ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมเก็บตัวร้ายได้ที่ข้างทาง

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 ความฝันประหลาด (1)

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 64


    “ถังชุน...นี่ถังชุน ตื่นได้แล้ว!” จางอวี่เอ่ยกับลูกศิษย์ที่กำลังฟุบหลับ

    เสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อถังชุนยังนอนนิ่งไม่ไหวติง ขนาดเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ มีน้ำใจช่วยเขย่าแขนปลุกก็ยังไม่รู้สึกตัว

    ปกติถังชุนไม่ใช่เด็กเหลวไหล เขามักเลือกที่นั่งด้านหน้าและตั้งใจเรียนเสมอ ความผิดปกตินี้ทำให้จางอวี่ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้นต้องเดินเข้าไปดูใกล้ๆ

    “ถังชุน...ไม่สบายหรือเปล่า” อาจารย์สาวถามด้วยความห่วงใย

    ขณะที่กำลังเอื้อมมือไปแตะหน้าผาก อยู่ๆ คนที่ฟุบหลับก็ลุกพรวดขึ้นมาจากโต๊ะ แล้วพ่นประโยคภาษาอังกฤษออกมายาวเหยียด

    “สำเนียงดี แต่ช่วยมีสติหน่อย ลืมแล้วหรือไงว่าครูสอนฟิสิกส์” จางอวี่ส่ายหน้า

    ถังชุนได้แต่ยืนเอ๋อทำหน้าเหลอหลา พอเห็นอาจารย์จางอยู่ตรงหน้า เขาก็รีบเช็ดคราบน้ำลายแล้วยิ้มแห้งสร้างเสียงหัวเราะให้ดังขึ้นอีกครั้ง

    “ขอโทษครับ” ถังชุนก้มศีรษะลงด้วยความอาย ไม่คิดฝันว่านักเรียนดีเด่นอย่างเขาจะต้องมาเสียประวัติเพราะเผลอหลับในห้อง

    ถ้าเป็นเด็กคนอื่นจางอวี่คงอดบ่นไม่ได้ว่าให้เริ่มจริงจังได้แล้ว ตอนนี้ทุกคนเป็นนักเรียนชั้นม.6 เหลือเวลาเตรียมสอบอีกไม่มาก เก้าเดือนนั้นเหมือนอึดใจ ถึงเวลามานั่งเสียใจก็สายไปแล้ว แต่เนื่องจากถังชุนตั้งใจเรียนเสมอมา อาจารย์สาวจึงตำหนิเพียงสองสามคำ แล้วเรียกให้มาทำโจทย์หน้าห้อง

    ถังชุนกวาดตามองกระดานดำ อึดใจก็หยิบชอล์กขึ้นมาเขียนสูตรฟิสิกส์และแสดงวิธีทำอย่างคล่องแคล่ว เขาเรียนด้วยตัวเองจนจบหลักสูตรไปนานแล้ว ต่อให้เผลอหลับตอนต้นคาบก็ไม่เป็นปัญหา

    “ถูกต้อง” จางอวี่บอกให้ถังชุนกลับไปนั่งที่ แล้วเริ่มสอนต่อ

    ถังชุนถอนใจอย่างโล่งอกที่รอดมาได้ แม้ตอนหมดคาบจะถูกเรียกให้ไปคุย แต่ก็เป็นการตักเตือนด้วยความปรารถนาดี

    “ถึงวิชาภาษาอังกฤษของเธอจะไม่ดีเท่าวิชาอื่น แต่ก็ไม่ได้แย่เลย อย่าฝืนตัวเองจนละเลยสุขภาพล่ะ เกิดล้มหมอนนอนเสื่อขึ้นมา ที่พยายามมาตลอดก็ไร้ความหมาย”

    ถังชุนรับคำอย่างว่าง่าย อาจารย์จางคงคิดว่าเขาอดตาหลับขับตานอนพยายามเรียนอย่างหนัก ทั้งที่ความจริงช่วงนี้เขาแทบไม่ได้อ่านหนังสือเลย หัวถึงหมอนก็หลับทันที สาเหตุที่คะแนนภาษาอังกฤษดีขึ้นเพราะความฝันในระยะนี้

    ความฝันประหลาดเริ่มต้นเมื่อสัปดาห์ก่อนตอนที่ถังชุนแกล้งป่วย แม้จะเรียนดีแต่เนื้อแท้ถังชุนไม่ใช่คนขยัน ที่ตั้งใจเรียนอย่างเอาเป็นเอาตายก็เพื่อกรุยทางไปสู่อนาคตที่สุขสบายเท่านั้น เขาใฝ่ฝันว่าจะได้เกษียณอายุในวัยสี่สิบ แล้วนอนกลิ้งเกลือกทั้งวัน โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการกินอยู่ แต่การมุ่งสู่จุดหมายโดยไม่หยุดพักเลยไม่ใช่วิถีของถังชุน เขาจึงหาเรื่องอู้พอให้ชุ่มชื่นหัวใจ โดยใช้สถานะนักเรียนดีเด่นยึดครองเตียงในห้องพยาบาลแบบเนียนๆ วันไหนขี้เกียจก็แกล้งป่วย เพื่อจะได้นอนอย่างสบายอุรา แถมตื่นมายังได้กินขนมอร่อยๆ

    วันนั้นถังชุนจำได้แม่นว่าไม่ได้ทำอะไรผิดแผกไปจากเดิม พอทิ้งตัวลงนอนเขาก็เริ่มหลับฝัน ในฝันถังชุนได้พบกับเด็กชายตัวเล็กๆ ที่มีชื่อว่า เหยียนเล่อเด็กคนนี้เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง มีพ่อแม่เป็นอาจารย์ทั้งคู่ ความที่แม่ของเหยียนเล่อสอนวิชาภาษาอังกฤษ เด็กน้อยจึงมีใจรักในภาษา ตรงกันข้ามกับถังชุน ที่ชีวิตเหมือนมีภาษาอังกฤษเป็นยาขม

    ในความฝันเหยียนเล่อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ภาพเหตุการณ์จะไหลไปค่อนข้างเร็ว ถังชุนก็ยังได้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราว หลายฉากเรียบง่ายแต่ก็ทำให้อบอุ่นหัวใจ อย่างตอนที่เหยียนเล่อสอบได้คะแนนไม่ดี พ่อแม่ก็ไม่ได้ตำหนิเขา เพียงแต่พูดว่า

    “พ่อไม่สนใจตัวเลขพวกนี้หรอก ถ้าลูกพอใจและคิดว่าทำดีแล้วพ่อก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าลูกรู้สึกไม่ดีหรือต้องการความช่วยเหลือ ก็บอกพ่อกับแม่ได้นะ เราสองคนจะอยู่ตรงนี้คอยรับฟังลูก”

    ต่อจากนั้นก็ไม่มีคำปลอบใจใดๆ อีก มีแต่น้ำตาของเด็กชายที่ไหลเอ่อ

    เจ้าหนูนี่โชคดีจริงๆ ถังชุนอดคิดไม่ได้

    พูดกันตามตรงชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ค่อยดีนักแม้จะเกิดในครอบครัวร่ำรวย แต่กลับเต็มไปด้วยความกดดัน ต่อให้สอบได้คะแนนสูงก็ยังถูกต่อว่าว่าทำไมไม่ได้คะแนนเต็ม บ้านตระกูลถังปลูกฝังแต่คำว่า ต้องเป็นที่หนึ่ง ด้อยกว่านั้นถือว่าเป็นไอ้ขี้แพ้บ่อยครั้งที่เขาถูกหยิกตีด้วยเรื่องผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อย่างเขียนหนังสือไม่สวยหรือมีกิริยาไม่สำรวม

    ตอนยังเด็กและไร้เดียงสาถังชุนเชื่อว่าทั้งหมดที่แม่ทำไปเกิดจากความรักและปรารถนาดี ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรมากไปกว่าความเห็นแก่ตัว

    เรื่องเริ่มต้นจากการที่พ่อมีภรรยาหลายคน พ่อรักภรรยาคนแรกที่สุดแต่ต้องแอบอยู่กินกันเพราะผู้ใหญ่ไม่เห็นชอบ ส่วนภรรยาคนที่สองมาจากตระกูลที่มั่งคั่ง พ่อแต่งงานกับเธอเพื่อผลประโยชน์ จึงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ไม่นาน หลังจากที่ให้กำเนิดลูกสาวเธอก็ขอหย่าขาด แล้วพาลูกไปอยู่ต่างประเทศ ถังชุนจึงไม่เคยพบหน้าพี่สาวต่างแม่เลย แม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้

    ส่วนแม่ของถังชุนเป็นภรรยาคนที่สาม ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นบ้านเล็กมาก่อน แม่มีหน้ามีตาขึ้นมาได้เพราะให้กำเนิดเขา ทว่าความสุขของแม่กลับคงอยู่ได้ไม่นาน พ่อพาลูกซึ่งเกิดจากภรรยาคนแรกมาอยู่ในบ้าน เพราะแม่เด็กเสียชีวิต

    ถังคุนหรือพี่ใหญ่อายุมากกว่าถังชุนสี่ปี ตามหลักทรัพย์สินของตระกูลต้องส่งต่อให้ลูกชายคนโต ทว่าแม่กลับอยากให้ถังชุนได้เป็นผู้สืบทอด จึงบังคับให้เรียนอย่างหนัก ไม่ว่าเรื่องไหนก็ห้ามแพ้พี่ใหญ่เด็ดขาด ส่วนพ่อแม้จะรักแม่ของพี่ใหญ่มาก แต่ก็ให้ค่าคนที่ความสามารถ เมื่อพบว่าลูกชายคนโตไม่มีอะไรโดดเด่น ก็เริ่มไม่ใส่ใจ ไม่นานพี่ใหญ่ก็ถูกทอดทิ้ง ในขณะที่เขาถูกเคี่ยวกรำสารพัด

    ถังชุนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกโป่งที่ถูกอัดลมจนเต็ม เขาเฝ้าคิดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าอยากให้พ่อกับแม่หายไป แล้ววันหนึ่งความคิดของเขาก็กลายเป็นความจริง ในปีที่ถังชุนขึ้นชั้นม.3 พ่อกับแม่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พวกท่านจากไปโดยไม่มีคำร่ำลาหรือข้อความสั่งเสียใดๆ

    โล่งใจ เสียใจ เคว้งคว้าง รู้สึกผิด

    อารมณ์เหล่านี้วนเวียนมาเยี่ยมเยียนถังชุนตลอดเวลาจนเขาแทบบ้า เหตุการณ์ช่วงนั้นเหมือนเป็นภาพเบลอ ไม่ทันหายเศร้าบ้านที่เคยอยู่ ทรัพย์สินที่เคยมีก็ถูกขายเพื่อใช้หนี้ที่พ่อกู้มาลงทุน ญาติมิตรที่เคยมีอย่างอุ่นหนาฝาคั่งกลับหนีหาย พวกเขาสองพี่น้องเหลือเพียงของดูต่างหน้าไม่กี่ชิ้นกับเงินประกันชีวิตของพ่อกับแม่ พี่ใหญ่เลยตัดสินใจพาเขาย้ายจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ แล้วมาเริ่มต้นใหม่ที่เมืองนี้

    ในขณะที่ถังชุนกำลังเปรียบเทียบครอบครัวตัวเองกับเหยียนเล่อ ข่าวร้ายก็มาเยี่ยมเยือนตระกูลเหยียน พ่อของเหยียนเล่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง มันลุกลามอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงครึ่งปีชายผู้แสนดีก็จากไป ตอนนี้ทั้งถังชุนและเหยียนเล่อต่างก็เป็นกำพร้า จะต่างก็ตรงเหยียนเล่อยังเหลือแม่เป็นที่พึ่งพิง

    เหตุการณ์ถูกตัดจบเมื่อถังชุนตื่น เขาหลับไปสามชั่วโมงเต็มแต่กลับไม่รู้สึกสดชื่นเลย เนื่องจากถังชุนกับตัวละครในฝันเสียพ่อไปในวัยเดียวกัน เขาเลยคิดว่ามันเกิดจากจิตใต้สำนึกเลยไม่สนใจอีก ทว่าคืนนั้นถังชุนกลับฝันถึงเรื่องราวของเหยียนเล่อต่อ เขาฝันแบบนี้ทุกคืนและมักสะดุ้งตื่นกลางดึกเสมอ

    ในฝันเหยียนเล่อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพียงหนึ่งสัปดาห์คนในฝันก็กลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย สิ่งที่เหยียนเล่อเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางด้านวิชาการหรือทักษะต่างๆ ถังชุนได้รับมากว่าครึ่ง ที่เห็นได้ชัดคือทักษะภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะฟัง พูด อ่าน เขียน ล้วนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด บางครั้งก็มีความสามารถใหม่โผล่มา เช่นอยู่ๆ ก็ซ่อมหม้อหุงข้าวได้ ทั้งที่เมื่อก่อนแค่ซื้อหลอดไฟมาเปลี่ยนยังซื้อผิด

    เนื่องจากไม่อยากถูกหาว่าบ้าและเห็นว่าเจ้าฝันนี่ส่งผลดีมากกว่าผลเสีย ถังชุนจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ โชคดีอีกอย่างคือความฝันประหลาดไม่ได้รบกวนเขาบ่อยนัก มันมาแค่วันละครั้ง และมักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน นอกจากนี้ระยะหลังก็เหมือนจะฝันสั้นลงด้วย ถังชุนเลยรีบกินอาหารเที่ยงแล้วงีบหลับ เพื่อชดเชยเวลานอนที่หายไป

    สาเหตุที่วันนี้ง่วงนอนตอนบ่าย เป็นเพราะถูกเว่ยเหวินเป่าลากออกไปกินข้าวนอกโรงเรียน เจ้าเพื่อนบ้าเลือกร้านที่อยู่ไกลลิบ ขากลับเลยต้องวิ่งกันตาเหลือก ไม่เพียงไม่ได้นอนพัก พลังงานของทั้งวันยังถูกใช้ไปเกินครึ่งหลอด คิดถึงไม่ทันไรตัวการทำให้ประวัตินักเรียนดีเด่นด่างพร้อย ก็มาตะโกนโหวกเหวกที่ประตูห้อง

    “ชุนโดดเรียนช่วงค่ำกันเถอะ” เว่ยเหวินเป่าพูดเสียงดังแบบไม่เกรงใจใคร

    โรงเรียนของเขาวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดีมีคาบเรียนตอนเย็นถึงสามทุ่ม โดยจะให้พักช่วงห้าโมงถึงหกโมงครึ่ง นักเรียนส่วนใหญ่เลยใช้เวลาช่วงนี้ไปกินอาหารเย็นไม่ก็เล่นกีฬา แต่สำหรับพวกเด็กสายวิทย์ห้องพิเศษอย่างถังชุน จะมีเวลาพักแค่สิบนาที ต้องเรียนอีกคาบหนึ่งก่อนถึงจะได้พักกินข้าว นักเรียนส่วนใหญ่จึงยังอยู่กันครบ

    “ชุนโว้ย!...ได้ยินไหม” เว่ยเหวินเป่าเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นอีก

    หนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้มีภาพลักษณ์ของเด็กเกเรคนนี้ไม่แคร์ใครอยู่แล้วขนาดพวกที่นั่งอยู่ตรงประตูพากันกลัวจนถอยห่างก็ยังไม่สังเกต

    “อย่าเสียงดังรบกวนคนอื่น”ถังชุนดุ

    เพื่อนในห้องเห็นถังชุนกล้าเผชิญหน้าก็ชื่นชมผสมกริ่งเกรง ปกติถังชุนจะเป็นคนเงียบๆ ดูไม่มีพิษภัย หากไม่รู้จักก็จะเข้าใจว่าเป็นแค่เด็กเรียนคนหนึ่ง แต่ความจริงแล้วเขาเป็นเสือซ่อนเล็บ ไม่อย่างนั้นคงพูดกับเจ้าพ่อคุมโรงเรียนอย่างเป็นกันเองไม่ได้

    หากถังชุนได้ยินความคิดของเพื่อนร่วมชั้นคงกรีดร้องในใจเสียงดัง เสือซ่อนเล็บอะไรกัน เสือไม่มีเล็บต่างหาก ตัวเขาน่ะกีฬาห่วย ต่อยตีก็ไม่เป็น นอกจากวิถีชีวิตประหยัดพลังงานกับเป้าหมายเกษียณสุขสันต์ ก็ไม่เคยนึกถึงสิ่งอื่น ที่ดูสนิทกับเว่ยเหวินเป่าเพราะเรียนม.ต้นที่เดียวกัน อีกทั้งฝ่ายนั้นยังเป็นคนเข้าหาก่อน

    เนื้อแท้เว่ยเหวินเป่านิสัยไม่แย่เลย เขาแค่เกิดมาตัวโตไปหน่อย หน้าตากวนส้นไปนิด เลยถูกหาเรื่องเป็นประจำ ความที่เจ้าตัวมีนิสัยต่อยมาต่อยกลับไม่โกง ขาใหญ่ในโรงเรียนที่มาท้าไฟต์เลยโดนเก็บเรียบ ขาใหญ่นอกโรงเรียนก็ล้วนมีชะตาไม่ต่างกัน รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็น ลูกพี่เว่ย ที่มีสมุนนับร้อยไปแล้ว

    “ก็นายห้ามฉันเข้าไปนี่”

    เว่ยเหวินเป่าอยู่คนละห้องแต่ชอบมาป่วนประจำ ก็เลยถูกยื่นคำขาดห้ามไม่ให้เข้ามากวนในห้องเรียน ถังชุนถอนใจเฮือกหนึ่ง ก่อนดึงแขนเพื่อนออกไปคุยกันที่ชานพักบันได

    “พูดมาว่าชวนกลับก่อนนี่ต้องการอะไร”

    “ได้ข่าวว่าวูบตอนเรียนก็เลยเป็นห่วง นี่ลงทุนเรียกให้รถมารับเชียวนะ”

    ถังชุนฟังแล้วอยากแก้ต่างว่าเขาแค่เผลอหลับไม่ใช่วูบ แต่ถ้าอธิบายเรื่องจะออกนอกประเด็นไปใหญ่ ถังชุนจึงเอ่ยเสียงเข้ม

    “อยากได้อะไรก็ว่ามา”

    เว่ยเหวินเป่าฉีกยิ้มประจบเมื่อถูกจับไต๋ได้

    “ไปล่าผีกัน”

    “หา!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×