ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mysterious Academy

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : ยินดีต้อนรับสู่ MTA

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 57


    เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อวันเกิดอายุครบ 15 ปีของฉัน...

    ครอบครัวของอลิซเป็นครอบครัวที่มีพ่อ แม่ พี่ชายและก็อลิซ พวกเขาอาศัยอยู่ที่ทวีปกลางตอนตอนใต้ ครอบครัวของพวกเขาก็ไม่ได้ถือว่าจนมาก แต่เรียกว่ามีฐานะที่ปานกลาง พ่อและแม่ของอลิซเป็นคนที่ใจดีมาก พวกท่านรักอลิซมาก ดูแลอลิซอย่างดีมาตลอด และพี่ชายกับอลิซก็สนิทกันมาก

    พ่อ แม่และพี่ชายของอลิซนั้นมีผมสีน้ำตาลแดง และดวงตาสีเขียวมรกต แต่อลิซในตอนนั้น เส้นผมกลับเป็นสีดำและดวงตาสีน้ำตาล ทำให้อลิซรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เวลาที่ถูกคนรอบข้างบอกว่า เหมือนเด็กเก็บมาเลี้ยงมากกว่า

    วันหนึ่งอลิซร้องไห้และเข้าไปกอดแม่ของตน

    ทำไมผมของหนู ดวงตาของหนู สีถึงไม่เหมือนพ่อกับแม่ แล้วก็พี่เอสละคะ เพราะอะไรอ่ะคะ? เด็กหญิงตัวน้อยๆในวัยเพียงแค่สิบขวบ ใบหน้าแดงก่ำจากการร้องไห้ และน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลนั้นไหลออกมาไม่หยุด

    ผู้เป็นแม่ซึ่งเห็นลูกตัวน้อยร้องไห้ก็ได้โอบกอดลูกน้อยเอาไว้

    ไม่ต้องห่วงจ๊ะ อลิซ... สักวันหนึ่งลูกก็จะเหมือนพ่อกับแม่และพี่เอสจ๊ะผู้เป็นแม่กล่าวพร้อมลูบหัวน้อยๆของลูกสาวอย่างอบอุ่น

    เมื่อไรละคะ

    ในอนาคตข้างหน้าจ๊ะ

     

    และในวันเกิดของอลิซปีที่15

    ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสนุกสนาน แม่ทำเค้กก้อนใหญ่ที่เขียนว่าสุขสันต์วันเกิดให้กับอลิซ พ่อเองก็ซื้อกระเป๋าใบใหม่ให้ และพี่ชายเองก็ซื้อเดรสตัวสวยสีขาวสนิทมาให้กับอลิซเช่นกัน และในเวลาที่นาฬิกาตีตรงเวลาเที่ยงคืนตรง แม่ของอลิซก็ได้เอากระจกใบใหญ่มาให้กับอลิซ

    “อลิซลองมองเข้าไปในกระจกสิ”ผู้เป็นแม่กล่าวอย่างอ่อนโยน พร้อมยิ้มออกมา อลิซจึงมองในกระจกและพบว่า...

    ผมสีดำก็เปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีน้ำตาลก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกตที่ดูสวยงาม แล้วพ่อก็พูดออกมาว่า.. “อลิซ พ่อกับแม่มีเรื่องที่จะต้องบอกลูก และเราตกลงกันไว้ว่าเราจะบอกลูกในวันที่ลูกอายุครบสิบห้าปีพอดี...”เสียงทุ้มนุ่มของพ่อกล่าวออกมาอย่างใจเย็น  

    “ครอบครัวของพวกเราเป็น เอสเปอร์ จ๊ะ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายของเราเติบโตพอแล้ว พลังของเอสเปอร์ก็จะปรากฏออกมา จากผมสีดำของลูกกลายเป็นสีน้ำตาลแดง และดวงตาสีน้ำตาลกลายเป็นสีเขียวแล้วแสดงว่า ลูกได้เติบโตจนเป็นเอสเปอร์เต็มตัวแล้วจ๊ะ”แม่ยิ้มหวานออกมา

    “เอสเปอร์?”เด็กสาวทวนคำ

    ทันใดนั้นมือใหญ่ที่อบอุ่นก็แปะลงบนเส้นผมใหม่สีน้ำตาลแดงของอลิซ อลิซจึงเงยหน้าขึ้นไปหาพี่ชายที่อายุห่างกันห้าปี ผู้มีผมสีน้ำตาลแดงและดวงตาสีเขียวมรกตเช่นเดียวกับเธอ

    “พี่เอส...”

    “เอสเปอร์ เป็นชื่อเรียกของมนุษย์กลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขามีพลังพิเศษเฉพาะตัว ถ้าให้พิสูจน์ละก็... อลิซเธอลองคิดในใจอะไรสักอย่างสิ”เอสกล่าวพร้อมดึงมือออกจากหัวของอลิซ

    เดรสสวยมากเลยคะพี่เอส อลิซลองคิดออกมาตามที่พี่ของเธอสั่ง

    “ เดรสสวยมากเลยคะพี่เอส ขอบคุณนะ รู้มะกว่าจะเดินไปซื้อให้กับเธอได้เนี้ย โดนพวกพนักงานสวยแซ่วเอาเรื่องเลยนะเว้ยๆๆ”เอสกล่าวพร้อมเอาตัวน้องสาวเข้ามารัดและขยี้หัวอย่างเมามันส์ เด็กสาวได้แต่กรี๊ดเล็กๆให้พี่ชายของตนหยุดกระทำ

    “พลังของพี่ของอลิซคือ การอ่านใจ ยังไงละจ๊ะ และนี่ก็ส่วนของแม่จ๊ะ”หญิงสาวชี้นิ้วเรียวยาวสวยของตนขึ้นและหมุนเป็นวงกลมเล็กๆรอบหนึ่ง มีดในห้องครัวก็ค่อยๆลอยออกมา และตัดเค้กวันเกิดของอลิซ อย่างลื่นไหล แม่ค่อยๆใช้นิ้วอีกนิ้วหนึ่งให้จานลอยขึ้นมารองรับเค้กที่ตัดออกมาและแจกไปตามที่นั่งของแต่ละคนบนโต๊ะ และยิ้มสวยออกมา

    “พลังของแม่คือ ควบคุมสิ่งของ จ๊ะ”พร้อมกับยิ้มหวานอีกหนึ่งที “และส่วนของคุณพ่อก็เป็นเทเลพอร์ทจ๊ะ ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้นะจ๊ะว่าคืออะไร”

    “เคลื่อนย้ายในพริบตา ว้าว!ครอบครัวของเรานี้เจ๋งกันทุกคนเลยนะคะ! แล้วหนูละคะๆๆ”ดวงตาสีมรกตของอลิซส่องประกายอย่างสดใส และหันไปทางพ่อและแม่ แต่พ่อแม่กลับทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยที่จะบอก เอสเดินเข้ามาที่ตัวนั่งลงข้างและใส่แขนที่มีกล้ามเนื้อโอบน้องสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนของตน

    “อลิซเธอน่ะมีพลังทุกแบบที่เอสเปอร์แต่ละคนจะมี...”เสียงของเอสเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา

    ดวงตาของอลิซยิ่งส่องประกายหนักกว่าเก่า เธอแทบจะลุกขึ้นมาโลดเต้นอย่างดีใจ แต่พอเธอเห็นสีหน้าของพ่อกับแม่ที่เครงเครียดทำให้เธอรู้ว่า สถานการณ์นี้ไม่ใช่ควรจะดีใจ แต่ควรรอฟังสิ่งที่พ่อกับแม่จะพูดมากกว่า

    “อลิซยังไม่รู้สินะ... พวกเราเอสเปอร์ถือเป็นเหล่าอมนุษย์ซึ่งมีเหลืออยู่ไม่ได้มากบนโลกนี้แล้ว และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ยังมีกลุ่มคนลึกลับที่คอยจะไล่จับพวกเราเหล่าเอสเปอร์ไปทำงานสกปรกให้กับพวกมัน และยิ่งลูกที่เป็นเอสเปอร์ที่ถือว่าหายากมากในหมู่เอสเปอร์ที่มีพลังทุกรูปแบบของเอสเปอร์หมด ยิ่งทำให้พวกนั้นต้องการที่จะเอาตัวของลูกไปอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นพ่อจะส่งลูกเข้าไปเรียนที่ Mysterious Academy เพื่อความปลอดภัยของลูกนะ”เสียงที่เอาจริงเอาจังของพ่อทำให้อลิซรู้อย่างแน่นอนว่า นี่ไม่ใช่เรื่องล่อเล่น แต่เป็นเรื่องที่จริงจังเป็นอย่างมาก

    “แม่ส่งใบเข้าเรียนไปให้กับลูกแล้วจ๊ะ โรงเรียนจะเปิดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า และอีกอย่างหนึ่งที่พ่อกับแม่ขอนะ อลิซ...”แม่กล่าวออกมาเสียงสั่น

    “แม่ขอร้องให้ลูกตัดขาดจากเพื่อนหรือคนรู้จักข้างนอกอย่างถาวรเลยนะ”น้ำตาของแม่ไหลออกมา ท่านค่อยๆยกมือขึ้นมาเปิดหน้าของตนเวลาร้องไห้ อลิซซึ่งตกใจกับการที่แม่สั่งห้ามพบเพื่อนหรือคนรู้จักข้างนอก งั้นเธอก็จะไม่ได้เจอเพื่อนๆของเธออีกแล้วงั้นหรือ...

    “เรื่องทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลอลิซ เพราะลูกอายุครบสิบห้าปีและเป็นเอสเปอร์แล้ว และร่างกายของลูกเปลี่ยนไปอย่างนี้ ไม่คิดว่าคนอื่นจะสงสัยบ้างหรือไงกัน”

    เรื่องที่พ่อพูดก็ถูก ผมและดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไป คนข้างนอกก็ต้องคิดว่าเราไม่ได้เป็นมนุษย์แน่นอน “เพราะอย่างงั้นช่วยอดทนอยู่ในบ้านสักเดือนได้ไหม จนกว่าโรงเรียนนั้นจะเปิดเทอมนะอลิซ พ่อกับแม่ขอร้อง”พ่อและแม่และเอสเขยิบเข้ามาใกล้ตัวของอลิซและกอดเธออย่างอบอุ่น อลิซร้องไห้ออกมา ทั้งที่เป็นวันเกิดอายุครบสิบห้าปีของเธอแต่กลับเป็นเรื่องน่าเศร้าเท่าที่เธอเคยสัมผัสอย่างแน่นอน

    อีกหนึ่งเดือนที่เธอจะต้องจากบ้าน...

     

    กลับมาในปัจจุบัน...

    อย่างที่ใครๆหลายคนรู้กันดีโรงเรียนอาเธเดียร์ หรือ  Mysterious Academy นั้นเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงของทวีปกลางตอนกลาง ในการขึ้นไปบนโรงเรียนนั้นเป็นทางเดินลาดชันยาวเกือบสองกิโลเมตรจนกว่าจะถึงอาคารนักเรียนของโรงเรียนซึ่งจะเป็นห้องของผู้อำนวยการ ห้องที่ไว้ใช้ในการแนะนำตัวของนักเรียนใหม่ และพอเดินผ่านอาคารนักเรียน ก็จะเป็นจัตุรัสสวนซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ไว้ให้นักเรียนพักผ่อนหรือนั่งเล่นกันตามๆไป และรอบๆจัตุรัสสวนก็จะเป็นอาคารเรียนของนักเรียนชั้นเรียนต่างๆ และพอเดินเข้าไปลึกที่สุดก็จะเป็นหอพักของนักเรียนไนท์คลาส

    “แฮ่กๆ”เสียงหอบแห้งดังขึ้นมาเรื่อยๆ ในทางเดินขึ้นสู่อาคารนักเรียนซึ่งมีทางยาวเกินกว่าสองกิโลเมตร ตอนนี้อลิซใกล้ที่จะถึงในไม่ช้าแล้ว ซึ่งเธอใช้เวลารวมในการขึ้นเกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้ว

    “ทางเดินขึ้นสองกิโลเมตร ทั้งลาดทั้งชัน...”เธอบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย และเธอก็สังเกตเห็นโคมไฟสีฟ้าจำนวนมากกำลังฉายแสงสว่างรอบทางเดินที่เธอกำลังเดินอยู่ อลิซหยุดเดินสักพักหนึ่งและทิ้งตัวลงข้างทางเพื่อหยุดพัก ซึ่งตลอดทางเดินสองกิโลเมตรจะมีที่นั่งแวะพักให้กับนักเรียนที่จะเดินขึ้นไปยังโรงเรียน แต่นักเรียนบางคนที่บ้านพอมีสตางค์ก็จัดการขับรถมาส่งลูกถึงที่ ผิดกับบางคนที่จะต้องเดินขึ้นมาเอง

    กริ๊ง... กริ๊ง... กริ๊ง... เสียงกระดิ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่อลิซก็ยังได้ยิน มันมาจากทางขึ้นเธอจึงลุกขึ้นและเดินออกไปดูว่าเป็นเสียงอะไร เธอจึงได้เห็น... เด็กสาวที่ดูรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ผมสีดำสนิท และดวงตาสีอะเมทิสต์สวย ในชุดเครื่องแบบสีดำสนิทของนักเรียนไนท์คลาส เธอใส่หมวกทรงสูงสีดำ และที่สำคัญกว่านั้นคือ เธอกำลังขี่ไม้กวาด!

    “อ่ะ เจ้าเป็นใครน่ะ?”เด็กสาวนั่งอยู่บนไม้กวาดได้หยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ อลิซได้แต่ยืนนิ่งค้าง พอสักพักหนึ่งเธอถึงคุมสติได้

    “อ่ะ ชื่อ อลิซ พาร์กแมนคะ ไนท์คลาส ปี 1-A คะ”อลิซกล่าว เด็กสาวตรงหน้าจ้องเธออยู่พักใหญ่ อลิซรู้ในทันทีว่าเด็กสาวตรงหน้าเธอคนนี้กำลังพิจารณาเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วในที่สุดเธอก็ยิ้มหวานออกมา

    “ข้าชื่อ โรสแมรี่ เรียนไนท์คลาสปี 3-A ถือว่าข้าเป็นรุ่นพี่ของเจ้าละกันนะ อลิซ ถ้างั้นก็รีบไปกันเถอะ”รุ่นพี่ที่ชื่อโรสแมรี่กล่าวพร้อมยื่นมือมาให้กับอลิซ

    “ไปไหนเหรอคะ???”อลิซกล่าวถาม โรสแมรี่ยิ้มออกมา

    “ก็ไปอาคารนักเรียนไงละ เพราะถ้าเธอเป็นนักเรียนใหม่ เธอก็ต้องไปรายงานตัวก่อนที่จะเข้าเรียนจริงไหมละ และวันนี้เป็นเปิดเทอมวันแรกเพราะงั้นก็เริ่มเรียนวิชาโฮมรูมช่วงเช้าในตอนสี่ทุ่มตรง ตอนนี้ก็ทุ่มกว่าๆแล้ว ถ้าเจ้าไม่รีบไปงานรายตัวก็ไม่ดีนะ ในฐานะที่ข้าเป็นรุ่นพี่ ข้าจะพาเจ้าไปส่งให้เอง เอาละขึ้นมาสิ เอ๊ะอย่าบอกนะว่าเจ้าขี่ไม้กวาดไม่เป็น ดูๆไปแล้วเจ้าก็เหมือน แม่มด อย่างพวกเรา แต่คงไม่ใช่สินะ”โรสแมรี่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้อลิซ

    อลิซส่ายหน้าช้าๆ

    “รุ่นพี่ล่วงหน้าไปก่อนเลยก็ได้คะ เดี๋ยวฉันจะตามไปอีกทีคะ”

    โรสแมรี่ที่เห็นดังนั้นจึงกลับเข้าไปในเส้นทางเดิน “ถ้างั้นเจอกันเดินบนนะ” เธอกล่าวพร้อมบินไปอย่างรวดเร็วจนเกิดแรงลมแรงขึ้น อลิซได้แต่มองแล้วยิ้มน้อยๆออกมา

     

    โรสแมรี่ขี่ไม้กวาดบินมาได้นานพอควรแล้ว และในอีกไม่ช้าก็จะถึงอาคารนักเรียนซึ่งเด็กใหม่จะต้องมารายงานตัว เธอเหลือบไปมองทางข้างหลังก่อนที่จะหันหน้ากลับมายังทางเดิม เธอแอบรู้สึกเป็นห่วงรุ่นน้องที่เธอพึ่งเจอไปเมื่อกี้ ตอนนี้ทุ่มครึ่งแล้ว อากาศจะเริ่มเย็นลงเรื่อยๆและในตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงซึ่งจะยังหนาวอยู่ถึงจะไม่หนาวถึงขั้นฤดูหนาวก็เถอะ แต่เด็กผู้หญิงคนเดียวกลางทางยาวห้ากิโลนี่คงยากไป ในไม่ช้าเธอก็มาถึงหน้าอาคารนักเรียน ข้างหน้าเธอได้เห็นเงาลางๆกำลังโบกมือมาทางที่เธออยู่ พอโรสแมรี่จ้องอยู่นานสักพัก เธอก็แทบจะหุบปากลงไม่ได้

    “รุ่นพี่โรสแมรี่!”อลิซกำลังโบกมือไปมาให้กับโรสแมรี่ โรสแมรี่ได้แต่อ้าปากค้าง เธอรีบบินไปใกล้ๆอลิซและกระโดดลงจากไม้กวาดมาหาเธออย่างรวดเร็ว

    “เจ้าขึ้นมาได้เช่นไรกัน! เจ้าทำได้เช่นไร ในเมื่อเจ้าดูเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นนี่นา!”โรสแมรี่เขย่าตัวอลิซอย่างอยากรู้อยากเห็น พอโรสแมรี่เลิกเขย่าอลิซก็ยิ้มสวยออกมา

    “อย่าลืมสิคะ ว่ามนุษย์เรามีหลายประเภท ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นคะ”

    โรสแมรี่ปล่อยมือออกจากตัวอลิซและเริ่มมองดูอลิซตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกรอบหนึ่ง ในหัวของเธอกำลังคิดอย่างหนักและคำหนึ่งก็ได้ออกมาจากปากของเธอ...

    “มนุษย์พลังพิเศษ”

    คำๆนั้นทำให้อลิซยิ้มออกมา “ฉันเป็น เอสเปอร์ คะ”

    “ว้าว!เอสเปอร์งั้นเหรอ งั้นก็พลังจิตสินะ เธอมีพลังจิตแบบไหนละ บอกหน่อยสิ”โรสแมรี่เริ่มเขย่าตัวอลิซอีกรอบหนึ่ง “ถ้าจากตรงนั้นมาตรงนี้ได้ ก็คงไม่พ้น เทเลพอร์ตสินะ”โรสแมรี่เริ่มที่จะวิเคราะห์

    “คะ แต่พอดีฉันเป็นพวกพิเศษหน่อยนะคะ เลยมีพลังจิตทุกแบบน่ะคะ”อลิซชี้นิ้วขึ้น กระเป๋าเดินทางข้างๆตัวของเธอก็ลอยขึ้นมา โรสแมรี่ได้แต่ทึ้งในพลังของตัวอลิซ ทันใดนั้นเธอก็ตั้งสติได้

    “งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ อย่าลืมสิว่าเธอต้องเข้าไปรายงานตัวน่ะ”โรสแมรี่ชวนอลิซเข้าไปในอาคารนักเรียนที่เป็นตึกขนาดใหญ่ สีออกมนเทา และดูสไตล์ยุโรปยุคกลาง อลิซเลิกใช้พลังจิตและหิ้วกระเป๋าเดินทางของตนแล้วเดินตามผู้เป็นรุ่นพี่ไป

    พอเดินเข้ามาใกล้ประตูทางเข้า ประตูก็เปิดออก แสงจากข้างในส่องแสงแยงตาเป็นอย่างมากจนอลิซต้องหรี่ตาเล็กน้อย ข้างในอาคารนักเรียนประดับตกแต่งไปด้วยของหรูหรา ทางเดินมีพรมสีแดงปูอยู่ตลอดทางเดิน และพอเดินเข้าในสุดก็จะเป็นห้องของอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน

    โรสแมรี่หยุดยืนที่หน้าประตูก่อน และเคาะประตูสักสองสามครั้งและเปิดประตูเข้าไป

    “ขออนุญาตคะ”โรสแมรี่กล่าวอย่างสุภาพและเดินเข้าไปยืนที่กลางห้อง อลิซจึงค่อยๆตามเข้าไปในห้อง ห้องของอาจารย์ใหญ่นั้นตกแต่งเหมือนกับข้างนอก กลางห้องมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่และข้างหลังเป็นเก้าอี้ขนาดใหญ่ที่หันหน้าออกไปยังหน้าต่างข้างหลัง พออลิซเดินเข้ากลางห้องแล้ว เก้าอี้นั้นก็หมุนออกมา ให้เธอเห็นเด็กชายตัวเล็กโดยอายุน่าจะประมาณเพียงแค่ห้าขวบ เส้นผมสีทองเงาสวยตัดเป็นทรงรังนก ดวงตากลมโตสีท้องทะเลลึก บนตักเขากำลังลูบหลังแมวเปอร์เซียสีขาวสวยอยู่

    “ชื่อไรเอ่ย สาวน้อย”เด็กชายกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มเล็กสไตล์เด็กวัยใส

    อลิซซึ่งรู้ว่าถามชื่อตัวเองจึงกล่าว “อลิซ พาร์กเกอร์ ไนท์คลาสปี 1-A คะ ยินดีที่ได้รู้จักคะ”เธอโค้งตัวอย่างสุภาพค้างไว้สักพักแล้วก็กลับมายืดตรงเหมือนเดิม

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะอลิซ ฉันชื่อ เรด เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนอาเธเดียร์นะ”เสียงใสของเด็กชายตัวเล็กๆดังขึ้น “ถ้าเธอมีอะไรสงสัยก็ถามฉันไม่ก็เพื่อนๆรุ่นพี่ในโรงเรียนได้เลยนะ อย่างโรสแมรี่ก็ถามได้เลย”

    “ค่ะ!”เด็กสาวรับปาก ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ยิ้มออกมาที่มุมปาก พร้อมหันไปทางโรสแมรี่ที่ยืนอยู่ข้างๆอลิซ “โรสแมรี่พาอลิซไปชมโรงเรียนหน่อยก็แล้วกันนะ แล้วก็หาห้องพักให้อลิซด้วยละ”เรดออกคำสั่งแก่นักเรียนของตน โรสแมรี่จึงโค้งตัวแล้วดึงตัวอลิซเดินออกจากห้องไป อลิซจึงได้แค่พยักหน้า เรดจึงโบกมือให้กับอลิซอย่างเป็นกันเอง

    ทันที่ที่ประตูปิดลง เรดเริ่มหมุนเก้าอี้เล่นอีกรอบ แต่พอเก้าอี้หันมาอีกรอบหนึ่งกลับเป็นชายหนุ่มในวัยไม่เกินสี่สิบ ผมสีทองยาวสวยถึงกลางหลัง อยู่ในชุดสูทสีดำสนิทและบนตักของเขาก็คงยังเป็นแมวเปอร์เซียตัวเดิมอยู่ เขาเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมา คลิกเข้าไปดูในกล่องข้อความแล้วอ่านข้อความของเพื่อนเก่าอีกรอบหนึ่ง

    ช่วยดูแลลูกสาวของฉันด้วยนะ อลิซน่ะเป็นเด็กพิเศษที่สักหลายร้อยปีจะเกิดขึ้นมาคนหนึ่ง ถ้าหากพวกดาร์กไลท์รู้ว่าอลิซนั้นมีพลังที่พิเศษกว่าคนอื่นละก็ พวกมันต้องพาตัวอลิซไปทำในเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นฉันของฝากเธอไว้ในรั้วโรงเรียนของนายด้วยนะ

    อดัม พาร์กแมน.

     

    ทันทีที่อ่านจบอีกรอบเรดก็ยิ้มที่มุมปากออกมา แล้วลูบหัวแมวเปอร์เซียนบนตักต่อไป

    “ได้เลยเพื่อนยาก ฉันจะไม่ให้นายผิดหวัง ฉันจะดูแลเธอเป็นอย่างดีเลย.....”

     

     

    - Chapter 1 END-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×