คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ติวเตอร์ถัง (1)
พอเลิกเรียนถังชุนก็แวะซื้อกาแฟกระป๋อง
แล้วเดินเนือยๆ ออกมา แค่คิดว่าต้องเดินไกลกว่าปกติก็เซ็งแล้ว ดีที่เว่ยเหวินเป่ารู้งาน
สั่งให้ลูกน้องขี่รถสกู๊ตเตอร์มารับ ถังชุนเลยอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย
ห้องสมุดที่ถังชุนนัดเจอกับเว่ยเหวินเป่าอยู่ห่างจากโรงเรียนไปประมาณสามร้อยเมตร
ความที่รอบบริเวณรายล้อมด้วยสถานศึกษาจึงเปิดให้บริการดึก พวกหนังสือดีๆ กับสื่อการเรียนการสอนก็มีเยอะ
ช่วงปิดภาคเรียนถังชุนเลยมาขลุกอยู่ที่นี่สัปดาห์ละหลายวัน
ถังชุนไปถึงห้องสมุดตอนสามทุ่มสิบแปดนาที
ตอนนี้ยังเพิ่งต้นเทอมจึงมีผู้คนอยู่ประปราย ข้อดีคือไม่แออัด
ส่วนข้อเสียคือห้องประชุม ห้องคอมพิวเตอร์ ตลอดจนพื้นที่สันทนาการจะปิดให้บริการตั้งแต่หัวค่ำ
ถังชุนเพิ่งนึกได้เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ยังไม่ทันโทรออกก็มีข้อความเด้งขึ้นมาก่อนว่าอยู่ที่ห้องอ่านนิทาน
พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องกระจก อยู่ติดกับโถงใหญ่ตรงทางเข้า มองตรงไปก็เห็นเลย
เว่ยเหวินเป่าโบกมือเรียกหย็อยๆ
ส่วนหวังชิงส่งยิ้มหวานให้ เธอคนนี้เป็นสาววัยสิบแปดที่สวยสดใส เอกลักษณ์บนใบหน้าคือดวงตาสีน้ำตาลกลมโตกับแก้มป่องๆ
น่าหยิก
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเสี่ยวชุน”
หวังชิงทักทายอย่างร่าเริง
หวังชิงชอบทำตัวเป็นพี่สาวเพราะถือว่าอายุมากกว่า
แม้จะเรียนอยู่ชั้นม.6 เหมือนกันแต่เกิดกันคนละปี ตามกฎกระทรวงใครที่เกิดหลัง 1
กันยายน จะต้องเข้าเรียนในปีถัดไป ถังชุนเกิดวันที่ 1 กันยายนพอดี เลยได้เลือกว่าจะเข้าเรียนเลยหรือรอปีหน้า
ครอบครัวของเขาเลือกอย่างแรก ถังชุนเลยกลายเป็นน้องเล็กในชั้นตลอดกาล
“เธอสบายดีนะ”
“ก็อย่างที่เห็น ช่วงนี้นอนเต็มอิ่ม
ผิวก็เลยใสเด้งสุดๆ ว่าแต่....” หวังชิงเอียงคอมองอย่างพิจารณา “ไปทำอะไรมาน่ะ
ผิวใสกริ๊งเลย เนียนจนน่าอิจฉา” ว่าแล้วก็อดที่จะเอานิ้วจิ้มแก้มไม่ได้
หวังชิงโตที่ต่างประเทศทั้งยังเรียนในโรงเรียนนานาชาติเลยไม่ถือสาเรื่องหยอกล้อจับเนื้อต้องตัวเพื่อนต่างเพศ
ช่วงแรกที่คบกันกับเว่ยเหวินเป่า ฝ่ายชายเลยได้หึงหน้ามืดทุกวัน
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะหวังชิงบอกชัดว่าเธอเป็นคนแบบนี้
ถ้าเขาไม่ไว้ใจก็เลิกกันไปซะ เว่ยเหวินเป่าเลยต้องปรับตัว
หวังชิงเองก็ยอมลงให้ในหลายเรื่อง
โดยเฉพาะสัญญาใจข้อสำคัญว่าจะไม่จับถังชุนมาฟัดเพราะความมันเขี้ยว
เว่ยเหวินเป่าไว้ใจทั้งแฟนสาวและถังชุน
ที่ไม่ชอบให้จับเนื้อต้องตัวกันมากเกินไปเป็นเพราะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม
เขาน่ะเป็นเพื่อนซี้เพียงหนึ่งเดียวของถังชุนเชียวนะ แค่โอบบ่านิดหน่อยยังถูกบ่น
ดังนั้นต่อให้เป็นสุดที่รักก็ห้ามฉวยโอกาส
ถังชุนได้รับความเอ็นดูอย่างล้นเหลือเพราะโตช้ากว่าคนอื่น
ความที่เกิดมาผอมบางหน้าสวยแถมไม่ค่อยสูง ตอนม.ต้นเลยถูกเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงบ่อยๆ
ดีหน่อยที่พออยู่ ม.5 ร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เขาสูงขึ้นเกือบหนึ่งฟุต
ใบหน้าเริ่มมีไรหนวดขึ้นมาบางๆ ถึงจะบางมากจนแทบมองไม่เห็นก็ยังนับว่ามี เจ้าตัวเลยมั่นใจไร้สติว่าได้รับการปลดแอกแล้ว
“แน่ะ...ทำเงียบ
สารภาพกับพี่สาวมาเดี๋ยวนี้ว่าใช้ครีมอะไร” หวังชิงยังสงสัยไม่เลิก
“ไม่ได้ทำอะไรนี่”
ตอบพลางเอียงศีรษะหลบนิ้วมือ
“น่าอิจฉาเกินไปแล้ว”
หวังชิงทำแก้มป่อง เธอดูแลตัวเองแทบตายสิวยังขึ้น โลกช่างไม่ยุติธรรมเลย
“โลกนี้ไม่เคยยุติธรรมหรอก”
ถังชุนเอ่ยเสียงเรียบราวกับอ่านใจได้
“อย่ามาใช้พลังจิตกับฉันนะ” หวังชิงเล่นมุกด้วยการทำท่าขนลุก
เว่ยเหวินเป่าปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันไป
ส่วนตัวเองเดินไปหยิบเบาะรองนั่งที่มุมห้องมาให้ถังชุนอย่างเอาใจ
พอนั่งลงแล้วถังชุนก็บอกหัวข้อที่จะไลฟ์สด
“ฉันจะสอนหนังสือเหวินเป่า”
“แล้วยังไงต่อ” เว่ยเหวินเป่าถาม
“แค่นี้แหละ”
“แค่นี้!”
คนที่คาดหวังเอาไว้มากหน้าเจื่อน
เขาคุยอวดกับหวังชิงเอาไว้เยอะว่าถังชุนมีไอเดียแปลกใหม่มานำเสนอ
เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังหวัง
ลูกผู้ชายอย่างเว่ยเหวินเป่าก็หันไปทางคนรักหมายจะกล่าวคำขอโทษ
ทว่าดวงตาของหวังชิงกลับเป็นประกาย
“ก็ดีนะน่าสนุกออก ตั้งชื่อไลฟ์ว่า ‘ลูกพี่เว่ยกับติวเตอร์ถัง’
เป็นไง”
หลังจากมีข้อความร้ายๆ
กระหน่ำเข้ามาในอินบ็อกซ์ หวังชิงก็ไม่สนุกกับการไลฟ์สดอีกต่อไป ลำพังต่อว่าเธอ
หวังชิงไม่ถือสาอะไร แต่นี่พาดพิงถึงคนรักกับครอบครัวเธอด้วย หวังชิงย่อมทนไม่ไหว
เธอไม่รู้ว่าจะทนยิ้มเวลาที่มีคอมเมนต์แย่ๆ เด้งขึ้นมาได้ไหม ทั้งยังไม่อยากให้คนที่ติดตามรับรู้ถึงอารมณ์ขุ่นมัว
จึงตั้งใจหยุดพักเพื่อปรับสภาพจิตใจ
แม้ว่าการไม่ได้ทำงานอดิเรกที่รักจะทำให้รู้สึกเหงาก็ตาม
วันนี้สภาพจิตใจของหวังชิงก็ใช่ว่าจะพร้อมนัก
แต่คอนเทนต์ที่ต่างออกไปทำให้เธอไม่รู้สึกกดดัน ไลฟ์สดวันนี้หวังชิงเป็นเพียงพิธีกร
ส่วนตัวหลักคือเว่ยเหวินเป่ากับถังชุน เธอก็แค่ถ่ายสองคนนี้แล้วบรรยายไป
ไม่จำเป็นต้องออกกล้องมาก
“จะทำจริงเหรอ
เห็นหน้าเค้าแล้วพวกแฟนๆ ตัวเองจะด่าอีกไหมอ่ะ” เว่ยเหวินเป่าหันไปพูดกับคนรัก
ครั้งแรกที่ได้ยินเว่ยเหวินเป่าพูดเสียงสองถังชุนถึงกับขนลุกเกรียว
ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่สามารถทำใจให้ชินได้
“ไม่เป็นไรหรอก ตัวเองน่ะเท่จะตาย
จิตใจก็ดี คนด่ามีแต่คนขี้อิจฉาเท่านั้นแหละ”
หวังชิงเป็นผู้หญิงที่กล้าพูดความในใจออกมาได้อย่างเปิดเผย
แม้ภาพลักษณ์เธอจะเป็นสาวน้อยที่ดูใสซื่อ แต่เนื้อแท้เป็นจำพวกสู้คน ถ้าโมโหขึ้นมาแม่ฟาดไม่เลี้ยง
ตอนมีคนพูดเหน็บเว่ยเหวินเป่า เธอก็โต้กลับกลางไลฟ์สดทันทีว่าถึงแฟนเธอไม่หล่อแต่ก็มีข้อดีมากมาย
ทั้งยังยืดอกยอมรับว่าความรวยก็เป็นหนึ่งในข้อดีเหล่านั้น ครอบครัวเธอเองก็มีฐานะ
ทำไมต้องเลือกผู้ชายที่จนกว่าให้มาเกาะกินด้วย
“ชิงชิง...” เว่ยเหวินเป่ามองอย่างซาบซึ้ง
ถังชุนชักจะเหม็นกลิ่นความรัก เลยหันไปค้นกระเป๋านักเรียนของเว่ยเหวินเป่าแทน
แล้วก็เป็นดังคาด สิ่งที่อยู่ข้างในกระเป๋าอันหนักอึ้งแทบไม่มีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับการเรียนเลย
ไม่มีดินสอปากกาสักด้าม แต่ดันมีไม้บรรทัดฟุตเหล็กขนาดยี่สิบสี่นิ้วนอนนิ่งอยู่ชัดเจนมากว่าไม่ได้มีเอาไว้ขีดเส้น
ถังชุนจำใจต้องหยิบเครื่องเขียนกับหนังสือเรียนของตัวเองขึ้นมาวางบนโต๊ะ
เขากับเว่ยเหวินเป่าเรียนคนละแผนการเรียน แต่วิชาภาษากับคณิตศาสตร์ใช้ตำราเรียนเล่มเดียวกัน
เตรียมของเสร็จก็หันมานัดแนะคิวคร่าวๆ
กับหวังชิง คุยรายละเอียดได้สิบนาทีก็พร้อมไลฟ์สด
“ที่รักไม่มีบทให้เค้าเหรอ”เว่ยเหวินเป่าถาม
“ไม่ต้องหรอก
ที่รักทำตัวให้เป็นธรรมชาติก็พอ”หวังชิงว่า
“อย่าฝืนยิ้มโง่ๆ ล่ะ มันน่ากลัว”
ถังชุนเสริม
เว่ยเหวินเป่าไม่กล้าเถียงเลยได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก
แล้วการไลฟ์สดก็เริ่มต้นขึ้น
“Hello everyone! I’m back.” ชิงชิงทักทายผู้คนด้วยรอยยิ้มสดใสอันเป็นเอกลักษณ์
แม้จะเป็นการแจ้งเตือนก่อนไลฟ์สดแค่สิบห้านาที
ก็ยังมีคนมารอชมหลายร้อย ไม่กี่อึดใจคอมเมนต์ก็ขึ้นมาเป็นพรืด
[เย่! นางฟ้าชิงชิงกลับมาแล้ว
^O^]
[พี่สาวคิดถึงเธอมากเลยนะแองจี้]
[เสี่ยวชิงในชุดนักเรียน
ไม่ได้เห็นนานแล้วนะเนี่ย ฟินสลบ O///O]
[Hi Angelina.]
[คิดถึงเธอจังเลย
ที่บ้านอนุญาตให้ไลฟ์แล้วใช่ไหม ขอบคุณนะคร้าบคุณพ่อตา ^3]
[กรี๊ดดดพี่แองจี้ วันนี้ก็ยังเปล่งประกายเหมือนเดิมเลยนะคะ
ไม่สิสวยขึ้นรึเปล่าเนี่ยสวยขึ้นรึเปล่า ป.ล. สีลิปพี่น่ารักจัง
หวังว่าวันนี้จะรีวิวเครื่องสำอางนะ]
แองเจลิน่าเป็นชื่อภาษาอังกฤษของหวังชิง
ตอนแรกที่ไลฟ์สดเธอเลยแนะนำตัวว่าชื่อแองจี้ แต่หลายปีก่อนเธอใช้ชื่อจริงตอนถ่ายแบบเพราะคิดแค่ว่าจะทำเล่นๆ
บังเอิญมีคนจำได้ ผู้ชมกว่าครึ่งเลยเรียกเธอว่า ชิงชิงบ้าง เสี่ยวชิงบ้าง
“ขอบคุณทุกคนที่ส่งเสียงทักทายนะคะ
จุ๊ๆ ไว้นะ วันนี้แองจี้แอบมาไลฟ์ ไม่ได้บอกแด๊ดดี้
สี่ทุ่มครึ่งก็ต้องกลับบ้านแล้ว”
หวังชิงไม่อยากให้พวกแอนตี้แฟนสะใจที่ทำให้เธอหมดกำลังใจได้
ก็เลยโกหกว่าเที่ยวเล่นมากไปจนโดนบ่น ทำให้ต้องงดไลฟ์สดสักระยะ ทั้งที่ความจริงที่บ้านสนับสนุนยิ่งกว่าเรื่องเรียนอีก
แฟนคลับอันดับหนึ่งอย่างแด๊ดดี้ถึงกับบ่นเหงาที่ลูกสาวหายไป
มีข้อความโอดครวญตามมามากมายเมื่อรู้ว่าหวังชิงจะไลฟ์สดไม่นาน
หญิงสาวขอโทษคนดู แล้วเริ่มแนะนำเข้าสู่รายการ
“เนื่องจากตอนนี้เปิดเทอมแล้ว
แองจี้ก็เลยจะพาทุกคนมารู้จักกับติวเตอร์ถังค่ะ” หญิงสาวผายมือไปทางถังชุนพร้อมกับแพนกล้องไป
“สวัสดีครับ” ถังชุนค้อมศีรษะน้อยๆ
ให้กล้อง
สีหน้าของเขายังนิ่งอยู่แต่ไม่ดูเก้อเขิน
ถือว่าใช้ได้สำหรับการไลฟ์สดครั้งแรก
“วันนี้ติวเตอร์ถังจะมาสอนหนังสือให้ที่รักของแองจี้ค่ะ”
พอกล้องแพนไปที่หน้าเว่ยเหวินเป่า
ก็มีเสียงโห่ไล่ตามมา บางคนถึงกับกดออกไปเลย แต่หวังชิงก็ไม่สนใจ
เธอขยับไปนั่งข้างๆ คนรัก แล้วบอกให้ทุกคนใจดีกับเหวินเป่าของเธอหน่อย
“วันนี้ที่รักจะตั้งใจเรียนใช่ไหม”
“ครับผม!
ต่อให้ไม่รู้เรื่องก็จะตั้งใจครับ” เว่ยเหวินเป่าตอบเสียงดังฟังชัด
“ถ้าฉันสอนแล้วนายยังไม่เข้าใจ
ก็เป็นไอ้โคตรโง่แล้ว” ถังชุนหยิบไม้บรรทัดเหล็กมาชี้หน้า
ดูเหมือนผู้คนจะชอบใจคำพูดของถังชุนไม่น้อย
เพราะมีสติกเกอร์หัวเราะเด้งขึ้นมารัวๆ
[พูดได้ตรงใจมากไอ้หนุ่ม (^O^)P]
[อ๊าย!
หนุ่มแว่นละค่ะทุกคน กร๊าวใจสุดๆ]
[มาๆ พี่น้องมาดูไอ้โคตรโง่กัน]
[วันนี้เห็นแก่ที่แองจี้กลับมาจะไม่อารมณ์เสียกับ
‘ของประกอบฉาก’ ละกัน -_-*]
เว่ยเหวินเป่าที่น่าสงสารถูกลดตำแหน่งจากคนไปเป็นสิ่งของเสียแล้ว
ถึงกระนั้นก็ยังดีกว่าถูกด่า
“เพื่อไม่ให้เสียเวลา
เรามาเริ่มเรียนกันดีกว่าค่ะ แองจี้ก็จะเรียนไปด้วย ใครมีอะไรสงสัยก็ยกมือขึ้นมาถามติวเตอร์ถังได้นะคะ”
กล้องกลับไปจับภาพสองหนุ่มอีกครั้ง
ขณะนี้ถังชุนกำลังยื่นหนังสือเรียนไปให้เว่ยเหวินเป่า
“เลือกบทที่นายไม่เข้าใจมา”
เว่ยเหวินเป่าพลิกหนังสือทีละหน้า
ยิ่งเปิดดูหัวคิ้วของเขาก็ยิ่งยับย่น แปลกจริงๆ ทั้งที่จำได้ว่าเรียนไปแล้ว แต่ทำไมยิ่งดูกลับยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังอ่านภาษาต่างดาว
เมื่อไม่เข้าใจไปเสียหมด เว่ยเหวินเป่าก็ยืดอกยอมรับแบบแมนๆ
“ช่วยเริ่มสอนให้ใหม่ตั้งแต่ต้นเลยได้ไหมครับติวเตอร์ถัง”
“ไม่ได้เอาหนังสือชั้นประถมมา”
“ไม่ต้องขนาดนั้นโว้ย” คนที่ยอมก้มหัวให้เลิกสุภาพทันที
“ม.ต้นก็ไม่มี”
“หมายถึงว่าให้สอนของม.6 เทอมหนึ่ง”
เว่ยเหวินเป่าทำเสียงดังใส่คนแกล้งมึน
“ไหวแน่นะ”
“เอ่อ!”
ถังชุนรู้จักเพื่อนดีเลยพ่นโจทย์เลขของชั้นม.ต้น
ออกมา เจอการโจมตีด้วยตัวเลขเข้าไป ลูกพี่เว่ยถึงกับติดสตั๊น ระหว่างนั้นถังชุนเลยเขียนโจทย์ลงบนกระดาษ
แล้วยื่นให้ดูแบบถนัดตา
“ให้เวลาห้านาที ตอบผิดโดน”
ว่าแล้วก็หยิบไม้บรรทัดเหล็กมาโบกสะบัด
“เฮ้ย!…เอาจริงดิ”
เว่ยเหวินเป่าทำหน้าเหวอ
“เวลาหมดไปครึ่งนาทีแล้ว เร็วเข้า
รีบทำ แก้โจทย์ ปฏิบัติ!” ถังชุนทำเป็นก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ
“ไอ้บ้า! ครึ่งนาทีอะไรพึ่งจะสิบวิ”
“เหลือสี่นาทีแล้ว”
ความคิดเห็น