คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : -
ปราสาทหลังงามบนยอดเขา ถูกประดับประดาด้วยโคมไฟระย้า และ เครื่องเรือนของตกแต่งสีทอง ที่ส่องประกายระยับยามต้องกับแสงไฟ
ชายหนุ่มหยุดยืน พลางเพ่งพินิจภาพเขียนสีน้ำมันขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่เหนือเตาผิง ไม่ทราบว่าเป็นเพราะลายเส้นการลงสี หรือ อำนาจมนต์ใดๆ ที่ทำให้เขาไม่อาจละสายตาจากภาพเขียนผืนนี้ไปได้ ด้วยสีสันสดใสมีชีวิตชีวาที่ศิลปินเลือกมาแต่งแต้ม ทำให้เงือกสาวในภาพดูราวกับมีชีวิตจริงๆ รอยยิ้มของเธอดูอ่อนหวาน เสียจนเขาเผลอยิ้มตอบกลับไปเมื่อครั้งแรกที่พบเห็น เรือนผมสีเงินยวงของเธอ ดูงดงามเหมือนกับแสงจันทร์ที่ส่องประกายเสริมให้ดวงหน้านั้นดูงามยิ่งขึ้น
“ภาพนี้คงจะราคาแพงน่าดูเชียวนะครับ พรีโม่” แรมโพกล่าวขึ้นทันทีที่ก้าวมาถึงข้างตัวของผู้เป็นหัวหน้า ด้ยน้ำเสียงเหมือนไม่ใส่ใจ พลางอ้าปากหาวหวอดๆ อย่างเคยตัว
“เป็นภาพเขียนที่สวยมากนะ” จีอ๊อตโต้กล่าวกับแรมโพ ทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาไปจากภาพ
แรมโพอ้าปากหาวอีกหวอด พลางพึมพำกับตัวเองอย่างเบื่อหน่าย ด้วยยังพอจะมีความเกรงใจในตัวชายหนุ่มผมทองอยู่บ้าง จึงเลือกที่จะออกเสียงเพียงเบาๆต่างจากปกติ “ก็แค่ภาพเขียนธรรมดา”
“จริงๆแล้ว ภาพนี้ก็เป็นเพียงภาพเขียนผืนนึงจริงๆอย่างที่นายว่านั่นแหละ แรมโพ”คนหูดีก็ยังเป็นคนหุดีอยู่วันยังค่ำ จีอ๊อตโตพูด พลางกระตุกรอยยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันมากล่าวกับผู้พิทักษ์แห่งอัสนีด้วยน้ำเสียงทอดกระแสเอ็นดู “แต่ถ้านายลองใช้ใจของนายมองดู นายอาจจะพบโลกอีกใบบนภาพเขียนผืนเดียวก็เป็นได้นะ”
สิ้นคำกล่าว ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเขียวก็หาวออกมาหวอดใหญ่ พร้อมกับตีสีหน้าเหม็นเบื่อ พรีโม่ชอบทำเหมือนกับเขาเป็นเด็กไม่รู้จักโตอยู่เรื่อย เขามักจะไม่ชอบใจเอามากๆ เมื่อพรีโม่พูดอะไรที่ดูเป็นหลักการ ที่ต่อให้เขาฟังให้ตาย เขาก็ไม่เคยที่จะเข้าใจ แม้ซักประโยคเดียว
“แล้วเราต้องรออีกนานเท่าไหร่ครับ พรีโม่” แรมโพพูดขึ้น ด้วยเจตนาที่ต้องการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาในขณะนี้
“นั่นสินะ”จีอ๊อตโต้รับคำ พลางเบนสายตากลับไปยังภาพเขียนผืนเดิม ราวกับต้องมนต์ “ต้องรออีกนานเท่าไหร่กัน” เขาพึมพำกับตัวเองอย่างเลื่อนลอย
ก่อนที่จะถูกปลุกจากห้วงภวังค์ด้วยเสียงบิดลูกบิดประตูดังคลิก!!!
สาวใช้ในชุดคลุมยาวรุ่มร่ามถึงข้อเท้า เปิดประตูออกด้วยท่าทีสำรวม ก่อนหันมาพูดกับบุรุษทั้งสองอย่างนอบน้อม “เชิญท่านทั้งสองตามดิฉันมาทางนี้ค่ะ สมาชิกวองโกเล่ท่านอื่นได้ล่วงหน้ามารอภายในงานอยู่ก่อนแล้ว”
แรมโพหันไปทางผู้เป็นหัวหน้า ด้วยแววตาราวกับว่าต้องการถามหาคำตอบ
ชายหนุ่มผมสีทองหันไปสบตาลูกน้อง พลางแย้มรอยยิ้มบางๆอย่างเอ็นดู “ไปกันเถอะ แรมโพ”
โถงทางเดินที่เชื่อไปสู่ห้องโถงใหญ่ถูกตกแต่งอย่างเรียบๆ ผนังสองฟากฝั่งเป็นสีขาวสะอาดตา ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นอย่างวิจิตรบรรจง บนพื้นปูพรมทอดยาวเป็นแนวตลอดทางเดินสีแดงสด ตัดกับสีขาวของผนัง บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี
จีอ๊อตโต้เหม่อมองทัศนียภาพรอบข้างย่างชื่นชม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเคยมาที่ปราสาทแห่งนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะมาเยี่ยมเยียนที่นี่บ่อยสักแค่ไหน เขาก็ไม่เคยเบื่อเลย กับบรรยากาศที่ราวกับหลงเข้าไปอยู่ในโลกแห่งเทพนิยาย
แรงกระแทกเบาๆที่ไหล่ข้างขวา เรียกให้ชายหนุ่มกลับมาจากห้วงแห่งความนึกคิด ก่อนจะรีบหันขวับไปมอง
ผู้ชนเขา เป็นหญิงสาวร่างบอบบางในชุดผ้าคลุมผ้าแพรยาว เส้นผมของนางเป็นสีเงินยวงยาวสยาย ชวนให้เขานึกถึงนางเงือกในภาพเขียนสีน้ำมัน นางสาวเท้าผ่าเขาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจนซักเท่าไหร่นัก
เขามองตามเงาหลังของร่างบาง ด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด อย่างกับว่า เขาเคยพบเห็นสตรีนางนี้มาก่อน
“ท่านนั้นคือ ท่านเซริน่า มิวสิคา ผู้รับสืบทอดนาม เจ้าหญิงเงือก คนใหม่ค่ะ”สาวใช้พูดขึ้นอย่างนอบน้อม เรียกความสนใจจากชายหนุ่มทั้งสอง
“หืม หล่อนเดินชนพรีโม่ แล้วไม่ได้ขอโทษนี่ครับ”แรมโพกล่าวอย่างไม่พอใจลึกๆ “ไม่สิ เหมือนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำนะครับ ว่าเดินชนคนอื่น”
“ไม่เป็นไรหรอกแรมโพ” จีอ๊อตโตกล่าวปรามเบาๆ
ความคิดเห็น