ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝึกงาน(คนเดียว)ในปักกิ่ง

    ลำดับตอนที่ #3 : อย่างนี้เขาเรียกว่าไม่แน่น

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 52


    บทที่ 3 อย่างนี้เขาเรียกว่าไม่แน่น

                    ระบบขนส่งมวลชนนอกจากมีข้อดีที่สามารถขนผู้คนได้จำนวนมากแล้ว ยังทำให้คนเดินทางด้วยเวลาที่กำหนดได้ ไม่ต้องนั่งกังวลใจว่าวันนี้รถจะติดหรือไม่

                    เมื่อเช้าวันจันทร์มาถึง อลันบอกกับผมว่า จากที่พักต้องนั่งรถไป 5 นาที เพื่อไปถึงสถานีรถไฟใต้ดิน()()(sōng) (อู่เคอซง)  โดยพวกเราออกไปหน้าประตูที่พักเพื่อเรียกรถ เมื่อผมเห็นเจ้ารถคันที่ว่าครั้งแรกถึงกับอึ้ง

                    โอ้..มันคือรถสามล้อกับมอเตอร์ไซด์บ้านเรารวมร่างกันดีๆนี่เอง

                    ข้างหน้าใช้รถมอเตอร์ไซต์ขับเคลื่อน ด้านหลังทำเป็นตู้ขึงด้วยผ้าให้ผู้โดยสารนั่งได้สองคน กันน้ำกันฝนได้อย่างดี และที่สำคัญมีระบบเปิดประตูอัตโนมัติด้วยเชือก

                    แค่กระตุก ประตูก็เปิด ผมกับอลันขึ้นไปนั่งก็รู้สึกว่าเขาทำได้แข็งแรงดี แม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีบ้านๆ

                    เมื่อรถออกตัวสตาร์ทเท่านั้นแหละ ผมรู้สึกได้เลยว่าเขาคงใช้ระบบปรับอากาศด้วยท่อไอเสียแน่ๆ ควันมอเตอร์ไซด์เข้ามาในห้องผู้โดยสารตลอด ผมแทบหายใจไม่ออก

                    นอกจากนั้นพี่แกยังขี่สวนทางถนนวันเวย์แบบที่เราดูกันในหนังเมทริกซ์อย่างไรอย่างนั้น

                    เรียกว่ากว่าจะถึงสถานีรถไฟฟ้าวันแรก ผมก็ทั้งมึนทั้งเสียวจนแทบอาเจียนออกมา แถมรู้สึกชีวิตนี้มีคุณค่าขึ้นอีกเยอะ

                    ดีจังเลย ที่ดวงไฟชีวิตไม่ต้องดับ ไปพร้อมกับโอลิมปิค 2008!

                    เมื่อไปถึงนี่นั่น ก็ได้ความรู้ใหม่ว่าตั๋วรถไฟฟ้ามีอยู่สองแบบ คือแบบคูปอง และการ์ดเติมเงิน แตะแล้วเดินผ่าน เนื่องจากผู้โดยสารเยอะ หากใช้ระบบประตูกั้นอัตโนมัติจะทำให้ช้ามาก ทางขนส่งมวลชนจีนจึงเปิดที่กั้นไว้ตลอด แล้วให้เจ้าหน้าที่ยืนเฝ้าแทน

    อลันบอกผมว่าไม่ต้องซื้อตั๋วหรอกเขามีการ์ดใช้ของเขาได้ ผมก็ฟังแล้วงงเล็กน้อยว่าการ์ดใบเดียวจะใช้สองคนได้อย่างไร

    อลันมองหน้าเจ้าหน้าที่พร้อมแตะบัตรด้านซ้ายหนึ่งที ขวาอีกหนึ่งที แล้วเขาก็ปล่อยพวกเราผ่านไป อย่างมิได้นำพา ทำให้ผมนึกถึงปรัชญาของเติ้งเสี่ยวผิงเรื่องแมวจับหนูว่า ไม่ว่าจะวิธีการใด ขอให้เก็บค่าโดยสารได้ครบถ้วนถือว่าเป็นวิธีที่ดี 

    ในชั่วโมงเร่งด่วนรถไฟฟ้าจะมา 2 นาทีต่อหนึ่งคัน ผมยืนเข้าคิวตามปกติ และเมื่อรถไฟฟ้ามาถึงผมก็รู้สึกว่ามีแรงผลักมาจากด้านหลังผมให้เข้าไปอยู่ในรถด้วยความรวดเร็ว ไม่ต้องออกแรงก้าวขาเลยแม้แต่น้อย

    เมื่ออยู่ข้างในผมรู้สึกถึงแรงบีบอัดจากทุกทิศทาง แน่นจนไม่มีพื้นที่จะขยับตัว ต้องเงยหน้าไปด้านพัดลมดูดอากาศเพื่อไม่ให้ขาดอากาศหายใจจนเกินไป เวลารถเบรกแรงๆ ก็เหมือนกับโดมิโนที่ทำให้ผู้โดยสารกระเด็นไปทั้งคันรถ

                    สถานีที่ผมลงคือฟูซิงเหมิน ()(xīng)(mén) ที่มีคนขึ้นลงเยอะมาก เพราะเป็นย่านของคนทำงานเหมือนถนนสีลมและสาธร คนเกินกว่าครึ่งหนึ่งจะกรูกันออกจากรถไฟฟ้า ผมก็ไม่ต้องแหวกว่ายผู้คนแต่อย่างใด เพราะมีแรงผลักออกมาจากรถไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ              แม้จะใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีในการเดินทาง แต่ก็ทำให้ผมเข้าใจได้ว่าชีวิตปลากระป๋องเป็นอย่างไร

                    อลันบอกกับผมว่า วันนี้ดีนะถือว่าไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่

    การคมนาคมในจีน

                    IC CARD (IC()) 

    เป็นบัตรเติมเงินใช้ขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ได้ทั่วปักกิ่ง ค่ามัดจำครั้งแรก 20 หยวน หากไม่ใช้บัตรก็ สามารถ ซื้อตั๋วเป็นครั้งๆได้

                    Subway ()(tiě) (ตี้เถี่ย)

     มีทั้งหมด 5 สาย ครอบคลุมระยะทางกว่า 129 กิโลเมตร ค่าเดินทาง 2 หยวนตลอดสายต่อหนึ่งครั้ง

              (แผนที่เดินรถ + สัญลักษณ์ ภาคผนวก)

                    รถเมล์ (gōng)(chē) (กงเชอ)

                เวบไซต์ http://www.bjbus.com              

    ราคาเริ่มต้นที่ 1 หยวน ค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้นตามระยะทาง สามารถค้นหาเส้นทางและค่าโดยสารได้จากเวบไซต์

                    TAXI 出租车(ชูจูเชอ)

    รถแท็กซี่ 2 กิโลเมตรแรก 10 หยวน กิโลเมตรถัดไป 2 หยวน มีระบบพิมพ์ใบเสร็จอัตโนมัติ แจ้งระยะทาง เวลา หมายเลขรถแท็กซี่ และจำนวนค่าโดยสาร เมื่อเวลาเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถใช้ใบเสร็จเป็นหลักฐานได้  ผู้โดยสารจึงมั่นใจได้ว่าแท๊กซี่จะไม่พาวนอ้อมโลก



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×