ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ป่าต้องห้าม

    ลำดับตอนที่ #3 : เบาะแสจากลุงขี้เมา

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 46


    แสงอาทิตย์สาดส่องอีกครั้ง อันตนพยายามคิดว่าเืรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวานเป็นเพียงความฝัน ความฝันที่ผ่านไปแล้วและจะไม่ย้อนกลับมาอีก แต่เมื่อเขาลงมาที่โต๊ะอาหารเพื่อที่จะทานอาหารเช้า หน้าของแม่เขาเศร้าอย่างบอกไม่ถูก คราบน้ำตายังคงเกาะอยู่ที่แก้มของแม่ ดูก็รู้ได้ทันทีว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก พ่อของเขาก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำ บรรยากาศในบ้านเงียบสนิท มีเพียงเสียงเอ็มดีของซิมอน พี่ชายที่เสียบหูอยู่



    วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีที่เขาจะไปโรงเรียน ก่อนที่โรงเรียนจะปิดเทอมช่วงคริสต์มาส ทุกๆ ปีคริสต์มาสเป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับเขา แต่ปีนี้เขาไม่แน่ใจว่าคริสต์มาสจะสนุกเหมือนเดิมหรือเปล่า เขากลัวว่าอาจจะมีสิ่งที่เขาไม่คาดคิดรอเขาอยู่ก็เป็นได้ อะไรก็ตามที่อยู่ในป่านั้น อะไรก็ตามที่ต้องการเอาเขาไปแทนพ่อ

    อันตนมาถึงโรงเรียนแต่เช้า ช่วงกลางหน้าหนาวอย่างนี้ กว่าพระอาทิตย์จะเริ่มทอแสงก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง รอบตัวเขายังคงมืดสนิท เขาไม่เคยกลัวความมืดมาก่อน แต่ขณะนี้เขารู้สึกหวาดหวั่นเป็นที่สุด เมื่อเขาต้องยืนอยู่ในความมืด ตามลำพัง

    \"อันตน รอด้วย\" เสียงที่คุ้นเคยตะโกนมาจากด้านหลัง

    \"อ้าว ซิสซี่ วันนี้ทำไมมาโรงเรียนแต่เช้าได้เนี่ย\"  

    \"ก็วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนี่นา ฉันก็อยากจะมาโรงเรียนเร็วๆหน่อยน่ะสิ\" ...ซิซิเลียแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของอันตน เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาเรียกได้ว่าสะสวยทีเดียว เธอเป็นถึงดาวโรงเรียน และเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลคนสำคัญของเมือง ในโรงเรียนนี้ถ้าไปถามดูก็คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ซิซิเลีย เวินสตอร์ม



    ทุกๆ ปีก่อนถึงวันคริสต์มาส ซิสซี่ มาร์คุส แล้วก็เขาจะทำอะไรสนุกๆ ด้วยกันเสมอ ปีนี้ก็เช่นกัน พวกเขาวางแผนว่าจะไปแคมป์ที่ทะเลสาบแถวๆ บ้านเขาเอง ทั้งซิสซี่และมาร์คุสต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาเฝ้ารอการไปเข้าแคมป์ครั้งนี้ โดยเฉพาะซิสซี่ที่ตื่นเต้นเสียจนออกนอกหน้า

    อันตนไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟังแม้แต่มาร์คุสและซิสซี่ เขาเก็บมันไว้คิดเพียงคนเดียวเท่านั้น

    \"นายเป็นไรไปน่ะ หน้าตาดูไม่สบายเลย\" มาร์คุสถามขณะทั้งสามกำลังนั่งกินข้าวเที่ยงและถกเรื่องการไปตั้งแคมป์กันอยู่

    \"ก็ไม่มีอะไรนี่ แค่อาหารมันไม่อร่อยเท่่านั้นเอง\" อันตนตอบปัดไป ทั้งที่อาหารวันนี้เป็นอาหารที่เขาโปรดที่สุดในรอบเดือนทีเดียว

    \"เอ๊า ไหนว่าชอบนักชอบหนา เดือนนึงมีครั้งเดียวนะเฟ้ย กินๆ เข้าไปก่อนที่จะไม่ได้กินอีก\"

    \"ก่อนที่จะไม่ได้กินอีกงั้นเหรอ\" อันตนทวนคำพูดของมาร์คุสซ้ำไปซ้ำมาในใจ นั่นสินะ ถ้าเราไม่มีโอกาสได้กินอาหารที่โรงเรียนนี้อีกล่ะ ... แล้วอันตนก็เริ่มตักอาหารเข้าปาก เขาแทบจะกลืนโดยไม่ได้เคี้ยว เส้นสปาเกตตี้ค้างอยู่ในปากเขามากมายก่อนที่เขาจะสำลักออกมา ทั้งซิสซี่และมาร์คุสมองเขาอย่างงงๆ



    ทั้งวันนั้นอันตนแทบไม่เป็นอันเรียน ใจเขาวนเวียนแต่เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น เขาจะทำอย่างไร ถึงจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเขา อะไรคือสิ่งที่ถูกปิดบังไว้...



    --------



    เย็นวันนั้นเขาก็เดินกลับบ้านคนเดียวเช่นเคย ทางเดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ วันนี้อากาศหนาวจับขั้วหัวใจ ทุกย่างก้าวที่ก้าวเดินเกือบครึ่งแข้งของเขาจมลงไปในหิมะ น้ำค้างบนต้นไม้ใบหญ้าก็กลายเป็นน้ำแข็งหมด เสียงลมกู่ร้องตลอดเวลา

    วันนี้ เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาจำความได้ที่เขาเดินผ่านทางนี้แล้วต้องใช้ไฟฉาย เขากลัวเกินกว่าที่จะเดินท่ามกลางความมืดเพียงลำพัง แสงสะท้อนของรีเฟลกเตอร์สะท้อนมาแต่ไกล เขาเห็นเงาตะคุ่มๆ เดินมา ใจของอันตนเต้นไม่เป็นจังหวะ จนเขามองเห็นหน้าของชายที่กำลังจะเดินสวนกับเขาอย่างชัดเจน เขาโล่งอกเนื่องจากเป็นเพื่อนบ้านที่เขาคุ้นเคยดี



    \"ไฮ\" ชายแก่เสียงทุ้มทักทายอันตนด้วยความคุ้นเคย \"หัดใช้ไฟฉายกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ\"

    \"โธ่ ลุงก็ มืดๆ ยังงี้ผมก็ใจสั่นเหมือนกันนา\" อันตนตอบ ถึงอากาศจะหนาวติดลบเพียงใด แต่มือของเขายังมีเหงื่อออกเนื่องจากเขากำมือไว้แน่นมาตลอดทาง

    \"กลัวเป็นด้วยเหรอ เอ็งน่ะ ว่าแต่ ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ\" อีกแล้ว คำถามเดิมๆ ที่เขาถูกถามทุกปีก่อนเทศกาลคริสต์มาส ลุงมัทธิอัสถามเขาทุกครั้งเมื่อเข้าช่วงอีกหนึ่งสัปดาห์ถึงคริสต์มาส

    \"16 แล้วลุง อีกสองปีลุงก็ใช้ไปซื้อเหล้าได้แล้ว\" อันตนหยอกเล่นเนื่องจากลุงมัทธิอัสนี่แทบจะเป็นขี้เมาประจำตำบล แม้แต่ป้าคริสติน ภรรยาของลุงแกเองยังทนไม่ไหวพาลูกเต้าหนีออกจากบ้านไป

    \"เอ้า ปากดีเข้าไป ช่วงคริสต์มาสนี้น่ะ ระวังตัวไว้นะ อย่าไปเชื่อใจใครเค้าล่ะ เชื่อใจตัวเอง อย่าไปฟังเสียงใคร ฟังเสียงใจตัวเอง ถึงจะมีปัญหามากมายแค่ไหนก็ใช้สติแก้ไขให้ได้ เข้าใจมั๊ย\" หน้าของลุงมัทธิอัสมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินว่าปีนี้เขาอายุครบ 16 ปี ลุงบีบไหล่อันตนไว้แน่นแล้วพูดด้วยหน้าตาซีเรียส

    \"จะเกิดอะไรขึ้นเหรอลุง ลุงรู้ใช่ไหม ลุงรู้ใช่มั๊ยว่าผมกำลังจะเผชิญหน้ากับอะไร\"

    \"เออ ลุงรู้ พ่อเอ็งมันขี้ขลาด ทิ้งภาระทุกอย่างให้ตกกับเอ็ง สิ่งที่เอ็งกำลังจะเผชิญหน้านี้เป็นความแค้นที่สั่งสมมานับร้อยปี ความแค้นของทหารสงคราม ความแค้นของคนเหล่าทหารที่พลีชีพเพื่อสวีเดน ความแค้นที่ตระกูลเออลินต้องรับผิดชอบ\"

    แล้วลุงก็เดินจากในในความมืด อันตนได้แต่เดินคิดระหว่างทางกลับบ้าน



    \"ความแค้นของเหล่าทหารงั้นเหรอ แต่ทำไมตระกูลเออลินต้องรับผิดชอบล่ะ\" อันตนใจชื้นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับอะไร แต่เขาจะสู้กับมันได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อสิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่นี้ ไม่ใช่คน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×