ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เพื่อนแท้
อันตนกลับบ้านด้วยความสับสน เขาจะทำอย่างไรดี เขาจะสู้กับมันได้อย่างไร
\"กริ๊งงงง\"
\"ผมรับเองฮะ\" อันตนรีบตะโกนบอกแม่ก่อนที่จะวิ่งลงไปหยิบโทรศัพท์จากชั้นล่าง
\"บ้านเออลินครับ\" เขาพูดกรอกใส่หูโทรศัพท์
\"ไฮ นี่ซิสซี่เองนะ\" เสียงหญิงสาวที่เขารู้จักดีดังขึ้นมาจากอีกฟากหนึ่งของสายโทรศัพท์
\"คือชั้นจะโทรมาถามว่า พรุ่งนี้จะให้ชั้นกับมาร์คุสเข้าไปที่บ้านนายกี่โมงดี\" อันตนไม่รู้จะตอบกับซิสซี่ว่าอย่างไร ตอนนี้เขาไม่อยากให้ซิสซี่และมาร์คุสเข้ามายุ่งวุ่นวายกับป่านี้ แต่เขาก็รู้ดีว่าซิสซี่ตื่นเต้นกับการเข้าแคมป์ครั้งนี้แค่ไหน
\"ชั้นว่า ซักบ่ายๆ ละกัน เธอจะมาพร้อมกับมาร์คุสเลยใช่มั๊ย\"
\"คงงั้นแหละ แค่นี้นะ พรุ่งนี้เจอกัน ทนรอแทบไม่ไหวแล้วนะเนี่ย\" เสียงของซิสซี่ยังคงคงไว้ซึ่งความตื่นเต้น เธอหารู้ไม่หรอกว่า เธอจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ลึกลับ
\"อืมมม เจอกันนะ\" เสียงของอันตนแผ่วเบาลงเสียจนซิสซี่แทบจะไม่ได้ยิน แต่ซิสซี่ก็ไม่ได้สนใจในความผิดปกติในตัวเพื่อนสนิทคนนี้เท่าไรนัก เพราะเธอมัวแต่ตื่นเต้นกับแคมป์ที่จะมาถึง
คืนนั้นอันตนได้แต่นอนคิดว่าเขาควรจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ซิสซี่และมาร์คุสรู้ดีหรือเปล่า เขาไม่อยากให้เพื่อนที่เขารักที่สุดต้องตกใจกลัว แต่เขาเองก็กลัวเกินกว่าจะเก็บมันไว้คนเดียวได้ หลังจากนอนพลิกไปพลิกมาทั้งคืน เขาก็ตัดสินใจได้ พรุ่งนี้.. เขาจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับมาร์คุสและซิสซี่ สองคนที่เขาเชื่อว่าจะสามารถช่วยเขาได้
\"อะไรนะ??\" ซิสซี่และมาร์คุสร้องขึ้นแทบจะพร้อมกัน
\"นายพยายามจะบอกพวกเราว่ามีวิญญาณแค้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษโบราณกาลวนเวียนอยู่งั้นเหรอ\" ซิสซี่ซึ่งไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับเลยตะโกนขึ้นมา
\"มาร์คุส นายจำรูปที่นายถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อนได้มั๊ย นายคิดว่ามันเป็นอะไรล่ะ\"
ก่อนที่มาร์คุสจะได้เอ่ยปากพูดอะไร ซิสซี่ก็ขัดขึ้นมา
\"เดี๋ยวนี้เกิดอะไรขึ้นกับพวกนายฉันไม่มีส่วนร่วมรับรู้เลยใช่มั๊ย รูปถ่ายอะไรของนายสองคนน่ะ\"
\"ดูซะให้เต็มตาซิสซี่\" มาร์คุสยื่นกล้องถ่ายรูปดิจิตอลของตัวเองให้ บนจอแอลซีดีแสดงภาพที่ๆ พวกเขาสามคนยืนอยู่
\"แล้วไงล่ะ\" ซิสซี่เริ่มหันไปมองรอบๆ ตัวเองด้วยความระแวง
\"เห็นตรงต้นไม้นี่มั๊ย\" มาร์คุสชี้บนจอแอลซีดีพร้อมทั้งซูมเข้าไปจนสุด
\"โอ พระเจ้า\" ซิสซี่ถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นว่า สิ่งที่มาร์คุสและอันตนพยายามจะให้เธอเห็นก็คือ....
\"หัวคน\" ซิสซี่พูดขึ้นมาด้วยเสียงอันแผ่วเบาราวกับจะพูดกับตัวเองก่อนที่จะทรุดลงไปกับพื้น
่\"แล้วนายต้องการจะให้พวกเราทำอะไร\" มาร์คุสเอ่ยปากขึ้นมาหลังจากทั้งสามคนยืนอยู่ในความเงียบพักใหญ่
\"ฉันต้องการให้พวกนายสองคน ช่วยฉันสู้กับมัน\"
\"มัน... ไอ้หัวที่ลอยไปลอยมานั่นน่ะเหรอ\"
\"นายจะให้พวกเราสู้ นายรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้าง ใช่ มันเป็นผี แล้วนายทำไรมันได้ล่ะ\" ซิสซี่ตะคอกใส่ เธอกลัวเสียจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
\"ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย รู้แต่ว่า ถ้าสู้มันไม่ได้ ฉันตายก่อนคริสต์มาสนี้\" อันตนพูดด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่เอาด้วยกับเขา ยังไงตัวเขาเองก็ต้องยืนหยัดอยู่ดี จริงอยู่ ที่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสองคนนั้นเลย มีหรือที่จะเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยงกับอะไรก็ไม่รู้ แต่ส่วนลึกๆ ของใจแล้ว เขาเชื่อ เชื่อว่ามิตรภาพของพวกเขาทั้งสามมีค่ามากกว่าความกลัวครั้งนี้
\"ฉันเอาด้วย ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร แต่ฉันก็ไม่อยากจะเสียนายไป เปิดเทอมคราวหน้าฉันยังอยากเห็นนายไปโรงเรียนแต่เช้าเหมือนเดิม อยากเห็นนายทะเลาะกับครูประวัติศาสตร์เฮงซวยนั่นเหมือนเดิม อยากเห็นนายวิ่งไล่เตะฉันเหมือนเดิม ฉันจะปล่อยให้นายสู้กับอะไรก็ไม่รู้นี่คนเดียวได้ยังไง\" หลังจากมาร์คุสพูดจบ ทั้งสองคนก็หันไปมองหน้าซิสซี่ ซิสซี่ส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ
\"มาร์คุส อันตน นายสองคนจะบ้าไปแล้วเหรอ นายไม่รู้หรอกว่าไอ้สิ่งนั้นมันทำอะไรได้บ้าง มาร์คุส นายจะเสี่ยงกับเรื่องคนอื่นอย่างนี้น่ะเหรอ ไม่ว่านายสองคนจะทำอะไร ฉันไม่เอาด้วย\" ซิสซี่ตะโกนขึ้นมาก่อนที่จะหยิบเป้ของตัวเองแล้ววิ่งหนีไป
\"ซิสซี่...\" มาร์คุสพยายามที่จะวิ่งตามซิสซี่ แต่อันตนรั้งเขาไว้
\"ปล่อยเขาไปเถอะ อย่างน้อยวันนี้ฉันก็ได้เรียนรู้ความหมายอันลึกซึ้งของคำว่า \'\'เพื่อนแท้\"
\"ว่าแต่นายมีแผนจะทำยังไงล่ะ\"
กับคำถามนี้แล้ว อันตนเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ตัวเขาก็มืดแปดด้าน ถ้าถามว่าเขารู้อะไรมากกว่ามาร์คุสรึเปล่า บอกได้เลยว่าไม่ แล็วเขาก็ปิ๊งขึ้นมาถึงลุงมัทธิอัส คนที่เริ่มให้ข้อมูลเขาเกี่ยวกับสิ่งนี้
แล้วทั้งสองคนก็เดินผ่านเป็นระยะทางกว่าสี่กิโลเมตรจนมาถึงบ้านโทรมๆ หลังหนึ่ง ที่ตั้งของบ้านหลังนี้เรียกได้ว่าอยู่ท้้ายป่าพอดี ป้ายหน้าบ้านเขียนไว้ว่า \"Tingvall\"
\"โอย...นายจะช้าๆลงหน่อยไม่ได้หรือไง บ้านมันไม่หนีหายไปไหนหรอกน่า\" มาร์คุสพูดขึ้นหลังจากที่เริ่มกลับมาหายใจได้เป็นปกติ ระยะทางสี่กิโลเมตรกึ่งเดินกึ่งวิ่ง สำหรับอันตนแล้วเป็นเรื่องน้อยนิด แต่สำหรับมาร์คุสที่เติบโตขึ้นมาอย่างชาวเมืองแล้ว ระยะทางสี่กิโลเมตรนี้มันทำให้เขาหอบแฮกได้ทีเดียว
\"นายคิดว่าเรามีเวลาให้ผลาญเยอะนักเหรอไง อีกห้าวันเท่านั้นก็จะคริสต์มาสแล้วนะ แถมไม่รู้อีกว่าคริสต์มาสที่ว่านี่คือวันคริสต์มาส หรือคริสต์มาสอีฟ ถ้าเป็นคริสต์มาสอีฟเราก็เหลือเวลาแค่สี่วันเท่านั้นนะ\"
\"คร้าบๆ นี่ใช่มั๊ยบ้านของลุงมัทธิอัสอะไรนั่นน่ะ\" มาร์คุสพูดพร้อมกับชี้ไปที่บ้านโทรมๆ หลังนั้น อันตนนึกย้อนคิดดู ถึงเขาจะรู้จักลุงมัทธิอัสมาทั้งชีวิต แต่เขาก็ไม่เคยมาย่างกรายที่บ้านหลังนี้เลย
\"ลุงมัทธิอัสฮะ... ลุงมัทธิอัส\"
อันตนเคาะประตูที่เก่าคร่ำครึจนดูท่าว่าจะพังลงมาเดี๋ยวนั้นพร้อมกับร้องเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา
\"ท่าทางลุงแกจะไม่อยู่บ้าน\" อันตนพูดพร้อมทั้งหันมามองหน้ามาร์คุส
\"นายว่าไงนะ นายจะบอกว่าเราเดินมาสี่กิโลเมตรเพื่อมาเจอบ้านที่ว่างเปล่างั้นเหรอ ลุงนี่อยู่คนเดียวรึไง ลูก เมีย หมา แมว... ให้ตายสิ\" มาร์คุสบ่นด้วยความโมโหพร้อมทั้งเตะประตู ไม่น่าแปลกใจที่ประตูพังลงมาโดยง่าย อันตนและมาร์คุสมองเข้าไปในบ้าน ความรู้สึกแรกที่รับรู้คือกลิ่นธูปคลุ้งไปทั่วบริเวณ
\"ชิท... นี่ลุงแกเล่นของหรือไงเนี่ย\" มาร์คุสตะโกนพร้อมทั้งเอามือปิดจมูก แต่อันตนไม่ได้ฟังเขาแล้ว อันตนกำลังอึ้งกับสิ่งของที่อยู่ในบ้านของลุงมัทธิอัสต่างหาก
\"พระเจ้า... นี่มันอะไรกันเนี่ย\"
\"พวกเอ็งเข้ามาทำอะไรในนี้\" เสียงอันคุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง ลุงมัทธิอัสนั่นเอง อันตนต้องรีบนึกข้อแก้ตัวให้ได้ด่วน
\"เอ่อ นี่เพื่อนผมจากที่โรงเรียนฮะ มาร์คุส แม็กนุสสัน\"
\"มัทธิอัส ทิงวอล\" ลุงมัทธิอัสพูดพร้อมกับจับมือกับมาร์คุสตามมารยาท
\"คือพวกเราอยากให้ลุงเล่าเรื่องที่ลุงพูดให้ผมฟังเมื่อวันก่อนน่ะฮะ เรื่องวิญญาณแค้นของทหารโบราณ\"
\"ข้าไปเล่าอะไรให้เอ็งฟังตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น วิญญาณค้งวิญญาณแค้นอะไร เหลวไหลสิ้นดี\"
\"แต่...\" อันตนพยายามจะเอ่ยปากพูด แต่ก็โดนมาร์คุสสะกิดไว้ก่อน
\"เอ่อ เราจะไปแล้วครับ ขอโทษที่มารบกวน\" มาร์คุสพูดแล้วลากอันตนออกมาจากบ้าน
\"จำไว้เด็กๆ ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้นและอย่ามาที่นี่อีก\" เสียงลุงมัทธิอัสดังออกมาจากบ้าน ก่อนที่จะยกประตูที่หลุดลงมาขึ้นไปพิงไว้กับข้างฝา
\"นายเป็นอะไรของนาย\" อันตนถามมาร์คุส เนื่องจากเขาไม่เข้าใจว่าทำไมมาร์คุสถึงลากเขาออกมาจากบ้าน
\"ตานายคงจะไม่ดีพอนะ แต่ฉันว่าลุงนั่นไม่อยากอธิบายอะไรให้นายฟังหรอก\"
\"ทำไมล่ะ\"
\"นายไม่เห็นเหรอ ลุงนั่นมันบ้า ตาลุงนั่นมีรูปนาย รูปพ่อนายติดอยู่บนฝาบ้าน ที่รูปพ่อนายมีกากบาทสีแดงคาดทับ นายคิดว่าไงล่ะ\"
\"พ่อของเอ็งมันขี้ขลาด ทำให้เอ็งต้องรับช่วงต่อแทน ขี้ขลาด...ขี้ขลาด...ขี้ขลาด...ขี้ขลาด...\" เสียงของมัทธิอัสวนเวียนอยู่ในหัวของอันตน
\"กริ๊งงงง\"
\"ผมรับเองฮะ\" อันตนรีบตะโกนบอกแม่ก่อนที่จะวิ่งลงไปหยิบโทรศัพท์จากชั้นล่าง
\"บ้านเออลินครับ\" เขาพูดกรอกใส่หูโทรศัพท์
\"ไฮ นี่ซิสซี่เองนะ\" เสียงหญิงสาวที่เขารู้จักดีดังขึ้นมาจากอีกฟากหนึ่งของสายโทรศัพท์
\"คือชั้นจะโทรมาถามว่า พรุ่งนี้จะให้ชั้นกับมาร์คุสเข้าไปที่บ้านนายกี่โมงดี\" อันตนไม่รู้จะตอบกับซิสซี่ว่าอย่างไร ตอนนี้เขาไม่อยากให้ซิสซี่และมาร์คุสเข้ามายุ่งวุ่นวายกับป่านี้ แต่เขาก็รู้ดีว่าซิสซี่ตื่นเต้นกับการเข้าแคมป์ครั้งนี้แค่ไหน
\"ชั้นว่า ซักบ่ายๆ ละกัน เธอจะมาพร้อมกับมาร์คุสเลยใช่มั๊ย\"
\"คงงั้นแหละ แค่นี้นะ พรุ่งนี้เจอกัน ทนรอแทบไม่ไหวแล้วนะเนี่ย\" เสียงของซิสซี่ยังคงคงไว้ซึ่งความตื่นเต้น เธอหารู้ไม่หรอกว่า เธอจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ลึกลับ
\"อืมมม เจอกันนะ\" เสียงของอันตนแผ่วเบาลงเสียจนซิสซี่แทบจะไม่ได้ยิน แต่ซิสซี่ก็ไม่ได้สนใจในความผิดปกติในตัวเพื่อนสนิทคนนี้เท่าไรนัก เพราะเธอมัวแต่ตื่นเต้นกับแคมป์ที่จะมาถึง
คืนนั้นอันตนได้แต่นอนคิดว่าเขาควรจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ซิสซี่และมาร์คุสรู้ดีหรือเปล่า เขาไม่อยากให้เพื่อนที่เขารักที่สุดต้องตกใจกลัว แต่เขาเองก็กลัวเกินกว่าจะเก็บมันไว้คนเดียวได้ หลังจากนอนพลิกไปพลิกมาทั้งคืน เขาก็ตัดสินใจได้ พรุ่งนี้.. เขาจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับมาร์คุสและซิสซี่ สองคนที่เขาเชื่อว่าจะสามารถช่วยเขาได้
\"อะไรนะ??\" ซิสซี่และมาร์คุสร้องขึ้นแทบจะพร้อมกัน
\"นายพยายามจะบอกพวกเราว่ามีวิญญาณแค้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษโบราณกาลวนเวียนอยู่งั้นเหรอ\" ซิสซี่ซึ่งไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับเลยตะโกนขึ้นมา
\"มาร์คุส นายจำรูปที่นายถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อนได้มั๊ย นายคิดว่ามันเป็นอะไรล่ะ\"
ก่อนที่มาร์คุสจะได้เอ่ยปากพูดอะไร ซิสซี่ก็ขัดขึ้นมา
\"เดี๋ยวนี้เกิดอะไรขึ้นกับพวกนายฉันไม่มีส่วนร่วมรับรู้เลยใช่มั๊ย รูปถ่ายอะไรของนายสองคนน่ะ\"
\"ดูซะให้เต็มตาซิสซี่\" มาร์คุสยื่นกล้องถ่ายรูปดิจิตอลของตัวเองให้ บนจอแอลซีดีแสดงภาพที่ๆ พวกเขาสามคนยืนอยู่
\"แล้วไงล่ะ\" ซิสซี่เริ่มหันไปมองรอบๆ ตัวเองด้วยความระแวง
\"เห็นตรงต้นไม้นี่มั๊ย\" มาร์คุสชี้บนจอแอลซีดีพร้อมทั้งซูมเข้าไปจนสุด
\"โอ พระเจ้า\" ซิสซี่ถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นว่า สิ่งที่มาร์คุสและอันตนพยายามจะให้เธอเห็นก็คือ....
\"หัวคน\" ซิสซี่พูดขึ้นมาด้วยเสียงอันแผ่วเบาราวกับจะพูดกับตัวเองก่อนที่จะทรุดลงไปกับพื้น
่\"แล้วนายต้องการจะให้พวกเราทำอะไร\" มาร์คุสเอ่ยปากขึ้นมาหลังจากทั้งสามคนยืนอยู่ในความเงียบพักใหญ่
\"ฉันต้องการให้พวกนายสองคน ช่วยฉันสู้กับมัน\"
\"มัน... ไอ้หัวที่ลอยไปลอยมานั่นน่ะเหรอ\"
\"นายจะให้พวกเราสู้ นายรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้าง ใช่ มันเป็นผี แล้วนายทำไรมันได้ล่ะ\" ซิสซี่ตะคอกใส่ เธอกลัวเสียจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
\"ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย รู้แต่ว่า ถ้าสู้มันไม่ได้ ฉันตายก่อนคริสต์มาสนี้\" อันตนพูดด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่เอาด้วยกับเขา ยังไงตัวเขาเองก็ต้องยืนหยัดอยู่ดี จริงอยู่ ที่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสองคนนั้นเลย มีหรือที่จะเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยงกับอะไรก็ไม่รู้ แต่ส่วนลึกๆ ของใจแล้ว เขาเชื่อ เชื่อว่ามิตรภาพของพวกเขาทั้งสามมีค่ามากกว่าความกลัวครั้งนี้
\"ฉันเอาด้วย ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร แต่ฉันก็ไม่อยากจะเสียนายไป เปิดเทอมคราวหน้าฉันยังอยากเห็นนายไปโรงเรียนแต่เช้าเหมือนเดิม อยากเห็นนายทะเลาะกับครูประวัติศาสตร์เฮงซวยนั่นเหมือนเดิม อยากเห็นนายวิ่งไล่เตะฉันเหมือนเดิม ฉันจะปล่อยให้นายสู้กับอะไรก็ไม่รู้นี่คนเดียวได้ยังไง\" หลังจากมาร์คุสพูดจบ ทั้งสองคนก็หันไปมองหน้าซิสซี่ ซิสซี่ส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ
\"มาร์คุส อันตน นายสองคนจะบ้าไปแล้วเหรอ นายไม่รู้หรอกว่าไอ้สิ่งนั้นมันทำอะไรได้บ้าง มาร์คุส นายจะเสี่ยงกับเรื่องคนอื่นอย่างนี้น่ะเหรอ ไม่ว่านายสองคนจะทำอะไร ฉันไม่เอาด้วย\" ซิสซี่ตะโกนขึ้นมาก่อนที่จะหยิบเป้ของตัวเองแล้ววิ่งหนีไป
\"ซิสซี่...\" มาร์คุสพยายามที่จะวิ่งตามซิสซี่ แต่อันตนรั้งเขาไว้
\"ปล่อยเขาไปเถอะ อย่างน้อยวันนี้ฉันก็ได้เรียนรู้ความหมายอันลึกซึ้งของคำว่า \'\'เพื่อนแท้\"
\"ว่าแต่นายมีแผนจะทำยังไงล่ะ\"
กับคำถามนี้แล้ว อันตนเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ตัวเขาก็มืดแปดด้าน ถ้าถามว่าเขารู้อะไรมากกว่ามาร์คุสรึเปล่า บอกได้เลยว่าไม่ แล็วเขาก็ปิ๊งขึ้นมาถึงลุงมัทธิอัส คนที่เริ่มให้ข้อมูลเขาเกี่ยวกับสิ่งนี้
แล้วทั้งสองคนก็เดินผ่านเป็นระยะทางกว่าสี่กิโลเมตรจนมาถึงบ้านโทรมๆ หลังหนึ่ง ที่ตั้งของบ้านหลังนี้เรียกได้ว่าอยู่ท้้ายป่าพอดี ป้ายหน้าบ้านเขียนไว้ว่า \"Tingvall\"
\"โอย...นายจะช้าๆลงหน่อยไม่ได้หรือไง บ้านมันไม่หนีหายไปไหนหรอกน่า\" มาร์คุสพูดขึ้นหลังจากที่เริ่มกลับมาหายใจได้เป็นปกติ ระยะทางสี่กิโลเมตรกึ่งเดินกึ่งวิ่ง สำหรับอันตนแล้วเป็นเรื่องน้อยนิด แต่สำหรับมาร์คุสที่เติบโตขึ้นมาอย่างชาวเมืองแล้ว ระยะทางสี่กิโลเมตรนี้มันทำให้เขาหอบแฮกได้ทีเดียว
\"นายคิดว่าเรามีเวลาให้ผลาญเยอะนักเหรอไง อีกห้าวันเท่านั้นก็จะคริสต์มาสแล้วนะ แถมไม่รู้อีกว่าคริสต์มาสที่ว่านี่คือวันคริสต์มาส หรือคริสต์มาสอีฟ ถ้าเป็นคริสต์มาสอีฟเราก็เหลือเวลาแค่สี่วันเท่านั้นนะ\"
\"คร้าบๆ นี่ใช่มั๊ยบ้านของลุงมัทธิอัสอะไรนั่นน่ะ\" มาร์คุสพูดพร้อมกับชี้ไปที่บ้านโทรมๆ หลังนั้น อันตนนึกย้อนคิดดู ถึงเขาจะรู้จักลุงมัทธิอัสมาทั้งชีวิต แต่เขาก็ไม่เคยมาย่างกรายที่บ้านหลังนี้เลย
\"ลุงมัทธิอัสฮะ... ลุงมัทธิอัส\"
อันตนเคาะประตูที่เก่าคร่ำครึจนดูท่าว่าจะพังลงมาเดี๋ยวนั้นพร้อมกับร้องเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา
\"ท่าทางลุงแกจะไม่อยู่บ้าน\" อันตนพูดพร้อมทั้งหันมามองหน้ามาร์คุส
\"นายว่าไงนะ นายจะบอกว่าเราเดินมาสี่กิโลเมตรเพื่อมาเจอบ้านที่ว่างเปล่างั้นเหรอ ลุงนี่อยู่คนเดียวรึไง ลูก เมีย หมา แมว... ให้ตายสิ\" มาร์คุสบ่นด้วยความโมโหพร้อมทั้งเตะประตู ไม่น่าแปลกใจที่ประตูพังลงมาโดยง่าย อันตนและมาร์คุสมองเข้าไปในบ้าน ความรู้สึกแรกที่รับรู้คือกลิ่นธูปคลุ้งไปทั่วบริเวณ
\"ชิท... นี่ลุงแกเล่นของหรือไงเนี่ย\" มาร์คุสตะโกนพร้อมทั้งเอามือปิดจมูก แต่อันตนไม่ได้ฟังเขาแล้ว อันตนกำลังอึ้งกับสิ่งของที่อยู่ในบ้านของลุงมัทธิอัสต่างหาก
\"พระเจ้า... นี่มันอะไรกันเนี่ย\"
\"พวกเอ็งเข้ามาทำอะไรในนี้\" เสียงอันคุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง ลุงมัทธิอัสนั่นเอง อันตนต้องรีบนึกข้อแก้ตัวให้ได้ด่วน
\"เอ่อ นี่เพื่อนผมจากที่โรงเรียนฮะ มาร์คุส แม็กนุสสัน\"
\"มัทธิอัส ทิงวอล\" ลุงมัทธิอัสพูดพร้อมกับจับมือกับมาร์คุสตามมารยาท
\"คือพวกเราอยากให้ลุงเล่าเรื่องที่ลุงพูดให้ผมฟังเมื่อวันก่อนน่ะฮะ เรื่องวิญญาณแค้นของทหารโบราณ\"
\"ข้าไปเล่าอะไรให้เอ็งฟังตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น วิญญาณค้งวิญญาณแค้นอะไร เหลวไหลสิ้นดี\"
\"แต่...\" อันตนพยายามจะเอ่ยปากพูด แต่ก็โดนมาร์คุสสะกิดไว้ก่อน
\"เอ่อ เราจะไปแล้วครับ ขอโทษที่มารบกวน\" มาร์คุสพูดแล้วลากอันตนออกมาจากบ้าน
\"จำไว้เด็กๆ ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้นและอย่ามาที่นี่อีก\" เสียงลุงมัทธิอัสดังออกมาจากบ้าน ก่อนที่จะยกประตูที่หลุดลงมาขึ้นไปพิงไว้กับข้างฝา
\"นายเป็นอะไรของนาย\" อันตนถามมาร์คุส เนื่องจากเขาไม่เข้าใจว่าทำไมมาร์คุสถึงลากเขาออกมาจากบ้าน
\"ตานายคงจะไม่ดีพอนะ แต่ฉันว่าลุงนั่นไม่อยากอธิบายอะไรให้นายฟังหรอก\"
\"ทำไมล่ะ\"
\"นายไม่เห็นเหรอ ลุงนั่นมันบ้า ตาลุงนั่นมีรูปนาย รูปพ่อนายติดอยู่บนฝาบ้าน ที่รูปพ่อนายมีกากบาทสีแดงคาดทับ นายคิดว่าไงล่ะ\"
\"พ่อของเอ็งมันขี้ขลาด ทำให้เอ็งต้องรับช่วงต่อแทน ขี้ขลาด...ขี้ขลาด...ขี้ขลาด...ขี้ขลาด...\" เสียงของมัทธิอัสวนเวียนอยู่ในหัวของอันตน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น