จากเพื่อนถึงเพื่อน
มันคงจะแปลกเนอะที่อยู่ๆก็ได้จดหมายจากคนที่ได้พบได้เจอกันอยู่ทุกๆวัน แปลกแน่ล่ะสำหรับเธอแต่สำหรับฉันน่ะมันไม่แปลก เพราะหลายต่อหลายครั้งนักแล้วที่ฉันเขียนอะไรแบบนี้ให้เธอ แต่ก็อ่อนแอเกินกว่าที่จะส่งมันไป ครั้งนี้มันก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะได้อ่านจดหมายฉบับนี้รึเปล่า
คืนนี้ฉันก็นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิมเขียนจดหมายถึงเธออีกครั้ง ครั้งนี้ฉันไม่ได้เขียนด้วยความสงสัย ด้วยความคิดถึงหรือด้วยความเหงา ฉันเขียนถึงเธอด้วยความกลัว ไม่ใช่กลัวจิ้งจกแมลงสาบทั่วไปนะ น่าจะเรียกได้ว่าความหวั่นใจเสียมากกว่า ฉันกลัวตัวเอง กลัวเธอ กลัวอดีตและอนาคต อยู่ดีๆความกลัวเหล่านี้มันก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมๆกัน
ฉันมีเพื่อนดีๆมากมายหลายคน แล้วฉันก็รัก...รักพวกเธอนั่นแหละ รักมากด้วย จนออกจะมากเกินไปด้วยซ้ำ ฟังดูน้ำเน่าใช่ไหม ที่ฉันจะบอกว่าฉันรักที่เธอเป็นเธอ เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง สิ่งนั้นเป็นสิ่งฉันอยากรักษาไว้ตลอดไป พวกเธอทุกคนมีจิตใจที่สวยงาม แล้วเธอก็ไม่รู้หรอกว่ามันดีแค่ไหนที่จะสามารถซื่อตรงต่อตัวเองได้ ดีมากพอๆกับที่มันทำได้ยากเลยล่ะ
ฉันรู้จักพวกเธออาจจะไม่มากเท่าที่ควรรู้แต่ก็มากเกินพอในฐานะที่ฉันเป็นเพื่อนของเธอ นับตั้งแต่วันแรกที่ฉันนับเธอเป็นเพื่อนของฉันคนหนึ่ง ฉันก็ถือว่ามันเป็นภาระและหน้าที่ ข้อกำหนดผูกพันที่ฉันจะต้องรักษาความเป็นตัวของเธอไว้ให้มากที่สุด ฉันต้องการและพยายามมาตลอดให้เธอรู้จักรักตัวเอง ให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุขกับตัวเอง และภาคภูมิใจในตัวของเธอที่ฉันรักนักหนา ให้แข็งแกร่งพอที่จะยืนหยัดได้โดยไม่ต้องเอาคนอื่น...แม้กระทั่งตัวฉันเอง มาเป็นตัวกำหนดชีวิตของเธอ นั่นคือสิ่งที่ฉันพยายามจะทำอยู่เรื่อยมา เป็นภาระหน้าที่ที่ฉันกำหนดและเลือกเองที่จะทำ และจะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากนี้
เพื่อนเอย...ฉันกลัว...กลัวเหลือเกิน ว่าท้ายที่สุดแล้วฉันจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว แน่ละว่าพวกเธอต้องยืนยันว่าจะอยู่กับฉัน แต่การมีเธออยู่ใกล้จะมีประโยชน์อะไรถ้าฉันไม่สามารถพูดคุยกับเธอและเป็นตัวของฉันเองต่อหน้าพวกเธอได้ เพื่อให้เธอเล็งเห็นและภาคภูมิกับตัวเองฉันถึงต้องเปลี่ยนตัวฉันให้เข้ากับเธอเสมอมา เพราะรู้ว่ายากนักที่เธอจะมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อฉันได้ (ก็ฉันไม่ต้องการให้เธอทำอย่างนั้นนี่นะ) มันก็เหมือนกับการเสียสละที่งี่เง่าของคนโง่ๆคนหนึ่ง
ฉันเปลี่ยนไปมาก และเปลี่ยนไปนานแล้วเหลือเกิน จนในวันนี้ฉันดูเหมือนจะไม่รู้อีกต่อไปแล้วว่าฉันเป็นใคร มีเพียงบทบาทมากมายให้แสดง มีหน้ากากมากมายให้สลับสับเปลี่ยนไปตามบุคคลและเหตุการณ์ แต่ใบหน้าที่อยู๋ภายใต้หน้ากากเหล่านั้นฉันลืมเสียแล้ว ฉันไม่อาจเป็นตัวฉันเองได้ มันไม่น่าเศร้าหรอกหรือ? หากภายใต้หน้ากากนั้นคือความเศร้าฉันจะมองเห็นและมีความสุขได้อย่างไร แปลกไหมเล่าความรัก
ฉันเหนื่อยนักแล้ว เพราะทุกครั้งที่ยกหน้ากากขึ้นมาสวมราวกับว่ามันได้ดูดกลืนเอาตัวตนและพลังในการดำรงชีวิตของฉันไป ราวเป็นกับการจ่ายค่าของการอยู่ในสังคมด้วยราคาอันแสนแพง การมีชีวิตอยู่ด้วยกำลังใจอันน้อยนิดมันเหนื่อยกว่าสิ่งใดทั้งหมด เป็นความเหนื่อยที่ไม่อาจชดเชยได้ด้วยการพักผ่อนใดๆ เป็นความเหนื่อยที่นับวันมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้น จวบจนวันสุดท้ายของชีวิตฉัน
ฉันอยากนั่งลงแล้วร้องไห้ออกมาดังๆ อยากพร่ำเพ้อความเศร้าโศกและความเคียดแค้นทั้งหมด ปลดปล่อยให้มันออกมาจากใจฉันบ้าง อยากจะหยุดมันเสียเดี๋ยวนี้รู้ทั้งรู้ว่าไม่อาจทำได้ กำลังใจและกายที่ลดลงทุกย่างก้าวบั่นทอนชีวิตของฉัน จนตอนนี้หนทางข้างหน้าก็ดูเหมือนไม่สิ้นสุดและไม่ปราณีต่อใคร ฉันกำลังจะยอมแพ้แล้วเพื่อนรัก ให้ฉันยอมแพ้จะได้ไหม
ฉันในวันนี้ไม่อาจอยู่ข้างๆเธอเมื่อยามเธอเสียใจแล้วปลอบเธอได้ว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไร ฉันไม่อาจอยู่ตรงนั้นแล้วร่วมหัวเราะไปกับเธอได้ ไม่อาจช่วยเธอผ่านพ้นความยากลำบากมากมายที่ประดังกันเข้ามา ฉันทำได้เพียงแค่อยู่ตรงนี้ มองเธอฝ่าฟันมันไปเพียงลำพัง เพื่อที่จะได้รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำให้เธอไปไม่ได้เสียเปล่าซะทั้งหมด แล้วฉันก็คงต้องออกเดินไปอีกก้าวเรื่อยๆไปอย่างไม่มีวันหยุด และได้แต่มองตามเธอที่เดินอย่างมั่นคงแล้วเท่านั้น
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น