ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกเล่มเล็กของเด็กตัวน้อย

    ลำดับตอนที่ #5 : It's just the way we are : เพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น....

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 49


    เพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น


    เจ้าคือใคร...
    สายตาที่จ้องมองมาจากในความมืด สายตาที่ราวกับมองทะลุลงไปถึงวิญญาณ
    สายตาที่ว่างเปล่า สายตาที่เยือกเย็น และบาดลึกลงไปสู่เบื้องลึกของจิตใจ
    เจ้าคือใคร...
    เสียงที่สะท้อนก้องอยู่ในความฝัน เสียงที่เงียบงัน
    กรีดร้อง คร่ำครวญ แช่งด่า เสียงที่เศร้าศร้อย ยังติดหู ยังดังก้องอยู่ราวกับฝันร้ายที่ไม่จางหายไป
    เจ้าคือใคร...
    ข้าก็คือเจ้า...และข้าก็ไม่ใช่อะไรเลย...ไม่มีอะไรที่ข้าเป้น และไม่มีอะไรที่เป็นข้า
     
    "ผู้มีชีวิตจำกัด ทำไมถึงได้ทำเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้"
    ...ชีวิตสวยงามขึ้นก็เพราะว่าเราต้องตาย...ทุกนาทีอาจเป็นนาทีสุดท้ายของเรา
    ...เพราะมีความตายรออยู่ มนุษย์จึงรู้สึกถึงคุณค่าแห่งชีวิต และรู้จักรักชีวิตของตน
    น่าเสียดายนักที่มนุษย์น้อยคนนักจะเผื่อแผ่ความรักนั้นไปยังชีวิตของผู้อื่นด้วย
    ข้าสงสารเจ้า...ผู้โหยหาชีวิตอมตะ...
    เพราะ "อมตะ" คือการคงอยู่เพื่อมองดูสิ่งที่เรารักตายจากเราไป...
     
    "อะไรคือชีวิต อะไรคือความตาย อะไรคือความรัก"
    ...ทุกสิ่งคือเจ้า...คือความรู้สึก...คือความคิด...คือการกระทำ
    ไม่ใช่มนุษย์หรอกหรือที่สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา...ไม่ใช่ความกลัวของมนุษย์หรอกหรือ
    กลัวที่จะดับสูญ...กลัวที่จะอยู่อย่างเดียวดาย...กลัวที่จะอยู่อย่างไร้ความหมาย
    ความรักคือการเห็นคุณค่าของความสุขและโหยหาความสุขในการมีชีวิตอยู่
    ...ความรักไม่มีความหมายที่แน่นอน เพราะความสุขไม่มีความหมายที่แน่นอน...
    ตราบเท่าที่เจ้ายังกลัวความตาย...สิ่งที่เจ้ารักมากที่สุดในชีวิตก็คือชีวิตของเจ้า
    เพราะเจ้าเห็นคุณค่าของชีวิตเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด จึงไม่มีวันที่เจ้าจะรักคนอื่นได้มากกว่าที่เจ้ารักตัวเอง
    หากชีวิตคือการเดินทาง....ความตายก็คือจุดหมาย...ใยต้องกลัวตายเมื่อทุกวินาทีของชีวิตคือการเดินเข้าหาความตาย
     
    จงมองโลกด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง มองโลกอย่างที่มันเป็นตามความจริง
    อย่ามองโลกตามความนึกคิดของเจ้า อย่ามองโลกตามความนึกคิดของผู้อื่น อย่ามองโลกตามความนึกคิดของมนุษย์
    หากเจ้ามองเห็น 'ธรรมชาติของโลก' เจ้าจะมองเห็น 'ธรรมชาติของมนุษย์'
    จงใช้ชีวิตอยู่ในความเป้นจริง จงใช้ชีวิตอยู่ในความไม่จีรัง
    จงรู้อยู่เสมอว่าความเป็นจริงคืออะไร ปัจจุบันคืออะไร ปล่อยวางอดีต และเลิกคาดหวังอนาคต
    เจ้าย่อมรู้ดีว่า ทุกวินาทีที่เสียไปจะไม่หวนกลับมา
    แต่เจ้ามักจะลืมอยู่เสมอเลยนะ
    รู้ เข้าใจ และ ทำได้...มันต่างกัน
    ทุกคนรู้ ปัญหาเกิดจากเหตุ การแก้ปัญหาก็คือการแก้เหตุ คือหนทางแห่งการปล่อยวางและหลุดพ้น
    ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจ ว่าอะไรคือปัญหา ทำไมต้องแก้ปัญหา ทำไมต้องปล่อยวาง และอะไรคือสิ่งที่เราต้องหลุดให้พ้น
    น้อยคนเหลือเกินที่ทำได้ น้อยคนนักจะปล่อยวางและหลุดพ้น และมองโลกตามความเป็นจริง
    รู้แต่ไม่เข้าใจ...เข้าใจแต่ทำไม่ได้ เพราะคนเรามีปัญญาต่างกัน
    คนมีปัญญาไม่จำเป็นต้องฉลาด และคนฉลาดก็ไม่จำเป็นต้องมีปัญญา
    'ฉลาด'คือคำของมนุษย์ คือบรรทัดฐานที่สมมติขึ้นให้กับปริมาณของความรู้
    'ปัญญา'คือคำของธรรมชาติ คือคำที่ใช้เรียกขานถึงระดับ'ความเข้าใจ'
    เมื่อเข้าใจ...ก็ไม่จำเป็นต้องถามคำถามให้วุ่นวาย
    "ทำไมถึงมีปัญหาสังคม"...เพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น
    "ทำไมถึงไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง"...เพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น
    "ทำไมโลกถึงไม่มีสันติสุข"...เพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น
    "ทำไมคนเราถึงไม่เข้าใจเรื่องง่ายๆแบบนี้"...เพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น
    เพราะมนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน...ความฝันที่ได้ชื่อว่า สังคม, ความเท่าเทียม, ความยุติธรรม และความสุข
    เมื่อความเป้นจริงไม่เป้นดั่งฝัน จึงได้มองว่าความเป้นจริงนั้นเป้นปัญหา...มนุษย์เป้นเช่นนั้น
    เป้นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะรัก กลัว โกรธ ผูกพัน ปกป้อง และทำลาย
    เพราะฉะนั้นแล้ว...ปัญหาทั้งมวลจึงมีเพียงข้อเดียว...ธรรมชาติของมนุษย์
    ซึ่งแก้ไขไม่ได้ พอๆกับที่เราไม่อาจบังคับใจของตนเองและผู้อื่น
    ธรรมชาติแปลว่าปกติ...ในเมื่อเราเป้นมนุษย์...จึงเป้นปกติของเราที่จะคิดและทำอย่างมนุษย์
    แต่หลุดพ้นได้ด้วยความเข้าใจเผชิญหน้ากับธรรมชาติของตัวเอง และเป็นนายแห่งตัวของตัว
    ไม่ใช่การวิ่งหนี ทำลายหรือปฏิเสธธรรมชาติของมนุษย์ แต่คือการควบคุมและจัดการกับธรรมชาติและตัวของตัวเอง
     
    อย่าได้เสียใจ อย่าได้ท้อแท้ อย่าได้โกรธเคือง เมื่อมนุษย์ผู้อื่นขัดขวาง คัดค้านและกีดกั้นทางเดินของเจ้า
    เพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น...ทุกคนทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้อง
    เพราะความถูก-ผิดจะเป็นเพียงความฝันอีกอันหนึ่งของมนุษย์ และไม่มีตัวตนที่แท้จริง
    คนเราจึงมีความคิดที่ต่างกัน...จึงมี'ตัวตน'ที่แตกต่างกัน...จึงมี'อัตตา'ที่แตกต่างกัน
    จงเข้าใจเถิดว่านี่คือธรรมชาติ

    เพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×