คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : ยินดีต้อนรับสู่ MTA
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อวันเกิดอายุครบ 15 ปีของฉัน...
ครอบครัวของอลิซเป็นครอบครัวที่มีพ่อ แม่ พี่ชายและก็อลิซ พวกเขาอาศัยอยู่ที่ทวีปกลางตอนตอนใต้ ครอบครัวของพวกเขาก็ไม่ได้ถือว่าจนมาก แต่เรียกว่ามีฐานะที่ปานกลาง พ่อและแม่ของอลิซเป็นคนที่ใจดีมาก พวกท่านรักอลิซมาก ดูแลอลิซอย่างดีมาตลอด และพี่ชายกับอลิซก็สนิทกันมาก
พ่อ แม่และพี่ชายของอลิซนั้นมีผมสีน้ำตาลแดง และดวงตาสีเขียวมรกต แต่อลิซในตอนนั้น เส้นผมกลับเป็นสีดำและดวงตาสีน้ำตาล ทำให้อลิซรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เวลาที่ถูกคนรอบข้างบอกว่า เหมือนเด็กเก็บมาเลี้ยงมากกว่า
วันหนึ่งอลิซร้องไห้และเข้าไปกอดแม่ของตน
‘ทำไมผมของหนู ดวงตาของหนู สีถึงไม่เหมือนพ่อกับแม่ แล้วก็พี่เอสละคะ เพราะอะไรอ่ะคะ?’ เด็กหญิงตัวน้อยๆในวัยเพียงแค่สิบขวบ ใบหน้าแดงก่ำจากการร้องไห้ และน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลนั้นไหลออกมาไม่หยุด
ผู้เป็นแม่ซึ่งเห็นลูกตัวน้อยร้องไห้ก็ได้โอบกอดลูกน้อยเอาไว้
‘ไม่ต้องห่วงจ๊ะ อลิซ... สักวันหนึ่งลูกก็จะเหมือนพ่อกับแม่และพี่เอสจ๊ะ’ผู้เป็นแม่กล่าวพร้อมลูบหัวน้อยๆของลูกสาวอย่างอบอุ่น
‘เมื่อไรละคะ’
‘ในอนาคตข้างหน้าจ๊ะ’
และในวันเกิดของอลิซปีที่15
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสนุกสนาน แม่ทำเค้กก้อนใหญ่ที่เขียนว่าสุขสันต์วันเกิดให้กับอลิซ พ่อเองก็ซื้อกระเป๋าใบใหม่ให้ และพี่ชายเองก็ซื้อเดรสตัวสวยสีขาวสนิทมาให้กับอลิซเช่นกัน และในเวลาที่นาฬิกาตีตรงเวลาเที่ยงคืนตรง แม่ของอลิซก็ได้เอากระจกใบใหญ่มาให้กับอลิซ
“อลิซลองมองเข้าไปในกระจกสิ”ผู้เป็นแม่กล่าวอย่างอ่อนโยน พร้อมยิ้มออกมา อลิซจึงมองในกระจกและพบว่า...
ผมสีดำก็เปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีน้ำตาลก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกตที่ดูสวยงาม แล้วพ่อก็พูดออกมาว่า.. “อลิซ พ่อกับแม่มีเรื่องที่จะต้องบอกลูก และเราตกลงกันไว้ว่าเราจะบอกลูกในวันที่ลูกอายุครบสิบห้าปีพอดี...”เสียงทุ้มนุ่มของพ่อกล่าวออกมาอย่างใจเย็น
“ครอบครัวของพวกเราเป็น ‘เอสเปอร์’ จ๊ะ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายของเราเติบโตพอแล้ว พลังของเอสเปอร์ก็จะปรากฏออกมา จากผมสีดำของลูกกลายเป็นสีน้ำตาลแดง และดวงตาสีน้ำตาลกลายเป็นสีเขียวแล้วแสดงว่า ลูกได้เติบโตจนเป็นเอสเปอร์เต็มตัวแล้วจ๊ะ”แม่ยิ้มหวานออกมา
“เอสเปอร์?”เด็กสาวทวนคำ
ทันใดนั้นมือใหญ่ที่อบอุ่นก็แปะลงบนเส้นผมใหม่สีน้ำตาลแดงของอลิซ อลิซจึงเงยหน้าขึ้นไปหาพี่ชายที่อายุห่างกันห้าปี ผู้มีผมสีน้ำตาลแดงและดวงตาสีเขียวมรกตเช่นเดียวกับเธอ
“พี่เอส...”
“เอสเปอร์ เป็นชื่อเรียกของมนุษย์กลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขามีพลังพิเศษเฉพาะตัว ถ้าให้พิสูจน์ละก็... อลิซเธอลองคิดในใจอะไรสักอย่างสิ”เอสกล่าวพร้อมดึงมือออกจากหัวของอลิซ
‘เดรสสวยมากเลยคะพี่เอส’ อลิซลองคิดออกมาตามที่พี่ของเธอสั่ง
“ เดรสสวยมากเลยคะพี่เอส ขอบคุณนะ รู้มะกว่าจะเดินไปซื้อให้กับเธอได้เนี้ย โดนพวกพนักงานสวยแซ่วเอาเรื่องเลยนะเว้ยๆๆ”เอสกล่าวพร้อมเอาตัวน้องสาวเข้ามารัดและขยี้หัวอย่างเมามันส์ เด็กสาวได้แต่กรี๊ดเล็กๆให้พี่ชายของตนหยุดกระทำ
“พลังของพี่ของอลิซคือ การอ่านใจ ยังไงละจ๊ะ และนี่ก็ส่วนของแม่จ๊ะ”หญิงสาวชี้นิ้วเรียวยาวสวยของตนขึ้นและหมุนเป็นวงกลมเล็กๆรอบหนึ่ง มีดในห้องครัวก็ค่อยๆลอยออกมา และตัดเค้กวันเกิดของอลิซ อย่างลื่นไหล แม่ค่อยๆใช้นิ้วอีกนิ้วหนึ่งให้จานลอยขึ้นมารองรับเค้กที่ตัดออกมาและแจกไปตามที่นั่งของแต่ละคนบนโต๊ะ และยิ้มสวยออกมา
“พลังของแม่คือ ควบคุมสิ่งของ จ๊ะ”พร้อมกับยิ้มหวานอีกหนึ่งที “และส่วนของคุณพ่อก็เป็นเทเลพอร์ทจ๊ะ ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้นะจ๊ะว่าคืออะไร”
“เคลื่อนย้ายในพริบตา ว้าว!ครอบครัวของเรานี้เจ๋งกันทุกคนเลยนะคะ! แล้วหนูละคะๆๆ”ดวงตาสีมรกตของอลิซส่องประกายอย่างสดใส และหันไปทางพ่อและแม่ แต่พ่อแม่กลับทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยที่จะบอก เอสเดินเข้ามาที่ตัวนั่งลงข้างและใส่แขนที่มีกล้ามเนื้อโอบน้องสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนของตน
“อลิซเธอน่ะมีพลังทุกแบบที่เอสเปอร์แต่ละคนจะมี...”เสียงของเอสเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา
ดวงตาของอลิซยิ่งส่องประกายหนักกว่าเก่า เธอแทบจะลุกขึ้นมาโลดเต้นอย่างดีใจ แต่พอเธอเห็นสีหน้าของพ่อกับแม่ที่เครงเครียดทำให้เธอรู้ว่า สถานการณ์นี้ไม่ใช่ควรจะดีใจ แต่ควรรอฟังสิ่งที่พ่อกับแม่จะพูดมากกว่า
“อลิซยังไม่รู้สินะ... พวกเราเอสเปอร์ถือเป็นเหล่าอมนุษย์ซึ่งมีเหลืออยู่ไม่ได้มากบนโลกนี้แล้ว และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ยังมีกลุ่มคนลึกลับที่คอยจะไล่จับพวกเราเหล่าเอสเปอร์ไปทำงานสกปรกให้กับพวกมัน และยิ่งลูกที่เป็นเอสเปอร์ที่ถือว่าหายากมากในหมู่เอสเปอร์ที่มีพลังทุกรูปแบบของเอสเปอร์หมด ยิ่งทำให้พวกนั้นต้องการที่จะเอาตัวของลูกไปอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นพ่อจะส่งลูกเข้าไปเรียนที่ Mysterious Academy เพื่อความปลอดภัยของลูกนะ”เสียงที่เอาจริงเอาจังของพ่อทำให้อลิซรู้อย่างแน่นอนว่า นี่ไม่ใช่เรื่องล่อเล่น แต่เป็นเรื่องที่จริงจังเป็นอย่างมาก
“แม่ส่งใบเข้าเรียนไปให้กับลูกแล้วจ๊ะ โรงเรียนจะเปิดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า และอีกอย่างหนึ่งที่พ่อกับแม่ขอนะ อลิซ...”แม่กล่าวออกมาเสียงสั่น
“แม่ขอร้องให้ลูกตัดขาดจากเพื่อนหรือคนรู้จักข้างนอกอย่างถาวรเลยนะ”น้ำตาของแม่ไหลออกมา ท่านค่อยๆยกมือขึ้นมาเปิดหน้าของตนเวลาร้องไห้ อลิซซึ่งตกใจกับการที่แม่สั่งห้ามพบเพื่อนหรือคนรู้จักข้างนอก งั้นเธอก็จะไม่ได้เจอเพื่อนๆของเธออีกแล้วงั้นหรือ...
“เรื่องทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลอลิซ เพราะลูกอายุครบสิบห้าปีและเป็นเอสเปอร์แล้ว และร่างกายของลูกเปลี่ยนไปอย่างนี้ ไม่คิดว่าคนอื่นจะสงสัยบ้างหรือไงกัน”
เรื่องที่พ่อพูดก็ถูก ผมและดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไป คนข้างนอกก็ต้องคิดว่าเราไม่ได้เป็นมนุษย์แน่นอน “เพราะอย่างงั้นช่วยอดทนอยู่ในบ้านสักเดือนได้ไหม จนกว่าโรงเรียนนั้นจะเปิดเทอมนะอลิซ พ่อกับแม่ขอร้อง”พ่อและแม่และเอสเขยิบเข้ามาใกล้ตัวของอลิซและกอดเธออย่างอบอุ่น อลิซร้องไห้ออกมา ทั้งที่เป็นวันเกิดอายุครบสิบห้าปีของเธอแต่กลับเป็นเรื่องน่าเศร้าเท่าที่เธอเคยสัมผัสอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งเดือนที่เธอจะต้องจากบ้าน...
กลับมาในปัจจุบัน...
อย่างที่ใครๆหลายคนรู้กันดีโรงเรียนอาเธเดียร์ หรือ Mysterious Academy นั้นเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงของทวีปกลางตอนกลาง ในการขึ้นไปบนโรงเรียนนั้นเป็นทางเดินลาดชันยาวเกือบสองกิโลเมตรจนกว่าจะถึงอาคารนักเรียนของโรงเรียนซึ่งจะเป็นห้องของผู้อำนวยการ ห้องที่ไว้ใช้ในการแนะนำตัวของนักเรียนใหม่ และพอเดินผ่านอาคารนักเรียน ก็จะเป็นจัตุรัสสวนซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ไว้ให้นักเรียนพักผ่อนหรือนั่งเล่นกันตามๆไป และรอบๆจัตุรัสสวนก็จะเป็นอาคารเรียนของนักเรียนชั้นเรียนต่างๆ และพอเดินเข้าไปลึกที่สุดก็จะเป็นหอพักของนักเรียนไนท์คลาส
“แฮ่กๆ”เสียงหอบแห้งดังขึ้นมาเรื่อยๆ ในทางเดินขึ้นสู่อาคารนักเรียนซึ่งมีทางยาวเกินกว่าสองกิโลเมตร ตอนนี้อลิซใกล้ที่จะถึงในไม่ช้าแล้ว ซึ่งเธอใช้เวลารวมในการขึ้นเกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้ว
“ทางเดินขึ้นสองกิโลเมตร ทั้งลาดทั้งชัน...”เธอบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย และเธอก็สังเกตเห็นโคมไฟสีฟ้าจำนวนมากกำลังฉายแสงสว่างรอบทางเดินที่เธอกำลังเดินอยู่ อลิซหยุดเดินสักพักหนึ่งและทิ้งตัวลงข้างทางเพื่อหยุดพัก ซึ่งตลอดทางเดินสองกิโลเมตรจะมีที่นั่งแวะพักให้กับนักเรียนที่จะเดินขึ้นไปยังโรงเรียน แต่นักเรียนบางคนที่บ้านพอมีสตางค์ก็จัดการขับรถมาส่งลูกถึงที่ ผิดกับบางคนที่จะต้องเดินขึ้นมาเอง
กริ๊ง... กริ๊ง... กริ๊ง... เสียงกระดิ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่อลิซก็ยังได้ยิน มันมาจากทางขึ้นเธอจึงลุกขึ้นและเดินออกไปดูว่าเป็นเสียงอะไร เธอจึงได้เห็น... เด็กสาวที่ดูรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ผมสีดำสนิท และดวงตาสีอะเมทิสต์สวย ในชุดเครื่องแบบสีดำสนิทของนักเรียนไนท์คลาส เธอใส่หมวกทรงสูงสีดำ และที่สำคัญกว่านั้นคือ เธอกำลังขี่ไม้กวาด!
“อ่ะ เจ้าเป็นใครน่ะ?”เด็กสาวนั่งอยู่บนไม้กวาดได้หยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ อลิซได้แต่ยืนนิ่งค้าง พอสักพักหนึ่งเธอถึงคุมสติได้
“อ่ะ ชื่อ อลิซ พาร์กแมนคะ ไนท์คลาส ปี 1-A คะ”อลิซกล่าว เด็กสาวตรงหน้าจ้องเธออยู่พักใหญ่ อลิซรู้ในทันทีว่าเด็กสาวตรงหน้าเธอคนนี้กำลังพิจารณาเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วในที่สุดเธอก็ยิ้มหวานออกมา
“ข้าชื่อ โรสแมรี่ เรียนไนท์คลาสปี 3-A ถือว่าข้าเป็นรุ่นพี่ของเจ้าละกันนะ อลิซ ถ้างั้นก็รีบไปกันเถอะ”รุ่นพี่ที่ชื่อโรสแมรี่กล่าวพร้อมยื่นมือมาให้กับอลิซ
“ไปไหนเหรอคะ???”อลิซกล่าวถาม โรสแมรี่ยิ้มออกมา
“ก็ไปอาคารนักเรียนไงละ เพราะถ้าเธอเป็นนักเรียนใหม่ เธอก็ต้องไปรายงานตัวก่อนที่จะเข้าเรียนจริงไหมละ และวันนี้เป็นเปิดเทอมวันแรกเพราะงั้นก็เริ่มเรียนวิชาโฮมรูมช่วงเช้าในตอนสี่ทุ่มตรง ตอนนี้ก็ทุ่มกว่าๆแล้ว ถ้าเจ้าไม่รีบไปงานรายตัวก็ไม่ดีนะ ในฐานะที่ข้าเป็นรุ่นพี่ ข้าจะพาเจ้าไปส่งให้เอง เอาละขึ้นมาสิ เอ๊ะอย่าบอกนะว่าเจ้าขี่ไม้กวาดไม่เป็น ดูๆไปแล้วเจ้าก็เหมือน ‘แม่มด’ อย่างพวกเรา แต่คงไม่ใช่สินะ”โรสแมรี่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้อลิซ
อลิซส่ายหน้าช้าๆ
“รุ่นพี่ล่วงหน้าไปก่อนเลยก็ได้คะ เดี๋ยวฉันจะตามไปอีกทีคะ”
โรสแมรี่ที่เห็นดังนั้นจึงกลับเข้าไปในเส้นทางเดิน “ถ้างั้นเจอกันเดินบนนะ” เธอกล่าวพร้อมบินไปอย่างรวดเร็วจนเกิดแรงลมแรงขึ้น อลิซได้แต่มองแล้วยิ้มน้อยๆออกมา
โรสแมรี่ขี่ไม้กวาดบินมาได้นานพอควรแล้ว และในอีกไม่ช้าก็จะถึงอาคารนักเรียนซึ่งเด็กใหม่จะต้องมารายงานตัว เธอเหลือบไปมองทางข้างหลังก่อนที่จะหันหน้ากลับมายังทางเดิม เธอแอบรู้สึกเป็นห่วงรุ่นน้องที่เธอพึ่งเจอไปเมื่อกี้ ตอนนี้ทุ่มครึ่งแล้ว อากาศจะเริ่มเย็นลงเรื่อยๆและในตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงซึ่งจะยังหนาวอยู่ถึงจะไม่หนาวถึงขั้นฤดูหนาวก็เถอะ แต่เด็กผู้หญิงคนเดียวกลางทางยาวห้ากิโลนี่คงยากไป ในไม่ช้าเธอก็มาถึงหน้าอาคารนักเรียน ข้างหน้าเธอได้เห็นเงาลางๆกำลังโบกมือมาทางที่เธออยู่ พอโรสแมรี่จ้องอยู่นานสักพัก เธอก็แทบจะหุบปากลงไม่ได้
“รุ่นพี่โรสแมรี่!”อลิซกำลังโบกมือไปมาให้กับโรสแมรี่ โรสแมรี่ได้แต่อ้าปากค้าง เธอรีบบินไปใกล้ๆอลิซและกระโดดลงจากไม้กวาดมาหาเธออย่างรวดเร็ว
“เจ้าขึ้นมาได้เช่นไรกัน! เจ้าทำได้เช่นไร ในเมื่อเจ้าดูเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นนี่นา!”โรสแมรี่เขย่าตัวอลิซอย่างอยากรู้อยากเห็น พอโรสแมรี่เลิกเขย่าอลิซก็ยิ้มสวยออกมา
“อย่าลืมสิคะ ว่ามนุษย์เรามีหลายประเภท ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นคะ”
โรสแมรี่ปล่อยมือออกจากตัวอลิซและเริ่มมองดูอลิซตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกรอบหนึ่ง ในหัวของเธอกำลังคิดอย่างหนักและคำหนึ่งก็ได้ออกมาจากปากของเธอ...
“มนุษย์พลังพิเศษ”
คำๆนั้นทำให้อลิซยิ้มออกมา “ฉันเป็น ‘เอสเปอร์’ คะ”
“ว้าว!เอสเปอร์งั้นเหรอ งั้นก็พลังจิตสินะ เธอมีพลังจิตแบบไหนละ บอกหน่อยสิ”โรสแมรี่เริ่มเขย่าตัวอลิซอีกรอบหนึ่ง “ถ้าจากตรงนั้นมาตรงนี้ได้ ก็คงไม่พ้น ‘เทเลพอร์ต’ สินะ”โรสแมรี่เริ่มที่จะวิเคราะห์
“คะ แต่พอดีฉันเป็นพวกพิเศษหน่อยนะคะ เลยมีพลังจิตทุกแบบน่ะคะ”อลิซชี้นิ้วขึ้น กระเป๋าเดินทางข้างๆตัวของเธอก็ลอยขึ้นมา โรสแมรี่ได้แต่ทึ้งในพลังของตัวอลิซ ทันใดนั้นเธอก็ตั้งสติได้
“งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ อย่าลืมสิว่าเธอต้องเข้าไปรายงานตัวน่ะ”โรสแมรี่ชวนอลิซเข้าไปในอาคารนักเรียนที่เป็นตึกขนาดใหญ่ สีออกมนเทา และดูสไตล์ยุโรปยุคกลาง อลิซเลิกใช้พลังจิตและหิ้วกระเป๋าเดินทางของตนแล้วเดินตามผู้เป็นรุ่นพี่ไป
พอเดินเข้ามาใกล้ประตูทางเข้า ประตูก็เปิดออก แสงจากข้างในส่องแสงแยงตาเป็นอย่างมากจนอลิซต้องหรี่ตาเล็กน้อย ข้างในอาคารนักเรียนประดับตกแต่งไปด้วยของหรูหรา ทางเดินมีพรมสีแดงปูอยู่ตลอดทางเดิน และพอเดินเข้าในสุดก็จะเป็นห้องของอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน
โรสแมรี่หยุดยืนที่หน้าประตูก่อน และเคาะประตูสักสองสามครั้งและเปิดประตูเข้าไป
“ขออนุญาตคะ”โรสแมรี่กล่าวอย่างสุภาพและเดินเข้าไปยืนที่กลางห้อง อลิซจึงค่อยๆตามเข้าไปในห้อง ห้องของอาจารย์ใหญ่นั้นตกแต่งเหมือนกับข้างนอก กลางห้องมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่และข้างหลังเป็นเก้าอี้ขนาดใหญ่ที่หันหน้าออกไปยังหน้าต่างข้างหลัง พออลิซเดินเข้ากลางห้องแล้ว เก้าอี้นั้นก็หมุนออกมา ให้เธอเห็นเด็กชายตัวเล็กโดยอายุน่าจะประมาณเพียงแค่ห้าขวบ เส้นผมสีทองเงาสวยตัดเป็นทรงรังนก ดวงตากลมโตสีท้องทะเลลึก บนตักเขากำลังลูบหลังแมวเปอร์เซียสีขาวสวยอยู่
“ชื่อไรเอ่ย สาวน้อย”เด็กชายกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มเล็กสไตล์เด็กวัยใส
อลิซซึ่งรู้ว่าถามชื่อตัวเองจึงกล่าว “อลิซ พาร์กเกอร์ ไนท์คลาสปี 1-A คะ ยินดีที่ได้รู้จักคะ”เธอโค้งตัวอย่างสุภาพค้างไว้สักพักแล้วก็กลับมายืดตรงเหมือนเดิม
“ยินดีที่ได้รู้จักนะอลิซ ฉันชื่อ เรด เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนอาเธเดียร์นะ”เสียงใสของเด็กชายตัวเล็กๆดังขึ้น “ถ้าเธอมีอะไรสงสัยก็ถามฉันไม่ก็เพื่อนๆรุ่นพี่ในโรงเรียนได้เลยนะ อย่างโรสแมรี่ก็ถามได้เลย”
“ค่ะ!”เด็กสาวรับปาก ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ยิ้มออกมาที่มุมปาก พร้อมหันไปทางโรสแมรี่ที่ยืนอยู่ข้างๆอลิซ “โรสแมรี่พาอลิซไปชมโรงเรียนหน่อยก็แล้วกันนะ แล้วก็หาห้องพักให้อลิซด้วยละ”เรดออกคำสั่งแก่นักเรียนของตน โรสแมรี่จึงโค้งตัวแล้วดึงตัวอลิซเดินออกจากห้องไป อลิซจึงได้แค่พยักหน้า เรดจึงโบกมือให้กับอลิซอย่างเป็นกันเอง
ทันที่ที่ประตูปิดลง เรดเริ่มหมุนเก้าอี้เล่นอีกรอบ แต่พอเก้าอี้หันมาอีกรอบหนึ่งกลับเป็นชายหนุ่มในวัยไม่เกินสี่สิบ ผมสีทองยาวสวยถึงกลางหลัง อยู่ในชุดสูทสีดำสนิทและบนตักของเขาก็คงยังเป็นแมวเปอร์เซียตัวเดิมอยู่ เขาเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมา คลิกเข้าไปดูในกล่องข้อความแล้วอ่านข้อความของเพื่อนเก่าอีกรอบหนึ่ง
‘ช่วยดูแลลูกสาวของฉันด้วยนะ อลิซน่ะเป็นเด็กพิเศษที่สักหลายร้อยปีจะเกิดขึ้นมาคนหนึ่ง ถ้าหากพวก‘ดาร์กไลท์’รู้ว่าอลิซนั้นมีพลังที่พิเศษกว่าคนอื่นละก็ พวกมันต้องพาตัวอลิซไปทำในเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นฉันของฝากเธอไว้ในรั้วโรงเรียนของนายด้วยนะ
อดัม พาร์กแมน.’
ทันทีที่อ่านจบอีกรอบเรดก็ยิ้มที่มุมปากออกมา แล้วลูบหัวแมวเปอร์เซียนบนตักต่อไป
“ได้เลยเพื่อนยาก ฉันจะไม่ให้นายผิดหวัง ฉันจะดูแลเธอเป็นอย่างดีเลย.....”
- Chapter 1 END-
ความคิดเห็น