถอยู่ต้องขมวดคิ้วสงสัย
“เมื่อกี้ยังคุยกับวาดีๆอยู่เลย.. ทำไมเป็นแบบนี้อีกแล้วล่ะ” เขาถามขึ้นด้วยสีหน้าวิตก
“เมนส์ฉันมันไม่มามั้ง!” ฉันบอกอย่างหงุดหงิดพร้อมกับสายตาที่มองออกไปนอกกระจกรถ
“งั้นไปกินอะไรก่อนมั้ย? เผื่อจะหายหงุดหงิด” เขาก็ยังพยายามจะทำดีกับฉัน.. ถามว่าเห็นใจมั้ย? บอกเลยว่าสุดๆ แต่ฉันไม่อยากกลับไปเจ็บอีก ไม่อยากกลับไปเป็นควายให้เขาหลอก
“บอกว่าไม่เอาไงวะ!” ฉันขึ้นเสียงใส่ ทำให้ใบหน้าของวาเล็นเศร้าขึ้นมาทันตา
“.......”
“.......”
มีเพียงความเงียบเข้าปกคลุม...
พอรถจอดหน้าคอนโด ฉันก็รีบเปิดประตูลงจากรถทันที ไม่อยากอยู่นานกว่านี้แล้ว อึดอัด!
“เดี๋ยววาขึ้นไปส่งนะ” เขาบอกพร้อมกับเดินตามฉันมา
“ไม่ต้อง! ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ฉันบอกก่อนจะผลักเขาออกห่าง
ตอนนี้ฉันเป็นอะไร.. ฉันกำลังรู้สึกอะไรอยู่ ความรู้สึกของฉันมันไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนี้ ตอนนี้ฉันงงกับตัวเองจริงๆ วาเล็น? ไมเนอร์? ชื่อของสองคนนี้มันวนเวียนอยู่ภายในห้วงความรู้สึกนึกคิดจนยากจะลบออกไปได้ ตอนนี้ฉันเป็นอะไร? ฉันกำลังสับสน?
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

30 ความคิดเห็น
-
#7 Butsaba1 (จากตอนที่ 9)วันที่ 15 มีนาคม 2559 / 15:27น้องสาวไมเนอร์แน่ๆๆ><#70
-
#6 kanikajay (จากตอนที่ 9)วันที่ 15 มีนาคม 2559 / 07:31น้องสาวไมเนอร์แน่เลย^^#60
-
#5 PJ_20446 (จากตอนที่ 9)วันที่ 13 มีนาคม 2559 / 13:23ใครอ่ะ -*- แฟนไมเนอร์เหรออ#50