ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมเก็บตัวร้ายได้ที่ข้างทาง

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ติวเตอร์ถัง (1)

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 63


     

    พอเลิกเรียนถังชุนก็แวะซื้อกาแฟกระป๋อง แล้วเดินเนือยๆ ออกมา แค่คิดว่าต้องเดินไกลกว่าปกติก็เซ็งแล้ว ดีที่เว่ยเหวินเป่ารู้งาน สั่งให้ลูกน้องขี่รถสกู๊ตเตอร์มารับ ถังชุนเลยอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย

    ห้องสมุดที่ถังชุนนัดเจอกับเว่ยเหวินเป่าอยู่ห่างจากโรงเรียนไปประมาณสามร้อยเมตร ความที่รอบบริเวณรายล้อมด้วยสถานศึกษาจึงเปิดให้บริการดึก พวกหนังสือดีๆ กับสื่อการเรียนการสอนก็มีเยอะ ช่วงปิดภาคเรียนถังชุนเลยมาขลุกอยู่ที่นี่สัปดาห์ละหลายวัน

    ถังชุนไปถึงห้องสมุดตอนสามทุ่มสิบแปดนาที ตอนนี้ยังเพิ่งต้นเทอมจึงมีผู้คนอยู่ประปราย ข้อดีคือไม่แออัด ส่วนข้อเสียคือห้องประชุม ห้องคอมพิวเตอร์ ตลอดจนพื้นที่สันทนาการจะปิดให้บริการตั้งแต่หัวค่ำ ถังชุนเพิ่งนึกได้เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ยังไม่ทันโทรออกก็มีข้อความเด้งขึ้นมาก่อนว่าอยู่ที่ห้องอ่านนิทาน พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องกระจก อยู่ติดกับโถงใหญ่ตรงทางเข้า มองตรงไปก็เห็นเลย

    เว่ยเหวินเป่าโบกมือเรียกหย็อยๆ ส่วนหวังชิงส่งยิ้มหวานให้ เธอคนนี้เป็นสาววัยสิบแปดที่สวยสดใส เอกลักษณ์บนใบหน้าคือดวงตาสีน้ำตาลกลมโตกับแก้มป่องๆ น่าหยิก

    “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเสี่ยวชุน” หวังชิงทักทายอย่างร่าเริง

    หวังชิงชอบทำตัวเป็นพี่สาวเพราะถือว่าอายุมากกว่า แม้จะเรียนอยู่ชั้นม.6 เหมือนกันแต่เกิดกันคนละปี ตามกฎกระทรวงใครที่เกิดหลัง 1 กันยายน จะต้องเข้าเรียนในปีถัดไป ถังชุนเกิดวันที่ 1 กันยายนพอดี เลยได้เลือกว่าจะเข้าเรียนเลยหรือรอปีหน้า ครอบครัวของเขาเลือกอย่างแรก ถังชุนเลยกลายเป็นน้องเล็กในชั้นตลอดกาล

    “เธอสบายดีนะ”

    “ก็อย่างที่เห็น ช่วงนี้นอนเต็มอิ่ม ผิวก็เลยใสเด้งสุดๆ ว่าแต่....” หวังชิงเอียงคอมองอย่างพิจารณา “ไปทำอะไรมาน่ะ ผิวใสกริ๊งเลย เนียนจนน่าอิจฉา” ว่าแล้วก็อดที่จะเอานิ้วจิ้มแก้มไม่ได้

    หวังชิงโตที่ต่างประเทศทั้งยังเรียนในโรงเรียนนานาชาติเลยไม่ถือสาเรื่องหยอกล้อจับเนื้อต้องตัวเพื่อนต่างเพศ ช่วงแรกที่คบกันกับเว่ยเหวินเป่า ฝ่ายชายเลยได้หึงหน้ามืดทุกวัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะหวังชิงบอกชัดว่าเธอเป็นคนแบบนี้ ถ้าเขาไม่ไว้ใจก็เลิกกันไปซะ เว่ยเหวินเป่าเลยต้องปรับตัว หวังชิงเองก็ยอมลงให้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะสัญญาใจข้อสำคัญว่าจะไม่จับถังชุนมาฟัดเพราะความมันเขี้ยว

    เว่ยเหวินเป่าไว้ใจทั้งแฟนสาวและถังชุน ที่ไม่ชอบให้จับเนื้อต้องตัวกันมากเกินไปเป็นเพราะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม เขาน่ะเป็นเพื่อนซี้เพียงหนึ่งเดียวของถังชุนเชียวนะ แค่โอบบ่านิดหน่อยยังถูกบ่น ดังนั้นต่อให้เป็นสุดที่รักก็ห้ามฉวยโอกาส

    ถังชุนได้รับความเอ็นดูอย่างล้นเหลือเพราะโตช้ากว่าคนอื่น ความที่เกิดมาผอมบางหน้าสวยแถมไม่ค่อยสูง ตอนม.ต้นเลยถูกเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงบ่อยๆ ดีหน่อยที่พออยู่ ม.5 ร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เขาสูงขึ้นเกือบหนึ่งฟุต ใบหน้าเริ่มมีไรหนวดขึ้นมาบางๆ ถึงจะบางมากจนแทบมองไม่เห็นก็ยังนับว่ามี เจ้าตัวเลยมั่นใจไร้สติว่าได้รับการปลดแอกแล้ว

    “แน่ะ...ทำเงียบ สารภาพกับพี่สาวมาเดี๋ยวนี้ว่าใช้ครีมอะไร” หวังชิงยังสงสัยไม่เลิก

    “ไม่ได้ทำอะไรนี่” ตอบพลางเอียงศีรษะหลบนิ้วมือ

    “น่าอิจฉาเกินไปแล้ว” หวังชิงทำแก้มป่อง เธอดูแลตัวเองแทบตายสิวยังขึ้น โลกช่างไม่ยุติธรรมเลย

    “โลกนี้ไม่เคยยุติธรรมหรอก” ถังชุนเอ่ยเสียงเรียบราวกับอ่านใจได้

    “อย่ามาใช้พลังจิตกับฉันนะ” หวังชิงเล่นมุกด้วยการทำท่าขนลุก

    เว่ยเหวินเป่าปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันไป ส่วนตัวเองเดินไปหยิบเบาะรองนั่งที่มุมห้องมาให้ถังชุนอย่างเอาใจ พอนั่งลงแล้วถังชุนก็บอกหัวข้อที่จะไลฟ์สด

    “ฉันจะสอนหนังสือเหวินเป่า”

    “แล้วยังไงต่อ” เว่ยเหวินเป่าถาม

    “แค่นี้แหละ”

    “แค่นี้!

    คนที่คาดหวังเอาไว้มากหน้าเจื่อน เขาคุยอวดกับหวังชิงเอาไว้เยอะว่าถังชุนมีไอเดียแปลกใหม่มานำเสนอ เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังหวัง ลูกผู้ชายอย่างเว่ยเหวินเป่าก็หันไปทางคนรักหมายจะกล่าวคำขอโทษ ทว่าดวงตาของหวังชิงกลับเป็นประกาย

    “ก็ดีนะน่าสนุกออก ตั้งชื่อไลฟ์ว่า ลูกพี่เว่ยกับติวเตอร์ถังเป็นไง”

    หลังจากมีข้อความร้ายๆ กระหน่ำเข้ามาในอินบ็อกซ์ หวังชิงก็ไม่สนุกกับการไลฟ์สดอีกต่อไป ลำพังต่อว่าเธอ หวังชิงไม่ถือสาอะไร แต่นี่พาดพิงถึงคนรักกับครอบครัวเธอด้วย หวังชิงย่อมทนไม่ไหว เธอไม่รู้ว่าจะทนยิ้มเวลาที่มีคอมเมนต์แย่ๆ เด้งขึ้นมาได้ไหม ทั้งยังไม่อยากให้คนที่ติดตามรับรู้ถึงอารมณ์ขุ่นมัว จึงตั้งใจหยุดพักเพื่อปรับสภาพจิตใจ แม้ว่าการไม่ได้ทำงานอดิเรกที่รักจะทำให้รู้สึกเหงาก็ตาม

    วันนี้สภาพจิตใจของหวังชิงก็ใช่ว่าจะพร้อมนัก แต่คอนเทนต์ที่ต่างออกไปทำให้เธอไม่รู้สึกกดดัน ไลฟ์สดวันนี้หวังชิงเป็นเพียงพิธีกร ส่วนตัวหลักคือเว่ยเหวินเป่ากับถังชุน เธอก็แค่ถ่ายสองคนนี้แล้วบรรยายไป ไม่จำเป็นต้องออกกล้องมาก

    “จะทำจริงเหรอ เห็นหน้าเค้าแล้วพวกแฟนๆ ตัวเองจะด่าอีกไหมอ่ะ” เว่ยเหวินเป่าหันไปพูดกับคนรัก

    ครั้งแรกที่ได้ยินเว่ยเหวินเป่าพูดเสียงสองถังชุนถึงกับขนลุกเกรียว ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่สามารถทำใจให้ชินได้

    “ไม่เป็นไรหรอก ตัวเองน่ะเท่จะตาย จิตใจก็ดี คนด่ามีแต่คนขี้อิจฉาเท่านั้นแหละ”

    หวังชิงเป็นผู้หญิงที่กล้าพูดความในใจออกมาได้อย่างเปิดเผย แม้ภาพลักษณ์เธอจะเป็นสาวน้อยที่ดูใสซื่อ แต่เนื้อแท้เป็นจำพวกสู้คน ถ้าโมโหขึ้นมาแม่ฟาดไม่เลี้ยง ตอนมีคนพูดเหน็บเว่ยเหวินเป่า เธอก็โต้กลับกลางไลฟ์สดทันทีว่าถึงแฟนเธอไม่หล่อแต่ก็มีข้อดีมากมาย ทั้งยังยืดอกยอมรับว่าความรวยก็เป็นหนึ่งในข้อดีเหล่านั้น ครอบครัวเธอเองก็มีฐานะ ทำไมต้องเลือกผู้ชายที่จนกว่าให้มาเกาะกินด้วย

    “ชิงชิง...” เว่ยเหวินเป่ามองอย่างซาบซึ้ง

    ถังชุนชักจะเหม็นกลิ่นความรัก เลยหันไปค้นกระเป๋านักเรียนของเว่ยเหวินเป่าแทน แล้วก็เป็นดังคาด สิ่งที่อยู่ข้างในกระเป๋าอันหนักอึ้งแทบไม่มีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับการเรียนเลย ไม่มีดินสอปากกาสักด้าม แต่ดันมีไม้บรรทัดฟุตเหล็กขนาดยี่สิบสี่นิ้วนอนนิ่งอยู่ชัดเจนมากว่าไม่ได้มีเอาไว้ขีดเส้น

    ถังชุนจำใจต้องหยิบเครื่องเขียนกับหนังสือเรียนของตัวเองขึ้นมาวางบนโต๊ะ เขากับเว่ยเหวินเป่าเรียนคนละแผนการเรียน แต่วิชาภาษากับคณิตศาสตร์ใช้ตำราเรียนเล่มเดียวกัน

    เตรียมของเสร็จก็หันมานัดแนะคิวคร่าวๆ กับหวังชิง คุยรายละเอียดได้สิบนาทีก็พร้อมไลฟ์สด

    “ที่รักไม่มีบทให้เค้าเหรอ”เว่ยเหวินเป่าถาม

    “ไม่ต้องหรอก ที่รักทำตัวให้เป็นธรรมชาติก็พอ”หวังชิงว่า

    “อย่าฝืนยิ้มโง่ๆ ล่ะ มันน่ากลัว” ถังชุนเสริม

    เว่ยเหวินเป่าไม่กล้าเถียงเลยได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก แล้วการไลฟ์สดก็เริ่มต้นขึ้น

    Hello everyone! I’m back.” ชิงชิงทักทายผู้คนด้วยรอยยิ้มสดใสอันเป็นเอกลักษณ์

    แม้จะเป็นการแจ้งเตือนก่อนไลฟ์สดแค่สิบห้านาที ก็ยังมีคนมารอชมหลายร้อย ไม่กี่อึดใจคอมเมนต์ก็ขึ้นมาเป็นพรืด

     

    [เย่! นางฟ้าชิงชิงกลับมาแล้ว ^O^]

    [พี่สาวคิดถึงเธอมากเลยนะแองจี้]

    [เสี่ยวชิงในชุดนักเรียน ไม่ได้เห็นนานแล้วนะเนี่ย ฟินสลบ O///O]

    [Hi Angelina.]

    [คิดถึงเธอจังเลย ที่บ้านอนุญาตให้ไลฟ์แล้วใช่ไหม ขอบคุณนะคร้าบคุณพ่อตา ^3]

    [กรี๊ดดดพี่แองจี้ วันนี้ก็ยังเปล่งประกายเหมือนเดิมเลยนะคะ ไม่สิสวยขึ้นรึเปล่าเนี่ยสวยขึ้นรึเปล่า ป.ล. สีลิปพี่น่ารักจัง หวังว่าวันนี้จะรีวิวเครื่องสำอางนะ]

     

    แองเจลิน่าเป็นชื่อภาษาอังกฤษของหวังชิง ตอนแรกที่ไลฟ์สดเธอเลยแนะนำตัวว่าชื่อแองจี้ แต่หลายปีก่อนเธอใช้ชื่อจริงตอนถ่ายแบบเพราะคิดแค่ว่าจะทำเล่นๆ บังเอิญมีคนจำได้ ผู้ชมกว่าครึ่งเลยเรียกเธอว่า ชิงชิงบ้าง เสี่ยวชิงบ้าง

    “ขอบคุณทุกคนที่ส่งเสียงทักทายนะคะ จุ๊ๆ ไว้นะ วันนี้แองจี้แอบมาไลฟ์ ไม่ได้บอกแด๊ดดี้ สี่ทุ่มครึ่งก็ต้องกลับบ้านแล้ว”

    หวังชิงไม่อยากให้พวกแอนตี้แฟนสะใจที่ทำให้เธอหมดกำลังใจได้ ก็เลยโกหกว่าเที่ยวเล่นมากไปจนโดนบ่น ทำให้ต้องงดไลฟ์สดสักระยะ ทั้งที่ความจริงที่บ้านสนับสนุนยิ่งกว่าเรื่องเรียนอีก แฟนคลับอันดับหนึ่งอย่างแด๊ดดี้ถึงกับบ่นเหงาที่ลูกสาวหายไป

    มีข้อความโอดครวญตามมามากมายเมื่อรู้ว่าหวังชิงจะไลฟ์สดไม่นาน หญิงสาวขอโทษคนดู แล้วเริ่มแนะนำเข้าสู่รายการ

    “เนื่องจากตอนนี้เปิดเทอมแล้ว แองจี้ก็เลยจะพาทุกคนมารู้จักกับติวเตอร์ถังค่ะ” หญิงสาวผายมือไปทางถังชุนพร้อมกับแพนกล้องไป

    “สวัสดีครับ” ถังชุนค้อมศีรษะน้อยๆ ให้กล้อง

    สีหน้าของเขายังนิ่งอยู่แต่ไม่ดูเก้อเขิน ถือว่าใช้ได้สำหรับการไลฟ์สดครั้งแรก

    “วันนี้ติวเตอร์ถังจะมาสอนหนังสือให้ที่รักของแองจี้ค่ะ”

    พอกล้องแพนไปที่หน้าเว่ยเหวินเป่า ก็มีเสียงโห่ไล่ตามมา บางคนถึงกับกดออกไปเลย แต่หวังชิงก็ไม่สนใจ เธอขยับไปนั่งข้างๆ คนรัก แล้วบอกให้ทุกคนใจดีกับเหวินเป่าของเธอหน่อย

    “วันนี้ที่รักจะตั้งใจเรียนใช่ไหม”

    “ครับผม! ต่อให้ไม่รู้เรื่องก็จะตั้งใจครับ” เว่ยเหวินเป่าตอบเสียงดังฟังชัด

    “ถ้าฉันสอนแล้วนายยังไม่เข้าใจ ก็เป็นไอ้โคตรโง่แล้ว” ถังชุนหยิบไม้บรรทัดเหล็กมาชี้หน้า

    ดูเหมือนผู้คนจะชอบใจคำพูดของถังชุนไม่น้อย เพราะมีสติกเกอร์หัวเราะเด้งขึ้นมารัวๆ

     

    [พูดได้ตรงใจมากไอ้หนุ่ม (^O^)P]

    [อ๊าย! หนุ่มแว่นละค่ะทุกคน กร๊าวใจสุดๆ]

    [มาๆ พี่น้องมาดูไอ้โคตรโง่กัน]

    [วันนี้เห็นแก่ที่แองจี้กลับมาจะไม่อารมณ์เสียกับ ของประกอบฉาก ละกัน -_-*]

     

    เว่ยเหวินเป่าที่น่าสงสารถูกลดตำแหน่งจากคนไปเป็นสิ่งของเสียแล้ว ถึงกระนั้นก็ยังดีกว่าถูกด่า

    “เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มเรียนกันดีกว่าค่ะ แองจี้ก็จะเรียนไปด้วย ใครมีอะไรสงสัยก็ยกมือขึ้นมาถามติวเตอร์ถังได้นะคะ”

    กล้องกลับไปจับภาพสองหนุ่มอีกครั้ง ขณะนี้ถังชุนกำลังยื่นหนังสือเรียนไปให้เว่ยเหวินเป่า

    “เลือกบทที่นายไม่เข้าใจมา”

    เว่ยเหวินเป่าพลิกหนังสือทีละหน้า ยิ่งเปิดดูหัวคิ้วของเขาก็ยิ่งยับย่น แปลกจริงๆ ทั้งที่จำได้ว่าเรียนไปแล้ว แต่ทำไมยิ่งดูกลับยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังอ่านภาษาต่างดาว เมื่อไม่เข้าใจไปเสียหมด เว่ยเหวินเป่าก็ยืดอกยอมรับแบบแมนๆ

    “ช่วยเริ่มสอนให้ใหม่ตั้งแต่ต้นเลยได้ไหมครับติวเตอร์ถัง”

    “ไม่ได้เอาหนังสือชั้นประถมมา”

    “ไม่ต้องขนาดนั้นโว้ย” คนที่ยอมก้มหัวให้เลิกสุภาพทันที

    “ม.ต้นก็ไม่มี”

    “หมายถึงว่าให้สอนของม.6 เทอมหนึ่ง” เว่ยเหวินเป่าทำเสียงดังใส่คนแกล้งมึน

    “ไหวแน่นะ”

    “เอ่อ!

    ถังชุนรู้จักเพื่อนดีเลยพ่นโจทย์เลขของชั้นม.ต้น ออกมา เจอการโจมตีด้วยตัวเลขเข้าไป ลูกพี่เว่ยถึงกับติดสตั๊น ระหว่างนั้นถังชุนเลยเขียนโจทย์ลงบนกระดาษ แล้วยื่นให้ดูแบบถนัดตา

    “ให้เวลาห้านาที ตอบผิดโดน” ว่าแล้วก็หยิบไม้บรรทัดเหล็กมาโบกสะบัด

    “เฮ้ย!…เอาจริงดิ” เว่ยเหวินเป่าทำหน้าเหวอ

    “เวลาหมดไปครึ่งนาทีแล้ว เร็วเข้า รีบทำ แก้โจทย์ ปฏิบัติ!” ถังชุนทำเป็นก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ

    “ไอ้บ้า! ครึ่งนาทีอะไรพึ่งจะสิบวิ”

    “เหลือสี่นาทีแล้ว”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×