คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 2 (2/3)
“อุ๊ย! พี่จิม”
นางรำแสนสวยประจำโรงเรียนอุทานเบาๆ เมื่อหันมาเห็นผู้ชมที่ประตู ใบหน้าหวานก็แต้มสีแดงระเรื่อเขินอาย
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
น้ำมัวแต่รำเลยมองไม่เห็น”
“เมื่อกี้เอง พอดีพี่เดินผ่านมาได้ยินเสียงเลยมาดูน่ะ”
น้ำ หรือนัฐมล ก้มหน้าเขินๆ
กิริยานั้นยิ่งทำให้เด็กหนุ่มอดใจเต้นไม่ได้
เมื่ออีกฝ่ายเป็นน้องสาวของเจ้าเพื่อนสนิท พบกันมานาน แต่เขาเพิ่งมาสังเกตว่าอีกฝ่ายโตเป็นสาวและดูท่าจะสวยมากเสียด้วย
“แล้วนี่น้องน้ำซ้อมเสร็จหรือยัง
จะกลับยังไง หรือเจ้านัฐจะมารับ”
“พี่นัฐกลับไปแล้วค่ะ
เห็นว่าจะรีบไปทำรายงานส่ง เดี๋ยวน้ำว่าจะนั่งสองแถวกลับเอง
แล้วพี่จิมล่ะคะกลับยังไง ไม่ได้กลับพร้อมน้องดรีมหรือคะ”
“ไม่หรอก พี่บอกให้เขากลับไปก่อนแล้วล่ะ
งั้นเรากลับพร้อมกันดีไหม”
“ก็ได้ค่ะ งั้นพี่จิมรอน้ำเก็บของแป๊บหนึ่งนะคะ”
“ครับ”
ดวงตาคมกล้าทอดมองแก้มแดงระเรื่อของสาวน้อยนางรำด้วยความรู้สึกใจเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ
สองหนุ่มสาวเดินออกจากตึกชมรมพร้อมกัน
ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นดูแล้วแสนโรแมนติก
โดยที่จิรายุมัวแต่สนใจเด็กสาวที่เดินเคียงข้าง จนไม่ได้สังเกตรอบกาย เขาจึงไม่ทันได้เห็นใครบางคนที่ยืนรอเขาที่ม้านั่งใต้ต้นไม้หน้าตึกกิจกรรม
“พี่จิม...”
เสียงเรียกนั้นถูกกลืนหายลงคอไป เมื่อเห็นว่ามีใครเดินเคียงข้างพี่ชายคนสนิทของเธอ
พาฝันมองใบหน้าที่แต้มรอยยิ้มในยามที่คุยกับนัฐมล แล้วอดแปลกใจไม่ได้
พี่จิมของเธอไม่เคยยิ้มใจดีแบบนั้นให้เธอนานเท่าไหร่แล้วนะ
จำไม่ได้ เพราะสำหรับเธอมันก็แค่ตัวน่ารำคาญที่คอยทำให้จิรายุหน้าบูดบึ้งใส่ตลอดศก
คิดแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้
หากเธอวิ่งไปหาคนทั้งสองตอนนี้
รอยยิ้มของพี่จิมจะหายกลายเป็นหน้าบูดบึ้งตามเดิมหรือเปล่านะ ใบหน้าใสๆ หม่นหมอง
พอเห็นทั้งสองเดินไปไกล เจ้าตัวจึงรีบจูงจักรยานเดินตามไป
แต่ทว่าก็ไม่ทันเพราะทั้งสองคนนั้นขึ้นรถสองแถวไปเสียแล้ว
โดยไม่รู้เลยว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้
ยืนรอเขาเพื่อกลับบ้านพร้อมกันอย่างเคย...
จิรายุเดินผิวปากเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี
หลังจากที่นั่งรถเลยไปส่งนัฐมลกลับบ้านก่อน แล้วค่อยเดินย้อนกลับมาบ้านตัวเอง
โดยที่ไม่มีตัวป่วนคอยกวนใจเช่นที่เคย
“ตาจิม กลับมาแล้วเหรอลูก อ้าว! แล้วน้องดรีมล่ะ”
พอมาถึงก็เจอแม่ยกของพาฝันยิงคำถาม
“ไม่รู้สิครับ พอดีวันนี้ผมเลิกชมรมช้า
เลยให้น้องปั่นจักรยานกลับมาก่อน ยังมาไม่ถึงอีกหรือครับ”
“แม่ยังไม่เห็นน้องกลับมานี่ลูก”
คุณทับทิมหันไปสบตามารดาของพาฝันที่นั่งข้างๆ
ที่ส่ายหน้าว่ายังไม่เห็นลูกสาวกลับมาเช่นกัน
“เย็นมากแล้วนะ ดูท่าฝนตั้งเค้าจะตกเสียด้วย
แม่ชักจะเป็นห่วงน้อง”
จิรายุใจหายวาบ
ไม่ใช่ว่ายัยนั่นจะยังรอเขาที่โรงเรียนหรอกนะ
“อ้าว! ตาจิม นั่นจะไปไหนน่ะลูก” คุณทับทิมร้องถาม
เมื่อเห็นลูกชายผลุนผลันจะออกจากบ้านทั้งๆ ที่เพิ่งมาถึง
“ไปดูที่โรงเรียนครับ”
หากทว่ายังไม่ทันที่เขาจะก้าวพ้นประตูรั้วก็เห็นคนที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงเดินจูงจักรยานเดินกะเผลกๆ
เข้ามา
“อ้าว! น้องดรีมมาพอดีเลยลูก”
คุณทับทิมรีบปราดเข้าไปหาสาวน้อยคนโปรด
พาฝันตั้งขาตั้งจักรยานพลางยกมือไหว้คุณป้าและมารดา
ใบหน้าใสดูหงอยๆ แต่ก็ยังฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้ใครเป็นห่วง
“น้องดรีมเอารถจักรยานมาคืนค่ะ”
คนพูดพยายามไม่หันไปมองพี่ชายที่เดินตามหลังมา
เพราะกลัวว่าจะกลั้นน้ำตาแห่งความน้อยใจไว้ไม่ได้
“เอ๊ะ! นั่นทำไมเดินแบบนั้นล่ะลูก”
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะคุณป้า
กำลังทำขนมอะไรกันคะ น้องดรีมหิ๊วหิว”
พาฝันรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้ใครเป็นห่วง
“ทำขนมจีบกุ้งของโปรดหนูไงจ๊ะ
ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมากินพร้อมพี่เขาสิไป”
“ค่ะ”
จิรายุเหลือบมองแม่น้องน้อยที่วันนี้ไม่คุยจ้อเหมือนเคย
แถมไม่ยอมทักเขาสักคำ ก็นึกแปลกใจ พอเห็นท่าเดินกะเผลกๆ นั่นก็อดสงสัยไม่ได้
“อูย...ซี้ดดด”
เสียงสูดปากด้วยความแสบระบมทำให้คนที่เดินตามหลังมาชะงัก
เพราะเห็นว่ามีใครบางคนนั่งหลบมุมง่วนทำอะไรบางอย่างอยู่
ก็อดไม่ได้จึงเตร่เข้าไปดู
“นั่น หัวเข่าไปโดนอะไรมาอีกล่ะ”
“อุ๊ย!”
เจ้าตัวน้อยถึงกับสะดุ้งสุดตัว
หันขวับมือที่ถือสำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลชะงักค้างอย่างตกใจ
“พี่จิม!”
“หัวเข่าไปโดนอะไรมาน่ะ” เด็กหนุ่มปราดเข้าไปใกล้
แต่พาฝันกลับรีบปิดชายกระโปรงนักเรียนคลุมแผลไว้ทำท่าจะขยับหนี
หากทว่าก็ไม่ทันมือที่ยื่นมาตรงหน้า
“โหย เป็นแผลถลอกลึกเสียด้วย
ถ้าแผลเน่าเห็นทีคงต้องตัดขาทิ้งแล้วล่ะ”
คำนั้นทำให้ใบหน้าใสง้ำงอ
รู้ดีว่าโดนแกล้งขู่
“ก็ถ้าใครบางคนไม่ทิ้งให้ดรีมปั่นจักรยานกลับมาคนเดียว
รถคงไม่ล้ม หัวเข่าก็ไม่ต้องถลอกเลือดซิบๆ แบบนี้หรอก อุ๊ย! อูย...เบาๆ หน่อยสิคะ น้องดรีมเจ็บนะ...”
ท้ายประโยคพาฝันครางเบาๆ ตามองมือเรียวที่ทำแผลให้อย่างคล่องแคล่ว
ตั้งแต่เด็กจนโตนอกจากแม่แล้ว
จิรายุคือมือวางอันดับหนึ่งในการทำแผลให้น้องสาวจอมซุ่มซ่ามอย่างเธอมาตลอด
ทั้งที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็อดไม่ได้ทุกที
“เอาล่ะเสร็จแล้ว”
พาฝันมองหน้าพี่ชายคนสนิทพลันนึกถึงภาพที่เห็นเขาเดินกลับบ้านพร้อมนัฐมลเมื่อตอนเย็น
“พี่จิมคะ...” ปากที่จะขยับถาม
พอเห็นสายตาเย็นชามองมานิ่งๆ คำถามก็ถูกกลืนลงคอไป
เพราะเกรงว่าเขาจะหาว่าเธอทำตัวจุ้นจ้านน่ารำคาญอีก
“เรียกทำไม มีอะไรก็พูดมาสิ”
“เปล่าค่ะ แค่จะบอกว่าอย่าให้แม่กับคุณป้ารู้นะคะว่าน้องดรีมเอาจักรยานไปล้มมาอีกแล้ว
เดี๋ยวพวกท่านจะเป็นห่วง”
“อืม ไม่บอกหรอก
เธอก็รู้ว่าพี่ไม่ได้ขี้ฟ้องเหมือนใครบางคน”
“ขอบคุณค่ะ” คร้านจะเถียง
เด็กสาวจึงกัดฟันตอบรับดื้อๆ เธอมันน่ารำคาญ แถมเป็นเด็กขี้ฟ้อง
ใครมันจะไปน่ารักเหมือนพี่นัฐมลคนนั้นล่ะ ยิ่งคิดดวงตาคู่สวยก็ร้อนผ่าวๆ
ในสายตาพี่ชายคนนี้น้องสาวข้างบ้านอย่างพาฝันมีอะไรดีบ้างนะ
ทั้งที่สำหรับเธอแล้ว พี่จิมคือคนเดียวที่อยู่ในสายตา เป็นคนที่สำคัญสำหรับเธอเสมอ
“นั่นจะไปไหน ไม่ไปกินขนมจีบเหรอ”
“น้องดรีมไม่หิวค่ะ
จะไปอ่านหนังสือพรุ่งนี้มีสอบภาษาอังกฤษ” ว่าแล้วก็ผละไปโดยไม่เหลียวหลัง
ทำให้คนเป็นพี่ชักงง
ยัยตัวยุ่งเป็นอะไรไป แต่ช่างเถอะ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ยัยนั่นจะได้ไม่มาวุ่นวายให้เขารำคาญใจ
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
++++++++++++++++++++++++++++
เรื่องหยั่งรากฝากรัก นี้ เป็นดราฟแรกนะคะ ยังไม่ได้รีไรท์ หากใครพบคำผิด หรืออ่านแล้วประหลาดๆ บอกกันได้น้า ชอบไม่ชอบติชมกันได้เลยจ้า
ส่วนใครที่รออ่านฉบับเต็มอดใจนิดนึงนะคะ ตามแผนที่วางไว้จะออกเป็นอีบุ๊กในเดือนพฤษภาคมนี้
เล่มนี้อยู่ในโปรเจ็กต์แอบรัก ซึ่งไรท์เขียนร่วมกับนักเขียนอีก 3 ท่านรวมเป็น 4 เรื่อง 4 รสนะคะ
1. หยั่งรากฝากรัก โดย พิมพ์พิรดา
2. เกี่ยวใจมาฝากรัก โดย สรีสามัญ
3. ฝากรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว โดย กษิรา
4. ฝากรักไว้ให้ใครคนนั้น โดย ไหมขวัญ
พบกันในรูปแบบอีบุ๊กได้เร็วๆ นี้จ้า ^^
ฝากผลงานกันสักนิด เรื่องใหม่ล่าสุดของไรท์ กดลิ้งค์แล้ววาปไปได้เลย
ความคิดเห็น